เริงราตรีสีขาว {จากนวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ. อรุณ}
เขาเกิดมาพร้อมคำทำนาย "สตรีผู้มีชะตาผูกพัน จะทำให้เขาอายุสั้นลง"
และเมื่อเธอคือสตรีผู้นั้น ระหว่างชีวิตกับหัวใจ
เขาจะเลือกสิ่งใด
Tags: รัก ลึกลับ โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ ๑๓ (จบตอน)

หลังทำอาหารเย็นเสร็จ ศาศวัตขึ้นไปตามณราตรีบนห้องนอน แสงสุดท้ายแห่งวันสาดเข้ามาทางหน้าต่างกระจกบานยาว ทาบทาร่างหนุ่มสาวที่ยืนหันหน้าเข้าหากันแลเป็นเงาดำอวดโครงร่างสมส่วนงดงาม ม่านสีขาวบางเบาทิ้งตัวสงบนิ่งเป็นฉากหลัง คล้ายความเงียบเหงาได้คืบคลานครอบคลุมทุกสรรพสิ่งในบ้านกลางวนา ไม่เว้นแม้แต่หัวใจสองดวง

“วันนี้ไม่ต้องทายาแล้ว” ศาศวัตบอกหลังจากพิจารณาอาการคนตรงหน้า จากประสบการณ์ที่เคยพบทำให้เขามั่นใจมาตั้งแต่เช้าแล้วว่าเธอหายเป็นปกติ เนื่องจากผื่นแพ้ที่ขึ้นตามหน้าตาเนื้อตัวหายสนิทไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้เลย คล้ายว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ ผิวสีน้ำผึ้งของเธอกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม

ด้วยเหตุนี้แหละเมื่อชั่วโมงก่อนเขาจึงง่วนอยู่ในครัวแทนการรีบออกไปเก็บใบไม้มาปั่นยาเหมือนทุกวัน

“ถึงเวลาต้องเตรียมตัวกลับบ้านอีกครั้งแล้วสิ” หญิงสาวรำพึงแผ่ว “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าใบไม้นั่นจะรักษาอาการแพ้รุนแรงได้ แถมดอกมีกลิ่นที่ดมแล้วให้ความสดชื่นอีกด้วย จริงสิ...” ณราตรีหันมาทางเขา “น้ำหอมที่คุณใช้กลิ่นเดียวกับดอกราตรีใหญ่ยักษ์ต้นนั้นเลย”

“เป็นเรื่องบังเอิญน่ะ” เขาเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง เพราะหากเธอรู้ว่านั่นเป็นกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกราตรีกลายพันธุ์ดังกล่าวจริง คงต้องมีคำถามอื่นๆตามมาไม่จบไม่สิ้น และเขาไม่อยากให้ณราตรีสนใจคุณสมบัติเจ้าดอกไม้งดงามแสนประหลาดนั่นมากไปกว่านี้ เท่าที่รู้ไปก็นับว่ามากเกินจำเป็นแล้ว

ความมืดโรยตัวลงมาคลี่คลุมบรรยากาศภายนอกอย่างรวดเร็ว เวลาปลิวผ่านไปทบทับอยู่ในกองอดีตอีกวัน การจากลาใกล้มาถึงแล้วสินะ
“ไปกันเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็นเสียหมด” ศาศวัตเอ่ยชวน วันนี้เขาแสดงฝีมือเอง

บ้านทั้งหลังถูกย้อมด้วยความมืดสลัว ไฟทุกดวงยังปิดสนิท ทว่าหนุ่มสาวก้าวเคียงกันไปราวกับราตรีนี้มีแสงสว่างขาวนวลนำทาง ศาศวัตอยากจับมือเธอพาเดินไปด้วยกัน และเขาไม่รีรอเลยที่จะทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ คนข้างกายหันมามองเขานิดหนึ่ง ก่อนกระชับมือบางรับสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นนั้นอย่างไม่ลังเลเช่นกัน

ความมืดภายในห้องอาหารขับเน้นให้แสงเทียนกลางโต๊ะส่องประกายสีเหลืองอมส้มเจิดจ้าเด่นชัด สะท้อนแก้วใสเนื้อดีซึ่งจัดไว้สองที่เป็นประกายระยับ ดอกราตรีแสนสวยพันธุ์ประหลาดช่อใหญ่ในแจกันแก้วกลางโต๊ะส่งกลิ่นหอมหวานอบอวลไปทั่วทั้งห้อง เมื่อรวมกับบรรยากาศงดงามแสนโรแมนติกยิ่งส่งให้กลิ่นหอมหวานชวนสดชื่นมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างประหลาด

“รอแป๊บนึงนะ” เขาบอกพร้อมรอยยิ้มขณะเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง ร่างสูงหายเข้าครัวไปพักหนึ่งจึงออกมาพร้อมสเต๊กเนื้อสันร้อนๆสองจานใหญ่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย

“น่ากินมาก” ณราตรีออกปากชม การจัดจานดูพิถีพิถันและผ่านการคิดมาแล้ว ไม่ใช่นำเครื่องเคียงมาวางกองๆให้ครบเท่านั้น เมื่อทุกอย่างพร้อม อาหารค่ำจึงเริ่มขึ้น

สเต๊กเนื้อฝีมือศาศวัตรสชาติถูกปากถูกใจณราตรียิ่งนัก ไม่คิดว่าเขามาอยู่กลางป่ากลางเขาจะมีวัตถุดิบมาทำอาหารเลิศรสแบบนี้ได้

“อร่อยจังค่ะ คุณไปเรียนทำอาหารมาจากไหนคะเนี่ย” ณราตรีเอ่ยชมตามตรง

“เมื่อก่อนรูมเมทผมเป็นเชฟ ทำให้กินบ่อยๆเลยติดใจ พอเขาจะย้ายออกเลยขอให้สอนสูตรเอาไว้ทำกินเอง”

ฟังจากคำว่า ‘รูมเมท’ กับ ‘เชฟ’ ที่เขาออกเสียงภาษาอังกฤษชัดเจน เมื่อรวมกับบริบทแวดล้อมในประโยค ณราตรีก็มั่นใจได้ว่าเขาคงไม่ได้เรียนเมืองไทย

“คุณเรียนที่ไหนคะ อังกฤษหรืออเมริกา”

“อเมริกา ผมเรียนอยู่ที่นั่นหกปี”

“เก่งจังค่ะ ฉันเคยสอบชิงทุนได้ไปเรียนที่นั่นหนึ่งปีเหมือนกัน เป็นโครงการเด็กแลกเปลี่ยน แต่พ่อไม่ให้ฉันไป” ณราตรียักไหล่ ยิ้มเย้ยหยันในสิ่งที่ตนเองได้รับ

“ท่านอาจเป็นห่วงคุณก็ได้ เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียวแบบนั้น” เขาปลอบ และเปลี่ยนเรื่อง “เขาว่าเนื้อทานคู่ไวน์แดง คุณดื่มไวน์หรือเปล่า”

“ที่นี่มีไวน์ด้วยหรือคะ” เห็นรอยยิ้มกับคิ้วเข้มที่เลิกขึ้นน้อยๆแล้ว ณราตรีก็รู้คำตอบ “สักหน่อยก็ดีเหมือนกันค่ะ เพิ่มรสชาติอาหาร แต่ฉันไม่ยึดติดหรอกว่าไวน์ขาวต้องดื่มกับปลา ไวน์แดงต้องดื่มกับเนื้อ จะปลาหรือเนื้อฉันก็ดื่มกับไวน์แดงเพราะฉันชอบไวน์แดงมากกว่า”

“คอไวน์ตัวจริงหรือนี่” เขามองเธออย่างแปลกใจ

“ไม่ถึงขนาดนั้น ฉันเคยลองตั้งแต่ไวน์หรูราคาหลายหมื่นถึงยาดองเป๊กละไม่กี่บาทมาแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ดื่มเท่าไหร่หรอก พ่อฉันเป็นคนหัวเก่าไม่ชอบให้ลูกผู้หญิงทำตัวเปรี้ยวๆแบบนั้น”

ครั้งแรกที่ณราตรีริดื่มแอลกอฮอล์ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ปรมัตถ์มองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ถ้าจับเธอมาฟาดเหมือนตอนเด็กๆได้ก็คงทำไปแล้ว ในแววตาโกรธเกรี้ยวนั้นแฝงความผิดหวังไว้เต็มเปี่ยม

‘แกโตแล้วนะ อย่ามาเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีผิดๆ มันไม่ได้ผล มีแต่จะทำให้ธนาธิปเสื่อมเสีย’

น้ำเสียงดุดันของบิดาดังก้องในโสตประสาททุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ ‘เรียกร้องความสนใจผิดๆ’ เป็นข้อกล่าวหาที่เธอได้รับมาตั้งแต่เด็ก จริงอยู่เธอเคยต้องการให้คนสนใจ แต่สำหรับกรณีนี้เธอแค่อยากรู้และอยากลองเท่านั้นว่าการดื่มเหล้าให้ความรู้สึกอย่างไร ทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบดื่มกันนัก และคิดว่าตัวเองโตพอที่จะเรียนรู้และดูแลตัวเองได้แล้ว

‘ไนท์ไม่ได้เป็นธนาธิป ไม่เคยเป็น จะทำตัวเหลวแหลกยังไง ก็ไม่ทำให้พ่อหรือใครๆในบ้านนี้พลอยเสื่อมเสียไปด้วยหรอกค่ะ’ เธอตอบกลับไปทั้งที่ความรู้สึกมึนเมายังไม่สร่างซา เธอเป็นกมลากร นามสกุลของแม่ที่เธอใช้มาตั้งแต่เกิดและไม่เคยคิดเปลี่ยน

“ถ้าผมมีลูกสาวกินเหล้าเมาเละเทะครองสติไม่อยู่ ผมก็คงไม่ชอบเหมือนกัน”

ศาศวัตออกความเห็น เธอเหลือบตามองเขาอย่างถือดี

“ฉันเคยเมาวอดก้าครั้งเดียว” คนเล่ายักไหล่ ครั้งนั้นเธอแค่อยากเลียนแบบเจมส์ บอนด์ พระเอกหนังในดวงใจซึ่งโปรดปรานวอดก้ามาร์ตินี่ แบบเขย่าแต่ไม่คน ผู้ชมอย่างเธอจึงเก็บเอาไปลองบ้าง ผลที่ตามมาไม่แย่อย่างที่เขาบอกเมื่อครู่ “ก็แค่หลับ ไม่ได้อ้วกแตกหมดสภาพจนรับไม่ได้เสียหน่อย” จากนั้นเธอก็ไม่เคยแตะวอดก้าอีกเลย

“ถ้างั้นไวน์แดงคงทำอะไรคุณไม่ได้” เขาเผยรอยยิ้มพราวก่อนไปเปิดตู้เย็นหยิบไวน์ที่แช่ไว้ออกมาเปิด รินน้ำสีแดงเหมือนผลเชอรี่ลงแก้วตรงหน้าณราตรีเพียงครึ่งแก้ว จากนั้นจึงรินให้ตนเองเป็นลำดับถัดไป

หญิงสาวหยิบก้านแก้วมาหมุนให้น้ำสีแดงสดภายในกลอกกลิ้งล้อแสงไฟ

“กลิ่นดอกราตรียักษ์นี่แรงเกินจนกลบกลิ่นไวน์หมดเลย” เธอเอ่ยหลังจากจรดปลายจมูกกับปากแก้วเพื่อดื่มด่ำกลิ่นเครื่องดื่มสีสวย

“ก็ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะชวนดื่ม” ชายหนุ่มออกตัว

ณราตรีละเลียดเครื่องดื่มในแก้วอย่างใจเย็น กำซาบความนุ่มละมุนหอมหวานที่เลื่อนไหลผ่านลำคอ เรื่องราวต่างๆถูกหยิบยกมาพูดคุยท่ามกลางเวลาที่เคลื่อนไปอย่างช้าๆ

“ฟังจากวีรกรรมที่คุณเล่า ดูท่าตอนเด็กๆคุณคงเฮี้ยวมากล่ะสิ” ชายหนุ่มประเมินพลางหมุนแก้วในมือเล่น ไวน์ในแก้วเขาไม่พร่องลงสักเท่าไรผิดกับณราตรีซึ่งรินเติมสองรอบแล้ว

“อะไรคือเฮี้ยวสำหรับคุณล่ะคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถาม ดวงตากลมโตเริ่มฉ่ำหวานด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ริมฝีปากอิ่มแดงเรื่อพอกับผิวแก้มเนียน

“ดื้อรั้น กล้าลองทำในเรื่องที่ไม่เคย บ้าบิ่นไม่กลัวใคร” ศาศวัตขยายความ

หญิงสาวส่ายหน้า “ใครๆที่รู้จักฉันก็หาว่าฉันดื้อรั้นทั้งนั้นแหละ คนเหล่านั้นตัดสินฉันเพราะฉันทำในสิ่งที่ขัดกับความคิดความเชื่อของพวกเขา แต่ทุกคนมีเหตุผล มีจุดยืนของตัวเอง จะให้ฉันกลายเป็นคนว่านอนสอนง่ายทำตามสิ่งที่คนอื่นคิดน่ะเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเกลียดการเกลี้ยกล่อมให้คิดให้เชื่อให้ทำตามๆกัน ฉันอยากเรียนรู้โลกด้วยตัวเองตามวิธีการของฉัน และการที่ใครสักคนพยายามดึงคนอื่นเข้ามายืนอยู่ในกรอบเหตุผลที่ตัวเองกำหนดก็เรียกว่าเป็นความดื้อรั้นอย่างหนึ่งได้เหมือนกัน ทางที่ดีอย่าพยายามเปลี่ยนใครให้เป็นแบบที่ตัวเองชอบและชื่นชมเลย เพราะแม้แต่พระเจ้าก็ทำสิ่งนั้นไม่ได้”

ณราตรีร่ายยาวเหยียด ก่อนจะเว้นไปนิด จิบไวน์ แล้วเอ่ยต่ออย่างหยุดไม่อยู่ คล้ายแอลกอฮอล์ในไวน์สีสวยเข้าไปเซาะซอนประตูหัวใจซึ่งปิดกั้นความคิดความรู้สึกให้แง้มออกทีละน้อย ปลดปล่อยเรื่องราวภายในให้หลั่งไหลออกมา

“จะว่าไปแล้วนะ บางที ถ้าฉันโกรธหรือโมโหก็ไม่ค่อยกลัวใครจริงๆนั่นแหละ ตอน ม.๓ ฉันเคยมีเรื่องกับเด็กผู้ชายในห้อง ต่อยตีกันเละเทะ คุณลองเดาสิว่าผลเป็นยังไง”

“คุณแพ้ยับ” เขาเอ่ยอย่างมั่นใจ

ณราตรีแค่นหัวเราะ “แน่ละ ชนะก็บ้าแล้ว” เธอกัดริมฝีปากอิ่มจนเจ็บ แอลกอฮอล์คงทำให้เธออ่อนแอ จึงต้องกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลรินเช่นนี้ “พอกลับไปบ้าน พ่อเห็นสภาพของฉันแล้วไม่สงสารไม่ว่า แถมตีซ้ำให้อีกด้วย หาว่าฉันเรียกร้องความสนใจผิดๆ” ไวน์ในแก้วพร่องลงเรื่อยๆ พร้อมกับเรื่องราวต่างๆพรั่งพรูไม่หยุด

“ฉันยอมรับว่าเคยเรียกร้องความสนใจแบบผิดๆ” เธอเคยเอาเลือดปลอมทาตัวแกล้งทำเป็นตาย เคยเล่นปีนป่ายผาดแผลงเพราะอยากได้รับความห่วงใยจากคนรอบข้างบ้าง แต่นอกจากไม่สำเร็จแล้วยังถูกตีซ้ำทุกครั้งอีกด้วย

“แล้วทำไมถึงไปมีเรื่องกับเขาล่ะ ไม่รู้หรือว่าในแง่สรีระแล้วผู้หญิงสู้ผู้ชายไม่ได้” ศาศวัตเอ่ยเสียงขรึมราวกับกำลังโกรธการกระทำของเธอดังเช่นปรมัตถ์เคยโกรธ

หญิงสาวตวัดสายตามองเขา เปิดรอยยิ้มหยัน “เพราะเขาไปรังแกน้องม.๑ ไง ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เด็กนั่นตัวเท่าลูกแมว ถูกตบหัวทีหน้าแทบคะมำ ฉันเห็นแล้วอดไม่อยู่ เลยตบหัวคนทำกลับไปทีนึงเหมือนที่เขาทำน้องคนนั้น จากนั้นเขาก็หันมาต่อยเข้าเบ้าตา ฉันงี้เห็นดาวระยับเลย” เธอหัวเราะโดยไม่รู้สึกขำพลางยักไหล่“นึกว่าฉันจะยอมแพ้ง่ายๆเหรอ ฉันไม่ยอมหรอก สู้เท่าทสู้ไหว แล้วคงเป็นน้องคนที่ฉันช่วยละมั้งวิ่งไปตามอาจารย์ฝ่ายปกครองมาจับแยก ฉันก็หน้าตายับเยิน ส่วนคู่กรณีน่ะแค่ปากเจ่อนิดหน่อย มันเป็นการแก้ปัญหาแบบเด็กๆ พอโตขึ้นถึงได้คิด ถ้าฉันวิ่งโร่ไปหาอาจารย์ฝ่ายปกครองตั้งแต่แรก ฉันคงไม่ถูกพ่อตีซ้ำ และไม่ถูกจับย้ายโรงเรียนตอนขึ้น ม.๔” คนเล่าเอื้อมหยิบขวดไวน์มารินเพิ่มเอง ก่อนจะวางขวดเปล่าลงบนโต๊ะ

“รู้แล้วสิว่าการแก้ปัญหาด้วยสติและปัญญานั้นดีกว่าการใช้กำลังเป็นไหนๆ อันที่จริงควรแจ้งฝ่ายปกครองตั้งแต่เห็นน้องคนนั้นโดนตบหัวแล้ว ไม่ใช่กระโดดเข้าช่วยโดยไม่ประเมินกำลังตนเอง”

“ใครจะคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะยอมเสียศักดิ์ศรีต่อยตีกับผู้หญิง อย่าตำหนิฉันอีกเลย เรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้” เธอโบกไม้โบกมือเมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะพูดต่อ

“เปล่า ผมไม่ได้ตำหนิ แค่จะบอกว่าเขาทำลายศักดิ์ศรีตัวเองตั้งแต่ไปรังแกคนอ่อนแอกว่าแล้ว”

“คุณพูดถูก” เธอเอ่ยอย่างชอบใจพลางชูนิ้วโป้งกับนิ้วชี้หันไปทางเขา ก่อนกระดกไวน์ที่เหลือในแก้วรวดเดียวหมด “ฉันควรจะพอได้แล้ว ถ้าดื่มมากกว่านี้ฉันอาจหลับคาโต๊ะ” เธอหัวเราะ ศีรษะโอนเอียงง่อกแง่ก “สงสัยแก่แล้ว คอไม่แข็งเหมือนก่อน” คนเคยเมาวอดก้าครั้งเดียวบ่นด้วยความรำคาญตัวเอง

“ไหวหรือเปล่า” ศาศวัตวางแก้วก้านยาวซึ่งไวน์เพิ่งพร่องไปเพียงครึ่งเดียว ปราดมายืนขนาบร่างสูงเพรียวซึ่งลุกขึ้นเท้าแขนกับขอบโต๊ะเพื่อทรงตัว

“สบายมาก” ณราตรียิ้มหวาน ตบอกเขาปุปุ “จากตรงนี้ไปห้องนอนฉันไม่มีด่านตรวจแอลกอฮอล์ใช่ไหม”

ชายหนุ่มโคลงศีรษะอย่างอ่อนอกอ่อนใจ นี่แหละที่เขาเรียกน้ำเปลี่ยนนิสัย อารมณ์หนึ่งก็ดราม่าน้ำปริ่ม ผ่านไปไม่นานก็หว่านมุกตลกเสียดื้อๆ!



ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2556, 08:09:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2556, 08:09:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 1344





<< ตอนที่ ๑๓ (ครึ่งแรก)   ตอนที่ ๑๔ (ครึ่งแรก) >>
ภาวิน 20 ก.ย. 2556, 08:29:15 น.
พี่แตงกวา เรื่องที่สงสัยไม่อาจเปิดเผยได้เลย ตอนนี้เลยเบี่ยงเบนความสงสัยในตัวษมา ความหมั่นไส้ที่มีต่อพิมพ์ประภามาที่หนูไนท์กับคุณศาศไปพลางๆก่อน ตอนนี้เธอเมามาย ตอนต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

อสิตา วันนี้ฝนตกพรำฉ่ำมาทั้งคืนยันเช้า เจ้าตื่นมาลงนิยายตอนต่อไปยาวๆหรือยัง นักอ่านทั้งหลายคงรอตอนต่อไปอันตื่นเต้นของเจ้าอยู่

คุณปลายสี ทุกคนในเรื่องดูมีลับลมคมในกันไปหมด ตอนเขียนก็มึนงงเองเหมือนกัน ติดตามต่อไปค่ะ รับรองว่าก่อนจะถึงวันที่สามสิบ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะลง ต้องมีปมปริศนาเปิดเผยมาบ้างแน่นอนค่ะ

คุณนักอ่านเหนียวหนึบที่น่ารัก อย่าเพิ่งอารมณ์เสียค่ะ เรื่องนี้กว่าจะคลี่ปมหมดก้ปาเข้าไปตอนอวสานโน่นแน่ะ ยิ่งอ่านจะยิ่งสงสัยหนักขึ้นน้า ตอนนี้ไปลุ้นพระเอกนางเอกเราดีกว่า เนอะๆ

คุณวรรษา เดาได้ค่า ผิดถูกไม่ว่ากัน ยิ่งอ่านจะยิ่งกระจ่างค่ะ

คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ คิดไปไกลกว่าคนเขียนอีก แหม น่าเอามาเป็นเพื่อนคู่คิดจริงๆเลย วันนี้เอาน้ำตาลก้อนเล็กๆมาเสิร์ฟแล้วจ้า

คุณ Sukhumvit66 พรนางฟ้าเป็นลูกสาวคนแรกของพิมพ์ประภา เป็นนางเอกในเรื่องใต้ปีกรักสีเพลิงค่ะ ในเรื่องนี้ไม่มีบทบาทอะไรนอกจากได้เดินสวนกับพรไพลินหนึ่งฉาก และการกล่าวถึงของพิมพ์ประภาหญิงงามเมืองประจำเรื่องนี้ ถ้ารู้จักพรนางฟ้าจากเรื่องใต้ปีกรักสีเพลิงมาแล้วจะเห็นชัดว่าลูกไม้หล่นไกลต้นยังมีค่ะ

หนูบาร์บี้ที่รักยิ่ง คนเขียนรู้สึกประสบความสำเร็จที่ทำให้คนอ่านเดาไม่ออก เกาคาง ยักคิ้วซ้ายขวา ทำตาเจ้าเล่ห์ อิอิ



พันธุ์แตงกวา 20 ก.ย. 2556, 09:21:51 น.
ภาวิน เธอช่างทำร้ายน้ำใจพี่นัก ไฉนจึงตัดตอนเยี่ยงนี้ พับผ้าซับน้ำหมากเก็บกลับเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม ควักยามดม กับผงยาทัมใจมาชงรอ


ดังปัณณ์ 20 ก.ย. 2556, 09:23:56 น.
อั้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปส่งเฉยๆๆๆๆน้า คุณศาศ อุ้ยไม่ไว้ใจกลัวหนูไนท์เป็นอันตราย หนอนจะกระดึ๊บๆไปคอยช่วยข้างเตียงดีกว่า 555+ ตอนหน้าจะน้ำหมาก เอ๊ย น้ำลาย เอ๊ย เลือดกำเดา อั้ยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ใช่จิ คุณศาศวัตเหงื่อจะตกเพราะต้องเช็ดตัวให้หนูไนท์(เพราะอ้วก)ป่าวค้าพี่ปุ๊ก อิๆ (ตอนนี้จิ้น น้ำลายย้อย เย้ยยยยยยยย 555+)


วรรษา 20 ก.ย. 2556, 10:19:59 น.
โอะโย วีรกรรมเพี้ยบ เมาแล้วนะคะ โอะแล้วงี้จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า


Barby 20 ก.ย. 2556, 11:27:53 น.
ว้ายว้าย ตอนหน้าจะเป็นเช่นไร


อสิตา 20 ก.ย. 2556, 13:17:15 น.
เจ็บตา ไม่มีแรงตอบเม้นต์ของตัวเอง +.+ ผลจากการไปแรดกันในงานนายอินทร์อะวอร์ด


นักอ่านเหนียวหนึบ 20 ก.ย. 2556, 20:36:32 น.
โฮะๆๆ เค้าข้องใจ หนูไนท์กินสเต็กหมดชิ้นยังอ่า เอิ้กๆๆๆๆ
ไรเตอร์ไม่ต้องห่วงเค้าจ้า เค้าไม่อารมณ์เสีย โมโหร้ายหรอก แค่เอาตอนใหม่มาลงไวๆ ก็หายละ ฮาาา
ตอนนี้ชอบมุกคนเมาจังเลย


Sukhumvit66 20 ก.ย. 2556, 21:41:48 น.
อร้าย......ไม่อยากจะคิดถีงตอนหน้าเลยคร้าาาา


ปลายสี 20 ก.ย. 2556, 22:31:37 น.
มาลงชื่อไว้ก่อน ตอนนี้งานพะเนินมากค้าา เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านนะค้า


Chii 20 ก.ย. 2556, 23:11:46 น.
ตะเอง ไอ้ที่ตะเองตอบเม้นท์คุณสุขุม (วิท) อ่ะ
....ตะเองไม่ได้จะบอกเป็นนัย ๆ ว่า ยัยพรไพลินที่แลดูใสเวอร์นั่น กิง ๆ เป็นลูกไม้ตกใต้ต้นใช่ม๊ายยยย


ketza 27 ก.ย. 2556, 15:42:40 น.
เอ่อ มุกคนเมาชิมิ 555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account