เริงราตรีสีขาว {จากนวนิยายชุด ความลับของผีเสื้อ สนพ. อรุณ}
เขาเกิดมาพร้อมคำทำนาย "สตรีผู้มีชะตาผูกพัน จะทำให้เขาอายุสั้นลง"
และเมื่อเธอคือสตรีผู้นั้น ระหว่างชีวิตกับหัวใจ
เขาจะเลือกสิ่งใด
Tags: รัก ลึกลับ โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ ๑๔ (ครึ่งแรก)

สวัสดีค่ะ เอาละ หลังจากล่อลวงผู้บริโภคมาหลายครั้งหลายหน ตอนนี้ใครมีผ้าซับน้ำหมากน้ำลายเตรียมไว้หยิบมาถือเลยค่ะ หมอนผ้าห่มที่ตระเตรียมกันมาหลายตอนแล้วยังไม่ได้จิกกัดงัดขึ้นมา เสื่อสาดลาดปูให้พร้อม แล้วไปอ่านกันเลยยยย

*************************************************************************


พรไพลินนำดอกราตรีช่อเล็กไปวางไว้บนหัวเตียงปทุมทองเหมือนเคย นางยังคงอยู่ในห้องพระซึ่งอยู่ติดกัน ตั้งแต่ไปทำบุญครบรอบวันเกิด นางก็หมั่นสวดมนต์ก่อนนอนตามที่พระท่านแนะนำ ด้วยหวังพ้นจากฝันร้ายซึ่งตามหลอกหลอนแทบทุกค่ำคืน

หญิงสาวแง้มประตูดู พบปทุมทองนั่งสวดมนต์อยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา ท่วงทำนองแผกเพี้ยนไม่ถูกจังหวะจะโคนเนื่องจากเพิ่งหัดได้ไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม พรไพลินสัมผัสได้ถึงความตั้งอกตั้งใจ ความกลัวผลักดันให้คนเราทำในสิ่งที่ไม่เคยทำเสมอ

หล่อนงับประตูปิดแผ่วเบาแล้วกลับห้อง หยิบกระเป๋าเดินทางมาเปิดแผ่ลงบนเตียง ก่อนจัดยังไม่วายค้นหาต่างหูไพลินล้อมเพชรที่หายไปอีกครั้ง แอบหวังว่าจะหาพบ แต่นั่นละ ความหวังมักมาคู่กับความผิดหวังเสมอ หญิงสาวถอนหายใจหนักหน่วง ปัดความคิดกังวลเรื่องเครื่องประดับชิ้นสำคัญซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าราคาค่างวดออกจากสมอง และลงมือพับเสื้อผ้าทีละชิ้น

มะรืนนี้จะถึงงานไทยเฮิร์บซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสามวัน ณ โรงแรมบุลินธารที่จังหวัดเชียงรายแล้ว หล่อนทราบว่าสภาพอากาศที่โน่นหนาวมากจึงเตรียมเสื้อผ้าหนาๆไปพอสมควร ถึงแม้งานเปิดตัวสินค้าจะจัดขึ้นในวันแรก แต่พรไพลินอยากให้ปรมัตถ์อยู่ต่อจนจบงานทั้งสามวัน สองวันหลังจะได้พักผ่อนเพื่อละลายความเครียดซึ่งสั่งสมมานาน

ต้องยอมรับว่าช่วงก่อนงานไทยเฮิร์บจะมาถึงนั้น ทุกฝ่ายของเนเชอรัลเฮลท์ต่างทำงานหนักและเหนื่อยมาอย่างต่อเนื่อง มีหล่อนนี่แหละสามารถปลีกตัวไปต่างจังหวัดได้บ้าง ครั้นกลับมาก็ต้องเร่งเตรียมงานซึ่งกระชั้นเข้ามาทุกทีจนอ่อนล้าราแรงไปตามๆกัน

หลังจัดกระเป๋าตัวเองเสร็จ พรไพลินไปยังห้องนอนของบิดาเพื่อช่วยเตรียมกระเป๋าให้ หล่อนรู้ดีว่าพิมพ์ประภาคงไม่มานั่งจัดกระเป๋าให้ปรมัตถ์อย่างแน่นอน

จริงอย่างใจคิด เมื่อไปถึงหน้าห้อง พิมพ์ประภาก็เปิดประตูก้าวออกมาพอดีน่าเสียดายเมื่อนางปล่อยให้ความบึ้งตึงบั่นทอนความงามบนใบหน้าซึ่งแต่งไว้จนสวยจัด

“คุณแม่จะไปไหนคะ”

“ก็ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆน่ะสิ นี่สายไปครึ่งชั่วโมงแล้ว เพราะพ่อเรานั่นแหละ” พิมพ์ประภาโยนความผิดให้สามี หล่อนเล่าต่อตามประสาคนปากไม่นิ่ง โดยไม่ต้องรอให้พรไพลินถาม “อยู่ๆก็ปวดหัว มาสั่งให้นวดอยู่นั่นแหละ”

พิมพ์ประภาไม่ใช่คนช่างเอาอกเอาใจหรือมานั่งนวดใครแบบที่ทำไปเมื่อครู่ แต่ไม่บ่อยนักที่ปรมัตถ์จะเห็นหล่อนอยู่ในสายตาขนาดออกปากขอความช่วยเหลือ คงปวดหัวมากจนทนไม่ไหวจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ออกปากขอความช่วยเหลือแบบนี้หรอก ออกจะเกินความ
คิดฝันของพิมพ์ประภาอยู่เหมือนกัน

ด้วยใจลึกๆก็โหยหาความใกล้ชิดจากสามีอยู่แล้ว แม้แสร้งกะบึงกะบอนแต่แท้จริงก็เต็มใจทำให้ แถมจินตนาการไปไกลลิบแล้วว่าคืนนี้ความสัมพันธ์อันห่างเหินจะกลับมาแน่นแฟ้นเหมือนยามแต่งงานใหม่ๆ หากเป็นเช่นนั้นจริง หล่อนคงไม่จำเป็นต้องออกไปแสวงหาความสุขนอกบ้านเหมือนอย่างเคย

ที่ไหนได้เล่า บีบนวดไปไม่กี่ทีเขาก็บอกให้เลิกพลางล้มตัวลงนอนหลับตา ปล่อยให้หล่อนฝันค้างและหงุดหงิดใจเหลือเกิน หล่อนหรือสู้อุตส่าห์ยอมสละความงามบนเรียวเล็บที่เพิ่งบรรจงแต่งไว้อย่างพิถีพิถัน ไม่คุ้มเลย

“แม่เพิ่งจะทาเล็บเสร็จ สียังไม่ทันจะแห้ง เลอะเทอะหมดเลย ต้องเสียเวลามานั่งทาใหม่” หล่อนบ่นระบายความหงุดหงิด
พรไพลินไม่สนใจเล็บสีสวยที่มารดากรีดนิ้วอวด หล่อนถามอย่างร้อนใจ “คุณพ่อปวดหัวอีกแล้วหรือคะ”

“ก็ใช่น่ะสิ ไม่รู้จะปวดอะไรนักหนา สงสัยจะวัยทอง” สาวใหญ่ส่ายหน้า ริมฝีปากสีแดงสดบิดเบ้อย่างรำคาญ “แม่ไปก่อนนะ เดี๋ยวไม่ทัน”

คนเป็นลูกมองตามพิมพ์ประภาที่รีบร้อนจากไปอย่างเอือมระอา ก่อนจะเคาะประตูเบาๆแล้วผลักเข้าไปหาคนเป็นพ่อ ร่างสูงนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงลืมตาดูผู้มามาใหม่ เผยให้เห็นความเครียดและอ่อนล้าในดวงตาคู่นั้น
พรไพลินทรุดนั่งริมเตียง ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย “คุณพ่อปวดหัวอีกแล้วหรือคะ”

“พ่อกินยาแล้วละ เดี่ยวนอนพักก็คงดีขึ้น” เสียงแหบห้าวเอ่ยเนิบเนือย

“แล้วพรุ่งนี้จะไปไหวหรือคะ”

“พ่อว่าจะไม่ไปนะ ไพลินไปคนเดียวได้หรือเปล่า”

“ได้ค่ะ แต่คุณพ่อปวดหัวบ่อยๆแบบนี้ไปให้หมอเช็คหน่อยดีกว่าไหมคะ”

ปรมัตถ์ส่ายหน้าปฏิเสธ แววตาดื้อรั้น “จะไปหาทำไม ไปหามันก็ไม่ทำให้หายขาดหรอก หมอก็ให้ได้แค่ยาบรรเทาปวดเหมือนที่กินอยู่นี่แหละ”

พรไพลินยิ้ม ส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “ไพลินรู้แล้วว่าพี่ไนท์ดื้อเหมือนใคร”

“อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นให้ได้ยินอีก” ปรมัตถ์เอ่ยราวกับผู้ที่กำลังพูดถึงไม่ใช่ลูก แล้วออกปากไล่พรไพลินตรงๆ “กลับไปนอนได้แล้วละ พ่อจะพักผ่อน”



แม้ว่าคนดื่มหนักยังเดินได้ตรงทางถึงจะช้าลงไปบ้าง ศาศวัตก็ไม่กล้าไว้ให้เธอขึ้นไปยังห้องนอนคนเดียวตามลำพัง ปะเหมาะเคราะห์ร้ายกลิ้งตกบันไดมาจะยิ่งแย่ ชายหนุ่มทิ้งโต๊ะอาหารซึ่งยังเต็มไปด้วยแก้วเครื่องดื่มและจานเปล่าเลอะเทอะไว้อย่างนั้นก่อน เดี๋ยวค่อยมาตามเก็บทีหลัง เขาเปิดไฟขับไล่ความทึบทึม“โอ้ย นี่บ้านหรือสวนสนุกเนี่ย” ณราตรีหัวเราะคิกคัก “โคลงเคลงเหมือนอยู่ในเรือไวกิ้งเลย” เธอแหงนหน้าบอกเขาราวกับขอความเห็น

“ดูสิ คุณก็มีสี่คน คนไหนตัวจริง คนไหนตัวปลอมเนี่ย” ไม่พูดเปล่า นิ้วยาวเรียวจิ้มลงมาบนแก้มเขาราวกับต้องการพิสูจน์
“อ้อ คนนี้ตัวจริง” คนเมาพยักหน้าหงึกหงัก “สงสัยฉันเมาจริงๆ ดูสิ เห็นคุณมีสองคนบ้าง สี่คนบ้าง บ้านก็หมุนๆโคลงๆ”

ตั้งแต่พบคนเมามา มีณราตรีนี่แหละที่เมาแล้วยอมรับว่าเมา ปกติมักเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่เมา

“ขอเกาะหน่อยนะ ฝืนไม่ไหวแล้ว” เธอคว้าแขนเขาไปยึดไว้ตอนก้าวขึ้นบันได ไม่ใช่แค่เกาะอย่างที่ขอ แต่กอดไว้ทั้งแขนจนเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นของอวัยวะบางส่วนที่กดลงมาแนบชิดเพราะเจ้าตัวไม่ระมัดระวัง

ชายหนุ่มลืมหายใจไปชั่วขณะ แค่นั้นยังไม่พอ ณราตรียังซบแก้มนุ่มลงกับไหล่กว้างอย่างไว้เนื้อเชื่อใจ ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หรี่ปรือ ริมฝีปากอิ่มเผยอยิ้มอย่างพอใจ

ศาศวัตกลอกตามองเพดาน เป่าลมออกปาก พยายามระงับอกใจไม่ให้ไหวหวั่นเตลิดเปิดเปิงไปไหน อดยอมรับไม่ได้ว่าอยากก้าวช้าๆยืดเวลาแห่งความใกล้ชิดเช่นนี้ไว้ให้นานที่สุด ครั้นทำอย่างที่ใจคิดจริงๆ คนที่กอดแขนเขาก็เริ่มบ่นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ

“ขาก็ยาวทำไมเดินช้านัก”

ในที่สุดเขาก็พาเธอมาส่งถึงหน้าห้องนอนใหญ่ ชายหนุ่มเปิดประตูให้คนที่ทำตัวเหมือนไม่มีกระดูก หญิงสาวขยับออกห่างพลางหันมาเผชิญหน้า เลื่อนมือที่กอดแขนมาวางบนบ่ากว้าง

“ขอบคุณนะคะ” เธอยิ้มหวานเหมือนชีวิตไม่เคยทุกข์เศร้ามาก่อน “กู๊ดไนท์ค่ะ”

ถ้าแค่พูดเฉยๆศาศวัตคงไม่หวั่นไหว นี่เธอเล่นส่งจูบเซ็กซี่แถมมาด้วยนี่สิ เขารู้สึกโกรธตัวเองที่ชวนเธอดื่มไวน์ และเพียงคิดต่อว่าถ้าเธอไปเมาที่อื่นและทำแบบนี้จะเป็นยังไง

ชายหนุ่มตรึงไหล่บอบบางไว้มั่น พร้อมออกคำสั่งเสียงดุ “ไนท์ คุณห้ามไปทำแบบนี้ที่ไหนอีกรู้ไหม”

ณราตรีขมวดคิ้วนิ่วหน้า “ทำไมต้องดุด้วย แค่ส่งจูบ ไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย หรือว่ามันดูน่าเกลียดจนคุณรับไม่ได้” พร้อมกับพูดประโยคท้าย เธอเอานิ้วจิ้มลงมาบนอกเขาแรงๆ

น่าเกลียดหรือ...รับไม่ได้หรือ...ไม่ใช่เลย

“ใช่” เขาบอกเสียงลอดไรฟัน โกรธตัวเองที่ขี้ขลาด ทำตัวเป็นคนปากกับใจไม่ตรงกัน ศาศวัตพยายามระงับความรู้สึกบางอย่างที่พลุ่งพล่าน ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์ไวน์ซึ่งอยู่ห่างไม่ถึงคืบทำให้เขาปั่นป่วน จำเป็นต้องแข็งใจพูดออกไปราวกับกำลังหลอกเด็ก...และพยายามหลอกตัวเองไปพร้อมกันด้วย “คุณทำตัวน่าเกลียดมาก ดูไม่ได้เลย ไม่มีใครอยากเห็นคุณทำท่าแบบนี้หรอก”

เกลียด...ศาศวัตคงไม่รู้ว่าคำนี้เหมือนหนามแหลมพุ่งเข้าทิ่มแทงจิตใจคนฟังจนเจ็บแปลบ ดวงตากลมโตฉายแววผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด และแล้ววินาทีต่อมามันก็เลือนหายไปกลายเป็นความไม่พอใจ กรุ่นโกรธ รอยยิ้มหยันจุดขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม เธอออกแรงสะบัดมือหนาออกจากไหล่ทั้งคู่ เมื่อเขาไม่ทันตั้งตัวเธอจึงหลุดพ้นจากพันธนาการได้โดยง่าย หญิงสาวเอ่ยเสียงเย็น “ถ้าคิดว่าฉันทำตัวน่าเกลียดก็เกลียดฉันเถอะ ชีวิตฉันมีแต่คนเกลียดมาตลอด เพิ่มคุณอีกสักคนก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันชินแล้ว” ณราตรีสะบัดหน้าหนีเข้าห้อง

ศาศวัตอาศัยความไวยันไว้ไม่ยอมให้ประตูบานหนาหนักปิดลงง่ายๆ แถมยึดข้อมือเธอไว้แน่น “เดี๋ยวก่อนไนท์ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คุณกำลังเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว”

“ฉันก็เข้าใจอย่างที่คุณพูดนั่นแหละ” เธอบอกพร้อมแววตาหมางเมินเปิดเผย

ศาศวัตก้าวเข้ามายืนประชิด ปล่อยข้อมือเธอเป็นอิสระ แล้วยึดไหล่ทั้งคู่ไว้แน่นบังคับให้เธอเผชิญหน้า “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด...”

“คุณบอกว่าฉันน่าเกลียด ฉันก็อนุญาตให้เกลียดได้แล้วไง” เธอเอ่ยสวนขึ้นตั้งแต่เขาพูดยังไม่ทันจบ “ความเกลียดของคุณทำร้ายฉันไม่ได้หรอก เดี๋ยวฉันก็ไปจากที่นี่ ไปจากชีวิตคุณ เวลาแค่ไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกันมันไม่มีความหมายขนาดจะติดสมองฉันไปจนตายหรอก เดี๋ยวเจอเรื่องใหม่ๆ เจอคนใหม่ๆฉันก็ลืมคุณ...”

ชายหนุ่มทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว คำสุดท้ายแผ่วหายไปในลำคอเมื่อเขากดริมฝีปากลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างรวดเร็วและดุดันโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอร้องอุทธรณ์

นี่คงเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดคำพูดของเธอไว้ได้...คำพูดแสลงหูบาดความรู้สึกและทำลายช่วงเวลาดีๆที่ผ่านมา ความโกรธทำให้เขาหูอื้อตาลายจนกลบเสียงเตือนของเยาวนะซึ่งกระซิบแผ่วอยู่ในใจ

‘ระวังให้ดี สตรีที่มีชะตาผูกพันจะพรากชีวิตเจ้าให้สั้นลง’

มือที่ตรึงอยู่บนไหล่เลื่อนไปยังแผ่นหลังโอบรั้งร่างนุ่มแนบชิดอกกว้าง ดวงตาคู่สวยดูสับสนงุนงงราวกับตกอยู่ในห้วงมนต์สะกด ความรู้สึกหอมหวานชวนหลงใหลทำให้ชายหนุ่มไม่อาจถอนริมฝีปากได้ง่ายๆ ยังคงรุกรานอย่างต่อเนื่องจนคนในอ้อมแขนพ่นลมหายใจหอบกระเส่า เปลือกตาพริ้มหลับพร้อมกับริมฝีปากแย้มเผยอรับสัมผัสที่เขามอบให้อย่างเต็มอกเต็มใจ ซ้ำยังตอบสนองกลับมาอย่างเร่าร้อนโหยหา

ฝ่ามือนุ่มสั่นเทาเกาะกอดเอวเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ค่อยๆสอดซุกเข้าไปใต้เสื้อยืดแขนยาว แตะไต่ลูบไล้ตามแรงอารมณ์บนแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะไล่เรื่อยสอดแทรกมายังอกแกร่งซึ่งเบียดชิดอยู่กับอกนุ่ม ส่งผลให้ขนอ่อนทั่วร่างลุกชันสะท้านร้อนสะท้านหนาวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ศาศวัตครางอยู่ในลำคอ เธอรู้บ้างไหมว่าการกระทำเช่นนี้กระตุ้นเลือดในกายหนุ่มให้แล่นพล่าน ปิศาจร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในใจกำลังบิดเร่าร่ำร้องอย่างทรมานรอการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ

ชายหนุ่มรู้ว่าถ้าปล่อยให้เตลิดไปไกลกว่าจุดนี้เขาจะไม่สามารถยับยั้งอะไรไว้ได้อีกแล้ว เขาคลายอ้อมกอด ดึงมือที่กำลังทำให้เขาจวนเจียนจะหมดความอดทนรอมร่อออกจากอก ตัดใจผละออกจากริมฝีปากอิ่มเย้ายวนที่เขารู้แล้วว่าหอมหวานเพียงใด และติดใจอยากลิ้มรสไม่รู้เลิก

เธอหอบหายใจจนตัวโยน ริมฝีปากแดงเรื่อสั่นระริก ดวงตาหลับพริ้มเปิดปรือขึ้นมองเขา ความปรารถนาลึกเร้นยังฝังอยู่ในดวงตาคู่สวยจนเขาแทบจะอดใจไม่อยู่ อยากจับจูงเธอทะยานไปบนเส้นทางแห่งความสุข ลอยลิ่วผ่านฟ้ากว้างเพื่อพิสูจน์ไปพร้อมๆกันว่าสิ่งที่รออยู่ปลายทางสายนี้คือทุ่งดอกไม้หอมหวาน สายรุ้งงดงาม หรือกองไฟอันร้อนแรงซึ่งพร้อมจะหลอมละลายเธอและเขาเป็นเนื้อเดียวกัน

เขาดึงร่างนุ่มมากอดไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น พยายามสยบเจ้าปิศาจร้ายที่ดิ้นพล่านอยู่ภายในให้สงบลง ครั้นสบสายตากันอีกครั้งก็รู้ว่าอารมณ์เธอยังไม่ปกตินัก ดวงตาฉ่ำหวานด้วยทั้งฤทธิ์ไวน์และแรงอารมณ์ดูเย้ายวนเชิญชวนจนความอดทนซึ่งเหลืออยู่น้อยนิดแทบสะบั้น
เขาหลบสายตาคู่นั้นด้วยการฝังปลายจมูกลงบนหน้าผากมนพร้อมกระซิบห้ามเสียงพร่า

“อย่ามองผมแบบนี้ไนท์”

เพราะเขาไม่รู้ว่าจะหยุดตัวเองได้นานแค่ไหน จึงรีบคลายอ้อมกอดและส่งเธอเข้าห้องปิดประตูขังไว้ในนั้น ร่างสูงหันหลังพิงผนัง ยกมือลูบหน้าปรับอารมณ์ให้กลับสู่ปกติ รู้ชัดว่าความรู้สึกในใจขยับก้าวไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว

************************************************************

มีข่าวดีมาบอกค่ะ

ตอนนี้มีการเล่นเกมแจกนิยาย เริงราตรีสีขาวในเพจภาวินค่ะ แจกนิยายสามเล่ม แต่ผู้โชคดีลำดับแรกจะได้ที่คั่นผีเสื้อสุดสวยพร้อมมินิโปสการ์ดหนึ่งชุดพร้อมกล่องกิ๊บเก๋
ส่วนลำดับที่สองและสามนั้นได้หนังสือพร้อมที่คั่นค่ะ

เพียงแค่เข้าไปที่เพจ ภาวิน แล้วทำตามกติกาพร้อมตอบคำถามง่ายๆว่าในต้นฉบับเริงราตรีสีขาว มีคำว่า "ผีเสื้อ" ทั้งหมดกี่คำ

อย่าลืมแวะไปร่วมสนุกกันนะคะ จะพิมพ์คำว่าภาวินลงไป หรือเข้าไปตามลิงค์นี้ก็ได้ค่ะ

https://www.facebook.com/fasai.phawin

เอาละ ตอบเม้นท์กันค่ะ

พี่แตงกวา หวังว่าตอนนี้คงทำให้ยิ้้มค้าง ตาลอย ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ยาดมกับผงยาทัมใจยังต้องใช้อยู่หรือเปล่าเนี่ย

คุณดังปัณณ์ ไม่มีขึ้นเตียง ไม่มีอ้วกรด เพราะฉะนั้นหนอนน้อยคลานออกจากใต้เตียงก่อนค่ะ

คุณวรรษา นางเอกเราทำอะไรห่ามห้าวไปตามประสาเด็กที่รู้สึกขาด ส่วนวันนี้ก็มีอะไรเกิดขึ้นเล็กน้อย แค่หอมปากกกก และถ้านานกว่านี้อาจจะหอมคอด้วย ๕๕๕

หนูบาร์บี้ ดูเหมือนจะเป็นอีกคนที่เชียร์ตลอดๆ ไม่มีใครห่วงความปลอดภัยของหนูไนท์กันเลยยยยย

อสิตาผีเสื้ออวบ นานๆจะออกจากรูไปเปิดหูเปิดตา สงสัยจะเปิดตากว้างไปเลยเจ็บตากลับมา ป่านนี้น่าจะหายแล้ว ผีเสื้อน้ำเงินกำลังเข้มข้นเลยนี่

คุณนักอ่านเหนียวหนึบๆ หนูไนท์กินเสต๊กหมดหรือเปล่าไม่รู้ แต่เธอกำลังจะถูกคุณสาศกลืนกิน เอ หรือเธอจะกลืนกินคุณศาศกันแน่

คุณ Sukhumvit 66 เรื่องราวมันยังไม่จบแค่นี้ค่ะ ไม่จบแค่นี้แน่ๆ (คุณศาศวัตฝากมาบอก หุ หุ)

คุณปลายสี น่ารักจริงๆเลย งานยุ่งยังแวะมาให้กำลังใจ ขอบคุณมากค่ะ ^_^

คุณ Chii อร๊ายยยย คิดอะไรแบบนั้นนนน เค้าแค่ไม่อยากพาดพุง เอ้ย พาดพิงตัวละครในเรื่องเท่านั้น กลัวคนอ่านเดาออก เพราะล่อหลอกไว้หลายทางเหลือเกิน เลยลากไปหานางเอกอีกเรื่องหนึ่ง เพราะนางเอกยังไงก็ต้องดีแน่ๆใช่ม้า ส่วนตัวรองๆของเราจะดีหรือร้ายต้องอุบไว้ก่อน อิ อิ








ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ย. 2556, 00:58:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ย. 2556, 00:58:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1428





<< ตอนที่ ๑๓ (จบตอน)   ตอนที่ ๑๔ (จบตอน)+เล่นเกมแจกนิยายในเพจ "ภาวิน" อยู่นะคะ >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 23 ก.ย. 2556, 01:56:01 น.
อุๆๆๆๆ อยากลูบพุงนายศาศบ้างจังงงง
5555


พันธุ์แตงกวา 23 ก.ย. 2556, 07:05:38 น.
ป้าหาทางกลับบ้านไม่ถูกเลยพ่อคุณ
แอบปิดไฟ ตีหัวหนูไนท์ แล้วลากไปเก็บได้มั้ย อยากสวมรอย แหะๆ ว่าแล้วก็ควักยาดมมาดมต่อ


ดังปัณณ์ 23 ก.ย. 2556, 08:48:24 น.
555+ พาดพิง 'ป้า' ข้างบนค่ะ ฮือๆๆๆ พี่แตงอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ไม่นร้าาาาาาาาาาาาา เค้าเสนอตัวก่อน (อั้ยย่ะ ภาพพจน์ช้านนนนนนนนน...ความจริงก็ไม่มีแต่แรกแหละล่ะ 55+) ชริ พี่ปุ๊กใจร้าย น้ำหมากหนูยังไม่กระฉอกแบบสำลักเลยอ่ะ หนอนเซ็ง คลานกระดึ๊บๆๆๆ ออกมาจากใต้เตียงแบบงอลๆๆๆๆ หึๆๆๆๆๆ


Barby 23 ก.ย. 2556, 10:34:46 น.
งุงิงุงิตอนต่อไปเป็นไงหน๋อ


อสิตา 23 ก.ย. 2556, 16:30:29 น.
เปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วจูบต่อสิคะ...
ป.ล. ตอนนี้ในเพจ ภาวิน กับเพจ อสิตา ในFacebook
มีแจกนิยายชุดความลับของผีเสื้อกันอยู่นะคะ อย่าลืมเซิชหาแล้วเข้าไปเล่นนนนนนนนนน


Sukhumvit66 23 ก.ย. 2556, 18:49:35 น.
แค่นี่ก็ชุ่มใจแว้ววว อิอิ


วรรษา 23 ก.ย. 2556, 20:16:15 น.
พิมพ์ประภาอดแต่หนูไนท์ ได้ไปจูบนึง ถือว่ากล้อมแกล้มอิอิ หวังว่าไพลินจะเจอต่างหูนะคะ เพราะคงสำคัญทางใจจริงๆ


ปลายสี 24 ก.ย. 2556, 00:19:07 น.
มาลงชื่อไว้ก่อน (อีกแล้วค่ะ)) งานท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เดี๋ยวอาทิตย์หน้าตามอ่านแน่ค้า


auraiw 24 ก.ย. 2556, 09:22:48 น.
ว้าวๆๆ แอบเขินแทนเลยอ่ะ เหลืออีกกี่ตอนจะจบคะัเนี่ย


ketza 26 ก.ย. 2556, 20:26:20 น.
ให้มองแบบไหนคร๊า.... วี๊ดวิ๊วๆๆๆ


ketza 27 ก.ย. 2556, 15:46:25 น.
ขอฉากนี้ต่ออีกนี๊ดดดดดด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account