เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๑๐ ความลับของดอกบัว(...ต่อ) + ยังเล่นเกมชิงนิยายเรื่องนี้ในเฟซบุ๊คได้อยู่ รีบกันหน่อยนะคะ ใกล้หมดเขตแล้ว

หลายวันที่แสนวุ่นวายใจทำให้วนัสสาลืมฝันถึงผีเสื้อสีน้ำเงิน ไม่พบเห็นมันมานานแล้ว
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น แต่คืนนี้ละอองน้ำเงินพร่างพรายจากปีกนั้นกำลังกรีดพลิ้ว
ให้เห็นท่ามกลางห้วงฝันสีดำ

‘รอด้วยสิ! อยู่ด้วยกันก่อน ตอนนี้มันมืดแปดด้านไปหมด เมื่อไหร่จะเจอพ่อ เจอเฟย์
แล้วก็...ผู้ชายคนนั้นที่ฉันตามหา’ วนัสสาร้องออกไป ถึงในใจจะมีคราม
แต่เธอก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าเขาคนนั้นแท้จริงแล้วคือใคร

ผีเสื้อบินเรียบเรื่อยแต่ยังรีรอให้ตามไปเหมือนเก่า บนพื้นที่เธอก้าวผ่านชื้นแฉะ
เพราะฝนที่กำลังหยาดเม็ดลงมา แต่วนัสสาก็ยังไปต่อ จนกระทั่งเห็นเงาของใครบางคนอยู่ไม่ไกล
ผีเสื้อที่นำทางมานั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่อย่างน้อยเธอก็คิดว่าคนตรงหน้านี้น่าจะเป็น
จุดหมายปลายทางของเธอ

‘ช่วยหันมาหน่อยได้ไหมคะ คุณ...ได้ยินฉันไหม’

ผู้ชายคนนั้นค่อยๆหันกลับมา ร่างของเขาเปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำ เธอยังเห็นหน้าเขาไม่ชัด

‘คุณเป็นใคร’

ไม่มีเสียงจากร่างที่ยืนทะมึนอยู่ ทว่าฟ้ากลับคำรามขึ้นแทนคำตอบพร้อมผ่าครืน
ตามด้วยแสงจ้าแลบลงมาส่องเข้าตาชายคนนั้น แล้วเธอก็เห็น...ตาของเขาเป็นสีน้ำเงิน!

วนัสสาตื่นขึ้นมาในห้องอันแสนเย็นเยียบจนหนาว ก่อนจะหลับลงยังอุ่นไอสัมผัสของคนที่เข้ามา
อยู่เป็นเพื่อน ครามหายไปไหน หรือว่าที่เห็นเมื่อคืนเป็นเพียงภาพฝันเพราะเธอเองเอาแต่คิดถึงเขา
แต่นึกยังไงก็ไม่ใช่ จินตนาการคงไม่สามารถให้สัมผัสที่...เรียกว่าสมจริงได้ขนาดนั้น
แม้แผ่วเบาทว่าตรึงใจจนยังติดมาถึงตอนนี้

“เลิกคิดไร้สาระเถอะ หาทางเจอพ่อให้ได้ซะก่อน” หญิงสาวย้ำกับตัวเอง

นาฬิกาบอกเวลาเก้าโมงเช้า วนัสสาลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งกายด้วยชุดเสื้อกางเกง
รัดกุมของตนที่มือลึกลับย้ายลงมาให้ ถักผมยาวเป็นคลื่นไว้เป็นเปียหลวมๆ
ถึงอย่างไรตรงปลายหางเปียนั้นก็ยังม้วนหลอดอยู่อย่างน่าขัน

ทันทีที่ผลักประตูออกไป เหมือนทุกอย่างรอคอยเธออยู่แล้ว ผนังด้านที่เหมือนเป็น
ทางตันในวันวานวันนี้กลายเป็นทางเปิดโล่ง วนัสสาตัดสินใจก้าวไปไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่

เธอได้ยินเสียงสะท้อนของดนตรีบรรเลงผสานแทรกซาวนด์ซึ่งเป็นเสียงครางในคอแผ่วเบา
และสำเนียงทอดถอนหายใจของหญิงสาว ฟังแล้วให้อารมณ์เซ็กซี่ปนเยือกเย็นอย่างไรบอกไม่ถูก
ช่วยให้ประสาทที่ตึงเครียดผ่อนคลาย และเธอก็ตามบทเพลงนั้นไปจนถึงประตูบานคู่ เปิดสู่บาร์
กึ่งมืดกึ่งสว่างมีแสงสีจัดตัดกันสองสีคือม่วงและชมพู บาร์เดียวกันกับที่เหล่าผู้เข้าพักเคยลงมา
ค่ำคืนที่พวกเขาได้สนุกกัน ช่วงเวลาที่เกมยังไม่เริ่ม ตอนที่ยังไม่มีใครตาย...

มีคนนั่งหันหลังให้เธออยู่ เขาฟุบตัวกับบาร์ที่มีแสงเรืองๆมาจากด้านล่างเคาน์เตอร์นั้นอยู่ครึ่งๆ
ผมหยักศกค่อนข้างฟูรวบไว้ครึ่งศีรษะ ร่างสูงใหญ่สะดุดตา เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก...

“หมอริช” วนัสสาอุทาน แทบจะเก็บความยินดีไว้ไม่มิด คนพวกนั้นเปิดโอกาสให้เธอได้มีเพื่อน
ไม่ต้องต่อสู้ไปลำพังคนเดียวอย่างที่คิดกลัว แม้รู้ว่าความคิดดังกล่าวออกจะดูไร้เดียงสาเกินจริง
แต่อยากรู้สึกอุ่นใจไว้ก่อนก็ยังดี

“คุณหนูวนัส!”

ฝ่ายที่เพิ่งหันมาดูเหมือนจะดีใจยิ่งกว่าที่เห็นเธอ ร่างใหญ่หนาพรวดพราดเข้ามากอดหญิงสาวแรงๆ
ก่อนจะคลายออก เร็วจนเธอไม่มีเวลารู้สึกเขิน ได้แต่หัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงเขา

“ดีใจที่เจอคุณหนู อยู่คนเดียวผมจะบ้าอยู่แล้ว”

“บ้าจริงๆด้วย นี่คุณดื่มตั้งแต่เช้าแบบนี้เลยหรือ”
วนัสสาทำตาโตเมื่อเดินตามไปมองแก้วเหล้าที่เหลืออยู่ติดก้นบนเคาน์เตอร์บาร์

“ไม่เช้านะครับ สายแล้ว... ก็มันไม่มีอะไรจะทำ ไอ้พวกเวรนั่นเล่นกั้นทางให้ผมหลงมาแถวนี้
ตั้งแต่ก่อนคุณจะมาเป็นชั่วโมง แล้วก็ไม่มีอย่างอื่นนอกจากดื่มอะไรเย็นๆแก้เซ็ง ไม่อยากจะ
ระวังตัวอะไรมากแล้ว ตายเป็นตายเถอะ บางที...คุณหนูเคยคิดไหม บนโลกที่วิปริตใบนี้
อยู่ไปก็เบื่อ ไม่ต่างจากติดอยู่ในห้องทดลอง ตายไปเสียให้พ้นๆก็ไม่เลว”

“หมอริชออกไปดูโลกมาพอแล้วหรือไง ถึงบอกว่าเบื่อ”

“เบื่อก็คือเบื่อน่ะ เพราะรู้ว่ามีโลกกว้างใหญ่อยู่ภายนอก ที่ช่วงชีวิตของเราไม่มีโอกาส
ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน...ยิ่งรู้ก็ยิ่งเบื่อโลกใบแคบที่ต้องทนอยู่ ไม่ใช่แค่ผมหรอก
บางคนอาจไม่มีเวลาออกไปท่องเที่ยว ไม่มีเงินจะใช้เดินทาง หรือใครอีกคนอาจมีเงิน
แต่บนเตียงมีคนที่บ้านป่วยหนักให้ต้องดูแล”

“นั่นสิ เอาจริงๆแล้วก็ไม่ผิดทั้งคนที่บอกว่าเบื่อ และไม่เบื่อ เพราะแนวคิดแบบพุทธะที่ไม่ใช่สุขนิยม
ความสุขหรือทุกข์มันก็เท่านั้น ...คนเราบอกว่า‘อิ่ม’ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่านอกโต๊ะยังมีอาหารที่ดีกว่า
แต่เพราะมื้อก่อนที่เพิ่งลงคอไปไม่เหมือนกัน บางคนอาจจุกจนพะอืดพะอม ต่างกับคนที่ยังอยาก
ลองลิ้มรสอาหารชนิดใหม่นอกโต๊ะจานต่อๆไป”

“แล้วคุณหนูวนัสเบื่อหรือยัง เฮ้อ ไอ้ผมก็พูดไปอย่างนั้นเอง จริงๆแล้วก็ยังอยากอยู่ดูโลก
ไม่อยากถูกจำกัดสิทธิ์ตั้งแต่วันนี้หรอก” วาริชยกแก้วที่มีเหล้าเหลือติดก้นขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะลุก
วกไปผสมให้ตัวเองใหม่

“ยังไม่เบื่อค่ะ...ยังไม่ใช่วันนี้ ฉันเองก็ต้องเดินทางต่อไป”
ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอสิ้นไร้อิสระ แทบเป็นตรงข้ามกับช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนที่ได้โลดแล่นอยู่กับคราม
ในแสงสีของวงการแฟชั่น เขาเปิดโลกใหม่ให้เธอ วนัสสาก็ยังอยากจะมีวันที่เธอได้หวนไปเปิดโลกใบอื่น
ขึ้นมาอวดต่อหน้าเขาให้ได้เหมือนกัน

สัตวแพทย์หนุ่มมองหญิงสาวนิ่งไปแล้วก็ยิ้มพลางยักไหล่ “พ่อว่าผมเกิดมาเป็นคนรักสนุก
งั้นถ้าจะตายไม่รู้ตัวผมก็ขอตายแบบคนรักสนุกนี่แหละง่ายดี ฝากโลกที่เหลือไว้ในแก้วเหล้า!”
วาริชคล้ายเอะอะ เสียงห้าวของเขาราวกับคนเริ่มเมา แต่วนัสสาก็ดูออกว่าแกล้งทำ
เขาเป็นคนฉลาดเกินกว่านั้น ออกจะขี้เล่นก็จริงแต่ไม่ใช่คนเลินเล่อ แล้วก็คงจะคอแข็งอยู่พอตัว
บางทีอาจกำลังตบตาคนที่เฝ้ามองอยู่ก็เป็นได้

“งั้นขอฉันบ้างสิคะ สักแก้ว อะไรก็ได้”

วาริชเล็งนิ้วของเขามาทางวนัสสา “อย่าทำเป็นเล่นไป ดูลีลาผมแล้วคุณจะทึ่ง”

หญิงสาวที่นั่งลงมองเขาตาโตก็ได้ทึ่งจริงๆ เมื่ออีกฝ่ายโยนขวดโยนแก้วไปมาราวกับเป็นบาร์เทนเดอร์ตัวจริง

“เดธไฟร์ น้ำเพลิง ผสมกับน้ำผึ้ง” มือใหญ่สีแทนเทน้ำสวยใสจากแต่ละขวดรินไหลลงผสมกัน
ในปริมาณที่แลดูว่าพอเหมาะ ใส่น้ำแข็ง คน เขย่า ออกมาเป็นของเหลวสีอำพัน ความเข้มของ
น้ำผึ้งเจืออยู่ราวกับเปลวไฟนอนก้นแก้ว “แก้วนี้ ขอตั้งชื่อว่าเพลิงสีจาง”

วนัสสาเอื้อมมือไปจะคว้าแก้วที่ถูกสไลด์วืดมาถึงตรงหน้า
แต่ยังช้า เมื่อวาริชก้าวเข้ามาใช้หลังมือเลื่อนมันออกไปพ้นหน้าเธอ

“ยังก่อนดีกว่า...ผมคิดว่ายังไม่เหมาะกับคุณเท่าไหร่”
ขณะที่พูดมือใหญ่และคล่องแคล่วนั้นก็ย้ายไปเปิดถังเย็น คว้าขวดใสแจ๋วน้ำแข็งจับขึ้นมา
“วอดก้า กับน้ำแข็งเย็นเจี๊ยบ แล้วก็นี่” อีกมือของเขาโยนก้อนมิ้นต์ที่พร้อมแตกเป็นฟองฟู่
สีขาวตามลงไปในแก้ว ส่งให้เครื่องดื่มนั้นเต็มไปด้วยละอองขาวพรายทั้งไอเย็นกรุ่นลอยตัวขึ้นมา
“ราตรีสีขาว สวย ลึกลับ แต่ก็...ยังดูไม่เหมาะกับคุณอีกนั่นแหละ”

“ฉันอยากจะดื่มแล้วนะ” วนัสสาเริ่มค้อน เขาเล่นยั่วกันแบบนี้ แถมลีลาก็เหลือกิน
ทำเอาคอแห้งขึ้นมาจากที่คิดจะนั่งดูเล่นแกนๆ “นี่คุณหัดมาเหรอ หยิบจับอะไรคล่องจังเลย”

“เปล่า” วาริชพึมพำขณะหันไปเลือกแก้วง่วนอยู่ “ผมไม่รู้จักชื่อเหล้า ตั้งมั่วขึ้นมาเองทั้งนั้น”

“ถ้างั้นคุณก็หัดโยนแก้วไว้อวดสาวเล่นๆ ว่างั้น”

“ผมหัดโยนบีกเกอร์กับพวกขวดอะไรในห้องทดลองน่ะ แตกง่ายกว่านี้อีก
แก้วหนาๆนี่เรียกว่าอย่างหมู” คนพูดอวดหน้าตาย

วนัสสาส่ายศีรษะขำๆ คนตรงหน้านี่บ้าได้โล่จริงๆ ทว่าอย่างน้อยอยู่กับเขาก็รู้สึกปลอดภัย
ถ้าเขาจะไม่เป็นตัวอันตรายซะเองน่ะนะ แต่เธอก็ค่อนข้างแน่ใจ ว่าคนเปิดเผยอย่างวาริช
จะไม่หันมาแทงเธอตอนเผลอตัว

ขณะที่ละสายตาไปวูบนั้นเอง แก้วที่สามก็ถูกวางกึงลงตรงหน้า แก้วใสสีน้ำเงิน
จุด้วยน้ำสีเข้มลึกโรยน้ำแข็งเกล็ดหิมะ กลิ่นที่ระเหยขึ้นมาหอมเย็นยวนใจ

“นี่แหละ เหมาะกับคุณที่สุดแล้ว”

“ชื่อว่าอะไรคะ” วนัสสาเหลือบขึ้นสบตาเจ้าของร่างสูงใหญ่ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มลึก
แล้วเธอก็พลันนึกถึงฝันที่เพิ่งผ่านพ้นมา ตามผีเสื้อสีน้ำเงินไป แล้วเธอก็เห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น...

“แก้วนี้ชื่อ เงา...สีน้ำเงิน ดื่มให้กับความทรงจำ” วาริชแกล้งหยุด “...ที่หายไป”

นั่นคือคำที่เธอรอคอย นวาระกับครามยอมรับแล้วว่าความทรงจำหายไป แล้วที่สุดวาริชก็
พูดออกมาอีกคน วนัสสาสบตาสีน้ำเงินคู่นั้นราวกับถูกสะกด เธอส่ายหน้าน้อยๆ
“ไม่ค่ะ ดื่มให้กับความทรงจำที่จะกลับคืนมา” มือบอบบางจรดแก้วเข้ากับริมฝีปาก
ก่อนจะค่อยๆกลืนของเหลวเย็นๆลงคอไป



ในห้องนอนที่เหมือนจะน่าสบาย ดาหวันขดตัวอยู่บนโซฟา มือสองข้างยกขึ้นอุดหู ตาปิดแน่นสนิท
ไม่อยากรับความรู้สึกรอบกาย เพราะหญิงสาวต้องการจะส่งความรับรู้ของตนไปไกลเกินกว่านั้น!

หลังจากที่เธอทำเรื่องลงไป...ด้วยการแทงดร.กฤษณะ น่าแปลกที่ไม่มีใครเข้ามาเอาผิด
พวกเขาเพียงแต่ปล่อยเธอทิ้งไว้อย่างนี้ หญิงสาวจึงพยายามใช้พลังพิเศษของตนให้เป็นประโยชน์
ความสามารถในการ‘ฟัง’

เธอได้ยินบทสนทนาของวนัสสาและวาริชในบาร์ชัดเจนอย่างน่าประหลาด แต่ก่อนมาความสามารถ
ในการได้ยินเสียงจากที่ไกลๆของดาหวันมักขึ้นอยู่กับระยะทาง แต่ถึงจะเป็นช่วงที่พัฒนาแล้ว
หญิงสาวเองก็เพิ่งสังเกต หากเป็นเสียงของวาริชเธอจะได้ยินชัดกว่าเสียงใครคนไหน

“คนอะไรไม่รู้ พูดจาเสียงดังเอะอะ แถมยังพูดมาก ไม่รู้จักสงบปากซะบ้างเลย”

แต่แล้วเมื่อบทสนทนาของวาริชกับผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นเงียบไปอย่างน่าสงสัย
คนแอบฟังยิ่งประหลาดใจ ร้อนใจด้วยสงสัยว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้น แต่ในเมื่อความสามารถของเธอ
ไม่ได้ไกลไปกว่าการฟังเสียง ที่สุดดาหวันก็ตัดใจ ยังต้องพยายามฟังเสียงของคนอื่นที่ถูกแยกไปอีก
ไม่มีเวลามาพะวงกับฝ่ายไหนฝ่ายเดียว

เธอรู้สึกได้ นวาระไม่ได้อยู่ใกล้ขอบเขตการได้ยินของตนเอง ส่วนครามยังคงเงียบจนนึกกลัวว่า
อีกฝ่ายจะมีอันเป็นไป ดาหวันเคยไม่ถูกกับลูกชายแม่เลี้ยง แต่ก็ไม่ได้เกลียด แถมตอนนี้เขาก็จำเป็น
จะต้องมีชีวิตอยู่ ต้องอยู่เพื่อช่วยกันและกันให้ผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากนี้ไป

ครามและคนอื่นๆที่เหลือได้รับยาสร้างจุดความทรงจำไปมากกว่าเธอ ดาหวันรู้มาว่าในยานั้น
มีสารตัวหนึ่งที่ก่อเกิดการกระตุ้นไม่ต่างจากสารสำคัญที่มีอยู่ในยาเร่งจิต โดยเฉพาะวนัสสา
เธอได้รับยาที่ใช้ในการสร้างกล่องและปิดล็อกความทรงจำไปแล้วถึงสองชุด รวมเป็นสี่เข็ม
ยกแรกเมื่อตอนอีกฝ่ายยังเด็ก มาถึงตอนนี้ก็เป็นไปได้ที่ฝ่ายนั้นจะพัฒนาพลังไปมากกว่าใคร

ดาหวันเองเป็นคนเดียวที่ได้รับเพียงยาเข็มแรกตอนการทดลองเริ่มขึ้น เธอถูกละเว้น
การฉีดยาเข็มที่สองจึงไม่ได้ลืมเรื่องราวทุกอย่างไป ไม่รู้เลยว่าบิดาวางแผนจะให้มันกับเธอเมื่อไหร่
ถ้าวันนั้นมาถึง ดาหวันเองก็คงจะลืมประสบการณ์ร้ายๆพวกนี้ เมื่อไม่รู้ไม่เข้าใจอะไร ถึงตอนนั้น
เธอก็คงจะกลายเป็นคนไม่มีประโยชน์ ช่วยเหลือใครไม่ได้เลย...รวมทั้งวาริช ดังนั้นจะต้องรีบ
ช่วยตัวเองและพวกเขาให้ได้เสียตั้งแต่เวลาที่ยังมีความทรงจำครบถ้วนอย่างตอนนี้


วาริชยังยืนอยู่ฝั่งบาร์เทนเดอร์ มองวนัสสาซึ่งฟุบลงหลับไปกับบาร์ เขาลากเก้าอี้ตัวสูงยาวที่ซุกอยู่
ข้างใต้ออกมานั่งลงบ้างเพื่อเฝ้ามองเธอหลับใหล จิบทั้งเพลิงสีจาง ราตรีสีขาว ยกเว้นเงา...สีน้ำเงิน
ที่เหลือติดแก้วอยู่ของเธอ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ยังไม่เมา สัตวแพทย์หนุ่มฟุบลงมองเธอเพื่อให้
ระดับสายตาของเขาพอดีกับใบหน้าสวยน่ารักที่ยามนี้ยิ่งดูไร้เดียงสาเหมือนตุ๊กตาขึ้นไปอีก
ครุ่นคิดถึงคำสั่งที่นาเดียถ่ายทอดมาเมื่อเช้า

‘เชื่อว่าด่านต่อไปของคุณหมอคงไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ยาก เรียกว่าเป็นสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณ
ไปได้เลย ก็ต้องเลือกนะคะ ว่าอยากมีชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม หรือว่า...จะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว’

นิ้วสีแทนเอื้อมไปเขี่ยขนตายาวงอนของคนที่กำลังหลับสนิทแผ่วๆ ยามตื่น เขายังจำได้ว่าขนตานี้
ดูเหมือนผีเสื้อยามมันกะพริบกระพือปีก ยิ่งมีขี้แมลงวันแต้มที่ตรงหางตาซ้ายยิ่งดูเหมือนจุดบนปีกผีเสื้อ
วาริชแตะต้องขนตานั้นเบาแสนเบา มันบอบบาง ให้สัมผัสแผ่วไหว ชายหนุ่มรู้สึกตัวมาหลายวันแล้ว
ว่ารู้สึกพิเศษกับวนัสสา อาจจะเคยชอบเธอมาก่อนด้วยซ้ำ แต่คนที่เธอมองไม่ใช่เขา... ทั้งที่เขา
ได้กลับมาเจอเธอก่อนใคร แต่คนที่มาทีหลังกลับดึงหัวใจของเธอไปได้ แบบนั้นมันไม่ยุติธรรม
จะมีทางไหนที่ดึงใจวนัสสาให้กลับมาทางเขา หากเขาทำตามคำสั่งจากนาเดียล่ะ ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร

‘จากการที่ทางเราได้ตรวจสภาพร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง
ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมานี้ โดยคุณวนัสสาทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว
...กะประมาณได้ว่าภายในวันหรือสองวันนี้ จะเป็นวันที่ร่างกายเธอพร้อมที่สุด’

นั่นคือสิ่งที่นาเดียบอกกับเขา วาริชชันตัวขึ้น ดึงยางยืดจากผมหยิกฟูที่เขารัดไว้ครึ่งศีรษะ
ออกมาคล้องไว้กับข้อมือ ก่อนลุกขึ้นอย่างมั่นคง เดินวกไปช้อนร่างวนัสสาที่เบาหวิว
สำหรับคนตัวใหญ่อย่างเขาขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เดินไปยังโซฟากว้าง ตัวนุ่มน่าสบาย
ราวกับเตียงที่เหมือนถูกตระเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วเพื่อการนี้! ร่างสูงใหญ่วางเธอลง
ก่อนจะค่อยๆทอดกายตามลงไป ผงาดเหนือเจ้าของร่างน้อยที่กำลังหลับพริ้ม

“สีสันลวงตาในแก้วเหล้า สีทุกสี มันก็เกิดจากสีอื่นๆผสมกันขึ้นมาหลอกตาคน
บางทีสิ่งที่เห็นก็อาจไม่ใช่ตัวตนจริงๆของมันเสมอไป วนัสสา บางทีผมก็อยากให้คุณตื่นอยู่
แล้วก็เป็นของผมอย่างเต็มใจ...”


ชายหนุ่มทอดถอนใจแรงๆเฮือกออกมาจากข้างในอก ก็เขาไม่ใช่ผู้ชายขาดความมั่นใจ
ในอำนาจทางเพศของตัวเอง ใจหนึ่งก็ยังอยากจะเชื่อว่าสามารถทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม
คล้อยตามและสมยอมได้ แต่อีกใจเขาก็เชื่อในสปิริตของมนุษย์คนอื่น ผู้หญิงบางคน
ถึงต่อให้ตกไปอยู่ในมือชายผู้มีความสามารถในเชิงรักราวกับกามเทพ ก็ไม่สามารถทำให้หวั่นไหว
หากไม่ได้หัวใจของเธอมาเสียก่อน จะมีแต่ความเกลียดชังที่ตามมา เขามองเห็นในแววตาและท่าที
วนัสสาคงจะเป็นเช่นนั้น วาริชจึงเลือกทำให้เธอหลับ เพราะพวกนั้นเตรียมทางเลือกหลากหลายเอาไว้ให้
เขาก็แค่เลือกเอาสักทาง

“ผมไม่อยากทำแบบนี้เลย เพราะงั้น ถึงได้ให้ยานอนหลับกับคุณ แล้วก็ยาอีกอย่าง สำหรับตัวเอง...”
และตอนนี้มันก็กำลังออกฤทธิ์จนเขารุ่มร้อนไปหมด ทั้งอารมณ์ ทั้งเนื้อทั้งตัว อยากจะกระชากผ้าผ่อน
ออกจากตัวให้หมด ทว่าหัวคิ้วโค้งเข้มก็ยังขมวดไม่คลายเมื่อย้อนนึกถึงคำสั่งอันไม่ชอบธรรม

‘หมอวาริช คุณต้องสร้างชีวิตหนึ่งขึ้นมา เพื่อแลกกับชีวิตของตัวคุณเอง
ไม่งั้นเราคงจะไม่มีทางปล่อยคุณไป ในอันดับแรกอยากให้เลือกใช้วิธีทางธรรมชาติก่อน
หากว่าไม่สำเร็จ ค่อยมาลองวิธีต่อไป’

‘พูดบ้าๆ แล้วทำไมต้องเป็นผมกับคุณหนูวนัส พวกคุณมีเหตุผลแค่ไหนที่เลือกเรา’
เมื่อแรกที่รู้นั้นเขาทั้งตกใจ รังเกียจ แต่อีกใจก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ตามประสาผู้ชาย
ที่จินตนาการภาพของตนกับผู้หญิงที่พึงใจ

‘เพราะว่า...คุณสองคนมีพลังที่เข้ากันได้ดีที่สุด พลังในการรับรู้ความรู้สึกของวนัสสา
กับพลังในการรักษาของคุณหมอ ต่างก็เป็นพลังที่เกิดได้ด้วยการสัมผัส
ส่วนครามกับดาหวัน คู่นั้นก็เป็นอีกทางเลือกของเรา
ความสามารถที่เรียกว่าแยกกายทิพย์ หูทิพย์ ตาทิพย์
สันนิษฐานว่าถ้าได้พลังของอีกคนไปเสริมก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบ
เราก็เลยต้องมีการทดลอง ...นี่เป็นอีกเป้าหมายของการพาพวกคุณมารวมกันครั้งที่สอง
จากที่ครั้งแรกเราเพียงแค่สังเกตและเตรียมความพร้อมความพร้อมสำหรับประเด็นนี้
จนจุดนี้ก็ตัดสินใจแล้วว่าหากให้พวกคุณมีทายาทออกมาและเลี้ยงดูด้วยวิธีที่ถูกต้อง
จะต้องกลายเป็นเด็กที่มีพลังจิตสมบูรณ์แบบที่สุด’
กังวานเสียงของนาเดียยามนั้นบ่งบอกถึงความชื่นชม ราวกับพูดถึงผลผลิตทางเกษตร
หรือสัตว์เลี้ยงที่กำลังจะให้กำเนิดสายพันธุ์สุดยอด

มือใหญ่ซึ่งสั่นน้อยๆลูบใบหน้าของคนที่กำลังหลับใหล “น่ารักมาก รู้ตัวไหม คุณหนูวนัส”
คนพูดหายใจแรงขึ้น แรงขึ้นทุกที เขากับลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้ บางอย่างแทบคล้ายใกล้ระเบิดออก



---------
เล่นเกมชิง
เล่ม "เงารักสีน้ำเงิน" ได้ในเฟซบุค อสิตา
เล่ม "เริงราตรีสีขาว" ในเฟซบุค ภาวิน
ขอบคุณที่ให้ความสนใจค่ะ



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ย. 2556, 16:10:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ย. 2556, 16:19:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1509





<< ความทรงจำที่ ๑๐ ความลับของดอกบัว + ยังเล่นเกมชิงนิยายเรื่องนี้ในเฟซบุ๊คได้อยู่นะคะ   ความทรงจำที่ ๑๐ ความลับของดอกบัว(...ต่อ) + ยังเล่นเกมชิงนิยายเรื่องนี้ในเฟซบุ๊คได้อยู่ รีบกันหน่อยนะคะ หมดเขตสิ้นเดือน! >>
อสิตา 23 ก.ย. 2556, 16:15:58 น.
คุณภาวิน – ความทรงจำถึงหมาบ๊อบบี้สำคัญกับหมอริชมากนะ
คุณดังปัณณ์หนอนด้น – อย่ามาแทะตาเค้านะ เค้าไม่ใช่ซอมบี้ หุหุ คสอ.เข้าตา หายเจ็บแล้วค่ะ
คุณพันธุ์แตงกวา – จะถอดร่างไปหาพี่คราม หรือว่าจะปันใจให้หมอริช วันนี้คงต้องเลือกเอาสักทาง

คุณพระอาทิตย์สีทอง – พลังดาหวันเดี๋ยวจะบอกอีกทีค่ะ ไม่ใช่พลังแรงเมื่อเทียบกับคนอื่น แต่ก็มีประโยชน์นะ
คุณนักอ่านเหนียบหนึบ – รู้ด้วยเหรอคะว่าคนเขียนไปงานอะไรมา หุหุ ที่งานไม่มีหนุ่มหล่อเลยสักคน แต่ตาเจ็บเพราะแต่งหน้าแล้วตอนล้างมันเข้าตา
คุณสุขุมวิท66 – คนเขียนชอบหนังซอมบี้มากค่ะ เกมด้วย หุหุ ตอนนี้ตาหายเจ็บแล้วววว
คุณผักชีใบยาวและเหี่ยว – พี่ครามตอนนี้ประสบเหตุมาบ่ได้หนา น่าสงสาร แต่ว่าฮีกำลังจะดิ้นรน
คุณบาร์บี้ กำลังมาเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ เดี๋ยวรู้เลยว่าจะทดลองยังไงกันต่อไป


อสิตา 23 ก.ย. 2556, 16:18:15 น.
ไม่ได้ตอบเม้นต์ตอนเดียว คนอ่านหายจ้อยเลยยยยยยยยยยยยย ทั้งไลค์และเม้นต์
คุณ sonakshi ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ชอบคุณที่ติดตาม


Chii 23 ก.ย. 2556, 16:40:13 น.
นี่ คุณหมอริชชี่ลืมไปป่ะคะ ในห้องแลบเนี่ย มันมีเครื่องแก้วอันนึงที่แข็งแรงและทนทานโคตร

//คว้าขวดดูแรนขนาดหนึ่งลิตรตีหัวริชชี่แรง ๆ หลายที
//แหกปากเรียกพี่ครามของหนูมาเป็นคานขัดขวางการหามหมูของริชชี่


goldensun 23 ก.ย. 2556, 17:31:18 น.
หมอริชยิ่งไม่เข้าตาอยู่ อย่าให้เป็นอย่างที่พวกนั้นวางแผนทดลองไว้นะ
ครามอยู่ไหน หนูวนัสจะแย่แล้ว มาขวางได้มั้ยเนี่ย
ทำไมวนัสไว้ใจง่ายจัง รู้ทั้งรู้ว่าอยู่ในการทดลอง ไหนจะดาหวันที่แอบฟังอยู่


lovemuay 23 ก.ย. 2556, 17:33:27 น.
กริ๊ด... ไม่ยอมอ่ะ พี่ครามรีบมาช่วยหนูวนัสเร็วๆ


ภาวิน 23 ก.ย. 2556, 17:51:57 น.
หมอริชชงเหล้าได้เท่มาก แต่ฉากจบตอนแบบนี้มันคาใจคนอ่านนะ นึกภาพหมอริชหายใจแรงขึ้นแล้วดันเห็นหัวฟูๆนั่นฟูกว่าเดิม...ขอบคุณที่ช่วยโปรโมทเกมในเพจ ทำตัวน่ารักสมเป็นเพื่อนร่วมชุด นวดเฟ้นร่างอวบหยุ่นเป็นการตอบแทน


ดังปัณณ์ 23 ก.ย. 2556, 19:32:42 น.
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่นร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา หนอนดีดดิ้นๆๆๆๆๆ ไม่นร้าาาาาาาาาาาาาาาาาา ถึึงเค้าจะแอบมีใจให้หมอหมา เอ๊ย หมอริช แต่เค้าไม่ยอมตัวเองนะตัวเองงงงงงงงงงงงงงงง เค้าจะเอาคราม เอ๊ยยยยยยยยยยยยยม่ายยยยยยช่ายยยยยยยยยยยยย 555+

แอร๊ยยยยยยยย ไม่นร้าาาาาาาาา คุณแป้ง ฮือๆๆๆๆ ห้ามให้หมอริชทำเบบี๋กะผีเสื้อตัวนี้เด็ดขาด เค้าอุตสาห์จองไว้ให้พ่อครามนร้าาาาาาา แง่ง ขืนให้ทำ เค้าจะเลิกอ่าน! แง้งๆๆๆๆๆ

ปูลม. จะทำได้หรอตัววววววววว ตัวจะเลิกอ่านได้จิงหรอ 555+ ได้โปรดอย่าทำร้ายหนอนขนาดนั้น ครามเป็นพระเอกสิกระซิกๆๆๆๆ


Sukhumvit66 23 ก.ย. 2556, 19:38:15 น.
ครามจะมาช่วยทันไหมน้า....


เรือใบ 23 ก.ย. 2556, 21:16:49 น.
โอ๊ะ หมอริช อย่าทำเรือใบผิดหวังน๊าาาาาา ><


พันธุ์แตงกวา 24 ก.ย. 2556, 00:00:38 น.
อะไรเนี่ย ทำกับคนเหมือนสัตว์ทดลองเลย
คราวนี้จะเปลี่ยนจากถอดหัวถอดไส้ ไปเข้าสิงกินตับยายนาเดียกับพรรคพวกดีมั้ย โชว์พลังพิเศษ เปลี่ยนสปีชี่ให้ดู


Zephyr 24 ก.ย. 2556, 00:13:00 น.
เอ้ยยยยยยย
ที่แท้จัดสถานการณ์กันมาทั้งหมด
เพื่อเลือกคู่ครองเรอะนี่????
ให้สร้างทายาทในบรรยากาศยังงี้อ่ะนะ ตลกละ
มันผิดคู่ ผิดฝา ผิดตัว
เอาพลังเข้ากันได้มันก็แค่เติมเต็ม
ต้องเอาที่ต่างกันสุดขั้ว
มันถึงจะมีพลังชีวิตสุดยอดตะหากกกกกก
อ้าว เอ้ะ มิได้สนับสนุนนะ แต่ไม่เอาคู่แบบนี้
สลับด่วนนนนนนนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


sai 24 ก.ย. 2556, 09:44:43 น.
เออออ หมอริช เป็นเงารักสีน้ำเงิน งั้นหมอริชก็คือเฉลยอ่ะดิอัคนิๆๆๆๆๆ มั่วตลอดอ่ะรีดเดอร์คนนี้ 555


sonakshi 24 ก.ย. 2556, 15:57:06 น.
ตกลงเป็นหมอริชรึนี่?!


Barby 25 ก.ย. 2556, 07:41:05 น.
ครามอยู่ไหนมาช่วยด่วน นวาระก้อได้คิดถึงแล้วนะอยากเจอนวาระเเล้ว


ketza 26 ก.ย. 2556, 20:29:42 น.
พี่ครามของนู๋ๆๆๆ จุ๊บๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account