เงารักสีน้ำเงิน {นวนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" สนพ.อรุณ}
วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน...
แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือรอยสักรูปผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือเป็นเบาะแส
เธอคือผีเสื้อ แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ...คือคนรักที่เธอหลงลืมไป
จะเป็นนวาระผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ
เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินอย่างวาริช
หรือใครบางคนที่มีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม...
Tags: วนัสสา ความลับของผีเสื้อ วาริช อินดิโก้ คราม นวาระ การทดลอง พลังจิต

ตอน: ความทรงจำที่ ๑๑ ไพ่พลิกชะตา [เล่นเกม แจกนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ"2ชุดวันนี้-รายละเอียดในเฟซบุคอสิตา]

น้ำค้างลงฉ่ำไม่ได้ก่อความยะเยือกให้กับวนัสสา สองร่างยังแนบชิดตระกองกันไม่ห่าง
ครามกอดหญิงสาวไว้จากด้านหลัง มีผ้าผ่อนของเธอคลุมทั้งคู่ไว้เปะปะ อ้อมแขนและขาแข็งแกร่ง
ก่ายมาคล้ายจะปกป้องผีเสื้อปีกบางจากลมหนาว ทั้งคู่รู้สึกตัวตื่นขึ้นพร้อมกัน เขาเขยื้อนไหวต่ำลงไป
จุมพิตปีกผีเสื้อที่หลังของเธออย่างรักใคร่ วนัสสารู้สึกถึงนิ้วโป้งสากๆไล้แผ่วเบาบนหลัง สากมาก
มือของเขาคงจะชินกับเข็ม ด้าย และผ้า ก่อนจะเริ่มกลายเป็นดีไซเนอร์ที่พอจะมีชื่อขึ้นมา...

แล้วหญิงสาวก็ลืมตาโพลง ก่อนจะหันกลับไปคว้ามือนั้นขึ้นมามองเสียใกล้ ลูบคลำพิจารณา

“มือผมมีอะไรเหรอ หรือเธอจะดูว่ามันมีเวทมนตร์พิเศษอะไร ถึงได้สร้างสัมผัสชวนหลงใหลได้แบบนั้น”
คนพูดเย้าหน้าตาย

วนัสสาขยุ้มหยิกมือเขา ก่อนจะอุทานอายๆ “บ้า...ฉันก็แค่รู้สึกติดใจนิดหน่อย”

...แล้วเธอก็นึกได้ ใช่แล้ว คนที่เต้นรำกับเธอในสวนมืดๆนั่น มือของเขาไม่ได้ให้สัมผัสนุ่มนวลเลย
ตรงข้ามกับมือของนวาระ ตอนที่เขาเอามือเธอไปกุมไว้หลังจากเล่นเปียโนเพลงมูนแด๊นซ์
จำได้ว่ามือของเขานุ่มนวลไม่ต่างจากมือผู้หญิงที่ไม่เคยแตะต้องงานหนักด้วยซ้ำ

“เป็นคุณจริงๆด้วย” วนัสสาคราง

“อะไรเหรอที่รัก” แม้คำพูดของครามจะอ้อน หน้าเขาก็ยังนิ่งเช่นเคย แต่แววตาพราวระยับทีเดียว

“ฉันรู้นะว่าคุณน่ะกำลังยิ้ม” หญิงสาวส่งสายตารู้ทัน “ตอนเต้นในห้องคาราโอเกะนั่นก็เหมือนกัน
เวลาที่คุณยิ้ม หน้าคุณจะนิ่ง แต่ตาเป็นประกายวับๆ แต่เวลาไหนปากคุณยิ้มมากๆละก็
ไม่ค่อยจะเห็นว่าตาคุณยิ้มด้วยเลย”

ชายหนุ่มหัวเราะหึๆในคอ จูบให้รางวัลแรงๆตรงหน้าผากมนซึ่งมีผมม้าสั้นๆ
ที่เริ่มจะยาวลงมากว่าเดิมนิดหน่อยแล้ว “เยี่ยม อย่างนี้สิถึงจะสมกับเป็นแฟนกัน”

วนัสสาหน้าแดงแล้วแดงอีก เมื่อครามค่อยๆสัมผัสเธอแผ่วเบาอย่างทะนุถนอมราวกับกลัวว่าจะบอบช้ำ
คราวนี้เขาค่อยๆรักเธออย่างเนิบช้าและยาวนาน หญิงสาวหยัดร่างขึ้นรับสัมผัสนั้น
เหมือนน้ำค้างยามเช้าชุ่มฉ่ำที่เขาพร่างพรมลงมาให้ เมื่อไม่รู้ว่าจะมีอีกสักครั้งไหมที่จะได้อยู่ด้วยกัน
ในเวลาอันตรายของชีวิตอย่างนี้ อย่างน้อยเธอก็จะเก็บภาพรักนี้เอาไว้ ตักตวงทุกวินาทีที่ผ่านไป
ก่อนรุ่งเช้าจะมาเยือน

ครามพาวนัสสาลงไปข้างล่างก่อนฟ้าจะสาง พบวาริชที่เพิ่งเปิดประตูออกจากห้องมาพอดี

สัตวแพทย์หนุ่มหรี่ตาลงมองอาการมือไม้เกาะเกี่ยวกันของคนทั้งสองซึ่งแลดูทะนุถนอมกันเป็นพิเศษ
เขาไม่รู้ว่าครามมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง แต่จากภาพที่เห็นบวกกับสังหรณ์ ดูเหมือนจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
ในความสัมพันธ์ของคนคู่ตรงหน้า บางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกโหวงๆจนแทบจะชาในหัวใจ

กับท่าเดินขัดๆของวนัสสานั่นยิ่งทำให้วาริชนิ่วหน้า เขามีประสบการณ์กับสาวๆมาไม่น้อย
อีกอย่างเขาเป็นหมอรักษาคนเฉพาะกิจมาตั้งมาก มีหรือจะไม่สังเกตอาการได้ด้วยสายตา
ที่สำคัญที่สุด ประกายตาเงียบงันของครามนั้นคือแววตาของผู้ชนะอย่างไม่ต้องสงสัย
...แต่ถึงจะคิดไปร้อยแปด วาริชก็ได้แต่ข่มกลั้นความโหวงเหวงซึ่งก่อตัวไว้แต่เพียงข้างในอก

“มาที่นี่ได้ยังไง” เจ้าของร่างสูงใหญ่ถามออกไปห้วนจัด

“ดาหวันยังอยู่ข้างล่าง ส่วนนวาระหายไป แล้วพวกเราจะเอายังไง” ครามตอบไม่ตรงคำถาม
แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีแววประนีประนอมในน้ำเสียง

บวกกับสายตาขอร้องของวนัสสา วาริชเห็นแล้วก็เลยยอมอ่อนลง
หญิงสาวห่อหนังสือความลับของผีเสื้อกับไพ่แจ็ครวมกันไว้ในถุงพลาสติกหลายชั้นเพื่อกันน้ำ
จากนั้นจึงใส่มันไว้ในย่ามที่พอจะหาได้ เลสข้อมือของครามยังอยู่ในกระเป๋าลับของเสื้อวนัสสา
แต่ในเมื่อเขายังไม่ทวงเธอก็อยากจะเก็บมันไว้กับตัวก่อนเพื่อเป็นกำลังใจในหนทางที่อาจต้องแยกจากกัน

ทั้งหมดลงไปชั้นล่าง ทว่ากลับต้องเผชิญปัญหาที่ไม่คาดคิด
เมื่อทั้งประตูหน้าต่างในตึกนั้นไม่สามารถเปิดได้แม้แต่บานเดียว!


นวาระใช้เวลาของเขาอยู่ที่ตึกบลูไดมอนด์ ศศิราศีก็เช่นกัน มีเพียงดร.กฤษณะเท่านั้น
ที่พาตัวเองไปกินนอนอยู่ภายใต้คฤหาสน์สีน้ำเงินร่วมกับเหยื่อทดลองอย่างไม่กลัวอันตราย
คนเป็นภรรยาเปรยเบื่อๆหลายหนว่าดูเหมือนฝ่ายสามีคงพอใจด้วยซ้ำถ้าได้ตายเพราะงาน
ตายในหน้าที่อย่างที่เกือบจะโดนดาหวันเอามีดแทงคอหอยเข้าให้เมื่อวันก่อน

นวาระพยายามข่มความโกรธเอาไว้ข้างใน เขาไม่มีทางลืมได้แน่ ที่คนพวกนี้คิดจับคู่วนัสสากับวาริช
ทั้งที่ศศิราศีเคยรับปากว่าจะต้องเป็นเขาเท่านั้น หลังจากนี้เขาจะต้องลงมือสั่งสอนคนอย่างศศิราศีเสียบ้าง
ให้ได้รับโทษของสิ่งที่เธอทำเกินเลยไว้กับเขา ผู้หญิงคนนี้จะต้องสำนึก... “แล้วเรื่องที่ผมขอ
ที่ว่าอยากพบคุณเทวัญ ไม่ทราบว่าได้รับการตอบรับหรือเปล่า”

“ใจร้อนจริงนิว” ศศิราศีเรียกอย่างสนิทสนม พลางสบตาชายหนุ่มอย่างเข้าอกเข้าใจ
“คืนนี้ท่านจะมาพบเธอที่ห้องคาสิโนของตึก พวกผู้ชายมีเงินบ้าอำนาจนี่ก็จริงๆเลยนะ
ไม่ว่าจะสร้างที่ไหนก็คิดว่าคาสิโนเป็นเรื่องสำคัญ”

“ไม่เห็นแปลก การเล่นเกมก็คือการแสดงอำนาจ ยิ่งเป็นเกมของเงินตราด้วยแล้ว
คนที่หลงเสน่ห์ของมันจะไม่มีวันถอนตัวไปจากเรื่องนี้ได้ง่ายๆ” ชายหนุ่มหน้าสวยเปรยเรียบๆ
ถูกต้องละ แล้วสิ่งที่ว่ามันก็จะกลายเป็นข้อได้เปรียบของเขาด้วย เทวัญต่อให้ฉลาดคุมเกมสักแค่ไหน
แต่ชายผู้นั้นยังมีความหลง เมื่อนั้นก็ถูกครอบงำได้ไม่ยากเย็นอะไร

นวาระนั่งขบคิดระหว่างรอเทวัญอยู่ในคาสิโนติดกระจกชั้นยี่สิบเก้า
เทวัญคงกำลังเหินฟ้ามาด้วยเฮลิคอปเตอร์เหมือนอย่างเคย
สมฐานะความยิ่งใหญ่คับประเทศที่ศศิราศีชื่นชมจนเขาหมั่นไส้
อีกฝ่ายไม่เคยยอมพบใครตามคำเชิญง่ายๆ แต่วันนี้ยอมมาพบเขา
แปลว่านวาระได้พิสูจน์ตนเองแล้วในระดับหนึ่ง ว่าเขาคู่ควร...

ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่าง ชายหนุ่มหวนนึกถึงเรื่องที่ตนเคยบอกวนัสสา
ที่ว่าเสาหลักสองฝั่งของเวชกุลเกิดความระหองระแหงแบ่งฝักฝ่าย ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงเลย
ดร.กฤษณะกับเทวัญเป็นปี่เป็นขลุ่ยกันทุกอย่าง รู้เห็นเป็นใจกันทุกสิ่ง แม้คนนอกจะไม่รู้เรื่องนี้
เขาเพียงแค่หลอกให้วนัสสาเอาใจมาอยู่ฝั่งตน บวกกับเรื่องพ่อของเธอที่เป็นเหมือนตัวชักจูงชั้นดี
...เขาจำเป็นต้องแยกเธอจากคราม ให้ผิดใจ ให้ยืนอยู่คนละข้าง

“มันไม่มีประโยชน์เลยหรือไง สุดท้าย ถึงจะลืมเลือนกันไป ก็ยังจะกลับมาสนใจกันได้ใหม่”

ชายหนุ่มวางไพ่สำรับเก่งลงบนโต๊ะกระจกสีดำตรงหน้า กำแก้วเครื่องดื่มในมือแน่นยามยกมันขึ้นดื่ม
ไม่ใช่แก้วบอบบาง และนี่ก็เป็นแค่น้ำอัดลมเย็นเฉียบ นวาระเองไม่ชอบเครื่องดื่มมึนเมาทุกประเภท
มันจะทำให้สมองเขาทำงานได้ไม่ดีพอ

แล้วเทวัญก็มา... ร่างสูงภูมิฐานอยู่ในสูทสีเทาเงินสว่าง การเดินนั้นคล้ายประจุไปด้วย
คำว่าอำนาจในทุกย่างก้าว ไหล่ผึ่งผายส่งให้ชายกลางคนดูราวกับเป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบ
ผิวเนียนคล้ำอย่างคนใต้ ท่าทางไว้เชิงอย่างนักเลงที่รู้ว่าตนควรเดินเกมทางไหน

แต่ทั้งหมดที่ว่ามาไม่อาจข่มนวาระลงได้ ชายหนุ่มไม่นอบน้อมเพราะรู้ว่าคนใจนักเลงจริง
ไม่ชอบคนหงอ แค่ไม่ไปก้าวร้าวจนเหยียบเท้าอีกฝ่ายก็เป็นพอ ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายนั่งลงตรงข้าม
จิบอะไรพอเป็นพิธีแล้ววางแก้ว ส่งสายตายิ้มเหี้ยมเกรียมมาให้ นวาระก็เริ่ม

“ผมมีเรื่องอยากคุยกับท่าน คงจะไม่ผิดนักหากจะขอเรียกว่าตัวเองมีความสามารถเป็นที่หนึ่ง
ในกลุ่มผู้ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทดลอง”

เทวัญยิ้มเท่าทัน แม้จะเพิ่งร่ำเรียนเอาตอนอายุมาก ถ้านับวุฒิการศึกษา
ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศของเขาก็นับว่าไม่เลว แต่ถ้าจะนับด้านสมอง
ที่ไม่ต้องรอให้สถาบันไหนมาการันตี เขาเป็นคนหัวก้าวหน้า ทันคน พร้อมจะยืดหยุ่น
พลิกแพลงได้ไม่เป็นรองใคร “ถ้าวัดผลจากค่าพลังและการทดลองนั่นอาจใช่อย่างที่เธอพูด
นวาระ แต่อะไรๆก็พลิกผันได้เสมอในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป คนเก่งที่สุด
ก็ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดเสมอไป”

“แต่ตัวหมากในการทดลองก็ไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่ที่การเป็นแค่ตัวซึ่งถูกจับมาทดลองเสมอไป
การที่ผมป่วนมันได้ในครั้งแรก จนถึงเรียกความทรงจำกลับคืนมาได้เร็วอย่างคราวนี้
น่าจะพิสูจน์ว่าผมควรได้ลองเป็นอย่างอื่น เช่นว่าเป็นผู้ร่วมงานคนสำคัญ”

“น่าสนใจนะ” เทวัญผ่อนลมหายใจสบายๆแต่ยังทำท่าคิด แล้วมือที่ประดับไปด้วยเรือนแหวนทองคำ
อัญมณีน้ำพราวถึงสามวงนั้นก็เอื้อมมาหยิบสำรับไพ่ตรงหน้าไปถือไว้

ใจของนวาระจดจ่อกับการเคลื่อนไหวนั้น แต่สายตาของเขาคล้ายทอดมองออกไปในราตรี
ระยิบระยับของเมืองหลวงข้างนอกตึก

“ไพ่นี่คืออะไร”

“ไพ่ป๊อกสำรับนำโชคของผม ผมชอบดูดวง มันมีความเป็นไปได้…ทางสถิติ”

เทวัญ ศรีบริรักษ์ไหวไหล่ แม้เข้าใจนานแล้วว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้เป็นพวกอัจฉริยะ
ทว่าก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่งในสายตาเทวัญอยู่ดี เขามองทุกชีวิตที่ผ่านมาในเกมประสบการณ์
ของตัวเองเป็นเด็ก แต่แน่นอนว่าต้องระวัง คำเตือนจากศศิราศีก็คือ...หนึ่งจะต้องไม่สบตานวาระ
แต่คนจิตแข็งอย่างเขาก็ไม่กลัวพวกมีพลังจิตซะด้วยสิ ขนาดต่อให้ไม่รวมคนคุ้มกันนับสิบ
พร้อมอุปกรณ์ช็อร์ตที่ไว้ใช้จัดการกับพวกนี้โดยเฉพาะซึ่งรอพร้อมอยู่แล้ว

นวาระแบมือออกไปเพื่อขอไพ่จากชายตรงหน้า ซึ่งเทวัญก็คืนให้แต่โดยดีด้วยการหย่อนลงไป
ยังมือนั้น คำเตือนข้อสอง ต้องไม่ให้ชายหนุ่มแตะเนื้อต้องตัว

“ผมไม่ทำอันตรายท่านหรอก” นวาระเอ่ยนิ่มนวลในขณะที่มือดึงเอาไพ่ใบหนึ่งออกมาจากสำรับ
“นี่คือท่าน... ถูกแล้วครับ ไม่ใช่คิงโพธิ์ดำ แต่เป็นโจ๊กเกอร์ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในเกม
หรือสำหรับบางเกมจะเอาออกไปเหมือนไม่มีอยู่ก็ได้ เป็นความว่างเปล่า
คือพระเจ้าที่เฝ้ามองสีสันของเกมที่ไพ่ตัวอื่นๆโลดแล่นไป ด้วยอารมณ์ที่ควรจะเรียกว่า
...เป็นความสำราญส่วนตัว”

“เธอพูดถูกทีเดียว”

หนุ่มใหญ่ผู้ทรงอำนาจเปรยคล้ายพอใจ แต่นวาระก็ไม่ทราบว่าเขารู้สึกเช่นนั้นจากใจจริงหรืออื่นใด
ชายหนุ่มสับไพ่เร็วจนมองไม่ทัน แต่มือของเขาอยู่ห่างตัว อีกทั้งยังสวมเสื้อไม่มีแขน
ไม่เห็นว่าจะซ่อนไพ่ไว้ตรงไหนได้เลย มือยาวแข็งแรงเลื่อนไปบนโต๊ะกระจกดำสนิท
ไพ่เรียงเป็นแนวยาวบนพื้นตามการวาดมือ

“นี่คือดวง หรือว่าเกม” เทวัญถามด้วยเสียงเจือหัวเราะในคอ

“จะมองอย่างไหนก็ได้ครับ เพราะมันคือสิ่งเดียวเดียวกัน” นวาระพยายามจ้องตาอีกฝ่ายซึ่งไม่มองตาเขา
แต่เห็นได้ชัดว่าเกือบจะทนไม่ไหวอยู่หลายที ก็แน่ละ คนอย่างเทวัญ ศรีบริรักษ์ เคยหรือที่ต้องหลบตาใคร

“น่าสนใจนะ บางทีฉันควรจะเชื่อดวงสักครั้งเอาตอนแก่กระมัง เพราะเบื่อแล้วที่จะเล่นเกม”

นวาระรู้สึกไม่ถึงกับเป็นผิดคาด เพราะชายหนุ่มคำนวณไว้หมดแล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะ
ตอบมาแบบไหน แผนของเขาก็ยังเหมือนเดิม “หยิบไพ่ใบนึงจากทั้งหมดนี่สิครับ”

เทวัญทำท่าจะหยิบอีกใบหนึ่ง แต่แล้วก็ย้ายมือไปยังอีกใบ ปลายนิ้วสัมผัสหลังไพ่
ได้ยินเสียงนวาระถอนใจออกมาบางเบา แล้วมือใหญ่คล้ำนั้นก็กลับย้ายไปหาใบอื่น
ที่ไม่ใช่ทั้งสองใบแรก หยิบมันออกมา ไม่ได้ยื่นให้นวาระแต่กลับหงายหน้าไพ่ดูด้วยตนเอง

“โจ๊กเกอร์”

มือข้างว่างของผู้ทรงอิทธิพลเอื้อมไปรื้อไพ่ทั้งหมดเปิดออกดูว่ามีโจ๊กเกอร์อยู่ในกองนั้นกี่ใบ
โดยที่ไม่สนใจว่าจะทำให้การทำนายดวงหมดสิ้นความขลังไปแต่อย่างใด

“อืม มีใบเดียวจริงๆ” เสียงทรงพลังหัวเราะออกมา “แต่กลแค่นี้ทำให้ฉันทึ่งไม่ได้หรอก”

“ผมไม่รู้วิธีเล่นกล” นวาระเลิกคิ้ว “คนอื่นอาจใช้ทริกตบตา แต่สำหรับผม...ใช้การคำนวณ”

“งั้นเชียว เธอสับไพ่เร็วขนาดนั้นน่ะนะ” เทวัญออกจะทึ่งถ้าสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องจริง

“ท่านไม่เชื่อ...” นวาระเท้าศอกลงบนเข่าทั้งสองของตนเองพลางหรี่ตา

“อย่าพยายามตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เขาแสดงออกเลยไอ้หนุ่ม” เทวัญหัวเราะหนักๆ

“ต้องตัดสินแน่ ไม่งั้นคนเราก็ไม่มีสิ่งที่ชอบหรือชัง สิ่งที่เห็นว่าดีหรือไม่ดี
แต่ผมก็พยายามตัดสินตามข้อมูลที่สมองและหัวใจประมวลผลแล้วว่าดีที่สุด
คนที่บอกตัวเองว่าไม่เคยตัดสินใครคือคนหลอกตัวเอง สิ่งไหนที่ไม่เคยถูกตัดสินแปลว่ามันไม่มีตัวตน”
“ปากเก่ง อยากมีลูกชายพูดจาฉาดฉานอย่างนี้สักคน เอาเถอะ ถ้าคิดว่าสิ่งที่เป็นดีอยู่แล้วก็ไม่ต้อง
ออกตัวมาก ขี้เกียจฟัง เพราะไม่ว่ายังไงคนต้องฟังก็คือเธอ”

นวาระโต้ตอบสิ่งที่ได้ยินด้วยรอยยิ้มพลางมองเทวัญพลิกไพ่โจ๊กเกอร์ในมือดู
แทนที่จะมองหน้าเขา เพราะหากสบตากันเมื่อไรก็ง่ายแก่การโดนสะกด
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้วจากข้อมูลที่คนพวกนี้มี ตอนนี้ เขาอาจจะกำลังใช้วิธีอื่นอยู่

“ฉันจะยอมให้เธอตามข้อเสนอนั่นจริงๆก็ได้ ถ้าเธอมีผลงานน่าพอใจ...” เทวัญว่า

“ผมยินดีจะทำตาม แต่ต้องยอมรับอย่างนึงนะครับ ว่าพวกท่านต้องการคน
มีพลังขั้นสูงสักคนที่จะให้ความร่วมมือโดยไม่ต้องบังคับกัน”

“ไม่ใช่แค่นั้น เธอต้องกลับไปที่คฤหาสน์สีน้ำเงิน เปลี่ยนเหยื่อของเราให้กลายเป็น
ผู้ร่วมงานทั้งหมด แต่ต้องเป็นผู้ร่วมงานที่เชื่อฟัง มันคงเป็นงานที่ไม่ง่ายเลย
แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ ก็คงต้องให้เธอกลับไปอยู่ในสถานะเดิมเหมือนกับพวกนั้น
ไม่ใช่มีสิทธิ์พิเศษอยู่อย่างนี้ หวังว่าคงเข้าใจ”

เมื่อเทวัญขอตัวโดยที่ไม่ให้นวาระลุกไปส่ง ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่ ตั้งใจจะดื่มเป๊บซี่
ต่ออีกสักขวด รู้สึกรื่นเริงใจเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ เขามองส่งร่างสูงสง่าที่กำลังจากไปนั้น
ด้วยสายตา ลุ้นจนแทบจะลืมหายใจเรื่องที่จะให้ฝ่ายนั้นถือไพ่โจ๊กเกอร์ติดมือไปด้วย

คนอย่างเทวัญอยากทำอะไรก็จะทำ แม้แต่การพรากของสำคัญของคนอื่นไป
แม้ว่ามันจะเป็นไพ่สำรับสำคัญของเขาอย่างที่นวาระบอกอีกฝ่าย บวกกับการเสริมแรงจูงใจ
ด้วยคำพูดเล็กๆน้อยๆ แล้วคนผู้ทรงอำนาจเหนือเวชกุลก็หยิบมันไปด้วยอย่างที่เขาต้องการ
แต่ของจริงจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไปตะหาก อีกฝ่ายจะไม่ยอมเอาไพ่นั่นไว้ห่างตัว
ไพ่ที่มีพลังจิตของเขาควบคุมอยู่

ระวังให้ดีนะคุณเทวัญ ไพ่ใบเด็ดกับตัวตลก มันมีเส้นคั่นอยู่แค่บางๆเท่านั้นเอง


----------
ตอนนี้เล่นเกมชิงนิยาย 3 เล่มในชุด"ความลับของผีเสื้อ"ได้ในเฟซบุคอสิตา
รอบนี้แจกหนักกว่าเดิม!!!



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ต.ค. 2556, 09:39:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ต.ค. 2556, 09:39:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 1551





<< ความทรงจำซ้อนทับ "เงารักใต้แสงจันทร์" (จบบท!)   ความทรงจำที่ ๑๑ ไพ่พลิกชะตา [เล่นเกม ชิงนิยายชุด"ความลับของผีเสื้อ" 2วันสุดท้าย!!! รายละเอียดในเฟซบุคอสิตา] >>
อสิตา 8 ต.ค. 2556, 09:44:16 น.
คุณภาวิน – กล้องก็น่าจะมีทุกที่นะ ได้ดูอะไรเด็ดๆพวกการทดลองยิ่งโรคจิตอยู่ ฟินมาก
คุณketza – ไม่ถึงสามสิบบบบบบบบบบบบบ แงงงงงงงงงง แต่ก็มาต่อจนได้
คุณบาร์บี้ – วนัสยังพร้อมที่สุดจนถึงก่อนรุ่งเช้าค่า งิงิ แหมๆ ทิ้งช่วงแต่ก็ยังมีคนไม่ลืม
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – แหม สงสารและรักนวาระคุงก็บอกมา ตอนนี้ฮีชักอยากกลับมามีบทแล้วด้วย หุหุ
คุณอัศวินนภา – ออกมาเม้นครั้งแรกจนได้นะคะ เดี๋ยวต้องมอบจุมพิตให้ มุมิๆ ขอบคุณสำหรับสามสิบไลค์ค่ะ(นั่งนับแถวแรกอยู่นะ)
คุณซาอิ แกะน้อยงุงิตัวก้อนกลม – เขินอะไรขนาดนั้น บิดตัวจนขนพันกันยุ่งหมดแล้ว

คุณโอ้ล้าลา โอลาล่า โอ้วลั้นลา – โผล่ออกมาจนได้นะคะ ขุดๆๆ หุหุ เรียบร้อยโรงเรียนครามจริงๆ ตอนนี้นวาระออกมาแล้ว ร้ายแต่น่ารักนะ
คุณรี – ใช่ค่ะสงสารหมอริช ตอนนี้ยิ่งน่าสงสารเข้าไปใหญ่เลย โถหมอตัวใหญ่น่ากอดใจสะออนโดนทิ้ง
คุณสุขุมวิท66 – วันนี้มีเกมแจกหนังสือในเพจอีกแล้วนะคะ หุ ขอให้เชียร์ครามและวนัสต่อไปอย่างเมามันค่ะ
คุณโกลเด้นซัน – จริงๆตานิวก็ไม่ได้วางใจว่าวนัสจะเชื่อความทรงจำ แต่ตัวเองก็ทำอะไรลำบาก เพราะโดนกักขังเหมือนกัน


อสิตา 8 ต.ค. 2556, 09:44:43 น.
คุณจิรารัตน์ – อ๋า คิดถึง โผล่ออกมาบ่อยๆนะคะ แล้วจะรอ ขอบคุณสำหรับไลค์
คุณเลิฟหมวย – คงไม่เปลี่ยนละค่ะ เพราะไม่ได้เขียนนิยายดราม่า ไม่ชอบก่อดราม่า เดี๋ยวเจอคนอ่านบีบคอ

คุณเกดซ่า – เห็นที่เล่นเกมแล้วนะคะ น่ารักมากขอบคุณมากตอบซะยาวเลย *0* ขอจูบสักที
คุณใบบัวน่ารัก – เศร้าอะไรคะ เค้าออกจะหวานกัน อิอิ อย่าเครียดล่วงหน้าจิ ค่อยๆก้าวไปพร้อมกัน
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – ไม่ถึง30ไลค์ แต่เรามาตามเสียงเรียกของคนที่รักเราดีก่าเนอะ
คุณเจ้พันแตง – ครามมี่มาแว้ววว นาวี่ก็มา สงสารริชชี่เนอะ พ่อคุณหงอยเลย ชิชิ


ketza 8 ต.ค. 2556, 09:54:57 น.
ม๊วบบบ เค้าเรียบเรียงจากความรู้สึกเชียวน๊าาาา (เขิลจุง) 555


ดังปัณณ์ 8 ต.ค. 2556, 10:05:34 น.
อั้ยย่ะ! พ่อดอกกุหลาบของหนอนนนนนนนนนนนนนนนนน เปลี่ยนใจแระ อีกสิบเปอร์เซ็นต์ยังให้พ่อดอกกุหลาบเหมือนเดิม อ๊ะเพิ่มคะแนนสงสารให้หมอหมา เอ๊ย หมอริชอีกหน่อยเป็นสิบห้า ส่วนอีกเจ็ดสิบห้า ครางคุงของเก๊าาาาาาาาาาา เธอยังน่าหมั่นไส้เหมือนเดิม 555+ กินตับจนอิ่มเลยนะ ชิๆๆๆๆ กระดึ๊บหนีไปเกาะบ่าหมอริช เอ...หรือจะไปเกาะพ่อดอกกุหลาบของเค้าดีน้า อุ๋ยๆๆๆ หนุ่มเรื่องนี้เลือกยากจริงๆ

ปูลม. ฝากถึงทั่นชามัล มะไหร่ตะเองจะออกมาห๊ะ รออยู่นะ จุ๊บๆๆๆ


ketza 8 ต.ค. 2556, 10:06:33 น.
เอ เอ๊ะ นวาระนี่เริ่มแหม่งๆแล้วนะเนี่ย หุหุ


Sukhumvit66 8 ต.ค. 2556, 10:46:11 น.
รักครามสุดหัวใจ อร้ายยยย ตอนเช้าก็ไม่เว้นนะจ๊ะ อิอิ


เรือใบ 8 ต.ค. 2556, 11:51:46 น.
นวาระวางยา! ให้ตายเหอะหนุ่มคนนี้ยังไงก็ไม่ชอบอ่ะคุณอสิตา พาลไม่อยากอ่านเรื่องของนวาระไปเลย >_____<


Chii 8 ต.ค. 2556, 11:53:48 น.
บอกแล้วววว ว่าพี่ครามต้องเป็นพระเอกแน่ ๆ

//เขี่ยหนอนกุหลาบสองตัวออกไป ชิ่วววว


Barby 8 ต.ค. 2556, 12:02:38 น.
นวาระของเค้าจะทำอะไรต่อไป


ภาวิน 8 ต.ค. 2556, 12:47:45 น.
หูยยยย สงสารหมอริชอะ ตกลงที่หนูวนัสเดินแปลกๆนี่เป็นเพราะพ่อครามหรือเพราะริดสีดวงหว่า


นักอ่านเหนียวหนึบ 8 ต.ค. 2556, 13:03:21 น.
โว้ววววว ตื่นเต้ววว
สงสารหนูนัส คงจิเจ็บมากกก ผิดที่ผิดทางแบบนั้น


ree 8 ต.ค. 2556, 13:33:26 น.
เดาว่านวาระกำลังจะให้บทเรียนบางอย่างกับผู้ทดลอง อาจรวมไปถึงพี่สาวของตัวเองด้วย


OhLaLa 8 ต.ค. 2556, 16:44:55 น.
หมอริชนี่ช่างสังเกตนะคะ


พันธุ์แตงกวา 8 ต.ค. 2556, 16:59:44 น.
โถ หมอริช ไม่เป็นไรนะพ่อคุณ ยังหนุ่มยังแน่น ยังมีโอกาส
วนัสจำครามได้แร้วดีใจจัง
ตานิวนี่ฉลาดแกมโกงเหมือนกันนะเนี่ย


lovemuay 8 ต.ค. 2556, 18:56:54 น.
ตานิวชักน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรไว้กันแน่นะคะ


SunSeed 8 ต.ค. 2556, 21:49:50 น.
แอร๊กกก เผลอไปแปบเดียวกลับมาไล่อ่านก็ คราม เธอช่าง... ไวเกิ๊นนนนนนนนน


Pat 8 ต.ค. 2556, 22:09:15 น.
ครามกินเรียบเลยนะ แอบสงสารหมอริช. นวาระมีแผนจะทำอะไรนะอยากรู้จัง


goldensun 9 ต.ค. 2556, 13:32:36 น.
ไปๆมาๆ หมอริชจะกลายเป็นพระรองเกาหลีซะแล้ว แสนดีแต่นางเอกไม่สน ให้ตำแหน่งพี่ชายซะอย่างนั้น
ครามก็โรแมนติกซะ แต่นวาระนี่สิ จะเจ้าเล่ห์ไปถึงไหน กลับมารู้วาวนัสลงเอยกับครามไปแล้ว จะพาลกับครามรึเปล่า
สงสัย ทำไมศศิราศีเอ็นดูนิวซะเหลือเกิน ญาติข้างไหน


Zephyr 9 ต.ค. 2556, 17:48:45 น.
นายดอกกุหลาบ นายจะทำไรอีกเนี่ย งืมๆๆๆ
มาแนวแปลกๆน่ากลัวลึกลับขึ้นเรื่อยๆ บุคลิกเหมาะกะการไม่มีคู่มั่กๆๆๆ อิอิ
นายครามมมมมมมมม กรี๊ดดดดดด เสร็จโก๋ รวดเร็ว ฉับไว ฮ่าๆๆๆๆๆ
หมอริชก็ เถอะ เค้าเกิดมาคู่กันน่ะนะ ทำใจซะเถอะ ครุครุ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account