มรกตสนธยา {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}} สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลเจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

...ผมอาจไม่ใช่เจ้าชายในฝัน
แต่คืนวันร่วมกันของเรายังไม่เพียงพอจะตัดสินอีกหรือ
ว่าผมมีค่าพอจะเป็นคนในชีวิตจริงของคุณ...

Tags: โมรารัตติกาล ม่านทิวาพชร มนตรามุกจันทรา มายาไฟในดวงตา ม่านธาราเร้นดาว คณิตา อัทธ์ อัญมณีเหนือกาล มนตราอัญมณี วาริท มุกดา

ตอน: บทที่๒/๒ โลกอนาคต

อัทธ์ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องนอนตั้งแต่เอวายังไม่ทันเข้ามาปลุก เขาเหลือบตามองนาฬิกาดิจิทัลบนผนังห้องบ่งบอกเวลาตีห้ายี่สิบนาที ทันทีที่เจ้าของร่างสูงลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน ไฟบนเพดานก็สว่างวาบพร้อมภาพโฮโลแกรมของเอวาก็ปรากฏขึ้น

“อรุณสวัสดิ์ วันนี้คุณตื่นมาแต่เช้ามืดเลย”

“อืม” ชายหนุ่มตอบรับคำในลำคอเบาๆ เหลือบสายตามองไปยังประตูห้องนอน “เธอยังอยู่ใช่ไหม”

“ยังนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาเหมือนเดิมค่ะ”

อัทธ์พยักหน้ารับรู้ เขาลุกจากเตียงเดินตรงไปยังห้องน้ำ ทันทีที่ประตูบานกระจกของห้องน้ำเปิดออก ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวานปรากฏในมโนสำนึก

‘นี่ห้องน้ำคุณเหรอ’ คำถามแปลกๆดังขึ้นเป็นอย่างแรก หลังจากเจ้าของดวงหน้ารูปไข่ชะโงกหน้าเข้าไปมองห้องน้ำข้างห้องครัว ซึ่งโดยปรกติแล้วแทบไม่เคยได้ใช้งาน เพราะเขามักใช้ห้องน้ำในห้องนอนมากกว่า

‘ใช่ รีบอาบน้ำซะจะได้ไปนอน’ เขาบอกอย่างพยายามตัดรำคาญ หัวคิ้วขมวดมุ่นเมื่อเห็นสีหน้าละล้าละลัง

‘คุณ...สอนฉันใช้ห้องน้ำหน่อยได้ไหม’

‘อะไรนะ’ อัทธ์ถามอย่างไม่เชื่อหู

‘ฉันใช้ห้องน้ำของคุณไม่เป็น ช่วยสอนหน่อย’

อัทธ์แทบยกมือก่ายหน้าผากกับคำขอร้องของเธอ แต่พอเห็นสีหน้าจริงจัง เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเธอคงใช้ห้องน้ำไม่เป็นจริงๆ ชายหนุ่มเลยเสียเวลาสอนเธอใช้อุปกรณ์ในห้องน้ำอยู่นาน จนเจ้าตัวเริ่มคุ้นชิน ไม่เปิดปิดผิดปุ่ม เขาจึงยอมถอยออกมา ให้เวลาส่วนตัวกับเธอ

สายน้ำไหลลงอาบร่างเปลือยเปล่ากำยำอยู่ครู่ ก่อนตามด้วยละอองไอของสบู่ กระเซ็นใส่ผิวเรียบตึง อัทธ์ไม่เข้าใจ ในหัวตอนนี้มีแต่เครื่องหมายคำถามมากมายเต็มไปหมด คณิตามาจากไหนกันแน่ ท่าทางเธอถึงดูไม่รู้เรื่องรู้ราวกับข้าวของเครื่องใช้รอบตัวเอาเสียเลย

แล้วแบบนี้เขาจะกล้าปล่อยเธอออกไปตัวคนเดียวกลางเมืองกรุงได้อย่างไร

ชายหนุ่มกดปุ่มปิดไอร้อนซึ่งกำลังเป่าผิวกายเขาให้แห้ง ก้าวออกจากผนังกระจกซึ่งกั้นไว้เป็นโซนอาบน้ำ หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ เขาก็เดินออกจากห้องนอนมาชะโงกหน้ามองคนบนโซฟา หญิงสาวยังหลับอยู่ในท่าเดิม ดวงหน้าตะแคงข้างผินมาทางเขา นัยน์ตาทั้งสองปิดสนิทลงอย่างคนกำลังจมดิ่งอยู่ในนิทรา

เจ้าของร่างสูงทรุดกายลงนั่งยองๆตรงหน้าเธอ ฝ่ามือข้างหนึ่งแตะลงบนพวงแก้มนุ่มอย่างถือวิสาสะ ความนุ่มจากผิวสัมผัสทำให้อัทธ์เผลอใช้ข้อนิ้วเกลี่ยปอยผมของเธอทัดหู

เมื่อคืนวานมีเรื่องราวมากมายชวนฉงน หญิงสาวไม่รู้จักวิธีการใช้ห้องน้ำ ประหลาดใจกับห้องพักที่ควบคุมอุณหภูมิและแสงโดยอัตโนมัติ และที่สำคัญเธอไม่รู้จักแม้แต่อาหารแคปซูล

‘นี่อะไรคะ’

‘ข้าวเย็นไง ยังไม่ได้กินอะไรไม่ใช่เหรอ’ อัทธ์ถามพลางยื่นแคปซูลเม็ดโตให้อีกฝ่าย

‘มันกินได้แน่นะ’ ดวงตาเรียวยาวสีดำจดจ้องของในมืออย่างแคลงใจ

‘ทำไมจะกินไม่ได้ ยังไม่หมดอายุเสียหน่อย’

‘ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ที่ฉันสงสัยคือแคปซูลเม็ดแค่นี้จะอิ่มได้ยังไง’

ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ

‘ในนี้มีทั้งใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่จำเป็นต่อร่างกาย กินซะจะได้นอน’ เขาเอ่ยอย่างตัดรำคาญ เห็นหญิงสาวหยุดชั่งใจต่ออีกนิดหน่อย แล้วจึงยอมหยิบแคปซูลใส่ปาก

หลังจากนั้นเธอก็นั่งลงบนโซฟา โดยมีเขายืนเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ท่าทีระแวดระวังของหญิงสาวทำให้อัทธ์ตัดสินใจเดินกลับห้องนอน ก่อนบานประตูกั้นระหว่างห้องจะปิดลง คณิตาเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

‘ขอบคุณอีกครั้งนะคะ และ...เอ่อ...แคปซูลของคุณมันอิ่มจริงๆด้วยแหละ’

“คุณเป็นใครกันแน่นะ” อัทธ์พึมพำถามคนกำลังหลับตั้งใจจะรอเธอตื่นเพื่อซักถามความให้รู้เรื่องราว

แต่แล้วช่วงจังหวะที่เขากำลังนั่งเฝ้าเธออยู่ จู่ๆร่างหญิงสาวบนโซฟาก็เลือนรางลง หัวใจชายหนุ่มวาบลึกในอกอย่างประหลาด อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาตัดสินใจคว้าเจ้าของร่างบอบบางไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง

ทว่าสิ่งที่อัทธ์สัมผัสได้มีเพียงความว่างเปล่า ร่างซึ่งเคยคิดว่ากำลังหลับสนิทตรงหน้าสูญสลายหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่!



เสียงนาฬิกาปลุกดังระงม ปลุกสติคนกำลังหลับใหลให้ลืมตาตื่น คณิตางัวเงียลุกขึ้น เดินไปควานหามือถือตัวเองจากกระเป๋าสะพายเพื่อกดดับ หลังความเงียบสงัดมาเยือน ดวงตาทั้งสองข้างจึงเบิกกว้าง

“เฮ่ย กลับมาบ้านได้ไงกัน” หญิงสาวกวาดสายตามองโดยรอบ พร้อมทดลองหยิกแขนตัวเองซ้ำ

ความเจ็บจากผิวกายตอกย้ำถึงความเป็นจริงจากสิ่งที่ตาเห็น หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก เกือบจะคิดว่าเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นความฝัน แต่สองตาเหลือบเห็นตนเองในเงากระจกเสียก่อน

ภาพสะท้อนของหญิงสาวในชุดเชิ้ตแขนยาวตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้น ดูอย่างไรก็ไม่น่าใช่เสื้อผ้าของตนเอง

‘ใส่เสื้อผมไปก่อนแล้วกัน ที่นี่ไม่มีชุดนอนผู้หญิงหรอกนะ’

ทั้งความอบอุ่นจากเนื้อผ้าเรียบลื่นทรงทันสมัย และกลิ่นอุ่นไอกรุ่นหอมจางๆ ตอกย้ำความจริงของค่ำคืนวานแจ่มชัด

เมื่อคืนนี้ไม่ใช่ความฝันสินะ หญิงสาวครางถามตนเองขณะยกมือแตะเสื้อบนกาย

คณิตาใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานนัก เธอก็ออกมานั่งพักหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สองมือบางยังถือเสื้อเชิ้ตเนื้อลื่นไว้มั่น หญิงสาวบรรจงพับมันวางบนตัก หลังจากสำรวจความคิดตนเองอยู่ครู่ เธอก็นึกถึงความจริงหนึ่งจากเหตุการณ์ประหลาดค่ำคืนวาน เหมือนมันมีจุดเริ่มต้นมาจากอัญมณีสีเขียว...เพริดอต

เจ้าของร่างบางผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตระหนก เธอกวาดสายตามองรอบกาย จึงตระหนักถึงความจริงอีกข้อ

“เวรกรรม พลอยอีกครึ่งซีกหายไปไหน” คณิตาพึมพำกับตนเอง อยากจะยกมือตบหน้าผากนัก เธอดันลืมเพริดอตอีกครึ่งไว้ในกระเป๋ากระโปรง ซึ่งคาดว่าน่าจะยังอยู่ในห้องของอัทธ์

หลังจากครุ่นคิดต่อเพียงไม่นาน หญิงสาวก็ตัดสินใจขับรถออกจากบ้าน ตรงไปยังที่ตั้งของร้านกาลเวลา คณิตาคาดหวังเหลือเกินว่ามิตร ชายเจ้าของร้านขายอัญมณีจะมีคำตอบดีๆสำหรับเหตุการณ์ประหลาดเมื่อคืน

บรรยากาศภายในซอยเล็กยังรื่นรมย์จากความสงบและเขียวขจีของร่มไม้ใหญ่ ใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปไม่นาน หญิงสาวก็มาถึงสุดปลายทาง ดวงตาเรียวยาวสีดำขลับกวาดมองบริเวณท้ายซอยด้วยท่าทีตื่นตะลึง ทุกอย่างที่เธอเห็นมีเพียงกำแพงหนาของซอยตันแห่งหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอาคารไม้ทรงสี่เหลี่ยมหลังคาแบน ไม่มีร้านขายอัญมณีเหมือนอย่างเคย

“เป็นไปไม่ได้”

อีกครั้งคณิตาได้แต่อุทานกับตนเอง หญิงสาวสำรวจบริเวณรอบกายอย่างอึ้งๆ ท้ายสุดจึงยอมตัดใจเดินกลับออกมาสู่ปากซอย เลยออกไปไม่ไกลคือร้านขายข้าวแกงที่เธอแวะรับประทานยามบ่ายวันวาน คณิตาตัดสินใจเดินเข้าไปสอบถาม

“ขอโทษนะคะ พอทราบไหมว่าซอยด้านข้างนี้เป็นอะไร”

หญิงสาววัยกลางคนรูปร่างท้วมใหญ่ เงยหน้าจากหม้อน้ำซุปมองตามมือคณิตา

“นั่นมันแค่ซอยตัน ไม่มีบ้านคนอยู่สักหลังหรอก”

คำตอบจากแม่ค้าขายข้าวแกงเรียกรอยตะลึงปรากฏบนดวงตาสีนิล

หรือเธอจะจำซอยผิด คณิตาคิด พลางเอ่ยถามต่อ

“แล้วแถวนี้มีพวกร้านขายเครื่องประดับ หรือร้านอัญมณีบ้างไหมคะ”

แม่ค้าร่างท้วมแสดงสีหน้าแปลกใจกับคำถามของเธอ

“บ้านนอกขนาดนี้จะมีร้านแบบนั้นได้ยังไงกัน คุณไม่ลองไปเข้าไปดูในห้างล่ะ”

คณิตาเม้มริมฝีปากแน่น อยากจะซักต่อเหลือเกินว่าเมื่อวานเธอเห็นร้านขายอัญมณีแถวนี้จริงๆ แต่พอเหลือบสายตามองริมฟุตปาธห่างจากหน้าร้านไปไม่ไกล เธอก็มองไม่เห็นป้ายไม้โฆษณารูปลูกศรเหมือนตอนบ่ายวันวาน

“เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพึมพำตอบ กลับเข้ารถยนต์ สองตามองฝ่ามือข้างซ้ายอย่างชั่งใจ

เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม มีคำถามมากมายตีวนอยู่ในสมอง แต่พอยกนาฬิกามอง หญิงสาวก็จำต้องเก็บเรื่องราวแสนประหลาดลง แล้วเริ่มต้นจัดการกับชีวิตวันใหม่ของตนเอง



ประมาณเที่ยงวัน คณิตาแวะไปยังบ้านของวาริทเพื่อรับมุกดา บ่ายวันนี้สองสาวมีนัดกับลูกค้ารายสำคัญซึ่งกำลังตัดสินใจจะใช้บริการมูนอาย

“ยายตา ไฟเขียวแล้ว” มุกดาสะกิดแขนเตือนสติเพื่อนซึ่งกำลังเหม่อลอย

“หือ อ้าว โทษที” เสียงอุทานหลายเสียงดังจากปากคนกำลังคิดอะไรเพลิน

มุกดาเหลือบสายตามองคนขับรถอย่างสงสัย รู้สึกตงิดใจในตัวเพื่อนตั้งแต่ตอนขับรถมารับ

“แกเป็นอะไรมากรึเปล่า วันนี้ดูใจลอยพิกล”

“เปล่านี่ แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”

“คิดอะไรของแก ฉันเห็นแกเอาแต่เหม่อ”

“คิดหลายเรื่อง” คณิตาตอบเพื่อนเสียงแผ่ว “เออนี่ แกเชื่อเรื่องการเดินทางข้ามเวลารึเปล่า”

มุกดาขมวดคิ้วกับคำถามของเพื่อน “วันนี้มาแปลก เมื่อคืนอ่านนิยายดึกเกินไปรึไง”

คณิตาเกือบจะพลั้งปากปฏิเสธอยู่แล้ว แต่พอนึกได้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองก็ทำให้หญิงสาวเกิดอาการลังเล ท้ายสุดเลยรับสมอ้างตามคำกระเซ้าของเพื่อน

“อืม เพิ่งอ่านไปได้ไม่กี่บทเอง นางเอกมันข้ามเวลาไปโลกอนาคตอีกเกือบเก้าสิบปีข้างหน้าโดยใช้อำนาจของพลอย”

“พลอย?”

“เพริดอต เป็นอัญมณีสีเขียวคล้ายๆมรกต เชื่อกันว่าจะดูดซับพลังงานในตอนกลางวันและมีอำนาจยามค่ำคืน...” เรื่องราวของตัวเธอที่บังเอิญข้ามไปยังโลกอนาคตอีกเกือบเก้าสิบปีข้างหน้าถูกเล่าให้เพื่อนฟัง

“ดูท่าแกจะอินกับนิยายเล่มนี้มากนะตา” มุกดาออกความเห็นหลังจากฟังน้ำเสียงจริงจังจบลง

“อืม ก็อินอยู่” คณิตายอมรับ จะไม่ให้อินได้อย่างไร ในเมื่อเธอข้ามกาลเวลาไปโลกอนาคตมาแล้วจริงๆ “ตกลงแกคิดว่ามนุษย์เราจะเดินทางข้ามกาลเวลาได้จริงรึเปล่า”

“ตอบยากว่ะ แกถามอย่างกับฉันเรียนพวกฟิสิกส์มาอย่างนั้นแหละ ฉันไม่รู้หรอกว่ามนุษย์เราจะสามารถเดินข้ามไปอนาคตหรืออดีตได้รึเปล่า เพียงแต่...” เสียงมุกดาค้างไป คล้ายลังเลใจจะพูด

“แต่อะไร แกอย่าพูดค้างดิวะ ฉันกำลังตั้งใจฟังอยู่เชียว”

“ฉันเชื่อเรื่องอำนาจของอัญมณี”

คำตอบจากปากเพื่อนเรียกรอยประหลาดใจปรากฏบนดวงตาเรียวยาว คณิตาหันหน้ามองอีกฝ่ายอย่างงงๆ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

“แกเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ”

“อืม เรื่องอำนาจลึกลับของอัญมณีมันมีความเชื่อมาตั้งแต่โบราณแล้ว หลายคนสวมใส่เพราะถือเป็นเครื่องรางของขลังเลยด้วยซ้ำ แกไม่เคยได้ยินเหรอว่าอำนาจพลอยผูกพันกับสิ่งของต่างๆ รวมไปถึงพระอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว อย่างเพริดอตที่แกเล่าให้ฟังเนี่ยคงผูกพันกับแสงตะวัน มันถึงได้ฉายาว่ามรกตยามเย็น”

“ก็คงจริงมั้ง” คณิตาเออออ จู่ๆก็รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ถ้าเพริดอตเกี่ยวข้องกับดวงตะวันจริง คณิตาแทบไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในคืนนี้อีก หญิงสาวถอนหายใจ ตอนนี้เธอไม่อาจทำอะไรได้นอกจากยอมรับสภาพความเป็นจริง

หลังจากเข้าไปดูสถานที่จัดงานแต่งงานเรียบร้อยแล้ว สองสาวและว่าที่คู่บ่าวสาวก็ออกมาคุยงานต่อยังร้านกาแฟไม่ไกลจากตัวโรงแรมซึ่งใช้จัดงานนัก ด้วยโปรไฟล์ของมูนอายซึ่งทั้งคู่ทุ่มเทฝีมือสร้างชื่อเสียงมาอย่างเต็มที่ บ่ายวันนี้พวกเขาจึงได้ลูกค้ารายใหม่เพิ่มอีกราย

“แกไปกินข้าวเย็นที่บ้านฉันไหม” มุกดาถาม หลังก้มลงมองนาฬิกา เห็นเวลาเกือบห้าโมงเย็น

“ไม่อะ ฉันจะไปส่งแกที่บ้านแล้วกลับเลย” คณิตารวบรวมเอกสารบนโต๊ะใส่แฟ้ม พร้อมกับยกกระเป๋าสะพายไหล่

กิริยาเร่งรีบ ดูลุกลี้ลุกลนของเพื่อน สร้างความประหลาดใจแก่มุกดา

“แกเป็นอะไรรึเปล่า นอกจากใจลอยแล้ว แกยังดูลนชอบกล”

คนกำลังมองนาฬิกาข้อมือตนเองชะงักไปเล็กน้อย คณิตาตั้งท่าจะเอ่ยความในใจ แต่เมื่อเห็นดวงตาใสๆของเพื่อนแล้วก็ได้แต่ลังเล

“ฉันมีนัดตอนเย็น อยากกลับให้ถึงบ้านก่อนพระอาทิตย์ตกดิน”

มุกดาขมวดคิ้วมุ่นกับเวลานัดหมายที่เกี่ยวข้องกับแสงอาทิตย์ แต่เธอไม่มีเวลาทักท้วงนัก เพราะอีกฝ่ายกระตุกข้อมือให้รีบลุกจากโต๊ะ ทั้งคู่ใช้เวลาในการเดินทางประมาณสี่สิบห้านาที คณิตาก็พาเพื่อนมาส่งถึงคฤหาสน์สีครีมของตระกูลวราธารักษ์ซึ่งมุกดาแต่งงานมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่

“ตา ถ้าแกมีอะไรจะเล่า ฉันยินดีฟังทุกอย่างนะ” มุกดาบอกเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ก่อนปิดประตูรถ

คณิตาถอนใจ เธอเล่ามันไปแล้วต่างหาก แต่จะบอกเพื่อนได้อย่างไรว่าทั้งหมดที่เล่าคือเรื่องจริงไม่อิงนิยาย หลังจากขับรถพ้นประตูรั้วอัลลอยของคฤหาสน์ สายตาก็เหลือบเห็นแสงอาทิตย์ยามอัสดงกำลังลาลับหายจากมุมหนึ่งของหลังคาบ้าน ความสว่างรอบกายคล้ายหรี่ลง เหลือเพียงแสงสีเหลืองอมส้มระบายผ่านกลีบเมฆขาว

สนธยากำลังกลับมาเยือนอีกครา คณิตาตัดสินใจดับเครื่องยนต์ จอดรถยนต์ชิดกำแพงรั้ว มือบางข้างขวากำกุญแจรถยนต์แน่นขณะหลับตา รับรู้ถึงพลังงานบางอย่างก่อกำเนิดจากมือด้านซ้าย พร้อมกันนั้นร่างทั้งร่างก็ถูกดึงลอยจากเบาะนั่งฝั่งคนขับ

ครั้งนี้หญิงสาวไม่คิดฝืนแรง เพราะถึงฝืนไป สุดท้ายเธอก็ต้องถูกดึงตัวข้ามสู่โลกใบใหม่อยู่ดี คณิตาจึงเลือกปล่อยร่างกายตัวเองไหลผ่านตามกระแสพลังงาน ความเจ็บปวด น่ากลัวดูลดลงเมื่อเธอไม่คิดฝืน ร่างทั้งร่างเหมือนล่องลอยอยู่บนสายธารของอะไรสักอย่าง และเมื่อทุกอย่างจบลง เธอก็รับรู้ถึงเสียงอุทานของใครบางคนมาพร้อมกับอ้อมกอดอุ่นกระชับ

“คุณ!” คณิตาอุทานขณะลืมตาพบดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกำลังจดจ้องเธอด้วยแววตกตะลึง

“หนัก” เสียงบ่นงึมงำของเขาทำให้เธอรู้ตัว

หญิงสาวพบตนเองกำลังนอนทับเจ้าของร่างสูงกำยำอยู่ เธอจึงลนลาน รีบเขยิบกายถอยห่าง พลางเหลียวมองรอบกาย ภาพผนังสีขาวและร่างโปร่งแสงสีฟ้าอ่อนของเอวาคือความจริงชัดเจนให้เธอตระหนักชัดว่า ตนเองข้ามกาลเวลามาอีกครั้ง

“อีกแล้วเหรอเนี่ย” คณิตาครางอย่างจนใจ เห็นอัทธ์ชันตัวลุกจากโซฟา กวาดสายตามองเธออย่างสำรวจ

“ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ผมคงไม่เชื่อ เมื่อเช้ายังนึกอยู่เลยว่าเป็นความฝันรึเปล่า จู่ๆคุณก็หายไปต่อหน้าต่อตา คุณ...เป็นคนรึเปล่า”

ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เขายังถือวิสาสะจับข้อมือเธอสำรวจ ซ้ำร้ายยังลามปามมาถึงแก้มข้างซ้าย จนคณิตาต้องยกมือขึ้นปัด

“ฉันเป็นคน” เธอตอบ หางเสียงแสดงความไม่พอใจชัดเจนกับอาการมือไม้ถึงของอีกฝ่าย

อัทธ์ยอมลดมือลง แต่สายตายังเพ่งพิศดวงหน้ารูปไข่ไม่วาง “ถ้างั้นคุณมาจากไหน”

“กรุงเทพฯ ปี 2013”

---------------------------------------------------------------------------------------------------------
หุหุ พระเอกของเราเริ่มจะออกลายแล้วนะคร้าาาา @^___^@




ริญจน์ธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ย. 2556, 10:24:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ย. 2556, 10:24:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1504





<< บทที่๒/๑ โลกอนาคต   บทที่ ๓/๑ สวัสดีปีใหม่ 2100 >>
ริญจน์ธร 21 พ.ย. 2556, 10:35:56 น.
ตอบคอมเม้นค่ะ
คุณ อสิตา น่านนนนน ไม่ใช่ละ ยังไม่ได้สอน อสิตากำลังคิดถึงฉากชามัลสอนสิตาราอยู่สินะ

คุณ ดวงมาลย์ พี่จุ๊บไวมาก ขนาดเมื่อวานกลับดึกยังขยันมาลงนิยาย

คุณ ketza น่านน เกดซ่าคิดไรอยู่คร้าาา แต่คุณอัทธ์คนนี้ก็เจ้าเล่ห์ใช่ย่อย รอดูกันต่อไปเนอะ

คุณ บุลินทร วันนี้พระเอกจะโผล่มารึยัง

คุณ Zephyr 55555 เฟอร์จังก็รอเจอพระเอกเรื่องม่านอยู่สินะ แล้วนั่น ไม้ยมกเต็มเลย กดดันคุณอัทธ์เหรอค้า แค่นี้ก็ใจอ่อนจะแย่แล้ว

คุณ lovemuay 5555 คุณอัทธ์พยายามจะใจแข็งค่ะ แต่คงไม่นานหรอก

คุณ goldensun ใช่ค่ะ แต่จริงๆแล้วไม่ต้องอนาคต ปัจจุบันน้ำใจในสังคมก็ลดน้อยลงเยอะแล้ว ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะคนดีๆโดนหลอกลวงและโดนทำร้ายด้วยแหละค่ะ เพราะบางทีขนาดเห็นอีกฝ่ายเป็นผู้โดนกระทำ ไปๆมาๆอาจกลายเป็นแค่ละครหลอกตาของมิจฉาชีพ (บ่นแล้วก็เศร้าใจ)

คุณ นักอ่านเหนียวหนึบ 5555 จริงแหะ ว่าไปถ้าคณิตามีชีวิตอยู่จนได้เจออัทธ์คงอายุร้อยกว่าปีเลยทีเดียว งานนี้กินเด็กสินะ

คุณ nako 55555 มีแต่คนกลัวคุณอัทธ์ใจร้าย เดี๋ยวมาดูกันนะคะว่าจะร้ายจริงไหมน้อ


ดวงมาลย์ 21 พ.ย. 2556, 11:26:01 น.
พี่มาอัพแบบเบลอๆ 55
นี่ก็เพิ่งตื่น หมดไปอีกครึ่งวัน แงๆ
น้องซีมาเร็วว่าป๋องแป้งกับหมี สองคนนั้นหายต๋อม
พี่จิ้มไว้ก่อน เดี๋ยวมาตามอ่าน ตอนนี้ไฟลนก้นฝุดๆ


ketza 21 พ.ย. 2556, 11:34:54 น.
ถ้าคุณอัทธ์ไม่เชื่อว่าเค้าเป็นคนจิงๆ เค้าอนุญาิตให้จับจูบลูบคลำไ้ด้ตามซัมบายเลยคร๊า 55.. >//////<
เหมือนนางเอกจะมาทะลุไปอนาคตได้เฉพาะตอนค่ำๆเลยเนอะ ...


ketza 21 พ.ย. 2556, 11:53:47 น.
อ้อ ก็ชื่อนิยายเค้าก็บอกอยู่ว่า มรกตสนธยาเนอะ 555...


ริญจน์ธร 21 พ.ย. 2556, 12:24:59 น.
ใช่แล้ว เรื่องนี้นางเอกจะข้ามมาได้เฉพาะช่วงเวลาที่อาทิตย์ลับขอบฟ้าจนถึงรุ่งสางค่ะ ตามชื่อเรื่อง มรกตสนธยาเลย


lovemuay 21 พ.ย. 2556, 12:47:05 น.
ที่แท้คือได้เจอกันตอนกลางคืนนี่เอง อิอิ


ketza 21 พ.ย. 2556, 12:50:48 น.
เกดซ่าปรบมือ เปาะแปะ ใ้ห้ตัวเอง 555 ^_^


บุลินทร 21 พ.ย. 2556, 16:12:06 น.
ตอนหน้ามีฉากให้จิ้นแน่เบย


goldensun 21 พ.ย. 2556, 20:11:25 น.
ข้ามเวลาผ่านพลอยเขียว เฉพาะตอนเย็นด้วย พอเช้าก็กลับที่เดิม แล้วเกิดรักกัน จะได้อยู่ด้วยกันหรือคะ
แล้วอะไรกำหนดว่า ตาจะโผล่ตรงจุดไหน หรือจุดเดิมกับตอนที่หายไปตอนเช้าคะ


konhin 21 พ.ย. 2556, 21:41:12 น.
ว้าวววววว กลับไปกลับมาได้ด้วย


nako 21 พ.ย. 2556, 21:56:12 น.
จะเชื่อหนูตาหรือเปล่าล่ะนายอัทธ์ หุหุหุ


นักอ่านเหนียวหนึบ 21 พ.ย. 2556, 21:56:26 น.
หูยยยยยย เทอ ฉลาดมากนะจ้ะ ดีนะไม่ดันทุรังขับต่อ ไม่แน่อาจจะหอบเอารถข้ามไปด้วย
ยอมให้ตาอัทธ์มือไวนะจ้ะ เพราะเค้ารอออออยู่ 555


Zephyr 22 พ.ย. 2556, 11:45:37 น.
โหหหหหหหหหหหหห พี่มูนครั้งที่สองเอง
เลือก ที่ แลนด์ดิ้ง ได้......... เอิ่ม หวิว สุดๆๆๆ
ฮ่าๆๆๆลงบนตัวเฮียเลย เฮียนอนอยู่สินะ
มีบ่นหนักอ่ะ อิอิ ไปแตะแก้มเค้าอีก อะไรนี่ มือไวเน้อออออ
พอเช้าก็หายไปอีกสินะ
เย็นมาใหม่ คราวหน้าจะลงตรงไหนน้าาาาาาา


patok 22 พ.ย. 2556, 11:48:10 น.
เพิ่งย้อนกลับไปอ่านตอนที่แล้ว งานยุ่งมากและเวลาเดินเร็วมากค่ะ เลยยังไม่ได้อ่านของตอนก่อน ^^

บทนี้ไม่มีอะไรจะบอกมากเลยค่ะ แต่อยากจะบอกว่า เรื่องนี้สนุกมาก และก็มั่นใจว่าบทต่อๆไปจะสนุกแน่นอน

ชอบอ่ะ^^


อสิตา 22 พ.ย. 2556, 13:17:15 น.
พี่มิ้งค์มาสาย แต่ก็มาแล้วนะ


บุลินทร 22 พ.ย. 2556, 17:02:40 น.
พี่มิ้งค์มาสาย แต่ก็มาสายนะ 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account