โมรารัตติกาล {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

-------------------------
ยังเคยยินเรื่องราวของหินโมราแห่งรัตติกาล
พลอยโบราณล้ำค่าที่อาจนำพาใครบางคนหวนสู่อดีตกาล เรื่องของมันอาจถูกกลบฝัง
กร่อนกลืนไปกับเงื้อมเงาแห่งกาลเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนความรับรู้ของผู้คน
แต่กับเขา...
ผู้ซึ่งมีเพียงความแค้น ไม่มีแม้ร่างกาย เป็นแต่เพียงวิญญาณที่ล่องลอยไปในราตรี
เฝ้าเพรียกหาให้อดีตหวนคืนกลับ เพื่อเปลี่ยนวันแห่งความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะ
เวลาผ่านเนิ่นนานนับสิบๆปีจากวันที่เขาตาย
โลกเปลี่ยนแปร แต่ใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนตาม
เขายังคงไม่ไปไหน
แม้จำได้ว่าตนเองเคยมีนาม เคยเป็นใครคนหนึ่งที่ถูกเรียกขานว่าชามัล เมห์ฮรา
แต่ตอนนี้แทบไม่รู้สึกว่านามนั้นคือตนเอง ไม่ได้มีใครเรียกชื่อเขานานมากแล้ว
ตั้งแต่เขากลายเป็นชีวิตไร้ตัวตนในความมืด ที่ยังจำได้ดีคือความแค้นต่อทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่เว้นแม้กระทั่งแค้นตัวเอง ที่พ่ายแพ้ และต้องตาย...
วิญญาณของเขายังรอคอยวันที่มือซึ่งมองไม่เห็นคู่นี้จะเอื้อมคว้าไปถึง
อัญมณีเม็ดนั้นที่จะพาเขากลับไปแก้ไขอดีต
...โมราแห่งรัตติกาล
และคนที่จะนำพาเขาไปถึงมันได้ มีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น


------------------------------------
เรื่องเริ่มต้นที่ร้านอัญมณีเก่าคร่ำคร่า หลายคนเดินผ่านเลยไป แต่มีบางคน...
คนที่ตามหาเท่านั้นจึงจะค้นพบการมีอยู่ของร้าน และเปิดประตูเข้ามา
ตัวร้านเดินทางอยู่ในระหว่างมิติเวลา บางทีมันอาจไปโผล่ที่ตรอกโทรมๆสักตรอกในอนาคต
หรือในซอยคับคั่งย่านเยาวราชที่คนพลุกพล่านเดินผ่าน แต่จะไม่มีใครหยุดสนใจ
นอกเสียจากคนผู้มีชะตาผูกพันกับพลอยทรงอำนาจลึกลับสักเม็ดในร้าน
ท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านที่ชื่อ มิตร เมห์ฮรา

Tags: มนตราอัญมณี มายาไฟในดวงตา ชามัล มิตร สิตารา มัชฌิม์ รัตติดารา สิงหรานี ราศีที่สิบสาม ม่านทิวาพชร มรกตสนธยา

ตอน: บทที่ ๔ ขุมทรัพย์แห่งความมืด

ชายหนุ่มที่ตั้งหลักบนหินก้อนสูงขึ้นไปได้แล้วหันไปมองร่างเล็กที่ติดค้างอยู่เบื้องล่าง
ไกลเกินกว่าเขาจะโจนถึงในคราวเดียว เพราะช่วงที่เกิดเหตุหินล้มลง มิตรต้องโจนต่อมา
ข้างหน้าเรื่อยๆจนถึงจุดที่เขาอยู่ ชายหนุ่มได้แต่วิตก ยามเมื่อร้องตะโกนออกไป
“อย่าปล่อยนะสิตารา ฉันจะไปช่วยเดี๋ยวนี้!”

“ช่วยทันเหรอ เด็กนั่นหน้าซีดปากสั่น จะหมดแรงอยู่รอมร่อแล้ว” ชามัลยั่ว
เห็นชัดแล้วว่าโอกาสของเขามาถึงในนาทีนี้เองโดยไม่ต้องเหนื่อย
เพียงใช้คำพูดให้อีกฝ่ายขาดความระวังก็เท่านั้น

“เลว! นี่แกวางแผนไว้ใช่ไหม”

“อะไรจะขนาดนั้น ฉันไม่เสี่ยงให้ของมีค่าของตัวเองร่วงลงเหวไปก่อนเวลาอันควรหรอก ว่าแต่แกเถอะ
จะยอมให้ช่วยเด็กนั่นได้หรือยัง”

“ใช้ลมพัดเธอขึ้นมา”

“ก็เพิ่งจะบอกไปเมื่อกี้ ว่าใช้พลังไปมาก แถมที่นี่ยังมีอะไรบางอย่างกดพลังไว้อีก”
ชามัลเปรยอย่างไม่รู้ร้อน

“มิตร---” สิตาราร้องมาอีกอย่างน่าสงสาร

“โธ่โว้ย! เอ้า...เปิดจิตเด็กให้แล้ว จะทำอะไรก็ทำ!”

ทันใด ร่างรูปเงาสลายหายวาบโดยไม่รู้ว่าหายไปทางไหน แต่ที่มิตรเห็นก็คือร่างเล็กบอบบาง
ที่เขาคุ้นเคยตะกายหินที่เกาะอยู่ขึ้นมาได้ไวเกินคาดจนน่าขนลุก ทั้งฉวยเป้ของมิตรที่หล่นลงไป
ค้างอยู่บนหินก้อนเดียวกันนั้นติดมือ กระโจนพรวดๆเกาะหินก้อนนั้นก้อนนี้อย่างไม่กลัวตาย
รวดเร็วอย่างเงาผีจนแวบเดียวก็มายืนอยู่ข้างเขา ส่งเป้สายสะพายขาดข้างหนึ่งใส่มือมิตรที่ยังตะลึงค้าง
...แววตานั้นวาวโรจน์น่าสะพรึง แลบประกายสีน้ำตาลอมทองเหมือนอย่างรูปเงา

นี่ไม่ใช่สิตารา แต่เป็นมัน!

“ไปต่อได้แล้ว ทางข้างหน้ากำลังเรียกให้ฉันเข้าไป ถ้าแกช้าฉันจะไปกับเด็กนี่สองคน
เข้าใจไหม มิตร...เมห์ฮรา”

มิตรอ้าปากค้าง เสียงนั้นเป็นเสียงของสิตารา แต่หางเสียงยั่วยิ้มทรงพลังกดดัน
เขาตกใจที่ตนเองปล่อยให้เป็นอย่างนั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรีบโจนตาม
ร่างเพรียวลมข้ามหุบเหวไปไม่คิดชีวิต จะยอมให้เธอถูกมันพาตัวไปลับตาไม่ได้เลย

ช่องทางเริ่มเปลี่ยนแปร จากถ้ำหินตามธรรมชาติก็ค่อยๆกลายเป็นพื้นผนังที่ก่อร่างด้วย
อารยธรรมมนุษย์ และจากเด็กน้อยที่คอยเดินตามการจูงของมิตร ร่างของสิตาราเปลี่ยนไปนำลิ่ว
บางจังหวะแทบทิ้งเพียงรอยเท้าเอาไว้ให้เห็น มิตรยังเชื่อมโยงกับจิตเธอด้วยอำนาจช่วยเหลือ
ของอัญมณีที่เขาสวมใส่ติดตัวไว้ ร่างสูงแข็งแกร่งถือไต้กระชับมั่นเร่งตามไป เด็กหญิงผู้มีบางอย่าง
สิงสู่ในร่างพรวดพราดไปด้วยแรงเหนือมนุษย์ โจนข้ามกับดักมากมายไปอย่างที่เรียกว่าระห่ำ
ชามัลคงสัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานดำมืดของโมรารัตติกาลที่เพรียกหามันอยู่ไกลออกไปในทางมืดเบื้องหน้า

เสียงตึงๆ ดังจนพื้นสะเทือนเลื่อนลั่นมาแต่ไกล มิตรเห็นร่างของสิตาราหยุด ในขณะที่
ความสั่นสะเทือนนั้นยิ่งใกล้เข้ามา เขาถลาเข้าไปหาเธอ จังหวะเดียวกับที่ดวงตาคู่มหึมา
เรืองรนเหมือนไฟสว่างวาบขึ้นสูงขึ้นไป

“โกเลมหิน!” ชายหนุ่มคำราม

เงาของรูปหินยักษ์ที่คล้ายเสกขึ้นมาจากหินใหญ่หลายก้อนต่อกันเป็นร่างคล้ายมนุษย์
กำลังดาหน้าตึงๆเข้ามาด้วยสุ้มเสียงกระหายน่าสะพรึง ไม่ใช่เพียงหนึ่ง จังหวะที่ครึกๆลั่นมาจาก
ความสลัวแต่ไกลนั้นบ่งบอกให้รู้ว่ามีหลายตัว อาจจะกว่าสิบ! ทันทีที่ถลันเข้าถึงผู้บุกรุก
กำปั้นหินหนักหลายตันทุบโครมลงมาใส่ร่างเด็กหญิง แต่มิตรไวกว่า ชายหนุ่มโฉบพาชามัล
ในร่างสิตาราล้มกลิ้งคลุกฝุ่นไปด้วยกัน

“ทำไมไม่หลบ ถ้าเด็กเป็นอะไรไปฉันจะฆ่าแก!”

“ก็แค่กำลังยืนดู หลบทันอยู่แล้ว ไม่ต้องสอดมือเข้ามาช่วยหรอก เอาตัวเองให้รอดเถอะ”

มิตรคลายแขนเมื่อถูกเข่าเล็กกระแทกอก คนที่ควบคุมร่างนั้นอยู่สะบัดขาแรงยันเขาออก
และคงจะถีบหน้าเข้าให้ด้วยถ้าชายหนุ่มไม่ชิงเงยหลบทัน พวงผมเดร็ดล็อกส์ที่มุ่นไว้
กระชับศีรษะคลายหลุดในจังหวะที่โกเลมกระทืบลงมาเฉี่ยว

ชามัลในร่างสิตาราเห็นข้อรัดผมอัญมณีกลิ้งหล่นเป็นประกายวาว ก่อนมันจะหายไปในความมืด
ร่างเล็กไถลตัวไปคว้าไว้ได้ สิ่งนี้เองสินะที่มิตรใช้ยืมพลังมาช่วยปิดกั้นจิตของเด็กไม่ให้เขาสิงสู่
เพราะชามัลรู้สึกถึงพลังเชื่อมต่อที่ขาดหายจากอีกฝ่ายทันทีเมื่อที่คาดมวยผมของมันหลุด
ผู้ควบคุมร่างเล็กส่ายหน้าน้อยๆ และเมื่อโกเลมตัวหนึ่งเงื้อเท้าขึ้นจะกระทืบลงมา เขาก็แค่
วางข้อรัดผมอันนั้นไว้ก่อนเผ่นหลบ ทิ้งให้อัญมณีของมิตรถูกเหยียบป่นแตกไม่เหลือชิ้นดี

“หนีไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด” มิตรตะโกน

ชามัลไม่คิดจะสู้กับโกเลมด้วยร่างของเด็กที่อ่อนแอเช่นนี้อยู่แล้ว เมื่ออีกตัวทุบโครมลงมา
ร่างเล็กลอยขึ้นเหยียบบนแขนนั้น สปริงตัวขึ้นไปบนศีรษะของรูปหินยักษ์ ก่อนโดดข้ามไปเกาะไหล่อีกตัว
ซึ่งขวางอยู่ โจนหนีมือที่พยายามเหวี่ยงขึ้นกระแทก โดดตุ้บลงถึงพื้น ปล่อยให้โกเลมชนกันเองเสียงดังสนั่น
ก่อนจะวิ่งอ้าวพลางหัวเราะเสียงดังใส่มิตรที่เร่งตะกายตามติดมาเบื้องหลัง

“ไม่ได้สนุกแบบนี้นานแล้ว มีร่างกายมันดีอย่างนี้เอง”

“แกจะอยู่ในร่างสิตาราไม่ได้เด็ดขาด!”

“เอาเถอะ อย่าพูดมาก ไปถึงที่ปลอดภัยแล้วจะคืนให้”

เขายังต้องอาศัยพลังของชายชื่อมิตรในการเข้าถึงโมรารัตติกาล การใช้เด็กที่มันห่วงใย
เป็นตัวประกันก็เป็นวิธีที่ดี แต่คงจะใช้วิธีเดิมตลอดไปไม่ได้ ชามัลแค่เข้ามาจับจองสำรวจพื้นที่
ในร่างนี้ไว้ล่วงหน้าก่อน ตอนนี้จะยอมคืนเด็กให้มันชั่วคราวก็แล้วกัน



บทที่ ๔ ขุมทรัพย์แห่งความมืด
ต่อหน้ากองไฟที่จุดสว่างในคูหาหินเย็นเยียบและเงียบสงัด ร่างที่เหนื่อยล้าจนเกินทนไหวของสิตารา
หลับพับซุกอยู่ในถุงนอนตรงมุมผนัง มิตร เมห์ฮรานั่งหน้าเครียดขณะมือถือช้อนตักอาหารกระป๋อง
ที่อุ่นจนร้อนส่งเข้าปาก เขาป้อนยาแก้หนาวทำเป็นเม็ดขนมของขายในศตวรรษนี้ที่ตนไม่ลืมซื้อมา
ให้เด็กหญิงก่อนเธอหลับเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังสอดไว้ให้ซองใหญ่ในกระเป๋าเสื้อที่เธอสวม และตอนนี้
มิตรก็กำลังประสานตากับรูปเงาที่ยอมออกมาจากร่างของสิตารา มานั่งเผชิญหน้ากับเขาอยู่อย่างสงบ

“อย่ายุ่งกับร่างของเด็กคนนี้อีก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ” มิตรหลุบตาลงมองอาหารที่ใกล้หมด
จนต้องใช้ช้อนขูดก้นกระป๋องเพราะยังไม่อิ่ม

“จะตายมิตายแหล่เพราะผู้ปกครองดูแลไม่ดีนี่...ยังเรียกไม่จำเป็นอีกหรือ” เสียงตอบดังมาจาก
ร่างในชุดคลุมดำที่นั่งขัดสมาธิอยู่ไกลกองไฟออกไปกว่ามิตร “เท่านี้ก็
น่าจะเรียกว่าแสดงความจริงใจแล้ว ทั้งช่วยชีวิต เสร็จก็ออกจากร่างมาเฉยๆ”

“ฉันยังสงสัยเรื่องนั้นอยู่”
มิตรยังต้องคิด ในวินาทีที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนจับรายละเอียดไม่ทัน มันเป็นเพราะเขาพลาดจริงๆ
หรือเพราะมือที่สามยื่นเข้ามามีส่วน แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นและจบลงแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะแค่นถาม
ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายจะไม่ตอบ เขาพยายามไม่กระโตกกระตากออกไปเรื่องว่าตนไม่สามารถแทรกแซง
เข้าไปปกป้องเด็กหญิงจากจิตของชามัลได้อย่างแต่ก่อน เพราะเรื่องที่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าร่าง
สิตาราไปครั้งหนึ่ง ไปสัมผัสจิตเธอแล้ว กับเรื่องข้อรัดผมอัญมณีของตนที่หลุดหล่นหายไปในเวลาชุลมุน

ฟืนไฟแตกปะทุ อากาศเย็นยะเยือกลงอีก สิตาราค่อยๆพลิกตัวครางอืออา
มิตรชะโงกเข้าไปดูใกล้ชิด เด็กหญิงลืมตาตื่นมาก็หิว ร้องขออาหาร

“ปวดไปทั้งตัวเลยมิตร มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ฉันนึกว่าจะตายซะแล้ว...ที่เหวนั่น”

มิตรพึมพำด่าอย่างเขม่นชามัลเต็มที่ แน่ละที่สิตาราจะปวดเนื้อตัว ก็เล่นโดนเอาร่างไปใช้
เกินขีดจำกัดถึงขนาดนั้น แต่ถ้าชามัลไม่เข้าร่างเธอก็คงไม่รอด จะว่าเป็นบุญคุณถ่ายเดียวก็คงไม่ใช่อีก
เพราะเขาสงสัยว่าเป็นเจ้าผีนรกนี่แหละที่สร้างสถานการณ์บีบคั้นขึ้นมา

สิตารากินอาหารอุ่นๆและน้ำเสร็จก็ทำท่าอยากจะนอนต่อ
“ที่นี่หนาวจัง”

“เธอไม่คุ้นกับอากาศหนาวนี่นะ ขนาดกินยาแล้วยังจะหนาวอีก”

“มิตร ขอนอนตักหน่อยได้ไหม” เด็กหญิงว่าแล้วก็คืบตัวมาทั้งที่อยู่ในถุงนอนราวกับเป็นหนอนด้น
จัดแจงหนุนศีรษะไว้บนขาของมิตร ก่อนหลับตาลง

ชามัลปรายสายตามองภาพนั้นอย่างรำคาญระคนชิงชัง “เหมือนพ่อลูกกันเสียจริงนะ”
เสียงต่ำเปรยขึ้นเมื่อสิตาราเริ่มเคลิบเคลิ้ม

“อย่ายุ่งเลย เรามีกันสองคนแค่นี้ถึงได้ห่วงกันมาก คนที่สอดมือเข้ามาก่อเรื่องน่ะไม่มีวันเข้าใจ”

“ใครก่อเรื่อง เรื่องที่ฉันทำจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กนี่ด้วยซ้ำ” ร่างรูปเงาดูหม่นลงอีก ยามเมื่อรำพึง
“โมรารัตติกาล หินสีดำเหลือบลายน้ำไหลเหมือนธารโลหิตแล่นผ่าน สี...ของหยดเลือดในราตรี”

เมื่อชามัลเริ่ม เด็กหญิงที่เกือบจะเคลิ้มหลับไปแล้วก็เกิดตาโพลงขึ้นมาใหม่จนมิตรต้องจุปาก

“มันเคยมีอยู่ถึงหนึ่งร้อยแปดเม็ด ร้อยไว้กับหนังเส้นเล็กเป็นพิเศษ ถักทอดละเอียดยิบ
ทั้งทนทาน ทั้งเหนียว ทุกครั้งที่จะใช้โมรานี้ย้อนอดีต ต้องทำให้มันแตกละเอียดด้วยมนตรา
จะช่วยให้เดินทางย้อนเวลากลับไปได้ช่วงหนึ่ง และเมื่อทำให้แตกอีกครั้งตามจำนวนที่ใช้ครั้งแรก
ก็จะกลับมายังช่วงเวลาเดิม”

“แล้วตอนนี้มันเหลืออยู่แค่ไหน” กลับเป็นมิตรที่ถาม

“เรื่องนั้น อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน” ชามัลตอบเสียงแผ่ว ปล่อยเด็กหญิงให้ค่อยๆกลับคืนสู่นิทรา

ตอนนี้เขาตาย กลายสภาพเป็นวิญญาณที่น่าสมเพช แทบไม่มีอะไรดีกว่าสัมภเวสีข้างถนน
ดังนั้นเขาต้องทำให้ตัวเองได้ย้อนไป ไกลออกไปในกาลเวลา ก่อนที่อัคนิ เมห์ฮรา
ศัตรูผู้ทำให้ชีวิตเขาต้องมอดไหม้จะมีโอกาสได้กลายเป็นเสี้ยนหนาม

...ที่ชามัลต้องการอย่างที่สุด คือวิชาหนึ่งเดียวที่จะทำให้เขามีร่างกายอันสมบูรณ์แบบได้
การสร้างร่างจำลองขึ้นจากอัญมณีที่มีพลังมากพอ เขาคิดจะทำให้ตัวเองกลายเป็นทาสรับใช้
สิงสู่ในโมรารัตติกาล ทว่าคนเดียวที่รู้วิธีก็มีแต่ท่านปู่ของเขาผู้นอนนิทราอยู่ยังเวียงวังเมห์ฮรา
ที่ซึ่งทวารบาลไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสล่วงเข้าไป เขาอยากถามไถ่ว่าจะหาวิธีนั้นได้เช่นไร
แต่ก็ไม่รู้ว่าวิญญาณของปู่ที่นิทราสนิทไปนานแล้วด้วยยาสั่งจะตอบได้หรือไม่

เหลืออีกทางที่แน่นอนกว่า ก็คือต้องย้อนไปพบกันในอดีตเมื่อปู่ยังอยู่ดี
ถามเสียตั้งแต่ตอนนั้นเลย แต่ก่อนนั้นชามัลต้องเร่งกำจัดเห็บเหาตัวเกะกะ
อย่างผู้ปกครองของเด็กนี่ไปให้ไกลๆ ขอแค่ไม่มีผู้ชายชื่อมิตร

ในขณะที่ธารความคิดดำมืดกำลังรินไหลไป ความรับรู้ของชายไร้ร่างและโสตของชายผู้มีร่างกลับสดับได้
แทบจะพร้อมกัน เบื้องนอกอาณาเขตของแสงไฟวับแวม มีการเคลื่อนไหวบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา
ย่างก้าวเข้ามาทีละน้อย เงียบเชียบ ทว่าทำให้ขนที่หลังคอของมิตรลุกชันยามค่อยๆเหลียวหันไปดู
แต่ที่พบ...คือความว่างเปล่า

“เหมือนมีใครตามเรามา”

“จะมีใคร...” ชามัลตอบเสียงต่ำเจือกระแสขบขัน
ทว่าจิตของร่างรูปเงากลับหันเหไปสังเกตช่องทางมืดนั้นไม่วาง

เสียงลมครางผ่านมาในทางใต้แผ่นดิน เป็นเสียงของธรรมชาติ สงัดเย็นอย่างไม่มีสิ่งใดเจือปน
แต่ตาที่สามรู้ได้ว่าในความมืดนั้นมีสิ่งแฝงเงา เขายังจำกลิ่นอายเช่นนี้ได้ดี เสือร้าย... เสือสมิง
ถ้าเป็นตัวที่เคยทำให้ชีวิตของเขาจบสิ้น เวลานี้ร่างที่เป็นเพียงรูปเงาไร้ซึ่งแหล่งรวมพลังงานของเขา
จะสู้มันได้อย่างไร กระแสพลังปราณของเจ้าสิ่งนั้นน่าสะพรึง แต่ชามัลไม่คิดกลัว เขามีแต่ความเกลียด
เคียดแค้นชิงชังพวกเมห์ฮราทุกผู้ ทุกตัว ทุกตน!

มันคงวนเวียนดูท่าที ไม่ใกล้ ไม่ไกล รอจังหวะจะเข้ามาในเวลาเหมาะ
เอาเถอะ ยังไงเสือนี่ก็คงไม่ใช่ตัวพ่อของมันที่เขาต้องหวั่น เป็นแค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอวดดี
คิดมาต่อกรกับงูร้ายที่ฝังแค้นมานาน จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แม้ตอนนี้ไร้ร่าง
แม้พลังด้อยกว่า แต่เขาจะเอาชนะมันให้ดู...




ชามัลนิ่งไปคล้ายปล่อยใจไปกับความคิด มิตรเองก็มีเรื่องต้องคิดเช่นกัน
เขาพอจะรู้ว่าเรื่องของชายคนนี้และสิตาราจะดำเนินไปเช่นไร มันเป็นเจ้าชะตาของเด็กหญิง
ที่เขาทั้งรักทั้งห่วง
แต่เขาไม่อยากให้เป็นไปเช่นนั้น! ถ้าเขาลองทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด

...อาจจะดี ...หรือจะร้าย แต่สุดท้ายสิตาราก็ไม่ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือครอบงำ
ของวิญญาณร้ายกาจแบบชามัล

ทว่าตัวมิตรเองแม้ฉลาดเอาตัวรอด มีพลังในด้านควบคุมอัญมณีสูงล้ำแค่ไหน
แต่เขาไม่อาจหลบหนีไปจากวิญญาณร้ายได้ อีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป และจ้อง
ตามติดสิตาราไม่ลดละ คงไม่ต่างจากการที่เขาคิดขโมยไข่จงอางหนี
ทั้งที่สิตาราเคยเป็นคนของเขามาก่อนแท้ๆ ก็จำต้องปล่อยไป
เขาไม่อาจโยนไข่ใบนั้นลงไปในน้ำมันที่เดือดพล่าน
เพราะถ้าวางแผนฆ่างู...ก็ต้องฆ่าเด็กหญิงไปด้วย
เมื่อเป็นแบบนี้ เขามีทางเลือกเหลืออยู่แค่ไหนกัน

มิตรผล็อยหลับไป ไม่ว่าจะเพราะเหนื่อยหรือด้วยพลังกดทับของจิตรูปเงา
ที่เพ่งเล็งมาเงียบงัน ผ่านไปช้านานสิตาราก็ลืมตาตื่น กองไฟราลงแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครคิดทำให้มันโชติช่วง
เด็กหญิงเหลือบมองชามัลอย่างระวัง กึ่งทั้งสนใจและระแวงเขาอยู่ในที
กระนั้นสิตาราก็ขยับออกจากถุงนอน คลานมาเติมก้อนเชื้อเพลิงสำเร็จรูป
ที่มิตรคว้ามาด้วยจากตลาดได้ไวตอนไหนก็ไม่รู้ที่เธอมัวเพลินกับขนม
มิตรเป็นแบบนี้เสมอ ถึงจะดูบ้าบอแต่ก็พึ่งพาได้หลายอย่าง เหมือนจะพึ่งได้...

“สิตารา”

เด็กหญิงชะงักเมื่ออีกฝ่ายเรียกเธอเบาหวิวแต่ได้ยินชัดถนัดราวกับลมพัดมาดังอยู่ริมหู

“มานี่สิ มาใกล้ๆ”

“คุณจะทำไม...”

“ฉันชื่อชามัล” เสียงนั้นมีแววยั่วยิ้ม “เรียกชื่อก็ได้”

“มิตรบอกว่าคุณนามสกุลเดียวกับมิตรด้วย เป็นญาติกัน” และเธอก็รู้ว่าชามัลแปลกแยกออกไป
ถูกขับไล่งั้นรึ หรือเป็นเพราะโชคชะตาพัดพาเขาออกมา ถูกคลื่นแห่งชะตากรรมซัดออกจากทางที่ควรอยู่
ไม่ต่างจากเธอและพี่สาว

ชามัลพยายามคิด ต้องหาทางตะล่อมเด็กผู้หญิงนี่มันน่าเบื่อสิ้นดี
แต่ในความน่าเบื่อนั้นก็ยังมีบางอย่างถูกใจเขา เด็กคนนี้ระแวงระวัง
มีสายตารู้คิดประสาฉลาด แล้วก็ไม่ได้ขลาดกลัวเขาแต่อย่างใด
ชามัลรู้ว่าตนจำเป็นต้องพึ่งเธอ เมื่อยามมีชีวิต เขาเองเคยเป็นที่ชื่นชอบ
ของพวกผู้หญิงไม่ว่าสาวหรือแก่ และก็มั่นใจว่าไม่เว้นเด็กด้วยเหมือนกัน
ถ้าหากเขาจะรู้จักใช้เด็กนี่เสียอย่าง

เมื่อถูกเรียกให้เข้าใกล้ สิตาราไม่อิดออดอย่างที่คิด ความสนเท่ห์ดึงดูดเธอเข้าหาชามัลอย่างช้าๆ

“เข้ามาสิ บอกให้มา ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอก”

“ก็มาอยู่นี่แล้วไง” ที่สุดสิตาราก็ไปนั่งพับขาปุลงหน้าชามัล มือยันพื้นคล้ายพร้อมเด้งตัวออกห่างได้ทุกเมื่อ

“หึๆ เธอนี่ตลก รู้หรือเปล่าว่าถ้าไปกับฉัน เธอจะมีทุกอย่าง” เสียงกระซิบอ่อนโยนปลอบให้เธอเชื่อ
“ฉันให้เธอได้ทุกอย่างที่ต้องการ ไปกับฉัน หมายถึงเธอเลือกทางชีวิตที่ต่างไปจากตอนนี้และดีกว่า
ฉันไม่ได้พูดเล่น”

“แล้วถ้าฉันไม่ต้องการอะไรเลยล่ะ ที่เป็นอยู่นี่ก็ดีแล้ว”

รูปเงาของชามัลหลับตาลงช้าๆอย่างอดทน “เธอต้องการ...ยอมรับตามตรงเถอะ
อย่างน้อยก็เรื่องพี่สาวที่ชื่อดาราอะไรนั่น ไม่ใช่หรือไง”

สิตาราเงียบ ผ่อนลมหายใจแรง รู้ว่าซ่อนความสนใจในเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้แน่
แต่ว่าสิ่งที่ชามัลจะขอเป็นการแลกเปลี่ยนก็คงไม่ชอบมาพากล

“คุณต้องการอะไร เพื่อแลกกับที่ไอ้ว่ามา”

“อย่าดื้อกับฉัน เมื่อถึงเวลา...อย่าแข็งขืน ไม่เชื่อก็คอยดู
ว่าฉันจะพาเธอไปสู่เป้าหมายที่ดีกว่าเอง”


------------
ติดตามทวงนิยายได้ที่เพจ "อสิตา" ในเฟซบุ๊คนะค้า อ้าวซะงั้น
ไม่ใช่ชชชชชช่... จริงๆอยากให้มาดูข่าวสารเรื่องนิยายอื่นๆด้วยค่ะ
ล่าสุดเพิ่งไปดูละครเวทีเลือดขัดติยาของเอ็กแซ็กต์มา
ได้บัตรฟรีเพราะท่านอัคนิ !!!
สนุก ตื่นตา ซาบซึ้งมากๆๆๆๆ



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ย. 2556, 10:00:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ย. 2556, 10:03:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1606





<< บทที่ ๓ ก้าวสู่กับดัก(ชี้แจงเรื่องสาวน้อยอัคนีมายาและมิตร เมห์ฮรา)   บทที่ ๔ ขุมทรัพย์แห่งความมืด(...จบบท) >>
ketza 22 พ.ย. 2556, 10:03:02 น.
ฮูเลฮู๊เล่ มาแว้ว กรี๊ดกร๊าดๆๆ


อสิตา 22 พ.ย. 2556, 10:03:56 น.
คุณเกดซ่า – ข้างบน ทำไมไวราวเครื่องเจ็ตตตตตต
นี่เค้ารีบตื่นแล้วนา แต่ก้คงไม่ทันเกดซ่าอยู่ดี โอ๋ๆ เมื่อวานเค้าไม่มีแรงเคาะบรรทัด
ไม่มีแรงตอบเม้นต์ ไม่มีแรงโพสต์ เค้านั่งเล่นเฟซเอ๋อๆอยู่หน้าคอมตอนกลับมา
คุณบาร์บี้ – หุหุ มาแล้วค่ะ แม้จะมาช้าไปสักนิด นี่รีบตื่นมาก็แปะเลย หิวข้าวจัง
คุณเมล็ดทานตะวันซันซี๊ดๆๆ – ขอบคุณที่ชมตามารค่ะ นานๆจะมีคนชม ตามารเสียจัย
แต่เร็วๆนี้ทุกคนจะต้องรักเรา
คุณริญจน์ธร ขอบคุณที่ให้กำลังจายยย เดี๋ยวคืนนี้ชามัลอาจไปหานะ ชอบไหม แสยะ


อสิตา 22 พ.ย. 2556, 10:11:12 น.
คุณดวงมาลย์ – แงงงงงงงงงง เค้าเหนื่อย เค้าหิว เค้าง่วง เค้าอ้วน แงงงงง
คุณกระต่ายผ้าขี้ริ้ว – ไม่ทวงนิยายเลยนะคะ สนใจท่านชามัลจริงรึเปล่า ชิชิ
คุณบุลินทร – มิตรช่วยสิตาราไม่ได้แล้ววว ชะตาลิขิตมางี้อ่านะ เหอๆๆ
คุณผักชี – แหม่ คนเด่นๆอย่างมิตรจะได้เป็นพระเอกไหมน้า ก็ลุ้นๆกันดู ส่วนตามารกิ๊วก๊าวเนอะ น่ารักเน้อ
คุณโกลเด้นซัน – สงสัยคงโดนสิง อะอ้าววว โดนไปแล้ว ไม่ทัน วินาทีคับขันชีวิตต้องมาก่อนค่ะ
ส่วนชามัลก็วางแผ่นแหย่เด็กต่อไป บางทีความพยายามของฮีก็น่ารักนะคะ ดูๆกันต่อไป

คุณเฟอร์หางอ้วนนุ่ม – สิงสิตาราจริงๆ แต่ไม่ลอย 555 ตามารน่ารักน้า มะม้าอยากให้เฟอร์สงบจิต
แล้วมองในมุมตามาร คนที่เกิดมาแบบนั้น แล้วคิดว่าตัวเองจะได้ทุกอย่าง แล้วต้องตาย
รอคอยมายี่สิบปี ถ้าทำใจเป็นหนึ่งเดียวกับตัวละครได้ น่าจะสนุกมากขึ้น...แต่ก็คงด่าตามารต่อปาย สินะๆๆ
คุณเคียงเขม – มาแล้วค่า ขอโทษที่มาช้า ดีใจที่ยังรอกันอยู่นะคะ เรื่องกำลังจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว
คุณเลิฟหมวย – ไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ชามัลก้มีมุมตลกของฮีนะ เวลาไม่ได้ดั่งใจเนี่ย อยากแกล้งฮีชอบกล
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – อย่าเกลียดชาจังเลยนะ จ้องมอง อ้อนวอนด้วยดวงตาสีน้ำตาลทอง
“ชากำลังขอร้องอ้อนวอนหนอนอย่าไป ทิ้งตัวลงคุกเข่ากอดขาหนอนเอาไว้ พนมสองมือขึ้นกราบกรานเธอโปรดอย่าไปปปป”


อสิตา 22 พ.ย. 2556, 10:14:22 น.
คุณอุ้มสม – ว้าวๆ มีไอดีในนี้ด้วย เพิ่งเคยเห็น นานๆเข้าทีสินะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมพี่สาวผีเสื้ออ้วนโดยเฉพาะจ้า
หุหุ รีวิวเงารักสีน้ำเงินเลิศมาก อยากกอดรัดด้วยความรักเค่อะ
คุณนักอ่านเหนียบหนับ – 555 มิตร+สิตารา ขอทานพ่อลูกอ่อน เหมือนค่ะเหมือน เอิ่ม ชามารจังจะปรับปรุงตัวนะ
(ปรับปรุงตอนไหนอันนี้ไม่รับรองด้านเวลา) ...ต้องมีชาจังนี่แหละถึงจะสนุก
คุณซาอิ แกะน้อยงุงิขนพันกันเป็นยวง – วันหนึ่งคนนิสัยเสียอย่างตามารจะจองคอนโดในใจแกะน้อยให้ได้สักห้องใหญ่ๆ
คุณแพทโอเค – ชามัลเป็นพระเอกนะคะ ก็ต้องกลับใจในระดับนึงงงง เอ๊ยยย ส่วนตามิตรก็นับเป็นพระเอกได้เหมือนกัน ไหนจะมัชฌิม์ เสือหนุ่มที่กำลังจะปรากฏ...
คุณเกดซ่า มาอีกแว้ว ปิดหัวปิดท้าย ช่วยคลายเหงาให้คนเขียน รักเธอจริง


ketza 22 พ.ย. 2556, 10:17:31 น.
อ่านตอนนี้แล้วบังเกิดไอเีดีย ท่านพี่ชามัล & หนุ่มมิตร ในคอนเซ็ปต์ คู่หูคู่เฮ (ตรงไหนนิ) 555 ^_^


SunSeed 22 พ.ย. 2556, 11:50:45 น.
เลววว แต่น่ารักอ่ะ จริงชามารรรออกจะน่ารักนะ เพียงแต่ความน่ารักมันหลบในมากไปหน่อย โฮะๆๆๆ แต่ตอนนี้สั้นไปป่ะคะพี่แป้ง ยังไม่จุใจเลยอ่ะ จบซะแล้ว


sai 22 พ.ย. 2556, 12:02:27 น.
รอตามารมาดาวน์คอนโดในใจเค้าอยุ่เท่าที่เห็นยังกู้ไม่ผ่านนะเนี่ยย ชริๆๆๆ ล่อลวงตลอดดดด


lovemuay 22 พ.ย. 2556, 12:15:23 น.
จริงๆแล้วชามัลอาจไม่ได้เลยอะไรนะคะ แค่เจ้าเล่ห์ไปนิ้ส แค่นั้นเอง ฮ่าๆๆ


Zephyr 22 พ.ย. 2556, 12:52:18 น.
ฮ่าๆๆๆ เฟอร์ไม่ได้เกลียดตามาร แค่หมั่นไส้ อิอิ
ยังไงก้อด่าปนจิกกัดอยู่ดีอ่ะ รักนะจึงหยอกเล่นไง
แต่เฟอร์รักอัคนิมากกว่า ต่เรื่องนี่ ไงมารก็พระเอกนี่นา ไม่อ่านมารจะอ่านใครอ่ะ
แต่เมื่อไรเสือน้อยขาวอ้วนฟูออกมา เฟอร์จะเปลี่นข้างทันทีเลย ฮ่าๆๆๆๆ
เฟอร์รอดูตามารหลอกเด็กดีกว่า เมื่อไรหลงเ็ด็ก จะดูซิ ว่าจะงี่เง่าง้องแง้งรึไม่
คงขัดตาพิกลอ่ะ แต่ให้ทำดูก็ได้เนอะ เผื่อจะดูน่ารักขึ้นมามั่ง ใช่มะ
ปล ตามารทำสิติราลอยไม่ได้เรอะ อะไร พลังหดขนาดนั้นเลย


อสิตา 22 พ.ย. 2556, 12:57:46 น.
ตามารอยากใช้ร่างเด็กอยู่แล้วนี่นา


Chii 22 พ.ย. 2556, 13:08:23 น.
ยะ...แหยะมานนี่ค่ะะะะะะ

อ๋อยยย ขนลุกแทนสิต้า มีตัวไรไม่รู้มายืมร่าง -[]-

เรื่องมันเกิดเพราะความไม่พอของคนคนนึง เอ๊ยยย เคย เป็น คน ตะหากเนอะะะะ
//แสยะใส่มานนี่


นักอ่านเหนียวหนึบ 22 พ.ย. 2556, 13:18:08 น.
ชริส์!!!!!! เค้าอิมเมจตามารให้กลายเป็นลอร์ดโวลเดอร์มอร์ไปแล้วอะ ทำไง๊ ทำไงก็กลายมาเป็นพระเอกไม่ได้ ชอบสิงร่างคนอื่นอีกด้วย แย่ๆๆๆ นี่ยังเด็กคงยังไม่คิดอัลไล ถ้าหนูสิโตขึ้นกว่านี้แล้วฮีไปสิง โอ๊ยๆๆๆๆๆ ฮีต้องชีกอใส่แน่เลย!!!
สงสารเฮียมิตรรักแฟนเพลง ที่ซู้ดดดด ทำไมเฮียถึงพลาดท่าเสียทีอิตาชาบ่อยๆ แบบนี้ ..... ไรเตอร์ลำเอียงไม่รักเฮียมิตรเลย ปล่อยให้อิตาชาแกล้งเฮียเราตลอดๆๆ เอ๊ะ หรือจริงๆ แล้ว อิตาชาแอบหลงรักเฮียมิตร แล้วเข้าใจว่าเฮียมิตรรักหนูสิ เลยจิมาเข้าร่าง!!! 5555 แยกย้ายสลายตัวดีฝ่าาาาาา


goldensun 22 พ.ย. 2556, 13:20:00 น.
ชามัลน่ากลัวจัง เก็บความแค้นมาได้เป็นนาน จะยากอะไรกับการกล่อมเด็ก เจ้าชีวิตนี่ เจ้ากรรมนายเวรใช่มั้ยคะ
มิตรคงแยกสิตาราจากชามัลได้ยากแล้ว จิตเคยครองร่างแล้วอย่างนี้ จับจุดสิตาราได้ถูกอีกต่างหาก


เรือใบ 22 พ.ย. 2556, 17:42:13 น.
อ่านทันแล้ววว แอบสงสารมิตรอ่ะ เหมือนชะตาจะแอบกุดยังไงก็ไม่รู้

ปล ชอบชื่อสิตาราจังเลยค่ะ


ดวงมาลย์ 22 พ.ย. 2556, 19:37:16 น.
อย่าดื้อ...อย่าแข็งขืน (ฟังแล้วจึ๊กกะดึ๋ยมว้ากกก 5555)

เมื่อวานมัวแต่ลั้นลา ไม่มาอัพ วันนี้ต้องชดเชยสินะ อิอิ


ดังปัณณ์ 22 พ.ย. 2556, 21:20:50 น.
อุ้ยตายชาจัง ตะเองปากร้ายมากเบย หุๆ เดี๊ยะๆๆๆทำเอาใจหายใจคว่ำ ขู่พ่อ(ตา)มิตรได้ไง เดี๊ยะๆๆ เค้าไม่ยกลูกสาวให้แล้วจะหนาว เดี๊ยะๆๆๆ

อ่ะกะได้ เห็นแก่ค็อกเทลและ....ตาสีน้ำตาลทองอ่ะนะ ไม่งั้นเก๊าจะโกดตะเองจิงๆด้วย

ว่าแต่ ชาจังนี่แบดบอยจิงๆ พ่อคู๊น เวลาต้อยเอาจริงขึ้นมา ระวังเหอะ เดี๊ยะหนาว
(เปิดตู้เย็น จับชาจังแช่ช่องฟรีซ สตัฟท์ซะเลย ชริ!)


บุลินทร 22 พ.ย. 2556, 22:32:39 น.
ปล่อยสิตาราให้ชามัลไปก่อนก็ได้


ริญจน์ธร 24 พ.ย. 2556, 14:50:52 น.
มาอัพแล้วสินะ หลังจากหนีเที่ยวจนไม่ได้ทำงาน 55


Barby 25 พ.ย. 2556, 11:17:15 น.
ใครกันเสือสมิงนั้นน่ะ สงสัยๆ


patok 25 พ.ย. 2556, 16:52:34 น.
คุณอสิตา แอบสปอยล์ ตกลงชามัลได้เป็นพระเอกแน่ๆ ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account