โมรารัตติกาล {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

-------------------------
ยังเคยยินเรื่องราวของหินโมราแห่งรัตติกาล
พลอยโบราณล้ำค่าที่อาจนำพาใครบางคนหวนสู่อดีตกาล เรื่องของมันอาจถูกกลบฝัง
กร่อนกลืนไปกับเงื้อมเงาแห่งกาลเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนความรับรู้ของผู้คน
แต่กับเขา...
ผู้ซึ่งมีเพียงความแค้น ไม่มีแม้ร่างกาย เป็นแต่เพียงวิญญาณที่ล่องลอยไปในราตรี
เฝ้าเพรียกหาให้อดีตหวนคืนกลับ เพื่อเปลี่ยนวันแห่งความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะ
เวลาผ่านเนิ่นนานนับสิบๆปีจากวันที่เขาตาย
โลกเปลี่ยนแปร แต่ใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนตาม
เขายังคงไม่ไปไหน
แม้จำได้ว่าตนเองเคยมีนาม เคยเป็นใครคนหนึ่งที่ถูกเรียกขานว่าชามัล เมห์ฮรา
แต่ตอนนี้แทบไม่รู้สึกว่านามนั้นคือตนเอง ไม่ได้มีใครเรียกชื่อเขานานมากแล้ว
ตั้งแต่เขากลายเป็นชีวิตไร้ตัวตนในความมืด ที่ยังจำได้ดีคือความแค้นต่อทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่เว้นแม้กระทั่งแค้นตัวเอง ที่พ่ายแพ้ และต้องตาย...
วิญญาณของเขายังรอคอยวันที่มือซึ่งมองไม่เห็นคู่นี้จะเอื้อมคว้าไปถึง
อัญมณีเม็ดนั้นที่จะพาเขากลับไปแก้ไขอดีต
...โมราแห่งรัตติกาล
และคนที่จะนำพาเขาไปถึงมันได้ มีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น


------------------------------------
เรื่องเริ่มต้นที่ร้านอัญมณีเก่าคร่ำคร่า หลายคนเดินผ่านเลยไป แต่มีบางคน...
คนที่ตามหาเท่านั้นจึงจะค้นพบการมีอยู่ของร้าน และเปิดประตูเข้ามา
ตัวร้านเดินทางอยู่ในระหว่างมิติเวลา บางทีมันอาจไปโผล่ที่ตรอกโทรมๆสักตรอกในอนาคต
หรือในซอยคับคั่งย่านเยาวราชที่คนพลุกพล่านเดินผ่าน แต่จะไม่มีใครหยุดสนใจ
นอกเสียจากคนผู้มีชะตาผูกพันกับพลอยทรงอำนาจลึกลับสักเม็ดในร้าน
ท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านที่ชื่อ มิตร เมห์ฮรา

Tags: มนตราอัญมณี มายาไฟในดวงตา ชามัล มิตร สิตารา มัชฌิม์ รัตติดารา สิงหรานี ราศีที่สิบสาม ม่านทิวาพชร มรกตสนธยา

ตอน: บทที่ ๔ ขุมทรัพย์แห่งความมืด(...จบบท)

*สิตารา แปลว่าดวงดาวค่ะ ...ดาวดวงน้อยๆ(ของท่านชามัล!)
----------------------------



“หึๆ เธอนี่ตลก รู้หรือเปล่าว่าถ้าไปกับฉัน เธอจะมีทุกอย่าง” เสียงกระซิบอ่อนโยนปลอบให้เธอเชื่อ
“ฉันให้เธอได้ทุกอย่างที่ต้องการ ไปกับฉัน หมายถึงเธอเลือกทางชีวิตที่ต่างไปจากตอนนี้และดีกว่า
ฉันไม่ได้พูดเล่น”

“แล้วถ้าฉันไม่ต้องการอะไรเลยล่ะ ที่เป็นอยู่นี่ก็ดีแล้ว”

รูปเงาของชามัลหลับตาลงช้าๆอย่างอดทน “เธอต้องการ...ยอมรับตามตรงเถอะ
อย่างน้อยก็เรื่องพี่สาวที่ชื่อดาราอะไรนั่น ไม่ใช่หรือไง”

สิตาราเงียบ ผ่อนลมหายใจแรง รู้ว่าซ่อนความสนใจในเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้แน่
แต่ว่าสิ่งที่ชามัลจะขอเป็นการแลกเปลี่ยนก็คงไม่ชอบมาพากล

“คุณต้องการอะไร เพื่อแลกกับที่ไอ้ว่ามา”

“อย่าดื้อกับฉัน เมื่อถึงเวลา...อย่าแข็งขืน ไม่เชื่อก็คอยดู
ว่าฉันจะพาเธอไปสู่เป้าหมายที่ดีกว่าเอง”




เมื่อมิตรตื่นขึ้น สิตาราไม่ได้เล่าไม่ได้บอกอะไรให้อีกฝ่ายฟัง แน่นอนว่าถึงจะสนิทกันมาก
แต่เธอก็มีมุมส่วนตัวที่เก็บไว้เป็นที่ลับเฉพาะของตัวเองเสมอ ไม่ใช่อย่างเด็กบางคน
ที่จะพูดออกไปทั้งหมด บางทีมิตรยังว่าเธอเป็นเด็กบ้าบอชอบเก็บกด ก็ดูคล้ายว่าจะ
ตรงตามจริงอยู่เหมือนกัน

ทั้งหมดยังเดินทางไปในช่องทางมืดและอันตราย มีเพียงแสงจากไต้ที่ราวกับจะไม่มีวันดับ
เมื่ออยู่ในมือของคนที่มีพลังไฟในสายเลือดอย่างมิตร แม้เจ้าตัวจะยังบ่นอยู่ตลอดทาง
ว่าไฟของเขาไม่แข็งแรงเอาเสียเลย แถมกับดักมากมายที่ต้องผ่านนั้นก็เหมือนจะ
ไม่ยอมให้รอดชีวิตไปได้ง่ายๆ

“ระวังทางซ้าย!”
เสียงชามัลตะโกนเมื่อกลไกดีดขวานบินจำนวนนับสิบซัดมา

“สิตารา หมอบ!” มิตรกระชากเด็กหญิงลงกลิ้งไปด้วยกัน แต่ทั้งคู่ก็ทันเห็นขวานบิน
สองสามอันที่ทำท่าว่าจะพุ่งเข้ามาในรัศมีถูกลูกไฟอันไร้ที่มาจุดปะทะคล้ายพลุระเบิด
กลางอากาศ กระแทกให้หันเหไปอีกทาง

เด็กหญิงหอบหายใจพลางเอ่ยถาม เพราะเธอไม่เคยเห็นมิตรทำได้อย่างนั้นเลย
“มิตร เขามีพลังมากแค่ไหนกัน...ชามัลน่ะ”

“มากอยู่” มิตรกระซิบกับร่างที่ถูกกกให้หมอบอยู่ใต้ร่างตน “นี่ขนาดตายไปแล้ว
ตอนมีชีวิตเขาทำได้มากกว่านี้ แต่ก่อน คนที่เอาชนะชามัลได้ก็คงมีแค่ท่านอัคนิ
เจ้าตระกูลเมห์ฮราเท่านั้น”

“คนที่...ฆ่าเขาน่ะเหรอ” สิตารากระซิบ

มิตรพยักหน้าให้อีกฝ่ายรู้จากการเคลื่อนไหวของเขา ก่อนจะฉุดดึงเธอให้ลุกขึ้นฝ่าไปข้างหน้า
ล้มลุกคลุกคลานกันต่อ จนไปถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะซ่อนอยู่ใต้พิภพ อากาศเย็นจัด
ไม่ได้ขัดขวางการไหลปรี่รี่ไปของธารน้ำแข็งที่ทั้งเร็วและแรง ปะปนกับแผ่นน้ำแข็งแตก
ลอยลิ่วคล้ายถูกสูบหายไป เห็นเป็นกระแสหมอกควันเชี่ยวกรากขวางหน้าทั้งสาม
และถ้ามองให้ดีๆ น้ำที่หลั่งไหลไปใต้หมอกนั้นมีสีสันราวโลหิต!

“ทำไมน้ำสีเหมือนเลือดเลย!” สิตาราอุทาน

“คงเพราะธาตุเหล็กกับแบคทีเรียเก่าเก็บเป็นล้านๆปีละมัง เห็นได้ชัด ข้างใต้นี่มีความร้อนบางอย่าง
จุดขึ้นมา แล้วก็ทำให้น้ำไม่จับแข็ง กลายเป็นธารเลือดเชี่ยวกรากแบบนี้”

พวกเขาพยายามสำรวจหาทางข้าม แต่สิ่งที่พบกลับทำให้ชามัลขัดใจ มีร่องรอยบ่งชัด
ว่าเคยมีสะพานที่ทำไว้แต่ครั้งโบราณ แต่ตอนนี้มันถูกทำลายไปแล้ว

“ไอ้อัคนิ!” วิญญาณร้ายสบถอย่างหัวเสียแต่ก็สงบอาการลงเพียงเท่านั้น
เอ่ยตัดบทก่อนจะมีใครทันพูดอะไรเสียอีก
“ไปตามทางปกติไม่ได้ เดี๋ยวจะหาช่องให้แกกับเด็กข้ามไป”

ทั้งหมดอ้อมไปทางอื่น มิตรเงียบจนสิตารานึกกลัวว่าเขาคิดอะไรอยู่ ปกติมิตรไม่ใช่คน
ที่จะยอมโดนบังคับ แต่คราวนี้อาจเพราะคนที่มามีเป้าหมายลึกลับจดจ่ออยู่ที่เธอ
ไม่เหมือนพลอยในความครอบครองสักชิ้นซึ่งมิตรเคยตัดสินใจได้ง่ายดาย

สิตารารู้สึกเหมือนถูกดึงลึกเข้าไปในเทือกเขามหึมา สู่ขุมทรัพย์อันซ่อนอยู่ในกำแพงโลกอย่างหิมาลัย
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีที่ทางเช่นนี้ มันไม่ได้เกิดจากน้ำมือมนุษย์ เพียงแต่มนุษย์เร้นลับกลุ่มหนึ่งเลือกเอาที่นี่
มาต่อเติมเสริมแต่ง ให้กลายเป็นขุมพิสดารที่ไว้กักเก็บพลังบางอย่าง

ไม่ใช่เพียงแต่น้ำแข็งที่ไหลละลาย ในบางที่ยังมีหลุมหินป่นร้อนเร่าราวกับกำมะถันกำลังเดือด
อย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่รวมกับที่เย็นๆได้ แต่พวกเขาก็ผ่านมันไปได้หวุดหวิดที่สุด ที่สุด และจนถึงที่สุด...

ณ โถงหินกว้างขวางโอฬาร มีน้ำแข็งแท่งยาวเหมือนหินงอกหินย้อย ประกายคมปลาบ
สะท้อนรับแสงไฟจากไต้ที่ส่องสว่าง ร่างแรกที่ก้าวล้ำเข้าไปคือร่างสูงตระหง่านของมิตร
ตามด้วยร่างเล็กที่ยังพยายามกระฉับกระเฉงแม้จะเหนื่อยหนัก ปิดท้ายด้วยรูปเงา
ซึ่งทิ้งห่างจากคนทั้งคู่อยู่พอสมควร

สิตาราก้าวไปกุมมือมิตรอย่างเป็นห่วง “แน่ใจเหรอว่าจะเข้าไป”

มิตรก้มลงมองเด็กหญิงอย่างกังวล ใช้หลังมือกดๆหน้าผากตนเองที่ยังมีเลือดไหลซึม
ผลงานของกับดักรายทางที่เจอ แน่ใจว่าหากไม่มีชามัลคอยช่วยด้วยการแก้อาณาเขตมนตร์
ที่กั้นไว้ทั้งคอยเตือนอันตราย ลำพังตนคงไม่มีทางผ่านเข้ามาที่นี่ได้ บางอย่างก็เป็นมนตราของ
ท่านอัคนิ...อาแท้ๆของเขาเองที่พยายามกั้นขวางไว้แต่มิตรก็ยังฝืน ตอนนี้เขาเจ็บปวดไปทั่วร่าง
ปวดร้าวจนแทบอยากอาเจียนเป็นเลือด แม้พยายามไม่แสดงออก
แต่จากอาการเกร็งของร่างกาย สิตาราย่อมรู้

“ไม่มีทางเลือก ยืนรออยู่นี่แหละ ฉันจะเข้าไปหามันเอง” มิตรโยนเป้ทิ้งไว้
ชามัลต้องการเขาแค่มาถึงที่นี่ รอคอยให้เขาคลายมนตราที่ผูกโมรารัตติกาลไว้ออกจากที่
ด้วยความเชี่ยวชาญเรื่องอัญมณีอันเป็นสมบัติติดตัวของมิตร แล้วหลังจากนี้จะเกิดอะไร
หรือว่านี่จะเป็นวันตายของเขาเอง เขาไม่ยอมตาย จะทิ้งสิตาราตรงนี้ไม่ได้ ไม่มีทาง!

มิตรแผ่ขอบเขตวงแสงไฟจากไต้ในมือให้ขยายขึ้นเรื่อยๆ ขณะย่างก้าวผ่านความกว้าง
ของห้องนั้นไป ยินเสียงสะท้อนวังเวงเหมือนเสียงเคาะระฆังแก้วใสเบื้องบน แต่ละก้าวของเขา
หนักแน่น ระมัดระวัง ทว่าไม่รู้เพราะเหตุผลกลใด เมื่อก้าวเหยียบผ่านแต่ละทีเสียงน้ำแข็งร้าว
แตกก็ลั่นเปรี๊ยะๆเสียดหู ชวนเสียวไส้จนสิตาราต้องร้องออกไป

“ระวังนะมิตร รีบให้เสร็จไวๆ”

เปรี๊ยะ!

เสียงลั่นร้าวจากเพดาน พร้อมน้ำแข็งมหึมาที่เสมือนหินงอกหินย้อยหล่นลงมาแตกเปรื่องปร่าง
พาให้อีกหลายแท่งร่วงตามลงมาเฉียดมิตรไปหวุดหวิด ร่างสูงปักหลักนิ่ง ก่อนจะส่งเสียงต่ำปรามสิตารา
“อย่า-ตะ-โกน” มิตรเน้นทีละคำ

เด็กหญิงเอามืออุดปาก เห็นแล้วว่าความลืมตัวของตนทำให้เกิดผลเช่นไร แต่ไอ้ที่เหมือนน้ำแข็ง
มหึมากำลังแตกตามทุกย่างก้าวของมิตรนั่นไม่น่ากลัวกว่าหรือ แม้ว่าเสียงมันจะเหมือนมาจากที่ไกลๆก็ตาม

“ไม่สังเกตหรือ น้ำแข็งเริ่งละลายแล้ว” ชามัลพูดกับสิตาราคล้ายรำพึงแต่ก็ตบท้ายด้วยคำสั่ง
“เธอรออยู่ตรงนี้ ไม่ต้องตามไป ดีแต่จะทำให้ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง”

สิตาราโมโหนิดๆ เธอเป็นห่วงมิตรมากกว่าเขาที่มีจุดประสงค์อื่นแท้ๆ แต่เมื่อมันจริงตามที่เขาว่า
เด็กหญิงจึงต้องยอมนิ่งตรึงแข็งค้างอยู่กับที่ แทบจะกลั้นใจรอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เมื่อรูปเงา
วูบหายข้ามไปสู่ยังอีกฟากฝั่งของห้อง ตามติดหลังมิตรไปเงียบเชียบเหมือนแทบว่าจะไม่ยอมให้รู้ตัว

“มิตร ระวังเขา...” สิตาราส่งเสียง พยายามไม่ให้ดังเพราะกลัวน้ำแข็งบนเพดานจะตกอีก

มิตรหันมาเห็นชามัลแต่ก็ไม่สะดุดจังหวะย่างก้าว เขากลืนน้ำลาย ต้องใช้สมาธิในการตัดสินใจ
แต่ละก้าวอยู่มากโข ไหนจะสิตาราที่ยืนรออยู่ฟากกระโน้น แล้วอีกอย่าง เขารับรู้เช่นกันว่าบางอย่าง
ในห้องนี้กำลังเปลี่ยน นั่นเป็นเพราะมนตร์ไฟที่กำกับไว้คงจะไปทำลายน้ำแข็งตรงจุดไหนสักแห่ง
ที่พยุงโถงนี้เอาไว้ แต่ชายหนุ่มก็ยังก้าวต่อไปเบื้องหน้าจนถึงพื้นหินฉาบน้ำแข็งที่กลายเป็นขั้นบันได
สูงขึ้นไปเป็นแท่นน้ำแข็งขาวโพลนเกือบขุ่นคล้ายมีสิ่งหนึ่งวางไว้
มิตรก้าวขึ้นไปจนเห็น...ประคำเส้นนั้น โมรารัตติกาล!

เสียงน้ำแข็งแตกร้าวจากที่ไกลๆเริ่มดังมากขึ้น มิตรสงบนิ่ง วางไต้ที่จุดไฟไว้ลง
มือซ้ายคว้าอัญมณีสองสามเม็ดขึ้นมาจากกลุ่มสร้อยที่คล้องคอตนอยู่ อีกมือยกขึ้นอัง
เหนือประคำโมรา ขณะที่เริ่มสาธยายมนตรารัวเร็ว คำโบราณหลั่งไหลออกจากปาก
เพื่อขอปลดปล่อยโมรารัตติกาลจากแท่นอันเป็นที่ประดิษฐานของมัน

ดวงไฟที่เหมือนวิญญาณพร่างพรายรายล้อมจุดติดขึ้นรอบๆ
...ชามัลยิ้มในหน้า นี่ไม่ใช่ไฟของมิตร แต่คือไฟของคนที่เคยฆ่าเขา...อัคนิ เมห์ฮราได้มาถึงที่นี่
อาจจะเมื่อครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มาวางกับดักไว้รอคอยขัดขวางเขามากมายถึงเพียงนี้
เพื่อไม่ให้ชามัลได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่เมื่อมีเขา รวมกับพลังของมิตรและเด็กสิตารา
ทุกการขัดขวางที่ศัตรูตั้งใจจะต้องไร้ผล!

ไฟนั้นรวมตัวกันเป็นม่านกั้น บีบล้อมรวดเร็วเข้ามาหมายจะทำร้ายขับไล่ผู้บุกรุก
เข้าถึงขุมทรัพย์ที่ซ่อนโมราแห่งความมืด ชามัลเอ่ยคำมนตราขึ้นแข่งกับเสียงมิตร
วิชาไฟของเขาจะต้านมันไว้ให้จงได้ แม้ว่าสู้กันซึ่งหน้าตอนนี้จะทำไม่ได้ แต่เมื่อเป็นเพียง
ร่องรอยที่เจ้าตัวศัตรูทิ้งไว้ก็คงไม่เกินกำลังจะเอาชนะมัน

“โอ้ย รีบๆกันหน่อยไม่ได้หรือยังไง” สิตาราครางขณะย่อตัวลงนั่งลุ้นสลับกับผุดลุก
ตื่นเต้นจนแทบหายใจไม่ออก เธอเห็นแล้วว่าชามัลกางแขนออก ร่างรูปเงาของเขาลอยสูงขึ้น
แขนคล้ายจะยันกำแพงไฟที่ล้อมบีบเข้าหาทั้งสองข้าง ปกป้องมิตรที่กำลังยืนร่ายมนตร์ไว้ตรงกลาง
ไม่ให้ต้องชะงักหรือเสียจังหวะ เขากำลังช่วยเพื่อให้มิตรทำงานสำเร็จ แต่หลังจากนั้นล่ะ...

เด็กหญิงรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ความหนาวเย็นที่ควรมีตามธรรมชาติเริ่มจะคลายลง
ดวงตาเรียวสวยเหลือบมองขึ้นเบื้องบน จริงอย่างชามัลว่า หยดหยาดราวกับเกล็ดเพชร
เริ่มหยาดเผาะลงมา เมื่อสิตาราเอื้อมมือที่สวมถุงมือมิดชิดไปรอง น้ำเริ่มเจิ่งไหลจากฝ่ามือ
มากขึ้นเรื่อยๆ เด็กหญิงได้แต่ภาวนาให้มิตรรีบทำอะไรตรงนั้นให้เสร็จโดยด่วนที่สุด

ชามัลยันกำแพงไฟที่โอบล้อมเข้ามาไว้ได้ด้วยกำลังจิตล้วนๆ ทว่าเขาไม่มีร่าง
ไม่มีแหล่งรวมธาตุขันธ์ ถ้ามิตรยังไม่เร่งให้เร็วกว่านี้ ไม่นานพลังของเขาอาจแตกสลายหายไป
แต่รูปเงาก็เลือกที่จะอดทน รู้ดีว่ามิตรกำลังมุ่งมั่นอย่างถึงที่สุด ไม่มีทางจะเร่งให้เร็วไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

โมรารัตติกาลในสร้อยประคำนั้นเหลืออยู่ไม่มากอย่างที่คิด แต่มันก็คงเพียงพอแล้วที่จะ
ช่วยให้ปรารถนาของเขาสัมฤทธิ์ผล ชามัลเห็นกลุ่มควันหนาทึบสีดำเริ่มคลี่คลายตัว
เป็นเกลียวม้วนออกจากเส้นประคำตามพลังของมิตรที่ส่งเข้าไปหาอัญมณีทรงคุณอนันต์
งานนี้คงต้องขอบคุณแม่ของมัน ผู้หญิงยิปซีที่ชื่อว่าอมินตา อุตส่าห์ดั้นด้นมาถ่ายทอดวิชา
ให้ลูกลับๆของตัวเองจนเก่งกล้าขนาดนี้ แม้พลังไฟจะไม่เอาไหน แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีดี

ควันดำระเบิดออกมารอบทิศ ช่วยสลายม่านไฟที่บีบอัดเข้ามาลงได้ในพริบตา
มิตรคว้าเส้นประคำโมรามาได้ หันไปฉวยคบไต้ซึ่งวางทิ้งไว้ด้วยอีกมือที่ว่าง
ก่อนกลิ้งกระเด็นลงมาจากแท่น พร้อมการแตกทำลายของหินกระบิมหึมา
ลงมาทับแท่นน้ำแข็งโครมใหญ่ เสียงลั่นร้าวเอี๊ยดๆสะท้อนสะท้านต่อกันไป
แท่งน้ำแข็งแหลมบนเพดานร่วงลงมาแตกระนาว แต่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจแล้ว
เขารู้แค่ว่าต้องรีบหนี
มิตรตะกายร่างล้มลุกคลุกคลานผ่านโถงที่ยาวเท่าสนามฟุตบอลนั้นกลับไปหาสิตาราไม่คิดชีวิต
ในขณะที่พื้นห้องเริ่มแตกแยกออก เห็นพื้นเดือดด้วยลาวาแรงร้อนที่ซ่อนอยู่!

“นี่ไม่ใช่ลาวาที่แท้ เป็นมายาของผู้วางกับดักไว้” ชามัลคำราม ร่วมใช้พลังช่วยโดยเร่ง
ลมเพลมพัดดันอู้จากเบื้องหลัง พาให้ร่างที่โจนวิ่งของมิตรลอยหลบพ้นไปเร็วขึ้น ช่วยปัด
แท่งน้ำแข็งคมกริบที่ตัดเนื้อเถือหนังให้ขาดวิ่นได้ให้ระเบิดเป็นจุณไปบ้าง ก็เพราะยังไม่ได้
โมรามาจากมันหรอกถึงต้องช่วย ไม่อยากจะยื้อแย่งชุลมุนเอาตอนนี้ ฉวยทำเอาของล้ำค่า
ร่วงลงไปตามรอยแตกของพื้นจะยิ่งยุ่งกันใหญ่

สิตาราก้าวถอยหลังมาจากธรณีประตูของโถงที่กำลังกลายเป็นสนามลาวา
ตายังไม่ละจากร่างมิตร “ไฟกรด...มนตร์ขั้นสูง”
เด็กหญิงเข้าใจ นี่ไม่ใช่ลาวาของจริง แต่มันฆ่าคนที่สัมผัสได้จริง

มิตรรีบร้อนจนแทบลืมความเจ็บปวดบอบช้ำที่สั่งสมอยู่ในร่างไปหมดสิ้น
เขาตะกายมาถึงจนได้ และพุ่งร่างเข้าหาสิตาราในวินาทีที่พื้นสุดท้ายซึ่งรองรับเท้ากำลังจมหาย
ประตูโถงถล่มตึงลงตามหลัง เขากอดสิตาราแน่น พาเธอกลิ้งหลบไปให้พ้นด้วยกัน นึกดีใจ
อย่างสุดแสนเพราะใจพะวงห่วงเด็กหญิงที่ตนทิ้งไว้ข้างหลังอยู่ตลอด

“มิตร” สิตาราเกือบจะโล่งใจ ลูบผมเผ้าของเขาอย่างเป็นห่วง ตอนนี้ผมเดร็ดล็อกส์ยุ่งๆ
ของชายหนุ่มที่สะบักสะบอมยุ่งขึ้นอีกเป็นหลายเท่าตัว

มิตรชูประคำโมรารัตติกาลให้เด็กหญิงดู ยังตกตะลึงอยู่เพราะไม่อยากเชื่อว่าจะได้มันมาไว้ในมือ
“เหลืออยู่ไม่กี่สิบเม็ด แต่เอาเถอะ...”

ความสั่นสะเทือนจากในห้องโถงยังไม่จางหาย คล้ายว่ามันกำลังจะปริแตกลามมาถึงข้างนอก
ยังไม่ทันได้หยุดพักหายใจ ทันใด ชามัลกรากเข้ามายืนข้างๆจนทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต้องหันไประวัง
แทบพร้อมกัน แต่แล้วกลับพบว่าตาเรืองวาวของร่างรูปเงาไม่ได้จับจ้องพวกเขาหรือโมรา
ทว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่ง อีกสิ่งที่อยู่ข้างหลังและพาให้ชนคอของมิตรลุกชันเมื่อยินเสียงคำรามต่ำ
มาจากมัน เขาค่อยๆหันไปพร้อมสิตารา แล้วทั้งคู่ก็เห็น...

เสือดำสนิทตัวมหึมากำลังย่างก้าวเข้ามา ตาสีเหลืองแลบประกายไฟของมันเรืองหรี่แสงอย่างน่ากลัว
เสือนั้นคำรามฮื่อในคอ แสยะเขี้ยวขาว ก่อนจะแผดเสียงแหลมยาวเหมือนแมวปิศาจ โจนฝ่ากลาง
ระหว่างมิตรและสิตาราเข้าหาชามัลในทันที!


----------------------
จบบทพอดีที่ตรงนี้นาก๊ะ สั้นไปนิด
ตามทวงนิยายได้ที่เพจเฟซบุคอสิตา ชะเอิงเงยยยย
โปรดติดตามบทต่อไป!!!
"รอยเล็บที่ไม่อยากลืม"



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ย. 2556, 15:22:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ย. 2556, 15:46:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1545





<< บทที่ ๔ ขุมทรัพย์แห่งความมืด   บทที่ ๕ รอยเล็บที่ไม่อยากลืม >>
ดวงมาลย์ 26 พ.ย. 2556, 15:25:59 น.
เธอมาแล้วววววววว แหม่ นึกว่าจะเบี้ยวอีก คิคิ


ketza 26 พ.ย. 2556, 15:27:27 น.
มาแว้ว.... กระโดดกอดท่านพี่ชามัลหมับ....
โอ๊ย..... ท่านพี่ดีดเกดซ่าออกไมเนี่ย กอดนิดกอดหน่อยเอง เหอๆๆๆๆ


อสิตา 26 พ.ย. 2556, 15:31:14 น.
ออกมาแล้วววว ท่านเสือ!
คุณเกดซ่า - มาไวมาว่อง น่ารักจริงอะไรจริง สองหนุ่มนี่จะเป็นคู่หูคู่เฮรึ ก็ดี อย่างเป็นคู่หูคู่เกย์ก็แล้วกัน
/ป.ล. แต่วันนี้เกดซ่าไม่ใช่คนแรกของท่านชามัลลลล
คุณเมล็ดทานตะวันซันซี้ดดดด – ดีหลบในมากๆไปจนใกล้จบ ชะเอิงเงยยยย น่ารักอะไรเช่นนี้
คุณซาอิ แกะน้อยงุงิหางขมวดแน่น – ดาวน์คอนโดใจชั้นบนสุดเลยชามัลลล เอาให้แกะเงิบ แอร๊ยยย
คุณเลิฟหมวย – ใช่ไหมคะ ชามัลไม่ได้อะไรเล้ย แค่เล่นไปตามบทบาท ที่รับบทตัวร้ายคู่กับพระเอกไปในตัว คึๆ
คุณเฟอร์ – แต่ตามารรักเฟอร์มากนะ รักจนถึงขั้นจับเสือเป็นตัวประกัน ฮึ้ยยย ตามารอยากสิงเด็กอะ
จะทำให้ลอยทำไม หุหุ เสือขาวออกมาท้ายเล่มหน่อยเดียวเอง รอเด่นภาคต่อ กินเสือดำไปก่อนได้นะ
แต่มะม้าว่ากินตามารหรือตามิตรก็โอเค แสยะ


บุลินทร 26 พ.ย. 2556, 15:32:10 น.
ทำไมสั้นจัง รอตั้งนานนนนนน


ketza 26 พ.ย. 2556, 15:44:52 น.
แง่วๆๆ วันนี้เกดซ่าโดนเข้าห้องอบรม เล่นจากมือถือ ดูจิ มาช้าเบยย.....
เหอๆๆ ท่านชามัลล่อลวงเด็ก กิ๊วๆ ........"ไปกับท่านพี่ชามัลแล้วจะได้ทุกอย่างจิงเปล่า ข้อเสนอเย้ายวนใจ" 555
>//////<


อสิตา 26 พ.ย. 2556, 15:45:09 น.
คุณผักชี – ว่ามารนี่จังเลยนะคะ คงจะแอบรักแน่ๆถึงได้ชอบแกล้งมารนี่...
มารนี่ไม่เป็นคนก็ล่ายยย แต่อยากเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังยิ่งกว่า อยากกกกอดหนูสิต้าไว้คนเดียว
คุณนักอ่านเหนียบหนับบบบ – เม้นต์ยาวสะใจมากค่ะ นั่นสิ ตอนโตสิงแล้วคงเห็นเรือนร่างหนูสิต้าหมด
นิสัยแย่จริงๆตาชามัล ส่วนเฮียมิตร คนเขียนรักมากน้า ได้บทดีๆตลอด แถมแม่ยกเอ็นดู อุฮิๆ
คุณโกลเด้นซัน – มิตรไม่ใช่สายต่อสู้ แต่เป็นสายลื่นไหล สงสัยต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเสือ
แต่จะช่วยได้ไหมนะ ชามัลก็ร้ายมากเหลือเกิน ช่วงนี้คนเยนกำลังเขียนตอนใกล้จบค่ะ
เข้มข้นมาก ตาลึกโบ๋ทุกวัน...
ป.ล. อ่านพี่ครามตอนจบรึยังคะ หุหุ หนูวนัสฝากส่งจูบให้นะ

คุณเรือใบ – นั่นสิคะ มิตรโชคไม่ดีเลย... สิตาราแปลว่าดวงดาวน้า คนเขียนเล็งชื่อนี้ไว้นานมาก
ก่อนจะลงมือเขียนจริงเป็นปีๆเลยค่ะ ขอบคุณที่ยังตามมาอ่านจนทัน กอดรัดฟัดเหวี่ยง เลิฟๆๆ
คุณดวงมาลย์ – งวดนี้มาเม้นเร็วมาก กอดจูบเจ้ หุหุ น้องเริ่มจะป่วยอีกหนไหมเนี่ย มุงานเยอะเกิน
ช่วงนี้ไม่ได้นะ ห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามออกพ้นรู!
คุณหนอนน้อยผู้คลั่ง – ตาชาจังไม่สนหรอกว่ามิตรจะยกลูกสาวให้ไหม ตานี่กะฉุดอย่างเดียวเลย
ไม่ต้องจับแช่ช่องฟรีซชาจังก็แข็งอยู่แล้วหนอนจัง โดยเฉพาะส่วนสำคัญ อะ คิดอะรายยย หัวใจไง
หรือว่ากล่องดวงใจ อ๊ะ ไม่ช่ายละ
คุณบุลินทร – สิต้าจังต้องอยู่กับชามารจังตลอดปายยยย ลาก่อนตามิตร จับหนูสิต้าไปละน้า
คุณริญจน์ธร – พี่มิ้งค์อัพช้าสุดอีกแล้ว ใช้สายตามาก นอนตาแฉะเลย ฝันเพ้อถึงตามาร
คุณบาร์บี้ – เสือสมิงออกมาแล้วววว จะเป็นใครเดี๋ยวลองติดตามดูนะฮ้า มาทำหน้าที่แทนท่านอัคนิ
คุณแพทโอเค – เรื่องนี้บอกพระเอกเลย เพราะไม่มีอะไรต้องเดามากแบบเรื่องก่อนๆ ตามิตรจองบทพ่อ
ชัดเจน แต่ฮีก็มีหญิงในใจของฮีน้า รักปักตรึงถึงพบหน้า โอ้ววลา...
ส่วนชามัลอะกอดหนูสิตาราแน่น ไม่ยอมให้ใครแหยมแน่นอน


ริญจน์ธร 26 พ.ย. 2556, 16:32:40 น.
ในที่สุดก็ตามหาโมราพบ การเดินทางเพิ่งจะเริ่มต้นสินะ


patok 26 พ.ย. 2556, 17:05:50 น.
ตามจริง อัคนิ เป็นคน (แมว หรือเสือ) ที่ดีนะ แต่พออ่านเรื่องนี้ บางส่วนของอัคนิที่ถูกถ่าายทอดจากมุมของชามัล ทำให้อัคนิดูใจร้ายอ่ะ สงสารชามัล 55+


ดังปัณณ์ 26 พ.ย. 2556, 18:11:13 น.
ง่ะ! คนใจร้าย ชอบมาทำให้อยากรู้ ชริๆ!

ชาจังจะเท่ห์มั่กเลยน้าคุณแป้ง ถ้าช่วยมิตรโดยจริงใจกว่าเน้! เหอๆ พ่อคู๊นนนนนนนนนนนน พ่อกระหม่อมบาง ใช่ว่าแย่งโมรามา แล้วเผ่นนา ชริๆ ปล่อยให้อิตามิตรปล้ำกะเสือน้อยไป

และ! อัลไลลลลลลลลลลลลลลล กล่องอัลไลลลลลลลลลลลลลล หนอนไม่รู้ วึ้วย ชวนหนอนน้อยออกนอกลู่นอกทาง กระซิกๆๆ มุขนี้เค้าทันน้าาาาาาาาาาาาาา ไม่เหมือนมุขก่อนนั่นหรอก ตอนนั้นไม่รุจิงๆน้าาาาาาาา (เหมือนจะอินโนเซ้นส์! แต่ไม่ใช่ เอ๊ะ!!) รอตอนต่อไปฮ้าบบบบบบบบบ

ปูลม.เหนรูปแระ หนูสิเซะซี่น้าาาาาาาาาาาาาคุณแป้งงงงงงงงง ฮิ้วววววววว ว่าแต่มะไหร่จะโต อิๆ


lovemuay 26 พ.ย. 2556, 18:27:50 น.
ชามัลเก่งอยู่แล้ว สู้เสือได้อยู่แล้ว เนอะ


goldensun 26 พ.ย. 2556, 19:19:59 น.
ตื่นเต้น ลุ้นระทึก มิตรได้โมรารัตติกาลมาอยู่ในมือจนได้ จะถึงจุดเปลี่ยนแล้วสิ ชามัลวางแผนไว้ยังไง มิตรต้องหนีอย่างเดียว สู้ไม่ได้แน่ จะพาสิตาราหนีตอนชามัลสู้กับเสือดำรึเปล่า หรือจะให้เสือดำช่วยพาหนีดี พลังมิตรกับชามัลห่างกันเหลือเกิน


อสิตา 26 พ.ย. 2556, 19:39:31 น.
หวายยยย
รีบตอบเม้นต์จัด เขียนเพลงรักปักตรึงถึงภพหน้าเป็น-พบหน้า เสียชื่อๆๆ
เริ่มหลงรักชามัลกันแล้วใช่ไหมคะ ๆ ๆ ๆๆ ๆๆ สะกดจิต


sai 26 พ.ย. 2556, 20:06:26 น.
ยังๆหรอกคะ ตาชามารยังห่างไกลจากมิตรอีกเยอะเรื่องความน่ารักอ่ะ


ใบบัวน่ารัก 26 พ.ย. 2556, 20:06:37 น.
กับดักเยอะ มิตรสู้ๆๆ


Zephyr 27 พ.ย. 2556, 00:51:23 น.
โอ้ว ว้าวววว พี่มัชฌิม์ อัยยะ มาออกตอนจบ มะม้านี่
ต่ออีกหน่อยไม่ได้รึ เฮียออกกระจึ๋งนึงอ่า
โดนป๊ะป๋าเนรเมศมาเฝ้าถ้ำเหรอววววว เนรเทศน้องไปอยู่กะมิตร
อืม พี่คนโตละ แฟนเฟอร์อยู่หนายยยยยยยย
บังอาจนะ มารี่ เรียก ท่านอัคนิว่าไอ้ได้ไง ไม่ยอมนะๆๆๆๆๆๆ
สิต้า สั่งสอนมารี่ซิ เอาให้ื่อยู่นะ ห้ามออกมาโวยวายล่า
ฮีก็ยังแบดบอยอ่ะ ถึงตอนนี้จะมีน้ำใจช่วยมิตร เพื่อประคำก็เถอะ ก็ถือว่าช่วยนะ
พาพ่อเสืออกมาด้วยสิๆๆๆๆๆ นะๆๆๆๆๆๆๆๆ เสือดำออก เสือส้มละๆๆๆๆๆๆ
เสือส้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม


นักอ่านเหนียวหนึบ 27 พ.ย. 2556, 02:24:47 น.
ร้ายยยยยเต้ออออ
สิต้าต้องไปอยู่กะชาเมาจิงอ่ออออ
หืมมมมม นายคนนั้นไม่พระเอกเลยนะ จะปล่อยสิต้าไปได้จิงอ่อออ
ให้ตามิตรดูแลอีกหน่อยมะดีอ่ออออ
ฮือๆๆๆ ตัดสินใจไม่ได้ จะยุให้อยู่ต่อ ตามิตรก็แก๊แก่ จะยุให้ไป ตาเมาก็ผู้ร้ายอ่ะ ขอตัวเลือกเพิ่มอีกหนึ่งได้ป้ะ
(ประมาณว่า นางยังไม่ฟินกะพระเอกนะ ไรเตอร์เข้าใจช้ะ????)


konhin 27 พ.ย. 2556, 04:41:47 น.
ไม่ได้อยากได้อะไรกับเค้าก็มาเสี่ยงชีวิตด้วย ซวยจริงๆตามิตรเอ้ยยย


เรือใบ 27 พ.ย. 2556, 09:42:13 น.
จุฟฟฟฟ มิตรเอ๊ยยย ทำไมดูดวงกุดอย่างนี้ล่ะ ฮือออ ช่วยมิตรให้ได้นะคะ อย่าฆ่ามิตรของเรือใบน๊าา


Barby 27 พ.ย. 2556, 20:36:02 น.
มิตรอาการหนักเเล้วอ่ะ น่าสงสารจัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account