โมรารัตติกาล {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

-------------------------
ยังเคยยินเรื่องราวของหินโมราแห่งรัตติกาล
พลอยโบราณล้ำค่าที่อาจนำพาใครบางคนหวนสู่อดีตกาล เรื่องของมันอาจถูกกลบฝัง
กร่อนกลืนไปกับเงื้อมเงาแห่งกาลเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนความรับรู้ของผู้คน
แต่กับเขา...
ผู้ซึ่งมีเพียงความแค้น ไม่มีแม้ร่างกาย เป็นแต่เพียงวิญญาณที่ล่องลอยไปในราตรี
เฝ้าเพรียกหาให้อดีตหวนคืนกลับ เพื่อเปลี่ยนวันแห่งความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะ
เวลาผ่านเนิ่นนานนับสิบๆปีจากวันที่เขาตาย
โลกเปลี่ยนแปร แต่ใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนตาม
เขายังคงไม่ไปไหน
แม้จำได้ว่าตนเองเคยมีนาม เคยเป็นใครคนหนึ่งที่ถูกเรียกขานว่าชามัล เมห์ฮรา
แต่ตอนนี้แทบไม่รู้สึกว่านามนั้นคือตนเอง ไม่ได้มีใครเรียกชื่อเขานานมากแล้ว
ตั้งแต่เขากลายเป็นชีวิตไร้ตัวตนในความมืด ที่ยังจำได้ดีคือความแค้นต่อทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่เว้นแม้กระทั่งแค้นตัวเอง ที่พ่ายแพ้ และต้องตาย...
วิญญาณของเขายังรอคอยวันที่มือซึ่งมองไม่เห็นคู่นี้จะเอื้อมคว้าไปถึง
อัญมณีเม็ดนั้นที่จะพาเขากลับไปแก้ไขอดีต
...โมราแห่งรัตติกาล
และคนที่จะนำพาเขาไปถึงมันได้ มีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น


------------------------------------
เรื่องเริ่มต้นที่ร้านอัญมณีเก่าคร่ำคร่า หลายคนเดินผ่านเลยไป แต่มีบางคน...
คนที่ตามหาเท่านั้นจึงจะค้นพบการมีอยู่ของร้าน และเปิดประตูเข้ามา
ตัวร้านเดินทางอยู่ในระหว่างมิติเวลา บางทีมันอาจไปโผล่ที่ตรอกโทรมๆสักตรอกในอนาคต
หรือในซอยคับคั่งย่านเยาวราชที่คนพลุกพล่านเดินผ่าน แต่จะไม่มีใครหยุดสนใจ
นอกเสียจากคนผู้มีชะตาผูกพันกับพลอยทรงอำนาจลึกลับสักเม็ดในร้าน
ท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านที่ชื่อ มิตร เมห์ฮรา

Tags: มนตราอัญมณี มายาไฟในดวงตา ชามัล มิตร สิตารา มัชฌิม์ รัตติดารา สิงหรานี ราศีที่สิบสาม ม่านทิวาพชร มรกตสนธยา

ตอน: บทที่ ๗ แรมสีเลือด สู่บรรพกาล

มัชฌิม์ตั้งใจจะทำสิ่งที่รู้ว่าอาจโดนตำหนิรุนแรงทีหลังโดยไม่กลัว แม้เขาไม่ใช่หนุ่มคะนอง
แต่ด้วยความหยิ่งผยองเกินขีดจำกัดชักพาให้เป็นไป ทายาทอันดับสองของตระกูลเมห์ฮรา
เริ่มกางกั้นเขตอาคม จากแนวป่า เหนือ ใต้ ออก ตก ไกลออกไปถึงพื้นที่เหนือคุ้งทะเลสาบส่วนหนึ่ง
แน่ใจว่าถ้าสู้กันรุนแรงบิดาที่นำคนออกตามหาสิตาราอยู่ในป่าจะต้องรู้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นที่นี่
แต่ถ้ามันเกิดขึ้นภายใต้เขตมนตร์กำบังแน่นหนา ก็จะไม่มีสัญญาณส่งออกไปให้ภายนอกรับรู้ได้เลย
รวมถึงวิญญาณของชามัลก็ไม่อาจหนีหายออกไปพ้นเขตอาคมนี้เช่นกัน

สิตาราวิ่งออกไปยืนห่างรูปเงาของชามัล และไม่เฉียดใกล้คนกึ่งเสือที่เริ่มจะมีแววตาเรืองแสงขึ้นมาอีก
ไฟในตาแตกปะทุคล้ายพร้อมจะจุดระเบิดพุ่งเข้าทำร้ายทำลายกันให้วินาศได้ทุกเมื่อ

ทว่า...เมื่อมัชฌิม์เป็นฝ่ายเปิดฉากพุ่งเข้าใส่ร่างรูปเงา สิ่งที่เกิดมิได้คล้ายกับที่มันเคยเกิด
ภายใต้ขุมทรัพย์แห่งความมืดเลยแม้สักน้อย ชามัลไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายจู่โจมกรงเล็บคมปลาบ
เข้ามาทำร้ายจิตที่รวมตัวของเขาได้อีก แต่กั้นเด็กหนุ่มไว้ด้วยมนตร์ไฟเก่าแก่โบราณทรงฤทธิ์
แม้กายเนื้อแตกดับไปแล้ววิญญาณของเขาก็ยังไม่ลืม ทุกบท ทุกตอนของคาถาที่ท่านปู่ศานติมัน
ผู้นำคนเก่าของเมห์ฮราเป็นผู้ถ่ายทอดมาให้จนแตกฉาน เขาเกิดมาเพื่อเป็นหนึ่ง
ไม่ว่าอยู่หรือตายก็ยังคิดว่าตนเป็นหนึ่งเสมอมา ต่างจากเด็กหนุ่มผู้ที่แม้พยายามเชื่อสักเพียงไหน
ว่าตนแข็งแกร่งดุดัน แต่ที่แท้ในใจแล้วก็คอยแต่จะคิดไปว่าเป็นรองพี่ชาย

เมื่อเป็นดั่งนี้ก็เสมือนมัชฌิม์โจมตีเข้าหากำแพงภูผาของจิตเหนียวแข็งที่ไม่ยอมให้ทะลวงไปได้
ครั้นเพิ่มแรงปะทะมากเข้า กลับเป็นเขาเองที่จะเจ็บเสียอีกด้วย

เสียงหัวเราะก้องของชามัลสะท้านสะเทือนเสียดแทงจนสิตาราที่อยู่ในเขตอาคมยังต้องเอามือปิดหู
กำหนดสมาธิกำบังไม่ให้ตนเองโดนทำร้ายไปด้วยแรงของเสียงนั้น ทว่าในระหว่างที่เขาสู้
ชามัลกลับส่งเสียงเรียกมาถึงเธอด้วยในใจ

‘สิตารา ปลดโมราออกจากสร้อยเดี๋ยวนี้ เอามันออกมาเม็ดหนึ่ง ใกล้เที่ยงคืนแล้ว เราจะไม่เสียเวลา’

เด็กหญิงอยากเหลือเกินที่จะไม่ทำตาม แต่เสียงของผีนรกอย่างชามัลก็แทรกซอนเข้ามา
ลึกเหมือนหนึ่งจะบีบขั้วหัวใจและควบคุมร่างเธออีก มือสั่นๆหยิบสร้อยประคำที่ร้อยด้วย
สายหนังทอเส้นละเอียดยิบออกมาคลายเงื่อนออก หยิบมาถือไว้เม็ดหนึ่ง มือเธอขยับ
ตามคำสั่งเขาก็จริง แต่สมาธิชามัลในเวลานั้นแยกออกเป็นหลายส่วน ที่กำลังปะทะกับมัชฌิม์ก็อีก
ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าจะควบคุมคนที่มีพลังแฝงเร้นอย่างสิตาราได้ทั้งตัว เท้าเล็กจึงพาเธอหนีห่าง
พวกเขาที่กำลังสู้กันในราวป่า สิตาราวิ่งไปจนถึงริมทะเลสาบโดยที่ชามัลไม่ได้หันกลับมาเห็น
เพราะมัวแต่วุ่นกับคู่ต่อสู้ของตน

“เป็นยังไง มัชฌิม์ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ดีใจไหมที่ได้สร้างเขตอาคมไว้เป็นแดนตายของตัวเอง”
ชามัลกรากเข้าหาร่างของหนุ่มน้อยที่เวลานี้ทรุดลงอยู่ในท่าหมอบ กระอักออกมาเป็นเลือดสดๆ
ซึ่งเกิดจากอาการช้ำในเพราะใช้พลังอัดกระแทกเข้าหาชามัลจนแรงนั้นย้อนเข้าตัว

รูปเงาคุกเข่าลงไปใกล้ อุทานเหยียดเยาะเจือกระแสยินดี “จุๆๆ ดูซิ เลือดออกแดงฉาน”
ชามัลว่าแล้วก็เอื้อมมือซีดจางไปรองเลือดที่กำลังหยาดรินไหลหยดก่อนจะหัวเราะเบาๆ
อย่างแสนสมเพช “นี่ถ้าพ่อเจ้ามาเห็นภาพงดงามแบบที่ข้าเห็นคงตะลึงน่าดู”

ชามัลเอื้อมไปบีบคอซ้ำ ออกแรงเค้นจนมัชฌิม์หน้าเบ้ ก่อนเข่นเสียงสบถใส่อีกคำแล้วผละจาก
ไปหาสิตารา ทิ้งเหยื่อไว้เบื้องหลัง เขาห่วงเด็กนั่นกับโมรามากกว่าเด็กหนุ่มน่าสมเพช
ที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อกรอะไรอีก
รูปเงาเล็งเห็นเด็กหญิงยืนตัวสั่นอยู่ที่ริมตลิ่ง เหม่อมองฟากฟ้าสีหม่นเห็นเมฆดำ
มาชุมนุมเป็นเกลียวราวกับกำลังจะเอื้อมเงื้อมมือลงมาถึงตัว พลังธาตุในกายเธอ
กำลังปั่นป่วนลุกโพลงในคืนมืด ต้องอาศัยมันต้านแรงสะกดของชามัล
สิตาราจะไม่ยอมไปกับเขาเด็ดขาด
“ฉันจะอยู่ที่นี่ กับมิตร... ไม่ไปกับผีนรกหน้าไหนทั้งนั้น” สิตาราตะโกนแล้ววิ่งหนี
ทว่าไม่พ้นมือของรูปเงาที่กำลังเดือดดาลและรีบร้อนไปได้

ร่างรูปเงาวูบเข้าสิงสู่ในร่างเล็ก ประทับรอยจนสนิท สิตารามือหนึ่งกำโมราเม็ดสำคัญ
อีกมือกำสร้อยประคำที่ถูกผูกให้ติดกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ดังใจวิญญาณร้ายในร่างเด็ก
ก็โผกลับไปหามัชฌิม์ที่เวลานี้พุ่งเข้ามาถึงริมตลิ่ง ชามัลใช้มือข้างถือประคำนั้นฟาด
เข้าที่หน้าอีกฝ่ายสุดแรง โดยยืมพลังเร้นลับที่อัดแน่นในตัวอัญมณีเป็นตัวสร้างความเจ็บปวด
มัชฌิม์ร้องลั่น กระอักเลือดสดๆออกมาลิ่มใหญ่ พร้อมๆกับที่ชามัลในร่างสิตาราเริ่มสาธยาย
มนตราที่เพียรเสาะหามา มนตร์ที่จะทำให้เม็ดลูกปัดแตกสลาย

โมรารัตติกาลเม็ดสำคัญวูบวาบขึ้นเป็นสีแดงก่ำเรืองรอง เกิดลมหมุนจนน้ำที่ริมตลิ่ง
เริ่มแหวกออกเป็นวงกว้าง พื้นตรงที่พวกเขาอยู่แทบจะแห้งสนิทเมื่อจุดดำค่อยๆปรากฏ
และแหวกช่องออกเป็นวงกลม ชามัลในร่างสิตาราหัวเราะลั่น กำลังจะก้าวเข้าไปอยู่แล้ว
ทว่ามัฌชิม์กลับใช้แรงเฮือกสุดท้ายโผเข้ามายื้อไว้! มือนั้นไขว่คว้ามากระตุกสุดแรงใจ
ด้วยพลังเฮือกที่เหลือ ทีเดียวสายประคำโมราขาดสะบั้น! ลูกปัดกลมหลายสิบเม็ด
ปลิวว่อนอยู่ในลมหมุนคว้าง ท่ามกลางหลุมดำมหึมาที่ก่อเกิด หมุนติ้วรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
และกำลังสูบพวกเขาลงไป

“บัดซบเอ๊ย!” ชามัลอุทานลั่น พยายามตะกายคว้าโมราเอาไว้ให้ได้ทั้งที่มองมันไม่เห็น
ในกระแสหมุนคว้างที่ปั่นทั้งร่างให้ลอยไป ทั้งมัชฌิม์ยังเกาะเอวสิตาราไว้แน่นสุดชีวิต
อย่างไม่ยอมปล่อย โดยเจ้าตัวมันเหมือนจะหมดสติไปแล้วในท่านั้น

เขตอาคมที่ทายาทอันดับสองของเมห์ฮราสร้างไว้พลันแตกสลายออกรอบทิศ
เป็นเสมือนสัญญาณเรียกหาออกไปถึงบิดาที่อยู่ห่างไปในป่า แต่หากจะมีใครมาตอนนี้
ก็นับว่าสายเกินเสียแล้ว

ชามัลแทบเป็นบ้า ในกระแสลมหมุนวน เขาที่สิงอยู่ในร่างสิตาราไขว่คว้าลูกปัดโมรา
ที่ถูกหลุมดำดูดกลืนหายไปไว้ได้เพียงเม็ดเดียว! เหลืออยู่เพียงเท่านี้ พลอยที่เขา
จะใช้เพื่อสร้างร่างจำลอง หมายความว่าจะทำลายมันไม่ได้ จะกลับมายัง
ห้วงเวลาปัจจุบันของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

โชคชะตาที่แสนจะน่าสมเพช...การเดินทางนี้จะมีแค่เที่ยวเดียวไม่มีขากลับ
แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นเขาก็จะเดินหน้าต่อ ทุกอย่างต้องได้ผลคุ้มค่ากับที่ต้องสูญเสียไป!



จากวันที่รู้ข่าวร้ายจนถึงวันนี้ เวลาผ่านมานานนับเดือน
ในร้านที่ดูเหมือนกาลเวลาจะหยุดหมุน มิตร เมห์ฮราหายจากการบาดเจ็บทางกายแล้ว
แต่สภาพทางใจดูเหมือนจะทรุดหนัก เรื่องครั้งนี้มันทำให้เขาหวนไปนึกถึงการสูญเสีย
สตรีอันเป็นที่รักไปถึงสองคน
คนหนึ่งคือคนรัก คนหนึ่งคือบุคคลพิเศษ...สตรีสูงวัยที่มักแวะเวียนมาหาเขาเป็นประจำ
คนรักตายไปต่อหน้า เพื่อนคนพิเศษอีกคนห่างหาย พอรู้ข่าวอีกทีก็พบว่าผู้ชราเสียชีวิตไปแล้ว
ชะตาชีวิตเขาคงมีคำสาป รักผูกพันกับใครก็ดูเหมือนคนคนนั้นจะต้องจากลา...รวมทั้งสิตารา

สำหรับคราวนี้มิตรรู้มานานแล้ว แน่ใจว่าวันหนึ่งจะต้องจากกัน เพราะอะไรน่ะหรือ...
ก็เพราะว่าครั้งหนึ่งที่เขาท่องเที่ยวอยู่ในกาลเวลาครั้งอดีต เขาเคยได้พบกับสิตารามาก่อน
ในสภาพที่โตเป็นสาว! นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้จักเธอ
แต่สำหรับสิตารา เธอกลับดีใจมากมายที่ได้พบเขาและยืนยันว่าเป็นเพื่อนเก่า
เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน เธอเล่าทุกสิ่งที่เกิดให้มิตรฟัง นั่นมันเป็นจุดเริ่มต้น
ของการที่เขาพยายามย้อนกลับไปช่วยเธอในวัยเด็กออกมาจากวงล้อมไฟด้วยซ้ำ

ร้านกาลเวลา ร้านซึ่งพาเขาท่องเที่ยวไป มันไม่ได้จะยอมเดินทางตามที่ต้องการไปเสียทุกครั้ง
อย่างตอนนี้ ไม่ว่ามิตรพยายามอ้อนวอนให้มันย้อนเวลากลับไปยังร้อยปีก่อนเท่าไรมันก็เฉยสนิท
แน่นอนว่าเธอได้กลับไปยังช่วงเวลานั้นเพราะความต้องการของชามัลที่กระสันอยากจะ
โค่นรากถอนโคนเมห์ฮรา เขาไม่รู้ว่ามันจะทำสำเร็จไหม ไม่รู้เลย

ทฤษฎีเวลานั้นมีหลากหลาย ในภาพยนตร์มากมาย เมื่อตัวละครย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนแปลงอดีต
หลายสิ่งในปัจจุบันพลันเปลี่ยนตามไปด้วย แต่มิตรเชื่อว่านั่นไม่ใช่สำหรับเขา ปัจจุบันที่เขาเห็น
และผ่านมานับครั้งไม่ถ้วนเป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เขายังนั่งอยู่ที่เดิม มีความทรงจำแบบเดิมๆ
หากจะมีการย้อนกลับไปเปลี่ยนอดีตได้จริง ผลลัพธ์ของการกระทำนั้นก็คงสร้างโลกใหม่
อาจเป็นโลกคู่ขนานที่แตกแขนงออกไปไม่มีวันมาบรรจบพบเจอ
อดีตที่ถูกเปลี่ยนก็จะกลายเป็นอดีตของโลกนั้น เป็นเรื่องเล่าคนละเรื่องไปโดยสิ้นเชิง
กับเหตุการณ์ที่เขาเคยผ่านพบมาบนโลกใบนี้

ท่านอาอัคนิกลัดกลุ้มไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คืนแรมนั้นท่านตามไปพบซากแห่งการต่อสู้
รอยเลือดของมัชฌิม์ และร่องรอยการข้ามเวลาที่ริมฝั่งทะเลสาบเฟวา
ภายหลังมิตรรั้นตามไปดูที่เกิดเหตุจนได้ และออกตามร้องเรียกหาสิตาราไปทั่ว
ในละแวกนั้นทั้งที่รู้ว่าไม่เป็นผล ก่อนจะแยกจากกัน ท่านอายังเอ่ยกับเขา
‘โชคชะตาบางอย่าง ถึงพยายามฝืนมันแค่ไหนด้วยกรรมใหม่ สุดท้ายวิถีกรรมเก่าอาจชักพาให้เป็นไป
แม้เรามีหน้าที่ขัดขืน เบี่ยงเบนอะไรที่ไม่ถูกต้องให้กลับสู่ความถูกต้อง แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว
เราทำเต็มที่แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ’

มิตรมองยอดเขาอันนะปุรณะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกหิมาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนตัดใจบ่ายหน้ากลับเข้าร้าน ท่านอาคงเจ็บปวดยิ่งกว่าเขา หากพยายามได้มากกว่านี้ท่านคงทำแล้ว
ลูกชายของท่านหายไปในห้วงอดีตด้วยทั้งคนโดยไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่สิตาราก็แทบไม่ต่างจาก
ลูกสาวของมิตร เมื่อแรกที่เขากลับมาที่ร้าน มิตรยังฝันว่าร้านอาจยอมพาเขากลับไปช่วยเธอ
แต่แล้วมันก็ไม่เป็นดังหวัง เมื่อร้านกาลเวลายังนิ่งสนิทอยู่ ณ ปี 2033

มิตรห่วงใยเด็กน้อยที่เขาเลี้ยงดูมาจนน้ำตาลูกผู้ชายถึงกับไหลซึม
เมื่อต้องอยู่ในร้านอัญมณีที่เงียบงันลงแล้ว มันคงไม่มีทางเหมือนเดิมอีก
กับชีวิตที่อ้างว้าง เขาอยากจะจำศีลให้นานขึ้น
นอนหลับไม่ต้องตื่นขึ้นมาเจอความจริงแบบที่ต้องเจอ
และแล้ววันหนึ่งที่เขาตื่นขึ้นมา มิตรสัมผัสได้ถึงกระแสรุ่มร้อนจากดวงแก้วขนาดย่อม
ที่เขาซ่อนไว้ใต้เคาน์เตอร์ที่นั่งประจำ ชายหนุ่มรีบร้อนหยิบมันออกมาดู หินแก้วนี้ช่วยให้เห็นได้
เวลามีใครที่ต้องการพบหรือติดต่อเขาอย่างเร่งด่วน

ภาพที่ปรากฏในลูกแก้วใสขนาดเท่ากำปั้น เป็นใบหน้าน่ารักที่คุ้นเคย
สิตารากำลังเดินทางดั้นด้นไปตามลำพัง ช้าบ้าง เร็วบ้าง ผ่านละแวกป่าและเมืองเล็กๆ
บ้านคนทั้งสภาพความเป็นอยู่ดูโบราณ เด็กหญิงยังมัดแกละสองข้างอย่างที่ทำอยู่ตามปกติ
ทว่าสีหน้าที่เห็นนั้นกลับร้ายกาจ กร้าวแกร่ง เห็นได้ชัดว่าข้างในนั้นยังมีชามัล!
วิญญาณของเด็กหญิงซึ่งถูกกดไว้ข้างในคงจะเป็นตัวเรียกหาเขา อยากให้เขาไปช่วย
แต่มิตรก็ไม่มีปัญญาจะพาตัวเองไปได้...

“สิตารา ฉันขอโทษ ฉันนี่มันไม่เอาไหน ดูแลเธอไม่ได้เลย”
ชายหนุ่มรู้ดี ถึงจะคร่ำครวญไปคำพูดของเขาก็ไม่อาจส่งถึงเธอ

ตลอดเวลาที่เฝ้ามอง ทำให้เข้าใจได้ว่าชามัลกำลังมุ่งไปทางตะวันออก จากโภคราสู่อัสสัม
เดินทางตามลำพังบ้าง ปลอมแปลงตนเป็นเด็กน้อยน่าสงสารเข้าหาชาวบ้านบ้าง
มิตรรู้ว่าจุดมุ่งหมายของอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน หากชามัลต้องการจะมีร่าง
ก็ต้องไปหาคนคนเดียวที่จะช่วยมันได้ ณ วังเมห์ฮรา
มีคนผู้เดียวที่รู้วิชาพันธนาการวิญญาณให้อยู่ในรูปทาสรับใช้แห่งอัญมณี!



ค่ำคืนในป่า ไฟมนตร์ถูกจุดขึ้นด้วยมือของร่างเล็กเพื่อปัดเป่าแมลงรบกวน
จนถึงภยันตรายนานาไม่ให้กรายใกล้ ทั้งที่แต่ก่อนชามัลไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้
แม้มีพลังควบคุมแสงสว่าง แต่เขาเคยมีความมืดเป็นเพื่อนแท้ ทว่าเพราะร่างบอบบาง
ของเด็กผู้หญิงคนนี้ที่จะต้องดูแลให้ดี ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือก

“รอก่อนนะสิตารา อย่ากังวลไปเลย หลับให้สนิทเถอะ ฉันเองก็เบื่อร่างจิ๋วๆอ่อนแอ
ของเธอเต็มแก่แล้ว ถึงเวลาเมื่อไหร่จะรีบคืนให้ทันที”

จากวันนั้นที่ข้ามมายังอดีต ชามัลที่เพิ่งฟื้นคืนสติจากแรงเหวี่ยงมหาศาลในการข้ามเวลา
ไม่พบร่องรอยของลูกชายศัตรูตัวดีที่เกาะติดมาด้วย เหมือนว่าคงจะกระจัดกระจายพลัดพรายไปคนละทาง
อาจมีใครสักคนที่มีอำนาจมาช่วยพาตัวมันไปตั้งแต่ก่อนหน้าเขาฟื้น ชามัลจึงเลิกพะวงถึง แม้ใจยัง
ไม่ลืมเสี้ยนหนามแต่สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการสร้างร่างกายของเขาเองขึ้นมาก่อน

ชามัลดูแลโมรารัตติกาลเพียงเม็ดเดียวที่ยังเหลืออย่างดีที่สุด เที่ยวเสาะหาเส้นวัสดุ
ลงอาคมเหนียวมาร้อยลูกปัด ทั้งยังลงมนตรากำกับไว้หลายชั้นก่อนจะสวมเข้าที่คอสิตารา
ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะให้หินโมราอาถรรพณ์ได้ดื่มเลือดของสิตารา และยอมรับเธอ
เป็นนายของมันตลอดไป

เขาใช้มีดเล่มเล็กที่หามาได้กรีดที่ปลายนิ้วนางข้างซ้าย ก่อนที่หยดเลือดแดงเข้มจะหยดเผาะ
ซึมซาบเข้าไปในโมราที่อาบอิ่มรอยเลือดนั้นเข้าไปสู่ภายในอย่างช้าๆ ความผูกพันที่จะไม่มีวันสิ้นสลาย
ชามัลยิ้มก่อนจะเอนกายลงหลับพริ้มบนคาคบไม้ใหญ่ มือกุมสร้อยโมราไว้ใกล้หัวใจพลางสื่อสารถึงเธอ

“ต้องช่วยกันรักษามันไว้นะ เพราะนี่คือหยดเลือดแห่งชีวิตของเรา ชีวิตที่เราจะใช้ร่วมกัน ตลอดไป...”

‘ฮึ...’ เสียงของเจ้าของร่างที่แท้จริงผู้ซึ่งยังโดนกักบริเวณคล้ายไม่พอใจมาจากในอก
ทว่าเมื่อมาอยู่ในร่าง อยู่ใกล้กับจิตเธอเช่นนี้ ชามัลก็รู้แน่ชัดว่าเด็กหญิงเคยเป็นใคร
ผ่านอะไรมา และที่สำคัญ ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา ไม่ใช่ความเกลียดชังเลยทั้งที่มันควรจะมี
เหมือนกระแสบางอย่างเชื่อมโยงกันลึกซึ้ง อาจเป็นจากช่วงชีวิตก่อนหน้าที่เขาลืมเลือนไปแล้ว
ถ้าได้อย่างนั้นก็ดี เพราะจากนี้ไปเขาจะไม่ยอมปล่อยเธออย่างแน่นอน

ดวงตาแลบประกายแสงสีแดงเลือดอันเกิดจากพลังโมราที่ทรงอำนาจเหนือกาลหรี่ดับ
พร้อมจิตของวิญญาณร้ายที่เคลื่อนสู่นิทรา
นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้หลับลงอย่างสบายใจแบบนี้ คงต้องขอบคุณเธอ...สิตารา



ในขวบปีที่สามสิบเอ็ดของอายุขัย ศานติมัน เมห์ฮราเติบโตเป็นเสาหลักของตระกูล
ช่วยแบ่งเบาภาระบิดาที่มีโรคประจำตัวได้มาก โดยมีอัคนิน้องชายสุดที่รักซึ่งอ่อนวัยกว่าตน
ถึงเก้าปีเป็นเพื่อนคู่คิด เป็นฝ่ายลุยลงมือในภารกิจหลากหลาย ทว่าศานติมันยังคงเป็นสมอง
ส่วนสำคัญที่สุดของเมห์ฮราในเวลานั้น มันเป็นบทบาทที่น้องชายผู้เป็นว่าที่ผู้นำตระกูล‘แบ่ง’ให้เขา
และตอนนี้ชายหนุ่มก็พยายามจะพอใจกับมัน แค่ตอนนี้เท่านั้น...

ศานติมันเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ใช้เวลาชีวิตไปกับการสั่งสมภูมิรู้หลายหลาก
แม้กระทั่งความรู้ที่อาจสาบสูญไปแล้วของชนเหล่าอื่น ถูกกลบฝังด้วยกาลอันผ่านเลย
ก็มีเขานี่เองที่จะดั้นด้นไปขุดค้นเอาปัญญาเหล่านั้นมาปัดฝุ่นทำให้กลายเป็นของตัว

วันเกิด...คือวันที่ผ่านมาเพื่อเตือนตัวเองให้รู้ ว่าเวลาชีวิตข้างวดลงอีกปีแล้ว
ข้าได้ของขวัญวันเกิดปีนี้มากมาย ทั้งที่ใจก็ไม่ได้ยินดีด้วยเครื่องทองของมีค่า
หรืออัญมณีที่ผู้คนเอามากองให้เลย แต่มีสิ่งล้ำค่าอย่างหนึ่ง
ที่ข้าอยากเสาะแสวงหามาเป็นสมบัติแห่งตนให้จงได้

ยังมีเรื่องเล่าถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง ในช่วงเดือนสิบสองของปี สิ่งมีชีวิตโบราณนั้น
จะเคลื่อนกายาจากหลักแหล่งบนยอดภูผาหิมาลัยลงมายังป่าแถบใต้เมืองสิกขิม
เพื่อคายพิษในหุบเขาอันเป็นอ้อมกอดของหิมาลัยตามสัญญาเก่าของเผ่าพันธุ์
อันมีต้นกำเนิดในแดนนี้ และศานติมันก็ดั้นด้นมาลำพังจนถึงที่
ด้วยต้องการชิ้นส่วนสำคัญที่สุดของนาคาเขี้ยวแก้ว ตัวเอกของตำนานดังกล่าวกลับไป

มันเป็นแร่กึ่งอัญมณีอันกำเนิดจากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าจะช่วยเพิ่มความไร้เทียมทาน
ต่อคุณไสยทั้งสิ้นที่มุ่งมาทำลายตัวผู้เป็นเจ้าของ ศานติมันสู้อุตส่าห์ละกิจของตระกูลลงชั่วคราว
รอมแรมมาลำบากลำบน ใช้เวลาวางกับดักซุ่มรอคอยจนได้พบนาคาที่ตัวใสราวกับจะกลืนไปในบรรยากาศ!
ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่โตนัก ความยาวเพียงโบกี้รถไฟสักท่อน พญางูใหญ่ยิ่งกว่านี้ศานติมันยังเคยพบมาแล้ว
แต่ความงดงามของนาคาเขี้ยวแก้วก็ทำให้ตะลึงพรึงเพริดไปด้วยความปีติ เขี้ยวใสตระการตาคู่นั้น
กับความหลงใหลที่ทำให้เผลอไผล มันจึงฉกปลายเขี้ยวลงเฉี่ยวมือเขาจนได้

ความเจ็บปวดราวน้ำแข็งพิษกัดกินลึกเข้ามาในเนื้อ จู่โจมจากบาดแผลสู่ขั้วหัวใจ
แม้รู้จักสมุนไพรที่อาจมาล้างพิษ ทว่าร่างกายไม่อาจขยับ ศานติมันตระหนกตกใจ
เมื่อรับรู้ความจริงที่ว่าตนพลาดเสียแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ใครเลยจะรู้
นี่มันอาจปลิดชีวิตของเขาลงเลยก็ว่าได้!

ทว่าคนสำคัญแห่งเมห์ฮราก็ได้แต่ระงับความกังวลนั้นลง
นั่งแน่นิ่งเพื่อเดินกระแสพลังปราณขับพิษ ผิวกายค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ
เหงื่อออกทั่วร่างราวกับตาน้ำผุด ธาตุในกายแตกซ่านและรู้สึกอยู่ในใจ
ว่าหากไม่พยายามลุกไปหายาแก้พิษให้ได้เดี๋ยวนี้ ตนอาจไม่ได้อยู่ถึงวันแห่งอำนาจที่รอคอย

“ท่านถูกพิษ...”
เสียงหนึ่งซึ่งไม่คุ้นเคยดังขึ้นปลุกศานติมันจากห้วงความทรมานที่ทั้งรุ่มร้อนและหนาวเยือกเย็น
เสียดขั้วกระดูกสลับกันไป ชายหนุ่มเงยหน้านิดหนึ่ง มองผ่านผมยาวหยักศกที่รุ่ยร่ายมาปิดใบหน้าตนไว้ครึ่งๆ
ที่อยู่ต่อหน้าเขาคือร่างเล็กๆผอมๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าของตาโตสวย
ทว่าสำเนียงพูดนั้นกลับฟังเจ้าเล่ห์ราวกับเสียงเด็กผู้ชาย

ศานติมันยิ้มเอ็นดู เด็กนี่จะโผล่มาทางไหนไม่รู้ได้ บางทีอีกฝ่ายอาจช่วยเขาให้รอด
เขาจะต้องใช้ประโยชน์จากเด็กตรงหน้าให้ได้ ถ้าเพียงแต่บอกให้ไปเก็บสมุนไพรมาถูกชนิด
ทว่าความหวังดูจะริบหรี่เต็มที เมื่อลิ้นของชายหนุ่มคล้ายจะชาแข็งไปเสียแล้ว
กว่าจะอ้าปากขึ้นก็ช้าเกินการณ์

“รออยู่ตรงนี้ ข้าจะไปหายามาให้”
เด็กนั่นว่าแล้วแผล่วหาย

“ด...ดะ เดียว...เดี๋ยว” ช้าไปแล้ว กว่าเสียงจะลอดพ้มริมฝีปากอีกฝ่ายก็ไปไกลเกินจะได้ยิน
ศานติมันแทบถอดใจ ทางรอดเพียงหนึ่งเดียวโจนหนีไปต่อหน้า เด็กแปลกหน้าคนนั้นไม่มีทางแยกแยะ
สมุนไพรธรรมดากับชนิดพิเศษที่จะนำมารักษาพิษในลักษณะนี้ได้ สติของชายหนุ่มผู้เคยทระนง
ในปัญญาว่าเหนือว่าผู้ใดเริ่มเลือนรางลง จนที่สุด...เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลย


-------------
คนเขียนน็อก(เพราะงาน เลยมาช้า อ่อก)
แต่ก็มาแล้วนะคะ
อสิตา




อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ธ.ค. 2556, 16:48:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ธ.ค. 2556, 16:54:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 1568





<< บทที่ ๖ รอคอย ณ ทะเลสาบไร้เงา   บทที่ ๗ แรมสีเลือด สู่บรรพกาล (...จบบท) >>
อสิตา 6 ธ.ค. 2556, 16:54:45 น.
คุณเกดซ่าผู้น่ารัก – เย็นวันศุกร์ จะยังมาเร็วเหมือนเดิมไหมน้า... ตอนนี้เสือน้อยดดนชามัลตุ๋ยเบย โดนแว้วๆๆ
คุณริญจน์ธร – ข้าคิดนิยาย+นอนเพลินง่ะ มาช้าเลย ชิๆ พี่มูนไปเที่ยวแล้ว คงไม่รู้
คุณบุลินทร – มิตรของสิตา แปลว่า “เพื่อน”ของสิตารา เหอๆ
คุณดวงมาลย์ งานไม่ทัน ยังไม่มีเวลาลดดด ไม่มีเวลาคว้านอะไรทั้งนั้น
คุณหนอนน้อย – นอกจากตอนก่อนสั้น ตอนนี้ยังมาช้าด้วย ช่วงนี้บีซี่นี่นา เมื่อวานกลับดึก

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – ภาคที่แล้วได้อ่านใช่ไหมคะ ชามัลชั่วมาก โผล่มาดีเลยก็แย่สิน่า
เอาเป็นว่ามันคือการเดินทางเพื่อการเรียนรู้ของวิญญาณดวงหนึ่ง หรืออาจจะมากกว่านั้น
คุณใบบัวน่ารัก – ในภาคก่อนเคยบอกไว้ว่าอัคนิมีลูกสามคนค่ะ อัครา มัชฌิม์ และลูกสาว
ที่ตอนแรกไม่ได้ชื่ออัคนีมายา แต่เพราะมีศัตรูชาติปางก่อนตามมาเลยเปลี่ยนเป็นชื่อนี้


อสิตา 6 ธ.ค. 2556, 17:00:21 น.
คุณเฟอร์ เมห์ฮรา – ทำไมมัชฌิม์จะเป็นเด็กแบบนี้ไมได้ มะม้าไม่เคยเขียนตัวละครเกิดออกมาก็ผ่องใส
สวยหรูไม่ต้องมีพัฒนาการหรอกนะ - - แบบนั้นไม่รู้จะเขียนทำไม... ตอนนี้อายุ16ตะหาก
เดี๋ยวก็โตเอง ก็เห็นพูดถึงงูตั้งเยอะนี่นาตอนท้ายๆ ยังไงก็อดไม่ได้ละน่า
คุณก้อนหิน – ชามัลนี่แหละค่ะพระเอก คนเขียนยิ้มชั่วร้าย เอ แต่คนเขียนก็เป็นโรคชอบหลอกคนอ่านนะคะ
คุณโกลเด้นซัน – ถูกแล้วค่ะ มัชฌิม์ก่อเรื่องใหญ่ทีเดียว วัยรุ่นก็งี้ ส่วนนักบวช เดี๋ยวคงออกมา ตอนนี้ให้ปู่มีบทก่อน
คุณเมล็ดทานตะวัน – แหม หนุ่มน้อยนี่ไม่เรียกตัวป่วนนะ แต่ก็ดุสมตัวอยู่เหมือนกัน
คุณเรือใบ – พระเอกอยู่แถวนี้ละค่ะ คนแปลกๆหรือ แค่เป็นเสือเอง งั้นอัคนิก็แปลกด้วย
อันที่จริงไม่ชอบเขียนเรื่องคนปกติอยู่แล้วค่ะ แหม 55
คุณเกดซ่า หายไปไหนนนนน


ketza 6 ธ.ค. 2556, 17:04:20 น.
มาทีเผลอ แต่ท่านพี่ชามัลก็มาแว้วว ม๊วบบบบบบบบ


ketza 6 ธ.ค. 2556, 17:05:47 น.
เกดซ่ามาแว้วคร๊า............ เกดซ่าอยากเป็นคนแรกของท่านพี่ชามัล
มามะมาจุ๊บทีนึง >////////<


ketza 6 ธ.ค. 2556, 17:44:53 น.
ท่านพี่โหดเกิ้น.... เกดซ่ากลัวแระน๊า... แข้งขาอ่อนสั่นพั่บๆๆๆๆ

..... ดูท่าความโหดจะอัพขึ้นอีกเรื่อยๆ เหอๆๆๆ
พ่อเสือน้อยเป็นไงมั่ง.... ท่านพี่อัคนิมาช่วยลูกชายด่วนนน


อสิตา 6 ธ.ค. 2556, 17:54:09 น.
วันศุกร์นี้คนหนีไปเที่ยวกันหมดแล้ว ยังดีที่มีเกดซ่า //กัดผ้าเช็ดหน้า


Zephyr 6 ธ.ค. 2556, 18:47:17 น.
มีมาสร้างบุญคุณกะปู่ในอดีตด้วย เด็กเกเร
ตายละ มัชฌิม์ไปโผล่โลกไหนละเนี่ย ยังบาดเจ็บอยู่ด้วยนะ เมี้ยววววว เอ้ย โฮกกกก
กลับมามะ ปะป๊าเป็นห่วง มะม้าห่วงมั้ง ไม่ออกเลยนี่หว่า ปล่อยปะป๊าฉายเดี่ยวววว
มารี่ เริ่มพันผูกสิต้าเรอะ เหม่ กรีดเลือดเค้า ขออนุญาตรึยัง ใช่ว่าอยากกรีดก็กรีดหนิ
บังคับขืนใจชัดๆๆๆๆ อัญมณีของเรา โหยยยย ใช้คำว่าเราเป็นด้วย ชิชะ


ดวงมาลย์ 6 ธ.ค. 2556, 19:23:57 น.
มาช้าาาาา ดีนะที่น่ารัก ยอมให้อภัย


SunSeed 6 ธ.ค. 2556, 19:43:55 น.
มาแล้วววว (มาซ๊ากกกที) รอลุ้นอยู่ว่าพี่แป้งจะลงวันไหน อิอิ


goldensun 6 ธ.ค. 2556, 20:31:59 น.
รู้สึกว่า การเดินทางย้อนอดีต จะแก้อดีตไม่ได้นะคะ ถ้าชามัลไม่พาสิตาราย้อนมา ก็เท่ากับว่า ศานติมันต้องตายเพราะพิษนาคาเขี้ยวแก้วแล้วสิ ที่ย้อนอดีตเพราะกรรมผูกพันรึเปล่า แล้วทำไมไม่กรีดเลือดกับโมราตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เหลือเม็ดเดียวค่อยมาทำ อย่างว่า อดีตเปลี่ยนไม่ได้แน่เลย
แล้วมัชฌิม์ไปอยู่ที่ไหนกัน เจ็บหนักซะด้วย ใครจะช่วย ถ้าหายงานนี้ นิสัยจะเปลี่ยนรึเปล่า


บุลินทร 6 ธ.ค. 2556, 21:45:17 น.
มาอยู่เป็นเพื่อนพี่มิ้งค์แว้วววว


ดังปัณณ์ 6 ธ.ค. 2556, 22:41:43 น.
แง่ะ! มาทำเสือน้อยของเค้าทำม้ายยยยยยยยยยย ชาจัง แก๊! แกล้งเด็กนี่มีความสุขมากเลยหรือไงยะ! แว้ดๆๆๆ

เอาล่ะ...หายโกดแระ ดีนะที่ชาจังดูแลหนูสิดี เห้อออออออออออออออออ อัลไลจะเกิดขึ้น โมราเหลือแค่ลูกเดียว แล้วจะทำอัลไลได้ แล้วเสือน้อยของเก๊าล่ะหายไปไหน กระซิกๆๆ

หม่ามี้ชาจังใจร้าย คุณแป้งอ่ะซาดิสต์อ่ะ ฮือๆ ฝากบอกชาจังด้วย ห้ามร้ายกะหนูสินะ ไม่งั้นจะหิ้วค้อนมุดคอมฯไปทุบหัว


konhin 6 ธ.ค. 2556, 23:26:17 น.
อย่างน้อยก็แปลว่าซักวันสิตาจะพ้นภัย เพราะอย่างน้อยก็ได้โตมาเจอมิตรอีกรอบ


นักอ่านเหนียวหนึบ 6 ธ.ค. 2556, 23:39:15 น.
โหยยยย เข้าใจละ ว่าทำไมเราไม่ควรไปเปลี่ยนอดีต และไม่ควรไปล้ำเส้นอนาคต
แค่คิดก็อีนุงตุงนังจะแย่แล้ววว
ดูอย่างตามิตรซิ ไปป๊ะกะหนูสิตอนโตมาแล้วนี่เอง ชอบเค้าชะม้าาาา คิๆๆๆ
แต่สุดท้าย บุญกรรมที่ทำกันมาก็พาให้ทุกอย่างเป็นไป
ว่าแต่หนูสิไปผูกพัน รักใคร่ ไยดี อัลไลกับตาชามัวนั่นกันเล่า (อ่านแล้วนะค้า ภาคที่แล้ว ถึงได้แอบคิดว่า คนเลวขนาดนั้นจะมาเป็นคนดีได้จิงเหรอ หรือพระเอกเรื่องนี้เป็นคนโฉด!!!!)
เสือน้อย มือกาวของเรา เดี๋ยวนายจิต้องมีบทบาทออกมาอีกชะม้าา รอๆๆๆ


pkka 7 ธ.ค. 2556, 21:36:57 น.
ตามมาอ่านด้วย ชามัล มารอบนี้ร้ายกว่าเดิมอีก รังแกแม้กระทั่งเด็ก!


เรือใบ 9 ธ.ค. 2556, 09:26:03 น.
คู่จิ้น มัชฌิช์กะสิตารา หุหุหุ หากันให้เจอไวๆนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account