โมรารัตติกาล {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!
-------------------------
ยังเคยยินเรื่องราวของหินโมราแห่งรัตติกาล
พลอยโบราณล้ำค่าที่อาจนำพาใครบางคนหวนสู่อดีตกาล เรื่องของมันอาจถูกกลบฝัง
กร่อนกลืนไปกับเงื้อมเงาแห่งกาลเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนความรับรู้ของผู้คน
แต่กับเขา...
ผู้ซึ่งมีเพียงความแค้น ไม่มีแม้ร่างกาย เป็นแต่เพียงวิญญาณที่ล่องลอยไปในราตรี
เฝ้าเพรียกหาให้อดีตหวนคืนกลับ เพื่อเปลี่ยนวันแห่งความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะ
เวลาผ่านเนิ่นนานนับสิบๆปีจากวันที่เขาตาย
โลกเปลี่ยนแปร แต่ใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนตาม
เขายังคงไม่ไปไหน
แม้จำได้ว่าตนเองเคยมีนาม เคยเป็นใครคนหนึ่งที่ถูกเรียกขานว่าชามัล เมห์ฮรา
แต่ตอนนี้แทบไม่รู้สึกว่านามนั้นคือตนเอง ไม่ได้มีใครเรียกชื่อเขานานมากแล้ว
ตั้งแต่เขากลายเป็นชีวิตไร้ตัวตนในความมืด ที่ยังจำได้ดีคือความแค้นต่อทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่เว้นแม้กระทั่งแค้นตัวเอง ที่พ่ายแพ้ และต้องตาย...
วิญญาณของเขายังรอคอยวันที่มือซึ่งมองไม่เห็นคู่นี้จะเอื้อมคว้าไปถึง
อัญมณีเม็ดนั้นที่จะพาเขากลับไปแก้ไขอดีต
...โมราแห่งรัตติกาล
และคนที่จะนำพาเขาไปถึงมันได้ มีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น
------------------------------------
เรื่องเริ่มต้นที่ร้านอัญมณีเก่าคร่ำคร่า หลายคนเดินผ่านเลยไป แต่มีบางคน...
คนที่ตามหาเท่านั้นจึงจะค้นพบการมีอยู่ของร้าน และเปิดประตูเข้ามา
ตัวร้านเดินทางอยู่ในระหว่างมิติเวลา บางทีมันอาจไปโผล่ที่ตรอกโทรมๆสักตรอกในอนาคต
หรือในซอยคับคั่งย่านเยาวราชที่คนพลุกพล่านเดินผ่าน แต่จะไม่มีใครหยุดสนใจ
นอกเสียจากคนผู้มีชะตาผูกพันกับพลอยทรงอำนาจลึกลับสักเม็ดในร้าน
ท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านที่ชื่อ มิตร เมห์ฮรา
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!
-------------------------
ยังเคยยินเรื่องราวของหินโมราแห่งรัตติกาล
พลอยโบราณล้ำค่าที่อาจนำพาใครบางคนหวนสู่อดีตกาล เรื่องของมันอาจถูกกลบฝัง
กร่อนกลืนไปกับเงื้อมเงาแห่งกาลเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนความรับรู้ของผู้คน
แต่กับเขา...
ผู้ซึ่งมีเพียงความแค้น ไม่มีแม้ร่างกาย เป็นแต่เพียงวิญญาณที่ล่องลอยไปในราตรี
เฝ้าเพรียกหาให้อดีตหวนคืนกลับ เพื่อเปลี่ยนวันแห่งความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะ
เวลาผ่านเนิ่นนานนับสิบๆปีจากวันที่เขาตาย
โลกเปลี่ยนแปร แต่ใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนตาม
เขายังคงไม่ไปไหน
แม้จำได้ว่าตนเองเคยมีนาม เคยเป็นใครคนหนึ่งที่ถูกเรียกขานว่าชามัล เมห์ฮรา
แต่ตอนนี้แทบไม่รู้สึกว่านามนั้นคือตนเอง ไม่ได้มีใครเรียกชื่อเขานานมากแล้ว
ตั้งแต่เขากลายเป็นชีวิตไร้ตัวตนในความมืด ที่ยังจำได้ดีคือความแค้นต่อทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่เว้นแม้กระทั่งแค้นตัวเอง ที่พ่ายแพ้ และต้องตาย...
วิญญาณของเขายังรอคอยวันที่มือซึ่งมองไม่เห็นคู่นี้จะเอื้อมคว้าไปถึง
อัญมณีเม็ดนั้นที่จะพาเขากลับไปแก้ไขอดีต
...โมราแห่งรัตติกาล
และคนที่จะนำพาเขาไปถึงมันได้ มีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น
------------------------------------
เรื่องเริ่มต้นที่ร้านอัญมณีเก่าคร่ำคร่า หลายคนเดินผ่านเลยไป แต่มีบางคน...
คนที่ตามหาเท่านั้นจึงจะค้นพบการมีอยู่ของร้าน และเปิดประตูเข้ามา
ตัวร้านเดินทางอยู่ในระหว่างมิติเวลา บางทีมันอาจไปโผล่ที่ตรอกโทรมๆสักตรอกในอนาคต
หรือในซอยคับคั่งย่านเยาวราชที่คนพลุกพล่านเดินผ่าน แต่จะไม่มีใครหยุดสนใจ
นอกเสียจากคนผู้มีชะตาผูกพันกับพลอยทรงอำนาจลึกลับสักเม็ดในร้าน
ท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านที่ชื่อ มิตร เมห์ฮรา
Tags: มนตราอัญมณี มายาไฟในดวงตา ชามัล มิตร สิตารา มัชฌิม์ รัตติดารา สิงหรานี ราศีที่สิบสาม ม่านทิวาพชร มรกตสนธยา
ตอน: บทที่ ๙ คู่ผจญกรรม
ชามัลพาสิตาราลัดเลาะลงใต้พ้นเขตอัสสัม ตั้งใจจะใช้ความอดทนกล่อมลูกเสือลูกตะเข้
ที่มีดวงตาเหมือนกวางตัวนี้ให้เชื่อง แต่ดูเหมือนจะยาก เพราะแม้แต่ตอนกินอาหาร
แทะเนื้อติดกระดูกในมือไปเด็กหญิงยังแง่งๆ มองหน้าเขา เข่นเขี้ยวไปพลาง
คือไม่อิดออดที่จะกินอาหารที่เขาหามาให้ ทว่ามือทึ้ง ฟันกัด ทั้งกระชาก
คล้ายว่าเนื้อนกหนูหรือตัวอะไรตามแต่เขาจะหามานั้นเป็นแขนขาของชามัลเสียเอง
สิตารายังโกรธที่เขาพรากเธอมาจากไอ้ผู้ชายชื่อมิตร
“ดีที่เรามาถึงก่อนช่วงเวลาที่มันจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแถบนี้ ตอนนี้อินเดียยังไม่เป็นอิสระจากอังกฤษ
ยังอีกหลายปี แต่ถึงตอนนั้นเราก็ไปพ้นจากที่นี่แล้ว...” ชามัลรู้ดี พวกเมห์ฮราให้ความสนับสนุน
ในเรื่องนี้แค่ไหน ตระกูลนี้ก็ยังเรียกว่ามีความเป็นชาตินิยมอยู่มากแม้จะปลีกตัวแยกออกมาจากหมู่เหล่า
แต่เรื่องนั้นจะเป็นยังไงมันไม่สำคัญสำหรับเขา ไม่อยู่ในความสนใจ
จุดมุ่งหมายของเขาอยู่ทางทิศใต้ ในช่วงเวลาที่เคยเป็นวิญญาณเร่ร่อน เคยยินมาว่าสถานอันเป็น
ที่ลับของเหล่ารัตติดารานั้นเร้นอยู่ยังเกาะหนึ่งในอ่าวไทย ถูกอำพรางไว้ในเขตแดนรัตติกาล
...เมื่อกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเร้นลับ การพาเด็กสักคนเดินทางดูจะง่ายกว่ายามเป็นรูปเงามาก
แต่สมัยร้อยปีในอดีตนี้ก็ใช่ว่าจะสะดวกดาย กับระยะทางอันยาวไกลข้ามประเทศก็ยังต้องอาศัย
การเดินทางแบบมนุษย์เป็นตัวช่วย ยังมีเวลาเหลือเฟือ เขาอยากจะศึกษาโลกอดีตนี้ให้มาก
ที่สำคัญสิตารายังไม่วางใจเขา ชามัลเลยไม่รีบร้อนลงไปให้ถึงยังฝั่งทะเลอ่าวเบงกอลเร็วนัก
อาจฟังดูเหมือนตลกร้าย แค่ชื่ออ่าวก็เหมือนเสือแล้ว ฟังดูอัปมงคลสำหรับเขาอย่างไรพิกล
“ฉันต้องมาติดอยู่ที่นี่ถาวร ทั้งที่คิดว่าทำภารกิจเสร็จแล้วจะได้รีบกลับไปชมผลการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ราคาที่ต้องจ่ายให้กับการกลับมามีร่างกาย บางทีมันก็แพงกว่าที่คิดมากนัก ไอ้ยุคสมัยของเธอนี่มัน
หลังเขาสิ้นดี แต่เอาเถอะ ยังไงฉันก็ต้องอยู่ เรามาเรียนรู้โลกไปพร้อมๆกัน”
“หึ” สิตาราส่งเสียงไม่พอใจ เธออยากกลับมายังห้วงเวลาของตัวเองก็จริง...แต่เป็นกับมิตร
ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ เคยหวังว่าสักวันหนึ่งร้านกาลเวลาจะยอมพาเธอกลับบ้าน มิตรบอกว่ามัน
ไม่ค่อยฟังเสียงของใครมากไปกว่าเสียงของชะตากรรมที่ควรเป็นไป ถ้าโชคชะตาไม่เปิดทาง
ไม่ว่าจะขอร้องแค่ไหนร้านกาลเวลาอันแสนลึกลับก็จะนิ่งเฉยเหมือนไม่รับรู้ แต่สุดท้าย
เธอก็ได้กลับมาจริงๆ โดยทางอื่น และโดยไม่เต็มใจเอาเสียเลย!
“เราจะล่องลงไปตามแม่น้ำพรหมบุตรนี่แหละ เด็กอย่างเธอจะรู้ไหม มันเป็นแม่น้ำที่ไหลมา
ยาวไกลมาก จากธิเบต ผ่านจีน ตัดผ่านเทือกหิมาลัยมาทางโกรกธารใหญ่...จนมาถึงอัสสัมนี่
แล้วมันก็จะพาเราลงใต้ไปได้จนถึงทะเล”
“แล้วไง” สิตาราถามกวนๆ ฟ้าเริ่มมืดลง เธออิ่มอาหารนานแล้วแต่หันมาง่วนกับการกัด ทึ้ง
หมายดึงสร้อยหนังให้ขาด หลังจากแผนทดลองเอาหินมาเถือไม่เกิดผลอันใด เจ้าของร่างเล็ก
ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาพยายามเอาโมราเม็ดหายนะออกพ้นคอ
“เสียแรงเปล่า ถ้ามันขาดก็แปลกละ นอกเสียจากว่าเธอจะยอมตาย เป็นกระสือถอดหัวออกมายังง่ายกว่า
...นี่ฉันพูดอะไรเกินความเหมาะสมกับหูเด็กไปหรือเปล่า โทษทีนะ ไม่ชินกับพวกผ้าขาวเท่าไหร่”
ชามัลหัวเราะในคอ แม้พยายามระลึกว่ายามมีชีวิตตนเชี่ยวชาญการทำให้ผู้หญิงทุกวัยติดใจสักแค่ไหน
แต่กับเด็กยุ่งแบบนี้ แรงจูงใจมันช่างต่ำเสียจริงๆ
สิตาราถอนหายใจแรงอย่างเบื่อๆ มองครึ่งคนครึ่งสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เดินทางร่วมกับตนอย่างไม่ไว้ใจ
แต่อีกใจก็รู้สึกว่าเป็นความท้าทายที่จะศึกษาตัวตนของเขาให้รู้ซึ้ง ความเป็นมาทั้งหมด รวมถึง
จุดมุ่งหมายในใจ ถ้าเด็กสักคนจะมีปัญญารู้และเข้าใจได้...
บางค่ำคืนที่เธอแกล้งหลับ เด็กหญิงแอบเห็น ตาของชายคนนี้ที่ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน
เรืองวาวเป็นสีแดงก่ำ ก่อนที่ร่างเขาจะค่อยๆขด กลายเป็นงูดำมะเมื่อมตัวมหึมา!
นั่นคืออีกร่างของชามัล ที่คงถูกสร้างขึ้นมาโดยอาศัยแรงผูกพันธนาการกับโมราเม็ดทรงอำนาจ
ว่าแต่ทำไมจะต้องเอามาแหมะไว้รอบคอเธอด้วย ไม่เห็นอยากมีเอี่ยวด้วยสักนิดเลย ทำไมเขา
ไม่เลือกคนอื่น เป็นความซวยของเธอจริงๆ
ดูคล้ายเขาพยายามจะทำตัวให้เหมือนมนุษย์ แต่สิตาราไม่คิดเช่นนั้น ดวงหน้าชายหนุ่มงามคมน่ามอง
แฝงรอยเจ้าเล่ห์อย่างร้าย พอมีร่างใหม่นี้แทนร่างรูปเงา สิตาราก็เห็นรอยแผลเป็นนั่นชัดขึ้น รอยกรงเล็บสมิง
จากที่เขาเคยบอก บนใบหน้าซีกซ้าย รอยมันพาดผ่านดวงตาของเขา ตั้งแต่เหนือคิ้วลงมาถึงแก้มเลยทีเดียว
กับอีกรอยเป็นขีดไม่ชัดเจนเท่ารอยแรก อยู่ตรงมุมปาก ที่ยิ่งขับให้สีหน้าเขาเหมือนเยาะหยันโลกทั้งใบ
“เฮอะ ก็ตลกดีนะ อุตส่าห์ได้ร่างใหม่ทั้งที” สิตาราเริ่มยั่วด้วยน้ำเสียงร้ายกาจเกินเด็ก “แต่น่าสงสาร
รอยแผลเป็นดันติดหรา ไม่รู้ว่าตาลุงนั่นไม่เก่งจริงหรือเจ้าของร่างลืมไม่ลงว่าตัวเองเคยแพ้ใครมา”
ชามัลหัวเราะหึๆในคอ ก่อนหันมามองจับจ้องเด็กหญิงตรงๆ “ไอ้มิตรมันเลี้ยงดูเธอมายังไง
หรือเปิดให้ดูพวกละครน้ำเน่า ถึงปากตะไกรว่าผู้ใหญ่ฉอดๆได้อย่างนี้ ไอ้มิตรมันไม่สั่งสอนหรือไง”
สิตารายิ้มมุมปากร้ายกาจ ก่อนลุกขึ้น เดินไปยืนกอดอกอยู่ต่อหน้าชามัล
ทั้งที่ลึกๆแล้วก็กลัวเขาจะคว้าตัวไปทำโทษอยู่ไม่น้อย “ฉันนับถือผู้ใหญ่ที่น่านับถือ
เห็นมิตรเป็นอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วเป็นคนดีมากนะ เขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คนอื่นเสมอ
ไม่เหมือนบางคน บังคับคนอื่นให้ทำแต่สิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง”
พอมาถึงตรงนี้ชามัลก็หัวเราะขำ นึกชิงชังแต่ก็อยากเลี้ยงเด็กคนนี้ให้เชื่องขึ้นมาให้จงได้
เขาตบที่นั่งข้างตัวแล้วจ้องตาเธอ
มองตาสีน้ำตาลทองแล้วสิตาราก็รู้ว่าทานอำนาจเขาไม่ได้ สายตานั้นจับจ้องมาราวกับตางู
เธอกึ่งๆไม่อยากจะยอมรับว่ากำลังตกอยู่ในอำนาจเขาจึงหลุบตาลงมองพื้นเสีย ตอนแรกทำท่า
จะเดินไปนั่งลงข้างๆตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง พอชามัลยื่นมือมาจะคว้าต้นแขนเด็กหญิงก็แอ่นตัวหลบวูบ
จนเขาขำ แต่ที่สุดก็ยอมนั่งลง ...แม้อยากเกลียดผู้ชายที่ชื่อชามัล แต่ใจเธอกลับจดจ่ออยู่กับเขา
ไม่ใช่ความหลงใหล แต่เป็นความสนอกสนใจในความไม่อาจคาดเดาของคนตรงหน้า
ชามัลหยิบเครื่องสายที่ถูกห่อไว้ในถุงผ้าเนื้อดีออกมาอวดสิตาราเป็นครั้งแรก
เด็กหญิงตาโตเมื่อเห็นมันชัดๆ แม้จะพอเดาได้อยู่แล้วว่าข้างในเป็นเครื่องดนตรี
“กีตาร์...”
“ของละติน... กีตาร่า ลาติน่า” ตั้งแต่วูบแรกที่เห็นเครื่องสายชิ้นนี้ เขาพลันนึกไปถึงกีตาร์ที่มิตรเคยบอก
ว่าสิตาราชอบฟังจนต้องหอบหิ้วรุงรังไปด้วยกันบนภูเขาหิมะ เคยว่าไอ้หมอนั่นมันโง่ แต่ถ้ายายเด็กนี่
อยากถูกเลี้ยงด้วยวิธีโง่ๆ ก็ต้องลองตามใจดูสักตั้ง!
เครื่องดนตรีชิ้นนี้ดูเผินๆก็เหมือนกีตาร์ แต่รู้สึกว่าตรงคอที่พาดสายนั้นออกจะสั้นกว่าอยู่เล็กน้อย
ส่วนโพรงกลมตรงเสียงออกก็กลับเจาะเป็นรอยฉลุเนื้อไม้ทะลุลงไป เป็นรูปคล้ายดอกไม้สวยๆ
หลายแฉกเสียแทน
“ดนตรีไม่เหมาะกับคนเลว”
สิตารายักไหล่ รำพึงกวนๆเมื่อเห็นว่าชามัลกำลังลองเสียงจากแต่ละเส้นสายนั้นดู
“ดนตรีเหมาะกับมนุษย์ทุกคน...”
ชามัลว่าแล้วก็ลองเล่นโน้ตเพลงที่จำได้ ตัวเขาเองบอกตรงๆก็ต้องเรียกว่าถูกฝึกมาให้เก่งหลายด้าน
ดนตรีย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แม้ไม่ค่อยได้หัดและเคยเล่นเพลงมาไม่มาก แต่แค่นึกถึงเสียงดนตรีสมองก็
เปลี่ยนมันออกมาเป็นคอร์ดได้โดยไม่ต้องคิด ด้วยทักษะการเรียนรู้และประสาทอันว่องไวทำให้ฝีมือเขา
ไม่ใช่ชั่ว อารมณ์ก็ใช่ว่าจะสิ้นไร้ แต่ยายเด็กสิตารากลับมองแล้วเบ้ปาก ยังกับว่าฝีมือเขางั้นๆเสียเต็มประดา
“เล่นเป็นแค่นี้ยังแค่นจะเล่น มิตรเก่งกว่าเยอะเลย”
“อย่าเอาแต่พูดถึงคนที่ไม่มีตัวตนหน่อยเลย อย่างน้อยตอนนี้มิตรของเธอก็ยังไม่เกิด
ถ้าบอกว่ามันเป็นลูกของคนชื่อศานติมันที่เราเพิ่งแยกจากมาจริงน่ะนะ”
“ใครกันแน่ไม่มีตัวตน”
“ฉันก็นั่งยิ้มหน้าหล่ออยู่ต่อหน้าเธอนี่ไง”
สิตาราขมวดคิ้ว เบ้ปากอย่างขยะแขยง ก่อนจะดึงเครื่องดนตรีจากมือเขา
ซึ่งชามัลก็ยอมปล่อยให้ง่ายๆ คล้ายอยากรู้ว่าเด็กอย่างเธอจะทำได้แค่ไหน
ทว่าเมื่อเพลงเริ่มขึ้น คนซ่อนร่างงูที่รอฟังอยู่ก็เลิกคิ้วอย่างหลากใจ เด็กคนนี้เก่งกว่าเขา
และทำท่าจะว่าถ้ามีเวลาหัดดีๆคงจะไปได้ไกล เสียแต่เขาคงให้เธอทำอย่างอื่นมากกว่าเล่นดนตรี
จะยอมแค่เวลาว่างก็แล้วกัน
นิ้วเล็กๆกดเส้นสาย บรรเลงท่วงทำนองออกมาเป็นเพลงแห่งความคิดถึง เพลงที่มิตรมักเล่นให้ฟังบ่อยๆ
กล่อมให้เธอนอนหลับฝันดี สิตาราไม่ได้ร้อง แต่ท่วงทำนองนั้นก็เป็นเพลงป๊อปง่ายๆแต่กินใจที่ทั้งโลกรู้จักกันดี
และคนมองโลกในแง่ดีอย่างมิตรก็ชอบเพลงนี้เอามากๆทีเดียว
Oh my sleeping child the world's so wild
But you've build your own paradise
That's one reason why...I'll cover you sleeping child
สีหน้าของเด็กหญิงเศร้าสร้อยจนจนชามัลไม่อยากจะมองให้รำคาญใจ
แต่เขายังปล่อยให้เธอเล่นเพลงที่ถูกสอนมานั้นต่อไปโดยไม่ขัดจังหวะให้เลิกเสียกลางคัน
If all the people around the world
They had a mind like yours
We'd have no fighting and no wars
There would be lasting peace on Earth
“สมกับเป็นเพลงของเด็กน้อย เด็ก...ที่ยังไม่เข้าใจว่ามนุษย์ต้องสู้กันเพราะอะไร”
“มิตรบอกว่า เพราะคนไม่ยอมรับความแตกต่างของกันและกัน”
สิตาราพูดเรียบๆขณะจดจ่อกับเครื่องดนตรีในมือต่อไป
“ก็จริง แล้วทุกคนก็คิดว่าตัวเองดีที่สุด ถูกที่สุด ต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวคิดว่าถูก มันไม่ดีตรงไหน”
“ตรงที่...สุดท้ายจะไม่เหลืออะไรเลย”
If all the kings and all the leaders
Could see you here this way
They would hold the Earth in their arms
They would learn to watch you play
“ฟังแล้วชักอยากร่วมสงคราม” ชามัลยิ้มยกมุมปากน้อยๆ เมื่อนึกถึงพลังของรัตติดารา
สิบสองราศีแห่งความมืดจะมารวมกันเพื่อเขาคนเดียว หากเพียงเขาครอบงำสิตาราเอาไว้ได้
“ตอนนี้สงครามมหาเอเชียบูรพาใกล้จะเกิดพอดี ถ้าฉันได้เข้าร่วมก็คงสนุก”
ถ้าหากเขาไม่หยุดแค่เมห์ฮรา...แต่เป็นการทำลายทุกสิ่งลงด้วยความมืด
นั่นก็คือหัวใจของรัตติดาราอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
ส่วนที่ชั่วร้ายกำลังคิดไป แต่ส่วนดีๆของชามัลก็ยังทำงาน เมื่อได้ฟังเพลงจากยุคสมัยของตัวเอง
ถึงแม้จะเก่าไปบ้าง แต่เมื่อมาอยู่ในอดีตเช่นนี้ เพลงที่กำลังฟังคงนับว่าทันสมัยจนหลุดโลก
แล้วก็คงมีแต่เสียงเพลงกับความทรงจำเท่านั้น ที่ไม่ว่าจะบรรเลงขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่ก็เชื่อมโยงเขา
ถึงช่วงเวลาเดิมๆได้ไม่ต่างกัน ถ้าทำลายทุกอย่าง เพลงที่ทำให้อารมณ์สุนทรีย์ทั้งหลาย
ก็จะอาจพลอยสิ้นสุดลง แล้วชัยชนะบนกองเลือดอย่างเดียวจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อเขา
ยังต้องการเสวยสุข เพราะงั้น...ขอแค่ทำลายศัตรูของตนเองตามเป้าหมายแรกก่อนก็แล้วกัน
I'm gonna cover my sleeping child
Keep you away from the world so wild
ชามัลรู้ว่าคนตัวเล็กเล่นต่อไปไม่ไหวก็ต่อเมื่อตัวโน้ตนั้นสั่นพร่าสะดุดลง ด้วยมือเล็กไม่มีแรงเล่นต่อ
ชายหนุ่มผู้มีร่างอสรพิษซ่อนอยู่ก้มมองอีกที เห็นว่าเด็กหญิงกำลังยกชายเสื้อเนื้อดีซึ่งเป็นของกำนัลจากปู่เขา
ขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ก่อนจะพยายามจับสายกีตาร์ต่อ เป็นภาพชวนสมเพชเวทนาจนทนดูไม่ไหว
“ตื่นซะทีเถอะ อย่าเป็นเด็กน้อยผู้หลับใหลอีกต่อไปเลย”
มือใหญ่ดึงกีตาร์โบราณนั้นพ้นออกไป พลางรั้งร่างเล็กที่เริ่มสะอึกสะอื้นร้องไห้มาสวมกอด
สิตารารู้สึกว่าอ้อมกอดของชายที่พรากเธอมาจากมิตรนั้นอุ่นอย่างไม่น่าจะอุ่นได้
แล้วเขาก็พูดออกมา บังเอิญตรงกับใจเธอคิดสงสัยพอดี
“ร่างกาย ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสิ่งอื่น ล้วนประกอบขึ้นจากธาตุขันธ์และพลังงานที่มารวมกัน
ถ้ามีพลังมากพอก็สามารถมีร่างได้ แทบไม่ต่างจากมนุษย์คนหนึ่ง...ที่จะดูแลเธอ เลี้ยงดูเธอ
ให้โตมาอย่างมีความสุข แถมยังจะพาไปเจอพี่สาว เชื่อเถอะนะสิตารา” คนพูดยิ้มมุมปากเยาะตัวเอง
นี่เขาต้องลงทุนยอมตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็กเชียวหรือ เขามีหน้าที่ทำให้อีกฝ่ายรักและเลิกต่อต้านเขา จากนั้นเขา
ก็จะได้อำนาจของเธอมา อำนาจในการควบคุมรัตติดาราทั้งสิบสองราศี... ตามที่ได้วางแผนไว้หมดแล้ว
สิตาราอยากดิ้นหนีไปให้พ้น แต่เธอคิดถึงตอนที่มิตรกอด แล้วเธอก็ไม่ได้เกลียดชามัลเลย
เด็กหญิงที่รู้สึกอ่อนแอห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะปล่อยให้เขาปลอบ
คิดไปอีกทางว่าชามัลคงเมตตาตนเองบ้างสักนิด ไม่มากก็น้อย
ทว่าเจ้าของร่างใหญ่ไม่ได้คิดเช่นนั้น ชามัลบอกตัวเอง เขาต้องเลี้ยงเด็กให้ดี
เด็กคนนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เสียใจ เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อหยุดน้ำตานั้นลง
ให้เธอเข้มแข็งพอที่จะได้อำนาจของรัตติดารา และเมื่อนั้นเขาจะรับหน้าที่ดูแลมันให้เอง
ไม่อยากเชื่อว่ามือตนที่เคยเข่นฆ่าผู้คนซึ่งขวางทางมานักต่อนักเมื่อครั้งมีชีวิต บัดนี้กำลัง
ลูบปลอบประโลมไปช้าๆบนเรือนผมเป็นคลื่นสวยที่ถูกปล่อยระบ่าเล็กๆ ของเด็กอ่อนแอ
แต่แสร้งทำเป็นแข็งแกร่งคนหนึ่ง เขาก็ทำมันไปอย่างนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะเหตุใด
เมื่อสิตาราค่อยสงบลง ชามัลคลายแขนกระดากกระเดื่อง เขาไม่เคยเข้าใกล้เด็ก
ด้วยทระนงตัวว่าเป็นทายาทผู้นำแห่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่เสมอมา เขาก้มมองคนที่ยังขยี้ตายุกยิกอีกหน
เอาเถอะ นี่ก็ใช้เวลาเล่นบทพ่อมาพอแล้ว แต่ตอนนี้เขามีเรื่องต้องจัดการ เพราะดูเหมือนบางสิ่งบางอย่าง
ที่เฝ้ามองเขากับสิตาราอยู่ช้านานแล้วกำลังเริ่มได้ใจ! มันกล้าคิดว่าเขาไม่รู้ตัวว่าถูกเฝ้าดู...
ชามัลหัวเราะหึเบาๆ ก่อนก้มลงกระซิบบอกเจ้าของร่างเล็ก “ดูเหมือนตอนนี้เราจะมีแขก คอยดูอะไรดีๆนะสิตารา”
เด็กหญิงมองเขาตาโต แต่ก็เงียบ ไม่พูดไม่ถาม จนชามัลค่อยๆลุกเหยียดยืนเต็มกาย
ตาของเขาค่อยๆเปลี่ยนสี จากดำสนิทเป็นแดงฉานในพริบตา ก่อนจะกลายร่างวูบกลายเป็นงูใหญ่!
เร็วจนสิตารามองตามไม่ทัน สิ่งมีชีวิตสีดำผละพรวดจากเธอ เลื้อยปราดขึ้นไปบนต้นไม้ใบหนาที่อยู่ใกล้ๆ
เด็กหญิงเร่งร้อนวิ่งตามไปดูด้วย เห็นความเคลื่อนไหวสวบสาบ ก่อนจะสะดุ้ง ผงะถอยเมื่อก้อนบางอย่าง
หล่นตุ้บลงถึงพื้น ชายคนหนึ่ง กับงูดำเมี่ยมที่พันรัดทั้งตัวจนขึ้นไปถึงคออย่างน่ากลัวว่ากำลังจะรัดให้ตาย!
แล้วสิตาราก็เห็น แค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น! เด็กกว่าคนชื่อมัชฌิม์ที่ได้เจอตอนชามัลเอาร่างเธอไปใช้เสียอีก
“อย่าฆ่าเขา!”
สิ้นเสียงห้าม งูจงอางดำพลันคลายขนด ขู่ฟ่อ...ปราดเข้าหาสิตาราจนเธอผงะ
แล้วร่างงูก็กลับกลายเป็นชามัลที่ยังตาลุกแดงก่ำเหมือนเลือด ก่อนที่เขาจะหันควับกลับไปยังเด็กหนุ่ม
โดยใช้ตนเองยืนขวางสิตาราไว้ ทั้งหมดนั่นหาใช่ด้วยเชื่อฟัง แต่หากสิตาราจะคิดแบบนั้นก็ยิ่งดี
เขาแค่ไว้ชีวิตเพราะต้องการรู้ที่มาที่ไปของผู้บุกรุก เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับตัวเอง
“อยากตายหรือ ถึงกล้าดีมาแอบฟังอยู่นานสองนาน คิดว่าจิตวิญญาณที่ดูทรงพลังอย่างข้า
จะไม่รู้ประสาถึงขนาดปล่อยให้เด็กละอ่อนมาแอบส่องตามอำเภอใจงั้นสิ”
“ฟังก่อน...” ร่างที่เพิ่งจะชันตัวขึ้นแสดงสีหน้ารวดร้าว มือกุมลำคอซึ่งเพิ่งถูกงูรัดที่ยังปวดหนึบ
แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าอื่นใด เขาพูดออกมาเป็นภาษาเฉพาะของรัตติดารา!
------------
ถ้าชอบใจช่วยกดถูกใจด้วยนะคะ *-*
อสิตา
ที่มีดวงตาเหมือนกวางตัวนี้ให้เชื่อง แต่ดูเหมือนจะยาก เพราะแม้แต่ตอนกินอาหาร
แทะเนื้อติดกระดูกในมือไปเด็กหญิงยังแง่งๆ มองหน้าเขา เข่นเขี้ยวไปพลาง
คือไม่อิดออดที่จะกินอาหารที่เขาหามาให้ ทว่ามือทึ้ง ฟันกัด ทั้งกระชาก
คล้ายว่าเนื้อนกหนูหรือตัวอะไรตามแต่เขาจะหามานั้นเป็นแขนขาของชามัลเสียเอง
สิตารายังโกรธที่เขาพรากเธอมาจากไอ้ผู้ชายชื่อมิตร
“ดีที่เรามาถึงก่อนช่วงเวลาที่มันจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแถบนี้ ตอนนี้อินเดียยังไม่เป็นอิสระจากอังกฤษ
ยังอีกหลายปี แต่ถึงตอนนั้นเราก็ไปพ้นจากที่นี่แล้ว...” ชามัลรู้ดี พวกเมห์ฮราให้ความสนับสนุน
ในเรื่องนี้แค่ไหน ตระกูลนี้ก็ยังเรียกว่ามีความเป็นชาตินิยมอยู่มากแม้จะปลีกตัวแยกออกมาจากหมู่เหล่า
แต่เรื่องนั้นจะเป็นยังไงมันไม่สำคัญสำหรับเขา ไม่อยู่ในความสนใจ
จุดมุ่งหมายของเขาอยู่ทางทิศใต้ ในช่วงเวลาที่เคยเป็นวิญญาณเร่ร่อน เคยยินมาว่าสถานอันเป็น
ที่ลับของเหล่ารัตติดารานั้นเร้นอยู่ยังเกาะหนึ่งในอ่าวไทย ถูกอำพรางไว้ในเขตแดนรัตติกาล
...เมื่อกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเร้นลับ การพาเด็กสักคนเดินทางดูจะง่ายกว่ายามเป็นรูปเงามาก
แต่สมัยร้อยปีในอดีตนี้ก็ใช่ว่าจะสะดวกดาย กับระยะทางอันยาวไกลข้ามประเทศก็ยังต้องอาศัย
การเดินทางแบบมนุษย์เป็นตัวช่วย ยังมีเวลาเหลือเฟือ เขาอยากจะศึกษาโลกอดีตนี้ให้มาก
ที่สำคัญสิตารายังไม่วางใจเขา ชามัลเลยไม่รีบร้อนลงไปให้ถึงยังฝั่งทะเลอ่าวเบงกอลเร็วนัก
อาจฟังดูเหมือนตลกร้าย แค่ชื่ออ่าวก็เหมือนเสือแล้ว ฟังดูอัปมงคลสำหรับเขาอย่างไรพิกล
“ฉันต้องมาติดอยู่ที่นี่ถาวร ทั้งที่คิดว่าทำภารกิจเสร็จแล้วจะได้รีบกลับไปชมผลการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ราคาที่ต้องจ่ายให้กับการกลับมามีร่างกาย บางทีมันก็แพงกว่าที่คิดมากนัก ไอ้ยุคสมัยของเธอนี่มัน
หลังเขาสิ้นดี แต่เอาเถอะ ยังไงฉันก็ต้องอยู่ เรามาเรียนรู้โลกไปพร้อมๆกัน”
“หึ” สิตาราส่งเสียงไม่พอใจ เธออยากกลับมายังห้วงเวลาของตัวเองก็จริง...แต่เป็นกับมิตร
ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ เคยหวังว่าสักวันหนึ่งร้านกาลเวลาจะยอมพาเธอกลับบ้าน มิตรบอกว่ามัน
ไม่ค่อยฟังเสียงของใครมากไปกว่าเสียงของชะตากรรมที่ควรเป็นไป ถ้าโชคชะตาไม่เปิดทาง
ไม่ว่าจะขอร้องแค่ไหนร้านกาลเวลาอันแสนลึกลับก็จะนิ่งเฉยเหมือนไม่รับรู้ แต่สุดท้าย
เธอก็ได้กลับมาจริงๆ โดยทางอื่น และโดยไม่เต็มใจเอาเสียเลย!
“เราจะล่องลงไปตามแม่น้ำพรหมบุตรนี่แหละ เด็กอย่างเธอจะรู้ไหม มันเป็นแม่น้ำที่ไหลมา
ยาวไกลมาก จากธิเบต ผ่านจีน ตัดผ่านเทือกหิมาลัยมาทางโกรกธารใหญ่...จนมาถึงอัสสัมนี่
แล้วมันก็จะพาเราลงใต้ไปได้จนถึงทะเล”
“แล้วไง” สิตาราถามกวนๆ ฟ้าเริ่มมืดลง เธออิ่มอาหารนานแล้วแต่หันมาง่วนกับการกัด ทึ้ง
หมายดึงสร้อยหนังให้ขาด หลังจากแผนทดลองเอาหินมาเถือไม่เกิดผลอันใด เจ้าของร่างเล็ก
ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาพยายามเอาโมราเม็ดหายนะออกพ้นคอ
“เสียแรงเปล่า ถ้ามันขาดก็แปลกละ นอกเสียจากว่าเธอจะยอมตาย เป็นกระสือถอดหัวออกมายังง่ายกว่า
...นี่ฉันพูดอะไรเกินความเหมาะสมกับหูเด็กไปหรือเปล่า โทษทีนะ ไม่ชินกับพวกผ้าขาวเท่าไหร่”
ชามัลหัวเราะในคอ แม้พยายามระลึกว่ายามมีชีวิตตนเชี่ยวชาญการทำให้ผู้หญิงทุกวัยติดใจสักแค่ไหน
แต่กับเด็กยุ่งแบบนี้ แรงจูงใจมันช่างต่ำเสียจริงๆ
สิตาราถอนหายใจแรงอย่างเบื่อๆ มองครึ่งคนครึ่งสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เดินทางร่วมกับตนอย่างไม่ไว้ใจ
แต่อีกใจก็รู้สึกว่าเป็นความท้าทายที่จะศึกษาตัวตนของเขาให้รู้ซึ้ง ความเป็นมาทั้งหมด รวมถึง
จุดมุ่งหมายในใจ ถ้าเด็กสักคนจะมีปัญญารู้และเข้าใจได้...
บางค่ำคืนที่เธอแกล้งหลับ เด็กหญิงแอบเห็น ตาของชายคนนี้ที่ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน
เรืองวาวเป็นสีแดงก่ำ ก่อนที่ร่างเขาจะค่อยๆขด กลายเป็นงูดำมะเมื่อมตัวมหึมา!
นั่นคืออีกร่างของชามัล ที่คงถูกสร้างขึ้นมาโดยอาศัยแรงผูกพันธนาการกับโมราเม็ดทรงอำนาจ
ว่าแต่ทำไมจะต้องเอามาแหมะไว้รอบคอเธอด้วย ไม่เห็นอยากมีเอี่ยวด้วยสักนิดเลย ทำไมเขา
ไม่เลือกคนอื่น เป็นความซวยของเธอจริงๆ
ดูคล้ายเขาพยายามจะทำตัวให้เหมือนมนุษย์ แต่สิตาราไม่คิดเช่นนั้น ดวงหน้าชายหนุ่มงามคมน่ามอง
แฝงรอยเจ้าเล่ห์อย่างร้าย พอมีร่างใหม่นี้แทนร่างรูปเงา สิตาราก็เห็นรอยแผลเป็นนั่นชัดขึ้น รอยกรงเล็บสมิง
จากที่เขาเคยบอก บนใบหน้าซีกซ้าย รอยมันพาดผ่านดวงตาของเขา ตั้งแต่เหนือคิ้วลงมาถึงแก้มเลยทีเดียว
กับอีกรอยเป็นขีดไม่ชัดเจนเท่ารอยแรก อยู่ตรงมุมปาก ที่ยิ่งขับให้สีหน้าเขาเหมือนเยาะหยันโลกทั้งใบ
“เฮอะ ก็ตลกดีนะ อุตส่าห์ได้ร่างใหม่ทั้งที” สิตาราเริ่มยั่วด้วยน้ำเสียงร้ายกาจเกินเด็ก “แต่น่าสงสาร
รอยแผลเป็นดันติดหรา ไม่รู้ว่าตาลุงนั่นไม่เก่งจริงหรือเจ้าของร่างลืมไม่ลงว่าตัวเองเคยแพ้ใครมา”
ชามัลหัวเราะหึๆในคอ ก่อนหันมามองจับจ้องเด็กหญิงตรงๆ “ไอ้มิตรมันเลี้ยงดูเธอมายังไง
หรือเปิดให้ดูพวกละครน้ำเน่า ถึงปากตะไกรว่าผู้ใหญ่ฉอดๆได้อย่างนี้ ไอ้มิตรมันไม่สั่งสอนหรือไง”
สิตารายิ้มมุมปากร้ายกาจ ก่อนลุกขึ้น เดินไปยืนกอดอกอยู่ต่อหน้าชามัล
ทั้งที่ลึกๆแล้วก็กลัวเขาจะคว้าตัวไปทำโทษอยู่ไม่น้อย “ฉันนับถือผู้ใหญ่ที่น่านับถือ
เห็นมิตรเป็นอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วเป็นคนดีมากนะ เขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คนอื่นเสมอ
ไม่เหมือนบางคน บังคับคนอื่นให้ทำแต่สิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง”
พอมาถึงตรงนี้ชามัลก็หัวเราะขำ นึกชิงชังแต่ก็อยากเลี้ยงเด็กคนนี้ให้เชื่องขึ้นมาให้จงได้
เขาตบที่นั่งข้างตัวแล้วจ้องตาเธอ
มองตาสีน้ำตาลทองแล้วสิตาราก็รู้ว่าทานอำนาจเขาไม่ได้ สายตานั้นจับจ้องมาราวกับตางู
เธอกึ่งๆไม่อยากจะยอมรับว่ากำลังตกอยู่ในอำนาจเขาจึงหลุบตาลงมองพื้นเสีย ตอนแรกทำท่า
จะเดินไปนั่งลงข้างๆตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง พอชามัลยื่นมือมาจะคว้าต้นแขนเด็กหญิงก็แอ่นตัวหลบวูบ
จนเขาขำ แต่ที่สุดก็ยอมนั่งลง ...แม้อยากเกลียดผู้ชายที่ชื่อชามัล แต่ใจเธอกลับจดจ่ออยู่กับเขา
ไม่ใช่ความหลงใหล แต่เป็นความสนอกสนใจในความไม่อาจคาดเดาของคนตรงหน้า
ชามัลหยิบเครื่องสายที่ถูกห่อไว้ในถุงผ้าเนื้อดีออกมาอวดสิตาราเป็นครั้งแรก
เด็กหญิงตาโตเมื่อเห็นมันชัดๆ แม้จะพอเดาได้อยู่แล้วว่าข้างในเป็นเครื่องดนตรี
“กีตาร์...”
“ของละติน... กีตาร่า ลาติน่า” ตั้งแต่วูบแรกที่เห็นเครื่องสายชิ้นนี้ เขาพลันนึกไปถึงกีตาร์ที่มิตรเคยบอก
ว่าสิตาราชอบฟังจนต้องหอบหิ้วรุงรังไปด้วยกันบนภูเขาหิมะ เคยว่าไอ้หมอนั่นมันโง่ แต่ถ้ายายเด็กนี่
อยากถูกเลี้ยงด้วยวิธีโง่ๆ ก็ต้องลองตามใจดูสักตั้ง!
เครื่องดนตรีชิ้นนี้ดูเผินๆก็เหมือนกีตาร์ แต่รู้สึกว่าตรงคอที่พาดสายนั้นออกจะสั้นกว่าอยู่เล็กน้อย
ส่วนโพรงกลมตรงเสียงออกก็กลับเจาะเป็นรอยฉลุเนื้อไม้ทะลุลงไป เป็นรูปคล้ายดอกไม้สวยๆ
หลายแฉกเสียแทน
“ดนตรีไม่เหมาะกับคนเลว”
สิตารายักไหล่ รำพึงกวนๆเมื่อเห็นว่าชามัลกำลังลองเสียงจากแต่ละเส้นสายนั้นดู
“ดนตรีเหมาะกับมนุษย์ทุกคน...”
ชามัลว่าแล้วก็ลองเล่นโน้ตเพลงที่จำได้ ตัวเขาเองบอกตรงๆก็ต้องเรียกว่าถูกฝึกมาให้เก่งหลายด้าน
ดนตรีย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แม้ไม่ค่อยได้หัดและเคยเล่นเพลงมาไม่มาก แต่แค่นึกถึงเสียงดนตรีสมองก็
เปลี่ยนมันออกมาเป็นคอร์ดได้โดยไม่ต้องคิด ด้วยทักษะการเรียนรู้และประสาทอันว่องไวทำให้ฝีมือเขา
ไม่ใช่ชั่ว อารมณ์ก็ใช่ว่าจะสิ้นไร้ แต่ยายเด็กสิตารากลับมองแล้วเบ้ปาก ยังกับว่าฝีมือเขางั้นๆเสียเต็มประดา
“เล่นเป็นแค่นี้ยังแค่นจะเล่น มิตรเก่งกว่าเยอะเลย”
“อย่าเอาแต่พูดถึงคนที่ไม่มีตัวตนหน่อยเลย อย่างน้อยตอนนี้มิตรของเธอก็ยังไม่เกิด
ถ้าบอกว่ามันเป็นลูกของคนชื่อศานติมันที่เราเพิ่งแยกจากมาจริงน่ะนะ”
“ใครกันแน่ไม่มีตัวตน”
“ฉันก็นั่งยิ้มหน้าหล่ออยู่ต่อหน้าเธอนี่ไง”
สิตาราขมวดคิ้ว เบ้ปากอย่างขยะแขยง ก่อนจะดึงเครื่องดนตรีจากมือเขา
ซึ่งชามัลก็ยอมปล่อยให้ง่ายๆ คล้ายอยากรู้ว่าเด็กอย่างเธอจะทำได้แค่ไหน
ทว่าเมื่อเพลงเริ่มขึ้น คนซ่อนร่างงูที่รอฟังอยู่ก็เลิกคิ้วอย่างหลากใจ เด็กคนนี้เก่งกว่าเขา
และทำท่าจะว่าถ้ามีเวลาหัดดีๆคงจะไปได้ไกล เสียแต่เขาคงให้เธอทำอย่างอื่นมากกว่าเล่นดนตรี
จะยอมแค่เวลาว่างก็แล้วกัน
นิ้วเล็กๆกดเส้นสาย บรรเลงท่วงทำนองออกมาเป็นเพลงแห่งความคิดถึง เพลงที่มิตรมักเล่นให้ฟังบ่อยๆ
กล่อมให้เธอนอนหลับฝันดี สิตาราไม่ได้ร้อง แต่ท่วงทำนองนั้นก็เป็นเพลงป๊อปง่ายๆแต่กินใจที่ทั้งโลกรู้จักกันดี
และคนมองโลกในแง่ดีอย่างมิตรก็ชอบเพลงนี้เอามากๆทีเดียว
Oh my sleeping child the world's so wild
But you've build your own paradise
That's one reason why...I'll cover you sleeping child
สีหน้าของเด็กหญิงเศร้าสร้อยจนจนชามัลไม่อยากจะมองให้รำคาญใจ
แต่เขายังปล่อยให้เธอเล่นเพลงที่ถูกสอนมานั้นต่อไปโดยไม่ขัดจังหวะให้เลิกเสียกลางคัน
If all the people around the world
They had a mind like yours
We'd have no fighting and no wars
There would be lasting peace on Earth
“สมกับเป็นเพลงของเด็กน้อย เด็ก...ที่ยังไม่เข้าใจว่ามนุษย์ต้องสู้กันเพราะอะไร”
“มิตรบอกว่า เพราะคนไม่ยอมรับความแตกต่างของกันและกัน”
สิตาราพูดเรียบๆขณะจดจ่อกับเครื่องดนตรีในมือต่อไป
“ก็จริง แล้วทุกคนก็คิดว่าตัวเองดีที่สุด ถูกที่สุด ต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวคิดว่าถูก มันไม่ดีตรงไหน”
“ตรงที่...สุดท้ายจะไม่เหลืออะไรเลย”
If all the kings and all the leaders
Could see you here this way
They would hold the Earth in their arms
They would learn to watch you play
“ฟังแล้วชักอยากร่วมสงคราม” ชามัลยิ้มยกมุมปากน้อยๆ เมื่อนึกถึงพลังของรัตติดารา
สิบสองราศีแห่งความมืดจะมารวมกันเพื่อเขาคนเดียว หากเพียงเขาครอบงำสิตาราเอาไว้ได้
“ตอนนี้สงครามมหาเอเชียบูรพาใกล้จะเกิดพอดี ถ้าฉันได้เข้าร่วมก็คงสนุก”
ถ้าหากเขาไม่หยุดแค่เมห์ฮรา...แต่เป็นการทำลายทุกสิ่งลงด้วยความมืด
นั่นก็คือหัวใจของรัตติดาราอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
ส่วนที่ชั่วร้ายกำลังคิดไป แต่ส่วนดีๆของชามัลก็ยังทำงาน เมื่อได้ฟังเพลงจากยุคสมัยของตัวเอง
ถึงแม้จะเก่าไปบ้าง แต่เมื่อมาอยู่ในอดีตเช่นนี้ เพลงที่กำลังฟังคงนับว่าทันสมัยจนหลุดโลก
แล้วก็คงมีแต่เสียงเพลงกับความทรงจำเท่านั้น ที่ไม่ว่าจะบรรเลงขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่ก็เชื่อมโยงเขา
ถึงช่วงเวลาเดิมๆได้ไม่ต่างกัน ถ้าทำลายทุกอย่าง เพลงที่ทำให้อารมณ์สุนทรีย์ทั้งหลาย
ก็จะอาจพลอยสิ้นสุดลง แล้วชัยชนะบนกองเลือดอย่างเดียวจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อเขา
ยังต้องการเสวยสุข เพราะงั้น...ขอแค่ทำลายศัตรูของตนเองตามเป้าหมายแรกก่อนก็แล้วกัน
I'm gonna cover my sleeping child
Keep you away from the world so wild
ชามัลรู้ว่าคนตัวเล็กเล่นต่อไปไม่ไหวก็ต่อเมื่อตัวโน้ตนั้นสั่นพร่าสะดุดลง ด้วยมือเล็กไม่มีแรงเล่นต่อ
ชายหนุ่มผู้มีร่างอสรพิษซ่อนอยู่ก้มมองอีกที เห็นว่าเด็กหญิงกำลังยกชายเสื้อเนื้อดีซึ่งเป็นของกำนัลจากปู่เขา
ขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ก่อนจะพยายามจับสายกีตาร์ต่อ เป็นภาพชวนสมเพชเวทนาจนทนดูไม่ไหว
“ตื่นซะทีเถอะ อย่าเป็นเด็กน้อยผู้หลับใหลอีกต่อไปเลย”
มือใหญ่ดึงกีตาร์โบราณนั้นพ้นออกไป พลางรั้งร่างเล็กที่เริ่มสะอึกสะอื้นร้องไห้มาสวมกอด
สิตารารู้สึกว่าอ้อมกอดของชายที่พรากเธอมาจากมิตรนั้นอุ่นอย่างไม่น่าจะอุ่นได้
แล้วเขาก็พูดออกมา บังเอิญตรงกับใจเธอคิดสงสัยพอดี
“ร่างกาย ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสิ่งอื่น ล้วนประกอบขึ้นจากธาตุขันธ์และพลังงานที่มารวมกัน
ถ้ามีพลังมากพอก็สามารถมีร่างได้ แทบไม่ต่างจากมนุษย์คนหนึ่ง...ที่จะดูแลเธอ เลี้ยงดูเธอ
ให้โตมาอย่างมีความสุข แถมยังจะพาไปเจอพี่สาว เชื่อเถอะนะสิตารา” คนพูดยิ้มมุมปากเยาะตัวเอง
นี่เขาต้องลงทุนยอมตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็กเชียวหรือ เขามีหน้าที่ทำให้อีกฝ่ายรักและเลิกต่อต้านเขา จากนั้นเขา
ก็จะได้อำนาจของเธอมา อำนาจในการควบคุมรัตติดาราทั้งสิบสองราศี... ตามที่ได้วางแผนไว้หมดแล้ว
สิตาราอยากดิ้นหนีไปให้พ้น แต่เธอคิดถึงตอนที่มิตรกอด แล้วเธอก็ไม่ได้เกลียดชามัลเลย
เด็กหญิงที่รู้สึกอ่อนแอห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะปล่อยให้เขาปลอบ
คิดไปอีกทางว่าชามัลคงเมตตาตนเองบ้างสักนิด ไม่มากก็น้อย
ทว่าเจ้าของร่างใหญ่ไม่ได้คิดเช่นนั้น ชามัลบอกตัวเอง เขาต้องเลี้ยงเด็กให้ดี
เด็กคนนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เสียใจ เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อหยุดน้ำตานั้นลง
ให้เธอเข้มแข็งพอที่จะได้อำนาจของรัตติดารา และเมื่อนั้นเขาจะรับหน้าที่ดูแลมันให้เอง
ไม่อยากเชื่อว่ามือตนที่เคยเข่นฆ่าผู้คนซึ่งขวางทางมานักต่อนักเมื่อครั้งมีชีวิต บัดนี้กำลัง
ลูบปลอบประโลมไปช้าๆบนเรือนผมเป็นคลื่นสวยที่ถูกปล่อยระบ่าเล็กๆ ของเด็กอ่อนแอ
แต่แสร้งทำเป็นแข็งแกร่งคนหนึ่ง เขาก็ทำมันไปอย่างนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะเหตุใด
เมื่อสิตาราค่อยสงบลง ชามัลคลายแขนกระดากกระเดื่อง เขาไม่เคยเข้าใกล้เด็ก
ด้วยทระนงตัวว่าเป็นทายาทผู้นำแห่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่เสมอมา เขาก้มมองคนที่ยังขยี้ตายุกยิกอีกหน
เอาเถอะ นี่ก็ใช้เวลาเล่นบทพ่อมาพอแล้ว แต่ตอนนี้เขามีเรื่องต้องจัดการ เพราะดูเหมือนบางสิ่งบางอย่าง
ที่เฝ้ามองเขากับสิตาราอยู่ช้านานแล้วกำลังเริ่มได้ใจ! มันกล้าคิดว่าเขาไม่รู้ตัวว่าถูกเฝ้าดู...
ชามัลหัวเราะหึเบาๆ ก่อนก้มลงกระซิบบอกเจ้าของร่างเล็ก “ดูเหมือนตอนนี้เราจะมีแขก คอยดูอะไรดีๆนะสิตารา”
เด็กหญิงมองเขาตาโต แต่ก็เงียบ ไม่พูดไม่ถาม จนชามัลค่อยๆลุกเหยียดยืนเต็มกาย
ตาของเขาค่อยๆเปลี่ยนสี จากดำสนิทเป็นแดงฉานในพริบตา ก่อนจะกลายร่างวูบกลายเป็นงูใหญ่!
เร็วจนสิตารามองตามไม่ทัน สิ่งมีชีวิตสีดำผละพรวดจากเธอ เลื้อยปราดขึ้นไปบนต้นไม้ใบหนาที่อยู่ใกล้ๆ
เด็กหญิงเร่งร้อนวิ่งตามไปดูด้วย เห็นความเคลื่อนไหวสวบสาบ ก่อนจะสะดุ้ง ผงะถอยเมื่อก้อนบางอย่าง
หล่นตุ้บลงถึงพื้น ชายคนหนึ่ง กับงูดำเมี่ยมที่พันรัดทั้งตัวจนขึ้นไปถึงคออย่างน่ากลัวว่ากำลังจะรัดให้ตาย!
แล้วสิตาราก็เห็น แค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น! เด็กกว่าคนชื่อมัชฌิม์ที่ได้เจอตอนชามัลเอาร่างเธอไปใช้เสียอีก
“อย่าฆ่าเขา!”
สิ้นเสียงห้าม งูจงอางดำพลันคลายขนด ขู่ฟ่อ...ปราดเข้าหาสิตาราจนเธอผงะ
แล้วร่างงูก็กลับกลายเป็นชามัลที่ยังตาลุกแดงก่ำเหมือนเลือด ก่อนที่เขาจะหันควับกลับไปยังเด็กหนุ่ม
โดยใช้ตนเองยืนขวางสิตาราไว้ ทั้งหมดนั่นหาใช่ด้วยเชื่อฟัง แต่หากสิตาราจะคิดแบบนั้นก็ยิ่งดี
เขาแค่ไว้ชีวิตเพราะต้องการรู้ที่มาที่ไปของผู้บุกรุก เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับตัวเอง
“อยากตายหรือ ถึงกล้าดีมาแอบฟังอยู่นานสองนาน คิดว่าจิตวิญญาณที่ดูทรงพลังอย่างข้า
จะไม่รู้ประสาถึงขนาดปล่อยให้เด็กละอ่อนมาแอบส่องตามอำเภอใจงั้นสิ”
“ฟังก่อน...” ร่างที่เพิ่งจะชันตัวขึ้นแสดงสีหน้ารวดร้าว มือกุมลำคอซึ่งเพิ่งถูกงูรัดที่ยังปวดหนึบ
แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าอื่นใด เขาพูดออกมาเป็นภาษาเฉพาะของรัตติดารา!
------------
ถ้าชอบใจช่วยกดถูกใจด้วยนะคะ *-*
อสิตา

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ธ.ค. 2556, 05:59:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ธ.ค. 2556, 05:59:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 1597
<< บทที่ ๘ โมราผูกวิญญาณ | บทที่ ๙ คู่ผจญกรรม (...ต่อ) งวดนี้มีตัวะครที่จะมีผลกับเรื่องม่านทิวาพชร กับมรกตสนธยาโผล่มาทักทายกันด้วยค่ะ >> |

อสิตา 15 ธ.ค. 2556, 06:00:15 น.
คุณเกดซ่า – เกดซ่าอ้าๆหุบๆที่ร้ากกก อาทิตย์นี้เราจะลงกันถี่ขึ้นแล้วนา หุหุ สงสัยวันนี้จะมีตัวละครหล่อๆเพิ่มมาอีกตัวละมั้งนะ
คุณดวงมาลย์ – เค้ายังไม่เป็นอิสระง่ะ ยังตรวจแก้งานอยู่ ตาแฉะเยิ้ม งี้ๆๆ
คุณหนอนน้อยกลอยสวาท – เป็นไงล่ะ อ้อมกอดของชาจังวันนี้อ่อนโยนกว่าเคยนะ อยากโดนปลอบบ้างไหม งูกับหนอน รูปร่างใกล้เคียงกัน รักกันๆ
คุณริญจน์ธร – พี่มิ้งค์ต้องโพสต์ก่อนนอนอะ ถึงจะมาเร็วกว่าน้องๆ เหอๆ ไม่งั้นสายทุกที
คุณบุลินทร – พี่มิ้งค์ยังไม่ผ่านพ้น ตอนนี้กำลังพะงาบๆ จ้องต้นฉบับแบบจู้จี้มาก จับผิดตัวเองด้วย
คุณภาวิน – นางผีเสื้อสาวพราวแสงแม่ลูกอ่อนบินมาเยี่ยม ข้ารอวันที่เจ้าจะบินมาโพสต์นิยายเคียงข้างข้าอีกครา
คุณโกลเด้นซัน – ตอนนี้คนเลี้ยงต้อยกับต้อยคงต้องคุมเชิงกันไปอีกระยะหนึ่ง สายใยปู่หลานจะยังมีอีกในเล่มนี้ ส่วนโมราที่พรตเจอเป็นอีกเม็ดที่ตกอยู่จริงๆค่ะ ร้อยปีสิตารายังไม่ตายนะ เพราะพวกมีพลังนี่อายุเกินร้อยปีกันทั้งนั้น ตั้งแต่เล่มแรกแล้ว ย่าอมินตา ปู่ศานติมัน เดี๋ยวอัคนิกับมิ้งค์ก็เจริญรอยตาม รวมถึงคนอื่นๆที่รู้วิธีเดินจักระพลังปราณให้อายุยืน
คุณเฟอร์ เมห์ฮรา – แหม เรื่องตาพรตก็ต้องรอดูน่า ส่วนเฟอร์....ไปสิงในไพลินเลยไป! จะได้ช่วยตามารรักปู่ เดี๋ยวมะม้าจัดให้ เล่มต่อของมะม้าโอปอลเด่น แต่เฟอร์จะได้เข้าไปอยู่ในไพลิน เคียงข้างศานติมัน อาจแปลงเป็นเสือแก่ได้นะ ขนหรอมแหรม เขี้ยวหักๆ งิๆๆ
คุณเกดซ่า – เกดซ่าอ้าๆหุบๆที่ร้ากกก อาทิตย์นี้เราจะลงกันถี่ขึ้นแล้วนา หุหุ สงสัยวันนี้จะมีตัวละครหล่อๆเพิ่มมาอีกตัวละมั้งนะ
คุณดวงมาลย์ – เค้ายังไม่เป็นอิสระง่ะ ยังตรวจแก้งานอยู่ ตาแฉะเยิ้ม งี้ๆๆ
คุณหนอนน้อยกลอยสวาท – เป็นไงล่ะ อ้อมกอดของชาจังวันนี้อ่อนโยนกว่าเคยนะ อยากโดนปลอบบ้างไหม งูกับหนอน รูปร่างใกล้เคียงกัน รักกันๆ
คุณริญจน์ธร – พี่มิ้งค์ต้องโพสต์ก่อนนอนอะ ถึงจะมาเร็วกว่าน้องๆ เหอๆ ไม่งั้นสายทุกที
คุณบุลินทร – พี่มิ้งค์ยังไม่ผ่านพ้น ตอนนี้กำลังพะงาบๆ จ้องต้นฉบับแบบจู้จี้มาก จับผิดตัวเองด้วย
คุณภาวิน – นางผีเสื้อสาวพราวแสงแม่ลูกอ่อนบินมาเยี่ยม ข้ารอวันที่เจ้าจะบินมาโพสต์นิยายเคียงข้างข้าอีกครา
คุณโกลเด้นซัน – ตอนนี้คนเลี้ยงต้อยกับต้อยคงต้องคุมเชิงกันไปอีกระยะหนึ่ง สายใยปู่หลานจะยังมีอีกในเล่มนี้ ส่วนโมราที่พรตเจอเป็นอีกเม็ดที่ตกอยู่จริงๆค่ะ ร้อยปีสิตารายังไม่ตายนะ เพราะพวกมีพลังนี่อายุเกินร้อยปีกันทั้งนั้น ตั้งแต่เล่มแรกแล้ว ย่าอมินตา ปู่ศานติมัน เดี๋ยวอัคนิกับมิ้งค์ก็เจริญรอยตาม รวมถึงคนอื่นๆที่รู้วิธีเดินจักระพลังปราณให้อายุยืน
คุณเฟอร์ เมห์ฮรา – แหม เรื่องตาพรตก็ต้องรอดูน่า ส่วนเฟอร์....ไปสิงในไพลินเลยไป! จะได้ช่วยตามารรักปู่ เดี๋ยวมะม้าจัดให้ เล่มต่อของมะม้าโอปอลเด่น แต่เฟอร์จะได้เข้าไปอยู่ในไพลิน เคียงข้างศานติมัน อาจแปลงเป็นเสือแก่ได้นะ ขนหรอมแหรม เขี้ยวหักๆ งิๆๆ


อสิตา 15 ธ.ค. 2556, 06:05:18 น.

คุณเลิฟหมวย – นั่นสิคะ เกิดความเอ็นดูขึ้นมาแล้วละมั้ง แต่ยังไม่ยอมรับน่ะนะ มีการกอดปลอบ แหม
คุณเมล็ดทานตะวัน – ทำไมไม่ไปวิ่งกับพี่ทาสบ้างล่ะคะ อย่าลืมตามอ่านให้ทันด้วยนะ ตามารน่ารักน่าหยิกทุกตอน
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – นิยายอสิตามีดีเทลเยอะทุกเรื่องแหละค่ะ แต่คนเขียนตั้งใจมากนะ ค่อยๆไปด้วยกันรับรองว่ารู้เรื่องแน่นอน ถ้าพบสิ่งที่ซ่อนอยู่แล้วจะแบบอื้อหือ อ้าหา อะไรงั้นน่ะค่ะ... อ่านผ่านๆไปก็ได้เหมือนกันแต่ไม่ซึมลึก ยังไงก็ไปด้วยกันกับเค้านะ //กอดรัด
คุณใบบัวน่ารัก – เริ่มแอบรักเด็กไม่รู้ตัวละมั้ง แต่ก็ยังอยากแกล้งเด็กอยู่ดีนะคะตาชามาร เหอๆ
คุณเรือใบ – ตอนนี้ใจอ่อนกับต้อยไปเยอะนะ ชักเขินตัวเอง ตอนจบตอนเลยต้องรีบเก๊ก ทำเข้มเข้าไว้



คุณเลิฟหมวย – นั่นสิคะ เกิดความเอ็นดูขึ้นมาแล้วละมั้ง แต่ยังไม่ยอมรับน่ะนะ มีการกอดปลอบ แหม
คุณเมล็ดทานตะวัน – ทำไมไม่ไปวิ่งกับพี่ทาสบ้างล่ะคะ อย่าลืมตามอ่านให้ทันด้วยนะ ตามารน่ารักน่าหยิกทุกตอน
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – นิยายอสิตามีดีเทลเยอะทุกเรื่องแหละค่ะ แต่คนเขียนตั้งใจมากนะ ค่อยๆไปด้วยกันรับรองว่ารู้เรื่องแน่นอน ถ้าพบสิ่งที่ซ่อนอยู่แล้วจะแบบอื้อหือ อ้าหา อะไรงั้นน่ะค่ะ... อ่านผ่านๆไปก็ได้เหมือนกันแต่ไม่ซึมลึก ยังไงก็ไปด้วยกันกับเค้านะ //กอดรัด
คุณใบบัวน่ารัก – เริ่มแอบรักเด็กไม่รู้ตัวละมั้ง แต่ก็ยังอยากแกล้งเด็กอยู่ดีนะคะตาชามาร เหอๆ
คุณเรือใบ – ตอนนี้ใจอ่อนกับต้อยไปเยอะนะ ชักเขินตัวเอง ตอนจบตอนเลยต้องรีบเก๊ก ทำเข้มเข้าไว้




lovemuay 15 ธ.ค. 2556, 06:39:09 น.
เราว่ามัชฌิม์คู่กะสิตาราแน่เลย อิอิ
เราว่ามัชฌิม์คู่กะสิตาราแน่เลย อิอิ


ketza 15 ธ.ค. 2556, 07:51:43 น.
เหอๆๆๆ....
เวลาท่านพี่เลี้ยงเด็กก็น่ารักน่าเอ็นดูดีน๊าาาาา
.... สองคนนี้เถียงกันได้น่ารัก (หรอ...)
... จริงๆน๊าา ช่างเหมาะสมกันเสียนี่กระไร แต่ดูท่าจะตีกันไปอีกนะ 555... >////<
◇◇◇ ท่านพี่ช่างคิดนะ ... กระสือถอดหัวหรอ โฮ๊ะๆๆๆๆ
เหอๆๆๆ....
เวลาท่านพี่เลี้ยงเด็กก็น่ารักน่าเอ็นดูดีน๊าาาาา
.... สองคนนี้เถียงกันได้น่ารัก (หรอ...)
... จริงๆน๊าา ช่างเหมาะสมกันเสียนี่กระไร แต่ดูท่าจะตีกันไปอีกนะ 555... >////<
◇◇◇ ท่านพี่ช่างคิดนะ ... กระสือถอดหัวหรอ โฮ๊ะๆๆๆๆ

ใบบัวน่ารัก 15 ธ.ค. 2556, 09:22:59 น.
เวลาผ่านมานานแล้วหรือยัง เด็กน้อยจะเริ่มโตเป็นสาวแล้วหรือยังหนอ
มีหัวใจยัง แปลก คนกลายเป็นงู
นึกว่าเป็นเสืิอ
เวลาผ่านมานานแล้วหรือยัง เด็กน้อยจะเริ่มโตเป็นสาวแล้วหรือยังหนอ
มีหัวใจยัง แปลก คนกลายเป็นงู
นึกว่าเป็นเสืิอ

ดังปัณณ์ 15 ธ.ค. 2556, 10:15:39 น.
อ๊ายยยยยยยย ลูกเสือลูกตะเข้ จ้องงับแขน 555+ ขำชาจังก็ตรงเนี้ย หุ้ย มีถอดหัวเป็นกระจือด้วยจิ แหมมมมมมมมมม ชาจังหล่อนนี่นร้าาาาาาาาาา จะน่ารักไปไหน อ่ะหยวนๆๆ เห็นว่าน่ารักนะ จะยังเชียร์อยู่ ฮี่ๆๆๆๆ
คุณแป้งงงงงงงง นั่นคืออัลไล เฮียแกจ้องจะกินตับต้อยล่ะซี้ หึย ชาจังหื้นหื่น แจ้งตำหนวดๆๆๆๆ ชาจังพรากผู้เยาว์ 555+
แหมเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เป็นพ่อ ชริ! แล้วอย่าอยากเป็นคนรักต้อยล่ะพ่อคู้นนนนนนนน ว่าแต่มะไหร่หนูสิจะโต อยากเห็นตอนชาจังดีดดิ้นทุรนทุราย 555+
อ๊ายยยยยยยย ลูกเสือลูกตะเข้ จ้องงับแขน 555+ ขำชาจังก็ตรงเนี้ย หุ้ย มีถอดหัวเป็นกระจือด้วยจิ แหมมมมมมมมมม ชาจังหล่อนนี่นร้าาาาาาาาาา จะน่ารักไปไหน อ่ะหยวนๆๆ เห็นว่าน่ารักนะ จะยังเชียร์อยู่ ฮี่ๆๆๆๆ
คุณแป้งงงงงงงง นั่นคืออัลไล เฮียแกจ้องจะกินตับต้อยล่ะซี้ หึย ชาจังหื้นหื่น แจ้งตำหนวดๆๆๆๆ ชาจังพรากผู้เยาว์ 555+
แหมเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เป็นพ่อ ชริ! แล้วอย่าอยากเป็นคนรักต้อยล่ะพ่อคู้นนนนนนนน ว่าแต่มะไหร่หนูสิจะโต อยากเห็นตอนชาจังดีดดิ้นทุรนทุราย 555+

Zephyr 15 ธ.ค. 2556, 13:27:43 น.
เหยยยย ไม่เอาเสือแก่ๆๆๆๆ เขี้ยวหัก ขนหรอมๆแหรมๆ
ไม่เอา ไม่ชอบ ไม่ฟูไม่นุ่ม เฟอร์ขอผ่าน เกล็ดๆเมือกๆลื่นๆเย็นๆก็ไม่เอา
เอาฟู เอานุ่ม เอาสีส้ม เอาสีขาว เอาสีดำด้วยกะได้
ชิ เหอะ อ่านตอนนี้ อยากกินยำงู ต้มงู ผัดเผ็ดงู
งูสีดำ ตัวหย่ายๆๆๆๆ ตาแดงๆๆๆ
ท่าจะอิ่มเน้อ มะม้าทำให้หน่อยสิ คงอร่อยน่าดู หุหุ
อ๊าาาา จะกัด ทึ้ง ฉีก กระชากกก
โอ้ววว น่าสุขใจเสียนี่กระไร
จะทำตัวเป็นพ่อได้อีกนานมั้ย มารี่
หลอกเด็กขาวบริสุทธิ์ มันบาปนะ ตกนรกๆๆๆๆ
แต่นายคงไม่กลัว
เหยยยย ไม่เอาเสือแก่ๆๆๆๆ เขี้ยวหัก ขนหรอมๆแหรมๆ
ไม่เอา ไม่ชอบ ไม่ฟูไม่นุ่ม เฟอร์ขอผ่าน เกล็ดๆเมือกๆลื่นๆเย็นๆก็ไม่เอา
เอาฟู เอานุ่ม เอาสีส้ม เอาสีขาว เอาสีดำด้วยกะได้
ชิ เหอะ อ่านตอนนี้ อยากกินยำงู ต้มงู ผัดเผ็ดงู
งูสีดำ ตัวหย่ายๆๆๆๆ ตาแดงๆๆๆ
ท่าจะอิ่มเน้อ มะม้าทำให้หน่อยสิ คงอร่อยน่าดู หุหุ
อ๊าาาา จะกัด ทึ้ง ฉีก กระชากกก
โอ้ววว น่าสุขใจเสียนี่กระไร
จะทำตัวเป็นพ่อได้อีกนานมั้ย มารี่
หลอกเด็กขาวบริสุทธิ์ มันบาปนะ ตกนรกๆๆๆๆ
แต่นายคงไม่กลัว


Chii 15 ธ.ค. 2556, 23:21:45 น.
อ่านทันแล้วนะคะ
//ขนลุก
ทำเป็นปลอบเด็ก ยังกะจะเนียนนนนน
สิต้าอ่อนให้ไปก่อนนะ เด๋วค่อยเอาคืนหนัก ๆ ให้สะจัยยยย
อ่านทันแล้วนะคะ
//ขนลุก
ทำเป็นปลอบเด็ก ยังกะจะเนียนนนนน
สิต้าอ่อนให้ไปก่อนนะ เด๋วค่อยเอาคืนหนัก ๆ ให้สะจัยยยย

นักอ่านเหนียวหนึบ 16 ธ.ค. 2556, 00:24:39 น.
อื้อฮืออ อ้าหาาาาา
จิงๆ ด้วย
มีกอดรัด ลูบหน้า ลูบหลัง
ตาชามัวเมา แอบชอบเค้าอ่าดิ๊ กินเด็กนี่หว่า
อร๊ายยยย
อื้อฮืออ อ้าหาาาาา
จิงๆ ด้วย
มีกอดรัด ลูบหน้า ลูบหลัง
ตาชามัวเมา แอบชอบเค้าอ่าดิ๊ กินเด็กนี่หว่า
อร๊ายยยย

เรือใบ 16 ธ.ค. 2556, 08:22:48 น.
แอบเรียกคะแนนนะชามัล งั้นก็เลี้ยงต้อย เอ๊ย เด็กต่อไปละกัน จะรอดูวันที่ใจอ่อนเพราะสิต้า หุหุหุ
แอบเรียกคะแนนนะชามัล งั้นก็เลี้ยงต้อย เอ๊ย เด็กต่อไปละกัน จะรอดูวันที่ใจอ่อนเพราะสิต้า หุหุหุ

ริญจน์ธร 16 ธ.ค. 2556, 10:46:02 น.
เริ่มเลี้ยงต้อยแล้ววว
เริ่มเลี้ยงต้อยแล้ววว


yimyum 16 ธ.ค. 2556, 17:00:05 น.
ภาษารัตติดารา อราย><
ภาษารัตติดารา อราย><

บุลินทร 16 ธ.ค. 2556, 18:29:52 น.
มีการลูบผงลูบผมนะตามารรรรร เดี๋ยวมิตรมาจัดการ
มีการลูบผงลูบผมนะตามารรรรร เดี๋ยวมิตรมาจัดการ

goldensun 16 ธ.ค. 2556, 19:24:32 น.
ชามัลโตมาแบบถูกเลี้ยงให้เห็นแต่การใช้ประโยชน์จากคนอื่น แต่สิตาราถูกมิตรเลี้ยงมาต่างกัน
ก็น่าลุ้นว่า ใครจะเปลี่ยนใจใครได้ก่อน สิตาราจะทำให้ชามัลเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นรึเปล่า
เพราะตอนนี้ ถึงใจจะคิดใช้ประโยชน์ แต่ก็ดูมีความอ่อนโยนให้สิตารานิดๆ นะนี่
เด็กหนุ่ม หนึ่งในแฝดที่พูดถึงตอนที่แล้วใช่มั้ยคะ ที่ตามหาสิตาราอยู่
ชามัลโตมาแบบถูกเลี้ยงให้เห็นแต่การใช้ประโยชน์จากคนอื่น แต่สิตาราถูกมิตรเลี้ยงมาต่างกัน
ก็น่าลุ้นว่า ใครจะเปลี่ยนใจใครได้ก่อน สิตาราจะทำให้ชามัลเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นรึเปล่า
เพราะตอนนี้ ถึงใจจะคิดใช้ประโยชน์ แต่ก็ดูมีความอ่อนโยนให้สิตารานิดๆ นะนี่
เด็กหนุ่ม หนึ่งในแฝดที่พูดถึงตอนที่แล้วใช่มั้ยคะ ที่ตามหาสิตาราอยู่

SunSeed 18 ธ.ค. 2556, 20:14:07 น.
อร๊ายยยยย อยากถูกชามารสวมกอดจะเพราะสาเหตุอารัยก็ช่างเหอะ อิอิ
อร๊ายยยยย อยากถูกชามารสวมกอดจะเพราะสาเหตุอารัยก็ช่างเหอะ อิอิ