โมรารัตติกาล {{{ชุดอัญมณีเหนือกาล}}}สนพ.อรุณ
รัตติกาล ทิวา สนธยา สามเวลาที่อยู่คู่โลกมาแต่บรรพกาล
ตำนานบทใหม่แห่งอัญมณีเหนือกาลจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า!

-------------------------
ยังเคยยินเรื่องราวของหินโมราแห่งรัตติกาล
พลอยโบราณล้ำค่าที่อาจนำพาใครบางคนหวนสู่อดีตกาล เรื่องของมันอาจถูกกลบฝัง
กร่อนกลืนไปกับเงื้อมเงาแห่งกาลเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนความรับรู้ของผู้คน
แต่กับเขา...
ผู้ซึ่งมีเพียงความแค้น ไม่มีแม้ร่างกาย เป็นแต่เพียงวิญญาณที่ล่องลอยไปในราตรี
เฝ้าเพรียกหาให้อดีตหวนคืนกลับ เพื่อเปลี่ยนวันแห่งความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะ
เวลาผ่านเนิ่นนานนับสิบๆปีจากวันที่เขาตาย
โลกเปลี่ยนแปร แต่ใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนตาม
เขายังคงไม่ไปไหน
แม้จำได้ว่าตนเองเคยมีนาม เคยเป็นใครคนหนึ่งที่ถูกเรียกขานว่าชามัล เมห์ฮรา
แต่ตอนนี้แทบไม่รู้สึกว่านามนั้นคือตนเอง ไม่ได้มีใครเรียกชื่อเขานานมากแล้ว
ตั้งแต่เขากลายเป็นชีวิตไร้ตัวตนในความมืด ที่ยังจำได้ดีคือความแค้นต่อทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่เว้นแม้กระทั่งแค้นตัวเอง ที่พ่ายแพ้ และต้องตาย...
วิญญาณของเขายังรอคอยวันที่มือซึ่งมองไม่เห็นคู่นี้จะเอื้อมคว้าไปถึง
อัญมณีเม็ดนั้นที่จะพาเขากลับไปแก้ไขอดีต
...โมราแห่งรัตติกาล
และคนที่จะนำพาเขาไปถึงมันได้ มีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น


------------------------------------
เรื่องเริ่มต้นที่ร้านอัญมณีเก่าคร่ำคร่า หลายคนเดินผ่านเลยไป แต่มีบางคน...
คนที่ตามหาเท่านั้นจึงจะค้นพบการมีอยู่ของร้าน และเปิดประตูเข้ามา
ตัวร้านเดินทางอยู่ในระหว่างมิติเวลา บางทีมันอาจไปโผล่ที่ตรอกโทรมๆสักตรอกในอนาคต
หรือในซอยคับคั่งย่านเยาวราชที่คนพลุกพล่านเดินผ่าน แต่จะไม่มีใครหยุดสนใจ
นอกเสียจากคนผู้มีชะตาผูกพันกับพลอยทรงอำนาจลึกลับสักเม็ดในร้าน
ท่านจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านที่ชื่อ มิตร เมห์ฮรา

Tags: มนตราอัญมณี มายาไฟในดวงตา ชามัล มิตร สิตารา มัชฌิม์ รัตติดารา สิงหรานี ราศีที่สิบสาม ม่านทิวาพชร มรกตสนธยา

ตอน: บทที่ ๑๖ คำบอกลาครั้งสุดท้าย +ชวนเล่นเกมชิงหนังสืออัญมณีเหนือกาลในเฟซบุคค่ะ+

บทที่ ๑๖ คำบอกลาครั้งสุดท้าย

‘บาดแผลที่หลังเจ้าเกิดจากโลหะอาคมร้ายแรงที่สุด หากขยับตัวนักอาการจะกำเริบ
ทางเดียวที่เจ้าจะรอดได้ คือนอนไปนานๆ จนกว่าจะดีขึ้น’

นอนนิ่งๆงั้นหรือ มิตรถอนใจกลัดกลุ้ม ทั้งที่มีเรื่องมากมายต้องบอกกับสิตารา
เรื่องร้ายแรงที่เกิด ความโหดเหี้ยมของตุลาการ ขนาดที่ว่าทำให้น้องสาวตัวมันเองต้องตาย...
แล้วเขาจะยังต้องมานอนรออะไร มีอะไรจะเสียอีก เรื่องคราวนี้หากแม้ว่าต้องเสี่ยงถึงชีวิตก็คงต้องลอง

อีกอย่าง เขาไม่อยากอยู่ในเงื้อมมือของศานติมันผู้เป็นพ่อแท้ๆของตนนานไปกว่านี้
มันอาจเป็นพรหมลิขิต ที่ทำให้เขาได้พบเจอหน้าพ่อสักครั้ง ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือ
แต่ถ้าให้ฝ่ายนั้นรู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร เรื่องจะยุ่งยากขึ้นอีกมาก ทั้งอนาคตที่จะเกิดตามมานั่นอีก

เพราะเดิมบิดาไม่รู้ว่าเขามีตัวตนอยู่บนโลก ถ้าลองได้รู้เข้าล่ะ เชื่อได้ว่าคนช่างวางแผน
คงจะมีแผนการณ์เพิ่มมาอีกสักร้อย ซึ่งอาจเปลี่ยนชีวิตเขาไปเลยก็เป็นได้


ดังนั้นในคืนหนึ่งที่บรรยากาศเป็นใจ คนป่วยที่ยังอ่อนล้าไปทั้งกายก็ตัดสินใจลุกขึ้น
ใช้พลังของอัญมณีหลากหลายที่ยังสวมใส่ติดกายพาตนพ้นไปจากใต้หลังคาเคหาสน์
ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายทะเล ไม่ช้าไม่นานเขาก็หันไปมองมันอีกครั้ง
เพื่อเก็บภาพจดจำไว้ในใจเป็นครั้งสุดท้าย

“ท่านคือพ่อของข้า แม้ท่านไม่มีโอกาสได้เลี้ยงดูข้ามา แต่สวรรค์คงมีเหตุผลให้มันเป็นเช่นนั้นเอง
ก็ต้องขอบคุณที่ช่วยให้ข้ารอดชีวิตในคราวนี้...ท่านศานติมัน ข้าจะไม่ยอมตายเป็นอันขาด
จะมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่ข้ารักต่อไป”



เมื่อสิตาราผ่านบททดสอบแรกด้วยดี สุดท้ายอโพซินเต้จึงตัดสินใจปล่อยหญิงสาวไปตามทาง
“ใช่ว่าข้าจะทิ้งเจ้า แถวนี้มีอะไรให้ทำอีกมาก ข้าจะอยู่ที่นี่ช่วยระวังหลัง
และรอคอยการกลับมาของเจ้า ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องผ่านมันไปให้ได้
บททดสอบสำคัญที่รออยู่ไม่อาจเอาชนะได้ด้วยกำลังข้าหรือใครคนไหน
มันคือการต่อสู้ของเจ้าเพียงลำพัง

พวกภูตดารารั้งอยู่ทำงานสืบข่าวโดยรับคำสั่งจากพ่อปู่อโพซินเต้ตามหมอบหมายของสิตารา
เธอสั่งให้นิลละอยู่ที่นี่ ไม่ยอมให้ติดตามไปไม่ว่าอีกฝ่ายจะอ้อนวอนเพียงไหน ในคืนอันเงียบสงัด
หญิงสาวตั้งใจจะออกเดินทางจากไป ทว่าเมื่อก้าวพ้นค่าย เสียงแสนคุ้นเคยและเป็นเสียงที่
อยากจะได้ยินที่สุดในโลกก็ดังเรียกท่ามกลางความมืดนั้น

“สิตารา”

“มิตร!”

เสียงเขาแทบไม่ดังไปกว่ากระซิบ มันดังมาจากสุมทุมพุ่มไม้ตรงไหนสักแห่ง
ท่ามกลางแสงจันทร์วับแวมที่จับต้องลงมา สิตาราเพ่งสมาธิไปตามทิศของเสียงครางที่เบายิ่งกว่าเบา
จนที่สุด เธอพบคนตัวใหญ่นอนฟุบอยู่ สิตาราต้องผลักเขาทุลักทุเลให้หงายขึ้นมา
แล้วก็เห็นว่าหน้าของมิตรซีดเซียวไร้สีเลือดราวคนใกล้ตาย

“มิตร เป็นอะไร! ไปโดนอะไรมา”

“แค่บาดเจ็บเพราะอาคม มีคนบอกฉันว่าถ้าเคลื่อนไหวมากจะตาย แค่อยู่นิ่งๆก็พอ
ฉันไม่เป็นไรหรอก มาจนเจอเธอได้เท่านี้ก็พอแล้ว ไว้เดี๋ยวค่อย...กลับไปกินยานิทราแล้วนอนพักในร้าน”
มิตรเอ่ยตะกุกตะกักทั้งแหบล้า “แต่ฉันต้องบอกเธอ ฉันชิงเอาพลอยประจำตัวของตุลาการมาด้วยแล้ว
ตอนนี้พลังของมันอ่อนแอลง อย่างน้อยก็ น่าจะ...สักครึ่ง แต่ถึงจะเป็นงั้น ฉัน...” มิตรสำลักไอ
“ฉันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ฉันมันอ่อนแอ...ตอนแรกไม่ได้คิดจะสู้กับมันเลย แต่เพราะว่าถูกจับได้กลางคัน
เลยต้องหันเข้าสู้”

“มิตรช่วยได้มากเลย” สิตาราบอกเร่งร้อน พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
นี่มันอะไรกัน เขาทำเพื่อเธอจนแทบจะเอาตัวเองไปตาย
ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ารดิศเป็นคนอันตรายมาก เธอก็ยังปล่อยให้มิตรไปกับเรือลำนั้น

“อีกอย่าง สำคัญมาก...ความลับของตุลาการ ที่เกาะของพวกมัน มีบางอย่างซ่อนอยู่
เธอจะต้องไปให้ถึงเกาะแห่งความเที่ยงธรรม”

เพราะเสียงของเขาเบามาก สิตารากลัวว่ามิตรจะหมดแรงเธอจึงก้มลงไปใกล้
เงี่ยหูฟังสิ่งที่เขากำลังบอกให้ถนัด ตาของหญิงสาวจึงยิ่งเบิกกว้างขึ้น เมื่อรับรู้ข้อความจากปากมิตร

“คนที่เธอตามหามาตลอด ถูกเอาตัวไปไว้บนเกาะนั่น...”

สิ้นคำนั้น มิตรพลันสลบไป สิตาราเร่งควานหาอัญมณีในตัวเขาที่จำได้ว่ามิตรใช้ประจำ
เวลาจะเรียกร้านกาลเวลาให้ปรากฏ แต่แล้ว เธอไม่พบสร้อยเส้นนั้น ไม่แน่มันอาจหลุดหล่นหายไปตามทาง

อัญมณีที่เป็นเสมือนกุญแจ...สิตาราเคยมีเป็นลูกปัดร้อยข้อมือไว้
ทั้งที่หินจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อร้านอยู่ในห้วงเวลาเดียวกันกับเธอ แต่ไม่ว่าอย่างไรชามัลก็เอามันทิ้งไป
ตั้งแต่เขาสิงร่างเธอแล้ว ร้านนั้นเป็นของมิตรก็จริง มันยังรอเขาอยู่ในช่วงเวลานี้ ที่ผ่านมามันสื่อสารกับเขา
ผ่านอัญมณีซึ่งพกติดตัว... มิน่า เพราะสร้อยขาดหายไปแบบนี้เอง ไม่เช่นนั้นมิตรคงบอกให้ร้านพาเขามาหาเธอ
ไม่ต้องกระเสือกกระสนมาเองจนแทบคลาน

เวลาผ่านไป สิตาราเริ่มสงบจากอาการหัวหมุน สุดท้ายก็สงบใจลงได้ หญิงสาววางมือลงประสานกับมือมิตร
...บางทีพลังของผู้ใช้อัญมณีถึงสองคนรวมกัน อาจเพียงพอจะเรียกให้ร้านขายอัญมณีมาปรากฏต่อหน้าได้

“ได้โปรดเถอะ ร้านกาลเวลา มาหาเจ้านายของแก ที่นี่ ตอนนี้ มาเดี๋ยวนี้เลย! ก่อนที่มิตรจะทนไม่ไหว”
สิตาราแทบจะอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เวลาผ่านไปและผ่านไป เธออดทน ค่อยๆใช้สมาธิและเฝ้ารอ
จนที่สุด...เส้นพลังของมิตรที่ถูกดึงออกมาจากมือเขาซึ่งหมดสติค่อยๆประสานเป็นหนึ่งเดียว
กับพลังของสิตารา เกิดเป็นขุมพลังมหาศาลคล้ายลมหมุนตีวนแผ่กระจายออกไปโดยรอบ

เสียงเคลื่อนไหวสั่นสะเทือนดังขึ้น และเมื่อสิตาราลืมตา ปาฏิหาริย์บังเกิด!
ตัวร้านนั้นมาตั้งอยู่เบื้องหน้าเธอจริงๆ ป้ายเขียนว่ากาลเวลาอันแสนคุ้นเคย
ภาพที่สิตาราไม่คิดว่าจะได้เห็นอีกครั้งในชีวิตนี้

...เธอคิดเอาเองว่าเขาคงไม่ต้องการให้พวกรัตติดาราเหยียบเข้ามาในร้านซึ่งเป็นที่ส่วนตัวเอาไว้
เก็บของมีค่ามากมาย หญิงสาวจึงลากตัวมิตรเข้าไปด้วยกำลังของตนเอง จับเขาพาดขึ้นเตียงได้
ก็แทบหอบ ก่อนจะเร่งวิ่งหายานิทราจากกล่องยาที่มิตรเก็บไว้ ตระกูลเมห์ฮรานอกจากเป็นผู้ใช้ไฟ
ยังเป็นผู้ใช้ยาทั้งในการต่อสู้และรักษา

ทว่าหญิงสาวกลับต้องตกใจ เธอพบว่าไม่มียานิทราอยู่ในกล่อง ใจเย็นๆก่อน ค่อยๆคิด
จริงสิ...มิตรบอกเธอว่าตอนนี้เขายังไม่รู้เรื่องการจำศีลเพื่อรอใครบางคนอะไรที่ว่า
คงจะไม่ได้เก็บไว้ใกล้มือ แต่เมื่อครู่ก็ยังพูดออกมาเองว่าจะกลับมากินยานี่ที่ร้าน

ด้วยความที่เดาใจได้ว่าคนรกเรื้อไม่มีระเบียบอย่างมิตรชอบโยนของประเภทไหนสุมไว้ส่วนใดของร้าน
ที่สุดสิตาราก็พบมัน ขวดยานั้นอยู่รวมกับยาอีกหลายขนาน “เอายานิทราปกติมาเก็บไว้ข้างๆยาสั่งนิทรา
แบบนี้ได้ยังไง ถ้าเกิดหยิบผิดขึ้นมาละยุ่งเลย!” ก็นั่นมันยาร้ายแรงที่กินแล้วจะหลับเป็นตายไปถึงห้าสิบปี
แถมความเป็นไปได้ที่จะฟื้นยังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน คนบ้า! ชุ่ยเสมอต้นเสมอปลาย ยังดีที่มิตรเคยสอนให้เธอ
รู้จักยาต่างๆที่เขามีจนหมดทุกชนิดแล้ว สิตาราจึงเลือกหยิบเอายาแก้ช้ำใน ยาถอนพิษ แก้อาคมสารพัด
อย่างมาด้วย เตรียมกรอกให้เขารวดเดียว

“มิตร! อ้าปาก กลืนยานี่เข้าไปให้หมด”

ชายหนุ่มที่แทบไม่ได้สติรับรู้ร้องอืออาทรมาน แต่ก็ยังยอมเผยอปากขึ้นรับยาที่สิตาราป้อนให้ทีละขนาน
ยกเว้นยานิทราที่เก็บไว้เป็นรายการสุดท้าย สิตาราแทบสะดุ้ง เมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็สะอื้นไห้แล้วร้องตะโกนออกมา

“อย่าฆ่ารตี เอาชีวิตฉันไปแทน... ... ...ได้โปรด”

หญิงสาวตกตะลึงกับคำที่เข้าหู “เกิดเรื่องถึงขนาดนี้เพราะฉันใช่ไหม” สิตาราปากสั่น
ในขณะที่มิตรยังละเมอหวาดผวาไม่เป็นส่ำ

“อย่าตายนะรตี ฉันรักเธอ ฉันขอโทษ”

สิตารายิ่งตะลึง มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ มิตรไม่ได้เพียงติดใจพี่รตี แต่รักพี่เขาไปแล้ว
ความจริงอันน่ากลัวที่เขาเพิ่งละเมอให้เธอรู้ กับน้ำตาที่ยังรินไหลแม้ยามหมดสติ
นี่แปลว่าพี่รตีตายไปแล้วงั้นสิ...

หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอแห้งผาก ตลอดเวลาที่มิตรไปกับเรือตุลาการเพื่อช่วยเธอมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เพราะความร้อนรนจะป้อนยานิทราให้เขา เพราะตกประหม่ากลัวเขาจะตายทำให้ไม่ทันรอฟังเรื่องทุกอย่าง
สิตาราแทบจะทึ้งผมตัวเอง แต่เธอจะอยู่รอจนเขาตื่นไม่ได้ ในขณะที่เธอมาอยู่ในร้าน ที่ข้างนอกนั่น
ชีวิตของผู้คนรวมทั้งรัตติดาราที่ฟาดฟันกันอยู่ก็สูญเสียมากยิ่งขึ้นทุกที

หลังจากเฝ้ารอดูอาการจนแน่ใจ เมื่อชีพจรและจังหวะหายใจของมิตรค่อยๆสม่ำเสมอ
หญิงสาวที่รู้สึกใจอ่อนแอรวมถึงยิ่งเมื่อได้กลับมายังร้านก็เอนกายลงข้างเขา
เริ่มร้องไห้เมื่อรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นจากนี้ไป...

สิตาราเคลิ้มหลับไปหน่อยหนึ่งข้างๆกายคนที่เธอแสนรักเหมือนพ่อ เหมือนพี่ชาย เหมือนครู
และเหมือนเพื่อน เขาเป็นทุกอย่างที่เธอไม่เคยมี และตอนนี้เธอกำลังจะต้องลาจากเขาไป
หญิงสาวเหลือบตามองคนตัวใหญ่ ตอนนี้จังหวะหายใจเขาแผ่วลงจนแทบเหมือนไม่หายใจ

นี่คือการจำศีล...มิตรหลับสนิทลงแล้ว และคงไม่ตื่นอีกเป็นอาทิตย์ เป็นทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยชีวิตเขาไว้


เจ้าของร่างเล็กค่อยๆลุกขึ้น ออกไปหากระดาษกับปากกาในร้าน
ตั้งใจลงมือเขียนจดหมายถึงเขา แทนคำบอกลาจากปากตัวเอง

‘ถึง มิตร {ตื่นมาแล้วอย่าลืมกินยาด้วย}
ฉันคิดว่านอนแค่รอบเดียวคงไม่พอ ทางที่ดีควรนอนไปเรื่อยๆจนกว่าจะหาย
มิตร...ฉันรู้นะ ว่าทันทีที่ฉันก้าวออกไปพ้นร้านนี้ มันคงจะพามิตรไปยังเวลาอื่น
แล้วก็ไม่กลับมาที่นี่อีก อย่าโกรธเลย ร้านก็ทำตามใจตัวเองแบบนี้เสมอแหละ
แต่รู้ใช่ไหมว่ามิตรจะต้องทำยังไงเราถึงจะเจอกันอีกครั้ง
ร้านจะพาเธอไปยังช่วงเวลาที่เราพบกันครั้งแรก
ที่ป่าริมหาดประจันต์คิรีเขตต์ ปีมะเมีย พ.ศ.๒๔๗๓ เดือนมิถุนา
วันที่ ๑๙ ...เป็นวันแรมแปดค่ำ วันพระพอดิบพอดี
ฉันจำได้ก็เพราะมิตรสั่งให้ท่องจำเอาไว้เสมอ มิตรต้องไปช่วยฉันตอนเด็กในคืนนั้น
เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันเหมือนที่เคยเป็นมา...ถึงเวลานั้นก็ช่วยสอนฉันด้วยนะ’

สิตารามือสั่นจนแทบจะเขียนต่อไปไม่ไหว เมื่อน้ำตาค่อยๆไหลรินลงอาบหน้า
กับเสียงสะอื้นที่เธอไม่พยายามกลั้น ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่มีใครจะมาได้ยิน

‘ช่วยรักฉัน...เด็กที่ไม่เหลือใคร ช่วยเลี้ยงดู สอนฉันทุกอย่าง
ให้ฉันโตมาเป็นเหมือนอย่างวันนี้ มีแต่ความทรงจำดีๆถึงมิตรอยู่ในใจ
ถึงเวลาต้องจากกันแล้ว ถ้าแต่นี้ไปตลอดชีวิตของฉัน เราไม่ได้พบกันอีก
ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะใช้ชีวิตอย่างดี มิตรกำลังเป็นห่วงใช่ไหม ฉันรู้
ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันเอาชามัลอยู่หมัดแน่นอน ฉันรักเขา
และจะพยายามก้าวไปในทางที่ดีที่สุด สำหรับทุกคน
ฉันจะยังคิดถึงมิตรเสมอ ไม่มีวันลืมเธอเลย
หลังจากนี้...ขอให้มิตรไปยังภูเขา ที่ลูกหนึ่งเล็กลูกหนึ่งใหญ่
เหมือนพ่อลูก อยู่คู่กันเหมือนเราสองคน มิตรรู้นี่ว่าที่ไหน
นั่นแหละ ต่อไปเราจะได้ไปตั้งแค้มป์ด้วยกันที่นั่น
ส่วนฉัน ถ้าจากนี้ฉันสามารถผ่านมันไปได้...
ฉันจะหาทางฝังหนังสือเรื่องราวทั้งชีวิตของตัวเองไว้ที่โคนหินตรงยอดเขานั้น
อย่าลืมนะ นี่จะเป็นไทม์แคปซูลของเราสองคน เหมือนในหนังที่มิตรเคยเอาให้ฉันดู
มิตรเองก็ระวังด้วย อย่าเศร้ามากนัก ขอให้เข้มแข็ง มีชีวิตอยู่เพื่อรอคอยคนที่มิตรรัก
ในเมื่อมิตรที่ฉันรู้จักเชื่อว่าจะได้พบพี่รตีอีก ฉันเองอยู่ที่นี่ก็จะเอาใจช่วยด้วยอีกคน
บางทีพลังของโอปอลที่มิตรเก็บมาไว้ คงเป็นสื่อนำพามิตรไปพบเธอได้ในสักวัน
จาก...สิตารา
เด็กน้อยคนนั้นเมื่อวันวาน’

สิตาราตัดใจวางปากกา ลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องนอน ไปมองเจ้าชายนิทราของเธออยู่นานเป็นครู่...
ผมเดร็ดล็อกส์เป็นขยุ้มยุ่งสยายบนหมอน ใบหน้าอ่อนล้าบอบช้ำเหมือนเด็กผู้ชายสักคนที่ร้องไห้หนัก
จนหมดแรงหลับปุ๋ย แม้ว่าเรื่องที่เจอะเจอมาคงหนักหนา ทว่าก็ยังไม่ทิ้งรอยว่าเคยเป็นคนอารมณ์ดี
สดชื่นรื่นเริงเพียงไหน มองโลกในแง่ดีและมีความหวัง
นั่นแหละมิตรของเธอ...น่าอิจฉาคนที่ได้รักเขา
เมื่อเทียบกับคนที่สิตารารัก คนคนนั้นมีความดีงามในใจไม่ได้ขี้เล็บของมิตรเลย
แต่ในเมื่อรักแล้วเธอก็จะชี้ทางที่ดีที่สุดให้ หวังว่าชามัลจะยอมรับความปรารถนาดีจากเธอ

สิตาราวางพับจดหมายที่ไม่ได้ปิดผนึกไว้ในมือของมิตรที่เธอเอามาวางประสานกันบนทรวงอกเขา
“เอาใจช่วยฉันด้วยนะ มิตร”

จากนั้น เจ้าของร่างบางก้มลงจุมพิตตรงหน้าผากของคนที่กำลังหลับ ก่อนจะค่อยๆหันจากมา
หยุดมองเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนงับประตูห้องนอนปิด

“อืม มิตรเคยสอนไว้นี่นะว่าใครมือไวมือยาว สาวได้สาวเอา”

สิตารามองไปรอบๆร้าน ที่นี่คงมีอะไรที่เธอพอจะหยิบฉวยไปช่วยให้รอดชีวิตได้บ้าง
เดี๋ยวต้องเขียนลิสต์รายการทิ้งไว้ให้อีกฉบับ ตามิตรตื่นมาอย่าโวยวายก็แล้วกัน...

เมื่อก้าวออกพ้นประตูร้านกาลเวลา หญิงสาวหันไปปิดประตูจนสนิท
มองมันค่อยๆเลือนหายไปทั้งรอยยิ้ม เธอยิ้มให้กับวันข้างหน้าที่ยังมีความหวังเป็นแรงใจให้สู้ต่อไป


จากวันนั้นเรื่อยมา...หญิงสาวพบว่าการอยู่คนเดียว เดินทางด้วยตัวเอง
สืบเสาะเรื่องต่างๆไปตามลำพังนั้นไม่ง่ายเลย อดหลับอดนอน บางคราท้องหิว
สะบักสะบอมยามคราถูกชายฉกรรจ์ฝูงใหญ่ที่กุมความลับของฝ่ายศัตรูที่มีเยอะแยะไปหมดไล่ล่า
แม้อาวุธลับจะทำอันตรายเธอไม่ได้เพราะเขี้ยวแก้วนาคาป้องกันไว้ แต่บางทีสิตาราก็ป่วย
นอนจับไข้อาเจียนอยู่ลำพังจวนหมดแรงเพราะไม่มีใครมาดูแล

แต่ทุกครั้งเธอก็รวบรวมแรงลุกขึ้นมาใหม่! มีชีวิตและก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง
ไม่ยอมแพ้เพื่อนแท้ของเธอ มิตร...ผู้อยู่ไกลห่างออกไปคนละห้วงเวลา


-----------
ไปเล่นเกมชิงหนังสือชุด อัญมณีเหนือกาล กันได้ที่เฟซบุคนะคะ
อสิตา - โมรารัตติกาล
บุลินทร - ม่านทิวาพชร
ริญจน์ธร - มรกตสนธยา
...เซิชหาจากชื่อนักเขียนได้เลย



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ม.ค. 2557, 02:50:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ม.ค. 2557, 02:53:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1381





<< บทที่ ๑๕ สายลมของการเปลี่ยนแปลง (...จบบท)   บทที่ ๑๖ (...ต่อ) +ชวนเล่นเกมชิงหนังสืออัญมณีเหนือกาลในเฟซบุคค่ะ+ >>
อสิตา 23 ม.ค. 2557, 02:53:59 น.
คุณหนูยิ้ม – หุหุ คราวนี้ใครจะมาก่อนน้า ระหว่างหนูยิ้มกับเกดซ่า... ตอนนี้เศร้าแน่เบย
เรื่องความตายของรตีจะยังไม่พูดถึงตอนนี้นะ รู้แต่ว่าตายแบบพี่ชายพลั้งมือก็แล้วกัน
คุณเกดซ่า – มาแล้ว หลังจากอู้ไปหนึ่งวัน ลงไม่พร้อมน้องๆ ตอนนี้เกดซ่าเสียน้ำตารึยัง
เอามันออกมาๆๆๆ หุหุ อยากเห็นน้ำตาเกดซ่าที่สุดละ
คุณก้อนหิน – แน่ใจเหรอคะว่านั่นคือนิลละ เอ หรือว่าใช่ นี่อาจเป็นการหลอกซ้อนหลอกน้า
เรื่องรตีกับมิตรไว้ว่ากันทีหลังค่ะ ตัดข้ามมาก่อนเพราะมันไม่ใช่เนื้อเรื่องหลัก
คุณเมล็ดทานตะวัน – แล้วชอบตามิตรไหมคะ เมห์ฮรานี่ใจคอจชอบตามารอยู่คนเดียวรึคะ ใจร้ายๆๆ

คุณหนอนน้อย – นั่นสิ งูกะหนอนก็คือๆกัน จะมากลัวไร //หยิบไม้ตีหนอน ปั้กๆๆ แผละ... .. .
พูดแบบนี้ตามารน้อยใจนะ แล้วคำบอกลาครั้งสุดท้ายเป็นอย่างที่คิดไหมล่ะ หุหิ
หนอนอย่าลืมไปเล่นเกมชิงหนังสือน้า *0*
คุณบาร์บี้ – นั่นสิคะ สงสัยได้ดี หุหุ ตัวจริงไหมน้า เรื่องนี้ดูความคิดตอนฮีอยู่คนเดียวก็จะค่อยๆรู้เอง
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – 55ยังไม่หญิงเก่งเท่าไหร่ แต่ดีขึ้นมากนะ หนูสิต้าผู้เริ่มเรียนรู้
ระวังเจอตามารแล้วจะใจอ่อนนา

คุณเฟอร์ – อ่านนิยายมะม้ามาตั้งเยอะแล้ว ทำไมยังหลอกง่ายแบบนี้ น่าตัดออกจากตำแหน่งลูกสะใภ้นิ
งูเบื่อเฟอร์มากละ ณ จุดนี้ บอกว่าจะฆ่าพวกเสือให้หมดเลย
คุณโกลเด้นซัน – วรรณะไม่เลือกชามัลค่ะ เพราะชามัลไม่เลือกข้างแสงสว่างแล้ว วรรณะอยากไปอ้อน
อัคนิกับศานติมันมากกว่านะ หุหุ คนที่มานี่คนไหนไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นตัวจริงจะยอมให้ทำลายมุกง่ายๆหรือ
หรือว่าจะเป็นมุกปลอม บางทีสีสันที่ให้คนอื่นเห็นก็มีไว้ตบตา ... รดิศทำรตีตายแบบไม่ตั้งใจ เรื่องนั้นยังไม่ได้เล่าค่ะ
เอาไว้ค่อยเล่าทีหลังในภาคสามเลย สำหรับแฟนๆของตามิตรโดยเฉพาะ เค้าเป็นพระเอกนะ *-*
เรื่องตัดโมราเดาได้เข้าเค้าค่ะ รอดูกันต่อไป ใกล้แล้ว

คุณเด่นเดือน – เดี๋ยวก็เจอชาจังแล้วค่ะ ตอนนี้ก็โดนขโมยซีนไปแบบสุดขีด เดี๋ยวค่อยทวงซีนคืน
หนังสือน่าจะออกราวๆ10ก.พ.ค่ะ จะไปซื้อวันวาเลนไทน์ก็ได้นะคะ จะได้อินเลิฟกะงูเยอะๆๆๆ
คุณบุลินทร – ตอนนี้ตามิตรเด่นเลย ได้อ่านพอรึยัง ภาคสามก็เด่นอีก เอาเข้าไป เป็นตัวละครที่ชอบมากนะ


konhin 23 ม.ค. 2557, 04:02:26 น.
ตามิตรเท่ห์สุดๆเลยค่าาาา


เด่นเดือน 23 ม.ค. 2557, 05:45:24 น.
เศร้าจัง สงสารสิตารา
งูมาไวๆนะคิดถึง


ใบบัวน่ารัก 23 ม.ค. 2557, 05:52:13 น.
เศร้าจัง


ketza 23 ม.ค. 2557, 06:19:33 น.
T^T
เกดซ่าฉงฉานมิตรอ่ะ นู๋สิด้วยแง๊ๆๆๆๆๆๆ
... เรื่องราวเรื่อมเชื่อมต่อกันแว้ว ลุ้นๆๆๆ
... ว่าแต่นู๋สิหยิบไรในร้านไป เหอๆๆๆ


yimyum 23 ม.ค. 2557, 07:07:19 น.
เดี๋ยวมาอ่านตอยเย็นนะคะ
ป.ล .มันตัดไปเหรอ ฉากรตีถูกฆ่าอ่ะค่ะ??


บุลินทร 23 ม.ค. 2557, 11:15:34 น.
จดหมายลาเศร้าเชียว ตอนนี้เป็นตอนที่ยังไม่ได้อ่านสินะ


goldensun 23 ม.ค. 2557, 16:50:57 น.
ร้านกาลเวลานี่พาวกวนได้ดีแท้ ผลเกิดก่อนเหตุไปซะอย่างนั้น เล่นเอามิตรช้ำไปเลย ทั้งที่สิตาราเตือนแล้ว
หรือจริงๆ แล้ว อนาคตเปลี่ยนไม่ได้ เพราะมิตรก็ต้องวนกลับอดีตไปช่วยสิตาราด้วยอีกแน่ ตามจดหมายที่ให้ไว้
ตอนนี้สิตาราลุยน่าดู ไม่มีพี่เลี้ยงแล้ว กว่าจะเจอชามัลอีกที คงแกร่งพอตัว


ดังปัณณ์ 23 ม.ค. 2557, 19:39:54 น.
สงสารมิตรอ่ะ รตีตายจะๆตาเลย ฮือๆๆ คุณแป๊งงงงงงง หาคนดามใจให้มิตรหน่อย หนอนน้อยก็ได้นะ (555+ เข้าทาง)

เห้อ แยกจากกันซะแระสิน่าสงสารจริงๆ ไม่มีทางได้กลับมาเจอกันแล้วด้วย ฮือๆๆ ว่าแต่ไอ้ที่ว่าจะจัดการชาจังให้ยุหมัดนี่ถ้าจะจริงแระนะ ฮ่าๆๆๆ

เห้อเจอกันอีกทีไม่รุจะเป็นไงนาเนี่ย หนูสิเจอโลกกว้างเพียงลำพัง ถ้าหากันจนเจอกับชาจังคราวนี้คงไม่โดนชาจังแกล้งเอาๆเหมือนเมือ่ก่อนแระล่ะ ว่าแต่ คราวนี้ใครจะปราบใครกัันแน่ แต่แห็นแววรำไรๆๆ ชาจังแพ้!

หนอนไม่เล่นหรอก หนอนไม่มีโชคทางนี้ ฮ่าๆๆๆๆ หนอนรอซื้อดีฝ่า หุหิ ทันใจวัย(เลย)รุ่น ฮี่ๆๆๆๆ เอาไปแปะหน้าเพจให้เพื่อนๆคนอื่นเค้าได้เสี่ยงกันแระนะฮะ เชียร์ชาจังเตมที่ (แหมจะยังหมั่นไส้ยุก็ตาม ฮี่ๆๆ)


pattisa 23 ม.ค. 2557, 20:33:52 น.
ตางูหายไปไหน ทิ้งสิตาราน้อยคนเดียวได้ไง


Zephyr 23 ม.ค. 2557, 21:09:53 น.
ช่างงู เฟอร์ไม่สนงูอยู่แล้ว จะไปเลื้อยอยู่ไหนก็ไปเหอะ
แต่ตอนนี้สิต้าแย่แล้ว ตัวคนเดียว งูกลับมาดูและแลด่วน
ก่อนนางจะไม่มีลมหายใจ
เขี้ยวแก้วนาคามันต้องมีวันแตก มันค้มครองตลอดไม่ได้หรอกนะ
ถ้าตัวกลับมาไม่ทัน จะเสียใจนะเอ้า
ปล.โฮ สิต้าลามิตรได้เศร้าจุงเบยยยย ฮือออออออออออออ
ทำไมต้องจากกันละ แงๆๆๆๆ


นักอ่านเหนียวหนึบ 24 ม.ค. 2557, 01:06:00 น.
ตอนนี้มีแต่ฉากพระเอก สงสารพระเอกจังเลยยย
นางเอกของเราอยู่ดูแล แต่สุดท้ายก็ยอมถอย ให้งันเวลาพัดพาเพื่อพิสูจน์ว่าเราเป็นคู่แท้กันจริง!!!
นิยายเรื่องเดียวกันช้ะ ไมพลอตเรื่องแปลกๆ 55
ตาเมาไม่ต้องกลับมาก็ได้นะ ไปให้ลับบบบเลย!!!


ดวงมาลย์ 24 ม.ค. 2557, 09:37:33 น.
จะมีนาแล้วนะเตง ต้องผอมนะเตง คิดถึงนะเตง ไปละ 5555


Barby 30 ม.ค. 2557, 20:28:56 น.
T_T


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account