เพียงกลีบดอกไม้ล่องลอยไปในสายลม
..........
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 12 : เขาเป็นพระราชา เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในโลก นอกจากเขา ในโลกนี้ไม่มีมนุษย์อื่นใดเป็นผู้ชายอีก

ฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรถยนต์ที่นั่งแล่นผ่านห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ตรงกันข้ามคือชายหาดของพัทยากลาง เมธวัชร์จองห้องชุดของโรงแรมบนชายหาดแห่งนี้เอาไว้และพลชัยโทร.มาบอกฉันว่าเขาเลื่อนเวลามาถึงที่นี่เพราะมีธุระด่วนแทรกเข้ามา

ฉันไม่พูดอะไร

หลังจากอาบน้ำสระผมและสวมแม็กซี่เดรสสีขาวลายกุหลาบสีชมพูฟิวเซีย ฉันลงมาเดินเล่นบนทางเท้าริมถนนข้างหาดทรายก่อนจะย้ายตัวเองเข้าไปในห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลและฆ่าเวลาด้วยการนั่งโต๊ะจิบชาเขียวนมเย็นๆที่พนักงานของสตาร์บัคเดินมาเสิร์ฟให้

รอบกายฉันมีลูกค้านั่งอยู่ในร้านไม่กี่คน ไม่มีคนไทย ทุกคนล้วนเป็นชายฝรั่งผมสีทองอายุมากและอ้วนลงพุง พูดคุยกันด้วยเสียงต่ำเบาจนฉันจับความไม่ได้ เล้งเข้ามาพบฉันในร้านครั้งหนึ่งเพื่อเตือนฉันเบาๆว่าไม่ควรไปไหนมาไหนตัวคนเดียว ฉันไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดหรือแสดงปฏิกิริยาอะไรออกไป เพราะฉันรู้ว่าเขาทำตามหน้าที่ พูดอะไรออกไปตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์เนื่องจากพวกเขารับคำสั่งจากเมธวัชร์และไม่มีวันฟังฉัน ถ้าฉันไม่ต้องการให้พวกเขาติดตาม มันจะไม่มีวันสำเร็จเลยถ้าฉันวีนใส่พวกเขาแทนที่จะวีนใส่ผู้บังคับบัญชา

ฉันเดินออกจากร้านสตาร์บัคโดยไม่สนใจเล้ง และราวกับเขารู้ว่าฉันยังไม่เคยชินกับชีวิตของ ‘คุณนายมาเฟีย’ ที่ไปไหนก็จะมีข้าทาสบริวารคอยติดตามป้องกันรับใช้ เขาจึงปล่อยให้ฉันเดินเล่นอยู่คนเดียว อยากไปไหนก็ไป

ฉันเดินผ่านร้านเสื้อผ้า เดินผ่านร้านอาหารที่เขียนป้ายว่า ‘รับสมัครพนักงานเชียร์แขกชายสองตำแหน่งและพนักงานหญิงไม่จำกัดจำนวน’ เดินผ่านร้านนวดที่มีกลุ่มผู้หญิงซึ่งล้วนแต่หุ่นดี ผมยาวยืดเรียบกริบ ผิวคล้ำ หน้าตาแบบสาวอีสาน แต่งหน้าจัดและแต่งตัวเซ็กซี่ด้วยเสื้อกล้ามเผยเนินอกอวบตึงและกางเกงขาสั้นจู๋เผยต้นขากลมกลึงสีคล้ำเนียน

ฉันยืนมองพวกเธอจนพวกเธอหันมามองฉัน ฉันจึงใช้โอกาสที่มีกลุ่มคนกำลังจะเดินข้ามถนนถอยหลังหลบออกไป ข้ามฟากไปยังหาดทราย เช่าเตียงนอนเล่นและนั่งมองทะเลสวยราวกับภาพวาดที่แม้จะมีทั้งคน เรือและเจ๊ทสกีอยู่ในนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความงามตามธรรมชาติของมันลดลง

หนุ่มต่างชาติคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉัน ถามฉันว่า “How much?”

อันที่จริงฉันตั้งสติได้ และเก่งภาษาอังกฤษมากพอที่จะพูดออกไปได้ว่าฉันไม่ใช่โสเภณี แต่สิ่งที่เห็นมาเมื่อครู่นี้ อยู่ดีๆทำให้ฉันจุกจนพูดอะไรไม่ออก ฉันทำได้แค่ส่ายหน้าและตอบว่า “No.” “No.” และ “No.” บัดดลเล้งกับสิงห์ก็ปรากฏตัวแล้วเล้งก็พูดภาษาอังกฤษกับชายต่างชาติคนนั้นเสียยืดยาว ฉันฟังจับความได้ว่าเป็นคำขู่ไม่ให้เข้าใกล้ฉันและลบหลู่เกียรติของฉันด้วยคำถามแบบนั้นอีก

เล้งกลับมาหาฉันหลังจากไล่ชายต่างชาติคนนั้นกลับไปแล้ว ฉันหัวเราะกับเขา

“แปลกจริง ปกติฉันไม่ใช่สเปคของฝรั่งนะ”

“ไม่แปลกหรอกครับ” เล้งตอบ “พวกอเมริกันจะชอบสาวไทยผิวคล้ำแถบภาคอีสาน แต่พวกยุโรป โดยเฉพาะอิตาเลียนจะชอบผู้หญิงผิวเหลืองหน้าหวานแบบคุณเพชรลดา”

เขาพูดแล้วก็สะดุ้ง รีบก้มหัว

“ผมขอโทษครับ คุณเพชรลดา คุณเป็นภรรยาของคุณเมธวัชร์ ผมไม่ควร..ช่างสังเกตอะไรขนาดนั้น”

ฉันไม่ถือโทษโกรธเขา แต่เอ็นดูที่เขาดูเหมือนจะจงรักภักดีต่อเมธวัชร์จนละอายที่จะพูดถึงรูปลักษณ์ของฉันที่เป็นภรรยาของเจ้านาย คนอย่างนี้หาได้ไม่ง่ายนักหรอก

ฉันหันไปเรียกเด็กสาวที่กำลังเดินเข้ามา

“เช่าเตียงเพิ่มสองที่ ขอเบียร์เย็นๆสองขวด แล้วกุ้งเผา อ้อ..เอาหมึกย่างด้วยนะคะ”

หลังจากฉันมีเพื่อนร่วมเที่ยวทะเลอีกสองคน ฉันก็รู้ว่าเล้งมาจากฮ่องกง แต่เขาเกิดและเติบโตที่เซี่ยงไฮ้ เมืองที่ซึ่งมีโสเภณีจีนผมดำยาวและผิวสีเหลืองทองเป็นสินค้าขายดีของเมือง เล้งบอกว่าพวกผู้หญิงพวกนั้นคล้ายๆฉัน คือมีผิวสีทองและมีผมสีดำที่ยาวมากๆซึ่งมันเป็นส่วนที่เซ็กซี่ที่สุดในสายตาของชาวต่างชาติ แต่ฉันแตกต่างอยู่อย่างคือฉันมีดวงตากลมโต ผิดกับสาวจีนที่มีดวงตาเล็กเรียว

ฉันหันไปคุยกับสิงห์บ้าง เขาเป็นคนไทยและค่อนข้างเงียบขรึม แต่เขาก็ยอมบอกว่าแม่เขาเป็นคนสุรินทร์แต่เขามาเกิดที่นี่ ที่พัทยากลาง เขามาพบกับเมธวัชร์ที่นี่ ที่พัทยา

“คุณเมธวัชร์ชอบมาเที่ยวพัทยาหรือ”

“ครับ มาบ่อยมาก ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คุณเมธวัชร์คงชอบทะเลมาก”

ฉันพยักหน้ารับ ฟังและหลังจากไม่มีใครคุยอะไรต่อ ฉันก็ปลงว่าคงได้แค่นี้สำหรับการสนทนาอย่างจริงจังครั้งแรก

“เล้งกับสิงห์กินกันสองคนนะ ฉันจะลงไปเล่นน้ำใกล้ๆนี่แหละ อยากกินอะไรสั่งเพิ่ม ฉันเลี้ยงเอง”

ฉันถอดรองเท้าเดินลงน้ำ ตอนแรกก็คิดว่าจะเดินลุยน้ำริมๆเล่นเท่านั้น แต่เพราะปูตัวหนึ่งมันบังอาจวิ่งหนีฉัน ฉันจึงวิ่งไล่จับมันแล้วสะดุดขาตัวเองล้ม หลังจากที่เปียกน้ำเค็มไปมากกว่าครึ่งตัว ฉันก็สาบานว่าวันนี้จะต้องจับปูทะเลให้ได้ แต่โชคไม่ดีเลย ฉันจับได้ปลาดาวสีเขียวขุ่นๆมาตัวหนึ่ง

เด็กฝรั่งสามคนแถวนั้นวิ่งมารุมล้อมฉันและร้องอย่างตื่นเต้น “Starfish! Starfish!!”

หลังจากส่งปลาดาวให้เด็กพวกนั้นเวียนกันดูจนฉ่ำปอด ฉันก็จับเจ้าดวงดาวแห่งท้องทะเลใส่เปลือกหอยอันใหญ่เดินขึ้นมาจากน้ำ

เมธวัชร์มายืนอยู่บนฝั่งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ฉันมองเสื้อเชิ้ตเนื้อดีสีขาวที่มีรอยเพิ่งปลดกระดุมคอออก กางเกงสแลคสีดำรีดขึ้นกลีบกับรองเท้าหนังสีดำมันปลาบที่เหยียบอยู่บนพื้นทราย ใครแต่งตัวแบบนี้มาถึงทะเลแสดงว่าไม่ได้ตั้งใจมาทะเล

“ลงไปทำอะไร”

“จับปู”

เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะถามอีก

“ได้ปูไหม”

“ได้เพื่อนปู” ฉันยื่นปลาดาวให้เขาดู “มันยังไม่ตายนะ ดูสิ ขายังกระดุกกระดิกเลย เห็นไหม”

“คุณจับมันมาทำไม”

“จับมาดูแล้วเอาไปปล่อย”

ฉันหันหลังกลับโดยไม่รอฟังคำพูดของเขา เดินลุยน้ำทะเลห่างจากฝั่งไม่มากนัก หยุดยืนที่ระดับน้ำลึกประมาณต้นขา ปล่อยปลาดาวลงทะเลก่อนจะทอดสายตามองไปยังสุดขอบฟ้า ทั้งแรงลม คลื่นที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา พื้นฟ้ากว้างและพื้นน้ำอันเวิ้งว้างทำให้ฉันเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์บรรพบุรุษหลังจากพวกเขาได้ค้นพบทะเลเป็นครั้งแรกหลังจากที่น้ำแข็งส่วนหนึ่งของโลกได้ละลายกลายเป็นน้ำ ความรู้สึกเวิ้งว้างนี้เองที่ทำให้มนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่เคยมีชีวิตอยู่ด้วยการคิดถึงข้าวปลาอาหารและความปลอดภัยเริ่มจินตนาการถึงเรื่องบ้าๆ เช่น เบื้องหลังพื้นน้ำนั่นจะมีอะไร โลกหน้าจะมีจริงไหม คนเราถ้าตายแล้วจะไปไหน ฯลฯ และท้ายที่สุด เมื่อผ่านพ้นกาลเวลาโดยที่มนุษย์ไม่ได้ทอดทิ้งคำถามและจินตนาการเหล่านั้น พวกเขาจึงได้ก่อร่างสร้างศาสนา ปรัชญาและเทวปกรณัมก่อนจะใช้ทั้งคำถามและคำตอบของตนเองขับเคลื่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงยุคปัจจุบัน

ฉันไม่รู้ว่าเมธวัชร์ชอบทะเลเพราะเหตุใด แต่ฉันชอบทะเลด้วยเหตุผลนั้น มันไม่เพียงเป็นต้นกำเนิดของชีวิตเซลล์เดียวแรกเริ่ม แต่ยังเป็นต้นกำเนิดของจิตวิญญาณของสัตว์ที่มีมันสมองดีที่สุดในโลก มันพรากเอาความเป็นสัตว์ออกไปจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิงเมื่อพวกเขาเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิตและพยายามแสวงหาคำตอบ ฉันรักมันอาจเป็นเพราะฉันให้ความสำคัญกับความรู้มากจนเกินไป เป็นเพราะฉันไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าหากชีวิตไร้ซึ่งความรู้ที่ตนเองได้รู้ ไร้จินตนาการ ความคิดฝันและความเป็นตัวของตัวเอง ได้แต่ทำงานเพื่อเงิน เลี้ยงชีวิตไปวันๆและมีความสุขไปตามความคิดที่กระแสสังคมบอกกล่าว มีรถ มีบ้าน แต่งงาน มีลูกมีหลานและตายจากไปโดยที่ไม่เคยสงสัยเลยว่าฉันเกิดมาเพื่ออะไร ตอนนี้ชีวิตของฉันจะอยู่ในสภาพใด มันอาจจะเป็นชีวิตที่ทำให้ฉันมีความสุขมากกว่านี้ก็ได้แต่ชีวิตแบบนั้นก็ห่างไกลไปจากฉันในตอนนี้มากเหลือเกินแล้ว ห่างจนเกินมือของฉันจะไขว่คว้า

ฉันลุยน้ำกลับมาหาเมธวัชร์ เขายื่นมือออกมาให้ฉันจับและพาฉันขึ้นมาบนฝั่ง เล้งคืนกระเป๋าถือให้และฉันไม่พอใจนักหลังจากที่รู้ว่าพวกเขาชำระเงินค่าเตียงเช่า อาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว

“อย่าโกรธไปเลยเพชรลดา เพราะพวกเขาเกือบโดนผมฆ่า ข้อหานั่งจิบเบียร์มองคุณเล่นน้ำอย่างสบายอารมณ์”

“คุณทำอะไรพวกเขา”

เขาไม่ตอบ ฉันหัวเสียและไม่หายหัวเสียด้วยแม้ว่าเขาจะพาฉันกลับมาถึงห้องชุดในโรงแรม

“พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันยอมรับก็ได้ว่าเป็นฉันที่ดื้อรั้นเองแล้วถ้าฉันต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองเพราะการเป็นภรรยาของคุณ ฉันจะหย่า!”

เขาหันมามองหน้าฉันนิ่งแล้วสั่งว่า

“แต่งตัวสวยๆ แล้วลงไปทานข้าวเย็นกับผมข้างล่าง”

ฉันยกมือกุมหน้า รู้สึกเหมือนตนเองสิ้นไร้อำนาจเหลือเกินในตอนนั้น

“ต้องการช่างเสริมสวยไหม”

“ไม่!”

เขาทิ้งชุดราตรีสีแดงสดกับกล่องกำมะหยี่เล็กๆสีเดียวกันไว้ให้ฉัน ฉันเปิดออกดู ข้างในเป็นต่างหูเพชรสีขาว เจียระไนอย่างดีจนมันสะท้อนแสงแพรวพรายยิ่งกว่าแสงดาว ฉันเงยหน้ามองเขา

“ของขวัญชิ้นแรกจากสามี คุณคงรู้ว่าผู้ชายจะให้เพชรกับผู้หญิงที่เขาคิดว่าเป็นคนพิเศษเท่านั้น”

“คุณไม่เคยให้เพชรกับผู้หญิงคนไหนจริงๆหรือ”

“อาจจะเคยให้หรือไม่เคยให้ก็ไม่รู้ ผมจำไม่ได้”

“อีกหน่อยคุณก็จะลืมว่าคุณเคยให้เครื่องเพชรฉัน เช่นเดียวกับที่ลืมว่าคุณเคยแต่งงานกับฉัน!”

“งั้นก็ทำให้ผมจำได้สิ เพชรลดา ใส่ชุดเจ้าสาวเสีย แล้วผมจะจำคุณในชุดขาวฟูฟ่องจนวันตายเลยทีเดียว”

เสียงหัวเราะของเขาดังไล่หลังมาเลยทันทีที่ฉันถลาไปคว้าชุดชั้นใน กล่องต่างหูเพชรกับชุดราตรีสีแดงที่เขาซื้อให้เดินเข้าห้องน้ำ ฉันวางของเหล่านั้นไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล่างหน้าก่อนจะเข้าไปอาบน้ำจืดในอีกด้านของห้องน้ำที่มีม่านบังตากั้น หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา เขาไม่อยู่ในห้องแล้ว ฉันจึงนั่งแต่งหน้าทำผมอย่างสบายใจ เถลไถลนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเงาของเขามาปรากฏในกระจกและมือของเขายื่นเข้ามาปลดปิ่นมุกที่ฉันยึดมวยผมแบบฝรั่งเศสเอาไว้

“ผมชอบคุณตอนปล่อยผมมากกว่า”

ชุดราตรีสีแดงที่เขาให้เป็นชุดราตรียาวคอวีไร้แขนแบบเรียบง่าย ไม่มีรายละเอียดประดับตกแต่งใดๆทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าเมธวัชร์ชอบอย่างนี้หรือเขารู้ว่าฉันชอบอย่างนี้ เพราะฉันมักจะอารมณ์เสียเลยทีเดียวหากต้องใส่เสื้อผ้าที่มีการจับจีบ มีระบาย อัดพลีตหรือแม้แต่มีลายปัก ฉันรักเสื้อผ้าที่เรียบง่าย หากมีลวดลายจะเลือกใช้แต่ลายพิมพ์หรือลวดลายที่เกิดจากกระบวนการทอเท่านั้น เป็นไปได้ที่เขาจะสังเกตเหมือนกันว่าฉันสวมใส่เสื้อผ้าประเภทไหนและที่น่าทึ่งมากขึ้นไปอีก เขาเลือกไซส์มาถูกโดยที่ฉันไม่เคยได้บอกข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่างของฉันให้เขาฟังเลย

เขาหวีผมให้ฉันและจับผมทั้งหมดพาดลงบนบ่าของฉันข้างหนึ่ง ฉันแต้มน้ำหอมและสวมต่างหูเพชร ประกายตาของเขาทำให้ใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ฉันไม่เคยจินตนาการถึงแววตาแบบนั้นของเขาเลย เขามองฉันราวกับว่าฉันเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในโลก เป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงามที่สุดที่โลกพึงมีและเขาพึงพอใจเสียเหลือเกินเมื่อได้ฉันมาครอบครอง

“กลิ่นหอมของคุณติดอยู่ที่ปลายจมูกของผมตลอดเวลา รู้ไหม เพชรลดา ผมคิดว่าผมอาจจะหลงรักคุณตั้งแต่ก่อนที่ผมจะพบคุณเสียอีก”

ฉันลุกจากเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง เมธวัชร์แตะปลายนิ้วของฉันไว้และปล่อยให้ฉันก้าวเดินไปด้วยท่วงท่าและจังหวะการก้าวเดินของตัวเองบนรองเท้าส้นแหลมสูง ดูเหมือนว่าผู้ชายทุกคนในห้องอาหารฝรั่งเศสจะรับรู้เมื่อฉันปรากฎตัวพร้อมกับเขาและก้าวไปยังโต๊ะอาหารที่ถูกจองไว้ จิตวิญญาณของฉันเบ่งบานคล้ายดอกกุหลาบสีแดงสดซึ่งผลิกลีบอย่างเต็มที่ ชุ่มฉ่ำและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม ฉันลืมอดีต ลืมไปอย่างบริสุทธ์ใจว่าฉันมีรอยตำหนิอีกมากมายบนเรือนกายและเคยบอบช้ำมาจากความรักสองครั้งสองครา ในวินาทีนี้เหมือนโลกหยุดหมุนและกาลเวลาหยุดเดิน ฉันหลอมละลายอย่างสวยงามอยู่ในดวงตา ในลมหายใจ ในริมฝีปากและในอ้อมแขนของผู้ชายคนหนึ่ง แม้ร่างกายอันเป็นเลือดเนื้อของผู้หญิงจะปรากฏอยู่ภายนอก แต่ฉันรู้ดีว่าฉันมีชีวิตอยู่ในดวงตาและหัวใจของเขาเช่นเดียวกับที่เขามีชีวิตอยู่ในดวงตาและหัวใจของฉัน โลกทั้งใบมีเราแค่สองคน

หลังจากรับประทานอาหารและจิบไวน์ ฉันกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาในห้องของเรา ฟังเสียงเพลงรักในความเงียบงันและหลงใหลไปกับเสียงที่ไม่มีใครได้ยินนั้น ฉันบรรจงถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของเขา ลูบไล้กล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้องที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวหลายหลากอันเป็นความลับและชีวิตเสี้ยวหนึ่งของเขาที่ฉันยังไม่เคยรับรู้ ฉันจูบเขาที่หน้าผาก เปลือกตา ริมฝีปากและคางหลังจากปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองจนเปล่าเปลือย ใช้เรือนร่างปรนเปรอความสุขให้เขาอย่างสุดกำลังกายและกำลังใจ ดุจดั่งเขาเป็นพระราชา เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในโลก นอกจากเขา ในโลกนี้ไม่มีมนุษย์อื่นใดเป็นผู้ชายอีก





ตอนเช้า ฉันตื่นขึ้นมาเพราะริมฝีปากของเมธวัชร์ทาบสัมผัสบนผิวต้นคอ แม้รัตติกาลที่ผ่านมาจะทำให้ฉันอิ่มเอมจนเกินจะบรรยาย แต่เมื่อเขาต้องการ เลือดทั้งตัวของฉันก็พร้อมจะเดือดพล่าน ร่านร้อน โหยหิวและกระตือรือร้นเสมอไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนหรือสภาพร่างกายจะเป็นอย่างไร

อะไรที่เคยสำคัญสำหรับผู้หญิงอย่างฉัน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นไปของโลก ความหมายของการเกิดมา ความงาม สไตล์ เงินตรา เสื้อผ้าหน้าผม ตอนนี้มันไม่สำคัญมากไปกว่าความต้องการของผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งทำให้ฉันได้เข้าใจความหมายของการเป็นผู้หญิงอย่างลึกซึ้งในทุกครั้งที่เขาแตะต้องฉัน ทั้งสติปัญญาและความโง่เง่า ทั้งความนุ่มนวลและความแข็งกร้าว ทั้งความบอบบางและอำนาจ เขาทำให้ฉัน ‘เป็นผู้หญิง’ที่สุดอย่างที่ฉันไม่เคยเป็น อย่างที่ไม่มีเคยมีผู้ชายคนไหนเคยทำได้

ฉันจูบเขา ร่วมรักกับเขา เกือบทั้งคืนจนถึงเช้า ในความเร่าร้อนอันแสนสุข ฉันเกิดใหม่ในเปลวไฟเหมือนนกฟีนิกส์และรับรู้อิสระเสรีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต จิตใจที่อ่อนไหวกับความรู้สึกรัก โลภ โกรธและหลงมอดไหม้แตกสลายกลายมาเป็นจิตใจที่ปลดปลงและมั่นคง ความรู้สึกมั่นคงนี้เองที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุดตามธรรมชาติของฉัน ธรรมชาติที่แท้จริงของผู้หญิง...ลิลิธ..ไม่ใช่อีฟ

หลังจากการเสพสมที่ยาวนานร่วมสองชั่วโมง เมธวัชร์ลงจากเตียงเข้าห้องน้ำไป ฉันนอนอยู่บนเตียงโดยจัดท่าราวกับกำลังให้จิตรกรฝีมือดีวาดรูปเปลือย เขากลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าครบครันและก้าวเข้ามาจ้องมองฉัน ฉันช้อนสายตามองเขาแล้วยิ้ม

เขาหัวเราะเสียงทุ้มแผ่วในคอ

“อย่าส่งสายตายั่วยวนผมอย่างนี้สิ”

ฉันไม่รู้ว่าอะไรคือ ‘สายตายั่วยวน’ แต่ฉันจะมองเขาอย่างที่ฉันอยากจะมอง

“ผมคิดถึงคุณตายแน่”

เขาจูบฉัน อ้อยอิ่ง อ่อนโยนและเว้าวอน ฉันถอนหน้าออกมาแล้วหัวเราะ เขาจูบแก้มของฉันอีก

“ทำไมคุณไม่พาฉันไปด้วยล่ะ”

“พาคุณไปด้วย ผมคงไม่เป็นอันทำอะไร วันๆคงหิ้วคุณขึ้นเตียงอย่างเดียว อีกอย่าง..” เขามองฉันด้วยสายตาจริงจัง “ผมอยากเป็นผู้ชายดีๆเวลาอยู่ต่อหน้าคุณซึ่งผมคงทำไม่ได้หากพาคุณไปอยู่ที่นั่น..กับผม”

ปลายนิ้วของเมธวัชร์ กฤติกาลักษณ์ลูบไล้ผิวแก้มของฉัน เป็นสัมผัสที่นุ่มนวลราวกับสัมผัสหัวลูกแมว ฉันใช้แก้มถูกับหลังมือของเขา

หลังจากเมธวัชร์จากไป ฉันลุกไปจัดการกับตัวเอง แม้ชุดราตรีสีแดงสวยตัวนั้นจะถูกพับเก็บใส่กระเป๋าเดินทางแต่ต่างหูเพชรยังอยู่แนบติ่งหูของฉัน มันส่องประกายระยิบระยับทักทายเมื่อฉันหันหน้าเข้าหากระจกเพื่อวาดลิปสติกสีแดงลงบนริมฝีปาก

จากนั้นฉันสวมแว่นกันแดด ลากกระเป๋าเดินทางออกจากห้องชุดและออกจากโรงแรมพร้อมกับองครักษ์ทั้งสี่คน

“คุณเมธวัชร์ฝากบอกมาว่าเมื่อคุณกลับถึงเชียงใหม่แล้ว คุณควรไปอยู่บ้าน”

ฉันส่ายหน้า พวกเขาถอนหายใจเฮือกพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

รถยนต์แล่นออกจากเขตพัทยากลางก่อนที่เครื่องบินโดยสารส่วนตัวจะร่อนขึ้นฟ้าและทิ้งกรุงเทพมหานครไว้เป็นฉากหลัง ฉันมองน้ำแร่ฝรั่งเศสตรงหน้าและจมอยู่กับความรู้สึกที่ไม่ใช่ทั้งความทุกข์และความสุข ฉันรู้มานานแล้วว่า ด้วยสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่าทำให้ผู้หญิงแสวงหาการพึ่งพิง ความคาดหวังในตัวผู้ชายจึงอยู่ในลมหายใจของผู้หญิง โดยที่บางคนก็รู้ตัว บางคนก็ไม่รู้ตัว ต่อให้สละซึ่งคุณสมบัติที่เธอวาดหวังเอาไว้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยที่สุด ผู้หญิงก็ยังคาดหวังให้ผู้ชายคนนั้นรักเธอไปตลอด ซึ่งนั่นมันหมายถึงการรับประกันว่าเธอจะมีเพื่อนชีวิตอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาก่อนที่เธอจะตาย ดังนั้นผู้หญิงสติดีจึงพยายามหนีห่างผู้ชายที่เข้าข่ายอันตรายซึ่งก็คือผู้ชายที่ไม่แน่ใจว่าเขาจะอยู่กับเธอไปชั่วชีวิต เช่น ผู้ชายที่มีอำนาจจนทำให้เขามีตัวเลือกตัวเปลี่ยนมากเกินไป ผู้ชายที่เปลี่ยนใจง่ายหรือไม่มีวี่แววจะหยุดอยู่กับผู้หญิงคนไหนและผู้ชายที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางอันตราย มีจิตวิญญาณเหมือนสัตว์ร้ายและสามารถตายวันตายพรุ่ง

ผู้หญิงที่กล้ายุ่งเกี่ยวกับผู้ชายพวกนั้น หากไม่รักจนดวงตามืดบอดก็เป็นพวกหวังขุดทอง หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงที่วิรงรองบอกว่า “เป็นพวกที่เชื่อว่าคนธรรมดาสามารถเล่นแร่แปรธาตุได้น่ะ”

เมธวัชร์...มีทั้งหมด นั่นคือ เขาเป็นผู้ชายที่มีอำนาจที่สามารถหาผู้หญิงมานอนเมื่อไรก็ได้ เขาตกลงร่วมชีวิตกับฉันเร็วเกินไปจนฉันไม่อาจไว้ใจอะไรได้และเขามีชีวิตอยู่ท่ามกลางอันตราย ถ้าเขาตายพรุ่งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก


ฉัน..ไม่ได้หวังขุดทองและไม่ได้เชื่อว่าคนธรรมดาจะสามารถเล่นแร่แปรธาตุได้ การเปลี่ยนโลหะเลวให้กลายเป็นทองคำมันไม่ต่างอะไรกับการเปลี่ยนผู้ชายเลวให้กลายเป็นผู้ชายดีและฉันก็ไม่ใช่นางเอกในนวนิยายที่ผู้ชายร้ายๆอย่างพระเอกจะหยุดแค่เธอคนเดียว

เหลือเหตุผลแค่หนึ่งข้อที่ยังเป็นคำถาม ฉันรักเขาหรือเปล่า มันกลายเป็นคำถามที่ซับซ้อนและตอบยากหลังจากที่ผู้ชายที่ฉันเคยเชื่อว่าฉันรักเขาเดินออกไปจากชีวิตของฉันถึงสองคน ความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้ไม่แน่ใจในวันนี้แล้วว่ามันเป็นความรัก

ความรักคืออะไร อะไรคือนิยามของความรัก ด้วยเหตุผล ความหมายและความรู้สึกเช่นไรที่ทำให้เมธวัชร์พูดออกมาว่าเขาอาจจะหลงรักฉันก่อนที่เขาจะพบฉันเสียอีก แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือความรู้สึกของฉัน เหตุใดฉันถึงได้ตื้นตันใจจนน้ำตาแทบไหลออกมาเมื่อเขาพูดคำนั้นออกมา คำว่า ‘รัก’ ที่ฉันรู้ว่าแม้แต่ผู้ชายอย่างเมธวัชร์ก็ยังไม่เข้าใจความหมายของมัน







ฉันกลับมาถึงห้องเช่าที่เชียงใหม่ สิ่งแรกที่ทำคือชงกาแฟสักแก้วมากินกับคุกกี้สิงคโปร์ที่ตรวจสอบแล้วว่ายังไม่ขึ้นรา กองเอกสารมากมายยังอยู่บนโต๊ะบอกว่าฉันยังมีงานที่ยังต้องสะสาง ฉันยังมีชีวิตของฉันอย่างที่ฉันเคยตั้งใจไว้ว่าหลังจากฉันแต่งงานแล้ว ฉันจะยังคงทำงานหารายได้เลี้ยงตนเอง ไม่คิดเป็นภาระให้ผู้ชายที่เป็นสามีเลี้ยงดู

หลังจากกาแฟหมดแก้ว ฉันนั่งอ่านเอกสารอยู่ชั่วอึดใจก่อนที่โทรศัพท์มือถือจะดังขึ้นและฉันได้ยินเสียงอันอ่อนล้าจากผู้ชายที่ฉันคุ้นเคย

“ลดา คุณอยู่ที่ไหน ผมไปหาคุณได้ไหม”

สามวันหลังจากนั้น วิรงรองโทร.มาหาฉันและบอกให้ฉันรู้ว่าระหว่างที่ฉันกำลังมีความสุขกับผู้ชายคนหนึ่ง ในโลกนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกผู้ชายแปดคนรุมโทรม




สร้อยดอกหมาก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ค. 2554, 00:13:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ค. 2554, 00:15:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 8377





<< ตอนที่ 11 She...may be the beauty or the beast.   One night with Phechlada...บทสัมภาษณ์เพชรลดา รัตนา กฤติกาลักษณ์ >>
กาแฟสีชมพู 1 ก.ค. 2554, 00:37:36 น.
แง๊ ลงท้ายเศร้ามากมาย


Auuuu 1 ก.ค. 2554, 00:45:06 น.
O.O เฮ้ยยยยย
สองบรรทัดสุดท้าย ทำเอาอึ้งเลยทีเดียว


อนัญชนินทร์ 1 ก.ค. 2554, 00:49:13 น.
นางเอกอินดี้มาก เอะอะหย่า แต่เดี๋ยวก็กริ๊บกริ้วกับพระเอก อิฉันชอบเจ้าค่ะ


ปิลันธน์ 1 ก.ค. 2554, 01:23:27 น.
ค้างงงงงงงงงงงงง...!!! คาใจ กับสองบรรทัดสุดท้าย มาเฉลยเร็วๆน๊า
(_/\_) ได้โปรดดดด..


bow 1 ก.ค. 2554, 05:10:36 น.
อย่าทิ้งให้รอนานนะคะ ><"


แว่นใส 1 ก.ค. 2554, 08:17:35 น.
เป็นการล้างแค้นของเมธวัชร์หรือเปล่าเนี่ย


saralun 1 ก.ค. 2554, 09:10:29 น.
แล้วใครกันเนี่ยที่เป็นคนโดนรุทโทรม """


sai 1 ก.ค. 2554, 10:47:02 น.
นั่นสิใครกัน


anOO 1 ก.ค. 2554, 11:29:13 น.
สองบรรทัดสุดท้าย มันหมายความว่ายังไง และถึงใครกันเนี้ย


สะเรนี 1 ก.ค. 2554, 12:05:42 น.
หมายถึงใครเนี่ย


Zephyr 1 ก.ค. 2554, 13:00:28 น.
ค้างค่ะค้าง ใครโดนรุมโทรมเนี่ย เกี่ยวไรกะเฮียเมธวัชร์ป่าว


namzuza 1 ก.ค. 2554, 14:35:55 น.
ลึกซึ่ง


MYsister 1 ก.ค. 2554, 15:53:49 น.
ผู้หญิงควรเป็น ลิลิธ มากกว่าอีฟ ที่ให้ความสำคัญกับตนเองมากกว่าเกิดมาเพื่ออดัม ( อินจัด)


Setia 1 ก.ค. 2554, 20:57:15 น.
สองบรรทัดสุดท้ายอึ้งอ่ะ
ผู้หญิงพอเดาได้ว่าเป็นยังไง แต่ผู้ชายไม่รู้
รอตอนต่อไปค่ะ


yayee62 2 ก.ค. 2554, 00:07:00 น.
แล้วจะยังไงต่อละเนี่ย อย่าหายไปนานนะ มันค้างคาใจ


Bigbee 2 ก.ค. 2554, 22:04:10 น.
จบได้คาใจจริงๆ ^^


Pat 3 ก.ค. 2554, 09:25:34 น.
เกิดอะไรขึ้น และเกิดกับใครอีกล่ะนั่น


omelate 3 ก.ค. 2554, 13:39:31 น.
เกิดอะไรขึ้นเนี้ย อยากรู้จัง


april 5 ก.ค. 2554, 12:08:23 น.
อ่านผลงานของคุณสร้อยดอกหมากเรื่องแรก กุหลาบในสายลมหนาว เป็นหนังสือแนะนำให้กับน้อง ๆ และเพื่อน ทุกคนชอบค่ะบางอ่านแล้วน้ำตไหลเอาหนังสือมาคืนแล้วขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆ ให้ อ่านแล้วรู้สึกรักและชอบในตัวเอกของทุกเรื่อง รวมคนเขียนด้วยค่ะ อ้อเเรื่องสั้นอีก17หน้า ชอบมากค่ะ


อริสา 29 พ.ย. 2554, 01:54:20 น.
เพิ่งเข้ามาอ่าน ทำให้นึกถึงตอนเรียนที่อ่านหนังสือปรัชญาจนสับสนไปหมด แต่คุณสร้อยดอกหมากใส่ไว้ในนิยายได้น่าสนใจมากค่ะ มีหลายรส แต่อ่านแล้วรู้สึกถึงความไม่มั่นคงของชีวิตตลอดเวลา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account