ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๒.๒ เกมต่อชีวิต

คุณเกดซ่า – วันนี้ลงแต่หัวรุ่ง กลัวตามเพื่อนร่วมทีมไม่ทัน สงสัยว่าเกดซ่าจะไม่ได้เจิม
คุณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ – มาแล้ว รายงานจากบ้านปรารถนา สถานการณ์ร้อนๆของพี่เก้า
คุณพันธุ์แตงกวา – ชื่อเรื่องทองๆ ก็ต้องกุมารทอง เป็นตัวละครที่คนเขียนรักอีกตัวค่ะพี่ หุหุ วันนี้เข้าห้องแห่งทองแล้ว

คุณใบบัวน่ารัก – อะไรน่ากลัว ไม่มี๊ เรื่องนี้คนอ่านแล้วบอกว่ามุ้งมิ้งสุดของอสิตาละค่ะ 55
คุณบุลินทร – ถ้าเลี้ยงไว้อาจรวยกว่านี้นะกุมารทองน่ะ แต่จะแก้ผ้าไม่ได้ กุมารหนีหมด
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – วันนี้เล่นซิมหนัก แต่ก็ไม่ลืมโพสต์นะ ตามเพื่อนๆไม่ทันแล้ว ฮึบๆๆ
เรื่องลักยิ้มนี่พี่เก้ายังใช้ยั่วได้ตลอดเรื่องเลย

คุณโกลเด้นซัน – ใช่ค่ะ รวมเด็กมีปัญหามาเข้ากลุ่มโจร แต่ปัญหาไม่ได้หนักนักหรอก... แสดงให้เห็นว่า
คนเราก็แค่เลือกทางง่ายๆสะดวก สะใจเป็นหลัก ปัญหาที่มีก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ทางแก้อื่นยังมีอีกตั้งมากมาย
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – แพ้อะไรของพี่เก้าคะ จินตนาการไปไกล ฉากกุ๊กกิ๊กใกล้มาแล้ว เริ่มมีกระต่ายวับๆแวมๆ

คุณสุขุมวิท 66 – โอ้ววว ยินดีที่มาอ่านนะคะ
คุณภาวิน – วันนี้ต้องมาโพสต์ก่อนนอน ไม่งั้นก็อู้อีก มีลักยิ้มเรอะ...
ต่างก็ก้มหน้าก้มตาเขียน ไม่ได้ประชุมละเอียดก็งี้ละนะ

คุณปั๊กก้า + ยายเฟอร์ตัวยุ่งยังอ่านตามมาไม่ทันแหงเลย คนเขียนอัพสปีดโพสต์กะทันหัน
-------------------------------




พรายเมฆห่มคลุมเกลื่อนฟ้ากลับยิ่งทำให้เย็นสะท้าน แล้วเขาก็ได้เห็นมัน...
ตั้งสงบอยู่บนเนินหญ้าขนาดใหญ่เบื้องหน้า ป้ายเลื่อมแสงพรายเงากระจ่างในตัวเองอยู่ในความมืด
จารเอาไว้ชัดเจน บ้านปรารถนา




สิ่งก่อสร้างสองชั้นนี้เก่าแก่แต่ก็สวยงามเข้มขลัง ปลายแสงสลัวสะท้อนเงาจากผืนฟ้า
ตกลงอาบไล้โครงสร้างหลังคาปีกไม้ มันดูคล้ายบ้านเก่าแถวยุโรป บันไดหินลาดปูท้าทาย
นำสายตาให้พุ่งสู่ประตูหน้า นี่สินะที่รอคอยพวกเขาอยู่ ใจหนึ่งนพคุณอยากเอ่ยทัก
เรื่องความไม่ชอบมาพากล แต่แล้วก็ตัดสินใจสงบลงด้วยรอยยิ้ม เขาเป็นคนปากหนัก
ในเรื่องเร้นลับพรรค์ที่ตัวเองเก็บงำไว้อยู่แล้ว นอกจากไอ้เอกก็ไม่เคยบอกใคร
อย่างมากก็เพียงใช้มุกผีหลอกผีโผล่ยั่วให้คนตกใจเล่น
ทว่ากระแสสัมผัสตรงหน้า ให้ทั้งกลิ่นอายกึ่งดีกึ่งร้ายปนเป สิ่งที่สถิตอยู่ในบ้านนี้
ไม่เชิงว่าต้องการทำร้ายทำอันตรายใคร ลองเข้าไปดูสักหน่อยก็น่าสน คิดสนุกๆ
ว่ามันคือของเล่นในสวนสนุกอีกชิ้นก็แล้วกัน

ระหว่างนั้นเอง ความปวดหัวจนเจ็บจี๊ดถึงช่องหูกลับประดังขึ้น เตือนให้นึกถึงความรู้สึก
ในวันแรกที่โดดลงมาจากตึก นพคุณใช้นิ้วคลึงขมับ... อาจเพราะไอ้จานหมุนชวนอ้วก
หรือไม่ก็เครื่องเล่นประเภทเขย่าจนอยากขย้อน แล้วก็ยังรถไฟตีลังกานั่นอีก ดูช่วงนี้
เขาจะทนการหกคะเมนตีลังกาไม่ได้เหมือนอย่างเคย การเล่นเครื่องเล่นแบบกระหน่ำ
คงเป็นตัวทำให้อาการปวดหัวปวดหูกำเริบ เห็นทีพรุ่งนี้จะต้องไปหาหมอแท้ที่ไม่ใช่หมอเทียม

ชายหนุ่มจับผมซึ่งไม่สู้จะยาวพอที่รุ่ยร่ายลงมาหลังผ่านการเล่นเครื่องเล่นทัดหู
ฉวยโอกาสหย่อนก้นลงนั่งพักบนขั้นบันไดหินหน้าบ้าน ลอบสูดหายใจลึกๆ
หวังว่าอาการที่กำเริบจะหายไปเอง ไม่นานก็ดีขึ้นมาก

เพราะรู้ว่าตินพลหรือนายเต ไอ้เด็กจอมกวนรุ่นน้องร่วมคณะวิศวะกำลังมาถึงพวกเขาจึงชะงักรอ
มันลากตูดมาจนได้ ความสนุกที่เขาจะได้แขวะได้แหย่ เรียกว่าเกือบจะสนุกกว่าการเล่นเครื่องเล่นทั้งหมด
ในวันนี้เลยด้วยซ้ำ นพคุณเป็นฝ่ายเห็นเหยื่อก่อนแต่ไกล เขาลุกขึ้น เสเดินหลีกไปซุ่มอีกทาง รอจนมัน
เข้ามาใกล้จึงพุ่งเข้าไปกวนตะกอนไม่รีรอ

“ว่าไงไอ้ดาราคิวทอง เดี๋ยวนี้ดังใหญ่ นัดกับเพื่อนมาสายสามชั่วโมงเลยเหรอวะ
ปกติไปกองถ่ายสายแบบนี้โดนเขาว่าอะไรบ้างไหม”

คนมาใหม่หรี่ตาอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันนัดกับน้ำหนึ่ง ไม่ได้นัดกับนาย”

ตูมเดียวติดอย่างที่คิด ระเบิดไฟจุดติดง่ายอย่างนี้เสมอ...
ทำเอานพคุณสาสมใจยิ่งนัก เขาเลิกคิ้ว ยักไหล่เนิบๆ “อ้อ ถ้างั้นก็ถือว่าโชคดีที่ยายเพชรนัดฉันมาด้วย
ขืนรอนาย ป่านนี้คงไม่ได้เที่ยว เผลอๆ ต้องกลับบ้านไปก่อน เพราะดาราใหญ่ผิดนัด”

หลังเปิดฉากปะทะคารมพอหอมปากหอมคอจนยายเพชรน้ำหนึ่งต้องออกโรงห้ามทัพ
ชายหนุ่มจึงยอมสงบปากเป็นกรณีพิเศษ นพคุณแอบหัวเราะในใจยามปรายตาไปยังที่ซึ่ง
อาจเป็นความว่างเปล่าสำหรับสายตาคนอื่น แต่เขาเห็น... ลำพังตัวไอ้เตมันเองตอนนี้ก็ดู
น่าจะมีอะไรตามติดมาเป็นการส่วนตัว เป็นปัญหาของมันโดยเฉพาะอยู่แล้ว ลับๆล่อๆ
อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลที่หลังต้นก้ามปูนั่นไง เท่านี้ก็เห็นแววว่าจะมีเรื่องมาพัวพันกับมันมากพอละ
จนชักนึกเห็นใจไม่อยากแหย่ ตัดสินใจยอมถอนปากถอยออกมา

แล้วก็อย่างที่คิด ไอ้เตคู่ปรับของเขาพรวดพราดหลบเข้าไปในบ้านหลังนั้นไม่รอใครจนยายเพชรก่นด่า
นพคุณเงยมองตัวบ้านอย่างสนอกสนใจ เวลาที่รอคอยมาถึง อะไรจะรออยู่ในนี้กันนะ...ไม่เพียงแต่เขา
เจ้าพวกเด็กที่มาด้วยกันทุกคนก็เห็นทีจะได้เจอดีแน่ เพียงแต่ยังไม่มีใครรู้ตัว

โถงเรื่อเรืองด้วยแสงไฟจากโคมตะเกียงฉลุลายระย้าห้อยประดับตามมุมห้อง ความสว่างนั้น
ส่องให้ยิ่งแน่ใจในความเก่าแก่ของบ้าน มันไม่มีทางจะถูกสร้างขึ้นมาพร้อมสวนสนุกใหม่เอี่ยมนี้ได้เลย
อายุของมันอาจจะนานนับเป็นร้อยปีเสียด้วยซ้ำ เหนือขึ้นไป เพดานกรุกระจก ...ในคืนที่ดาวพราวแสง
อาจเรียกได้ว่าโถงนี้จะเปลี่ยนให้ผู้มาเยือนตกอยู่ภายใต้โคมดาว ทว่าเลยหัวค่ำมาแล้วคืนนี้ฟ้าสลัวไร้ดาว
ถูกเมฆคลุมมืดมิด ช่วงขึ้นสองค่ำ มองออกไปนอกหน้าต่างก็ว่างเปล่า พระจันทร์ที่ริมฟ้าหลบไป
ซ่อนตัวเสียแล้ว
พระจันทร์...ดวงตาของฟากฟ้าไม่มีโอกาสมองมาเห็นว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดกับพวกเขา
ที่นี่ ภายใต้หลังคาของบ้านปรารถนา แต่เขารู้ รู้ว่าบ้านหลังนี้ก็ไม่ต่างจากทางแยก ทางแห่งโชคชะตา
ของแต่ละคน เขาไม่มีสิทธิ์ฉุดรั้งห้ามปราม นอกจากก้าวไปหาสิ่งที่รอคอยตนอยู่...เพียงหนึ่งเดียว

นพคุณปรายตามองความเปลี่ยนแปลงของเหล่าเพื่อนรุ่นน้องอย่างหลากใจอยู่เงียบๆ
คล้ายพวกผู้ชายจะได้รับแรงผลักดันที่รวดเร็วรุนแรงกว่า จนดูเหมือนลุกลี้ลุกลนที่จะสำรวจภายในบ้าน
แต่ละคนเริ่มส่งเสียงเอะอะถามไถ่กัน คงแปลกใจไม่น้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น บานประตูข้างหลังพวกเขา
ปิดลงไร้สุ้มเสียง เหมือนฝันกับมาลุตาสองสาวก้าวไปพร้อมกัน แต่คงจะไม่ได้ไปด้วยกันแน่ละ
เพราะทางของแต่ละคนย่อมแตกต่าง ในขณะที่มีเพียงเขาและน้ำหนึ่งยืนกันอยู่สองคน
คล้ายจะคุมเชิงดูสถานการณ์

ทันใด ไฟเพดานหม่นสลัวลงเป็นวูบๆ ช็อร์ตแปลบๆอยู่สูงขึ้นไป ภาพและเสียงข้างกายดูจะเคลื่อนที่ช้าลง
เสียงน้องๆที่พูดอยู่ใกล้กลับค่อยๆลอยห่าง ทุกอย่างถูกม่านควันบางเบาคลายตัวลงครอบคลุม
เสมือนตัวเขากำลังจมอยู่ลำพัง ณ ที่แห่งนี้...

วูบสุดท้ายที่ไฟกะพริบติด นพคุณทันหันไปเห็นแววตาของน้ำหนึ่ง ยายเพชรเอ๋ย
เธอเองก็ต้องไปเผชิญกรรมตามลำพังเหมือนกัน ฉันไม่ช่วยหรอกนะ

แล้วไฟก็ดับ...

เขาไม่เคยกลัวความมืด และยิ่งคุ้นเคยกับมันยิ่งขึ้นเมื่อตัวเองกลายเป็นโจร
สิ่งนี้กลายเป็นเพื่อนซี้ กลิ่นอายสีดำลึกลับ ก่อนจะมานี่เขาอาจจะอับจนหนทางก็จริง
แต่เมื่อบรรยากาศเป็นใจ ก็เหมือนความมืดกำลังชักชวนให้เขากลับไปเป็นหัวขโมย
มันคืบคลานมาหาถึงที่ กวักมือสนิทชิดเชื้อ สุดท้ายก็แทบว่าจะเป็นดึงมือนพคุณ
กลับไปยังหนทางท้าทายนั้น

เกมนี้เขาต้องผ่านงั้นหรือ เอาสิ... นี่มันก็แค่อีกครั้งที่ต้องเล่นไปตามเพลง

เขายิ้มให้แม่เพชรน้ำหนึ่งผู้ยังยืนทื่ออีกครั้งราวกับจะสั่งลา ก่อนล้วงกระเป๋า
ก้าวไปข้างหน้าในความสลัวที่ยังพอมองเห็นเค้าโครงสิ่งต่างๆ เสียงกึงกังดัง
มาจากส่วนอื่นๆของบ้านไกลออกไป ราวบ้านกำลังขยอกกลืนพวกเขาลงท้อง
และเสียงนั่นคือการดิ้นรนของคนที่ติดอยู่ข้างใน

ไม่จำเป็นต้องช่วย หลายคน...คนที่มารวมกันอยู่ในนี้ ‘มีดี’ พอที่สิ่งแปลกปลอมจะไม่อาจกล้ำกราย
ทำอันตรายได้ง่ายดาย หากเจ้าตัวไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะถูกทำลายเสียเอง โชคชะตาก็แค่
เชื้อเชิญพวกเขาเข้ามาติดกับ

มีเสียงสะท้อนก้องมาจากห้องข้างบน ก่อนไฟดับเขาเห็นคนพูดมากอย่างไอ้เจ้าอติวัจน์
ขึ้นไปบนนั้น คงไม่มีอะไรยากเย็น มันคงไม่ได้ไปแล้วไปลับ...
แล้วตอนนี้ไอ้เตหนุ่มน้อยเลือดร้อนเหมือนไฟสุดที่รักของเขาจะเป็นยังไง เปล่าเลย
เขาเองไม่ห่วงสักนิดถ้าไอ้เด็กเวรนั่นจะเจอดีเข้า กลับเป็นอยากให้โดนมากกว่าคนอื่น!

เงารอบตัวไม่ได้มีแค่พวกเขา ในขณะที่นพคุณเดินช้าๆ เงาแปลกหน้าหลายเงาซึ่งเป็นร่องรอย
ตัวตนของผู้เคยผ่านมาที่นี่ในอดีตก็เดินสวนผ่านเขาไป ต่างสวนทางกันอย่างไม่แยแส ท่ามกลาง
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เขาเดินผ่านม่านกั้นสลัวรางไปจนสุดห้องโถง ทิศที่ดูเหมือนมีบางอย่างกวักมือเรียก
รับรู้ได้ว่ากระแสพลังหนักอึ้งเย็นยะเยียบจากเบื้องล่างกำลังดึงดูดให้มุ่งไปทางนั้น... ไปก็ไป

เท้าพาล่วงเข้าสู่ทางลาดลงต่ำ มุ่งลึกลงไปเรื่อยๆ บ้านนี้ไม่ใช่มีแค่เพียงสองชั้นอย่างที่เห็นภายนอก
ยังซ่อนชั้นใต้ดินเอาไว้ นพคุณเห็นเงาหลังของเหมือนฝันที่ลงมาก่อนเขา ไม่มีมาลุตา ทว่าอึดใจต่อมา
เหมือนฝันก็อันตรธานหายไปอีกคน ไปไหน...หรือมีอะไรมากำบังตาไม่ให้เห็น น่าแปลก บางอย่างที่อยู่ที่นี่
มีพลังมากเพียงนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขากำลังอยู่ต่อหน้าสิ่งเหนือธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ ข้างในนี้
ทั้งเย็นลงเรื่อยๆ อับทึบเสียจนลมหายใจร้อนผ่าวของนพคุณติดขัด เริ่มรู้สึกลังเลว่าควรไปทางไหนต่อ

แต่แล้ว แสงเรื่อเรืองสีทองอ่อนกลับจุดขึ้นตรงริมขอบประตู บานประตูนั้น มันซ่อนอยู่ในความมืด
เบื้องซ้ายของเขานี่เอง ชายหนุ่มทาบมือลงบนประตูที่ปิดอยู่ แนบหูฟังเสียงอย่างระมัดระวัง
ของมีค่าอะไรอยู่ในนี้งั้นหรือ? เขาพลอยผ่อนลมหายใจให้เบาลง คุมสติมั่น ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำไป
ตามประสาโจรทั้งนั้น ประตูถูกล็อกไว้แน่นหนา มือจึงล้วงไปหยิบอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ไม่เคยห่างตัว

...ชายหนุ่มกลั้นใจ เริ่มใช้กลไกอย่างพิเศษที่ช่วยในการงัดแงะ เจ้านี่เป็นหนึ่งในงานประดิษฐ์ของสุวิชา
มันช่างแสนจะยืดหยุ่น ปรับแปลงการทำงานไปได้ตามรูกุญแจหรือกลอนแบบต่างๆ เขาค่อยๆสะเดาะเข้าไป
ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก สุดท้าย บานประตูแง้มออกตามต้องการ

เมื่อก้าวเข้าไป แสงสีทองเรืองเรื่อที่ดึงดูดเขาในทีแรกกลับเหมือนไม่เคยมีอยู่ ตัวห้องว่างเปล่า
ผนังเป็นปูนฉาบไว้อย่างดิบๆ ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง อย่าว่าแต่ของมีค่า... เขากวาดตาไปรอบๆอย่างสงสัย
หมุนตัวสำรวจตรวจตราจนทั่ว พบว่าในห้องขนาดราวห้าคูณห้าตารางเมตร ทุกอย่างดูจะว่างเปล่า
อย่างแท้จริง จนเมื่อเกือบตัดสินใจจะละทิ้งห้องนั้นมาเสียแล้ว เสียงบางเบาของใครบางคนกลับ
ลอยมากระทบโสต

เจ้าจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ยังคงยืนค้างอยู่ตรงช่องประตูที่มือกำลังจะงับมันปิดตามหลัง
เบนสายตากลับไปมองสำรวจ ฉับพลันนั้น การมองเห็นของนพคุณถูกดึงดูดไปรวมไว้ยัง
จุดสีทองแวววาวตรงมุมห้อง สมบัติ...รอคอยเขาอยู่จริงๆ!

จะร่ำรวยกว่าใครๆ อยู่เหนือใครๆ

...เสียงที่ดังขึ้นอีกฟังดูคล้ายสตรีกำลังครวญคร่ำแผ่วจาง สุ้มสำเนียงอันไร้ที่มา
คล้ายว่าตัวบ้านกำลังสั่นสะเทือนเป็นเสียงกระซิบพูดจากับเขา

นพคุณเผยยิ้มยามผลักบานประตูให้อ้ากว้าง สาวเท้าไปยังเป้าหมายที่เชื้อเชิญ
ย่อตัวลงเก็บมันมาถือไว้ ปล่อยให้แสงสีทองเรืองวาวสะท้อนอยู่ในดวงตาหรี่ปรือเนิ่นนาน...
จนไฟเพดานเริ่มกะพริบติดๆขัดๆ ก่อนที่ไฟฟ้าในบ้านทั้งหลังจะคืนกลับมาสว่างไสวดังเดิม

แม้แต่เหรียญทองในมือก็กลายเป็นเหรียญธรรมดา ไม่มีแสงสว่างใดแลบออกมาล่อตาล่อใจ
เสมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยในห้วงนาทีแปลกประหลาดอันแสนยาวนานที่ผ่านพ้นมา



อาจเพราะกำลังกระหยิ่มใจกับรางวัลที่ตัวเองได้รับในคืนแห่งชะตา เขารู้ว่ามันพิเศษ
ทำให้นพคุณอารมณ์ดี แม้จะเห็นหลายคนที่มาด้วยกันแสดงสีหน้าตระหนก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คล้ายวิญญาณหลุดจากร่างหนีหายไปแล้ว เขากลับเห็นขำ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่โตน่าวิตก
บ้านเพิ่งมอบจุดเปลี่ยนชีวิตให้แต่ละคน หลังจากนี้คงต้องดูกันต่อไปว่าใครจะพบเจอกับอะไร

คนซึ่งหมกมุ่นอยู่ในห้วงความคิดที่กระจัดกระจายไปคนละทิศละทางเร่งแยกย้ายกลับบ้าน
เขาเองเวลานั้นไม่สนใจอะไรแล้ว ความคิดมุ่งแต่จะกลับไปสำรวจสมบัติชิ้นน้อยที่ได้รับมาเร็วๆ
ชายหนุ่มพลอยไม่ใส่ใจอาการปวดหัวเป็นริ้วที่แล่นขึ้นมาขณะอยู่บนรถแท็กซี่ ตีไปเสียว่าตนกำลัง
เลือดลมฉีดแรงเพราะความปีติ เมื่อร้องหาโชคชะตา โชคชะตาก็มาพานพบ ตามประสาคน
ที่จับของล้ำค่ามานับไม่ถ้วน เขารู้ นี่เป็นสมบัติชิ้นเอก...เป็นหนึ่ง ไม่มีสอง

กลับถึงห้อง นพคุณยังใจเย็น จนเมื่อไปอาบน้ำเรียบร้อยและสวมกางเกงนอนแล้วนั่นแหละ
เขาถึงได้มายืนอมยิ้ม ถอนใจบางเบา จ้องมองสมบัติที่ตนวางไว้ในห้องมืด

มันนอนสงบนิ่งอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟารับแขก แสงสว่างเจือจางที่พาดผ่านเข้ามาจากนอกหน้าต่าง
อาบไล้จนสีทองสะท้อนประกายเย็นเยียบละมุนตา ยามค่อยๆหยิบมันขึ้นมาถือ ปลายนิ้วเรียวขาว
ไล้สัมผัสไปบนขอบข้างของเหรียญขนาดเท่าเหรียญห้า ลวดลายแปลกตาบนเนื้อทองเหลืองชุบด้วย
ทองคำแท้ๆเริ่มจะถลอกไปตามกาล ใครกันหนอมาทิ้งมันเอาไว้ที่บ้านปรารถนาแห่งนั้น

บนด้านหนึ่งของเหรียญ ลายนูนต่ำน้อยๆเรียวคมแทนเสี้ยวสว่างอย่างจันทร์คืนแรม ส่วนพื้นที่มืด
ในด้านเดียวกันรมดำไว้บางเบา มีภาษาเล่นหางที่ดูไม่ออกว่าภาษาอะไร เขียนไว้สั้นๆเป็นคำ
ไล่เรียงลงมาสามบรรทัด เหรียญส่งกระแสความรู้สึกประหลาดออกมา ยิ่งพอพลิกไปยังอีกด้าน
ซึ่งกระจ่างกว่า ดูผ่องสว่างเป็นจันทร์เต็มดวงแท้ๆ
ถ้าตาไม่ฝาด...ยังคล้ายจะเห็นรูปกระต่ายอยู่รางๆบนผิวไม่เรียบของเหรียญนั้นด้วย

มันคือพระจันทร์ ทั้งยังมีพลังอำนาจสว่างนวลสดใส เต้นระริกราวกับมีพลังชีวิตแอบซ่อนอยู่
“ออกมาสิ ใคร... ผู้ใดก็ตามที่อยู่ในเหรียญ” นพคุณกระซิบทั้งรอยยิ้ม

เงียบ... ไม่มีปฏิกิริยาใดตอบกลับ คิดจะลองดีงั้นหรือ เห็นเขายิ้มๆแบบนี้
แต่ก็ไม่ใช่คนใจดีอะไรนัก ยิ่งตอนนี้ใจร้อน อยากรู้ว่าตัวเองได้อะไรมาเสียด้วย

นพคุณเดินไปหยิบไฟแช็กที่ปกติมีเอาไว้เพียงจุดเทียนหอมอะโรม่า ตั้งเทียนเล่มหนาลงบนโต๊ะ
ก่อนจะเอาเหรียญทองในมือคีบไว้เหนือเปลวร้อนของเทียน ปากพึมพำบางอย่างเป็นเสียงกระซิบ
กลมกลืนไปกับอากาศ ดวงตาหรี่ลง ตั้งใจรอดูสิ่งที่กำลังจะเกิดในวินาทีถัดไป

เหรียญดูเหมือนจะสั่นเทา ทว่าก็ไม่มีใคร หรือผู้ใดปรากฏตัวออกมาตามแรงบีบบังคับ

กิ๊งงง
เหรียญดีดตัวพ้นจากมือเขา กระดอนตกลงไปบนพื้นปูกระเบื้องเย็นๆ
ก่อนจะกลิ้งต่อราวกับกำลังดิ้นหนี นพคุณตามไปหยิบมันขึ้นมาอีกครั้ง
เหรียญเย็นเฉียบ เหมือนมันเบ่งพลังความเย็นออกมาต้านความร้อนของเทียนที่ถูกนำมาลนกระนั้น

“ดื้องั้นรึ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก หมายใจจะจัดการลงไปให้รู้เรื่องในทีเดียว

ความมึนตื้อประดังแล่นจู่โจมหัวสมองกะทันหัน ตาเรียวคมสีน้ำตาลเหลือบมองนาฬิกา
นี่มันตีสองกว่าเข้าให้แล้ว แถมวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เหนื่อยมาก เพราะโดนไอ้เครื่องเล่นพวกนั้น
จับเขย่าเสียนอตที่หลวมอยู่แล้วหลุดออกมาหลายส่วน

ปวดหัว แบบนี้ถึงไม่อยากจะเลิกราก็จำต้องเลิก ชายหนุ่มกำเหรียญแน่นด้วยมือออกจะชื้นเหงื่อ
เดินเปะปะไปยังห้องนอน หมายจะให้ถึงเตียง ในหูยินเสียงนาฬิกาดัง ติ๊กๆๆ

หนึ่งครั้ง... สองครั้ง... พร่างพรายเป็นสิบเป็นร้อย
เสียงดังถี่ จำนวนนาฬิกาทวีขึ้นเรื่อยๆ อาการปวดหัวจี๊ดแล่นตีขึ้นมาเหมือนเข็มทิ่มแทงสมอง
ร่างสูงเซเสียหลักล้ม ศีรษะฟาดพล็อกเข้ากับมุมเตียงไม้เนื้อแข็งสุดแรง รู้สึกได้ถึงเลือด
และเสียงยังกับกะโหลกร้าว! สติกำลังจะเลือนดับ เสี้ยววินาทีนั้น นพคุณยังพยายามเอื้อม
ไปคว้าโทรศัพท์ที่มองเห็นยื่นเหลื่อมออกมาจากโต๊ะหัวเตียง ทว่า มันอยู่ไกลเหลือเกิน
จนนิ้วของเขาไม่มีวันเอื้อมถึง มือข้างนั้นจึงค่อยๆร่วงตกลง...

เหรียญทองกลิ้งออกพ้นมืออีกข้างของชายหนุ่มแช่มช้า มันชะงักอยู่ไม่ไกลจากนั้น
ในขณะที่เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาทางรอยแผลตรงศีรษะ จากหู รวมทั้งจมูกของเจ้าของร่าง
ที่กำลังสั่นกระตุก ซึมเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆบนพื้นพรมสีเทาเข้มจนเกือบดำ

สิ่งที่สถิตอยู่ในเหรียญพลันรับรู้ นี่คือวินาทีที่จิตของผู้ชายคนนี้กำลังจะหลุดลอยละทิ้งร่าง!
เพียงแต่โอกาสรอดอาจพอมี

ในการมองเห็นอันพร่าเลือน นพคุณเห็นอะไรบางที่เป็นสีขาว จุดขาวบริสุทธิ์ค่อยๆกระเถิบใกล้เข้ามา
กระต่ายหรือ... นี่คงจะเป็นภาพหลอน หัวของเขากำลังจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ทั้งที่สุวิชาบอกให้
ตรวจร่างกายละเอียดอีกครั้ง เขากลับยืนกรานปฏิเสธแถมยังมาล้มหัวฟาดซ้ำนี่อีก

บ้าจริงๆที่คิดว่าโดดลงมาจากตึกสูงขนาดนั้นแล้วจะไม่เป็นไร แม้มีอุปกรณ์ช่วยดีแค่ไหน
หนังเหนียวคงกระพันแค่ไหน แต่โทษของความอวดดีที่บังอาจท้าทายชีวิตเขาก็ยังต้องได้รับ
เป็นเพราะประมาท ดูถูกแรงโน้มถ่วง อำนาจของโลกซึ่งสามารถแม้แต่จะฉุดรั้งจิตเทวา
ให้ตกต่ำลงกระแทกดิน เขาคงต้องชดใช้การดูถูกนี้ด้วยความตาย

ชายหนุ่มคิดอย่างแผ่วล้า ขณะที่ร่างกายเริ่มงอเกร็งสั่นกระตุกระรัว น้ำตาไหล เห็นดาวพร่างพราย
ได้กลิ่นเลือดอยู่ในจมูก ในคอ เส้นเลือดอาจจะแตกซ่านอยู่ในหัวในหู เขาคงนอนตายอยู่ตรงนี้เพียงคนเดียว
ไม่ทันมีใครมาช่วย

ความตาย มันโดดเดี่ยวแบบนี้เอง

แต่ทำไม...เจ้ากระต่ายขาวตัวตรงหน้าก็ยังไม่หายไป มันเข้ามาดมฟุดฟิดถึงหน้าเขานี่แล้วด้วยซ้ำ บ้าที่สุด
ก่อนตายเขาควรได้เห็นแม่ ครูฤทธิ์ หรืออย่างน้อยไอ้เอกก็ยังดี นี่กลับเป็นกระต่ายปุยๆแค่ตัวเดียว

ถึงเรื่องนี้มันจะบ้า แต่วูบหนึ่งที่ความเจ็บปวดหายไปกลายเป็นความชาแทบจะไร้ความรู้สึก
ปากบิดเบี้ยวของเขากลับค่อยๆคลี่คลายกลายเป็นรอยยิ้มเมื่อมองมัน เขายื่นมือออกไป
ในปากของกระต่ายตัวเล็กจิ๋วเหมือนยังเป็นเพียงลูกกระต่ายคาบเหรียญทองเหรียญนั้นติดมาด้วย
เมื่อเทียบกับขนาดตัว เหรียญดูใหญ่จนคับปากมันอย่างช่วยไม่ได้ มันชะงักลังเลชั่วครู่
ก่อนทำทีคล้ายกำลังยื่นสมบัติชิ้นล้ำค่ามาให้เขา

‘รู้ตัวรึเปล่า ดวงกำลังจะถึงฆาตนะ...รับเอาเก้าชีวิตนี่ไปสิ ถ้าอยากรอด’

ท่ามกลางสีสันหลากหลายที่เห็นอยู่ในม่านตาโดยมีจุดศูนย์กลางคือกระต่ายขาว
เสียงผู้หญิงที่พูดอยู่นั่นมาจากไหน ไม่ใช่เสียงเดียวกับที่ได้ยินในบ้านปรารถนา
แต่ฟังดูมีชีวิตชีวากว่ากันมากนัก ไม่เพียงเท่านั้นยังแฝงรอยตำหนิอย่างไรพิกลในน้ำเสียง

“เอาสิ... ถ้าตอนนี้มีแค่ชีวิตเดียว คงไม่ไหวแล้วละมั้ง” นพคุณพึมพำทั้งรอยยิ้ม

ก่อนชายหนุ่มจะหลับไป เหรียญทองก็กลับมาสงบอยู่ในมือเขา
ความเย็นจากมันดูเหมือนกำลังเยียวยาความเจ็บปวดด้านชา
ให้ค่อยๆบรรเทาลง... บรรเทาลง...



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ย. 2557, 05:12:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.ย. 2557, 03:05:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1209





<< ๑ ก้าวที่ล้มเหลว - บท ๒ เกมต่อชีวิต   ๒.๓ เกมต่อชีวิต >>
yimyum 16 ก.ย. 2557, 06:34:21 น.
สงสารพี่เก้าจัง .....


ภาวิน 16 ก.ย. 2557, 06:49:06 น.
ไอ้พี่เก้าอาการหนักขนาดนี้ยังเก๊กอยู่ไหว เยี่ยมมาก อ่านแล้วแทบจะได้กลิ่นเลือดคาวคลุ้งอยู่ในคอ ตัวนุ่มออกมาวาดลวดลายแล้วสินะ


ใบบัวน่ารัก 16 ก.ย. 2557, 06:58:33 น.
ยัง งง
เด๋ว ขอกลับไปอ่านตอนแรกก่อนนะ
มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี ขอกัปตันอเมริกา มาช่วยได้ปะ น่าซบอก
ว้ายๆๆๆ


พันธุ์แตงกวา 16 ก.ย. 2557, 07:12:12 น.
เฮียเก้าเข้าบ้านปรารถนาทั้งที ยังต้องมีงัดแงะ กร๊ากกก สุดยอด แถมห้องของเฮียยังเป็นห้องแห่งทองอีกนะ ซะไม่มีอ่ะ
กระต่ายตัวนุ่มมาแว้ววววว อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะเฮีย แข็งใจอีกนิดนุง


ketza 16 ก.ย. 2557, 10:32:03 น.
เดี๋ยวมาอ่านนน


ริญจน์ธร 16 ก.ย. 2557, 10:43:24 น.
ตัวนุ่มมาแล้ววววว


ดังปัณณ์ 16 ก.ย. 2557, 11:21:53 น.
โอ๊ยยยยยยยยยยยย เฮียดาร์กๆๆ แต่เฮียได้ใจไปเต็มเล้ยยยยยยยย ไอ้พี่เก้านิสัยไม่ดี! ทั้งหมั่นไส้ ทั้งน่าสงสาร ทั้งน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก

อ่ะแน่ะมีสาวออกมาแระ จิแกล้งน้องกุเต่ยอ่ะเซ่ะ จอมโจรกะกระต่ายแหม เข้ากั๊นเข้ากัน


นักอ่านเหนียวหนึบ 16 ก.ย. 2557, 13:15:18 น.
อั้ยยะ เรื่องอื่นๆ เค้าใช้พะอบ ใช้ตะเกียง เรื่องนี้ใช้เหรียญจ้า
วะวะว้าววว นึกแปลกใจว่าทำไมพี่เก้าไม่บีบคอกระต่ายเล่น 555 นึกว่าเฮียจะโหด ที่แท้ก็มุ้งมิ้งอยู่นาา แหม่ๆๆๆ หยิบยื่นให้ตั้ง 9 ชีวิต กระต่าย หรือ แมวกันค้าา แบบนี้พี่เก้าก็ได้ใจ ยิ่งกลายเป็นแมวคะนองนาหนักกว่าเดิมนะสิ อ่านๆ แล้วก็อยากกิดหนูต่าย จะนุ่มนิ่ม จิ้มลิ้มแค่ไหนน้า


Barby 16 ก.ย. 2557, 16:32:26 น.
กระต่ายน้อยมาแล้ว


ketza 16 ก.ย. 2557, 22:34:11 น.
กรี๊ดดดดด พี่เก้าาาา ไม่เป้นไงน๊าาา โอ๋ๆๆๆ
ตัวนุ่มมาแล้วววว รอแม่กระต่ายน้อยกลอยใจน๊าาา


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 13:03:10 น.
พระเอกมะม้านิสัยสุดโต่งมากกกกก
ตัวนุ่มมาแว้วววววว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account