ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๒.๓ เกมต่อชีวิต

คุณหนูยิ้ม – ช่ายจิ พี่เก้าน่ารักแล้วก็น่าสงสารด้วยนะ
คุณภาวิน – นังกระต่ายตัวนุ่มออกมาฉี่รดหน้าพี่เก้าตอนตาย ไม่ใช่ละ
คุณใบบัวน่ารัก – โอ้ย นี่ไงคะน่ารักแล้ว55 เห็นไหมมีกระต่ายจิ๋วมุ้งมิ้งด้วยนะ

คุณพันธุ์แตงกวา – โอ้ พี่แตงมาอ่านแบบต่อเนื่องเลย ขอจูบสองที ...พี่เก้ายังต้องเจ็บอีกเยอะเลย หุหุ สะบักสะบอม
คุณริญ – กระต่ายน้อย เขียนเรื่องนี้แล้วอยากเลี้ยงเลย แต่แค่ดูแลตัวเองยังทำไม่ได้
คุณหนอนสาว – เม้นต์แบบนี้จิสไตล์หนอน พ่อมหาโจรกับกระต่ายขาวนุ่มนิ่มขนเนียน เข้ากันจะตาย

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – คนเขียนอ่านใช้ตะเกียงเป็นใช้ตะเกียบค่ะ นี่ขนาดกินข้าวอิ่มมาแล้วนะ
ชอบจังแมวคะนองนา! พี่เก้าเค้ารักสัตว์น้า เค้าถนอมกระต่ายของเค้ามากอะ ดูอย่างตอนนี้ เอิ่ม...
คุณบาร์บี้ – กระต่ายสาวหนาวใจ อยากถูกใครสักคนกอดรัดนัวเนีย

คุณMoona – ชีวิตก็แบบนี้แหละค่ะ ต้องมีการเรียนรู้กันบ้าง ...เล่าเรื่องของปรารถนาแห่งทอง แน่นอนว่าต้องมีการแสวงหา
คุณเกดซ่า – ไม่ได้เจิมเปิด คราวนี้มาเจิมปิดแทนก็ยังดีน้อ ขอให้งานเสร็จน้า จะได้มาอ่านตัวนุ่มๆแน่นๆเน้นๆๆเลย

-----------------------------------



ในปากของกระต่ายตัวเล็กจิ๋วเหมือนยังเป็นเพียงลูกกระต่ายคาบเหรียญทองเหรียญนั้นติดมาด้วย
เมื่อเทียบกับขนาดตัว เหรียญดูใหญ่จนคับปากมันอย่างช่วยไม่ได้ มันชะงักลังเลชั่วครู่
ก่อนทำทีคล้ายกำลังยื่นสมบัติชิ้นล้ำค่ามาให้เขา

‘รู้ตัวรึเปล่า ดวงกำลังจะถึงฆาตนะ...รับเอาเก้าชีวิตนี่ไปสิ ถ้าอยากรอด’

ท่ามกลางสีสันหลากหลายที่เห็นอยู่ในม่านตาโดยมีจุดศูนย์กลางคือกระต่ายขาว
เสียงผู้หญิงที่พูดอยู่นั่นมาจากไหน ไม่ใช่เสียงเดียวกับที่ได้ยินในบ้านปรารถนา
แต่ฟังดูมีชีวิตชีวากว่ากันมากนัก ไม่เพียงเท่านั้นยังแฝงรอยตำหนิอย่างไรพิกลในน้ำเสียง

“เอาสิ... ถ้าตอนนี้มีแค่ชีวิตเดียว คงไม่ไหวแล้วละมั้ง” นพคุณพึมพำทั้งรอยยิ้ม

ก่อนชายหนุ่มจะหลับไป เหรียญทองก็กลับมาสงบอยู่ในมือเขา
ความเย็นจากมันดูเหมือนกำลังเยียวยาความเจ็บปวดด้านชา
ให้ค่อยๆบรรเทาลง... บรรเทาลง...



ห้องนอนเขาไม่ได้ปล่อยให้แสงสว่างลอดเข้ามามากมาย แต่นพคุณก็รู้สึกได้
นี่คือวันใหม่ คงสายแล้ว หรืออาจจะใกล้เที่ยง แต่แสงที่ลอดเข้ามาก็ไม่ได้จัดจ้านอะไรนัก
เขาได้นอนเต็มอิ่ม นอตในร่างกายที่คลายหลวมโพรกหรือหลุดไปตั้งแต่เมื่อคืน
คล้ายถูกไขกลับเข้าไปใหม่จนครบ

“แปลก”
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้น เขามานอนอยู่ข้างเตียง ตกลงมาหรือ ไม่ใช่ละ
เมื่อคืนเขาปวดหัวมาก ล้ม หัวฟาด เลือดอาบ... แต่หน้าผากตรงที่คิดว่าฟาดเข้ากับเตียงสุดแรงนั้น
ทำไมไม่มีความเจ็บปวดเลย ไม่เพียงเท่านั้น อาการมึนและปวดหัวตั้งแต่วันที่เหินดิ่งนรกลงมา
ยังพลอยหายไปเป็นปลิดทิ้ง

อารมณ์ผ่องใสทำให้ลุกขึ้นยืนฉับไว ไม่ทันมองกระหย่อมเลือดที่ซึมเปื้อนเป็นวงกว้าง
บนพื้นพรมสีเข้มจัด! เมื่อเดินไปมองเงาสะท้อนผ่านกระจกในห้องน้ำ ไม่เพียงแต่ไม่เห็นแผล
แม้แต่รอยเลือดที่ไหลออกมาเลอะหน้าของนพคุณเมื่อคืนยังถูกชำระไปสิ้นด้วยมือลึกลับ
ชายหนุ่มจึงไม่ได้รู้ตัวว่าเขาผ่านทั้งหมดมาจริงๆ มิใช่เพียงฝัน

เรื่องที่สำคัญกว่านั้น...ฝันร้ายยังคงไม่จบลง!

นพคุณเตรียมอาหารเช้าเป็นขนมปังกับแยมสตรอว์เบอรี่และนมสดวางไว้เรียบร้อยบนโต๊ะ
แต่ยังไม่ค่อยหิวจึงคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำเป็นอันดับแรก ไม่นานก็เร่งแต่งกายจนเสร็จ
มัดรวบผมไว้ลวกๆที่ท้ายทอย วันนี้เขาจะไปพบสุวิชา ไม่รู้ว่าทำไมความสิ้นหวังในใจพลอยมลายหาย
จึงตั้งใจจะไปขอให้มันลองใคร่ครวญหาทางดูอีกครั้งว่าจะช่วยไอ้เอกได้ท่าไหนบ้าง คราวนี้ต่อให้
เสี่ยงตายกว่าเคยเขาก็จะลอง

ไม่คาดว่าจะได้เห็น ภาพบนโต๊ะ...

“อะไรเนี่ย” ชายหนุ่มครางต่ำๆในคอ
อาหารเช้าถูกรื้อระเกะระกะ นมในแก้วหกไหลนองหยาดแหมะๆลงถึงพื้น
ขนมปังสามแผ่นกระจัดกระจายคล้ายถูกแทะ เหลือทิ้งไว้เพียงขอบ แยมในขวดถูกละเลงไว้
บนพื้นโต๊ะหินอ่อนสีขาวสะดุดตา เมื่อเขาก้าวเข้าไปใกล้ เลข 8 สีแดงตัวใหญ่เขียนไว้เด่นหรา
วูบแรกที่เห็นทำเอาขนลุกเกรียว เมื่อมองจากด้านข้างเช่นนี้ ก็ดูเป็น ∞ อินฟินิตี สัญลักษณ์ของ
ความเป็นอนันต์ไม่สิ้นสุด หนทางเลือดที่ไม่สิ้นสุด... คำนั้นวูบเข้ามาในหัวก่อนที่เขาจะเร่งสลัดมันทิ้ง
ภาพทั้งหมดชัดเจนยิ่ง แต่กลับไม่รู้เลยว่าเป็นฝีมือของใคร หรือสิ่งใด!

แยมสีแดงเข้มดูเหมือนเลือดที่ถูกละเลง เขาเกือบจะคิดถึงหนังสยองขวัญประเภทที่ว่า
มีใครสักคนแอบแฝงอยู่ในห้อง ถ้าสายตาจับผิดไม่เลื่อนไปสะดุดเข้ากับร่องรอยเล็กๆ
ซึ่งประทับอยู่บนโต๊ะ เชื่อมโยงเขาถึงความทรงจำของคืนวาน

นพคุณสาวเท้าพรวดพราดกลับไปยังห้องนอน เขาจำได้ว่าเขาเห็น กระต่าย...ในความฝันอันแสนขมุกขมัว
ใช่แล้ว! กระต่ายสีขาว มันต้องเกี่ยวข้องกับเหรียญที่มีลวดลายของจันทร์ข้างขึ้นข้างแรมไม่ผิดแน่
รอยแทะขนมปังต้องเป็นฝีมือสัตว์จอมยุ่งตัวเล็กจิ๋วที่มีฟันแทะนั่นแน่ๆ แถมยังเลือกกินโดย
ทิ้งส่วนที่ไม่ชอบอย่างขอบขนมปังเหลือไว้ให้เจ็บใจ

“ออกมา!” ชายหนุ่มเสียงทำเข้มใส่เหรียญ ทว่า เงียบ...
เขาเพ่งกระแสจิตไปยังเหรียญในมือ คราวนี้เอาจริง
ยิ่งกว่าที่แกล้งเอาเทียนลนเมื่อคืนเสียอีก

ทันใดนั้น ไวราวกับเงาผี เจ้ากระต่ายแสบโดดดึ๋งออกมาจากเหรียญให้เห็นชัดๆกับตา
ชายหนุ่มทิ้งเหรียญทองจากมือ พยายามไขว่คว้าตะครุบเหยื่อ ก้อนขนสีขาวปุยขนาดจิ๋ว
เด้งหนีออกจากห้อง นพคุณตามติด เงาสีขาวไถลตัวอย่างน่าขันลื่นไปกับพื้นกระเบื้องนอกห้องนอน
หลบวอบแวบผลุบโผล่ไปทั่ว

“เล่นซ่อนหารึ เอาอย่างนั้นก็ได้”

เขาเห็นเจ้าตัวผู้ต้องหาแล้ว ปุยหางเล็กกระจิริดสั่นไหวที่ซ่อนไม่มิดโผล่มาจากหลังตะกร้าใส่ผง
มันเป็นกระต่าย ตัวน่าจะเล็กมากๆเสียด้วย คงเรียกได้ว่าเป็นลูกของกระต่ายแคระเลยด้วยซ้ำ
นพคุณเผยยิ้ม จะต้องจับตัวมาดูให้รู้แน่ ทว่าพอเขาพุ่งเข้าไปใกล้มันก็ดันรู้ตัวจากเสียงฝีเท้า
ก้อนสีขาวกลิ้งหลุนๆหายลับเข้าไปใต้โต๊ะรับแขกเสียอีกแล้ว!

จังหวะที่เขาก้มลงไปง่วนหา จากปลายหางตา เงาขาวนั้นฉวยโอกาสลัดเลาะวกกลับไปจนถึง
ประตูห้องนอนที่เบื้องหลังเขาได้ก่อน ชายหนุ่มหันตะกายตามเดินลงส้นตึงๆข่มราวกับยักษ์ปักหลั่น
ยังทันเห็นเงาขาวจั๊วะวับหายกริบกลับเข้าไปในเหรียญ

นพคุณหรี่ตา กระตุกยิ้มมุมปาก คว้าเหรียญมากำไว้แน่นในมือ นี่มันเป็นสมบัติสุดยอดแท้ๆ
อยากอวดให้สุวิชาเห็นเหลือเกิน สิ่งเหนือจริงที่สามารถแสดงตัวตนออกมาได้ชัดแจ้งขนาดนี้
มันยังจะอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์แบบไหนของมันอีก โทร.เล่าไปก็เปลืองน้ำลายเปล่า
ยังไงเขาก็จะต้องไปหามันถึงที่อยู่แล้ว ไม่สู้เอาเหรียญติดมือไปแล้วค่อยบีบให้เจ้ากระต่ายประหลาด
แสดงตัวออกมาอีกทีตอนนั้นเลยก็คงไม่เสียหลาย

ชายหนุ่มยัดเหรียญใส่กระเป๋ากางเกง ลงลิฟต์มายังชั้นล่าง หมายจะโบกแท็กซี่สักคัน
เขาเดินอ้อมไปด้านหลังคอนโดทิศที่เป็นถนนใหญ่หลายเลน การจราจรด้านนี้พุ่งฉิว
น่าจะทำให้ไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่า นั่นเป็นวิธีประจำที่คนซึ่งไม่มีพาหนะส่วนตัวอย่างเขามักเรียกใช้
เพราะสะดวกและไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอด ยิ่งเวลาออกปล้นด้วยแล้ว แค่เลือกไปลงย่านใกล้เคียง
จุดหมายแต่ไม่เป็นที่สังเกตก็พอ

ตั้งแต่ตื่นมาเขามีสติอยู่กับตัวมาโดยตลอด ทว่าอาการที่เรียกว่าดวงตกถึงที่สุดเป็นอย่างไร นพคุณไม่เคยรู้ซึ้ง

วินาทีนั้นสั้นจนชายหนุ่มไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำ
เมื่อรถกระบะสองคันที่แล่นตะบึงมาเร็วเกิดเบียดกระแทกกัน
คันหนึ่งเสียหลักพุ่งเข้ามายังบาทวิถี เสยใส่ร่างเขาลอยขึ้น
กระเด็นไปไกลหลายเมตร อัดเข้ากับต้นไม้ริมคูข้างทาง
ในลักษณะคอพับผิดรูป ตาเหลือกค้าง

คนไร้ศีล เมื่อดวงตกถึงที่สุด ของดีใดก็หนีหายไม่อยู่คุ้มตัว
และนี่...คือความตายอีกรอบของเขา ในเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งวัน!


อีกแล้ว สีสันมากมายแบบนี้ มันเหมือน...
เหมือนอย่างที่ได้เห็นในความพร่าเลือนเมื่อคืน
แล้วชายหนุ่มก็พลันระลึกได้ นี่ไม่ใช่ความฝัน หากแต่เป็นความตาย

ในขณะที่ร่างลอยมาหยุดลง ตัวตน จิตของเขาพลันกระเด็นออกมาพ้นร่างอีกต่อหนึ่ง
ไม่ใกล้ไม่ไกล พอจะเห็นสังขารชวนเวทนาของตนได้ชัดยิ่งกว่าชัด ตาลืมค้าง คอหักพับ
เลือดกองใหญ่ที่ไม่รู้ว่าไหลออกจากตรงไหนบ้างมาเจิ่งนองอยู่ใต้ร่าง

แต่จิตเขายังอยู่ตรงนี้ ท่ามกลางสีสันเลื่อนลอยซึ่งไหลผ่าน เร็วฉิวยิ่งกว่ารถราในเลนห่างออกไป
เขายังได้ยินเสียงแตร เสียงล้อรถบดกับถนน ผู้เห็นเหตุการณ์คงมีไม่มากนักเพราะด้านหลังคอนโด
นี้เป็นทิศที่ฝุ่นเยอะ รถก็แล่นเร็วอย่างน่ากลัวจนคนไม่ใคร่อยากออกมาเดิน สู้ไปขึ้นแท็กซี่เอา
หน้าคอนโดมีคนโบกรถให้จะสะดวกกว่า แต่ก็มีคนอย่างเขานี่เองออกมาเป็นประจำ
ที่ประจำ...กลับกลายเป็นที่ตายได้อย่างน่าอนาถ

คนขับกระบะสองคันลงมาด่ากันโขมงโฉงเฉง ยังเกี่ยงกันว่าเป็นความผิดใคร
ในเวลาเท่านี้รถคันอื่นที่แล่นเร็วผ่านไปยังไม่มีใครหยุดดู อาจเพราะร่างของเขา
ไม่ได้กองจะจะอยู่บนถนนเป็นที่อุจาด

ทว่านอกจากผู้ร่วมสถานการณ์โดยตรง ไม่ไกลจากนั้น นพคุณเห็นร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง
ยืนอยู่ใต้ต้นไม้อีกต้น ผิวคล้ำเข้มราวหยดหมึก ท่อนบนไม่ใส่อะไร แต่การแต่งตัว
ดูจะเข้าสมัยอยู่ไม่น้อย กางเกงเกาะสะโพกย้วยหย่อน เครื่องประดับทั้งกายล้วนแล้วไปด้วยทองคำ
แฟชั่นแบบที่นักร้องคนดำสมัยใหม่ใส่กัน แหวนเพียบแทบจะทุกนิ้ว สร้อยคอระโยงระยาง เลสข้อมือ
ปากหนาเบะออกเป็นรอยยิ้มกึ่งสาแก่ใจส่งมายังเขา เห็นฟันเลี่ยมทองในปากอยู่ไรๆ

ดูก็รู้ ชายผู้นี้ปกติคงมีหน้าที่มารับตัววิญญาณที่ตายลงแล้ว!
แต่ทำไมถึงไม่เข้ามา ยังคงรีรอดูท่าที ก่อนที่นพคุณจะสงสัยไปไกลกว่านั้น
เขาก็นึกได้ เสียงผู้หญิงเสียงเดิมแว่วอยู่ในห้วงความทรงจำ

‘...รับเอาเก้าชีวิตนี่ไปสิ ถ้าอยากรอด’

เก้าชีวิตที่ว่า ถ้ามันเป็นของเขาจริง เขาก็อยากจะฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย!

ทันทีที่นพคุณสบตากับชายร่างยักษ์ผู้ยืนทะมึนเงียบอยู่ ชายนั้นค้อมศีรษะ
เป็นเชิงพยักหน้าให้เขาขรึมๆอย่างยอมรับการตัดสินใจโดยดุษณี

กระแสธารเวลาพลันกระชากย้อนกลับ ตัวเขาถูกดึงคืนสู่ร่าง รู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น
และกระดูกต่อติดกลับคืนไม่ชักช้า แม้แต่เลือดที่ไหลออกไปแล้วก็ถูกดูดดึงกลับเข้ามาในร่างกาย
โดยไร้สิ่งเจือปน ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิม เหมือนตอนเขายังไม่เป็นไร

ทุกกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้ จะว่าไปแล้วกินเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ ...
ในขณะที่ชายเจ้าของกระบะสองคันยังคงด่าทอกันไม่หยุดเรื่องวิธีขับรถของอีกฝ่าย

“น้องนั่นแหละโง่! เสือกขับกินเลนเข้ามาก่อน”

“โธ่โว้ยคุณ! คนตายแหงแก๋อยู่นั่นแล้ว เรียกป่อเต็กตึ๊งก่อนดีไหม คุณเป็นคนชนคุณก็ต้องผิดสิวะ
อย่ามาหาเรื่องกันนะ รู้ไหมว่าเตี่ยผมเส้นใหญ่ขนาด...” คนอ่อนวัยกว่าอ้าปากเถียงเดือดดาล
แต่แล้วกลับชะงักค้าง นิ้วที่ชี้หน้าด่าคู่กรณีกลับเบนไปชี้ยังเบื้องหลังอย่างงงงวย

“ใหญ่มาจากไหนวะไอ้อ่อน มึงไม่ต้องอ้างพ่ออ้างแม่หรอก กูนี่แหละ! เส้นก๋วยจั๊บตัวจริง”
คนที่ถือว่าตัวเองแก่เก๋ากว่าตบอกผางอย่างโกรธจัดจนทั้งไขมันทั้งพุงเด้งสะเทือนไปทั้งแถบ
ก่อนจะทันสังเกตเห็นว่าไอ้หนุ่มตรงหน้าคล้ายจะเป็นบ้าเป็นใบ้ไปแล้ว นิ้วของมันยังกระดิก
ชี้ให้หันไปดูเบื้องหลัง ชายอ้วนหันไปมองทันควัน ก่อนจะต้องอ้าปากค้างตาม

ก็ไอ้ศพเคราะห์ร้ายเหยื่อเมื่อครู่น่ะสิ ตอนนี้มันลุกขึ้นมาปัดเนื้อตัวพลางเดินปร๋อจากไปพลางเสียแล้ว
จะว่าดีใจที่พ้นความซวยฐานขับรถชนคนตายก็ดีใจอยู่หรอก แต่ความอึ้งตะลึงจนลิ้นจุกปากนี่สิหนักหนา

“เฮ้ย ไม่เป็นไรเลยเหรอวะ!”
ชายอ้วนตะโกนเสียงพร่า มืออูมย้ายไปจับพระเครื่องที่แขวนเป็นหลายราวอยู่บนคออย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ในขณะที่ไอ้หนุ่มร่างผอมคู่กรณีคล้ายจะลมจับ เซซบร่างหนาด้วยท่าทีอ่อนยวบ จากที่ทุ่มเถียง
กลายเป็นต่างฝ่ายต่างช่วยพยุงกันและกัน แทบจะกอดอิงแนบชิดอย่างเห็นใจ ดูท่ากรณีรถชน
จะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปแล้ว

ใครจะรู้...คนที่เกือบจะกระทืบกันตายเมื่อครู่ก่อน ค่ำนี้จะย้ายไปนั่งกินเหล้าต่อยังบ้านอีกฝ่าย
พลางถกเรื่องตายแล้วฟื้นกันอย่างออกรส กลายเป็นเกลอแก้วที่ต่างฝ่ายต่างก็เส้นใหญ่ไม่น้อยหน้า
ได้คบค้ากันยืดยาวต่อไปอีกนานจากนั้นหลายสิบปี ก่อนจะไปเมาด้วยกันที่ต่างจังหวัดแล้วรถพุ่งตกเหว
ได้พิสูจน์เรื่องชีวิตหลังความตาย กอดคอลงนรกโดยพร้อมเพรียง เรียกว่าชะตาลิขิตให้มาเป็นเพื่อนตายโดยแท้



นพคุณเลิกล้มความคิดจะไปหาสุวิชา ถึงไม่มีรอยเลือด แต่ลงไปนอนไถพื้นแบบนั้นก็เลอะฝุ่นเลอะดิน
เสื้อผ้าขาดหลายแห่ง ทั้งเนื้อทั้งตัวสกปรกมอมแมมไม่น้อย ขึ้นไปอาบน้ำใหม่แล้วก็ยังไม่มีแก่ใจจะออกไปอยู่ดี
ช่วงนี้ของไม่คุ้มตัวเขาเสียแล้วหรือ ที่เรียกว่าหนังเหนียวแทงฟันไม่เข้าอาจไม่รวมอะไรที่รุนแรงถึงกระดูกหักใน
หรือการตกมาจากตึก ถึงได้มีกรณีคนเล่นของใช้ไม้หน้าสามฟาดกันจนตายไปข้าง และสำหรับตัวเขา
เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งจะ คอหัก...ตาย แต่แล้วก็กลับฟื้นขึ้นมา

สิ่งที่ได้มากลับไม่ใช่เหรียญประหลาดธรรมดาอย่างเหรียญผีสิงสักเหรียญ
ที่เขาจะเอาไว้ใช้หลอกแหย่เพื่อนได้หรืออะไรแบบนั้น แต่มันกลับเป็น
เหรียญประหลาดแบบโคตรพ่อโคตรแม่เลยต่างหาก

ชายหนุ่มขบคิดจากคล้อยเย็นจนกลายเป็นย่ำค่ำ ไม่เปิดไฟเพดานแต่เปิดม่านหน้าต่างออกครบทุกบาน
รับแสงโพล้เพล้ที่สาดเข้าตา รอเวลาจนพระจันทร์ซีดจางเริ่มขึ้นมาให้เห็น หยิบเหรียญทองวาววับ
ที่ดูจะเปล่งประกายมากขึ้นยามได้รับแสงจันทร์ออกมาเดาะเล่นในมือ พลังบางอย่างสะสม
เพิ่มพูนด้วยแสงจันทร์ มันดิ้นขลุกขลักอยู่ตรงปลายนิ้วของเขานี่เอง นพคุณเดินไปยังโต๊ะกินข้าว
เนื้อหินอ่อนเย็นเยียบ วางเหรียญลงไปอย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง ใช้ปลายนิ้วจิ้มกดมันไว้
ทิ่มแทงกำลังจิตเข้าไปเหมือนเข็มแหลมๆที่บ่งให้อะไรก็ตามที่ซ่อนตัวอยู่ไม่อาจทนทาน

เสียงร้อง อิ๊ ดังขึ้น
กระต่ายตัวน้อยเด้งออกมาจากเหรียญ มันนั่นเอง! นพคุณรีบคว้าเหรียญไปกำไว้
ทั้งยังร่ายคาถากำกับไม่ให้มันกลับเข้ามาในเหรียญได้ เมื่อที่หลบของเจ้านี่ตกมาอยู่ในมือเขาแล้ว
กระต่ายน้อยก็ไร้ซึ่งที่กำบังอีกต่อไป

เพราะสัมผัสได้เช่นกันว่าสงครามที่แท้จริงกำลังเริ่มขึ้น... ก้อนขาวเป็นปุยคราวนี้จึงไม่เด้งหนี
มันหันมาจ้องสบตาชายหนุ่มซึ่งถือเป็นผู้รุกรานอย่างเอาเรื่องราวกับกระต่ายกินเนื้อ
ทั้งที่หน้าตาบ้องแบ๊วออกอย่างนั้น นพคุณหัวเราะขำ เอานิ้วจิ้มหน้าแงของมัน
จนอีกฝ่ายคอย่นกลิ้งหงายหลังลง

“ทำมาจ้องขู่ ตัวเท่าลูกหนูแค่นี้... โอ๊ย!”

กระต่ายเจ้ากรรมงับติดนิ้วเรียวขาว สะบัดๆแง่งๆซ้ายขวาสองทีแล้วถอยฉะ
ดีดตัวปรู๊ดไถลล้มลุกคลุกคลานหัวซุนไปจนสุดมุมห้อง ชายหนุ่มสบถ
คลำนิ้วป้อย ไอ้เจ็บน่ะไม่หรอก แต่มันเสียเชิง!!

เขาย่างสามขุมเข้าไปหา เงาร่างทอดทับลงบนร่างเล็กจ้อย เห็นกับตาว่าหูสั้นๆของกระต่ายขาวปุยตัวเล็ก
ลู่ลงแทบจะติดหลัง ตัวก็สั่นเทาอย่างสุดระงับ เจ้านี่กำลังกลัวเขา ตาดำวาวกลมดิกเบิกกว้างอย่างน่าสงสาร
เขายิ้มเมื่อเล็งเห็นว่าขอบตากลมของกระต่ายล้อมด้วยขนสีดำ ทำให้ตามันเหมือนจะโตขึ้น
ยิ่งตรงปลายหางตา มองดีๆเป็นเส้นขีดอ่อนช้อยยังกับเขียนอายไลเนอร์เอาไว้คมกริบ

เขาเคยเห็นกระต่ายพันธุ์ที่หน้าตาคล้ายๆแบบนี้แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว
นี่นอกจากมันจะเหมือนตัวตุ๊กตุ่นขนาดถือได้ด้วยมือข้างเดียว ตายังกลมหวานเสียจน
แทบจะหยดอีกด้วย จากลางสังหรณ์ เจ้านี่ต้องเป็นลูกกระต่ายตัวเมียอย่างแน่นอน

“อยากโดนจับใส่หม้อถ่วงน้ำหรือ เจ้ากระต่ายร้าย” เขาพูดเสียงเข้มเมื่อก้มลงหา

มันพยายามส่ายหน้าหลบ ก่อนจะถูกฉวยหูสั้นๆขึ้นมาทำให้หมดทางหนี

“เวลาอุ้มกระต่ายนี่เขาห้ามหิ้วหูใช่ไหมนะ ช่างเถอะ...ไม่ใช่กระต่ายเป็นๆเสียหน่อย
เป็นแค่นางกระต่ายจำแลงที่กำลังจะโดนเอาลงหม้อแกง ไม่ได้คิดจะเลี้ยง จะหอบจะหิ้วตรงไหนก็เหมือนกัน”

แม้ไม่ได้เปิดไฟ แต่แสงสว่างสาดมาจากข้างนอกเพียงพอ
จอมโจรใจเหี้ยมผู้คุ้นเคยกับความมืดฉวยได้หม้อสแตนเลสขนาดเหมาะมาใส่เหยื่อของเขาลงไป
ปิดฝา แกล้งร่ายอาคมกำกับ ทำทีเหมือนจับผีใส่หม้อถ่วงน้ำ ก่อนจะยกขึ้นตั้งบนเตาไฟฟ้า
กดปุ่มเลือกเมนูเปลี่ยนไปมาดังปี๊บๆอย่างใจเย็น
“ร้อนแค่ไหนดี สุกเร็วหน่อยดีไหม”

กระต่ายโดดโหม่งฝาโครมๆอย่างไม่ยอมแพ้ อีกครั้งที่ชายหนุ่มเกือบหลุดหัวเราะออกมา

ข้างฝ่ายที่อยู่ในหม้อกลับไม่ขำสักนิดเลย ...ใจดวงนิดๆในอกเล็กเต้นเร็วจี๋
ไม่รู้ทำไม พอมาอยู่ในรูปลักษณ์กระต่ายที่อ่อนแอแบบนี้ด้วยแล้ว
ใจก็ดูเหมือนจะเสาะมากขึ้นอีกร้อยเท่า เสียใจก็ง่ายด้วย
คนคนนี้ไม่มีหัวใจ ไม่น่าไปช่วยเขาเลยจริงๆ

...เสียงโครมครามเงียบหายในที่สุด นพคุณเลิกคิ้ว ค่อยๆเปิดฝาออกดูผลงาน
ห่อปากเล็กน้อยเมื่อพบก้อนขนสีขาวน่ารักหันก้นให้เขา
ซุกนิ่งซมสงบอยู่ก้นหม้ออย่างพ่ายแพ้

“ล้อเล่นแค่นี้ กลัวมากเลยหรือไง” ชายหนุ่มจุปาก

กระต่ายน้อยปรือตาแล้วสะดุ้ง หลับตาปี๋ลงอีกเมื่อมือใหญ่เอื้อมลงหา

“กลัวเหรอ ไม่ทำแล้วน่า มานี่มา...”

คราวนี้กระต่ายลืมตาขึ้นข้างหนึ่งก่อนอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ผู้ชายคนนี้มีอำนาจ เพราะดันไปช่วยเขา พอช่วยแล้วตัวเองก็เลยต้องมาจนแต้มเองแบบนี้
แต่ว่าจะปล่อยให้หมอนี่ตายไปต่อหน้าได้ยังไง

นพคุณรู้ว่าตนคงจะรุนแรงเกินไปหน่อย อีกฝ่ายเป็นแค่ลูกกระต่ายตัวเท่านี้
แถมยังมีส่วนช่วยให้เขารอดชีวิต แม้จะยังไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร ...ชายหนุ่มประคองมันขึ้นมา
ยื่นนิ้วให้ดม อีกฝ่ายดมฟุดฟิดเพียงวูบแล้วย่นคอหลบ เมื่อเขาพาไปปล่อยลงบนเตียง
ก็กลับกระถดหนีไปเบียดเป็นก้อนขนติดผนังอย่างยังไม่ไว้ใจ เขาคืบตามไปจนถึง
ยิ้มแยกเขี้ยวขณะเอื้อมไปลูบๆขนขาวปุยละอองที่เป็นประกายนิดๆในมุมมืดอย่างกับมีไฟฟ้าสถิต

ไม่เคยเจอมาก่อน แม้ปกติเขาจะเดินสวนกับพวกผีเหมือนกับเป็นคนธรรมดาเดินกระทบไหล่
แต่สัมผัสอุ่นเนื้อหนั่นแน่นสมจริงแบบนี้มันช่างน่าสนใจ ท่าทางเขาจะได้ของเล่นที่ไม่ธรรมดามาเสียแล้ว
แต่ก่อนเขาเคยนึกอยากเลี้ยงตัวอะไรสักอย่างเป็นที่สุด แต่แม่ไม่เคยอนุญาตเลย
พอโตมาก็ชักจะลืมอารมณ์นั้น ทำมันตกหล่นหายไปตอนไหนก็ไม่รู้

“เจ้ากระต่ายช่วยชีวิต ไม่พูดจาแบบนี้จะคุยกันรู้ภาษาได้รึ
เรื่องเก้าชีวิตอะไรนั่นตกลงเป็นยังไงกันละนี่” ชายหนุ่มเลิกคิ้วทอดถอน

เวลาอยู่ในร่างกระต่ายน่ะหรือ เขาคงไม่รู้ มันยากมากแค่ไหนที่จะรวบรวมพลังส่งเสียงออกไป
ถ้าไม่ใช่เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบตอนนั้น เจ้าของร่างจิ๋วถอนใจปลงๆอย่างหมดทางเลือก...
ยอมสบตาชายหนุ่มที่จ้องตน กะพริบตาปริบๆใส่เขาก่อนหลับตาพริ้มลง
ขณะที่หมอกควันบางเบาคุกรุ่นระเหยออกมา ค่อยๆบดบังร่างเล็กจ้อยสีขาวบริสุทธิ์ดุจน้ำนม

นพคุณหรี่ตา เมื่อควันขาวพร่างระยิบระยับราวกับประกายของทองคำกระจายพรายออกรอบทิศ
กระต่ายจิ๋วหายไป... กลายเป็นเงาร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.ย. 2557, 03:20:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.ย. 2557, 03:20:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1172





<< ๒.๒ เกมต่อชีวิต   ๒.๔ เกมต่อชีวิต >>
ภาวิน 17 ก.ย. 2557, 05:42:24 น.
วันนี้มาเจิม ไอ้พี่เก้าจะจับกระตุ๋ยถ่วงน้ำเชียวรึ แล่เนื้อมาปิ้งกินน่าจะดีกว่า


ketza 17 ก.ย. 2557, 05:58:21 น.
ตามมาแว้วววว


ketza 17 ก.ย. 2557, 06:19:52 น.
กรี๊ดดดดดด ตัวนุ่มมาเต็มๆๆๆ อ๊ายยยย คลั่งแบ้ววว น่าร๊ากกกกก ก้อนขาวปุกปุย เกือบโดนต้มแว้ววว
ฮาแม่กระต่าย เด้งไปก็เด้งมา อุจิ๊


yimyum 17 ก.ย. 2557, 06:52:49 น.
ตัวนุ่มมาแล้ว *0*


พันธุ์แตงกวา 17 ก.ย. 2557, 07:16:11 น.
เอ้ย! กระต่ายกลายร่างเป็นสาวงามแล้ว เฮียเก้าชีวิตเสร็จแน่ ฮู้ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วจะอยู่ด้วยกันยังไงเนี่ย
ตอนนี้ฉากอลังการมากอ่ะ


ใบบัวน่ารัก 17 ก.ย. 2557, 07:20:51 น.
กระต่ายน้อยตัวเล็กๆ เบาๆมือนะค้า
หาขนมให้กินด้วย
พอเป็นสาวสวยแล้วจับเนื้อต้องตัวเบาๆนะ
เดี๋ยวช้ำหมด


ดังปัณณ์ 17 ก.ย. 2557, 12:25:07 น.
ไอ้พี่เก้าขี้แกล้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง! แต่น้องตั้ยขาวก็น่าร้ากกกกกก โอ๋โถ มีขี้น้อยใจ ขี้งอนอีกต่างหาก ฟันธงว่าไอ้พี่เก้าเลี้ยงต้อย! 555+ แต่คิดว่าจะไม่จับต้อยปล้ำซะก่อนนะ ตั้ยน้อยกลับคืนร่างเดิมแระนิ หุๆๆ

แต่ตอนนี้อ่านไปยิ่มไปอ่ะคุณแม่กุเต่ยยยยยยยย ทั้งตั้ยขาวกับไอ้พี่เก้าน่าร้ากกกกกกกกกกกกกก อร๊ายๆๆๆๆอยากได้เล่มแย้วววววววววววววววววว


Barby 17 ก.ย. 2557, 13:48:27 น.
อ้าย มีส่งร่างสาวตอนท้ายอะ งี้ต้องตามตอนต่อไป


นักอ่านเหนียวหนึบ 17 ก.ย. 2557, 14:19:54 น.
โอยๆๆๆ จบแบบนี้ งั้นตอนหน้าคงต้องเตรียมทิชชู่ ไว้เช็ดน้ำหมากอีกแล้วละสิ
เห้อๆๆๆ เล่าฉากจุดจบเพื่อนตายได้ชัดแจ้งมากจิงๆ ข่า เห็นแล้วหยอง
พี่เก้าใช้ไป 2 ชีวิตแล้ว เหลือ ให้คะนองนาได้อีก 7 ชีวิต สู้ๆนะพี่เหมียว


lovemuay 17 ก.ย. 2557, 15:09:49 น.
จับกระต่ายสาวกินเลยเน้อ.. ท่าทางจะขาว หวาน หอม 555


บุลินทร 17 ก.ย. 2557, 16:31:49 น.
ฮ่าๆๆๆๆๆ ปุยหางเล็กกะจิริดสั่นไหว ดูมุ้งมิ้งมาก


goldensun 17 ก.ย. 2557, 18:18:35 น.
พี่เก้าใช้ชีวิตเปลืองจัง 9 ชีวิตที่ได้เพิ่ม ท่าทางจะหมดเร็ว เหลือ 8 ใช่มั้ยคะ เพราะได้มาอีก 9 นี่นา
วิญญาณสาวในเหรียญ พี่เก้าแหย่ซะเหมือนคิดผิดที่ช่วยชีวิตไว้เลย คิดภาพกระต่ายจิ๋วตาม น่ารักอ้ะ แต่พี่เก้าโหดเชียว จับใส่หม้อต้มซะอย่างนั้น
สองซิ่งเล่าได้เหมือนมีเรื่องสั้นซ้อนในเรื่องยาวเลยค่ะ


yimyum 17 ก.ย. 2557, 20:23:38 น.
น่าร๊ากกกกกกก ><


Sukhumvit66 17 ก.ย. 2557, 22:15:59 น.
มาแล้ว ๆ กระต่ายกลายร่างแล้ว อิอิ


ริญจน์ธร 18 ก.ย. 2557, 10:51:44 น.


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 13:24:01 น.
ตัวจึ๋งนึงยังซ่ินไม่มิดอีกรึ
ตัวนุ่มไซส์ขนาดไหนกันแน่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account