วังวนวารี [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
คนหนึ่งอบอุ่นอ่อนโยน คนหนึ่งห่ามห้าว ใจร้อน แตกต่างกันราวกับน้ำพุร้อนเดือดพล่านและสายฝนฉ่ำเย็น หากสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองเหมือนกัน คือเขาต่างมีใจให้เธอ แล้วเธอล่ะ จะมอบใจรักเพื่อใคร
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๑๖ (ครึ่งแรก)

“เจอแล้ว ไม่คิดว่าจะมีกับเขาด้วย”

ความคิดเดือดดาลของหญิงสาวถูกเสียงห้าวทุ้มเอ่ยแทรก เสียงนั้นกึ่งประชดกึ่งดีใจ

“เธอพาเรามาที่นี่ทำไมว่าน...”

ไม่รู้หรือไรว่าวันนี้เป็นวันตายของพิมพ์แพร และคนที่ทำให้พิมพ์แพรต้องจากเธอและแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ ก็คือไอ้คนใจโฉดในตระกูลเผดิมชัยนี่แหละ

“ก็พามาหาคนสำคัญของฉันน่ะสิ” พูดแล้วก้าวยาวๆมาหา ลากข้อมือเธอไปหยุดหน้าฮวงซุ้ยที่หนึ่ง “นี่ไง”
หน้าฮวงซุ้ยนั้น มีช่อบูเกต์วางไว้ ยังสดใหม่คล้ายคนนำมาเพิ่งจากไปไม่นาน น้ำหนึ่งไม่สนใจดอกไม้ เธอตวัดสายตามองป้ายชื่อ ตัวชาวาบเมื่ออ่านชื่อนั้น...เผด็จ เผดิมชัย

ริมฝีปากอิ่มเผยอค้าง ดวงตาเขม้นมองจนแน่ใจ ไฟแค้นลุกท่วมใจในพลันนั้น ลืมไปสนิทใจว่าคนตรงหน้าความจำเสื่อม ฝ่ามือบอบบางซึ่งกำแน่นเกร็งตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มันตวัดขึ้นอย่างเร็ว เป้าหมายคือใบหน้าคมคายของคนที่พาเธอมาตอกย้ำความอาดูรในอดีต ราวกับกลั่นแกล้งให้เจ็บปวดใจ

ทว่าฝ่ามือข้างนั้นไม่ทันสัมผัสซีกแก้มที่เธอหมายตา มันถูกฉุดรั้ง ยึดเหนี่ยวไว้ด้วยบางสิ่งบางอย่างที่น้ำหนึ่งมองไม่เห็น
เพียงไม่กี่วินาทีที่ชะงักงันอยู่กลางอากาศ ก็เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มรวบกำข้อมือเธอไว้ทั้งสองข้าง ก้มลงมองสบตา และถาม

“ฉันทำอะไรให้เธอโกรธน่ะเพชร”

“ยังมีหน้ามาถามอีก” เธอตวาดออกไปโดยไม่เสียเวลาหยุดคิด ภาพศพอันน่าสังเวชของพิมพ์แพรหวนกลับมาฉายชัดในหัว ส่งผลให้ลมหายใจหอบแรง มือสั่นเสียงสั่นด้วยแรงโทสะ “วันนี้ครบรอบวันตายพี่แพร แต่เธอพาเรามาหาคนสำคัญ ไม่รู้หรือไงว่ามันคือฆาตกรหื่นกามใจโฉดที่ฆ่าพี่แพรตาย”

“อะไรนะ!” เผด็จแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “ไม่จริงใช่ไหม...”

ไม่จริงใช่ไหม พิมพ์แพรเป็นพี่สาวของน้ำหนึ่ง มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง เขาไม่เคยพบร่องรอยหญิงเคราะห์ร้ายผู้นั้นในบ้านน้ำหนึ่งเลย ในห้องรับแขกซึ่งประดับด้วยภาพถ่ายครอบครัวหลายต่อหลายภาพ ยังไม่เห็นจะมีพิมพ์แพรรวมอยู่ในภาพเหล่านั้นเลย

“ทำไมจะไม่จริง...อ๋อ...เราลืมไปว่าเธอความจำเสื่อม ถ้างั้นก็จำไว้ด้วยว่าไอ้เผด็จ เผดิมชัย คนนี้แหละ...” นิ้วเรียวตวัดชี้ไปยังหน้าฮวงซุ้ยของเผด็จ แววตาโกรธแค้นมองเขม็งมายังเขา...ที่เธอเข้าใจว่าเป็นวาริ “มันข่มขืนพี่แพรอย่างทารุณและฆ่าตาย ฆาตกรหื่นกามใจโฉดอย่างมัน สมควรแล้วที่ตายตกไปตามกัน”

เธอกวาดตามองไปทั่วบริเวณ คล้ายค้นหาว่าวิญญาณเขาซุกซ่อนอยู่ที่ใด หารู้ไม่ว่าเขาซุกซ่อนอยูในร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้แค่นี้เอง

“ป่านนี้มันคงตกนรกหมกไหม้ไปแล้ว คนเลวๆอย่างมันมีแต่คนสาปแช่ง อย่างน้อยก็เราคนหนึ่งละ...อ๋อ เพิ่งรู้ว่ามันเป็นคนก่อตั้งชมรมเรื่องลี้ลับ ถ้ารู้อนาคตล่วงหน้า เราคงไม่เข้าชมรมมันหรอก ไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนเลวๆแบบนี้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม...” หญิงสาวเอ่ยยาวเหยียด

“เพชร เธอใจเย็นๆก่อนนะ ไปหาที่นั่งพักกันก่อนดีกว่า” เผด็จคว้าข้อมือน้ำหนึ่ง กึ่งลากกึ่งจูงให้พ้นจากตรงนั้น ก่อนเธอจะคลั่งและระบายความแค้นโดยการพังทำลายฮวงซุ้ยเขา หน้าตาเธอบ่งบอกว่าพร้อมจะทำ

เธอคงไม่รู้ว่าถ้อยคำต่อว่าด่าทอและแช่งชักหักกระดูกไอ้ฆาตกรใจโฉดคนนั้น มันเหมือนหนามแหลมที่สุมทับลงบนเนื้อใจ ทั้งเจ็บปวดและแสบสันต์เหลือจะกล่าว เขาจะแก้ต่างให้ตนเองอย่างไร ในเมื่อเรื่องที่เธอพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง!

เขาข่มขืนและฆ่าพิมพ์แพร คนรักของชรัณ ชรัณกลับมาพบและกระหน่ำแทงเขาจนเสียชีวิตคาที่

ฉึก ฉึก ฉึก เสียงมีดกระหน่ำลงมาบนร่างยังฝังลึกอยู่ในดวงจิตเช่นเดียวกับความแค้น

เผด็จพาน้ำหนึ่งมานั่งสงบใจใต้ต้นไม้ใหญ่ริมบึงน้ำ สายลมเย็นชื่นและทิวเขาเขียวสลับสล้างซึ่งแลเห็นอยู่ลิบลิ่วไม่ได้ช่วยให้ใบหน้าบึ้งตึงผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย ดวงตาขุ่นขวางจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง

“เธอรู้จักมักจี่กับไอ้เผด็จมาตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าน ขนาดยกให้มันเป็นคนสำคัญ”

หากรู้ว่าน้ำหนึ่งเป็นน้องสาวพิมพ์แพร ให้ดับดิ้นสิ้นชีพอย่างไรเขาก็ไม่มีวันพามารู้จักเผด็จหรอก เขาก็แค่อยากให้เธอรู้จักตัวตนของเขาจริงๆ ไม่ใช่รู้จักในนามของไอ้วาริ ผู้ชายความจำเสื่อมคนนี้

“ตั้งนานแล้ว” เผด็จรู้ว่ายามนี้ต้องสงบเสงี่ยม ห้ามยั่วโมโหหรือต่อปากต่อคำเด็ดขาด

“แล้วทำไมไม่เคยบอกเราเลย”

“เธอเคยถามฉันหรือเปล่าล่ะ” เผด็จย้อนไปอย่างนั้นเอง ไม่คิดว่าจะทำให้หญิงสาวอึ้ง ริมฝีปากอิ่มถูกขบจนแดง ก่อนเจ้าตัวจะประชดเสียงดุ

“งั้นที่เธอทำท่าเห็นอกเห็นใจเรากับแม่ตอนพี่แพรตาย และสาแก่ใจกับชะตากรรมที่ไอ้ฆาตกรใจโฉดนั่นได้รับ ทั้งหมดนั้นก็เป็นเรื่องโกหกหลอกลวงน่ะสิ” ความเสียใจอย่างสุดซึ้งเกลื่อนกลบแววสดใสในดวงตาคู่สวย

“ฉันจำไม่ได้หรอกนะว่าพูดหรือทำอะไรไปบ้าง” เขาเอ่ยรวนๆด้วยความหงุดหงิด ถึงตนเองจะไม่ใช่คนดีนัก แต่ก็ไม่ได้อยากได้ยินใครมายืนจิกด่าตัวเองอยู่ปาวๆ คำก็ไอ้ฆาตกรหื่นกาม สองคำก็ไอ้ฆาตกรใจโฉด เขาเหลือบตามองริมฝีปากแดงเรื่อนั้นแล้วนึกอยากหาอะไรสักอย่างมาปิดให้สนิทนัก จะได้เลิกด่าสาดเสียเทเสียเขาเสียที

‘อะไรสักอย่าง’ ที่เผด็จนึกออกยามนี้ หากใช้มันจริงๆ เธอคงเหมารวมว่านายวาริคนนี้เป็นพวกบ้ากามเหมือนไอ้เผด็จเป็นแน่ ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น ระงับอกระงับใจไม่ให้ทำอะไรบุ่มบ่ามตามใจปรารถนา

“ฉันรู้แต่ว่าไอ้เผด็จมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอใส่ความ” เผด็จเอ่ยระมัดระวัง

“ใส่ความ” น้ำหนึ่งร้องเสียงดัง “เธอก็เห็นสภาพศพพี่แพร ว่ายับเยินน่าเวทนาแค่ไหน เธอยังหาว่าเราใส่ความอีกหรือ คนดีๆที่ไหนเขาจะมาทำร้ายคนอื่นแบบนี้ อ้อ เราลืมไปว่าเธอความจำเสื่อม คงลืมภาพเหล่านั้นไปหมดแล้ว”

ต่างคนต่างจ้องหน้า เผด็จรู้ว่าพูดอย่างไรน้ำหนึ่งก็ไม่มีทางเย็นลง ยิ่งเขาเข้าข้างคนที่เธอเคียดแค้นชิงชังมากเท่าไร เธอก็จะยิ่งถอยห่างจากเขาไปไกลเท่านั้น แต่อย่างไรก็ต้องพูด และเขาเองก็ไม่ใช่คนใจเย็นพอที่จะคอยตามไปอธิบายอย่างละมุนละม่อม จำเป็นต้องใช้วิธีการแบบคนใจร้อนอย่างเขานี่แหละ

เผด็จฉวยโอกาสที่น้ำหนึ่งเผลอ ดึงเธอมารวบเอวไว้ แผ่นหลังของเธอแนบอยู่กับเรือนกายของไอ้วาริ กลุ่มผมนุ่มสลวยจดจ่ออยู่ที่ปลายจมูกส่งกลิ่นหอมสะอาด ให้ตายเหอะ ในเวลาแห่งความใกล้ชิดแบบนี้ เขาไม่อยากใช้ร่างวาริเลย...

“เพชร ฟังฉันนะ” เผด็จสั่งเสียงดุชิดขมับของคนฤทธิ์มาก

แต่นอกจากจะไม่ฟังแล้ว ร่างเพรียวบางยังดิ้นเร่า ศอกแหลมกระทุ้งเข้าสีข้างเขาจนเจ็บ เท้าระบมเพราะถูกกระทืบลงไปซ้ำๆ เท่านั้นยังไม่พอ คล้ายมีแรงฉุดกระชากน้ำหนึ่งออกจากพันธนาการของเขาอีกด้วย แรงบ้าบอมาจากไหนก็ไม่รู้ ที่นี่มันเป็นแหล่งรวมพลังลึกลับบางอย่างหรือไง ก่อนหน้านี้ก็ถูกตบจนหัวซุนโดยไม่รู้ว่าใครทำ

เอาสิ ลองสู้กันสักตั้ง น้ำหนึ่งจะเป็นอิสระก็ต่อเมื่อเขายอมปล่อยมือเท่านั้น

สิ่งใดเผด็จอยากได้ สิ่งนั้นเผด็จต้องได้

ยื้อยุดกันอยู่ครู่ใหญ่ เรี่ยวแรงปริศนาจึงอ่อนกำลังไปพร้อมๆกับน้ำหนึ่งที่หมดแรงสิ้นฤทธิ์ หายใจหอบเหนื่อยอยู่ในอ้อมแขนเขาโดยดุษณี

“เพชร เธอฟังให้ดีๆนะ และจำเอาไว้ว่าไอ้เผด็จมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอประณาม มันไม่ได้ตั้งใจฆ่าพี่สาวเธอ มันเป็นความพลาดพลั้ง”

“ไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่ตั้งใจข่มขืนก็ชั่วพอให้ประณามแล้ว ไอ้ฆาตกรนั่นมันเป็นอะไรกับเธอ เธอถึงแก้ตัวแทนมันโดยไม่สนใจความรู้สึกของเราเลย พี่แพรไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องโดนมันข่มขืนด้วย” น้ำหนึ่งผินหน้ามาโต้กลับ

“ไอ้เผด็จมันไม่ได้ตั้งใจข่มขืน แต่มันเมา...” เผด็จยังเอ่ยไม่จบ ก็โดนสวนกลับทันที

“เมาแล้วไง เมาแล้วอยากข่มขืนล่วงละเมิดใครยังไงก็ทำได้อย่างนั้นเหรอ”

เส้นความอดทนที่เขม็งเกลียวแน่นมานานขาดผึง เผด็จเบียดปลายจมูกลงบนแก้มนุ่มซึ่งบัดนี้แดงเรื่อด้วยความโกรธ ริมฝีปากแนบชิดใบหูบอบบาง เสียงกระซิบดุดันลอดผ่านไรฟัน

“ถ้าเธอไม่หยุดเถียงและยอมฟังฉันดีๆ ฉันจะจูบ”

“จูบเหรอ” น้ำเสียงยอกย้อนฟังดูชิงชังจนน่าใจหาย

และก่อนที่เผด็จจะทันตั้งตัว ร่างบอบบางก็บิดลำตัวจนเกิดช่องว่าง แล้วกำปั้นเล็กๆของหญิงสาวที่ดูไร้หนทางต่อสู้ก็ฟาดเข้ากลางเป้าพอดิบพอดี...

“อุ๊บ...” เผด็จร้องไม่ออก ท่อนแขนแข็งแกร่งราวปลอกเหล็กปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระทันที ร่างสูงงอตัวลงไปกุมกล่องดวงใจอย่างสิ้นท่า ส่งผลให้กุญแจรถในกระเป๋าเสื้อร่วงหล่นลงพื้นโดยเจ้าของไม่รู้ตัว...ความรู้สึกตอนนี้มันไม่ใช่แค่เจ็บ...แต่มันจุกจนไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร

น้ำหนึ่งกระโดดไปยืนห่างจนเขาเอื้อมไม่ถึง ดวงตากลมโตยามนี้เอ่อท้นไปด้วยความเสียใจ คำที่เอ่ยสั่นพร่าเต็มไปด้วยแรงอารมณ์

“เธอคงนึกไม่ออกหรอกว่าน ว่าเวลาคนที่เรารักไปเข้าข้างคนที่เราเกลียดน่ะ มันรู้สึกแย่แค่ไหน และที่เขาทำอย่างนั้นได้ก็เพราะเขารักเราไม่มากพอ”

นาทีที่คำว่า ‘รัก’ หลุดจากปากน้ำหนึ่ง คล้ายโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ น้ำหนึ่งรักวาริ ความจริงข้อนี้กระแทกใจเผด็จอย่างแรง
“เพราะ...รักมาก...ต่างหากเล่าถึงได้พูด...” เขาเถียงกระท่อนกระแท่น เปล่งเสียงแทบไม่ออก

หญิงสาวส่ายหน้าน้อยๆ ดวงตาส่อแววผิดหวัง “เราไม่ต้องการความรักแบบมักง่ายของเธอ” พูดจบ ร่างเพรียวบางก็ใช้ความรวดเร็ว ฉกกุญแจรถบนพื้นไปครอง พร้อมกับเค้นเสียงพูดแค้นเคือง “ไปรับรถคืนที่สถานีตำรวจใกล้บ้านเธอแล้วกัน เราไม่สามารถร่วมทางกับเธอได้อีก และไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกทิ้งไว้ที่นี่ด้วย”

พูดจบ เธอก็หันหลังวิ่งย้อนกลับไปทางเก่า ตรงไปยังรถยนต์ซึ่งจอดนิ่งสนิทชิดขอบทาง เปิดประตูแล้วขับจากไปโดยไม่เหลียวกลับมามอง




น้ำหนึ่งถามตัวเองมาตลอดทางว่าทำหนักเกินไปไหม แรงไปหรือเปล่าสำหรับคนที่ตนเคยรัก คำตอบชัดเจนทุกครั้งว่าไม่หรอก ใครจะกล้าเสี่ยงนั่งรถกลับมากับผู้ชายหื่นๆพรรค์นั้น ท่าทางไว้ใจได้เสียที่ไหน ต่างกับวาริคนเดิมราวนรกกับสวรรค์ เกิดนั่งมาด้วยกัน ชะดีชะร้ายเขาพาเธอไปปล้ำจะทำยังไง ตอนนั่งรถมาด้วยกัน สายตาเขาก็แทบจะกินกลืนเธอไปทั้งตัวอยู่แล้ว สุดท้าย ยังเข้าประชิดตัวอย่างอุกอาจ โดนทุบเป้าแถมฉกรถมาแบบนี้ยังถือว่าน้อยไป

คิดมาถึงตรงนี้ มือข้างซ้ายก็ละจากพวงมาลัย ถูแก้มตัวเองแรงๆ ด้านที่ปลายจมูกบดเบียดนั่นแหละ ด้วยความรังเกียจล้วนๆ พฤติกรรมหยาบคายของวาริวันนี้ ทำให้น้ำหนึ่งเดียดฉันท์จนไม่อยากเข้าใกล้ ใจหวนคิดถึงพิมพ์แพร หล่อนจะกล้ำกลืนฝืนทนกับความกักขฬะของไอ้ฆาตกรหื่นกามนั่นแค่ไหน นอกจากทรมานกายแล้วยังต้องทุกข์ทรมานใจอีกด้วย...

วันนี้ อาจเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะคิดถึงวาริก็ได้ คิดถึงด้วยความโกรธและเสียใจ อีกทั้งอาลัยความรักที่ตนเคยมีให้เขา
เมื่อความดีดับสูญ ความรักก็ดับสิ้น

น้ำอุ่นๆไหลรินจากดวงตาอันพร่าพราย เป็นน้ำตาแห่งอารมณ์ใด น้ำหนึ่งก็คร้านจะค้นหาคำตอบ หากกักเก็บน้ำตาไว้ ใจคงอัดอั้นแทบระเบิด


*************************************

ทักทายท้ายเรื่อง

หลายๆคนคงสงสัยว่าทำไมน้ำหนึ่งเห็นวิญญาณทุกตนยกเว้นวาริ วันนี้นายว่านฝากบอกว่าเขาจะตอบคำถามนี้เอง แต่เขาจะมาตอบในเล่มซึ่งน่าจะออกสู่สายตาเพื่อนๆนักอ่านในปลายสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า ไม่นานเกินรอใช่ไหมเอ่ย

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ มาเม้นท์คนแรกเลย นอนดึกจังค่ะ ดูสะใจมากเลยนะคะที่เผด็จโดนตบหัวพ่งขนาดนั้น

ไอ้พี่เก้า อสิตารา ใช่ มีลงแบบเตมตอนกับครึ่งตอน วันนี้เอาไปครึ่งก่อน วันนี้ไม่มีเรื่องอาหารการกินมายั่วแล้ว อ้อ มีมาม่าน้ำตาริน

คุณ Pat วันนี้มาครึ่งตอนค่ะ รอดุว่าพรุ่งนี้อีตาเผด็จจะกลับยังไง โดนทิ้งเสียขนาดนี้

หนูเกดซ่า ได้ข่าวว่ากลับเมืองลิงโดยไร้ชุดไปเปลี่ยน ไม่รู้ป่านนี้นอนแก้ผ้าไปแล้วหรือยัง วาตานเป็นของเธอแล้ว น้ำหนึ่งไม่มีใจให้แม้แต่น้อย

น้องยิ้มจัง ขำอากงอาม่า ตอนนี้เปิดมาชัดเจนแล้วว่าเผด็จเป็นคนฆ่าพิมพ์แพรค่ะ

น้องหนอนน้อยดังปัณณ์ เรื่องที่หนอนเดา เจ๊จะไม่พูด (ลูบปลายคางอมยิ้มเปี่ยมเลศนัย) หนอนต้องคอยดตอนเฉลย แล้วแอบส่งข้อความมาบอกเจ๊ด้วยนะ ว่าเงิบหรือไม่เงิบ

คุณโกลเด้นซัน ตอนนี้น้ำหนึ่งยิ่งเกลียดนายว่านใหญ่เลยค่ะ

คุณ Moona Narak มันมีเหตุที่ทำให้ไม่เห็นค่ะ อันนี้ต้องติดตาม





ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2557, 03:47:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 03:47:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1449





<< บทที่ ๑๕   บทที่ ๑๖ (จบตอน) >>
ketza 5 ต.ค. 2557, 06:37:02 น.
มาแว้ววว


ketza 5 ต.ค. 2557, 06:45:28 น.
กะลังสนุกเยยยย
แหม่ๆๆ พ่อซาตานครบเครื่อง เมา ข่มขืน ฆ่า ... อยากนี้น้ำหนึ่งเล่นงานตายแน่ถ้ารู้ความจริง เหอๆๆๆ


อสิตา 5 ต.ค. 2557, 07:04:35 น.
วันนี้ของข้ามีบะหมี่หมูแดง ...นางเผด็จชะตาชีวิตน่าเวทนา


อสิตา 5 ต.ค. 2557, 07:05:01 น.
บะหมี่ไม่ใส่ผักชี****


พันธุ์แตงกวา 5 ต.ค. 2557, 07:31:42 น.
เผด็จเค้าคงไม่ได้ตั้งใจหรอก(มั้ง) ใจเย็นก่อนนะน้ำหนึ่ง เดี๋ยวร่างวาริจะบอบช้ำ อ้าว นังเจ้
มันต้องมีเงื่อนงำซับซ้อนซ่อนปม น่าติดตามมากมาย

บ้านน้ำเค้ามีเตี๋ยวน้ำตก บ้านทองมาชวนกินบะหมี่หมูแดง ซาลาเปาไส้กระต่ายซะงั้น มันกรรมของคนอ่านเจงๆ หิวววววเยยยยย


ใบบัวน่ารัก 5 ต.ค. 2557, 09:13:35 น.
นั่นดิ เป็นใครจะยอมให้อภัยคนที่ทำกะพี่สาวแบบนั้ยได้
เมาแล้วไง ก็เอาหัวกดน้ำตายไปเลย จะได้ไม่ต้องไปข่มขืนใคร
แล้วอ้างว่าเมา


yimyum 5 ต.ค. 2557, 10:25:17 น.
แง่งๆ เเล้วเผด็จจะโดนวิญญาณแถวนั้นเล่นไหมเนี่ย


Sukhumvit66 5 ต.ค. 2557, 12:37:42 น.
เฮ้อ.....เรื่องมันพลิกเลย


นักอ่านเหนียวหนึบ 5 ต.ค. 2557, 14:32:08 น.
กรี้ดดด หนึ่งอย่าเกลียดริเลยนะ ริมะรุ้เรื่อง อิเด็ดดี้ มันแรงยิ่งกว่าหนึ่งผี หนึ่งคนรวมกันอี๊กก เฮี้ยนจิงงง


ดังปัณณ์ 5 ต.ค. 2557, 16:41:27 น.
มันต้องมีไรเซ้! วานี่เป็นผี...เอ่อ ครึ่งๆผีแล้วต้องรู้ไรดีๆแหงแซะ ไม่งั้นไม่จับมือหนุน้ำไว้ร้อกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

โถ เด็จจี้มาเฉลยไวๆนะ อ๊ะ....โดนทุบเป้า ฉกรถ โถๆๆๆๆ....หายหน้าเขียวอ่ะยังน่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกก


บุลินทร 5 ต.ค. 2557, 22:18:25 น.
ท่าทางจะทิ้งปมไว้เพียบ ไม่ซื้อมาอ่านต่อไม่ได้แล้ววว


หนอนหนังสือ 5 ต.ค. 2557, 22:28:56 น.
น้ำหนึ่งเกลียดวาริ(ตัวปลอม)เสียแล้ว งานนี้วาริตัวจริงแย่เลย โดนขโมยร่างไปทำแต่เรื่องบ้าๆ


Barby 6 ต.ค. 2557, 19:27:28 น.
อธิบายยังไงก้อฟังไม่ขึ้นอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account