ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๓.๓ ขุมทรัพย์ต้องสาป

คุณยิ้มยิ้ม – พี่เก้าตกน้ำแล้ว ตัวนุ่มมีสองอย่างคือออกมาช้า หรือไม่อยากออกมา เอิ๊บบบบ ยังไงกัน
คุณเกดซ่า – คนนี้โดดหม่งไม่ได้นะอุจิ๊ เดี๋ยวโดนเอาไปแกงหรอก ไม่ใจดีแบบพี่เก้าด้วยนะ อันตรายๆๆ
คุณเลิฟหมวย – พี่เก้าในอดีตทำอะไรวะเยอะพอดู ไหนจะเรื่องปล้นพวกทางบ้านอาของเป็นเอก ศัตรูเพียบ

คุณริญ – ชอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะ หุหุ ช่วงนี้มันขี้เกียจมากจริงๆ แต่ก็ต้องทำงาน แย่จุง
คุณหนอน – เวลาโหดพี่เก้าก็เป็นพี่เก้าอยู่ดี ชามัลฆ่าคนเป็นเบือนะ พี่เก้าร้ากกระต่ายน้อย
อยากอุ้มๆๆ กกๆ หนอนเริ่มเดาเรื่องละเหยอ ใครเป็นใครกันนะ
คุณบาร์บี้ – ศัตรูโหดไม่น้อย ต้องเตรียมรับมืออย่างดี ไม่รู้จะโผล่มาตอนไหนนี่นะ...

คุณโกลเด้นซัน – ขุมทรัพย์นี่ จริงๆเป็นสิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรจะเป็นของใครค่ะ เดี๋ยวค่อยเฉลย
อิอิ หายไปไหนมาหลายวันเลย คนเขียนคิดถึงนะ //เหรียญนี่สงสัยจะดึงโชคร้ายอย่างว่า เหอๆ
คุณใบบัวน่ารัก – ตั้ง 7 ชีวิตนะคะ พวกเรามีหนึ่งเอง แต่พวกเราดวงดีไม่มีตกแบบพี่เก้า งิๆ
กระต่ายอาบน้ำได้นะ รอเจ้าของอาบให้ แหม ฉากนี้มัน... ...อย่าให้เซดดดด
คุณสุขุมวิท 66 – ได้กลิ่นประหลาดจากศัตรูของตาเก้าสินะคะ มีกลิ่นของพวกไม่ใช่คนอยู่จริงๆด้วย

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – พี่เก้าซนจริงๆ ลงน้ำไปอีกรอบ น่าจะเจออะไรแปลกๆบ้าง แต่โลเกชั่น
ยังอยู่ที่เขื่อนนี้อีกระยะนึง มีเรื่องประหลาดในกองถ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้น
คุณหมีบุลิน – นอนไวนี่เอง ไม่ลงนิยายตัดหน้าเราแล้วสินะคืนนี้ ขอก่อนละน้า อุอิ ดีใจระดับนึง

ใครชอบพอ อ่านแล้วช่วยกดไลค์ให้ด้วยนะคะ ตอบแทนด้วยจูบแรงๆ ๙ ที...




คืนนี้ความรู้สึกหน่วงๆบางอย่างโรยตัวลงทับสติ และหากเป็นยามปกติ
เขาคงรับมือได้ไม่มีเพลี่ยงพล้ำง่ายๆ แต่คนชุดดำผู้นี้ไม่ธรรมดา ความแข็งแกร่งอัดแน่นจน
ทำให้ร่างสูงนั้นดุจภูผาเคลื่อนที่โจมตีตึงๆเข้าใส่ด้วยความไวเช่นลมกรด วูบหนึ่งที่นพคุณเสียหลัก
แผลตรงขาซ้ายซึ่งทั้งบาดลึกและยาวเสียวแปลบ เพียงชั่วขณะ คู่ต่อสู้เสยเท้าเข้ามาแรง
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ...หลบไม่ทันเสียแล้ว

ตูมมม----!

“เฮ้ย คัตๆๆ”ผู้กำกับตะโกนเสียงหลง



ยิ่งสตั๊นท์แมนรูปหล่อไม่โผล่ขึ้นมาจากน้ำ ความโกลาหลก็ยิ่งปะทุ
ลมฝนซัดสาดมากระหน่ำ ในขณะที่ตัวประกอบชุดดำยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่สนใจคำตำหนิ
ซึ่งไหลผ่านหูราวกับเศษขยะปลิวผ่านครู่หนึ่งก็หันหลังก้าวเทิ่งๆแหวกออกนอกวงล้อมอย่างไม่รีบร้อน
แถมผลักสุวิชาที่รี่เข้ามาขวางกระเด็นออกพ้นทางไปนอนจุกแอ้ก

“พี่ทิม แย่แล้วครับ!”

“มีอะไรแย่กว่านี้อีกวะ” ผู้กำกับที่สติแตกกับการสั่งคนลงไปงมหานักแสดงยิ่งหัวเสีย

“ห้านาทีก่อนมีคนเจอไอ้จ๊อดครับ! สลบเหมือดอยู่คาส้วม ใครไม่รู้ลอกคราบมันไปหมด ล่อนจ้อน!
แถมอาการโคม่า น้ำลายฟูมปากเลยนี่รีบพาขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาลแล้ว”

“เอ็งพูดจริงเรอะวะ!” ชายกลางคนแทบขยุ้มคอลูกน้อง “แล้วหมอนั่นใคร?”

นิ้วพลันชี้ไปยังทิศซึ่งชายร่างสูงชุดดำเพิ่งก้าวจากไป
ทว่าที่ปรากฏคือความว่างเปล่าของสายลมหวีดหวิว ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแม้แต่คนเดียว



ตั้งแต่แรก กานต์รวีที่อยู่บนแพตกตะลึงพรึงเพริด ให้นึกอยากโดดตามลงไปในน้ำใจแทบขาด
พูดถึงว่าภายนอกจะดูสำรวย แต่ความสามารถทางกายเรื่องอื่นหญิงสาวไม่ด้อย มีคนบอกว่า
เธอใช้ร่างกายได้ดีเยี่ยมน้องๆนักกีฬายังไม่นับรวมถึงเรื่องจิตแข็ง เอ่อ หากไม่รวมเรื่องกลัวผีเสียอย่าง
แล้วก็เรื่องนี้อีกเรื่อง จุดบอดก็คือ...เธอว่ายน้ำไม่เป็น

แต่ความเป็นห่วงนพคุณแล่นจับใจ หญิงสาวไม่สนใจฟ้าฝน ฉวยไฟฉายออกเดินส่อง
เลียบไปตามฝั่งน้ำบริเวณเคียงใกล้ เผลอไผลจนค่อยๆห่างกลุ่มมาไกลขึ้นทุกขณะ
ดวงตาพลันมองเห็นสิ่งหนึ่ง คล้ายแสงสีทองดวงย่อมกะพริบอยู่เหนือคุ้งน้ำ
ค่อยๆลอยห่างออกไป ห่างออกไปทุกที หญิงสาวตัวชาวาบ มันคือสิ่งใด?

ในน้ำ...สิ่งที่รอคอยนพคุณอยู่คือตัวตนเดิมของมัน คราวนี้มันรี่เข้ามารัดคอเขาแน่นจากด้านหลัง
สองมือชายหนุ่มสัมผัสความเปียกลื่นของผิวหนังนั้นได้ แขนเล็กๆ ราวกับแขนผู้หญิงหรือเด็ก
แต่กลับทรงพลังมหาศาล แน่นอนว่ามันไม่ใช่คน เมือกลื่นเย็นเยียบจนจับไม่ติด ดึงเขาลงลึก
ในความมืดของผืนน้ำยามราตรี มองไม่เห็นสิ่งใด รู้แต่ว่ากระแสน้ำข้างใต้นี้ปั่นป่วน
ทั้งกำลังไหลแรงและเร็ว คล้ายต้องการนำพาเขาไปยังที่ไหนสักแห่ง

ถึงเขาจะกลั้นใจอยู่ในน้ำได้นานด้วยคำบริกรรมที่รู้มาจากครูฤทธิ์ แต่มันก็ยากจะต่อสู้ทั้งแบบนี้
อีกใจ นพคุณอยากรู้ว่าเจ้าสิ่งนี้จะนำพาเขาไปไหน เหมือนกับที่เมื่อตอนกลางวัน
มันได้พยายามมาแล้วครั้งหนึ่ง

‘ตัวนุ่ม ออกมาหน่อย...’

เขาส่งเสียงเรียกในใจ อย่างน้อยถ้ามีผู้ช่วยอยู่ตอนนี้ อะไรๆคงง่ายขึ้น
ทว่าทุกอย่างก็เงียบ ไม่มีเสียงตอบจากเหรียญ


เขาถูกลากไปในน้ำลึกนานจนถึงขั้นที่ทนไม่ไหว ปอดเริ่มปวดร้าวราวกับจะฉีกขาดทะลุออกมาภายนอก
ชายหนุ่มกัดฟัน สะบัดหลุดจากการเกาะกุมด้วยกำลังจิตแรงกล้า ชักมีดพับคู่ใจที่ขึ้นมาถือมั่น
เงาดำถอยฉะไวว่อง ชิงว่ายน้ำหลบไหลแทรกซอนไปในดงพืชน้ำสีดำ เขาแร่งว่ายตามความเคลื่อนไหว
ไปยังทิศนั้น ขณะเดียวกันก็พาตัวขึ้นเหนือน้ำสูดอากาศสดพรั่งพรูเข้าปอด ก่อนเร่งดำตามไปอีก
พักใหญ่จึงพบว่าพื้นดินและหินใต้น้ำที่ระเกะระกะไปด้วยซากกิ่งไม้จมค่อยๆลาดสูงขึ้น
พาเขาขึ้นมาใกล้ฝั่งใต้น้ำกลับไร้วี่แววของเงาดำดังกล่าวที่เมื่อครู่ยังเห็นรำไร

ตั้งแต่เมื่อครู่ที่ถูกรัดคอ อายบางอย่างจากตัวมันรุมเร้าให้แผลตรงขาเจ็บขึ้นมาใหม่
ชายหนุ่มหัวเสีย หยิบเหรียญขึ้นมาจ้องมองขณะยังหายใจหอบ ทุกอย่างยังเงียบกริบ
เขาส่ายหน้า เงื้อมือขึ้นสุดล้า ก่อนจะปาเหรียญทิ้งเข้ารกเข้าพงบนเกาะไปอย่างเด็ดขาด
จบกันที มิตรภาพจอมปลอมที่หลงเชื่อ
จากแววตา จากน้ำเสียงมื่อตอนกลางวัน เขารู้ว่าเธอโกหก...
ที่แท้ก็เป็นแค่นางนกต่อที่ชักพาความซวยเข้ามา จะเรื่องสัญญาหรือเรื่องว่า
เขาจะมีเหลือกี่ชีวิต ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้ว ในเมื่อยังยืนหายใจอยู่ตรงนี้ได้
เรื่องอื่นก็ช่างหัว คนทรยศก่อนคือฝ่ายนั้น ผู้หญิงที่เขาหลงให้ความเอ็นดู...

มองผ่านความมืดรอบกาย พบว่าตนคงจะมาติดอยู่บนเกาะแก่งหนึ่งในเขื่อน
ทิศไกลออกมาจากกลุ่มแสงของเรือนแพกระจุกนั้นอยู่ลิบๆ นี่น้ำพาเขาออกมา
ไกลขนาดนี้เชียวหรือ มันคงเป็นความต้องการของบางสิ่งที่เรียกเขามา...

เงยขึ้นไป บนเกาะมีเนินผาสูงปกคลุมไปด้วยต้นไม้ เมื่อยืนอยู่ในตำแหน่งนี้
บางอย่างเตือนใจให้เขามองลงไปยังคุ้งน้ำ หรี่ตา จินตนาการถึงวันที่เขื่อนยังไม่ถูกสร้างขึ้น
และพื้นที่ตรงนี้ยังไม่มีน้ำ

ความเข้าใจสำคัญแล่นปราดเข้าสู่ความรับรู้
หรือว่า...ที่ไม่เคยมีใครหาหุบพญาดำและทางเข้าสถานที่แห่งนั้นพบ
ก็เพราะทุกสิ่งในอดีตได้จมลงไปอยู่ใต้น้ำ!



เป็นเวลาจนเกือบรุ่งสาง กว่าจะมีคนทันสังเกตเห็นสัญญาณไฟขอความช่วยเหลือ
จากเกาะน้อยแห่งนั้น เพราะทุกคนปลงใจว่านพคุณคงกลายเป็นร่างไร้ชีวิต
จมอยู่ใต้น้ำไปเสียแล้ว ไม่มีใครจะคิดว่าเขายังรอด ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง...

“เก้า รวีบังเอิญเห็นไฟ...” กานต์รวีที่ขอติดมากับเรือท้องแบนด้วยยั้งคำว่าเธอเห็น
ดวงแสงสีทองประหลาดเมื่อคืนเอาไว้เสีย แต่เพราะสิ่งที่เห็นนั่นเป็นเหตุให้เกิดสังหรณ์
บางอย่าง หญิงสาวคอยปลอบสุวิชาและพะวงมองมาแต่ทางทิศนี้ จนเป็นคนแรก
ที่ได้พบสัญญาณไฟซึ่งส่งไปถึงฝั่ง “นี่นอกจากตกน้ำแล้วยังไปหกล้มหกลุก
อะไรมาหรือเปล่ามอมแมมเชียว”

เธอเห็นปากสวยที่เคยเป็นสีชมพูอ่อนใสของเขาตอนนี้ค่อนข้างจะซีดเผือด
ตาเรียวคมแต่งแต้มประกายชาเย็นมากกว่าตระหนก คล้ายเขากำลังโกรธใครสักคน
กานต์รวีสงสัย...นี่มันเรื่องอะไรแน่ แต่คงยังไม่ใช่เวลามาคาดคั้นถามกัน

นพคุณยิ้มเงียบขรึมไม่ตอบคำ แต่ก็ยอมให้กานต์รวีแตะตัวโดยไม่ว่าขณะหันไป
พูดกับเหล่าชายฉกรรจ์ทีมช่วยเหลือและพวกหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ
“ดูเหมือนน้ำจะพัดผมออกมา”

“คุณว่าไงนะ คนบนเรืออุทานสงสัย “กระแสน้ำแบบนั้นมันจะมีได้ไง”

“งั้นจะให้อธิบายยังไงล่ะครับ คงไม่คิดว่าผมจะว่ายน้ำมาเองได้ไกลขนาดนี้?”

“หรือว่า...เป็นอย่างที่ชาวบ้านลือกัน” หนึ่งในนั้นพึมพำค่อยๆ พลางหันไปสบตาอย่างรู้กัน
จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก เร่งพาชายหนุ่มกลับมายังแพ

นพคุณพยักยิ้มให้สุวิชาที่โซเซเข้ามาโอบไหล่ ก่อนจะถูกพี่ทิม ผู้กำกับวัยกลางคน
ที่ร้องไห้จนตาฉ่ำโผเข้ากอดนัวเนีย ฟูมฟายร้องไห้อีกคำรบเหมือนพ่อที่ได้เจอ
ลูกชายผู้พลัดพราก ทั้งยังลูบไล้บนตัวชายหนุ่มออกจะนานเกินไปสักหน่อยจนกานต์รวีต้องจับแยก

“พอเถอะค่ะพี่ แยกกันไปพักได้แล้ว”

ชายหนุ่มปรายตากลับไปยังเกาะแก่งที่มองเห็นได้จากตรงนี้
บางสิ่ง...ที่เขาเจอเมื่อคืนกับบางสิ่ง...ที่เขาทิ้งเอาไว้ ยังคงรบกวนหัวใจ
ทั้งเสียงเพรียกแปลกประหลาดคร่ำครวญมาจากที่นั่น
ลงแบบนี้ เห็นทีเขาอาจยังไม่หมดธุระกับมัน!



หลังจากพักนอนและมาตื่นเอาบ่ายคล้อย ขาที่เจ็บรู้สึกดีขึ้นมากเพราะก่อนนอน
เขาทาสมุนไพรสมานแผลนั้นอีกหน นพคุณก้าวลงจากแพ พบว่ากองถ่ายยังดำเนินกา
รทำงานกันต่อไปอย่างแข็งขัน ก็นับว่าดีแล้ว เขาไม่อยากเป็นตัวมาทำลายการทำงานของใคร

จะมีเพิ่มเติมมาก็แต่สายตาสนใจอกสนใจ มีคนมาเอาใจไถ่ถามว่าเมื่อคืนเกิดอะไร
เขารอดมาอย่างไร และเพราะไม่คิดจะโกหก ชายหนุ่มจึงยิ้มบ้างส่ายหน้าบ้าง
เลือกตอบแต่ส่วนที่อยากตอบจนชาวบ้านคร้านจะไถความจริงยอมล่าถอยไปเอง

เรื่องเกินคาดอีกอย่างที่กำลังนั่งชิมไวน์แกล้มปลาเผากันบนโต๊ะ
บรรยากาศดีริมน้ำ นอกจากกานต์รวี สุวิชา ยังมีเจตน์ สมาชิกในทีมอีกคนเพิ่มมาพร้อมหน้า

“เสียดายนะ ที่ไอ้เอกไม่ได้มา ไม่งั้นก็ครบองค์” ชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่งเปรยประชด
ยกมือเป็นปางห้ามญาติใส่นายชาที่ยื่นแก้วไวน์ขาวให้...มันเป็นไวน์บรรจุสำเร็จ
ซีลปิดปากแก้วพลาสติกเนื้อดีมีเชิงมองเผินๆแทบจะเหมือนเนื้อแก้วที่แตกได้
พอดึงลอกแผ่นปิดปากออกก็พร้อมตั้งโต๊ะดื่มได้โดยไม่ต้องริน แม้ออกจะดูเต็มล้น
ไปเสียหน่อยเพื่อให้ได้ปริมาณ “นวัตกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่หรือ ขยันคิดกันจริงนะเรื่องแบบนี้”

สุวิชาพยักหน้า “ดูไปก็คล้ายแก้วน้ำดื่มแจกงานศพว่ะ แต่หรู”

“นายชา พูดซะเสียหาย เจตน์เขาอุตส่าห์หิ้วมาฝาก” กานต์รวีเขม่น

“เด็กวัดก็งี้แหละ อย่าถือสาเลย” คนใส่แว่นพึมพำอย่างภาคภูมิ

ไวน์... เรื่องถือศีลนพคุณยังคงจะถือต่อไปตามความตั้งใจ
แม้ว่าคู่สัญญาจะพ้นหน้าเขาไปแล้ว ทว่ายังเหลือสัญญากับตัวเองให้รักษา
แต่ถ้าพวกนี้คิดว่าเขาจะทำงอนประท้วงมานั่งขวางไม่กินไม่ดื่ม นั่นก็คงจะเป็น
การเดาที่ผิดถนัด เพราะนพคุณตั้งอกตั้งใจกินปลาเผา กินเอากินเอาราวกับจะแกล้ง
บางทีเขาอาจเริ่มติดนิสัยตะกละนี้มาจาก... ชายหนุ่มเผลอมองไปยังพื้นที่ว่างเปล่าข้างตัว
ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ใครบางคนที่เขาจะแบ่งป้อนอาหารให้กินด้วยกันทุกมื้อ
ในช่วงตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

การที่เจตน์มาปรากฏตัวหลังจากเขาเองเจอเรื่องเมื่อคืน มันออกจะดู...น่าสงสัย
แต่ก็ต้องคิดให้มากกว่านั้นไปอีกขั้นหรือหลายขั้น ว่าความสงสัยนี้เป็น
สิ่งที่เกิดขึ้นตามสมควร หรือถูกวางไว้ล่วงหน้าตามแผนของใคร


สมัยก่อน เจตน์นั้นถูกชักพามารู้จักคนอื่นๆผ่านกานต์รวี หมอนี่เป็นคนหน้าตาดีแบบไม่โดดเด่น
ไม่ชอบพูดจามากความหรืออ้อมค้อม พูดห้วนขวางหู เน้นเถรตรง ง่าย และได้ผล เช่นกันกับ
ผมเผ้าที่ตัดไถจนเป็นรองทรงอย่างบางเต็มทีเพื่อให้ดูแลง่ายเข้าไว้
บางทีนพคุณซึ่งขี้เกียจเรียกแท็กซี่ก็อาศัยล่อให้นายเจตน์ขับไปส่งที่นั่นที่นี่
โดยอ้างว่าสานภารกิจของกลุ่ม ทั้งที่ก็แค่ไปกินข้าวกับเพื่อน ตอนนั้นเขาถือว่า
การฝึกใช้ลูกล่อลูกชนไม่เว้นแม้แต่กับผู้ร่วมทีมนี่แหละ ถือเป็นการฝึกปรือวิชาโจรและ
สิบแปดมงกุฎอย่างดีตอนนี้เลยชักหวั่นๆว่าอาจมีใครแอบคิดทำอะไรที่ตัวเขาไม่รู้เรื่องบ้างก็เป็นได้

เย็นนั้นมีคิวบู๊ของฝ่ายหญิง งานนี้ไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทน แต่ทางด้านนางเอก
ที่ยังมือใหม่และไม่ได้ทำการบ้านมาดีพอกลับถูกกานต์รวีฉวยจังหวะแสดงแอคชั่น
ให้ดูเป็นตัวอย่างอย่างมีน้ำใจ พี่ทิมผู้กำกับยังชมเปาะ

“ดูยายรวีของแกสินายเจตน์ ข้ามหน้าข้ามตาคนอื่นอีกแล้ว น้องเนยหน้าเหี่ยวเลย
เดี๋ยวพอพักฉันต้องไปปลอบหน่อยละ สาวน้อยโดนไก่แก่รังแกเอาแบบนี้แย่จริงๆ” สุวิชาแกล้งว่า

นพคุณส่ายหน้าให้กับภารกิจไร้สาระของเพื่อน ก็ดีอย่างที่เจตน์มารับช่วงคอยรับฟัง
ความพูดมากของนายชา ตัวเขาจะได้ปลีกวิเวกมาคิดเรื่องที่ยังคิดไม่ตก


ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคืนนั้นหลังงานเสร็จ... พี่ทิมผู้กำกับได้ลงทุนถอดเสื้อรำแก้บนด้วยตนเอง
อย่างน่าขัน เพื่อแสดงความขอบคุณที่เจ้าป่าเจ้าเขาพานพคุณกลับคืนมาอย่างปลอดภัย

“ดีนะ พี่แกไม่บนว่ารำแก้ผ้า นี่นุ่งผ้าขาวม้าไว้หน่อยก็ยังดี”
เหล่าลูกน้องที่มองภาพนั้นกระซิบกระซาบอย่างหวั่นเกรง

“ขืนทำแบบนั้นละแย่ เจ้าที่จะยิ่งโกรธซะเปล่าๆ”

หลังจากนั้นชายกลางคนยังจัดรอบกองไฟกระชับมิตรฉลองใหญ่ กึ่งๆปลอบใจ‘น้องเก้า’
ผู้อาจกำลังเสียขวัญ ทั้งที่เขาเองไม่ได้ต้องการให้ปลอบ เกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
ว่าเกิดอุบัติเหตุกับตนระหว่างถ่ายทำ เพราะรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คนนอกคิด
สิ่งอันตรายร้ายกาจทั้งหลายพุ่งประเด็นมายังเขาโดยเฉพาะ ไม่เกี่ยวกับคนพวกนี้แม้แต่นิด

ทว่าบรรยากาศบาบีคิวรอบกองไฟนั้นอวลไปด้วยไอแห่งชีวิตที่มารวมกัน
ช่วยขับไล่เงามืด ทั้งประเด็นสนทนาจากปากของพี่ศรผู้ช่วยผู้กำกับที่ค่อนข้าง
เป็นคนเอาจริงก็น่าสนใจจนต้องเงี่ยหูฟัง

“ผมรู้มาจากชาวบ้านที่จ้างมาช่วยตั้งฉาก...เขากระซิบว่าแถวนี้เจ้าที่แรงมาก---”

ใช่สิ แรงจริงๆ นพคุณยกมุมปาก

“นี่ไม่ได้จะขู่ให้กลัวหรอกนะ ไหว้ก็ไหว้แล้ว ถ้าเราทำตัวดีๆก็ไม่น่าจะมีอะไร
เมื่อวานเกิดเรื่องกับเจ้าจ๊อดแล้วก็น้องเก้า อาจไม่ใช่เพราะสองคนนี้ไปทำผิดผี
แต่เป็นพวกเราคนใดคนหนึ่ง จะสนุกอะไรกันก็ขอให้ระวังด้วย”

ระวังแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้นพคุณส่ายหน้าบางเบา ฟังเสียงซุบซิบหึ่งๆ
ถึงเรื่องชายชุดดำที่สวมรอยมาแทนตัวประกอบ เล่นงานเขาตกน้ำแล้วก็หายตัวไปกะทันหัน
อย่างไร้ร่องรอยท่ามกลางความมืดและชุลมุน พอพูดกันมาถึงตรงนี้ กานต์รวีกับสุวิชา
ที่อยู่ใกล้กันก็เกือบจะกอดกันกลมเป็นก้อนด้วยความหวาดกลัวของกานต์รวีแต่ฝ่ายเดียว
ส่วนสุวิชานั้นทำเนียนช่วยโอ๋ให้อย่างหน้าด้านหน้าทน สุดท้ายฝ่ายหญิงชิงได้สติ
ผลักเพื่อนแว่นกลิ้งหล่นจากเก้าอี้ไปร้องโอดโอยเสียแทน

ถูกรุมล้อมให้อยู่แต่ในวงจนดึก พอหัวถึงหมอนนพคุณก็ชักล้า
บวกกับที่ได้นอนตอนกลางวันยังหลับไม่สนิทดี ชายหนุ่มหมายปล่อยใจเคลิ้มสู่นิทรา
ยื่นนิ้วออกไปข้างกายด้วยความคุ้นชิน แต่แล้วก็ชะงัก ผ่อนลมหายใจ...
ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ถูกทิ้งไว้แบบนั้นก็สมควรแล้ว
แต่อันที่จริงฝ่ายนั้นควรตามมาง้อเขาสักหน่อย ทำไมถึงไม่มา
หรือมีอะไรรั้งตัวเอาไว้ไม่ให้มาได้ เช่นกันกับที่ปิดกั้นไม่ให้เธอช่วยเขายามคับขัน

ความคิดทำนองนี้...มันแสดงให้เห็นว่าเขากำลังเข้าใกล้คำว่าใจอ่อน
สู้ลืมมันซะแล้วหลับตานอนยังจะดีกว่า



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ย. 2557, 01:45:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ย. 2557, 01:45:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1433





<< ๓.๒ ขุมทรัพย์ต้องสาป   ๓.๔ ขุมทรัพย์ต้องสาป >>
ภาวิน 25 ก.ย. 2557, 03:35:52 น.
เย้เย เมื่อวานลืมเม้นท์ เพราะหลับคาคอมพ์ แต่วันนี้มาคนแรก ข้าชอบฉากบู๊ๆๆๆ จัดมาๆๆๆ


นักอ่านเหนียวหนึบ 25 ก.ย. 2557, 06:06:26 น.
อั้ยยะ พี่เก้าปล่อยกระต่ายคืนป่าเหรอฮ้าาา
แล้วตกลงแผลที่ขามันจะหายขาดจริงๆ ช้ะ


ketza 25 ก.ย. 2557, 06:25:27 น.
แง้ววว พี่เก้าใจอ่อนเถิดนะๆๆๆๆ ไปเอาตัวนุ่มกลับมานะๆๆๆๆ แม่กระต่ายน้อยทำตัวน่าสงสัย พี่เก้าระแวงแบ้ววว แต่ชักใจอ่อนแบ้วจิ อุจิ๊


yimyum 25 ก.ย. 2557, 06:27:03 น.
พี่เก้าเหงาอ่ะดิ ลืมจัวอะดิ ทำไมตัวนุ่มไม่มาด้วยกันล่ะ TT


lovemuay 25 ก.ย. 2557, 06:48:41 น.
โอ๋ พี่เก้าอย่างอนน้า กระต๋ายน้อยขี้กลัวจะตาย จะกล้าขัดคำสั่งคุณพ่อได้ยังไงหล่ะ เนอะ


ดังปัณณ์ 25 ก.ย. 2557, 10:28:28 น.
เอ้าพี่เก้างอน! 555+ งอนได้น่าร้ากกกกกกมากค้า แบบนี้ตัดไม่ขาดอ่ะ ถ้าตัวนุ่มมาง้อนิดก็ยกโทษให้แล้ว


goldensun 25 ก.ย. 2557, 12:34:39 น.
งอนแล้ว พี่เก้า ตัวนุ่มโดนขังอยู่รึเปล่า ไม่ได้ตามมาง้อเลย แล้วดวงไฟที่รวีเห็นอีก เป็นการช่วยพี่เก้าทางอ้อมนะนั่น
ทำไมพี่เก้าเข้าใจว่าตัวนุ่มเป็นตัวล่อล่ะ ก็ตัวนุ่มไม่ได้อยากให้มาเมืองกาญจน์เลยนะนั่น
ใกล้กันไม่ถึงเดือน แต่ก็ใกล้ชิดตลอด ทำเอาพี่เก้าเคยชินได้นะ รอดู ใครจะง้อก่อนกัน


Sukhumvit66 25 ก.ย. 2557, 19:28:41 น.
แง แง จะทิ้งตัวนุ่มได้ลงขอเชียวหรอ พี่เก้า คิดถึงสาวผมงอนเหมือนหางเป็ด ^^


ใบบัวน่ารัก 25 ก.ย. 2557, 19:28:44 น.
ไม่รักก็ช่วยพี่เก้าบ้างดิกระต่ายน้อย
พี่เค้ายังเป็นห่วงซื้อขนมให้กินตลอดๆๆ
ชิ เค้าน้อยใจแทนแล้ว


บุลินทร 25 ก.ย. 2557, 22:23:31 น.
มีกองถ่ายๆด้วย ธีมวงการบันเทิงหรือ ฮ่าๆๆๆ


Barby 26 ก.ย. 2557, 10:09:44 น.
ทิ้งกระต่ายไปเเย้ว ทำไงอะ เจอที่ซ่อนขุมทรัพย์แล้วหรอ จะทำไงต่อละ


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 19:59:28 น.
เฮียงอนตัวนุ่มละ
มาง้อสิ
โดนปล่อยเกาะ กระโดดไม่ถึงสินะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account