ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต
แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!
ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต
แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!
ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป
Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม
ตอน: ๔ สู่ฤกษ์โจร
คุณผักชีศรี – ยัยกาตุ่ยจริงจังกะการห้ามพี่เก้านะค้า จริงๆน้า จริ้งงงงงงงง น่ารักพอกันทั้งคู่อะจิ
คุณยิ้มยิ้ม – หนึ่งเดือนนั้นอาจไม่สูญเปล่า ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นโดยไม่มีผล
อย่างน้อยความเคยชินกับการทำสิ่งดีๆ อาจจะช่วยเยียวยาจิตวิญญาณได้บ้าง
คุณสุขุมวิท66 – พี่เก้ากำลังเริ่มเดินสู่กับดัก แต่มันเป็นทางที่จะต้องข้ามผ่านไปอย่างไม่อาจเลี่ยง
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – อย่าเกลียดกระต่ายน้อยน้า กระต่ายอาจเป็นแพะรับบาปหรือตัวหลอกกะด้ายยย
คุณใบบัวน่ารัก – กระต่ายมอมๆน่ารักนะคะ เอาลงถังเลย ใช้โอโม่หนึ่งกล่อง ซักๆๆ ขาววิ้งงง
ต่ายรักพี่เก้านะ ต่ายจาไปขายหนังสือให้พี่เก้า ทองพญาแมว
คุณเลิฟหมวย – น่านจิ ไม่น่าทำศีลขาดเยย พี่เก้า หัวใจพ่ายแพ้แก่ความโลภ ฮือๆ
คุณเกดนุ่ม – โหย ตัวนุ่มปล้ำไม่เป็นง่ะ เกดนุ่มมาสิงเราจิ พอพี่เก้าขัดใจปุ๊บปล้ำเยย อิอิอิอิ
คุณภาวิน – กระต่ายสลิดดก มารยาเหมือนคนเขียนอะนะ หุหิ โจรอาจมีสัจจะในสักวัน
คุณหนอนดุ๊กดิ๊ก – อืมมม เริ่มรู้ทางคุณแม่กุเต่ย เดี๋ยวเรื่องหน้าต้องใช้มุกเหนือชั้น แต่เรื่องนี้ก็ใช้แล้วนะ
ช่ายละ มันคือกล่องแพนโดร่า จับๆๆกระต่ายหนีนัก กอดเลย อิอิอิ ฟัดเบาๆ อึไม่แตกน้า
----------------------
ปองเกียรติ ดำเกิงอดิเรกกำลังนั่งจิบชาชมวิวอยู่ที่บ้านเพื่อน เรียกให้ถูกน่าจะเป็นคฤหาสน์
ไม่สิ... มันคือวังเสียละมากกว่า ที่นี่อยู่เลยออกมาชานเมืองนนทบุรี ห่างย่านเมืองหลวงสักหน่อย
จึงใช้เนื้อที่ได้ไม่จำกัด เพราะกว้างใหญ่มากนี่เองจึงแบ่งออกเป็นหลายส่วน ตกแต่ง
หลากหลายสไตล์โดยแยกกันได้เด็ดขาดอย่างไม่เละเทะ ราวกับย่อโลกทั้งใบมารวมไว้ที่เดียว
อย่างน้อยๆก็เป็นทิวทัศน์ของโลกส่วนที่เจ้าของบ้านพึงใจ
อย่างเช่นบ่อน้ำตรงนี้ที่อยู่เบื้องหน้าเขา กว้างขวาง หินสีขาวและทองซึ่งนำมาจากสถานที่พิเศษ
ถูกจัดวางสวยงามให้เป็นกึ่งบ่อธรรมชาติกึ่งสระว่ายน้ำ อย่างที่ฝรั่งเรียกว่า เนเชอรัล สวิงมิ่ง พูล
มีระบบระบายน้ำและทำความสะอาดอย่างวิเศษ เพราะสมองใสๆของคนที่เขาและพรรคพวก
จ้างมารับใช้ แต่ดูเหมือนอย่างไรสมองในการคิดประดิษฐ์ของคนคนหนึ่งในหมู่โจรกลับจะก้าวนำ
พวกเขาไปหนึ่งก้าวเสมอ ทันทีที่เจอ เขาอยากจะฆ่ามันทันที ...แต่คงทำไม่ได้ ต้องหาทาง
ใช้ประโยชน์จากมัน นั่นแหละเหมาะ
ไอ้พวกแขนขาที่ไว้ลงมือปฏิบัติการปล้น ต่อให้เก่งแค่ไหนลองถ้าไม่มีสมองคอยช่วย
ก็เป็นได้แค่แขนขาที่พิการ
มือสีแทนยกขึ้นคลึงขมับ ถอดหมวกที่ดูคล้ายจะหนักอึ้งออก
ในอดีตเขาเคยมีเรื่องให้เข็ดกับวิกผม จึงมักสวมหมวกแทนเพื่อปิดบังศีรษะ
ซึ่งออกจะมีผมน้อยไปสักหน่อย ทั้งรู้ว่ายิ่งสวมก็ยิ่งล้าน ยิ่งล้านก็ยิ่งสวม...
มันก็เป็นวงจรอย่างนี้เอง
อารมณ์กำลังดีๆอยู่แท้ๆ ไม่ควรจะคิดฟุ้งซ่านให้ขุ่นมัว
คิดดังนั้นปองเกียรติจึงทอดตามองยังเบื้องหน้าอีกคำรบ
หินสีเหลือบทองสวยแปลกตาเหล่านี้อันที่จริงแล้วถูกขนมาจากบ้านเขาเอง
เป็นหินประดับสวนทั้งก้อนใหญ่ๆและก้อนเล็กก้อนน้อยซึ่งเก่าแก่เป็นร้อยปี
สมบัติซึ่งบรรพบุรุษโรยลาดไว้ณ มุมหนึ่งในสวน เมื่อเพื่อนร่วมงานคนสำคัญ
เอ่ยปากว่าชอบ เขาไม่ลังเลที่จะยกที่มีอยู่มากมายทั้งหมดนั่นให้ เสียแต่ว่าไม่รู้จะ
ไปหามาเพิ่มจากไหนอีก ในการทำสระนี้ให้เสร็จลงได้จึงต้องมีหินส่วนที่ทำเทียมเสริมเข้ามาอุดช่องว่าง
ไฟสีทองสว่างถูกสาดประโคมในยามราตรี มังกรตัวยาวอ่อนช้อยที่เลื้อยผ่านริมสระด้านหนึ่ง
สระนี้จึงถูกเรียกว่าสระมังกรทอง รายรอบตกแต่งแบบจีนผสมผสานความเป็นโมเดิร์น
ทั้งขลังและเรียบหรูจับตา
ปองเกียรติยังอยากนั่งจิบชาต่ออีกสักพัก ถ้าผู้ติดตามร่างสูงใหญ่ไม่เข้ามารายงาน
“บอสครับ ตอนสายวันรุ่งขึ้นเจ้าของบ้านจะพาแขกมาที่นี่”
“อืม วันที่หนึ่ง...ตรงตามกำหนดงั้นก็ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องหลีกทาง
ไม่งั้นแขกกลุ่มที่ว่ามาเจอฉันเข้าคงเสียแผนเราแย่”
เพราะช่องเล็กที่ซ่อนอยู่ในเรือมีอุปกรณ์ซ่อมแซมเบื้องต้นใส่ไว้อย่างแนบเนียน
จนใช้ปะรอยรั่วสองจุดใหญ่ได้สนิท นพคุณจึงกลับมาถึงฝั่งได้ด้วยตัวเองตอนย่ำรุ่ง
พบว่าพี่ศรกับนายชาผู้ยังกังขาเรื่องสรรพคุณของตะกรุดไม้เก่าคร่ำได้ร่วมมือกัน
ตามการนำของหมอสุทัศน์ ทยอยปลุกคนที่นอนหลับให้ฟื้นตื่นขึ้นมา
โดยเริ่มจากกานต์รวีเป็นคนแรก ซึ่งฝ่ายนั้นลุกมาได้ก็กอดกับผู้กำกับตัวสั่นงันงก
กลายเป็นบุคคลหาประโยชน์อะไรมิได้จริงอย่างว่า ชายหนุ่มสองคนกับสาวห้าวอีกหนึ่ง
จึงได้แต่ลงมือกันตามกำลัง
นพคุณพบเจตน์นอนอยู่ในห้องบนแพไม่ได้หายไปไหน อีกฝ่ายอ้างว่ากินเหล้าเข้าไปจึงหลับ
ตั้งแต่ก่อนจะเกิดเรื่อง มีอยู่หลายคนเหมือนกันที่นอนแพติดแอร์ ไม่ได้สูดควันเข้าไป
แต่เพราะชิงหลับก่อนจึงเพิ่งมารู้ว่าอะไรเป็นอะไรเอาตอนเช้า
ไม่ว่าอย่างไรชายหนุ่มกลับมองไปที่เสื้อแขนยาวซึ่งเพื่อนสวมอยู่ เมื่อคืน
เขาฟันผู้ชายชุดดำนั่นจนข้อมือได้แผล...
“แอร์หนาวมากรึ” นพคุณถามอย่างอดไม่ได้ ทั้งที่ปกติเพื่อนก็ชอบสวมเสื้อแขนยาวให้เห็นบ่อยๆอยู่แล้ว
เจตน์มองเพื่อนร่วมกลุ่มที่ตอนนี้ใต้ตาคล้ำเป็นพิเศษ ตัดกับผิวขาวเหลืองน้อยๆ
เหมือนกับเจ้าชายผีดูดเลือด ทั้งเวลานี้ยังจ้องจะกินเขาอย่างน่ากลัว ก่อนจะก้มมองตัวเอง
ตามสายตาอีกฝ่าย “ก็นิดๆ ฉันนอนดิ้น รื้อผ้าห่มออกจากตัวทุกคืน ใส่มิดชิดไว้ก่อนน่าจะดี”
“ถอดเสื้อออก”
“อะไรนะ” คนทื่อๆอย่างเจตน์ยังถึงกับสะดุด “เก้า...ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะชอบแบบนั้น แบบว่า ไม้ป่าเดียวกัน”
“อย่าตลก!”
...ตั้งแต่คำที่บอกให้ถอดเสื้อ นั่นเป็นแต่เพียงจินตนาการของเขาล้วนๆ
ลองคิดดูว่าถ้าเจตน์ไม่ได้ผิด เขาและมันอาจเกิดรอยร้าวจากคำถามคราวนี้
ที่ยิ่งเรื่องว่าเขาจะชอบเพศไหน ความไว้ใจในฐานะทีมอาจเสียไป
แต่ไม่ว่าอย่างไรนพคุณก็ต้องรู้ชัดลงไปให้ได้
ไม่นาน ทุกคนถูกเรียกไปรวมกันเพื่อฟังการประกาศเลิกกองถ่ายอย่างอ่อยๆของพี่ทิม
ที่ตอนนี้ชักจะขำไม่ออก จากที่เมื่อคืนทุกคนได้พบเรื่องซวยซ้ำซ้อนหลอนประสาทเกินจะทนทาน
“ว่าจะเลิกทำหนังผีไปตลอดชาติแล้วว่ะ”
ชายกลางคนเสยผมฟูๆที่หงอกไปแถบใหญ่ในคืนเดียวอย่างท้อแท้ใจ
“ใจเย็นก่อนพี่! นี่มันแนวขายของพี่เลยนะ เลิกง่ายๆได้ไง” หลายคนร้องเสียงหลง
คนโดนเกลี้ยกล่อมหน้าเบ้อย่างไม่นึกคล้อยตาม “เออ ใครอยากทำก็ให้พ่อทิมเบอร์ตัน
มึงมาทำเองเถอะไอ้ทิมเมืองไทยถอนตัวแล้วโว้ย”
ดังนั้นตอนช่วงสายรถตู้และรถเก๋งจึงทยอยกันออกจากที่นั่น
กานต์รวีที่เพิ่งได้เป็นนางเอกหมาดๆนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่ข้างหมอสุทัศน์
โดยมีเพื่อนชายสามคนซึ่งมีอาชีพลับๆเป็นโจรนั่งสลอนอยู่ตอนหลังของรถ
นพคุณมองแขนขวาของเจตน์ที่ทอดวางอยู่ชิดกันกับตัวเขา หมอนี่ยังใส่เสื้อตัวเดิม
ออกมาจากที่พักทั้งแบบนั้น การเคลื่อนไหวไม่มีที่ผิดแปลก ลองกระทบดูสักหลายทีก็ไม่สะดุ้ง
แถมมันไม่ได้มีเสื้อแขนยาวมาตัวเดียวซะด้วย เขาเกิดความคิดที่จะเลิกแขนเสื้อดู
ให้จะแจ้งหมดเรื่องหมดราว แต่ก่อนจะหาทางทำอย่างนั้นโดยไม่เป็นพิรุธ
ถ้อยคำรบกวนโสตประสาทซึ่งเจ้าของรถเอ่ยปลอบหญิงสาวคนสำคัญก็ดังขึ้นอีกคำรบ
“เอาน่ารวี ทัศน์ไม่ยอมให้ล่มหรอกฮะเปลี่ยนผู้กำกับใหม่ หาโลเกชั่นใหม่ถ่าย
ผีมันคงไม่ล่องแพตามไปทุกที่หรอกว่าไหม”
“ไม่เอาแพแล้ว ไม่เอาตลอดชีวิต” หญิงสาวผู้เกลียดชังเรื่องผีๆอย่างสุดแสนงอแงไปด้วยอีกคน
เธออุตส่าห์ยอมแสดงละครเรื่องนี้ทั้งที่มีผีมาเอี่ยว ไม่น่าตัดสินใจมาตั้งแต่แรก
ประมาทพวกผีมากเกินไปจริงๆ
“งั้นให้แก้บทเป็นชายทะเล ชายหาดอะไรก็ได้ ไม่เอาแพก็ไม่เอา”
แม้สุทัศน์จะเอาอกเอาใจแต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นสักกี่มากน้อย
“เอางี้ดีกว่า ไปรีแลกซ์ที่บ้านทัศน์ที่เมืองนนท์กันก่อน คุณพ่อมีเพื่อนคนนึง
อาราเชนทร์...เขาเก่งเรื่องดูดวง นั่งทางในอะไรพวกนี้มาก เห็นพวกคุณพ่อนัดกันไว้พอดี”
“ไปรบกวนผู้ใหญ่จะดีเหรอ”
“เงียบน่าเจตน์!” กานต์รวีขัดขึ้น หญิงสาวก็ไม่ต่างจากสาวๆคนอื่น เรื่องดูดวงขอให้บอก
ยิ่งตอนนี้เธอกำลังดวงตกเป็นอย่างมาก เผื่อให้หมอดูแนะทางสะเดาะเคราะห์สักหน่อยคงดี
“เรื่องพวกนี้มันสำคัญกับดาราแค่ไหน คนทั่วไปไม่มีวันเข้าใจ”
นพคุณหรี่ตาครุ่นคิด ก่อนเอ่ยสนับสนุน “ก็ไม่มีใครรีบไปทำอะไรไม่ใช่หรือ
เคลียร์คิวกันมายาวแล้วนี่ ลองไปดูก็ไม่เสียหาย ท่าจะดวงซวยกันทั้งกลุ่มนี่แหละ
คงต้องขอรบกวน” อันที่จริงเขาอยากรู้จักหมอสุทัศน์ให้มากขึ้น แม้ปกติจะ
เป็นคนจริงจังจนน่าขันแต่หมอเจ้าฮะของเขาหลายวันมานี้ดูทำตัวน่าสนใจเป็นพิเศษ
เผื่อว่าอีกฝ่ายจะมีสิ่งน่าสนใจซ่อนอยู่ เพราะหมอเองดูจะเป็นตัวแปรสำคัญ
ในหลายๆอย่างที่พวกเขาเจอ
ทันใด เสียงปุ้งดังเบาๆ แม่วิญญาณสาวที่ไม่รู้จะปรากฏกายตรงไหนเกิดจะโผล่มา
นั่งซ้อนตักเขาอยู่สนิทชิดเชื้อ
เมื่อนพคุณส่งสายตาตำหนิไปให้ ตัวนุ่มจึงทำชี้มือไม้ไปทางสุวิชาที่กำลังสัปหงกแล้วหลับตาอี๋
ก่อนหันไปทางเจตน์ที่นั่งหน้าบึ้งกอดออกแล้วทำท่ายี้ ทำนองว่ารถแคบแบบนี้จะให้โผล่ตรงไหน
ถ้าไม่ใช่ตักเขา ซึ่งอย่างน้อยก็เป็นทางเลือกที่ค่อยยังชั่วกว่าเพื่อน
ชายหนุ่มพยักหน้านิดหนึ่งเป็นทำนองให้เธอพูดได้ เพราะยังไงเขาก็ได้ยินคนเดียว
“จะไปจริงเหรอ เกิดที่นั่นมีอะไรร้ายๆซ่อนอยู่จะว่าไง”
“ขโมยมันให้หมด ชอบนักละของร้ายๆ” ชายหนุ่มขยับปากแทบไม่มีเสียงตอบแม่คนที่
ยื่นหน้าเข้ามากระซิบกระซาบ จะกระซิบทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน
วิญญาณสาวหน้าบึ้ง อึ้งไปสักพักก่อนจะแลบลิ้นใส่เขาหนึ่งทีแล้วหันก้นให้
ตัดสินใจไม่ยอมลงจากตักให้นพคุณหงุดหงิดเล่นอย่างนั้นไปตลอดทาง
“แย่หน่อยที่พวกคุณพ่อยังมาไม่ถึงฮะรวี ขอโทษที่ไม่ได้เช็กก่อน
แต่ดึกๆคืนนี้ก็น่าจะถึงแล้ว เอายังไงดี”
“ทุกคนรอเป็นเพื่อนรวีหน่อยได้ไหม” หญิงสาวเอ่ยปากอย่างเอาตัวเองเป็นหลัก
ไม่เปิดโอกาสให้ใครขอตัวกลับไปก่อนง่ายๆ เวลานี้ตนยังปอดๆ มีพวกมากไว้ก่อนก็อุ่นใจ
ถ้ามีใครสักคนขอกลับก็อาจมีคนอยากปลีกตัวตามไปอีก ซึ่งนับว่าขัดกับความต้องการ
ของนางพญาอย่างเธอ
นพคุณไม่ว่าเพราะตรงกับใจเขาอยู่แล้ว เจตน์เองก็พูดน้อยตามปกติ
สุวิชากระตือรือร้นที่จะอยู่เป็นก้างหมอสุทัศน์เป็นทุนเดิม ทุกอย่างจึงลงตัว
...ทว่าตกดึก ผ่านอาหารมื้อค่ำเลิศหรูไปนานแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าบ้านกับเพื่อนจะมาถึง
ข้างกานต์รวีก็เมาไวน์จนหลับปุ๋ย สุทัศน์จึงชวนทุกคนค้างที่นี่เสียเลย
“คุณพ่อเลทมากแล้ว เห็นว่าเครื่องฯที่บินมาจากจีนลงสาย นี่ก็จวนห้าทุ่ม
สงสัยได้เจอกันพรุ่งนี้ ...เชิญตามสบาย บ้านกว้างขนาดนี้ไม่ต้องเกรงใจ
ใครอยากพักมุมไหนบอก จะจัดให้เป็นพิเศษ เดี๋ยวหมอพาชมเอง”
“ไม่มียกเว้นส่วนไหนเลยหรือหมอเจ้าฮะ” นพคุณหยอด
“ไม่มีหรอกคุณ บ้านเราโปร่งใส ไม่ได้ซ่อนอะไรไว้ตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นยาหรืออาวุธสงคราม”
หมอสาวร่างสันทัดตอบเสียงต่ำพร่า แววตาคล้ายจะเริ่มมีอารมณ์ขันขึ้นกว่าปกติ
วิญญาณสาวที่เกาะไหล่นพคุณอยู่มองตามกานต์รวีซึ่งถูกเจตน์อุ้มไปนอน
โดยมีสุวิชาและหมอสุดห้าวตามประกบซ้ายขวาราวกับทหารองครักษ์
ให้หวนนึกถึงสิ่งที่ตัวเองถูกกำชับมาก่อนหน้านี้
‘...อย่าลืมคำสั่ง ให้กันผู้หญิงที่ช่วยเสริมดวงมันออกไปห่างๆ
นพคุณดวงชะตาหนักไปทางมืด ผู้หญิงคนนั้นสว่างมาก
แม้ว่าเจ้าหล่อนจะไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้ตัวเลย... ส่วนเธอเองก็มืด
ถึงได้บอกให้คอยอยู่ข้างๆมันไว้แหละดี จะได้ยิ่งมืดมนไม่เห็นทาง’
มันน่าหนักใจที่เธอต้องมารับรู้ทุกอย่างแถมเคราะห์ของนพคุณไม่ได้ผ่านพ้นไปอย่างที่หวัง
ดีไม่ดีจะหนักขึ้นเสียอีก เท่าที่ได้ยินมา ตั้งแต่ต้น...ผู้ที่ได้ครอบครองเหรียญนี้ก็จะดึงดูด
เคราะห์ภัยเข้าหาตัวเป็นทุนอยู่แล้ว นี่ยังบวกกับชะตาส่วนบุคคล
ยิ่งน่ากลัวว่าเขาจะไม่รอดไปได้อีกสักกี่วัน
หลังส่งกานต์รวีนอนเรียบร้อยในห้องนอนสีเขียวเหมือนทุ่งธรรมชาติสบายตาสบายใจ
หมอสุทัศน์ก็นับเป็นเจ้าบ้านที่ดีอยู่มากแม้เมื่อตอนกลางวันได้ให้พวกเขาได้นอนพักกันแล้ว
ในห้องนอนแขกส่วนกลาง แต่เจ้าบ้านก็ยังใจดีเสนอให้เลือกส่วนพักผ่อนใหม่ตามใจชอบ
“บ้านนี้ตกแต่งเก๋ๆตามไอเดียคุณพ่อ แบ่งเป็นห้าส่วน ดิน ทอง ไฟ ลม น้ำ...ตามธาตุ
ที่รวีนอนอยู่นั้นเป็นฝั่งธาตุลม ทุกอย่างสีเขียวสบายตา”
“เหมือนเจ้าหญิงนิทราในสวนสวย” สุวิชาผิวปากยวนอารมณ์ แต่คราวนี้ดูสุทัศน์จะไม่โกรธ
นพคุณรู้สึกสะกิดใจอย่างประหลาด ดุจมองเห็นถ้ำที่เป็นปากยักษ์ของงูร้าย
กำลังอ้าออกต่อหน้า แต่เขาไม่กลัวอะไรแล้วตอนนี้ มีแต่จะเดินหน้า...
“ที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่ไหนหรือเปล่าครับหมอ” ชายหนุ่มถามยิ้มๆ
“ก็ไม่รู้สิ คุณพ่อของหมอ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ท่านเป็นหมอใหญ่ ถือหุ้นส่วนใหญ่
โรงพยาบาลหลายแห่ง รวยไม่รู้เรื่อง...แต่พ่อรวยก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะรวยหรอกนะ
คนละคนกัน” คนพูดโอ่ด้วยเสียงเคร่งขรึมกลับตบท้ายด้วยการถ่อมตนพอเป็นพิธี
“ท่านมีบ้านหลายหลัง แต่ดูจะรักที่นี่ที่สุด” คนเป็นลูกพูดอย่างปลอดโปร่งใจ
“แต่บ้านนี้ก็ไม่ได้ใช้ศิลปะโทนเดียวกันหมดในการตกแต่ง แยกชัดเจน
เหมือนอยู่ต่างแดนกันไปเลย” หมอสุทัศน์บรรยายอย่างภาคภูมิ
เมื่อเจ้าของสถานที่พาชมจนครบ แน่นอนสุวิชาซึ่งค่อนข้างจะเป็นพวกทะลึ่ง
เลือกพักยังส่วนธาตุทองอันประดับตกแต่งด้วยอีโรติกอาร์ตสไตล์จีนมันแอบกระซิบกับนพคุณ
ว่าเหตุผลที่เลือกก็เพราะที่นี่มีทั้งรูปปั้นรูปวาด สัญลักษณ์จำนวนมากที่สื่อถึงเรื่องอย่างว่า...
เริ่มมาจากหญิงชาย หยินหยาง แทนด้วยสีทองและขาว โดยใช้สีทองแทนส่วนดำ แม้จะ
หรูหราสูงรสนิยมอย่างไม่ประเจิดประเจ้อ แต่สุวิชาก็ยังกระสันต้องการจะพักในส่วนนี้ให้ได้อยู่ดี
“ศิลปะพวกนี้มันทำให้ต่อมใต้สมองของฉันทำงานดีขึ้นว่ะ” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มอ้างอย่างครึ้มใจ
ส่วนเจตน์ผู้ซึ่งภายนอกไม่พูดมาก แต่ที่จริงแล้วหมอนี่เป็นพวกวัตถุนิยมตัวเอ้
จึงเลือกพักในส่วนธาตุน้ำที่หรูหราราคาแพง ทันสมัยที่สุด มีการใช้คริสตัลใสเกรดสูง
ประดับตกแต่งในห้องเสียด้วยซ้ำ วังน้ำแข็ง มีธารน้ำแข็งไหลเย็นหลั่งรินอยู่ชั่วนาตาปี...
ดูเหมือนว่าหากพำนักอยู่ที่นี่แล้วจะไม่ต้องพานพบฤดูร้อน ไม่ว่าร้อนกายหรือร้อนใจ
ต่อให้โลกข้างนอกสลายสิ้นก็ยังคงปลอดภัยไม่สร่างซา
“ห้องโซนนี้ไม่เลว ขอลอกแกแล้วกันเจตน์” นพคุณเอ่ยยิ้มๆ ชั่วขณะที่หมอสุทัศน์
ขอตัวไปพูดกับคนรับใช้ ชายหนุ่มจึงค่อยตั้งใจเงี่ยหูฟังเจตน์ที่เอ่ยเสียงเบา
“ที่นี่ดูน่าจะมีอะไรแปลกๆซ่อนอยู่นะ แกว่าไหมเก้า หรือว่าคืนนี้เราจะ...”
“อย่าเลย อยู่ในรังมัน อันตรายเกินไป”
“แกห้ามฉันแบบนี้ แล้วตัวแกเอง คิดจะอยู่เฉยด้วยไหม?”
ก็สมกับที่คบหากันมานาน...เขาเลือกที่จะตบไหล่เพื่อนสองครั้งแล้วหัวเราะ
ทว่าเมื่อถูกเชิญไปยังห้องในเขตน้ำแข็งอีกห้องและเจ้าบ้านคล้อยหลัง นพคุณก็เริ่มคิด
ยังมีสิ่งสำคัญที่เขาต้องการจะค้นหาให้เจอ แต่มันอันตรายเกินไปสำหรับใครก็ตามที่มีแค่หนึ่งชีวิต
ชายหนุ่มยกโทรศัพท์ในห้องขึ้น เรียกหาสิ่งที่ต้องการ ระบุให้ไปเสิร์ฟยังห้องของเจตน์
ในอีกสิบห้านาทีข้างหน้า สิ่งนี้เป็นบริการสุดพิเศษที่หมอเจ้าฮะผู้แอบมีอารมณ์ขัน
กระซิบบอกเขาเมื่อก่อนจะขอตัวจากไป
‘คุณแม่หมอเสียไปนานแล้ว บางทีคุณพ่อก็เลยต้องมีอะไรแบบนี้ไว้ให้กระชุ่มกระชวยบ้าง
แล้วก็ไม่หวงถ้าแขกอยากจะลองใช้บริการ’
เมื่อกะเวลาว่าคงได้ที่ชายหนุ่มจึงไม่รีรอที่จะเดินไปยังประตูห้อง
แต่ก่อนจะก้าวออกไปยังไม่วายกระซิบ
“ตัวนุ่ม ไม่ต้องออกมานะ ถ้าเห็นอะไร”
ร่างหญิงสาววาบขึ้นต่อหน้าเขาทันทีคล้ายยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ลืมไปเลยว่าแม่คนนี้ดื้อยังกับอะไร
“รู้นะว่าจะไปทำเรื่องลามก! เรียกสาวสวยสองคนมาที่ห้องนั้น น่าเกลียด...”
ขณะตำหนิยังหน้าแดงซ่านอย่างระงับไม่อยู่
นพคุณยิ้มเย็นทั้งพยายามซ่อนประกายตาเต้นระยับ ผีก็หน้าแดงได้ด้วย เขาเพิ่งรู้
ยิ่งเห็นแบบนี้ก็ยิ่งอยากจะแกล้ง “เรื่องของผู้ชาย เป็นสาวเป็นแส้ไม่ต้องยุ่ง”
“แล้ว แล้วจะไปมั่วกันสองคู่ในห้องเนี่ยนะ! น่าเกลียดตาย”
นพคุณห่อปาก มองแม่สาวผมม้าตาหวานที่ยืนกอดอกคำรามต่ำอย่างสนใจ
ยายนี่สัญชาตญาณแม่แรงไม่เบา นี่กำลังหวงเขาในฐานะลูกชายหรือคนในปกครอง
ที่ต้องคุมให้อยู่กับร่องกับรอย หรือว่า...คิดไกลไปกว่านั้น
“ฉันไม่ได้จะทำอะไรอย่างที่เธอคิดหรอกน่า อย่าออกมา ว่าง่ายๆหน่อยแล้วไม่ต้องยุ่งจะได้ไหม”
“ปากแข็ง ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งอยากจะดูให้รู้ว่าทำจริงหรือเปล่า”
คนฟังจุปาก ยื่นนิ้วไปจ่อตรงหน้าผากของผีสาวผู้แข็งตะลึงไปในทันที
ก่อนจะขยับนิ้ววนเขียนเป็นเลข๙ เสกอุณาโลมสะกดแม่ตัวยุ่งเรียกเข้าไปในเหรียญ
หมดเรื่องหมดราว แถมยังลงอาคมกำกับไว้ไม่ให้ออกมาด้วยวิชาเฉพาะส่วนตัวของเขา
ขืนให้เห็นอะไรแบบนั้นสุ่มสี่สุ่มห้า มีหวังใจแตกกันพอดี
ชายหนุ่มบริกรรมคาถาปลุกหัวใจโจรเบิกทั้งแปดทิศ ก่อนจะผลักประตูและก้าวออกไป
คุณยิ้มยิ้ม – หนึ่งเดือนนั้นอาจไม่สูญเปล่า ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นโดยไม่มีผล
อย่างน้อยความเคยชินกับการทำสิ่งดีๆ อาจจะช่วยเยียวยาจิตวิญญาณได้บ้าง
คุณสุขุมวิท66 – พี่เก้ากำลังเริ่มเดินสู่กับดัก แต่มันเป็นทางที่จะต้องข้ามผ่านไปอย่างไม่อาจเลี่ยง
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – อย่าเกลียดกระต่ายน้อยน้า กระต่ายอาจเป็นแพะรับบาปหรือตัวหลอกกะด้ายยย
คุณใบบัวน่ารัก – กระต่ายมอมๆน่ารักนะคะ เอาลงถังเลย ใช้โอโม่หนึ่งกล่อง ซักๆๆ ขาววิ้งงง
ต่ายรักพี่เก้านะ ต่ายจาไปขายหนังสือให้พี่เก้า ทองพญาแมว
คุณเลิฟหมวย – น่านจิ ไม่น่าทำศีลขาดเยย พี่เก้า หัวใจพ่ายแพ้แก่ความโลภ ฮือๆ
คุณเกดนุ่ม – โหย ตัวนุ่มปล้ำไม่เป็นง่ะ เกดนุ่มมาสิงเราจิ พอพี่เก้าขัดใจปุ๊บปล้ำเยย อิอิอิอิ
คุณภาวิน – กระต่ายสลิดดก มารยาเหมือนคนเขียนอะนะ หุหิ โจรอาจมีสัจจะในสักวัน
คุณหนอนดุ๊กดิ๊ก – อืมมม เริ่มรู้ทางคุณแม่กุเต่ย เดี๋ยวเรื่องหน้าต้องใช้มุกเหนือชั้น แต่เรื่องนี้ก็ใช้แล้วนะ
ช่ายละ มันคือกล่องแพนโดร่า จับๆๆกระต่ายหนีนัก กอดเลย อิอิอิ ฟัดเบาๆ อึไม่แตกน้า
----------------------
ปองเกียรติ ดำเกิงอดิเรกกำลังนั่งจิบชาชมวิวอยู่ที่บ้านเพื่อน เรียกให้ถูกน่าจะเป็นคฤหาสน์
ไม่สิ... มันคือวังเสียละมากกว่า ที่นี่อยู่เลยออกมาชานเมืองนนทบุรี ห่างย่านเมืองหลวงสักหน่อย
จึงใช้เนื้อที่ได้ไม่จำกัด เพราะกว้างใหญ่มากนี่เองจึงแบ่งออกเป็นหลายส่วน ตกแต่ง
หลากหลายสไตล์โดยแยกกันได้เด็ดขาดอย่างไม่เละเทะ ราวกับย่อโลกทั้งใบมารวมไว้ที่เดียว
อย่างน้อยๆก็เป็นทิวทัศน์ของโลกส่วนที่เจ้าของบ้านพึงใจ
อย่างเช่นบ่อน้ำตรงนี้ที่อยู่เบื้องหน้าเขา กว้างขวาง หินสีขาวและทองซึ่งนำมาจากสถานที่พิเศษ
ถูกจัดวางสวยงามให้เป็นกึ่งบ่อธรรมชาติกึ่งสระว่ายน้ำ อย่างที่ฝรั่งเรียกว่า เนเชอรัล สวิงมิ่ง พูล
มีระบบระบายน้ำและทำความสะอาดอย่างวิเศษ เพราะสมองใสๆของคนที่เขาและพรรคพวก
จ้างมารับใช้ แต่ดูเหมือนอย่างไรสมองในการคิดประดิษฐ์ของคนคนหนึ่งในหมู่โจรกลับจะก้าวนำ
พวกเขาไปหนึ่งก้าวเสมอ ทันทีที่เจอ เขาอยากจะฆ่ามันทันที ...แต่คงทำไม่ได้ ต้องหาทาง
ใช้ประโยชน์จากมัน นั่นแหละเหมาะ
ไอ้พวกแขนขาที่ไว้ลงมือปฏิบัติการปล้น ต่อให้เก่งแค่ไหนลองถ้าไม่มีสมองคอยช่วย
ก็เป็นได้แค่แขนขาที่พิการ
มือสีแทนยกขึ้นคลึงขมับ ถอดหมวกที่ดูคล้ายจะหนักอึ้งออก
ในอดีตเขาเคยมีเรื่องให้เข็ดกับวิกผม จึงมักสวมหมวกแทนเพื่อปิดบังศีรษะ
ซึ่งออกจะมีผมน้อยไปสักหน่อย ทั้งรู้ว่ายิ่งสวมก็ยิ่งล้าน ยิ่งล้านก็ยิ่งสวม...
มันก็เป็นวงจรอย่างนี้เอง
อารมณ์กำลังดีๆอยู่แท้ๆ ไม่ควรจะคิดฟุ้งซ่านให้ขุ่นมัว
คิดดังนั้นปองเกียรติจึงทอดตามองยังเบื้องหน้าอีกคำรบ
หินสีเหลือบทองสวยแปลกตาเหล่านี้อันที่จริงแล้วถูกขนมาจากบ้านเขาเอง
เป็นหินประดับสวนทั้งก้อนใหญ่ๆและก้อนเล็กก้อนน้อยซึ่งเก่าแก่เป็นร้อยปี
สมบัติซึ่งบรรพบุรุษโรยลาดไว้ณ มุมหนึ่งในสวน เมื่อเพื่อนร่วมงานคนสำคัญ
เอ่ยปากว่าชอบ เขาไม่ลังเลที่จะยกที่มีอยู่มากมายทั้งหมดนั่นให้ เสียแต่ว่าไม่รู้จะ
ไปหามาเพิ่มจากไหนอีก ในการทำสระนี้ให้เสร็จลงได้จึงต้องมีหินส่วนที่ทำเทียมเสริมเข้ามาอุดช่องว่าง
ไฟสีทองสว่างถูกสาดประโคมในยามราตรี มังกรตัวยาวอ่อนช้อยที่เลื้อยผ่านริมสระด้านหนึ่ง
สระนี้จึงถูกเรียกว่าสระมังกรทอง รายรอบตกแต่งแบบจีนผสมผสานความเป็นโมเดิร์น
ทั้งขลังและเรียบหรูจับตา
ปองเกียรติยังอยากนั่งจิบชาต่ออีกสักพัก ถ้าผู้ติดตามร่างสูงใหญ่ไม่เข้ามารายงาน
“บอสครับ ตอนสายวันรุ่งขึ้นเจ้าของบ้านจะพาแขกมาที่นี่”
“อืม วันที่หนึ่ง...ตรงตามกำหนดงั้นก็ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องหลีกทาง
ไม่งั้นแขกกลุ่มที่ว่ามาเจอฉันเข้าคงเสียแผนเราแย่”
เพราะช่องเล็กที่ซ่อนอยู่ในเรือมีอุปกรณ์ซ่อมแซมเบื้องต้นใส่ไว้อย่างแนบเนียน
จนใช้ปะรอยรั่วสองจุดใหญ่ได้สนิท นพคุณจึงกลับมาถึงฝั่งได้ด้วยตัวเองตอนย่ำรุ่ง
พบว่าพี่ศรกับนายชาผู้ยังกังขาเรื่องสรรพคุณของตะกรุดไม้เก่าคร่ำได้ร่วมมือกัน
ตามการนำของหมอสุทัศน์ ทยอยปลุกคนที่นอนหลับให้ฟื้นตื่นขึ้นมา
โดยเริ่มจากกานต์รวีเป็นคนแรก ซึ่งฝ่ายนั้นลุกมาได้ก็กอดกับผู้กำกับตัวสั่นงันงก
กลายเป็นบุคคลหาประโยชน์อะไรมิได้จริงอย่างว่า ชายหนุ่มสองคนกับสาวห้าวอีกหนึ่ง
จึงได้แต่ลงมือกันตามกำลัง
นพคุณพบเจตน์นอนอยู่ในห้องบนแพไม่ได้หายไปไหน อีกฝ่ายอ้างว่ากินเหล้าเข้าไปจึงหลับ
ตั้งแต่ก่อนจะเกิดเรื่อง มีอยู่หลายคนเหมือนกันที่นอนแพติดแอร์ ไม่ได้สูดควันเข้าไป
แต่เพราะชิงหลับก่อนจึงเพิ่งมารู้ว่าอะไรเป็นอะไรเอาตอนเช้า
ไม่ว่าอย่างไรชายหนุ่มกลับมองไปที่เสื้อแขนยาวซึ่งเพื่อนสวมอยู่ เมื่อคืน
เขาฟันผู้ชายชุดดำนั่นจนข้อมือได้แผล...
“แอร์หนาวมากรึ” นพคุณถามอย่างอดไม่ได้ ทั้งที่ปกติเพื่อนก็ชอบสวมเสื้อแขนยาวให้เห็นบ่อยๆอยู่แล้ว
เจตน์มองเพื่อนร่วมกลุ่มที่ตอนนี้ใต้ตาคล้ำเป็นพิเศษ ตัดกับผิวขาวเหลืองน้อยๆ
เหมือนกับเจ้าชายผีดูดเลือด ทั้งเวลานี้ยังจ้องจะกินเขาอย่างน่ากลัว ก่อนจะก้มมองตัวเอง
ตามสายตาอีกฝ่าย “ก็นิดๆ ฉันนอนดิ้น รื้อผ้าห่มออกจากตัวทุกคืน ใส่มิดชิดไว้ก่อนน่าจะดี”
“ถอดเสื้อออก”
“อะไรนะ” คนทื่อๆอย่างเจตน์ยังถึงกับสะดุด “เก้า...ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะชอบแบบนั้น แบบว่า ไม้ป่าเดียวกัน”
“อย่าตลก!”
...ตั้งแต่คำที่บอกให้ถอดเสื้อ นั่นเป็นแต่เพียงจินตนาการของเขาล้วนๆ
ลองคิดดูว่าถ้าเจตน์ไม่ได้ผิด เขาและมันอาจเกิดรอยร้าวจากคำถามคราวนี้
ที่ยิ่งเรื่องว่าเขาจะชอบเพศไหน ความไว้ใจในฐานะทีมอาจเสียไป
แต่ไม่ว่าอย่างไรนพคุณก็ต้องรู้ชัดลงไปให้ได้
ไม่นาน ทุกคนถูกเรียกไปรวมกันเพื่อฟังการประกาศเลิกกองถ่ายอย่างอ่อยๆของพี่ทิม
ที่ตอนนี้ชักจะขำไม่ออก จากที่เมื่อคืนทุกคนได้พบเรื่องซวยซ้ำซ้อนหลอนประสาทเกินจะทนทาน
“ว่าจะเลิกทำหนังผีไปตลอดชาติแล้วว่ะ”
ชายกลางคนเสยผมฟูๆที่หงอกไปแถบใหญ่ในคืนเดียวอย่างท้อแท้ใจ
“ใจเย็นก่อนพี่! นี่มันแนวขายของพี่เลยนะ เลิกง่ายๆได้ไง” หลายคนร้องเสียงหลง
คนโดนเกลี้ยกล่อมหน้าเบ้อย่างไม่นึกคล้อยตาม “เออ ใครอยากทำก็ให้พ่อทิมเบอร์ตัน
มึงมาทำเองเถอะไอ้ทิมเมืองไทยถอนตัวแล้วโว้ย”
ดังนั้นตอนช่วงสายรถตู้และรถเก๋งจึงทยอยกันออกจากที่นั่น
กานต์รวีที่เพิ่งได้เป็นนางเอกหมาดๆนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่ข้างหมอสุทัศน์
โดยมีเพื่อนชายสามคนซึ่งมีอาชีพลับๆเป็นโจรนั่งสลอนอยู่ตอนหลังของรถ
นพคุณมองแขนขวาของเจตน์ที่ทอดวางอยู่ชิดกันกับตัวเขา หมอนี่ยังใส่เสื้อตัวเดิม
ออกมาจากที่พักทั้งแบบนั้น การเคลื่อนไหวไม่มีที่ผิดแปลก ลองกระทบดูสักหลายทีก็ไม่สะดุ้ง
แถมมันไม่ได้มีเสื้อแขนยาวมาตัวเดียวซะด้วย เขาเกิดความคิดที่จะเลิกแขนเสื้อดู
ให้จะแจ้งหมดเรื่องหมดราว แต่ก่อนจะหาทางทำอย่างนั้นโดยไม่เป็นพิรุธ
ถ้อยคำรบกวนโสตประสาทซึ่งเจ้าของรถเอ่ยปลอบหญิงสาวคนสำคัญก็ดังขึ้นอีกคำรบ
“เอาน่ารวี ทัศน์ไม่ยอมให้ล่มหรอกฮะเปลี่ยนผู้กำกับใหม่ หาโลเกชั่นใหม่ถ่าย
ผีมันคงไม่ล่องแพตามไปทุกที่หรอกว่าไหม”
“ไม่เอาแพแล้ว ไม่เอาตลอดชีวิต” หญิงสาวผู้เกลียดชังเรื่องผีๆอย่างสุดแสนงอแงไปด้วยอีกคน
เธออุตส่าห์ยอมแสดงละครเรื่องนี้ทั้งที่มีผีมาเอี่ยว ไม่น่าตัดสินใจมาตั้งแต่แรก
ประมาทพวกผีมากเกินไปจริงๆ
“งั้นให้แก้บทเป็นชายทะเล ชายหาดอะไรก็ได้ ไม่เอาแพก็ไม่เอา”
แม้สุทัศน์จะเอาอกเอาใจแต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นสักกี่มากน้อย
“เอางี้ดีกว่า ไปรีแลกซ์ที่บ้านทัศน์ที่เมืองนนท์กันก่อน คุณพ่อมีเพื่อนคนนึง
อาราเชนทร์...เขาเก่งเรื่องดูดวง นั่งทางในอะไรพวกนี้มาก เห็นพวกคุณพ่อนัดกันไว้พอดี”
“ไปรบกวนผู้ใหญ่จะดีเหรอ”
“เงียบน่าเจตน์!” กานต์รวีขัดขึ้น หญิงสาวก็ไม่ต่างจากสาวๆคนอื่น เรื่องดูดวงขอให้บอก
ยิ่งตอนนี้เธอกำลังดวงตกเป็นอย่างมาก เผื่อให้หมอดูแนะทางสะเดาะเคราะห์สักหน่อยคงดี
“เรื่องพวกนี้มันสำคัญกับดาราแค่ไหน คนทั่วไปไม่มีวันเข้าใจ”
นพคุณหรี่ตาครุ่นคิด ก่อนเอ่ยสนับสนุน “ก็ไม่มีใครรีบไปทำอะไรไม่ใช่หรือ
เคลียร์คิวกันมายาวแล้วนี่ ลองไปดูก็ไม่เสียหาย ท่าจะดวงซวยกันทั้งกลุ่มนี่แหละ
คงต้องขอรบกวน” อันที่จริงเขาอยากรู้จักหมอสุทัศน์ให้มากขึ้น แม้ปกติจะ
เป็นคนจริงจังจนน่าขันแต่หมอเจ้าฮะของเขาหลายวันมานี้ดูทำตัวน่าสนใจเป็นพิเศษ
เผื่อว่าอีกฝ่ายจะมีสิ่งน่าสนใจซ่อนอยู่ เพราะหมอเองดูจะเป็นตัวแปรสำคัญ
ในหลายๆอย่างที่พวกเขาเจอ
ทันใด เสียงปุ้งดังเบาๆ แม่วิญญาณสาวที่ไม่รู้จะปรากฏกายตรงไหนเกิดจะโผล่มา
นั่งซ้อนตักเขาอยู่สนิทชิดเชื้อ
เมื่อนพคุณส่งสายตาตำหนิไปให้ ตัวนุ่มจึงทำชี้มือไม้ไปทางสุวิชาที่กำลังสัปหงกแล้วหลับตาอี๋
ก่อนหันไปทางเจตน์ที่นั่งหน้าบึ้งกอดออกแล้วทำท่ายี้ ทำนองว่ารถแคบแบบนี้จะให้โผล่ตรงไหน
ถ้าไม่ใช่ตักเขา ซึ่งอย่างน้อยก็เป็นทางเลือกที่ค่อยยังชั่วกว่าเพื่อน
ชายหนุ่มพยักหน้านิดหนึ่งเป็นทำนองให้เธอพูดได้ เพราะยังไงเขาก็ได้ยินคนเดียว
“จะไปจริงเหรอ เกิดที่นั่นมีอะไรร้ายๆซ่อนอยู่จะว่าไง”
“ขโมยมันให้หมด ชอบนักละของร้ายๆ” ชายหนุ่มขยับปากแทบไม่มีเสียงตอบแม่คนที่
ยื่นหน้าเข้ามากระซิบกระซาบ จะกระซิบทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน
วิญญาณสาวหน้าบึ้ง อึ้งไปสักพักก่อนจะแลบลิ้นใส่เขาหนึ่งทีแล้วหันก้นให้
ตัดสินใจไม่ยอมลงจากตักให้นพคุณหงุดหงิดเล่นอย่างนั้นไปตลอดทาง
“แย่หน่อยที่พวกคุณพ่อยังมาไม่ถึงฮะรวี ขอโทษที่ไม่ได้เช็กก่อน
แต่ดึกๆคืนนี้ก็น่าจะถึงแล้ว เอายังไงดี”
“ทุกคนรอเป็นเพื่อนรวีหน่อยได้ไหม” หญิงสาวเอ่ยปากอย่างเอาตัวเองเป็นหลัก
ไม่เปิดโอกาสให้ใครขอตัวกลับไปก่อนง่ายๆ เวลานี้ตนยังปอดๆ มีพวกมากไว้ก่อนก็อุ่นใจ
ถ้ามีใครสักคนขอกลับก็อาจมีคนอยากปลีกตัวตามไปอีก ซึ่งนับว่าขัดกับความต้องการ
ของนางพญาอย่างเธอ
นพคุณไม่ว่าเพราะตรงกับใจเขาอยู่แล้ว เจตน์เองก็พูดน้อยตามปกติ
สุวิชากระตือรือร้นที่จะอยู่เป็นก้างหมอสุทัศน์เป็นทุนเดิม ทุกอย่างจึงลงตัว
...ทว่าตกดึก ผ่านอาหารมื้อค่ำเลิศหรูไปนานแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าบ้านกับเพื่อนจะมาถึง
ข้างกานต์รวีก็เมาไวน์จนหลับปุ๋ย สุทัศน์จึงชวนทุกคนค้างที่นี่เสียเลย
“คุณพ่อเลทมากแล้ว เห็นว่าเครื่องฯที่บินมาจากจีนลงสาย นี่ก็จวนห้าทุ่ม
สงสัยได้เจอกันพรุ่งนี้ ...เชิญตามสบาย บ้านกว้างขนาดนี้ไม่ต้องเกรงใจ
ใครอยากพักมุมไหนบอก จะจัดให้เป็นพิเศษ เดี๋ยวหมอพาชมเอง”
“ไม่มียกเว้นส่วนไหนเลยหรือหมอเจ้าฮะ” นพคุณหยอด
“ไม่มีหรอกคุณ บ้านเราโปร่งใส ไม่ได้ซ่อนอะไรไว้ตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นยาหรืออาวุธสงคราม”
หมอสาวร่างสันทัดตอบเสียงต่ำพร่า แววตาคล้ายจะเริ่มมีอารมณ์ขันขึ้นกว่าปกติ
วิญญาณสาวที่เกาะไหล่นพคุณอยู่มองตามกานต์รวีซึ่งถูกเจตน์อุ้มไปนอน
โดยมีสุวิชาและหมอสุดห้าวตามประกบซ้ายขวาราวกับทหารองครักษ์
ให้หวนนึกถึงสิ่งที่ตัวเองถูกกำชับมาก่อนหน้านี้
‘...อย่าลืมคำสั่ง ให้กันผู้หญิงที่ช่วยเสริมดวงมันออกไปห่างๆ
นพคุณดวงชะตาหนักไปทางมืด ผู้หญิงคนนั้นสว่างมาก
แม้ว่าเจ้าหล่อนจะไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้ตัวเลย... ส่วนเธอเองก็มืด
ถึงได้บอกให้คอยอยู่ข้างๆมันไว้แหละดี จะได้ยิ่งมืดมนไม่เห็นทาง’
มันน่าหนักใจที่เธอต้องมารับรู้ทุกอย่างแถมเคราะห์ของนพคุณไม่ได้ผ่านพ้นไปอย่างที่หวัง
ดีไม่ดีจะหนักขึ้นเสียอีก เท่าที่ได้ยินมา ตั้งแต่ต้น...ผู้ที่ได้ครอบครองเหรียญนี้ก็จะดึงดูด
เคราะห์ภัยเข้าหาตัวเป็นทุนอยู่แล้ว นี่ยังบวกกับชะตาส่วนบุคคล
ยิ่งน่ากลัวว่าเขาจะไม่รอดไปได้อีกสักกี่วัน
หลังส่งกานต์รวีนอนเรียบร้อยในห้องนอนสีเขียวเหมือนทุ่งธรรมชาติสบายตาสบายใจ
หมอสุทัศน์ก็นับเป็นเจ้าบ้านที่ดีอยู่มากแม้เมื่อตอนกลางวันได้ให้พวกเขาได้นอนพักกันแล้ว
ในห้องนอนแขกส่วนกลาง แต่เจ้าบ้านก็ยังใจดีเสนอให้เลือกส่วนพักผ่อนใหม่ตามใจชอบ
“บ้านนี้ตกแต่งเก๋ๆตามไอเดียคุณพ่อ แบ่งเป็นห้าส่วน ดิน ทอง ไฟ ลม น้ำ...ตามธาตุ
ที่รวีนอนอยู่นั้นเป็นฝั่งธาตุลม ทุกอย่างสีเขียวสบายตา”
“เหมือนเจ้าหญิงนิทราในสวนสวย” สุวิชาผิวปากยวนอารมณ์ แต่คราวนี้ดูสุทัศน์จะไม่โกรธ
นพคุณรู้สึกสะกิดใจอย่างประหลาด ดุจมองเห็นถ้ำที่เป็นปากยักษ์ของงูร้าย
กำลังอ้าออกต่อหน้า แต่เขาไม่กลัวอะไรแล้วตอนนี้ มีแต่จะเดินหน้า...
“ที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่ไหนหรือเปล่าครับหมอ” ชายหนุ่มถามยิ้มๆ
“ก็ไม่รู้สิ คุณพ่อของหมอ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ท่านเป็นหมอใหญ่ ถือหุ้นส่วนใหญ่
โรงพยาบาลหลายแห่ง รวยไม่รู้เรื่อง...แต่พ่อรวยก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะรวยหรอกนะ
คนละคนกัน” คนพูดโอ่ด้วยเสียงเคร่งขรึมกลับตบท้ายด้วยการถ่อมตนพอเป็นพิธี
“ท่านมีบ้านหลายหลัง แต่ดูจะรักที่นี่ที่สุด” คนเป็นลูกพูดอย่างปลอดโปร่งใจ
“แต่บ้านนี้ก็ไม่ได้ใช้ศิลปะโทนเดียวกันหมดในการตกแต่ง แยกชัดเจน
เหมือนอยู่ต่างแดนกันไปเลย” หมอสุทัศน์บรรยายอย่างภาคภูมิ
เมื่อเจ้าของสถานที่พาชมจนครบ แน่นอนสุวิชาซึ่งค่อนข้างจะเป็นพวกทะลึ่ง
เลือกพักยังส่วนธาตุทองอันประดับตกแต่งด้วยอีโรติกอาร์ตสไตล์จีนมันแอบกระซิบกับนพคุณ
ว่าเหตุผลที่เลือกก็เพราะที่นี่มีทั้งรูปปั้นรูปวาด สัญลักษณ์จำนวนมากที่สื่อถึงเรื่องอย่างว่า...
เริ่มมาจากหญิงชาย หยินหยาง แทนด้วยสีทองและขาว โดยใช้สีทองแทนส่วนดำ แม้จะ
หรูหราสูงรสนิยมอย่างไม่ประเจิดประเจ้อ แต่สุวิชาก็ยังกระสันต้องการจะพักในส่วนนี้ให้ได้อยู่ดี
“ศิลปะพวกนี้มันทำให้ต่อมใต้สมองของฉันทำงานดีขึ้นว่ะ” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มอ้างอย่างครึ้มใจ
ส่วนเจตน์ผู้ซึ่งภายนอกไม่พูดมาก แต่ที่จริงแล้วหมอนี่เป็นพวกวัตถุนิยมตัวเอ้
จึงเลือกพักในส่วนธาตุน้ำที่หรูหราราคาแพง ทันสมัยที่สุด มีการใช้คริสตัลใสเกรดสูง
ประดับตกแต่งในห้องเสียด้วยซ้ำ วังน้ำแข็ง มีธารน้ำแข็งไหลเย็นหลั่งรินอยู่ชั่วนาตาปี...
ดูเหมือนว่าหากพำนักอยู่ที่นี่แล้วจะไม่ต้องพานพบฤดูร้อน ไม่ว่าร้อนกายหรือร้อนใจ
ต่อให้โลกข้างนอกสลายสิ้นก็ยังคงปลอดภัยไม่สร่างซา
“ห้องโซนนี้ไม่เลว ขอลอกแกแล้วกันเจตน์” นพคุณเอ่ยยิ้มๆ ชั่วขณะที่หมอสุทัศน์
ขอตัวไปพูดกับคนรับใช้ ชายหนุ่มจึงค่อยตั้งใจเงี่ยหูฟังเจตน์ที่เอ่ยเสียงเบา
“ที่นี่ดูน่าจะมีอะไรแปลกๆซ่อนอยู่นะ แกว่าไหมเก้า หรือว่าคืนนี้เราจะ...”
“อย่าเลย อยู่ในรังมัน อันตรายเกินไป”
“แกห้ามฉันแบบนี้ แล้วตัวแกเอง คิดจะอยู่เฉยด้วยไหม?”
ก็สมกับที่คบหากันมานาน...เขาเลือกที่จะตบไหล่เพื่อนสองครั้งแล้วหัวเราะ
ทว่าเมื่อถูกเชิญไปยังห้องในเขตน้ำแข็งอีกห้องและเจ้าบ้านคล้อยหลัง นพคุณก็เริ่มคิด
ยังมีสิ่งสำคัญที่เขาต้องการจะค้นหาให้เจอ แต่มันอันตรายเกินไปสำหรับใครก็ตามที่มีแค่หนึ่งชีวิต
ชายหนุ่มยกโทรศัพท์ในห้องขึ้น เรียกหาสิ่งที่ต้องการ ระบุให้ไปเสิร์ฟยังห้องของเจตน์
ในอีกสิบห้านาทีข้างหน้า สิ่งนี้เป็นบริการสุดพิเศษที่หมอเจ้าฮะผู้แอบมีอารมณ์ขัน
กระซิบบอกเขาเมื่อก่อนจะขอตัวจากไป
‘คุณแม่หมอเสียไปนานแล้ว บางทีคุณพ่อก็เลยต้องมีอะไรแบบนี้ไว้ให้กระชุ่มกระชวยบ้าง
แล้วก็ไม่หวงถ้าแขกอยากจะลองใช้บริการ’
เมื่อกะเวลาว่าคงได้ที่ชายหนุ่มจึงไม่รีรอที่จะเดินไปยังประตูห้อง
แต่ก่อนจะก้าวออกไปยังไม่วายกระซิบ
“ตัวนุ่ม ไม่ต้องออกมานะ ถ้าเห็นอะไร”
ร่างหญิงสาววาบขึ้นต่อหน้าเขาทันทีคล้ายยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ลืมไปเลยว่าแม่คนนี้ดื้อยังกับอะไร
“รู้นะว่าจะไปทำเรื่องลามก! เรียกสาวสวยสองคนมาที่ห้องนั้น น่าเกลียด...”
ขณะตำหนิยังหน้าแดงซ่านอย่างระงับไม่อยู่
นพคุณยิ้มเย็นทั้งพยายามซ่อนประกายตาเต้นระยับ ผีก็หน้าแดงได้ด้วย เขาเพิ่งรู้
ยิ่งเห็นแบบนี้ก็ยิ่งอยากจะแกล้ง “เรื่องของผู้ชาย เป็นสาวเป็นแส้ไม่ต้องยุ่ง”
“แล้ว แล้วจะไปมั่วกันสองคู่ในห้องเนี่ยนะ! น่าเกลียดตาย”
นพคุณห่อปาก มองแม่สาวผมม้าตาหวานที่ยืนกอดอกคำรามต่ำอย่างสนใจ
ยายนี่สัญชาตญาณแม่แรงไม่เบา นี่กำลังหวงเขาในฐานะลูกชายหรือคนในปกครอง
ที่ต้องคุมให้อยู่กับร่องกับรอย หรือว่า...คิดไกลไปกว่านั้น
“ฉันไม่ได้จะทำอะไรอย่างที่เธอคิดหรอกน่า อย่าออกมา ว่าง่ายๆหน่อยแล้วไม่ต้องยุ่งจะได้ไหม”
“ปากแข็ง ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งอยากจะดูให้รู้ว่าทำจริงหรือเปล่า”
คนฟังจุปาก ยื่นนิ้วไปจ่อตรงหน้าผากของผีสาวผู้แข็งตะลึงไปในทันที
ก่อนจะขยับนิ้ววนเขียนเป็นเลข๙ เสกอุณาโลมสะกดแม่ตัวยุ่งเรียกเข้าไปในเหรียญ
หมดเรื่องหมดราว แถมยังลงอาคมกำกับไว้ไม่ให้ออกมาด้วยวิชาเฉพาะส่วนตัวของเขา
ขืนให้เห็นอะไรแบบนั้นสุ่มสี่สุ่มห้า มีหวังใจแตกกันพอดี
ชายหนุ่มบริกรรมคาถาปลุกหัวใจโจรเบิกทั้งแปดทิศ ก่อนจะผลักประตูและก้าวออกไป

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ย. 2557, 00:01:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ย. 2557, 12:02:15 น.
จำนวนการเข้าชม : 1287
<< ๓.๖ ขุมทรัพย์ต้องสาป(จบ) | ๔.๒ สู่ฤกษ์โจร >> |

บุลินทร 29 ก.ย. 2557, 00:21:52 น.
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ทันอสิตา
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ทันอสิตา


ภาวิน 29 ก.ย. 2557, 02:56:17 น.
ไม่ทันทั้งอสิตาและบุลินทร แปะไว้อ่านตอนกลางวัน ฝนตก อากาศเย็น ขอนอนต่อ คร่อก
ไม่ทันทั้งอสิตาและบุลินทร แปะไว้อ่านตอนกลางวัน ฝนตก อากาศเย็น ขอนอนต่อ คร่อก

lovemuay 29 ก.ย. 2557, 05:20:23 น.
กริ๊ด..พี่เก้าคิดจุทำอะไรคะเนี่ย? ถ้าตัวนุ่มดูด้วย เด่วใจแตกกันพอดี
กริ๊ด..พี่เก้าคิดจุทำอะไรคะเนี่ย? ถ้าตัวนุ่มดูด้วย เด่วใจแตกกันพอดี

ใบบัวน่ารัก 29 ก.ย. 2557, 05:48:23 น.
ยัง งง กะ ตัวละครที่เพิ่มมา
ตัวนุ่ม ไปซักด้วยโอโม แล้วยัง
เอาอายไลเนอ ไหม กำลังจะพรีออเดอ เห็นกรีดตาทุกวัน
ใช้ยี่ห้อไหนดีหละ
ยัง งง กะ ตัวละครที่เพิ่มมา
ตัวนุ่ม ไปซักด้วยโอโม แล้วยัง
เอาอายไลเนอ ไหม กำลังจะพรีออเดอ เห็นกรีดตาทุกวัน
ใช้ยี่ห้อไหนดีหละ

ketza 29 ก.ย. 2557, 06:24:56 น.
นั่นๆๆๆ แกล้งตัวนุ่มอีกแย้ววว ก้คนเค้าจะดู เอ้ยย ออกมาห้ามนะ พี่เก้านี่ ขังนุ่มไว้ในเหรียญอีกแย้ววว
นั่นๆๆๆ แกล้งตัวนุ่มอีกแย้ววว ก้คนเค้าจะดู เอ้ยย ออกมาห้ามนะ พี่เก้านี่ ขังนุ่มไว้ในเหรียญอีกแย้ววว

yimyum 29 ก.ย. 2557, 07:00:44 น.
ทำม้ายยยทำไม หน้าบึ้งเเล้วขอนอนตักให้หงุดหงิดเล่นนน น่าร้ากกกก
ทำม้ายยยทำไม หน้าบึ้งเเล้วขอนอนตักให้หงุดหงิดเล่นนน น่าร้ากกกก

ดังปัณณ์ 29 ก.ย. 2557, 09:05:45 น.
อุต๊ะ! หมายฟามว่าไงเดี๋ยวใจแตก อิพี่เก้าคิดจะทำอะไรทะลึ่งๆอีกละ
วางแผนอะไรไว้อีกอ่ะเซ่ โถ ฟามลับเยอะจิ๊งพ่อคุณพ่อทูนหัว
เฮียเก้าแกโดนเล่นเยอะนะนี่ โดนหลายทางเหลื้อเกิน
แอบสะใจจิ๊ดๆๆ มีตัวนุ่มนั่งตัก กลัวตบะแตกสิฮะ
อุต๊ะ! หมายฟามว่าไงเดี๋ยวใจแตก อิพี่เก้าคิดจะทำอะไรทะลึ่งๆอีกละ

เฮียเก้าแกโดนเล่นเยอะนะนี่ โดนหลายทางเหลื้อเกิน




Sukhumvit66 29 ก.ย. 2557, 11:17:19 น.
ตอนที่แล้วลืมถามประเด็น ผญ.เสริมดวงของเก้าว่าเป็นใคร
มาตอนนี้ ก็คือ รวี สินะ.....ฮือ ฮือ
ตอนที่แล้วลืมถามประเด็น ผญ.เสริมดวงของเก้าว่าเป็นใคร
มาตอนนี้ ก็คือ รวี สินะ.....ฮือ ฮือ

goldensun 29 ก.ย. 2557, 12:30:03 น.
ขนาดดวงตกให้ถือศีล ยังทำศีลขาด ข้อ 2 ตามแบบที่โจรมักผิดซะด้วยสิ
แล้วมีแผนลุยบ้านอย่างนี้ น่าคิด ตอนแรกนึกว่าเก้าจะนอนห้องทองนะคะ
ส่งสองสาวไปห้องเจตต์ นึกว่าให้ไปห้องชาซะอีก คิดจะก่อเรื่องหรือก่อกวนเพื่อดำเนินการเสี่ยงล่ะ
คืนนี้จะใช้อีกกี่ชีวิต ไอ้พี่เก้า
ขนาดดวงตกให้ถือศีล ยังทำศีลขาด ข้อ 2 ตามแบบที่โจรมักผิดซะด้วยสิ
แล้วมีแผนลุยบ้านอย่างนี้ น่าคิด ตอนแรกนึกว่าเก้าจะนอนห้องทองนะคะ
ส่งสองสาวไปห้องเจตต์ นึกว่าให้ไปห้องชาซะอีก คิดจะก่อเรื่องหรือก่อกวนเพื่อดำเนินการเสี่ยงล่ะ
คืนนี้จะใช้อีกกี่ชีวิต ไอ้พี่เก้า

นักอ่านเหนียวหนึบ 29 ก.ย. 2557, 19:05:03 น.
โอ้ยยย พี่เก้า ตัวจะทำไรอะ เค้าไม่ได้อ่านโคนันอยู่ช้ะ เรื่องไมมันถึงได้ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน เขยื้อนอารมณ์ ได้ขนาดนี้ เห้อออออ ตามต่อไป ตัวนุ่มนี่ตกลง คน หรือ ผี โดนลงอาคมจับถ่วงเข้าเหรียญ แล้วยังมานั่งก้นนุ่ม กระดุ๊กกระดิ๊ก หยิกหัวใจพี่เก้าอี๊กกกก
โอ้ยยย พี่เก้า ตัวจะทำไรอะ เค้าไม่ได้อ่านโคนันอยู่ช้ะ เรื่องไมมันถึงได้ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน เขยื้อนอารมณ์ ได้ขนาดนี้ เห้อออออ ตามต่อไป ตัวนุ่มนี่ตกลง คน หรือ ผี โดนลงอาคมจับถ่วงเข้าเหรียญ แล้วยังมานั่งก้นนุ่ม กระดุ๊กกระดิ๊ก หยิกหัวใจพี่เก้าอี๊กกกก


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 21:02:19 น.
เฮียจะท้าความตายระห่ำไปเรื่อยๆรึไงนะ
เฮียจะท้าความตายระห่ำไปเรื่อยๆรึไงนะ