ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๔.๔ สู่ฤกษ์โจร

คุณผักชีศรี – อะจึ้ย ผญ.บนเตียงเหรอคะ นางผมมาก ผมเผ้าปิดหน้าปิดตา อยู่ในที่มืดและนั่นก้มหน้า
เพราะเธอกึ่งๆไม่อยากให้พี่เก้าเห็นค่ะ พอซี้เลี้ยวสมาธิก็แตกนะคะ พี่เก้าต้องทวงศพคืนก่อน
คุณภาวิน – นั่นสิ นิ่งมาพักใหญ่ เริ่มตายหนึ่งโหมโรงก่อนจะซัดระลอกใหญ่ หุหุ
คุณเกดนุ่ม – พี่เก้างอนนุ่มแล้ว เดี๋ยวจะแกล้งให้หนำใจ คิดมากนะ ไม่ลืมง่ายๆหรอก หึ

คุณเลิฟหมวย – น่าจะเป็นตัวนุ่มนะคะ เธอคนนั้น... จะเป็นใครไปได้อีก ยิ้มมีเลศนัย
คุณยิ้มยิ้ม – สุวิชา เห้นตัวนุ่มไหม ก็แล้วแต่เจตนานะคะ ตัวนุ่มมีพลังมากอยู่ แต่วันนี้นางเลือกอีกแบบ

คุณใบบัวน่ารัก – ดีใจ นึกว่าลืมเสือลืมงูแล้วววว พี่เก้าก็ยังถือศีลอยู่นะ(บางข้อ เอิบ)
แต่ไม่กินเจหรอก ตอนนี้อยากกินกระต่ายละ
คุณพี่พันธุ์แตง – สาวน้อยรอให้ตัวเองว่างก่อนค่อยไปตามเพื่อนมาช่วยค่ะ เอิ๊ก
อืม มุกหกแล้วต้องเช็ดนี่น่าจะขายให้ก่อนหนังสือเข้าโรงพิมพ์นะ ข้อความของเป็นเอก
มีความหมายแน่นอน
คุณริญ – โผล่มายิ้มอีกแล้ว
คุณสุขุมวิท66 – มาแล้วค่ะ อสิตาตื่นมาเที่ยงคืนกว่า ข้าวไม่กิน ลงนิยายก่อน แง่งๆๆ หิว แทะคอม
คุณบุลิน – แย่เลย เรื่องนี้ไม่มีตัวเด่นๆแบบลุงไผ่กะหม่องยี //ลุงไผ่ยังดีนะ อีหม่องยีไม่มีบทพูดด้วยซ้ำ

คุณโกลเด้นซัน – อาจจะเป็นสาวที่คุ้นๆแถวนี้ก็ได้นะคะ ขอบคุณที่ทักคำผิด ตาเก้าเริ่มเคืองแล้ว
ลุยครั้งต่อไปฝ่ายตรงข้ามต้องเสียอะไรบ้างแหละ แต่เป็นองค์กรใหญ่กับโจรตัวเล็กๆ
ดูซิว่าจะสู้กันยังไง
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – ตัวนุ่มต้องถอดจิตได้เซ ห้องอยู่ในวังห้าธาตุค่ะไม่ได้อยู่ในเหรียญ
แหมๆ ไม่มีมิติซ้อนนะเรื่องนี้ แล้วพี่เก้าน่าสงสารไหมคะ ไว้ใจใครไม่ได้เลย
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – ก็ผอมโทรมไม่ค่อยน่าดูนัก โดนทรมาทรกรรมนี่นะ
ไว้ฉากบุกของพี่เก้าคราวหน้ามันกว่านี้อีก เขียนเหนื่อยเลย หุหุ
-----------------------------





รอเวลาจนเช้าพวกเขาหาที่กดเอทีเอ็ม เอาเงินออกมามากพอสมควรเท่าที่จะพกกันไหว
แน่นอนว่าการตามรอยเลขธนบัตรอาจทำได้ แต่ถ้าต้องออกไปหาเงินสดมาใช้ทุกครั้ง
ที่เงินหมดหรือเลือกการใช้บัตรเครดิตปลอม นั่นจะยิ่งเป็นการทิ้งร่องรอยบอกทุกระยะ
ยิ่งกว่าว่ากำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน ส่วนกรณีนี้เรื่องชื่อเจ้าของบัตรไม่ต้องห่วง
มันก็แค่ชื่อบัญชีมหาเศรษฐีสักคนที่รอบคอบสู้โจรไม่ได้และจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ
ว่าเงินหาย เลยถูกตอดเงินมาใช้จากการหาช่องว่างในระบบการเงินและการ
แทรกแซงบัญชีนี่เป็นแค่รายหนึ่งที่พวกเขาเลือกสูบเลือดมันมาหล่อเลี้ยงตัว...
อย่าว่าแต่ยังมีรายชื่อสำรองไว้อีกมาก

โจรทั้งสี่หาที่ทิ้งรถ ก่อนจะไปเช่ารถเก๋งมาได้ในตอนสายขับต่อไปยังสถานประชุมลับ
ของทีมปล้นที่ใช้เป็นรังในการประชุมใหญ่ซึ่งไม่อาจประชุมออนไลน์ได้สะดวก
ทุกครั้งที่มา พวกเขามักระวังปลอมแปลงโฉมในแบบที่ดูไม่เตะตา รังลับจึงยังพอ
เรียกว่าเป็นที่ลับได้อยู่ มีเพียงสุวิชาผู้หากไม่มีนัดกับสาวก็มักหมกตัวทำงานประดิษฐ์
อยู่ที่นี่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน รอเพื่อนสักคนเมตตาผ่านมาส่งข้าวส่งน้ำและของแห้ง

ย่านใกล้จตุจักร ทาวน์เฮาส์แคบๆขนาดสามชั้น มีห้องนอนในชั้นแรกที่นพคุณ
นอนกับเป็นเอก ถัดไปคือครัว และชั้นสอง ห้องนอนสุวิชากับเจตน์ ที่เหลือของกานต์รวี
กับชั้นบนสุดห้องประชุมแคบๆ ไม่มีหน้าต่างแต่ติดเครื่องปรับอากาศ ทุกคนชอบ
ไปนั่งเล่นกันในนั้นเพราะที่นี่ไม่มีห้องนั่งเล่น ที่อยู่ติดกันคือห้องทำงานของสุวิชา
ซึ่งกินเนื้อที่มากที่สุด
สถานการณ์ราบเรียบมาตลอด คาดว่าศัตรูคงจงใจปล่อยพวกเขาก่อน
ทั้งสี่จึงตั้งใจจะค้างที่นี่สักคืนเพื่อเตรียมพร้อมและเก็บข้าวของ

จากข้อความที่ทิ้งไว้ว่าไม่ให้ตามหามันของไอ้เอก นพคุณไม่คิดจะบอกต่อคนอื่น
เพราะเป้าหมายเขายังคงเดิม หามันให้เจอ นอกจากนั้นชายหนุ่มยังทำเมิน
วิญญาณสาวที่ตามติดตนไปเกือบทุกที่ ยกเว้นก็แค่ตอนเข้าห้องน้ำ

ตอนดึก ขณะที่เจตน์ขอตัวเข้านอนไปแล้ว ในห้องประชุมเล็กปิดไฟมืด
เหลือเพียงกานต์รวีเคลิ้มหลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีซึ่งยังสว่างโพลน
เป็นลวดลายกราฟิกวูบไหวแบบคอมพิวเตอร์พักหน้าจอ

นพคุณเลี่ยงเข้าไปคุยกับสุวิชาผู้กำลังง่วนเก็บข้าวของลงกล่องโลหะออกแบบพิเศษ
ให้ทั้งถนอมของเล่นเลอค่าต่างๆของมันได้และประหยัดเนื้อที่สูงสุด ทั้งอุปกรณ์
ที่สุวิชาเป็นคนประดิษฐ์ หรือพวกยา เลือดปลอม สารเคมีต่างๆบางชนิดที่เสาะหา
เอาจากพวกพ้องต้องแยกเก็บใส่กล่องเย็น แค่ที่เห็นตรงหน้านี้ก็ใช้ทุนไม่รู้กี่ล้าน
เข้าไปแล้ว ถ้าไม่ได้เงินจากการปล้นคงยาก

นพคุณเสนอตัวเป็นลูกมือช่วย โดยมีตัวนุ่มเท้าคางมองตาม สุดท้ายก็เห็นได้ชัด
ว่าเจ้าหล่อนสนใจแต่งานในมือสุวิชามากกว่าจะสนใจเขา
ชายหนุ่มชักหงุดหงิดเปรยขัดจังหวะขึ้นลอยๆ
“มีเรื่องอยากจะบอกแกแน่ะไอ้ชา” เขามองสุวิชาชะงักมือ เงยขึ้นมาขยับแว่นนิ่งฟัง
“หมอเจ้าฮะคนดีที่เพิ่งหลอกตุ๋นเรา ที่แต่ก่อนเคยแกล้งทำเป็นไม้เบื่อไม้เมา
กับอรรณพพี่ชายฉัน ความจริงแล้วอาจรักกันดีกว่าที่คิด”

“แกไปเจออะไรมาบ้างล่ะในบ้าน...ในวังนั่น มหาปราสาทนั่น โอ๊ย! ช่างแม่ง”
ชายใส่แว่นถามลิ้นพันกันระรัว

“พวกนี้มีรูปถ่ายแบบสนิทสนมแถมยังกลมเกลียวกับปองเกียรติอีกคนด้วยนะ ทั้งที่สร้างภาพว่าแตกคอ”

“โถ อาปองเกียรติของไอ้เอก คู่ปรับตัวเจ๋งของแกแท้ๆ” คนสวมแว่นตาสั่นหน้าดิก
“ฉันยังจำได้ งานวันเกิดอามันตอนเราม.หนึ่ง บ้านมันจัดงานเลี้ยงใหญ่”

“...ที่ไอ้เอกชวนพวกเราไปด้วย” นพคุณเผยยิ้ม แววตาเต้นระยับเมื่อเกิดจะนึกถึง
เรื่องสนุกในวันวานขึ้นมาได้ “หึ งานนั้นปองเกียรติกะจะขายผลงานยาที่มันอ้างว่า
ทำร่วมกับองค์กรใหญ่อย่างเวชกุล โม้ว่าตัวเองมีส่วนร่วมในงานวิจัยค้นคว้า”

“เหอๆ แต่ไอ้เอกตัวแสบกับแกเล่นไปขุดสมุดพกอามาจากกรุไหนไม่รู้
ของ ด.ช.ปองเกียรติ กระดาษเก่าเหลืองเชียว มีสี่ห้าเล่ม ร่อนดูกันทั่วงาน
วิชาวิทยาศาสตร์ได้เกรดหนึ่ง” สุวิชากุมท้องหัวเราะเอิ๊กๆเหมือนเด็ก
แทบอยากลงไปกลิ้งงอหงายกับพื้น เมื่อย้อนนึกถึงภาพความหลัง

“ตอนเป็นนายปองเกียรติก็ยังเกรดหนึ่ง...”

นพคุณส่ายหน้ายิ้มๆ เอื้อมมือไปยีหัวของนายชาจนยุ่งไปหมดคนที่ดูเนิร์ดจนเข้ากันไม่ได้
แถมเจ้าชู้เกินหนังหน้าไปมากซึ่งไม่ใช่แนวเดียวกับเขา...แต่เพิ่งรู้สึก ที่แท้ความทรงจำของเขา
ทุกเวลาที่ผ่านมา มีเงาของมันซึมแทรกอยู่ทั่วไปหมด ขาดมันไปอดีตของเขา
ก็คงไม่สนุกยามเมื่อนึกถึงอย่างนี้เลย

“ไง ชอบใจมากหรือไอ้ชา ตอนนั้นแกนั่นแหละวิ่งห้ามพวกเราใหญ่ กลัวไอ้เอกโดนอามันกระทืบตาย”

“ตอนงานปีใหม่อีก แกแค้นที่ไอ้เอกโดนอามันตีก่อนนั้นไม่กี่วัน เลยวางแผนเผาวิกผมอามันคาหัว! ควันโขมง”

“เออ จะว่าไปถึงจะเป็นเรื่องที่เด็กสองคนก่อ แต่ต่อหน้าคนมากมายแบบนั้น
มันเสียทั้งหน้าเสียทั้งผลทางธุรกิจ เรียกว่ายับเยิน...” นพคุณถอนใจขำๆ

“แย่ นี่ยังไม่รวมที่พวกเราก่อเรื่องกวนใจอามันตั้งแต่เริ่มปล้นเรื่อยมา
เฮ้อ น่าหนักใจศัตรูหลายก๊กรวมตัวกัน อาไอ้เอก พ่อแกพี่แกแถมบ้านหมอทอมนั่น
ดูท่าจะไม่เบา สรุปตอนนี้เราก็มีศัตรูสามทิศสิ”

“เราอาจตายได้ทุกเมื่อ ถึงเวลาเอาจริงแล้ว” นพคุณเลิกคิ้วยั่วยวน รู้ว่าเพื่อน
หวาดกลัวความตายเป็นที่สุด เพราะมันเชื่อว่าไม่มีชีวิตหลังความตาย
หวาดกลัวว่าตัวเองจะ...หายไป “แกคิดว่าใช้ชีวิตเดียวที่มีอยู่นี่พอรึยังล่ะ”

เขาพูดไปอย่างนั้น แม้รู้ว่าคนเรามีชีวิตมากกว่านั้น ยังมีชีวิตในอดีต และชีวิตต่อๆไป
แต่บางทีเขาเองก็อยากจะทำอะไรให้ชีวิตนี้น่าจดจำ เรียกว่าอยากใช้ชีวิตให้คุ้ม
ไม่ต่างจากมัน แต่อย่างไรถึงจะเรียกว่าคุ้ม?

“ถามบ้าๆ ฉันยังหนุ่มยังแน่นจะใช้ชีวิตพอแล้วได้ไง แฟนก็ยังไม่มี”
สุวิชาหัวเราะอายๆเป็นเรื่องที่เห็นได้เพียงนานๆครั้งสำหรับคนหน้าด้านอย่างมัน

“อยากมีด้วยหรือคนอย่างแก นึกว่าหาสาวควงไปเรื่อยเปื่อย ชีวิตมีแต่งาน
เกิดคนเดียวตายคนเดียวอะไรแบบนั้น”

“ตอนแรกก็ใช่ แต่คิดไปคิดมาก็ชักเปลี่ยว อยากมีคนรู้ใจที่รู้ใจกันไปนานๆว่ะ
เสียแต่ยังหาไม่เจอ” ชายใส่แว่นทอดถอนก่อนยืดตัวตรงจากท่าค้อมหลังจนติดเป็นนิสัย
ยื่นมือไปตบต้นแขนเพื่อนผู้แข็งแกร่งกว่าตนเองมากมายนัก “ยังไงแกก็...ช่วย
ดูแลฉันให้ดีๆแล้วกัน ให้ได้มีชีวิตไปถึงวันนั้น ถึงฉัน...จะเป็นเพื่อนที่
ไม่ได้มีค่าอะไรเท่าไอ้เอกในสายตาแก”

นพคุณรู้สึกจุกในคอ เขารู้จักเป็นเอกก่อนนายชาแค่นิดหน่อย ฝ่ายแรกตอนประถม
ฝ่ายหลังตอนมัธยมต้น แต่ดูเหมือนจะจัดลำดับชั้นทั้งสองคนไว้ไกลกันเหลือเกิน
ทั้งนิสัย ทั้งกิจกรรมร่วมกันที่เขามีไอ้เอกเป็นเงา กับสุวิชาถึงไม่ได้คลุกคลีมากเท่า
แต่พูดถึงว่าเขาก็ห่วงไอ้หนุ่มแว่นตรงหน้านี่ไม่น้อยเหมือนกัน อาจจะห่วงมากกว่าที่มันคิด

เขาเกือบจะเอื้อมไปจับไหล่มันอยู่แล้ว ถ้าไอ้ตัวดีไม่ทำสะดิ้งหนี
แกล้งวี้ดว้ายว่าเขาจะลวนลาม ไม่คาดว่าสุ้มเสียงหยอกเหย้าประสาทะลึ่งตึงตัง
กลับไปสะกิดกานต์รวีที่นอนอยู่นอกห้องให้ค่อยๆลืมตา

นพคุณถอนใจ ในใจของเขานอกจากไอ้เอกแล้ว รองลงมาก็คงมีสุวิชานี่แหละที่จะเหลือ
เป็นเพื่อนเขาอีกคน แม้บางเวลามันจะไม่ได้รู้ใจเขาสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่ตอนนี้นึกอยาก
เปิดใจกันมากกว่าเดิม ความลับของเขา ควรจะเปิดเผยกับใครก็คงเป็นมัน
ที่คอยช่วยเหลือกันทุกอย่างนี่แหละ

“ถ้าฉันมีใครบางคนจะแนะนำให้แกรู้จักตอนนี้ แกจะตื่นเต้นไหม”

วิญญาณสาวตาตื่นจากที่เริ่มทำหน้าง่วง ทำชี้ไม้ชี้มือเข้าหาตัว
กระโดดโลดเต้นอย่างยินดีเกินกว่าเหตุจนน่าเขกให้สักที

“ใครล่ะ สาวสวยหรือเปล่า”

“ก็นะ... แกว่ายายคนนี้สวยกว่ารวี เคยเจอกันทีแล้วที่บ้านหมอสุทัศน์
ตอนเขาพาแกมาหาฉัน แต่ฉันไม่อนุญาตให้แกปิ๊งอะไรหรือเอาแม่นี้ไปเป็นคนรู้ใจหรอกนะ”

“แม่เจ้าโว้ย หวงซะด้วย!” สุวิชาเริ่มจะอุทานเอะอะ

คนเพิ่งตื่นบนโซฟาอีกห้องติดกันขบฟันแน่น แม้จะไม่ได้ไปเกาะแอบฟังตรงประตูแบบในละคร
แต่จากมุมที่นอนอยู่ตรงนี้ก็ใกล้พอจะได้ยินชัด ไม่เท่านั้นยังมองเห็นทุกภาพอีกด้วย
เพียงแต่เธอนอนเฉยๆไม่ขยับตัวให้ใครเห็นว่าตื่นเท่านั้น

“ไม่ได้หวง แต่แม่นี่เป็นเด็กของฉันที่ฉันเลี้ยงไว้...เป็นของฉันคนเดียว ถึงจะ
ใช้งานอะไรไม่เคยได้ แต่คิดว่ากำลังจะฝึกให้เป็นเด็กดีสักทีอย่าเอ็ดไปล่ะ
เด็กที่ว่านี่น่ะ นอกจะเป็นผู้หญิงแล้วยังแปลงเป็นกระต่ายได้อีกอย่าง”
นพคุณทำเสียงมีลับลมคมใน ปากยิ้มจนเห็นรอยลักยิ้มกดลึก

สุวิชาเบิกตาเหมือนนกฮูกอย่างน่าขัน “แกกำลังจะบอกว่าเลี้ยงบันนี่เกิร์ลไว้?”

“เออ” นพคุณขมวดคิ้วทั้งที่ยังยิ้ม ไม่คิดว่าเพื่อนจะยอมเชื่อง่ายดาย “เลี้ยงยาก
กินจุมากด้วย ตั้งแต่เลี้ยงมานี่ก็ใกล้จะหมดตัวอยู่ละ”

“อ้อ...” สุวิชาที่ไม่ได้ทำท่าว่าเข้าใจจริงจังแกล้งครางเสียงยานคาง
“แล้วเคยเอาแครอทเก้านิ้วของแกให้เจ้าหล่อนแทะเล่นบ้างไหมล่ะ”

“เก้านิ้วบ้านพ่อง...” ชายหนุ่มคำราม ไอ้หมอนี่มันกำลังกวนบาทาเขาสินะ

“ไม่ใช่เก้านิ้วแล้วเท่าไหร่ บอกได้ไหมจ๊ะ” ...สุวิชาว่าแล้วก็หันมาเห็นเพื่อนตาเขียวปั้ด
“โอเคๆ ไม่กวนตีนแล้ว เด็กคนที่บ้านหมอสุทัศน์งั้นหรือ ว่าแต่แกไปรู้จักได้ไง
แล้วฉันจะได้เจอเขาอีกเมื่อไหร่”

“ตอนนี้”

“ตอนนี้?”คนใส่แว่นทวนคำอย่างไม่เข้าใจ

“เอ้า! ปรากฏตัวให้คนอื่นเขาเห็นหน่อยตัวนุ่ม”

ทันใดนั้นหญิงสาวอ้อนแอ้นปรากฏร่างขึ้นมากลางความว่างเปล่า
กานต์รวีชาวาบแต่หัวจรดเท้า นี่เขาเลี้ยงผีไว้ข้างตัวจริงๆน่ะหรือ
เธอตกอยู่ใต้ชายคาเดียวกับวิญญาณร้าย เก้าเองก็กำลังถูกมันครอบงำ
มิน่าช่วงนี้ถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนกันเหลือเกิน! คนกำลังแอบมอง
ใจระทึกกัดริมฝีปากแน่น เหงื่อเย็นเฉียบไหลซึม อย่าว่าแต่ไม่กล้าลุกหนี
ตอนนี้เธอกลัวจนกระดิกตัวแทบไม่ได้ หรือจะถูกนังผีนั่นอำเข้าแล้ว

วิญญาณสาวยิ้มแป้นแร้นอย่างถึงขีดสุด ทำตาปริบๆขณะที่นพคุณผายมือแนะนำเธอกับสุวิชา

ชายหนุ่มหันไปยิ้มแยกเขี้ยวให้เพื่อนใส่แว่นของตน อดไม่ได้ที่จะโอ่ “แกคงอิจฉาฉันน่าดู”


“เฮ้ย ไอ้เก้า...” สุวิชาทำหน้ากังวลจริงจัง “พูดอะไรของแก ใครยืนอยู่ตรงไหนไม่เห็นมี
แล้วแม่สาวที่บ้านไอ้หมอเจ้าฮะของแกจะมาโผล่รังเราได้ไง แกโดนยาประสาทหลอน
เข้าไปหรือเปล่า เพ้อเจอเป็นคุ้งเป็นแคว”

นพคุณหันไปส่งสายตาเข้มจัดทางผีสาวที่เขาเลี้ยงไว้ เกือบจะคิดว่าเธอกล้าดื้อ
ซ่อนร่างไว้จากสุวิชา ไม่ยอมทำตามที่เขาบอกให้ทำ

“เปล่านะ... เขาไม่เห็นเอง ตาแว่นเป็นพวกแอนตี้ผีอย่างรุนแรงละสิ
คราวก่อนกว่าจะทำให้เห็นได้ก็รวมพลังแทบตาย”

“เธอตายอยู่แล้ว” คนฟังพึมพำแทบไม่มีเสียง ได้แต่จุปากอย่างขัดใจ...
เขาคิดมาหลายตลบถึงได้ตัดสินใจบอกนายชา เห็นว่ายังไงก็เคยเจอยายตัวนุ่ม
ครั้งหนึ่งแล้ว ต่อไปมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ แต่พอบอกแล้วดันแป้กซะนี่

“จะให้เห็นจริงๆก็ทำได้นะ แต่แน่ใจแล้วเหรอว่าจะดี”

นพคุณส่ายหน้า ดูท่าทีของนายชาแล้วเขาคิดว่าควรคิดใหม่อีกที

หารู้ไม่ว่าการปรากฏตัวของวิญญาณสาวครั้งนี้กลับเผยสู่สายตาของคนแอบมอง
จากระยะไกล ตอนนี้คนรับสัญญาณผีได้ดีกว่านอนกัดฟันกรอดคาโซฟาไปเสียแล้ว
ด้วยจินตนาการทางร้ายมากมายจนสั่นไปหมด แถม...ยายผีหน้าเป็นยังฉวยโอกาส
ที่ผู้ชายสองคนเผลอ หมุนคอหันมาฉีกยิ้มกว้างน่าสะพรึ่งให้จนกานต์รวีหายใจรอนๆคล้ายจะเป็นลม

วิญญาณสาวเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มเป็นเฉยเมยเมื่อเห็นฝ่ายที่ตนแอบมองหลับตาหนี

กันผู้หญิงคนนั้นออกไป ผู้หญิงคนที่มีดวงชะตาสุกสว่างช่วยเสริมชะตานพคุณ...

“ว่าไงไอ้เก้า มานอนให้ฉันเอาฉายส่องลูกกะตาหน่อยดีกว่าไหม” สุวิชาเขย่าแขนเพื่อนเรียกสติ

“แกนั่นแหละบ้า” ชายหนุ่มย้อนเรียบๆ “ฉันแค่...อำเล่น ดูว่าแกจะยังคิดถึง
แม่สาวน่ารักที่เจอมากไหม คนที่เชื่อเป็นจริงเป็นจังนั่นแหละประสาท”

“อ้าว เป็นงั้นไป”

“เออที่เหลือก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ช่วยแล้ว แกจัดการต่อแล้วกัน แล้วก็...อย่าทำรุ่มร่ามกับรวีล่ะ”

“จุ๊ๆๆ จะกั๊กอีกแล้วเรอะ” สุวิชาเดาะลิ้น

“เปล่า สงสารแก ถ้าลงได้แม่นี่ชีวิตแกเปลี่ยนแน่...แทนที่จะได้คนรู้ใจ
กลับจะได้คนที่จะมาฉีกหัวใจแกเป็นชิ้นๆแล้วเอาใส่ปากกินสดๆ”

“เขาก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกน่า” คนสวมแว่นแก้ตัวแทนเสียงอ่อย

ถึงจะมีคนออกตัวแทนให้แบบนั้นสักกี่คำก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกเกรี้ยวกราดในใจ
คนแกล้งหลับดีขึ้นแม้แต่น้อย
คอยดูเถอะนะเก้า เห็นนังผีผู้หญิงนั่นดีกว่ารวี แล้วจะต้องเสียใจ...




กลับถึงห้องส่วนตัวชั้นล่างซึ่งค่อนข้างเล็กแต่ก็ตกแต่งไว้น่าอยู่พอใช้
เตียงขนาดสองคนนอนที่เคยแบ่งกันนอนกับไอ้เอก มาวันนี้เป็นของเขาคนเดียว

“ตัวนุ่ม”

“หือ” หญิงสาวเลิกคิ้วพลางยิ้มแป้น คิดว่าเขาคงยอมดีกับเธอแล้ว
ไม่คาดว่าจะโดนใช้ฝ่ามือดันหน้าแงไว้ไม่ให้เข้าใกล้ แถมเมื่อมองหน้าอีกฝ่ายชัดๆ
ยิ้มร้ายกาจนั่นทำให้เธอขนลุกเยือกทั้งที่เป็นวิญญาณอย่างน่าตกใจ

ชายหนุ่มหลับตาอย่างมีมาดพลางพูดด้วยเสียงเคร่งเครียด “คิดว่าน่าจะได้เวลาฝึกเธอ
ให้เชื่องเสียที”ใช่ ไม่เคยทำอะไรที่แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ติดตามเขา
แถมในห้องตะกี้ยังเอาแต่จ้องสนใจนายชา

เขาลืมตาขึ้น กำลังตั้งใจจะตำหนิ หรือเรียกง่ายๆว่าหาเรื่องอย่างเป็นทางการ กลับพบว่า
เจ้าตัวกลับร่างเป็นกระต่ายขนนุ่มสีขาวขนฟูกองแผ่สี่ขาอยู่บนเตียงไปเรียบร้อยแล้ว

“จะแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้หรือ” นพคุณก้มลงหา ยื่นหน้าไปจนติด กลับโดนอีกฝ่าย
ชันตัวมาจุ๊บที่จมูกไปหนึ่งทีอย่างง้องอน เขารู้สึกเลยว่าหน้าตัวเองต้องแดงจัด
แต่แกล้งเสพึมพำโกรธออกมาแทน “ผู้หญิงไม่รู้จักอาย”

กระต่ายชะงักนิ่ง คล้ายว่าน้ำตาออกจะรื้นๆ ก่อนจะค่อยๆขยับหันหลังให้เขาอย่างเสียใจ
ชายหนุ่มขบฟัน ถอนใจแรง ลุกขึ้นเดินไปวางเหรียญรับแสงจันทร์ไว้ยังข้างหน้าต่าง
เดินมาทิ้งตัวแรงจนกระต่ายขาวตัวนิดกระเด้งลอยขึ้นทั้งตัว

คิดว่าเขาจะละมือและทำไม่สนใจเสียแล้ว แต่วูบนั้นเสียงมีดพกสปริงตัว
ออกมากลับดังอยู่เฉียดหน้า กระต่ายตัวเล็กหรี่ลืมตา ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือก
คมเหล็กน้ำพี้ดำอมเขียวสะท้อนเงาปลาบตอนนี้ถูกจ่ออยู่ชิดปลายหนวด
เธอหดคอถอยร่นหนี เจ้าสิ่งน่าสะพรึงนั่นยังจี้กระชั้นเข้ามาอีก ก่อนจะ
ถูกวาดแฉลบเฉียดปลายหู คมจนรู้สึกว่าขนร่วงลงมาแล้วสองสามเส้น

นพคุณทำหน้าเคร่ง มองลูกกระต่ายในกำมืออย่างสะใจ “กลัวหรือ ฉันนี่ต่างหาก!
ถูกแทงข้างหลังทะลุออกปากมาแล้ว รู้ไหมว่ามันเจ็บน่าดู หึ แต่ก็ไม่นานหรอก
วูบเดียวเท่านั้นวิญญาณหลุดจากร่าง ไม่มีคำเตือน ไม่มีใครบอกกล่าวระวังหลังให้
เพราะมันคงดูจะเป็นความหวังที่มากเกินไป”

ตัวนุ่มตัวสั่นระริก เมื่อคมมีดขนาดยักษ์เมื่อเทียบกับเธอในร่างกระต่าย
ถูกกดลงมาเบียดปาดกับปุยขนอย่างน่าเสียวไส้ เขายังใช้มีดนั้นเกลี่ยขน
ของเธอเล่นราวกับกำลังลับมีดกับก้อนซาลาเปา ช่างทำได้ลงคอ
เวลาอยู่ในร่างกระต่ายใจมันสั่นหวิวอย่างบอกไม่ถูก
เคยบอกไปแล้วก็ยังรังแกกัน ใจร้ายไม่มีอะไรเปรียบ...

ในขณะที่เจ้าของร่างเล็กจ้อยหายใจไม่เป็นส่ำ ส่งเสียงครือประท้วงในคอ
น้ำตากำลังจะไหลอยู่รอมร่อ เขาก็พูดขึ้น

“ถ้าอยากแก้ตัว ก็รีบกลับเป็นคนไวๆ อย่าให้หงุดหงิดไปกว่านี้”

อ้อ ในที่สุดเขาก็อยากพูดกับเธอดีๆขึ้นมาแล้ว หลังจากแกล้งจนหนำ
แต่ตอนนี้เธอไม่อยากพูดกับคนใจร้ายแล้วนี่นา

นพคุณมองภาพสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่สั่นเทาตรงหน้า หลับตาแน่นอย่างต่อต้านเขา
แน่นอน เขาเรียกเธอว่าสิ่งมีชีวิต... ถ้าความหมายของชีวิต คือการใช้พลังงาน
ขับเคลื่อนตัวเองไป วิญญาณก็คือชีวิตในอีกลักษณะ ก่อนนี้เขามองเห็นผี
แต่ไม่เคยเชื่อเรื่องที่ว่าบางคนสัมผัสใกล้ชิดกับผีได้ไม่ต่างจากคนด้วยกัน
เป็นชู้กับผี! หรือพวกหมอผีที่เลี้ยงผีเป็นเมีย!

เท่าที่พานพบ วิญญาณมักเย็นชา มักทำให้ขนลุกด้วยกระแสพลังงานที่ต่างจากคน
จนกระทั่งมาเจอแม่ตัวยุ่งนี่ จับต้องได้...อบอุ่น มีชีวิตชีวา แปลว่าวิญญาณของเธอ
และเขามีอะไรบางอย่างสื่อถึงกัน เชื่อมโยงกันได้แนบแน่น แต่ดูที่เธอทำกับเขาสิ
ก่อนหน้านั้นก็ทำราวกับล่อเขาไปติดกับ ไม่บอกไม่เตือนเรื่องที่กาญจน์
และล่าสุด ปล่อยให้เขาตาย

มือใหญ่โยนมีดทิ้งไปอีกทาง ก่อนจับเจ้าตัวกลมที่ยังหลับตาปี๋กลิ้งหงายท้อง
ไม่สนใจเสียงร้องอิ๊ที่เล็ดลอดออกมาอย่างตกใจ

เขาจะผ่าท้องเธอแน่แล้ว ด้วยมีดหมอนั่น กรีดผ่าเอาหัวใจของเธอออกมาดู

พริบตานั้น กระต่ายที่กำลังหมดทางสู้รวบรวมแรงใจเปลี่ยนร่างกลับเป็นคน
แต่ชายหนุ่มยังคงจ้องมาอย่างเย็นชาไม่เปลี่ยน ตาสีน้ำตาลที่อ่อนกว่าคนทั่วไป
อยู่มากซึ่งเคยสวยคม ยามนี้มันกลับดูห่างเหิน น่ากลัวจับใจ

“ก็บอกแล้วไง ว่ากลัวเขา สู้เขาไม่ได้...”

“แต่เธอเตือนฉันได้”

“ตอนนั้นไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ” ตัวนุ่มละล่ำละลัก

“เพราะอะไร!อยากให้ฉันตายใช่ไหม”

หญิงสาวยิ่งส่ายหน้ารัวเร็วแทนคำตอบ “ไม่...ไม่เคยอยากให้เก้าตายเลย”
คนพูดเบะปาก น้ำตาค่อยๆรินไหลออกมาหนึ่งหยด สองหยด ก่อนจะเริ่ม
สะอึกสะอื้น ทั้งเสียใจ ทั้งอึดอัดสุดประมาณ

“บอกฉันสิ บอกความจริงมา!”

นพคุณจับแขนหญิงสาวให้ลุกนั่งเหมือนกระชากตุ๊กตาที่อ่อนไหวบอบบาง
จนแทบหักคามือได้ เขย่าจนหัวสั่นหัวคลอนไปสองรอบ ไม่ได้อะไรนอกจาก
คนในกำมือยิ่งร้องไห้หนักขึ้น

น้ำตาผู้หญิง! เขาเกลียดที่สุด ทนดูแทบไม่ได้เอาเลย

“บนเกาะนั่น ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหม ว่าถ้าทำตัวไม่ดีอีก คราวนี้...”

คำตอบยังคงเป็นน้ำตาและการร้องไห้เหมือนกับไปเสียอกเสียใจอะไรมานักหนา
บ้าฉิบ!เขาเกลียดที่สุด พวกผู้หญิง ชอบสร้างปัญหา ทั้งที่เพียงแค่พูดออกมา
ทุกอย่างก็จะดีขึ้น แต่ทำไมแม่นี่ถึงได้ดื้อขนาดนี้ ทั้งไม่ได้เรื่องทั้งปากแข็ง

ชายหนุ่มโกรธจนหัวหมุน ไม่รู้จะทำอย่างไรก็กระชากเจ้าตัวยุ่งเข้าปะทะอก
รัดไว้แน่นคล้ายจะบีบให้ขาดใจ ยายตัวดีกลับถูไถใบหน้าเบื้อนน้ำตากับเสื้อเขา
กดศีรษะเข้าหามากขึ้น

“ฉัน ไม่ได้ตั้งใจ” เสียงตอบสั่นหวิว
นพคุณแทบไม่รู้ตัว... ยามเมื่อเขากำลังรัดเธอด้วยมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งยกขึ้น
เสยเข้าไปในเรือนผมนิ่มที่กระดกเป็นหางเป็ด กดให้ซุกแน่นเข้ามาในอ้อมอกตนเช่นกัน

“หยุดร้องซะที น่ารำคาญ” ชายหนุ่มอยากจะตวาด แต่เสียงที่ออกมากลับเบาหวิวแหบพร่า

ตัวนุ่มร้องไห้และร้องไห้ ยึดคนที่กำลังจะเกลียดเธอตรงหน้าเอาไว้แน่น
อย่างเห็นเขาเป็นที่พึ่ง เขาไม่มีวันเข้าใจ อ้อมกอดที่โหดร้าย
ถ้อยคำที่โหดร้าย แต่เขาก็ยังกอดเธอไว้

“ตัวนุ่ม”

บางทีก็อยากให้เขา...เรียกชื่อ ชื่อจริงๆของเธอ ให้เขามองมาเห็นตัวตนจริงๆของเธอ
แต่ยังไงเธอก็คงเป็นได้แต่เพียงกระต่าย เป็นวิญญาณที่เขาเลี้ยงไว้เท่านั้น
เวลาผ่านไปจนเมื่อรู้สึกว่าตนเองร้องจนใกล้หมดแรง
คล้ายอ้อมกอดนี้จะยังโยกไปมานิดๆ บางเบาแทบไม่รู้สึก เก้ากำลังปลอบเธอหรือว่า...
แต่นี่มันเป็นไปได้ยังไงเธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาสัมผัสกับริมฝีปากของเขาที่กำลัง
พึมพำบางอย่างซ้ำๆอย่างไม่ได้ตั้งใจ จับใจความได้คล้ายว่า
หยุดร้อง... นิ่งซะ...หรืออะไรทำนองนั้น

ริมฝีปากนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กกว่าแหงนเงยขึ้นสัมผัสโดนแก้มชายหนุ่มผะแผ่ว
กึ่งตั้งใจ กึ่งไม่ได้ตั้งใจ เป็นการเคลื่อนไหวไปตามใจเรียกร้องเสียมากกว่า



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ต.ค. 2557, 00:42:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2557, 04:19:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1084





<< ๔.๓ สู่ฤกษ์โจร   ๔.๕ สู่ฤกษ์โจร(จบ) >>
Chii 2 ต.ค. 2557, 01:01:56 น.
กุเต่ยมารยายั่วยวนชายยยยยย

//เนียนมาก!!

ถ้าตอนหน้ากุเต่ยนิสัยเสียอีก ไม่ต้องพี่เก้าแระะะ เด๋วเค้าผ่าเอง
รับประกันรอยกรีดเรียบ แผลหายแบบไพรมารี่ฮีลลิ่ง!!


ภาวิน 2 ต.ค. 2557, 02:52:54 น.
ตััวนุ่มแอบจุ๊บไอ้พี่เก้าหลายรอบแระ แหม เป็นกระต่าย เป็นผี มันได้เปรียบแบบนี้นี่เอง


ketza 2 ต.ค. 2557, 06:19:22 น.
อ๊ายยย ตัวนุ่มจิปล้ำพี่เก้าแย้วววว เอาเลย เอาเลยยยย ตัวนุ่มสู้ๆ เพื่อแครอทเก้านิ้ว 5555555


lovemuay 2 ต.ค. 2557, 06:55:22 น.
ตึ่ง...นี่สินะ ที่บอกว่าจะจัดการสักทีของพี่เก้า หุหุหุ


yimyum 2 ต.ค. 2557, 08:25:31 น.
อ๊ายยย เขิน เพิ่งรู้ว่าพี่เก้าแพ้น้ำตาผู้หญิง อยากรู้ชื่อจริงตัวนุ่มจัง


Sukhumvit66 2 ต.ค. 2557, 13:52:45 น.
สงสัยตั้งแต่ตอนโน่น เหมือนว่า ตัวนุ่มเคยเจอเก้ามาก่อนนานแสนนาน

เก้าคือใครในอดีตค่ะ...


ดังปัณณ์ 2 ต.ค. 2557, 14:42:50 น.
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ตัวนุ่มแอบลวนลามพี่เก้าขา อุๆๆๆๆ

นี่อิพี่เก้าเริ่มใจอ่อนมาหาสาวเจ้าล่ะสิ อั้ยย่ะ! อัลไลจะเกิด รับรองพี่เก้าไม่มีอะไรเกิด นางรักษาตัวอย่างกะพระ เฮ้อ มันสงสั้ยสงสัยทำไมตัวนุ่มถึงมีปัญหาเยอะจัง ทั้งอดีตทั้งปัจจุบัน ค้างคาฮ่ะ! อยากจิรู้เต็มแก่แว้ววววววววววววว


goldensun 2 ต.ค. 2557, 16:16:42 น.
นั่น เอาเข้าจริง เก้าก็ใจอ่อนกับตัวนุ่มอยู่ดี โดนตัวนุ่มทั้งจุ๊บเห็นๆ ทั้งเล่นทีเผลอ เย็นชาไม่ออกเลย
แต่ก็มีแอบโหดนะนี่ แล้วตัวนุ่มจะรู้ตัวมั้ย รวีจะเล่นกลับแล้ว


นักอ่านเหนียวหนึบ 2 ต.ค. 2557, 17:39:32 น.
อร๊ายยยย ตกลงนางบันนี่ จะเป็นคนดี หรือผีร้ายกันแน่ยะ สองหน้าจิงนะ หรือจริงๆ แล้วที่หันไปหลอกรวี เพราะความหึงหวงล้วนๆ จ้ะ พี่เก้าก็แพ้ทางมารยาทหญิง เอ้ย มารยาหญิงตลอด รวีไปฝึกมาใหม่นะ น้องต่ายดูท่าจะฝึกปรือมาดี


ใบบัวน่ารัก 2 ต.ค. 2557, 18:59:17 น.
ฮือๆๆๆเค้ากลัวนะ เก้ามาแกล้งเค้าทำม่าย
ฮือๆๆๆๆๆๆ โป้งแย้ว


บุลินทร 3 ต.ค. 2557, 00:39:45 น.
กินข้าวอยู่หรือ ทำไมลงช้า


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 22:37:07 น.
ตัวนุ่มจุ้บพี่เก้าเรอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account