ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๔.๕ สู่ฤกษ์โจร(จบ)

มองซ้ายมองขวา
วันนี้ตื่นมาไม่มีคนทวงนิยายรอบดึก อสิตาเลยมาช้า...
คุณผักชี – กุเต่ยยั่วผช.ไม่เป็นแน้ ข้าเจ้าทำมันออกมาจากใจกิ้งงงงๆ //ห้ามผ่าท้องกระต่าย
คุณภาวิน – พี่เก้าน่าจุ๊บนะ เป็นผช.หวงตัวพอประมาณที่น่าปล้ำ นางกระต่ายจัดไป

คุณเกดนุ่ม – โหย แครอทตั้งเก้านิ้ว ตัวนุ่มกินไม่ไหวหรอก แบ่งกันนะเกดนุ่ม เอาไหมๆ
คุณเลิฟหมวย – ใครจัดการใคร อะไรยังไง ค้า รอบทหน้าสวีทกว่านี้อีก
คุณยิ้มยิ้ม – ชื่อจริงของตัวนุ่ม แน่นอนว่าเป็นตัว น.หนู พี่เก้าแพ้น้ำตาผู้หญิงคนนี้คนเดียวมั้ง

คุณสุขุมวิท 66 – ใช่แล้วเคยเจอกันมาก่อน ชาตินี้ก็เจอนะ ความจริงจะค่อยๆเผยออกมา
คุณหนอนจัง – พี่เก้าไม่ได้รักษาตัวขนาดนั้นนะ อาจมีบทอยากจับกระต่ายกดกะทันหันก็ล่าย
ตัวนุ่มเป็นเด็กมีปัญหา กอดนุ่มหน่อยนะ

คุณโกลเด้นซัน – ตัวนุ่มพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แก้ปัญหาด้วยการจุ๊บ รักกานๆๆ วิธีการเล่นของรวี
อาจเล่นด้วยการถอย หุหุ ยังไงกันๆ
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – เวลาดูตัวละครอสิตา มีเคล็ดลับคือให้ดูที่บทความคิด มากกว่าคำพูดหรือแอคชั่นค่า
รวีต้องฝึกมาใหม่ละ มารยาสู้กระต่ายไม่ได้เลย เพรากระต่ายใช้ใจจริง เหรอ??

คุณใบบัวน่ารัก – อ้าว คนนี้อินจัด กลายเป็นกระต่ายไปซะแล้ว พี่เก้าไม่ใช้มีดหรอกนะ แค่ใช้อ้อมกอดเอง
คุณหมีหน้าคน – ใช่เลย วันนี้กินข้าวก่อนค่อยโพสต์ ตื่นมาเหนื่อยๆหิวๆระดับนึง
-------------




ตัวนุ่มร้องไห้และร้องไห้ ยึดคนที่กำลังจะเกลียดเธอตรงหน้าเอาไว้แน่น
อย่างเห็นเขาเป็นที่พึ่ง เขาไม่มีวันเข้าใจ อ้อมกอดที่โหดร้าย
ถ้อยคำที่โหดร้าย แต่เขาก็ยังกอดเธอไว้

“ตัวนุ่ม”

บางทีก็อยากให้เขา...เรียกชื่อ ชื่อจริงๆของเธอ ให้เขามองมาเห็นตัวตนจริงๆของเธอ
แต่ยังไงเธอก็คงเป็นได้แต่เพียงกระต่าย เป็นวิญญาณที่เขาเลี้ยงไว้เท่านั้น
เวลาผ่านไปจนเมื่อรู้สึกว่าตนเองร้องจนใกล้หมดแรง
คล้ายอ้อมกอดนี้จะยังโยกไปมานิดๆ บางเบาแทบไม่รู้สึก เก้ากำลังปลอบเธอหรือว่า...
แต่นี่มันเป็นไปได้ยังไงเธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาสัมผัสกับริมฝีปากของเขาที่กำลัง
พึมพำบางอย่างซ้ำๆอย่างไม่ได้ตั้งใจ จับใจความได้คล้ายว่า
หยุดร้อง... นิ่งซะ...หรืออะไรทำนองนั้น

ริมฝีปากนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กกว่าแหงนเงยขึ้นสัมผัสโดนแก้มชายหนุ่มผะแผ่ว
กึ่งตั้งใจ กึ่งไม่ได้ตั้งใจ เป็นการเคลื่อนไหวไปตามใจเรียกร้องเสียมากกว่า
เธอรู้สึกว่าเขาสะดุด มีเสียงเล็ดลอดออกมาคล้ายอุทานบางเบาในคอ
ถ้าเพียงแต่เธอขยับอีกนิดเดียวเท่านั้น ริมฝีปากก็จะพบกัน


‘กันผู้หญิงคนนั้นไปห่างๆ แล้วขโมยวิญญาณมันมาไว้ในมือให้ได้
ก็แค่ยั่วยวนให้มากหน่อย ต่อให้พระอิฐพระปูนแค่ไหน มันก็ยังเป็นผู้ชาย’

คำสั่งนั้นวูบเข้ามาในจิตสำนึก พาให้หญิงสาวชะงักค้าง

ลมหายใจนพคุณพลอยติดขัด
เขากำลังรอ...
ไม่รู้ว่ารออะไร
ก็รอให้เธอไปต่อน่ะสิ พอไปไกลเกินกว่านี้เขาจะได้ผลักไสออกไปซะ
แต่ยายตัวนุ่มในอ้อมแขนเหมือนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรด้วยซ้ำ
คล้ายเด็กเล็กๆกำลังละเมอหาไออุ่น แต่เขาไม่ใช่แม่กระต่าย
ถึงไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหน แต่เขาก็เป็นผู้ชาย

สัมผัสของผู้หญิงเขาไม่เคยกลัว แต่ไม่ต้องมีก็ไม่เห็นเป็นไร มันไม่จำเป็น
เพราะไม่ได้อยากจะรักใคร ไม่อยากเห็นน้ำตาจากดวงตาที่อาจไหลออกมา
เมื่อความรักหมดสิ้นความสวยงาม หรือเมื่ออ่อนแอเรื่องอะไรก็แล้วแต่
ทว่าพอคนในอ้อมแขนนี้ร้องไห้ เขาก็หงุดหงิดใจ
เธอจะต้องร้องไห้ต่อหน้าเขาคนเดียว! ต้องยอมบอกให้เขาช่วยจัดการ
ไม่ใช่เก็บกดมันเอาไว้ นั่นก็เพราะ...เธอเป็นคนในความปกครองของเขา!

ทว่าริมฝีปากนุ่มกลับหยุดนิ่งแข็งค้างชายหนุ่มหน้าแดงจัด เกือบหลุดถามทำไมถึงหยุด
ถ้าสมองไม่สั่งการให้ใช้ฟันขบปากจนอยู่เฉยได้ทัน

“เก้า ถึงไม่มีหลักฐานอะไรแต่อยากให้เชื่อใจได้ไหม ว่าสุดท้ายไม่ว่ายังไงฉัน...
จะอยู่ข้างเก้าคนเดียว” เสียงพูดอู้อี้ยังเจือสะอื้นไม่คลาย

คนฟังเกือบแย้งว่านี่มันไม่มีเหตุผลอย่างที่สุด แต่ที่เขาทำก็คือการผ่อนลมหายใจ
พร้อมกับพยักหน้านิดหนึ่งแค่พอให้ฝ่ายในอ้อมแขนรู้สึก เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
กับคนที่ทำตัวน่าสงสัยตลอดมาและจะทำต่อไป เขาก็ยังยอมเอาเธอไว้ข้างกาย
เกมนี้กว่าจะคิดได้คงต้องรอให้เงาหัวไม่มีเหลือ

ถึงตอนนั้นชีวิตหมดแล้วจะเป็นยังไง ก็คงไม่เหงา
ไม่แย่มากละมัง... ก็ในเมื่อก็ยังมีเธอเป็นผีอยู่ข้างๆอีกทั้งคน?



เลยครึ่งคืนค่อนคืนมานานแล้ว ทว่าชั้นล่างที่เป็นห้องกระจกของบ้านสวนที่ปทุมธานี
ของครูฤทธิ์ยังคงเปิดไฟสีส้มวับแวมสว่างวาม ดูเผินๆเหมือนอาจารย์มหา’ลัยวัยหลังเกษียณผู้นี้
กำลังนั่งทำบายศรีดอกไม้ไหว้พระอยู่ลำพังด้วยสีหน้าสงบ แต่หากใครบังเอิญจะมีตาดู
ได้ลึกลงไปกว่านั้น จะเห็นเด็กกุมารน้อยผมแกละสีหน้าแย้มยิ้มพริ้มเพราคอยเป็นลูกมืออยู่ด้วย

“ค่อยๆเช็ดใบตองดีๆล่ะเจ้าทราย เอาให้เรี่ยม”

“จ้ะพ่อฤทธิ์” กุมารน้อยที่นั่งเอี้ยมเฟี้ยมเอ่ยตอบ
“วันนี้แซมดอกอัญชัญเหมือนเดิมนะจ๊ะ ทรายเก็บมาแล้ว”

ผู้อาวุโสเหลือตามอง ยิ้มออกมานิดหนึ่ง เจ้ากุมารน้อยเดาใจว่าเขาชอบดอกไม้ชนิดนี้
จึงพยายามจะเอาใจ “ดอกไม้ทุกอย่าง เบ่งบานแล้วก็ย่อมจะโรยราไป เหมือนๆกัน...”
ชายชรารำพึง

คนฟังแย้มยิ้มเห็นฟันเขี้ยวคู่เล็กๆส่อเค้าร้ายกาจที่ซุกซ่อนไว้
“นั่นสิ ดอกไม้ไหว้พระเฉยๆก็พอแล้ว เดี๋ยวก็เหี่ยว พ่อนั่งทำเป็นบายศรีเสียสวยจริง”

“เอ็งนี่ไม่รู้อะไร พ่อเคยบอกไปตั้งหลายหนละ จะบอกยาวๆอีกหน
ทุกขณะที่เราน้อมใจให้ประณีตไปกับการประดิษฐ์บายศรีบูชาพระ
มันก็เหมือนกับได้ขัดเกลาตัวเอง ได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งเย็น ไม่รุ่มร้อน
การทำอะไรด้วยใจนั้นถือเป็นการขัดเกลาจิตวิญญาณทั้งหมด”

“พ่อนี่แก่สอนจริง หูชาเลย” เด็กชายตัวเล็กทำท่าตะกุยหู อั้นคำพูดว่า มิน่าพี่เก้าถึงได้หนี ไว้ทันท่วงที

เห็นกุมารน้อยเขาทรายมานั่งพับเพียบเช็ดใบตองอย่างแสนเชื่อฟัง แต่ก่อนนี้น่ะหรือ
กุมารทองที่ทรงฤทธิ์เลื่องลือไปทั่วแผ่นดินมาแต่ครั้งไหนๆนอกจากเขาแล้วหาได้มีใครอื่น
...สมัยตกไปอยู่กับนายคนนั้น นายคนนี้ ตอนดื้อๆยังเคยสำแดงตนยืดตัวเป็นเปรต
มือเท่าใบลานตบใส่บ้องหูเจ้าของจนล้มกลิ้งร้องไห้จ้าคลานหนีมาแล้ว
ใช่ว่าจะเรียบร้อยอย่างนี้กับคนที่ไม่คู่ควร

แต่ช่วงนี้ครูฤทธิ์ดูจิตใจไม่ใคร่มั่นคงเหมือนเก่า คล้ายคิดถึงห่วงใยใครบางคนอยู่ไม่คลาย
เห็นบิดาตนหงอย ลูกเลี้ยงอย่างเขาทรายก็อยากจะช่วยคลายอารมณ์ให้บ้าง
มีก็แต่ความกวนอันเป็นสมบัติส่วนตัวมาร่วมร้อยปีแล้ว
ก็อดไม่ได้ที่จะงัดมันออกมาปัดฝุ่นเกลาสนิม...


“กาเหว่าเอย--- ไข่ให้พ่อกาฟัก พ่อกาก็หลงรัก คิดว่าลูกในอุทร”
เด็กกุมารผมแกละขับลำนำหงุงหงิงเจื้อยแจ้ว รู้อยู่แก่ใจดีว่าพ่อฤทธิ์กำลังห่วง
ลูกชายปลอมๆอีกคนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน“...คาบเอาข้าวมาเผื่อ
คาบเอาเหยื่อมาป้อน ถนอมไว้ในรังนอน พ่อจะสอนให้เจ้าบิน”

กลางดึกสงัดวังเวงเช่นนี้ หากชาวบ้านคนไหนหูดีเผลอตื่นมาได้ยินเสียงเด็กร้องเพลงเข้า
ไม่แน่ว่าจะต้องขนหัวลุกหรือล้มหมอนนอนเสื่อจับไข้หัวโกร๋นไปทีเดียว

“พอๆ ดึกดื่นแล้ว” ครูฤทธิ์จุปากให้เจ้าตัวดีเงียบเสียงลง

“ฮิๆ เพลงกล่อมลูกก็ต้องร้องตอนมืดสิจ๊ะ”

“แต่เอ็งร้องผิดเจ้าทราย แม่กาหรอก ไม่ใช่พ่อ”

“โธ่พ่อฤทธิ์ ลูกเล่นมุกแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ...” เด็กชายแสร้งหน้าม่อย แต่ยังอมยิ้มไม่คลาย

ผู้อาวุโสถอนใจ ไอ้เข้าใจน่ะเข้าใจ แต่ไม่อยากแสดงท่าว่าใส่ใจ แม้จะถูกเจ้าเด็ก
ปั้นสีหน้าไร้เดียงสานี่รู้แกวเข้าแล้วก็เถอะ เด็ก... ที่แม้จะอยู่มาถึงร้อยกว่าปี
แต่หากจิตใจถูกทอดทิ้งไว้ที่เก่าไม่ยอมเติบโต อายุเท่าไหร่ก็จะยังเท่านั้น
เหมือนมนุษย์มีชีวิตบางคนแก่เพียงเพราะอยู่นาน

แต่จู่ๆเขาทรายก็เอ่ยเปลี่ยนเรื่อง กลับเป็นสิ่งที่ตั้งใจจะพูดมาตั้งแต่เย็น

“พ่อ ทรายขออะไรอย่างได้ไหม?พ่อบอกว่าจะไม่ช่วยพี่เก้า แต่ถ้าคนไปช่วยคือทราย คงไม่ผิดใช่ไหมจ๊ะ”

ผู้สูงวัยหยุดมือซึ่งกำลังแซมดอกพุดเข้ากับโครงพุ่มบายศรี
“ข้าไม่เคยสอนให้ลูกหลานที่เลี้ยงไว้ในบ้านทำเรื่องไม่ดี”

“แต่พี่เก้าตอนอยู่ที่นี่...เป็นคนดีออกจะตาย”

“นั่นมันอาจจะเป็นอดีตไปแล้ว เด็กเอ๋ย”

“ไม่จริงหรอก ถ้าพี่เก้าเป็นคนเลวไปแล้วจริงๆ พ่อจะไม่ห่วงขนาดนี้”

“เนื้อใจที่ดี แต่ตัดสินใจปล่อยตัวก่อเรื่องเลวทราม มีประโยชน์อะไร”

“ลูกจะไปหาพี่เก้านี่ไงล่ะ”

“เอ็งสู้มันได้หรือ จะไปรอรับคำสั่งโจรของมันน่ะนะ”

“ถ้าวิธีตรงไปตรงมาทำให้พี่เขาหยุดไม่ได้ ไปอยู่ข้างๆ ...ถึงจะทำตามคำสั่ง
แต่ก็คงช่วยสะกิดให้พี่เขาคิดได้ในสักวัน” ยามพูดคิดเช่นนั้นจริงครึ่งหนึ่ง
แต่อีกครึ่งเห็นจะเป็นอยากทำเรื่องสนุกไปตามประสา เขาทรายอยากดู
มานานแล้วว่าพี่ชายของตนหายหน้าไปทำอะไร “พี่เก้าต้องได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่ช้าก็เร็ว...”

สุดท้ายเมื่อได้รับอนุมัติกุมารน้อยกระโดดโลดเต้นออกมานอกชานเรือน วิ่งพ้นตัวบ้าน
ก่อนร่างอันตรธานหายยังไม่วายเหลียวหันไปมองหลังคาที่เคยคุ้มหัวมานานปี
ภาพตรงหน้าคือเรือนหลังเล็ก แต่อบอุ่นกว่า...ไม่ว่าจะเทียบกับเรือนไหนๆ
ที่เคยผ่านในชีวิตเก่าก่อน แม้แต่เรือนไม้ดำของพระยาผู้น่าหวั่นเกรง
ซึ่งยังไม่เลือนหายจากความทรงจำ

ชั่วขณะนั้น เสียงกาเหว่าหลงรังเพลินราตรีแว่วไกลกระทบโสต เด็กชายหลับตานิ่งลงสดับ
เขาเองก็เป็นลูกนกกาเหว่าตัวหนึ่งเช่นกัน



กระจกรัตติกาลอันสั่นไหวกำลังสะท้อนภาพความทรงจำหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดในชีวิตนพคุณ
คือความจำของวันนั้นที่เขากับเป็นเอกรวมกันทำงานปล้นใหญ่ครั้งแรก ณ ตึกสำนักงานใหญ่
ซึ่งมีความสำคัญสูงสุดกับอดิเรกกรุ๊ปมันตั้งอยู่ติดริมถนนย่านห่างออกไปจากตัวเมืองเล็กน้อย
อลังการสวยงามจนเป็นที่ริษยาขององค์กรคู่แข่ง มีมาตรการดูแลอย่างดีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

ทว่าคืนนั้น...พวกเขาระเบิดมันทิ้งสำเร็จ ไม่ถึงกับทลายราบ แต่ก็เป็นข่าวคึกโครมไปทั้งประเทศ

เก้ากับเอก สองคนเพื่อนตายกำลังไถลตัวเคียงข้างกันไปในช่องทางโอ่โถงของตึกที่กำลังสิ้นสภาพ
พวกเขาประกาศเตือนพวกรปภ.ให้หนีออกไปตั้งแต่ก่อนนี้แล้ว
ใครยังมัวพะวงจนตัวตายอยู่ในนี้ก็ถือว่าทำตัวเอง!


พื้นลื่นวาว เท้าสองคู่พาเจ้าของร่างไถลไปบนรองเท้าคล้ายโรลเลอร์เบลด
เฉียดแฉลบตัดหน้าสลับสับขากันไปมาราวคู่สเกตน้ำแข็งระดับโลก
เพียงแต่ลานที่พวกเขากำลังประชันฝีมือกันไม่ใช่ลานน้ำแข็งแต่กลับเป็น
สนามพระเพลิง บางทีก็ต้องกระโดดข้ามกระบิของเศษตึกที่ร่วงลงมาขวาง
ทั้งร่างใส่ชุดกันไฟ หมวกครอบแว่นตาป้องกันมิดชิด บาดเจ็บรึ ก็มีบ้าง
แต่ความรู้สึกในตอนนั้นมันจิ๊บจ๊อยเหลือเกิน
เหมือนหยดน้ำในฤดูร้อนที่วาบเดียวก็ระเหยหาย

สนุก ระห่ำ ไม่มีหยุดยั้ง... แทบไม่พักหายใจ

ตัวตึกบางส่วนกำลังถล่มลงมา พาให้หน่วยดับเพลิงและกู้ภัยต้องถอยหนีเหลือแต่พวกเขา
ที่ใช้ชีวิตหนึ่งชีวิตเดียวที่มีอยู่นั้นอย่างไม่กลัวตายสุ่มเสี่ยงบนหนทางโจร

เอกก็คือเลขหนึ่ง มึงหนึ่ง กูเก้า... นับหนึ่งถึงเก้า คือเวลานำโชคของเรา
เขาเคยบอกเพื่อนที่เอาแต่ฟังแล้วหัวเราะ

ชั่วขณะที่กำลังจะดีดตัวพ้นตึก เสียงหินถล่มหรืออะไรบางอย่างเสียดลงมา
ดังกรีดก้องแสบหู พานพคุณสะดุด กระชากแขนเพื่อนกะทันหันให้หมุนตัวกลับลำตาม
แทบจะหัวขวิดไปด้วยกัน ที่ยังทรงตัวอยู่ได้ด้วยทั้งคู่ต่างมีทักษะทรงตัวเป็นเลิศเกินมนุษย์

‘เสียงอะไรวะ ยังกับ...เสียงผู้หญิง’

‘เหล็กระเบิด โลหะบิดตัว จะอะไรซะอีก ไป! รีบไปได้แล้ว มัวเอ้อระเหย
เดี๋ยวไอ้ชาก็สวดเอาอีก ตั้งแต่พ่อกูตายไปมันนี่แหละพยายามจะมาเป็น
พ่อคนที่สองของกู’
เป็นเอกหัวเราะแล้วลากคอนพคุณให้พากันมุ่งไปตามทางหนี โดดทะลุกระจก
พุ่งลงคลองด้านหลัง ถอดรองเท้าโรลเลอร์เบลดเหวี่ยงทิ้งน้ำกลางอากาศ
ชุดทนไฟที่สวมกลายเป็นชุดสะเทินน้ำสะเทิ้นบกได้เป็นอย่างดี

น้ำช่วยล้างความร้อนรุ่มของไฟลงได้หมดสิ้น เหมือนกับที่ล้างเสียงกรีดก้อง
ซึ่งสะท้านเข้าหูนั้นทิ้งไป ราวกับเขาไม่เคยได้ยินมัน

ทว่าคืนนี้ เสียงนั้นแหวกอากาศดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ปลุกให้ชายหนุ่มตาตื่นโพลง

เขาหายใจหอบ สำรวจพบว่าในอ้อมแขนมีกระต่ายที่กำลังหลับอยู่ตัวหนึ่ง
ตัวเล็กมากเสียจนเหมือนลูกซาลาเปาขนฟูก่อนนอนเขากับแม่ตัวดีได้รื้อฟื้น
สัญญาเรื่องที่ว่าถ้าแม่คนนี้ทำให้เขาช่วยเป็นเอกออกมาสำเร็จ
เขาจะทำอะไรตอบแทนให้อย่างหนึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเธอจะช่วยได้ยังไง
และจะเรียกร้องอะไร คงต้องพยายามวางใจในสัญญิงสัญญาที่มีต่อกันให้ได้อีกครั้ง
...วัดดวงเอาแล้วกัน

ชายหนุ่มลูบคลำขนนิ่มปุยในมือ ค่อยรู้สึกผ่อนคลายและง่วงงุนลงอีกครั้ง
จิตสำนึกจึงปลดปล่อยเสียงกรีดร้องที่คิดว่าได้ยินนั้นให้จมดับลงอีกครา



รุ่งขึ้นกานต์รวีตื่นแต่เช้า ยังดีหน่อยที่ได้รับอีเมลว่าเธอจะยังได้แสดงเป็นนางเอกละคร
เรื่องที่ตนฝ่าฟันเพื่อให้ได้บทมาไว้ในมือ แม้จะต้องเลื่อนกำหนดถ่ายทำไปก่อน
...เปลี่ยนฉากแพ เปลี่ยนผู้กำกับ เพราะพี่ทิมขาเก่าเปิดแน่บหนีไปแล้ว
บอกว่าไม่เอาแล้ว แน่ละ เขาหนีได้เพราะหนีไปไหนก็ยังมีตำแหน่งเป็นผู้กำกับ
แต่เธอสิ หนีไม่ได้ เพราะคำว่านางเอกมันห่างหายไปนานเต็มที กว่าจะได้มา
ก็ต้องลงแรงไปไม่น้อยในการกำจัดเสี้ยนหนามตำใจ

หญิงสาวล้างหน้าแปรงฟันแล้วเปิดหาอะไรกินง่ายๆจากตู้เย็นชั้นบน
คิดแล้วก็คิดอีกว่าควรหาทางคุยกับนพคุณให้รู้เรื่อง เกี่ยวกับนางผีร้าย
ที่ครอบงำเขาอยู่ นั่งคิดไปคิดมาในห้องประชุม มองนาฬิกาเห็นว่าสองโมงกว่าแล้ว
แต่ยังไม่มีใครตื่น เธอจึงเดินลงมาชั้นล่างอย่างใจร้อน หมายจะไปเคาะห้องนพคุณ
หูพลันได้ยินเสียงเขาอาบน้ำซู่ซ่าอยู่ในห้องน้ำติดครัว

กานต์รวีเลิกคิ้ว ทำใจกล้าระงับความกลัวเปิดเข้าไปในห้องนอนชายหนุ่ม
เงาอะไรบางอย่างสีขาวว่อบแว่บฟุ่บหายไปทางหมอนหนุนใบหนึ่ง
แต่ที่อยู่ตรงนั้นกลับเพียงมีเหรียญทองเหรียญงามนอนสงบ แววประหลาด
ที่ทอดทอกลับชวนให้ขนลุก มือเรียวขาวควานได้ผ้ายันต์ที่นพคุณเคยแจกจ่าย
ให้ทุกคนในทีมพกติดตัวไว้ ตะครุบคว้าลงไปยังเหรียญ ถึงกลัวแค่ไหน
แต่คนอย่างเธอเพื่อให้สิ่งที่ต้องการประสบผล ไม่เคยถอยอยู่แล้ว!

“ทำอะไร รวี”

ผู้บุกรุกสะดุ้งสุดตัว หันไปมองประตู ชายหนุ่มที่แต่งตัวเต็มยศแล้วกำลังเช็ดผมให้แห้งยืนอยู่
เห็นลักยิ้มขึ้นชัดที่สองข้างแก้ม แม้ว่าสีหน้าที่เขาแสดงเวลานี้จะไม่ใช่ยิ้ม แต่เป็นเม้มริมฝีปาก
อย่างสะกดกลั้น รอคอยคำตอบ

“มีเรื่องจะถาม” หญิงสาวทำเสียงเข้ม กอดอก ใช้แขนกดบังไว้ขณะที่มือใต้แขน
ยังกำขยุ้มเหรียญที่ถูกหุ้มห่อด้วยผ้ายันต์สีแดงคร่ำไว้แน่น “ผะ ผีตัวที่เก้าเคยแบบว่า...
เลี้ยงไว้ตั้งแต่อยู่คอนโด มันยังตามติดอยู่ตลอดเหรอ” เสียงหญิงสาวพร่าลงน้อยๆ

นพคุณขมวดคิ้วมองคนที่ตีบทไม่แตกเมื่อมีเรื่องผีสางเข้ามาเกี่ยว ก่อนตอบไม่อ้อมค้อม
“อย่าเรียกว่ามัน ตัวนุ่มเป็นเพื่อน ไม่ต่างกับเธอแล้วก็คนอื่นในทีม”

“ชื่อพิลึกกึกกือ คน เอ๊ย...ผีอะไรชื่อตัวนุ่ม” กานต์รวีไม่วายทำเสียงเยาะทั้งที่กลัว
“เมื่อคืนรวีเห็น... ไม่สิ เรียกว่าโดนหลอก เก้าต้องจัดการ! จะให้มาอยู่ร่วมกับผีร้ายแบบนี้รวีไม่ยอม”

“หลอกอะไรตอนไหน ก็แม่นั่นอยู่กับผมทั้งคืน”

ทำพูดที่แล่นเข้าหูยิ่งทำให้กานต์รวีหัวเสียจนลืมเรื่องกลัวไปชั่ววูบ “บ้าแล้ว! เลี้ยงผีไว้ทำเมียหรือไง”

“คืนไอ้ที่อยู่ในมือมาก่อน กานต์รวี” นพคุณแบมือคลี่ยิ้มเย็น
เรียกชื่อคนตรงหน้าเต็มยศ บอกให้รู้ว่าเขาเอาจริง

“ไม่ ไม่คืน รวีจะเอามันไปทิ้ง อ๊ะ เก้านี่!” หญิงสาวถูกจับบิดมือบิดแขนไม่กี่ที
ไม่ทันรู้สึกเจ็บเขาก็ฉกเอาเหรียญไปได้ที่สำคัญ แทบไม่แตะโดนช่วงตัวเธอเลยด้วยซ้ำ
ดูเป็นการรังเกียจกันจนกานต์รวียิ่งลมออกหูเมื่อมองภาพเขาเดาะเหรียญเล่น
ในขณะที่ผ้ายันต์ยังค้างอยู่ในมือเธอดังเดิม

“ถึงตัวผมจะเป็นโจร แต่อะไรที่เป็นของตัวเองนี่หวงมาก แค่ได้แตะก็บุญแล้ว
เรื่องจะชิงเอาไปต่อหน้า...อย่าหวัง”
ชายหนุ่มทำทีเช็ดถูทำความสะอาดเหรียญ เป่าทีสองทีแล้วสอดเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง

“รวีไม่อยู่ร่วมกับผี! เก้าคงต้องเลือกแล้วละ ว่าจะเอาเพื่อนร่วมทีมหรือว่านังผีบ้านั่น”
หญิงสาวแค่นเสียง และยิ่งโกรธจัดขึ้นอีกเมื่อเห็นสีหน้านพคุณ สีหน้ากึ่งยิ้ม
กึ่งลำบากใจของเขาบอกชัด...ที่เลือกไม่ใช่เธอ! แต่ก็ยังถนอมน้ำใจเกินจะพูดออกมา
เขาอาจรอให้เธอคิดใหม่ รอให้เธอเปลี่ยนใจ แต่อย่าหวังเลย

“โอเค เลือกมันใช่ไหม งั้นรวีจะไป! เราแยกทางกัน...ชั่วคราว เผื่อว่าเก้าจะคิดได้ทีหลังน่ะนะ”
หญิงสาวฮึดฮัดแต่ยังเปิดทางถอยไว้“ว่าแต่วันนี้มีแผนจะย้ายไปที่ไหนกัน”

“ถ้าจะแยกกันตรงนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องรู้แล้วว่าเราจะไปไหนเรื่องนั้นเป็นความลับทั้งหมด”
นพคุณส่ายหน้าอย่างไม่มีทางเลือก คนที่เป็นฝ่ายตัดรอนไม่ใช่เขา การจะให้ทิ้ง
สาวฟันกระต่ายตัวยุ่งผู้ซ่อนความอ่อนแอไว้เต็มอกเขาไม่มีทำได้ลง
เมื่อคืนเธอร้องไห้เหมือนมีเรื่องอะไรร้ายแรงสักอย่างในใจ

กานต์รวีโกรธจนสั่นไปทั้งตัว หญิงสาวไม่อยากพูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว
เธอเชิดหน้า...นพคุณจะต้องเสียใจอย่างใหญ่หลวง ที่กล้าทำแบบนี้!

ทว่าชายหนุ่มกลับเป็นฝ่ายรั้งแขนหญิงสาวเอาไว้ ดึงให้หันมาเผชิญหน้า
“คุยกันก่อน กานต์รวี”


...
พักใหญ่จากนั้น กานต์รวีอาละวาดจนทุกคนตื่นหมดจึงค่อยเรียกแท็กซี่มารับตน
ที่ขนของกระฟัดกระเฟียดจากไป เมื่อหญิงสาวที่นิสัยไม่ค่อยจะดีแต่เปล่งรังสี
สว่างไสวลับกาย ตัวนุ่มจึงค่อยปรากฏตัว วิญญาณสาวยืนเกาะแขนเสื้อนพคุณอยู่ด้านหลัง

ไปแล้ว... ในที่สุดก็กำจัดแม่นั่นไปจากข้างกายเขาได้แล้วในที่สุด

คราวนี้...
หวังว่าคุณพ่อจะชมเราบ้างที่ทำงานได้ดี...




{โปรดติดตาม... บทที่ ๕ ความสุขที่หมุนไป}



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ต.ค. 2557, 02:48:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2557, 04:19:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1151





<< ๔.๔ สู่ฤกษ์โจร   ๕ ความสุขที่หมุนไป >>
ภาวิน 3 ต.ค. 2557, 03:42:35 น.
ชอบน้องเขาทราย นั่งพับเพียบเรียบร้อยเช็ดใบตอง เรื่องนี้ควรแจกกุมารทองเป็นที่ระลึกนะ


yimyum 3 ต.ค. 2557, 06:04:55 น.
เมื่อไหร่ตัวนุ่มจะดีกะบพี่เก้าบ้างอะ ทำไมต้องเชื่อฟังพ่อขนาดนั้น


lovemuay 3 ต.ค. 2557, 06:47:53 น.
สงสารพี่เก้าน้า ถึงปากตัวนุ่มบอกว่าจะไม่ทำร้าย แต่ตัวนุ่มก็ไม่ได้ช่วยนิ


ketza 3 ต.ค. 2557, 06:55:08 น.
พี่เก้าเริ่มน่าฉงฉาน ตัวนุ่มก้ด้วยยยย
พี่เก้าจิโกรธตัวนุ่มอีกม๊ายยยยย

... เหอๆๆๆ ตอนนี้เริ่มหวั่นไหวกันทั้งคู่แบ้ววว เลิฟๆๆ


Chii 3 ต.ค. 2557, 09:04:22 น.
เห็นมั้ย...กระต่ายน่าโดนผ่าท้องออก
//แสยะยิ้ม


ริญจน์ธร 3 ต.ค. 2557, 10:33:00 น.


บุลินทร 3 ต.ค. 2557, 10:56:26 น.
ตัวนุ่มร้องไห้และร้องไห้ อารมณ์แบบงุงิมากอะ ฮ่าๆๆๆๆ ตอนอ่านเสียงในหัวเป็นเสียงแบบซีรี่ส์เกาหลี


ใบบัวน่ารัก 3 ต.ค. 2557, 12:59:28 น.
ตัวนุ่มใจร้าย เห็นพ่อดีกว่าเก้าอีก
จับผ่าท้องย่างแบบไก่ย่างดีกว่า น่าอร่อย


ดังปัณณ์ 3 ต.ค. 2557, 18:18:44 น.
เอ้า! รวีไปแล้วอ่า จิเกิดไรกับอิพี่เก้าหนอ ว่าแต่ ครูฤทธิ์ไปเกี่ยวอะไรกับพระยาดำอีกล่ะ อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขุ่นแม่กุเต่ยทำให้เดาไม่ถูกเลยว่าทั้งหมดนี่เกี่ยวกันยังไง งอแงๆๆๆๆๆๆ แกล้งหนอนนนนนนนนน

อ๊ะ(อีกละ) ถึงรวีไปแต่เขาทรายมาแทน งานนี้ท่าจะมันส์ แต่แหม มีนอนกอดกุเต่ยด้วยอ่า อั้ยๆๆๆๆๆๆ เก๊าเขิลน้าพี่เก้า เก๊าเป้นสาวเป็นนางมานอนกกนอนกอดได้งาย ฮี่ๆๆๆๆ

ทำไมได้กลิ่นตุๆ ว่าพระยาดำ กับ คนที่อีกคนที่สั่งกุเต่ยนี่ มันมีเป้าหมายต่างกัน แล้วเสียงตอนตึกถล่มนั่นไม่อยากคิด จะวึ้ย หรือมันเป็นสาเหตุให้ตัวนุ่มต้องไปนั่งตายซากเป่าเทียนในห้องนั้นล่ะเนี่ย เห้อ ขี้เกียจเดา มะไหร่จะออกเป็นเล่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม 555+


goldensun 3 ต.ค. 2557, 18:40:19 น.
สัญญาตัวนุ่มเชื่อถือได้มั้ยเนี่ย งานสำเร็จ กันรวีออกไปจนได้ เข้าทางเลย
แล้วต่อไปเก้าจะเจออะไรบ้าง แล้วเขาทรายไปไหน จากครูมาตอนกลางคืน เช้าแล้วยังไม่เจอเก้าเลย
เสียงกรีดร้องอีก เก้าได้ยินจริงรึเปล่า เสียงใคร


นักอ่านเหนียวหนึบ 4 ต.ค. 2557, 01:43:25 น.
อย่างน้อยน้องทรายคงมาช่วยอะไรพี่เก้าได้บ้างแหละเนอะ เอ๊ะ หรือจะพากันไปวิ่งเล่นแทนนะ เห้ออออ
พี่เก้าก็ดูปลงชีวิตดีนะ แหม่ๆๆๆๆๆ แอบชอบตัวนุ่มสินะ ถึงได้ไม่เสียดายชีวิตเลยนะ อยากจะไป เป็นวิญญาณติดเหรียญดูบ้างละสิ


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 23:02:13 น.
กบฏพ่อบ้างสิตัวนุ่ม
เข้าข้างเฮียเถอะ
ออกจะน่า เข้าข้างขนาดเน้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account