ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๕ ความสุขที่หมุนไป

คุณภาวิน – เออ แจกกุมาร เข้าที แต่น่าจะแพงเกินงบนะ ถ้าเลี้ยงแล้วใช้งานได้จริงแบบนี้คนเขียนก็อยากเลี้ยง
กลัวจะได้ผีไม่มีญาติมาอยู่ด้วยมากกว่า
คุณยิ้มยิ้ม – ตัวนุ่มอาจจะแค่ไล่รวีไปเพราะหึงก็ได้นะ แต่ก็ไม่อยากโดนพ่อลงโทษ ผลพลอยได้อะนะ
คุณเลิฟหมวย – ตัวนุ่มอาจพยายามช่วยแล้วแต่เฟลทุกครั้ง เพราะดวงมันต้องเป็นแบบนี้
เดี๋ยวเรื่องนี้จะมีบอกทีหลังว่าอะไรยังไง

คุณเกดนุ่ม – เอาใจช่วยตัวนุ่มด้วยน้า ต้องอ้อนพี่เก้า ตัวนุ่มอยากให้พี่เก้ารัก อุจิ๊ ตัวนุ่มลำบากจาย
คุณผักชี – เวลาดูตัวละครต้องดูความคิดทั่วๆที่บรรยายไว้จิคุณผักชีรากเน่า เรื่องกลัวพ่อโกรธ
ไม่อยากเจ็บตัว มันก็ความคิดปุถุชนธรรมดาค่า(แต่เอามาหลอกคนอ่าน เอ๊ะหรือว่าไม่ได้หลอก)
จิตมันอาจมีจุดมุ่งหมายที่หญ่ายกว่านั้น

คุณริญ – ขอบคุณที่มาเม้นน้าพี่มูน
คุณบุลินทร – ดูเหมือนเรื่องนี้จะมุ้งมิ้งอันดับต้นๆเลยนะที่อสิตาเขียนมา แต่ชื่อเรื่องโหดมาก 55

คุณใบบัวน่ารัก – นั่นไง จะย่างตัวนุ่ม วกเข้าเรื่องของกินอีกแล้ว ท่าทางเราจะชอบเรื่องกินเหมือนกัน
ไก่ย่างใบบัวดีไหมคะ หอมๆ หมกใบบัวแล้วย่างไปพร้อมกัน อุอุ
คุณหนอนระเริง – ครูฤทธิ์รู้ทุกสิ่ง เห็นทุกอย่าง อิอิ เรื่องมันซับซ้อนน้อ เดี๋ยวหนอนต้องชอบเขาทรายแน่ๆ
ตัวตลกแท้ๆ //พี่เก้านอนฟัดกระต่ายจนขนยุ่งไปหมดละ ทีตอนเป็นคนทำเก๊กหวงตัว
โอ้ววว จมูกหนอนไวแท้ พระยาดำกับคนที่สั่งกุเต่ย ใช่แล้ว มีเป้าหมายต่างกัน(จริงหรือหลอกน้า)
เสียงหญิงร้องตอนตึกถล่มนั่นก็คือ...

คุณโกลเด้นซัน – ไม่แน่อาจจะแค่กันรวีออกไปเพราะหึง ตัวนุ่มเชื่อถือได้น้า จริงๆ ทำตาปริบๆ
อะไรนะ ไม่เชื่อเหรออออ เขาทรายตอนนี้ออกมาแล้ว //เสียงกรีดร้องในตึกเป็นเสียงจริงค่ะ
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – เขาทรายเก่งนา ช่วยได้มากเลย แต่ก็อยากวิ่งเล่นด้วย 55
พี่เก้าเริ่มอยากเข้าไปเบียดกะตัวนุ่มอยู่ในเหรียญ ไม่ช่ายละ อิอิอิ






ชายหนุ่มกลับเป็นฝ่ายรั้งแขนหญิงสาวเอาไว้ ดึงให้หันมาเผชิญหน้า
“คุยกันก่อน กานต์รวี”

...
พักใหญ่จากนั้น กานต์รวีอาละวาดจนทุกคนตื่นหมดจึงค่อยเรียกแท็กซี่มารับตน
ที่ขนของกระฟัดกระเฟียดจากไป เมื่อหญิงสาวที่นิสัยไม่ค่อยจะดีแต่เปล่งรังสี
สว่างไสวลับกาย ตัวนุ่มจึงค่อยปรากฏตัว วิญญาณสาวยืนเกาะแขนเสื้อนพคุณอยู่ด้านหลัง

ไปแล้ว... ในที่สุดก็กำจัดแม่นั่นไปจากข้างกายเขาได้แล้วในที่สุด

คราวนี้...
หวังว่าคุณพ่อจะชมเราบ้างที่ทำงานได้ดี...
--------------------------



บทที่ ๕ ความสุขที่หมุนไป

นพคุณเล็งเห็นสุวิชากับเจตน์ไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเขาทะเลาะกับกานต์รวี
จนเธอประกาศถอนตัว แม้จะบอกไม่ได้ว่าชั่วคราวหรือถาวร แต่เพื่อนอีกสองคน
ก็พูดอะไรไม่ออกในเมื่อกานต์รวีเองเป็นคนเชิดหน้าหยิ่งผยองก่อนก้าวเท้าออกจากบ้าน
บอกว่าเธอจะกลับไปแสดงละครซึ่งดีกว่าทำเรื่องปล้นบ้าบอคอแตกเป็นไหนๆ

ทั้งสามคนได้แต่มองตามเงียบงัน...
จวบบ่าย กลุ่มที่เหลือจึงออกเดินทางไปด้วยรถโฟร์วีลคันใหม่เอี่ยมที่เจตน์อาสาไปเช่ามา
แม้ตัวรถและส่วนเก็บของด้านหลังจะกว้างใหญ่ แต่มันก็ยังเต็มแน่นจนแทบเหมือนย้ายบ้าน
เรียกว่าเป็นข้าวของของสุวิชาเกือบทั้งหมด ซึ่งแจกแจงมาว่าคืออุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้

“รถเต็มปริ ถือว่าโชคดีที่ยายรวีไม่มาด้วย ไม่งั้นแค่เสื้อผ้าก็ล้นแล้ว
คนไม่มีที่นั่งชัวร์” คนใส่แว่นพยายามทำตลก

นพคุณไล่สุวิชาไปนั่งหน้าข้างเจตน์ ตัวเขามองไปยังด้านหลังรถเห็นว่า
ด้านหนึ่งเต็มแน่นจากการจับจองของวิญญาณ เขาจึงย้ายตัวเองไปขึ้นฝั่งขวา
ด้านหลังคนขับแทน เมื่อรถออก ชายหนุ่มปรายตาไปข้างกาย

ถูกละ...ที่นั่งอยู่ชิดริมหน้าต่างอีกฝั่งคือผีสาวที่เขาเลี้ยงเอาไว้
แต่ที่มานั่งคั่นแทรกกลางนี่สิ ไม่รู้มันมาเองหรือครูฤทธิ์ส่งมา!
เขายังไม่มีเวลาคาดคั้นเอาความจริง

ไอ้กุมารน้อยเขาทราย อยู่ๆมันก็โผล่มายิ้มเห็นฟันเขี้ยวคู่คุ้นตา
ทั้งทำหน้าทะเล้นเพราะเจ้าที่เจ้าทางคุ้นหน้าว่ากุมารตนนี้ได้รับอนุญาต
ให้เข้าได้โดยสะดวก จึงปล่อยตามสบายไม่มาฟ้องเขาก่อน แถมทำไปทำมา
เจ้าเด็กนี่ยังมาเดินตามยายตัวนุ่มต้อยๆ ก่อนชิงผลุบขึ้นรถ ทั้งทำทีออเซาะ
นอบน้อมเอาใจวิญญาณสาวอย่างน่าหมั่นไส้ ไอ้เด็กเจ้าชู้...

“เฮ้ย ไอ้เก้า” สุวิชาหันกลับมาจ้องพลางขยับแว่นก่อนเอ่ยถาม
“ปกติแกชอบนั่งซ้ายไม่ใช่เหรอ วันนี้นึกยังไง”

เอากับมันสิ... คนหัวใสขี้จุกจิกอย่างนายชา

“เมื่อกี้แดดมันร้อนข้างนั้น”

“เหรอวะ แต่ตอนนี้มันย้ายไปส่องข้างแกแล้วนะแดดน่ะ...บ้าหรือเปล่า”
คนใส่แว่นยังมองมาไม่ละสายตา

นพคุณหันไปสบตาผีสองตนที่นั่งทำหน้าเด๋อด๋าอยู่ ก่อนจะค่อยๆขยับเปลี่ยนที่นั่ง
ไม่คาดว่าทั้งคู่กลับเลือกวิธีทยอยกันขึ้นตักเขาข้ามมาฝั่งขวา เริ่มตั้งแต่ไอ้เขาทราย
จนแม่ตัวนุ่มที่เขาต้องผลักเธอไปกองรวมกับผีเด็กให้วุ่นวาย
ดีที่สุวิชาหันกลับไปแล้วจึงไม่ทันเห็นภาพนั้น

“ทำไมไม่หายตัวเล่า” ชายหนุ่มขยับปากบ่นพึมมองภาพคู่วุ่น
ที่จับคู่กันได้รวดเร็วเหลือเชื่อกำลังหันไปกระซิบกระซาบกันเอง
คล้ายนินทาเขาว่าเรื่องแค่นี้ก็ต้องดุ

สุวิชาที่เหมือนเกิดอารมณ์ห่อเหี่ยวกะทันหันพลันเอ่ยลอยๆ
“เฮ้อ รวีไปอีกคนแล้ว กลุ่มเราจะไหวไหมวะ”

นพคุณเห็นว่าในรถคันนี้เขาสามารถร่ายปิดกั้นการรับรู้ของพวก
พรายกระซิบได้สนิทพอ คล้ายเขตบ้านที่จิตวิญญาณภายนอกไม่อาจบุกรุก
จึงตัดสินใจเอ่ย “ใจเย็นน่านายชา เรามีแผนใหม่แล้ว”

“แผนอะไรของแก” เจตน์เป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง

“ตอนนี้แผนที่ว่าเริ่มดำเนินการไปแล้วด้วยซ้ำ” นพคุณเอ่ยยิ้มๆกับสองคน
ที่กำลังงงและสองผีที่กำลังงัน “แผนมีอยู่ว่า...”



กานต์รวีร้องไห้หนักจนตาแทบจะปิดอยู่ในรถสีแดงเลือดนกคันหรูของหมอสุทัศน์
ไม่ไยดีกับผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ที่ทอมสาวหยิบยื่นให้ด้วยสีหน้าลำบากใจ

สุทัศน์ส่ายหน้ากับคนสวยที่วันนี้ปล่อยผมยาวเลยบ่ารุ่ยร่ายกระเซอะกระเซิง
ไม่มีเวลาจัดทรงให้สวยเช้งอย่างเคย

“หรือพวกโจรนั่นรู้แล้ว ว่าเรามีความลับกัน...”

“จะไปรู้มันเหรอ! รวีไม่สนแล้ว” หญิงสาวสะอื้นฮักอย่างหมดรูป
ใจคิดแค้นเค้นคั้นเอาความรู้สึกพ่ายแพ้ต่อนางผีบ้าออกมาอย่างไม่บันยะบันยัง

“เอาเถอะ ทำใจให้สบายๆ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องตีสองหน้าอีกแล้ว
มาอยู่กับเราเต็มตัว ไม่ต้องไปสนมันอีก ทัศน์จะให้ทุกอย่าง... ทั้งงาน
ทั้งความสำเร็จ ความฝันของรวี” คนพูดเอ่ยพลางลูบหลังลูบไหล่

กานต์รวีลอบเม้มริมฝีปาก ไม่ต้องเหนื่อยงั้นเหรอ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน
เธอก็ต้องเสแสร้งจนเหนื่อยอยู่ดี รอให้ดังก่อน แม่จะเลิกเล่นปาหี่พวกนี้อย่างถาวรไปเลย

ไม่ว่าอย่างไร คืนนั้นกานต์รวีได้ถูกเชื้อเชิญกลับไปสู่วังห้าธาตุอย่างสง่างาม
ในฐานะคนพิเศษของหมอสุทัศน์ หญิงสาวปลอบใจตัวเอง เอาเถอะ
หากต้องเสียตัวให้ทอมก็ไม่ได้มีอะไรสึกหรอลงไปสักกี่มากน้อย
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงหัวใหม่แต่ก็ไม่เคยใช้เรื่องพรรค์นี้ไต่เต้า
ครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกก็เป็นได้...

ทว่ากลับไม่เหมือนอย่างคาด มื้อดึกคืนนั้นมีขึ้นเพื่อต้อนรับกานต์รวีโดยเฉพาะ
ผู้ใหญ่ที่มาร่วมโต๊ะคือปองเกียรติ คุณหมอทศพลบิดาของหมอสุทัศน์
ซึ่งเธอเคยพบแล้วหลายครั้งหมอวัยกลางคนร่างท้วมยังไม่วายส่งสายตา
แทะโลมมาเหมือนอย่างเคย หญิงสาวพยายามทำมองไม่เห็น
หันไปให้ความสนใจกับชายภูมิฐานมีสง่าน่าสนใจที่เธอยังไม่เคยเจอ...

“นี่คุณ... เอ่อคุณอาราเชนทร์”

สุทัศน์แนะนำด้วยเสียงเจือรอยอึดอัดเล็กๆจนแทบจับสังเกตไม่ออก
แต่คนหูไวอย่างกานต์รวีก็ยังรู้สึกได้ เธอไหว้สวัสดีราเชนทร์ซึ่งไม่แม้แต่จะ
ยกมือขึ้นรับหรือพยักหน้า ตาดำลึกในหน้านั้นกลับจับจ้องนิ่งนาน
ก่อนจะเผยยิ้มบางๆบนริมฝีปากทั้งที่ตาไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย
ชวนให้สันหลังลุกวาบ ต่อให้แม้แต่คนกล้า ยังต้องบอกว่าชายผู้นี้น่ากลัว...

ระหว่างมื้ออาหาร มีสิ่งที่เปิดเผยออกมาให้กานต์รวีได้รับรู้มากมาย
แต่ไม่รู้ทำไม ยิ่งได้ฟังแทนที่จะดีใจ หญิงสาวกลับรู้สึกว่ายิ่งอันตรายขึ้นทุกย่างก้าว
แต่สายเกินกว่าจะเลี่ยงออกไปจากวังวนนี้ได้เสียแล้ว

จังหวะหนึ่งชายชื่อราเชนทร์วางช้อนส้อมอิ่ม เอ่ยเสียงต่ำราบเรียบ
“ตั้งแต่กลับจากกาญจนบุรีมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกปองเกียรติ นอกจาก
เจอหีบที่ว่างเปล่า นพคุณก็ยังหาทางเข้าสถานที่แห่งนั้นไม่เจอ”

“อย่างนั้นรึ ทั้งที่หวังใช้ประโยชน์จากดวงโจรที่ไม่เลวเลยของมัน
สุดท้ายก็ล่ม หรือว่าโชคมันจะหดเสียแล้ว ตั้งแต่ตัดไอ้เอกออกมา”

“ก็ต้องรอดูต่อ เกมยังไม่จบไม่ใช่หรือ”

ทันใด ประตูถูกคนรับใช้ผลักอ้าออกโดยไม่มีการเคาะ ผู้ที่ก้าวเข้ามา
เป็นชายท่าทางภูมิฐานอย่างมากที่กานต์รวีเคยเห็นแต่ในจอโทรทัศน์
รัฐมนตรีอนันต์!

คนมาใหม่นั่งลงอย่างมีมาด เขาดูแตกต่างออกไปจากในจอมาก
เมื่อได้มาเห็นกันจริงๆเช่นนี้ กานต์รวีสัมผัสได้ว่าชายกลางคนผู้นี้ดูปราดเปรียว
สูงสง่า ฉลาดเป็นกรด ผมย้อมดำมีหงอกแซมตรงจอนหูกลับยิ่งดูส่งราศี
หน้าเรียวคมสัน ที่สำคัญ ดวงตาคู่สีน้ำตาลคู่นั้น ช่างเหมือนกับ...

“กำลังพูดถึงเรื่องไอ้เด็กเวรนั่นกันอยู่หรือ อยากเจอหน้ามันสักทีเหมือนกัน
มันคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ช่างกล้าท้าทาย อวดดีนัก”

“ท่านจะได้เจอมันในเร็วๆนี้แหละครับ” ปองเกียรติพยายามเอาใจ “ใช่ไหมคุณราเชนทร์”

คนถูกพาดพิงเพียงพยักหน้านิดหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจนักแทนคำตอบ


เมื่อของหวานถูกยกเข้ามากานต์รวียังตะลึงเหมือนถูกสาปในขณะที่ยัง
ลอบเฝ้ามองชายอาวุโส นี่เขาไม่รู้ระแคะระคายเลยหรือว่าศัตรูกลับเป็นลูกชายแท้ๆ

จะว่าหน้าเหมือนกันจนใครๆเห็นแล้วต้องจำได้ในวูบเดียวก็คงไม่ใช่...
หากไม่ใช่คนรู้จักใกล้ชิดนพคุณมาก่อน เธอรู้มาว่าเขาไม่เหมือนแม่
แต่คงเหมือนไปทางญาติข้างพ่อ ส่วนกับผู้ชายคนนี้ มีเพียงเค้าโครงเท่านั้น
ทว่า การใช้ร่างกายที่เฉียบคมทุกท่วงท่ากลับมองแล้วเห็นภาพซ้อนกันสนิท

คืนนั้น หญิงสาวผู้เป็นแขกเข้านอนตามลำพังในห้องธาตุทองหรูระยับ
ตามที่เธอปรารถนา สุทัศน์ไม่ได้ตามเข้ามาวอแวด้วย ฝ่ายนั้นยังคง
ให้เกียรติเธออยู่มากด้วยเหตุอันใดก็แล้วแต่ ผ่านไปนานหญิงสาวยังคงนอนไม่หลับ
เรื่องราวมากมายหมุนเวียนกันฝุดขึ้นในสมองอันรกเรื้อ ไม่เว้นแม้แต่เรื่อง
นางเอกสาวที่เธอเองจัดการจนต้องพักงานแสดงไปแรมปี
ทำไมต้องไปคิดถึงเรื่องของมัน โดนซะบ้างก็ดี...

สุดท้ายความง่วงงุนค่อยคืบคลานมา ทว่าท่ามกลางความหม่นมัวครึ่งหลับครึ่งตื่น
กานต์รวีกลับถูกรบกวนด้วยความฝันที่คล้ายฝุดจากอนุสติของตัวเอง

‘ยังอยากมีชีวิตที่ดีใช่ไหม’

“แน่สิ” หญิงสาวครางตอบราวละเมอ

‘อยากเป็นดาวค้างฟ้าอยู่ไหม’

“อือ...”

‘ถ้างั้น เธอจะทำลายชีวิตผู้ชายที่เธอชอบให้จบลงด้วยมือของเธอเองได้หรือเปล่า?’

“ฉัน” หญิงสาวสะอึก คล้ายงันไปในความหลับใหล ก่อนจะส่ายหน้าไปมากับหมอน...
จะให้ทำร้ายเขาหรือ ไม่มีทาง!

‘ถ้าตัดสินใจยากขนาดนั้น คงต้องถามให้ตรงขึ้น’
เสียงนั้นเจือแววหัวเราะเหี้ยมเกรียมในที
‘ว่าเธอเองยังอยากอยู่ดูโลกนี้ต่อไปนานแค่ไหน... จะเลือกตัวเอง หรือเลือกมัน’



หลายวันที่ผ่านมามีแต่เรื่องให้ต้องขบคิด นพคุณถอนใจยืนมองทิวทัศน์ยามบ่ายแก่
ที่ใกล้เคลื่อนสู่ยามเย็น วันนี้อากาศไม่ร้อน แดดร่มลมตก เขาจึงขึ้นมาบนดาดฟ้า
ของโรงแรมตามประสาคนชอบเล่นกับความสูง

...เป็นเวลากว่าสัปดาห์ที่กลุ่มโจรทั้งสามคนย้ายที่พักมาแล้วหลายครั้ง ใกล้บ้าง
ออกไปไกลขึ้นจากตัวเมืองบ้าง เพื่อรอคอยฤกษ์สำคัญที่กะไว้ว่าจะลงมือจารกรรมใหญ่

ระหว่างนี้ก็เลือกพักตามห้องเช่าหรือโรงแรมที่ไม่ค่อยจะดูดีและ
ไม่เน้นความปลอดภัยนัก แถมยังไม่ได้เข้าพักอย่างเป็นทางการ
แต่เลือกพักฟรีด้วยเทคนิกสารพันที่สุวิชางัดออกมาใช้...
การจ่ายเงินจะทำให้ตรวจสอบได้ อย่าว่าแต่แบบนี้ก็สบายดีมีการแปลงโฉม
กันสนุกสนานตามมีตามเกิดด้วยซิลิโคนและอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ
เหล่าโจรหนุ่มทำกันได้ไม่เลวนัก เพราะอาศัยครูพักลักจำจากมือพระกาฬ
ด้านแต่งหน้าอย่างกานต์รวี นับว่ายังพอถูไถ เพราะยังไม่ได้มีแผนให้ใคร
ต้องแสดงเป็นศพหรือแต่งเป็นสตรีข้ามเพศในตอนนี้
ซึ่งนั่นดูจะต้องการฝีมือแต่งหน้าที่สูงส่งเกินกำลัง

โชคร้ายขั้นรุนแรงยังไม่ได้แวะเวียนมาหานพคุณอีก ทว่าทั้งที่อีกเพียง
สองสามวันจะถึงวันลงมือ เมื่อคืนนี้เองกลับเกิดเรื่อง พอมาพักโรงแรมดีเข้าหน่อย
ความสุขสันต์ผ่อนคลายกลับทำให้ขาดความระวังสุวิชาที่คออ่อนดื่มจนเมา
เกิดจะหาเรื่องเถียงกับเจตน์ ลุกลามถึงขั้นที่คนใจเย็นกว่ามากอย่างเจตน์โต้กลับ
ไอ้แว่นถึงกับเอาเบียร์สาดหน้าเพื่อนต่อหน้าคนมากมายในห้องอาหารของโรงแรม

‘เฮ้ย จะมาแตกคอกันอีกหรือวะ เหลือกันสามตัวยังไม่พอ แกก็ทำเกินไปนายชา!’
นพคุณออกโรงห้ามทัพ ‘แกก็น่าจะรู้นี่เจตน์ ไอ้ชามันปากหมาแล้วมันก็เมาด้วย ให้อภัยมันเถอะน่า’

‘เข้าข้างมันรึ’เจตน์พยักหน้า ตาลุกโรจน์อย่างยากจะเห็น
‘นั่นสินะ ฉันน่าจะรู้ตำแหน่งของตัวเอง ว่ามีค่าสู้มันไม่ได้ในสายตาแกไอ้เก้า’

แล้วเจตน์ก็ไป...

ชายหนุ่มยิ้มเมื่อหันไปเห็นตัวนุ่มกับเขาทรายที่นั่งเคียงกันอยู่ยังริมขอบดาดฟ้า
เลยระเบียงกั้นออกไป เจ้าเด็กผมแกละที่เขารักเหมือนน้องชายแท้ๆแม้มันไม่ใช่คน


เขามองเห็นผีมาแต่เด็ก แต่ไม่เคยสนิทกับผี ตอนเขาเข้าไปอยู่ใหม่ในบ้านสวน
วันแรกที่เขาได้รับการแนะนำกับเจ้าเขาทรายเป็นช่วงจังหวะพอดีกับที่ครูฤทธิ์เพิ่ง
ทำลายหุ่นปั้นรูปเด็กชายลงไม่นานเพื่อหมายจะปลดปล่อยมันจากอาถรรพณ์ประหลาด
แต่ไม่สำเร็จ ได้ยินว่ากุมารทองตนนี้พิเศษกว่าตนอื่น มีกำลังฤทธิ์แรงร้ายซ่อนอยู่
แม้มันจะไม่เคยอวดให้เขาเห็นเลยก็ตาม มันอ้างว่าสู้เขาไปก็ไม่ชนะ

‘พ่อฤทธิ์บอกว่าพี่เก้ากินบุญเก่าเปรมเลย บุญเก่าสั่งสมมาตั้งแต่หลายชาติก่อนเสียด้วย
ผีที่ไหนก็เอาชนะพี่ไม่ได้ รวมทั้งเรา... พ่อว่ามวยคนละรุ่น ชกกันไปก็เจ็บตัวเปล่า
ยอมให้พี่เก้าเป็นลูกพี่คนนึงแล้วกัน’

ชะ พูดจาประสามวยเหมือนพ่อมันไม่มีผิด แต่นอกจากจะไม่ยอมไปเกิด
แล้วพอขาดรูปปั้นที่เคยมีให้สิงสู่มันก็กลับหนาวใจเสียอีก
ร้องขอให้เขาไปหาหุ่นจ๊าบๆมาให้ใหม่สักตัว

‘กุมารน่ะ จะให้อยู่ในหุ่นหรือตุ๊กตาแบบไหนก็ได้ ถ้าเจ้าตัวและเจ้าของมัน
พอใจน่ะนะ’ ครูฤทธิ์ยืนยันอีกเสียง

ดังนั้นเขาจึงไปเสาะหาหุ่นให้มัน ไม่เอาหุ่นยนต์กันดั้มเท่ๆอย่างที่เจ้าตัวมันร้องขอหรอก
สุดท้ายได้มาเป็นรูปหล่อเด็กชายเปลือยตัวเล็กๆคล้ายกามเทพแต่ไม่มีปีก เป็นสีทองทั้งตัว
ยืนบิดเหนียมอายอวดกล้วยปิ้งเล็กๆกะจิริดอันน่ารักที่หว่างขา ทั้งที่นพคุณตั้งใจจะแกล้ง
แต่บังเอิญว่าเกิดผิดคาด เจ้าตัวมันดันชอบมากและยิ่งรักนับถือเขา
เป็นพี่ชายที่เคารพไปกว่าเดิมเสียอย่างนั้น

แล้วดูตอนนี้ จะมามีพี่สาวอีกคนในเวลาไม่กี่วันเนี่ยนะ!
แถมมาหนุงหนิงกันข้ามหน้า มองแล้วบางคราเขาก็เอ็นดู บางครั้งเขาก็อยากจะ...

“ขอนั่งแทรกกลางหน่อย” เขามีเหตุผลหรอกน่า “มีเรื่องจะพูดกับทั้งสองคน”
ผีก็ผีเถอะ ใครไม่นับเขานับเป็นคนก็แล้วกัน

นพคุณยกแขนขึ้นกอดคอไอ้เขาควายน้องรัก ปรายตามองอีกคนทางขวาที่ตนเกือบจะ
เผลอกอดคอรวมเข้ามาฟังใกล้ๆเสียด้วย แต่ความรู้สึกว่าไม่ใช่ยังติดในใจ
...แม่นี่เป็นกระต่ายแต่ก็เป็นผู้หญิง เป็นผู้หญิงแต่ก็เป็นกระต่าย
ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดไม่ตกว่าควรปฏิบัติกับเจ้าหล่อนแบบไหน ถ้าเกิดน้อยใจ
คิดว่าเขาสนใจไอ้กุมารน้อยมากกว่าแล้วงอนขึ้นมา
แต่สุดท้าย ชายหนุ่มก็ตัดใจวางแขนขวาไว้ข้างตัวเฉยๆอย่างเดิม

วิญญาณทั้งสองนั้นเป็นผีอยู่แล้วจึงนั่งท้าตายแบบนี้ได้ แต่กับเขาที่เป็นคน
หากมีใครมองมาเห็นอาจถูกหาว่าเป็นพวกสิ้นหวังกำลังจะฆ่าตัวตายก็เป็นได้
ทั้งที่เขากำลังนั่งห้อยขาด้วยอารมณ์สบายๆอย่างที่สุด

เพื่อให้ปลอดภัยไว้ก่อน ชายหนุ่มจึงร่ายคาถาป้องกันการแอบฟังของพรายกระซิบ
ก่อนจะกระแอมอีกทีแล้วเริ่มเข้าเรื่อง “ตอนนี้คนในทีมปล้นเหลือแค่สอง
ยังดีที่ได้ผีมาเพิ่มอีกสอง ดังนั้นพี่เก้าเลยคิดว่ามีงานอยากจะแจกให้น้องๆหนูๆทำ
งานนี้จะต้องตั้งใจกันให้มาก อย่าพลาดเชียว”

ครู่ต่อมา... เด็กน้อยเลือนหายไปตามคำสั่งของเขาเรียบร้อยแล้ว
เหลือเพียงหญิงสาวผมม้าที่ตอนนี้ห่อปาก ทำตาโตเพราะกลัวว่า
งานของตนจะยากไม่แพ้เจ้ากุมาร

“ทำหน้าเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้ ฉันยังไม่ส่งเธอไปลงสนามวันนี้หรอก
ยังไม่ถึงคิวถูกเชือด ไม่ต้องกลัว ...สรุปว่าว่างอีกตั้งสองวันเต็มๆ ทำอะไรกันดี”

เจ้าเขาทราย ไปทำงานเสียได้ก็ดี เขาจะได้มีเวลาเทรนด์แม่คนตรงหน้า
ให้ทำตัวดีๆจะว่าไปแล้วแบบนี้ก็ไม่เลว



มันจบลงที่นพคุณต้องมาอยู่บนรถเวสป้าสีชมพูเบาะขาวกลมกล่อมราวกับนมเย็นได้อย่างไรไม่ทราบ...

วันนี้หาสิ่งมีสาระทำกันไม่ได้ และสุวิชาก็ยืนยันจะใช้เวลากับสาวบราซิลร่างอวบอัด
ที่เพิ่งพบกันเมื่อเช้า นพคุณขี้เกียจจะอยู่ให้เห็นภาพหวานเลี่ยนแถวนั้น

ส่วนเรื่องของเขา เริ่มจากเมื่อวันก่อนเห็นว่าข้างๆโรงแรมมีบริการให้เช่ารถนั่งเล่นกุ๊กกิ๊กๆ
ในราคาไม่เบา แต่เมื่อเผชิญกับแรงตื๊อเขาก็ยอมใจอ่อนจนได้

ชายหนุ่มเตรียมสวมเสื้อยีนสีจางจนเกือบขาวทับเสื้อยืดตัวในที่วันนี้เป็นสีดำ
กลืนกับกางเกงยีนเข้ารูป แถมกระต่ายแสนรู้ยังคาบผ้าเช็ดหน้าผืนโตสีดำเดินลายคลาสสิก
เป็นเส้นสีขาวมาให้ผูกคอเท่ๆ มีแว่นตาดำเพิ่มราคา แต่งตัวเสร็จก็ออกมา
มาดเหมือนสิงห์รถฮาร์เล่ย์ตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมออกไปซิ่งยั่วเมือง

ทว่า...เมื่อลงมาเลือกรถทุกอย่างกลับตาลปัตรทั้งที่เขาต้องเป็นคนขับ
แต่แม่นี่กลับเลือกสีได้ไม่เกรงใจเอาเลย สุดท้ายชายหนุ่มเองซึ่งไม่ใช่คนหน้าบาง
มาแต่ไหนแต่ไรก็ยอมสวมหมวกกันน็อกสีชมพูหวานแบบรัดคางแต่เปิดช่วงหน้า
ขับขี่รถสาวแตกคันนี้ออกมารับลม!

ไม่มีจุดหมาย รู้แค่ว่าผู้ร่วมทางเป็นใคร สายลมยามเย็นกระซิบบอก...
บางทีจุดหมายข้างหน้าอาจไม่สำคัญนัก แค่รู้ว่าตนเองพร้อมจะมุ่งไปโดยไม่ใช่ตัวคนเดียว
มีใครบางคนที่พร้อมจะไปด้วยกัน ในวันที่เคร่งเครียด วันที่ปวดใจกับการหาทางออก
การได้พักหย่อนใจชั่วระยะกลับเรียกพลังกลับคืนมาได้เกินพอ

“เราจะไปไหนกันเหรอ ”คนซ้อนท้ายสะกิดเมื่อล่วงผ่านเย็นย่ำฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี
แต่ทางที่มุ่งไปกลับไกลห่างจากที่พักย่านปิ่นเกล้าออกมาเรื่อยๆ “ค่ำมืดแบบนี้
แถมรถเช่าอีก ล้อจิ๋วๆเร่งไม่ขึ้น อันตรายนะ เกิดเจอใครมาดักปล้นตามทาง”

“ขอโทษเถอะ! เธอมากับมหาโจรนะ ถ้าเผื่อว่าลืม” ชายหนุ่มอดขำไม่ได้
“แถมตัวเองเป็นผีไม่ใช่หรือ เจอผู้ร้ายก็หลอกมันให้กระเจิงขนหัวตั้งไปเลยสิ ยายผีกระจอก”



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ต.ค. 2557, 02:39:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2557, 02:39:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1147





<< ๔.๕ สู่ฤกษ์โจร(จบ)   ๕.๒ ความสุขที่หมุนไป >>
lovemuay 4 ต.ค. 2557, 05:47:21 น.
พระเอกนี่ศัตรูเยอะจริงๆ ยายวรีเองก็ร่ายไม่เบา ดูนะที่พี่เก้าไม่แคร์ ไล่ไปแล้ว


ใบบัวน่ารัก 4 ต.ค. 2557, 07:21:17 น.
ไป7-11 มาเจอตัวนุ่มอยู่ในตู้อบซาลาเปาด้วย
เลยสั่งมา2ตัวก็อร่อยดีนี่ตัวนุ่ม เอาไปทอดกรอบก็น่าอร่อย
ถามจริงอยู่กะเก้าแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างหรือเปล่า
ยี้ สกกะปกนะเนี้ย เก้ารับมาเลี้ยงได้ไงเนี้ย เขาทรายดูแลตัวนุ่มด้วยนะ


ketza 4 ต.ค. 2557, 09:02:41 น.
เขาทรายน่าร๊ากกกกก
กรี๊ดดดดดดด เรื่องนี้มีทั้งเด็ก และกาตุ่ยเยยยย เลิฟฟฟฟฟ



yimyum 4 ต.ค. 2557, 09:08:26 น.
-_- เพลียแป๊บนะคะ รถสีชมพูเนี่ยน้าาา ตัวนุ่มเกรงใจพี่เก้าบ้างสิคะ--


นักอ่านเหนียวหนึบ 4 ต.ค. 2557, 10:04:56 น.
อั้ยยะ หนุ่มน้อยไปเที่ยวเล่น!
เห้อเฮียหกช่วยฟังๆ ตัวนุ่มบ้าง นางทักก็เหมือนจิ้งจกทักแหละ แม่นยิ่งกว่าตาเห็นอี๊กกกกก
ตกลงยัยรวีเนี่ย ปล่อยเสือเข้าป่า หรือปล่อยแมวเข้าป่ากันนะ จะมีเขี้ยวเล็บไปกัดเค้าหรือจะมีเขี้ยวเล็บกลับมาทำร้ายเรารึป่าว


Chii 4 ต.ค. 2557, 13:06:33 น.
ยัยผีกระจอก....เหรอ...

ยัยกุเต่ยยยยย พี่เก้าดูถูกเธออออออ
อย่าให้เค้ารู้ว่ามันถูก จัดการหลอกพี่เก้าก่อนเบยยยยย 55


ดังปัณณ์ 4 ต.ค. 2557, 13:56:35 น.
ปากจัดมากอิพี่เก้า!

ใช้เขาทรายไปทำอะไรล่ะนั่น อุแหม...มีหวงด้วยนะเนี่ย 555+ อย่างว่าแระเขาทรายถึงเป็นเด็กก็อยู่มาหลายสิบปี กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก ตัวนุ่มกับเขาทรายหวังว่าจะไม่มีอะไรให้สะเทือนซางนะ แต่รวีกับอิพี่เก้ามีแผนนี่อุเหม่ ดูดิ แล้วถูกอาจารย์ราเชนทร์นั่นเล่นเข้าอีก รวีกลัวปี๋ รวีจะเลือกอัลไลลลลลลลลลลลลลลลลล

ปล.แต่งซะเท่ แม่คุณเลือกผ้าพันคอให้แบบขรึมๆ แต่ดันเลือกมอไซค์สีชมพูจ๋าให้เฮียขับ แหม.....ตัดกันฉับเลย กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 23:23:03 น.
เลือกชุดซะแมน แต่ดันแพ้กระต่ายขี้อ้อน
ฮึ ไงละ รถวีชมพูมุ้งมิ้งมากอ่ะ
กล้าขี่ด้วยเว่ยเฮ่ย



goldensun 5 ต.ค. 2557, 04:08:02 น.
พี่เก้า มีแอบอิจฉาเขาทรายด้วย เลยแยกตัวให้ไปทำอย่างอื่นซะ
ที่เจตต์แยกไป มีประเด็นจงใจให้เป็นเรื่องเพื่อให้มีเหตุผลแยกทางไปรึเปล่าคะ
เทรนมากกว่านะคะ อบรมน่ะค่ะ ส่วนเทรนด์ น่าจะเป็นแนวโน้ม หรือเทร็นด์


อสิตา 5 ต.ค. 2557, 06:52:52 น.
กรี๊ดดด คุณโกลเด้นซันนนนนนนนน ทำไงดี ส่งพิมพ์ไปแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account