ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๕.๒ ความสุขที่หมุนไป

คุณเลิฟหมวย – คราวนี้มาไวสุดเลยนะคะ ส่งจูบ ทีมโจรศัตรูเยอะอยู่แล้ว แต่มีศัตรูตัวเจ็บๆ
อยู่กลุ่มใหญ่ที่กำลังจะปะทะกันนี่แหละน้า รวีไปทำอะไร ต้องดู
คุณใบบัวน่ารัก – กินตัวนุ่มเข้าไปแล้วเหรอ โฮ่ย...ตอนนี้มีซาลาเปากระต่ายพอดีเลย
ตัวนุ่มไม่สกปรกน้า ขนอุยขาวสะอาดแล้ว พี่เก้าเอาใส่เครื่องซักผ้า ปั่นด้วยโอโม่บ่อยๆ อุจิ๊
คุณเกดซ่า – เพ้แป้งชอบเด็กที่ไม่ไร้เดียงสาแบบเขาทรายนี่แหละ 555 นานๆจะเขียนเด็กซะทีนะ
คุณยิ้มยิ้ม – รถสีชมพูแหววมาก แต่พี่เก้าหน้าหนา ไม่เป็นไร ขี่ชิลๆ เค้าเอาใจกระต่ายเค้าน่าดู

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ - ชอบหนุ่มน้อยเขาทรายรึยังคะ อืม เขี้ยวเล็บของรวี
นางอาจยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะใช้กับทางไหนดี 55
คุณผักชี – ตัวนุ่มกระจอกจริงๆแน่เลย หร๋า ยอมให้พี่เก้าบีบเคล้นตามใจ ทอดร่างระทวย ขนอุย++
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – หนอนพิมพ์ละล่ะถูกมากน่าชื่นชม แต่ป.ล.ต้องมีสองจุด เลยหักล้าง
คราวหน้าจาหักคะแนน กว๊ากก๊ากกก เขาทรายไปทำมิสชั่นอิมพอสสิเบิลอยู้ววว
จริงๆคือเฮียหาเรื่องกำจัดก้างขวางคอกระต่าย เอิ๊ก หนอนฉลาดจุง แปลว่าใส่ใจมองความคิดรวี
สมเป็นนักเขียนเน้

คุณลูกเฟอร์ – มาเม้นครบจนได้ มะม้าตามย้อนอ่านหมดละนะ อิอิ ดีจัง มีคนเริ่มสงสัยเป็นเอกแล้ว
อิอิอิอิ แต่พี่เก้าอะ รักฮีมากนะ เป็นเกย์กานมาก่อน ไม่ใช่ละ... พี่เก้ากล้าขี่รถจิ ลูกชายมะม้า
ก็ต้องหน้าด้านเหมือนมะม้า //ปรบๆๆ //ตีตูดเฟอร์นุ่ม
---------------------------





ชายหนุ่มเตรียมสวมเสื้อยีนสีจางจนเกือบขาวทับเสื้อยืดตัวในที่วันนี้เป็นสีดำ
กลืนกับกางเกงยีนเข้ารูป แถมกระต่ายแสนรู้ยังคาบผ้าเช็ดหน้าผืนโตสีดำเดินลายคลาสสิก
เป็นเส้นสีขาวมาให้ผูกคอเท่ๆ มีแว่นตาดำเพิ่มราคา แต่งตัวเสร็จก็ออกมา
มาดเหมือนสิงห์รถฮาร์เล่ย์ตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมออกไปซิ่งยั่วเมือง

ทว่า...เมื่อลงมาเลือกรถทุกอย่างกลับตาลปัตร ทั้งที่เขาต้องเป็นคนขับ
แต่แม่นี่กลับเลือกสีได้ไม่เกรงใจเอาเลย สุดท้ายชายหนุ่มเองซึ่งไม่ใช่คนหน้าบาง
มาแต่ไหนแต่ไรก็ยอมสวมหมวกกันน็อกสีชมพูหวานแบบรัดคางแต่เปิดช่วงหน้า
ขับขี่รถสาวแตกคันนี้ออกมารับลม!

ไม่มีจุดหมาย รู้แค่ว่าผู้ร่วมทางเป็นใคร สายลมยามเย็นกระซิบบอก...
บางทีจุดหมายข้างหน้าอาจไม่สำคัญนัก แค่รู้ว่าตนเองพร้อมจะมุ่งไปโดยไม่ใช่ตัวคนเดียว
มีใครบางคนที่พร้อมจะไปด้วยกัน ในวันที่เคร่งเครียด วันที่ปวดใจกับการหาทางออก
การได้พักหย่อนใจชั่วระยะกลับเรียกพลังกลับคืนมาได้เกินพอ

“เราจะไปไหนกันเหรอ ”คนซ้อนท้ายสะกิดเมื่อล่วงผ่านเย็นย่ำฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี
แต่ทางที่มุ่งไปกลับไกลห่างจากที่พักย่านปิ่นเกล้าออกมาเรื่อยๆ “ค่ำมืดแบบนี้
แถมรถเช่าอีก ล้อจิ๋วๆเร่งไม่ขึ้น อันตรายนะ เกิดเจอใครมาดักปล้นตามทาง”

“ขอโทษเถอะ! เธอมากับมหาโจรนะ ถ้าเผื่อว่าลืม” ชายหนุ่มอดขำไม่ได้
“แถมตัวเองเป็นผีไม่ใช่หรือ เจอผู้ร้ายก็หลอกมันให้กระเจิงขนหัวตั้งไปเลยสิ ยายผีกระจอก”


“นี่... แถวนี้มันจะออกนครปฐมแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ทันได้สังเกต ค่ำไหนนอนนั่นแล้วกัน” อะไรกันที่ดลใจให้เขามุ่งมาทางนี้

“อยากกลับไปหาครูฤทธิ์เหรอ...”

“ใครเล่าให้เธอฟัง” ชายหนุ่มเข่นเขี้ยว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใคร
มีผู้ต้องหาเพียงคนเดียวคือไอ้เขาควายตัวแสบนั่น

อีกเรื่องที่น่าขัดใจคนซ้อนท้ายกลับกล้าๆกลัวๆขยุ้มเสื้อเขาเสียแน่นอย่างเก้กัง
แม้จะเป็นสัมผัสจากวิญญาณ แต่สำหรับเขาที่รู้สึกถึงเธอได้ไม่ต่างจากเธอเป็นคน
ไม่ยอมทรงตัวนั่งให้เหมาะแบบนี้มันก็ทำให้รำคาญอยู่ชอบกล

“ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นหรือไง ยายเบ๊อะ” คนขับเอี้ยวตัวไปดุ

“ก็... ตัวเองบอกว่าไม่ให้ถูกตัวนี่” คนตอบหัวเราะทะเล้นยามยอกย้อน
ทั้งที่สายตายังมองทิวทัศน์เขียวๆข้างทางเพลิน

มันน่านัก เวลาที่ควรจะถนอมตัวกลับมากอดซุกไซ้เขาไม่มีเกรงใจ...
อย่างอีตอนร้องไห้ร้องห่มนั่นปะไร ทีอย่างนี้ทำมาเล่นตัว“มันใช่เวลาไหม”

คนนั่งซ้อนขยับยุกยิก ก่อนจะยอมรับเสียงอ่อย “นั่งไม่เป็นจริงๆ ไม่รู้จะเกาะยังไง”

“แล้วร้องจะนั่งทำไม ไอ้แมงกะไซค์อ้วนเนี่ย” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาคำหนึ่ง

“จริงๆอยากเป็นคนขับ”

เวสป้าสีหวานเย็นค่อยๆชะลอลงจอดข้างทาง หญิงสาวช้อนตาปริบๆ
มองชายหนุ่มที่ก้าวลงจากรถ โบกมือให้เธอเข้าประจำที่คนขับแทน

“เอาเลย ใช้ชีวิตให้สุด นี่แปลว่าตอนยังมีชีวิตไม่เคยได้ทำอะไรที่อยากทำเลยสิ”

“ก็นะ แต่จะดีเหรอ” คนถามบิดม้วนตัว แสร้งหัวเราะเรี่ยราด

“ทำความปรารถนาให้เป็นจริง มัวเหนียมแบบนี้ระวังจะไปเกิดไม่ได้นะ... มาเลย ให้ไว!”

ชายหนุ่มเท้าเอวข้างหนึ่ง ขมวดคิ้วรอจนแม่ตัวดีเข้าที่แล้วจึงพาตัวเองขึ้นซ้อนหลังแทน
รถเริ่มเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเก้กังอยู่บ้างตามคำแนะนำใกล้ชิดของคนซ้อนหลัง
ก็พอถูไถไปได้เพราะยายตัวนุ่มก็หัวไวดีอยู่ ปัญหาดันมาเกิดตอนที่รถซึ่งแล่นตีคู่ขึ้นมา
มีเด็กวัยสักสิบเอ็ดสิบสองอยู่คนหนึ่ง เกิดจะหันมาเห็นรถเวสป้าที่เคลื่อนที่ไปได้เอง
โดยมีชายหนุ่มนั่งซ้อนหลัง เด็กทำท่าชี้โบ๊ชี้เบ๊ เขย่าพ่อแม่ที่นั่งอยู่ตอนหน้าของรถให้หันมาดูด้วยกัน

“นี่ ปรากฏตัวให้คนในรถข้างๆเห็นหน่อยได้ไหม” ชายหนุ่มเร่งบอก

“ไม่ไหว อย่ากวนใจดิ แค่เอาสมาธิมาซิ่งก็แย่แล้ว ว้าย---” คนขับมือใหม่กรี๊ดกร๊าด

ยังดีหน่อยที่เบาะเวสป้าคันนี้เป็นทรงเบาะเดียวยาวต่อเนื่อง นพคุณพ่นลมอย่างขัดใจ
ตัดสินใจกระแซะเข้าไปจนชิด เอื้อมมือไปจับแฮนด์ซ้อนทับมือเล็กของตัวนุ่มเอาไว้มั่นคง

“อ๊ะ” คนที่เสมือนตกอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งเฮือก
หันขวับมองเขา แก้มยังไปเสียดสัมผัสกับแก้มซึ่งรกไปด้วยไรหนวดนั่นอย่างจัง
ชวนให้จั๊กจี้ปนคันเล็กๆ เล่นยื่นหน้าเข้ามาเบียดซะขนาดนี้ ราวกับจะไม่เว้นพื้นที่
เหลือไว้ให้เธอเลย แม้แต่ขาแข็งแรงของเขา หน้าตักของเขาก็คืบแทรกซ้อนเข้ามา
ข้างใต้สะโพแทนที่เบาะอย่างรุกราน

“เฉยเถอะน่า อย่ายุกยิกมากนัก” นพคุณปราม “เด็กในรถมองใหญ่แล้วไม่เห็นหรือไง
ขับไปทั้งแบบนี้แหละ” เสียงกระซิบฝ่าสายลมคล้ายจะแหบพร่า

คนขับมือใหม่ตอนนี้ใจโบยบินหนีไปเสียแล้ว จำต้องก้มหน้างุดขับต่อไปทั้งอย่างนั้น
ยอมให้รถเคลื่อนไปโดยมีเขากุมบังเหียน ตนนั่งซ้อนอยู่ในอ้อมอกอุ่นเช่นนั้นเนิ่นนาน
ฟากฟ้ายามค่ำที่ซับสีแดงของอัสดงตอนนี้คงแดงแข่งกับหน้าเธอแน่ๆ
จะไม่ให้เขินได้ยังไง ก็เขา...ไม่เคยเป็นฝ่ายกระแซะเข้ามาหาก่อนแบบนี้เลยนี่นา
เขาคิดอะไรอยู่ ใครจะไปรู้ เพราะตั้งแต่เข้ามาใกล้ชิดอยู่ในท่านั้น
ชายหนุ่มก็ไม่ยอมเอ่ยอะไรอีกแม้แต่คำเดียว



พระจันทร์ขึ้นแล้ว เพิ่งผ่านวันจันทร์เต็มดวงมาได้เพียงสองคืน ฟ้าทาบทอด้วยแสงกระจ่าง
เส้นทางยาวไกลนั้นทอดผ่านตลาดนัดและงานวัดที่ดูน่าจะมีของอร่อยพวกเขาจึงแวะ
ชายหนุ่มถอดหมวกกันน็อกสีชมพูออกแขวนไว้กับเวสป้า เผยช่วงหน้าเรียวคมคาย
กับผมเกือบๆจะยาวที่วันนี้ถูกปล่อยโดยไม่ได้รวบมัด

“ไม่กลัวหมวกกันน็อกหายเหรอ น่าขโมยออกจะตายไป ไว้ใต้เบาะสิ เขามีช่องเก็บไม่ใช่หรือ”
เธอพูดตามที่เห็นคนให้เช่ารถสาธยายก่อนจะให้เช่าเวสป้าคันนี้ออกมา

“ไม่ละ เอาไว้แกล้งคนดีกว่า ลองขยับมันดูสิ”

คนถูกท้าทำตามไม่รอช้า พบว่าสิ่งที่ตัวเองพยายามจะหยิบนั้นไม่ขยับ
ราวกับมันมีน้ำหนักเท่าลูกโบว์ลิ่งสักสิบลูก

“จะขโมยรถก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะตอนนี้มันโดนคาถาให้หนักหนึ่งตัน รับรอง โจรแฮ่ก
จะเอาไปก็คลานไม่พ้นแถวนี้กี่ก้าวหรอก ยกเว้นเอารถมาลากน่ะนะ”
ชายหนุ่มล้วงกระเป๋า เลิกคิ้วยียวนเมื่อได้อวดความสามารถ ถึงว่าเขาจะเป็นโจร
แต่ก็เป็นโจรที่ไม่คิดเผื่อแผ่เพื่อนร่วมอาชีพเอาเสียเลย

“เพิ่งเคยมางานวัดครั้งแรกนะเนี่ย” หญิงสาวสูดจมูกฟุดฟิดดมกลิ่นอาหารรอบกาย “หอมจัง”

“ไข่หลุมไง ไม่เคยกินเหรอ”

“ยี้...ฉันน่ะนะ สมัยมีชีวิตเป็นคุณหนูจะตาย แต่จะลองก็ได้ เพราะตอนนี้มาอยู่กับโจรที่
กำลังจะเลิกปล้น ต่อไปต้องอยู่กันแบบกัดก้อนเกลือกิน ต้องหัดกินให้ได้ทุกอย่าง”

“เธออยากกินทุกอย่างมากกว่า พูดถึงเรื่องแต่ก่อน ไหนว่าจำไม่ได้”

“ก็...จำได้บางอย่างไง” คนพูดแลบลิ้นเฉไฉ


ผู้คนคลาคล่ำอยู่รอบกาย นพคุณมองวัยรุ่นมากหน้าหลายตาที่มาเดินเที่ยว
นึกตำหนิสาวๆที่แต่งตัวโป๊ล่อตะเข้ แต่หันมามองคนข้างกาย แม่นี้ก็ใส่
เกาะอกสีทองตัวเก่งอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จักเปลี่ยนให้เหมาะสมบ้างเลย

“แต่งตัวให้มิดชิดหน่อย เป็นสาวเป็นนางมาเดินกลางค่ำกลางคืน”

“ไม่มีใครเห็นซะหน่อย” คนกำลังเกาะแขนเสื้อคนตัวสูงกว่าเถียง

“ฉันเห็นนี่ไง” ชายหนุ่มก้มลงจับจ้อง แม้ตัวเสื้อช่วงบนจะเกาะอกปิดขึ้นมา
เกือบถึงไหปลาร้า แต่ช่วงเอวขาวผ่องโชว์สะดือแล้วก็กางเกงเกาะต่ำ
เกิดจะขวางตาขึ้นมาตอนนี้อย่างช่วยไม่ได้

ทว่าคนถูกตำหนิกลับไม่ได้เชื่อฟัง มือปล่อยหลุดจากแขนเสื้อเขา แลบลิ้นแผล็บ
ก่อนแจ้นหนีตามกลิ่นอาหาร คนเป็นผู้ปกครองจึงต้องเร่งสาวเท้าตามไปควบคุมเด็กดื้อ

เมื่อท้องหิว สิ่งจำเป็นคือต้องเสาะหาของอร่อยตามแต่จมูกจะนำไป
...ด้วยร้านบะหมี่หมูแดงกลิ่นหอมยั่วใจแม่ตัวนุ่มนั้นคนแน่นมาก นพคุณจึงต้อง
ไปนั่งแทรกอยู่กับโต๊ะที่มีลุงป้าคู่หนึ่งนั่งโซ้ยอยู่ก่อนแล้ว ในที่สุดตัวแถมอย่างหญิงสาว
จึงต้องเปลี่ยนร่างไปเป็นกระต่าย นั่งจุ้มปุ๊กเตรียมแจมอาหารอยู่บนโต๊ะด้วยใจรอคอย

ระหว่างรอ คู่คนและผีที่มาใหม่ก็ต้องตกตะลึงกับลุงป้าคู่นี้ ที่นอกจากแต่งตัวเหมือนกัน
ด้วยเสื้อยืดคู่รัก ยังผลัดกันป้อนลูกชิ้นคีบหมูแดงใส่ปากอีกฝ่ายอีกตะหาก

“นี่ผมมานั่งขัดจังหวะหรือเปล่าครับ” นพคุณแย้มยิ้มเขินๆ แต่สีหน้าของเขาบ่งบอก
ว่าอยากนั่งดูต่อ ถ้าพ่อแม่รักกันคงได้เห็นภาพแบบนี้ไม่ยาก แต่คนอย่างเขาไม่เคย
พบเคยเจอภาพแบบนี้เลย

“โอ้ยไม่เลยตาหนู ลุงเขาชอบทำสวีทกะป้าอวดคนจะตาย” คุณป้าเอ่ยตอบอย่างใจดี

แน่ะ! เผลอหน่อยเดียวบะหมี่แห้งเพิ่มหมูแดงพิเศษควันฉุยถูกวางลงไม่ทันไร
ตัวยุ่งก็รุกรานชามของเขาเสียแล้ว ดีว่าลุงกับป้าที่นั่งอยู่นั้นเป็นคู่ที่สนใจกันและกัน
มากกว่าอย่างอื่น แถมดูเหมือนสายตาไม่ดีเสียด้วยจึงไม่เห็นภาพอาหารในชาม
ถูกสูบหายๆไปในอากาศอย่างประหลาดโดยเจ้าหนุ่มตรงหน้ายังไม่ทันแม้แต่จะหยิบตะเกียบ

ตัวนุ่มคิกคักอยู่ในใจที่ได้แกล้งคน ตากลมหวานปลายหางดำคมเหมือนแต้มอายไลเนอร์
ตวัดมองชายหนุ่มอย่างเป็นต่อ ปลายหางสั้นจุ๊ดกระดิกไหวท้าทาย

“ผมหิวจัง” นพคุณรำพึงลอยๆพลางทำตาเชื่อมโศก มองคนในร่างกระต่ายที่ใช้เท้าปุยเล็ก
ผลักตะเกียบบนขอบชามมาทางเขา ทำนองว่าชวนให้กินด้วยกัน แต่ปากก็ยังไม่หยุด
เคี้ยวหมูแดงหยุบหยับแต่อย่างใด

“อ้าวก็กินสิลูก!” ลุงวัยหกสิบกว่าเอ่ยชี้ชวน “ลุงว่าจะเบิ้ลสักสาม
คืนนี้จะได้ผลาญแคลลอรี่ให้หมด เตะปี๊บดังสักหลายๆป้าบ”

คุณป้าใส่แว่นแทบสำลักน้ำซุป แอบหยิบลุงหนับเข้าให้ที่ใต้โต๊ะทันควัน

นพคุณอวดลักยิ้มใส่คุณลุงผู้ร่วมโต๊ะ “ครับ แต่ตอนนี้ผมอยากกินซาลาเปามากกว่า”

“อะไร้ อยู่ร้านบะหมี่ข้างทางจะมาอยากซาลาเปา ไม่ได้นั่งอยู่ร้านวราภรณ์ ซาลาเปา
ในห้างนะพ่อคุณ ไม่มีให้กินหรอก” หญิงชราเป็นฝ่ายขัดคอพลางหัวเราะเอ็นดู

“มีครับ” นพคุณยิ้มตาพราว “ซาลาเปากระต่าย...ไส้หมูแดงด้วย”

ตัวจารกรรมของกินสะดุ้งโหยง ชะงักหดคอลงจากชามทันควัน
รู้สึกคล้ายอาหารติดคอ ปากจึงหยุดเคี้ยวทั้งที่ยังอมหมูแดงไว้แก้มตุ่ย
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ยิ้มเต็มที่จนลักยิ้มบุ๋ม วางมือลงบนตัวนุ่ม
ที่ทำหูลู่ติดหลังอย่างรักใคร่ ลูบถี่ๆให้ค่อยๆกลืนอาหารลงคอ

“เอ้า บะหมี่หมูแดงพิเศษชามนี้มันไม่มีเนื้อนี่เฮีย ลืมใส่หรือไง”
ชายหนุ่มโวยให้เจ้าของร้านรี่มาดูชามบะหมี่ที่เขายังไม่ได้แตะต้อง

“อะไรวะ พี่ว่าโกยให้ตั้งแยะ ตายๆเมาดิบหรือวะ โทษทีๆๆ เดี๋ยวใส่ให้ใหม่”

ระหว่างรอชายหนุ่มก้มลงไปชิดโต๊ะกระซิบขู่ให้กลัว “ใส่มาเยอะๆเลยเฮีย
กลางดึกคืนนี้ผมจะได้กินซาลาเปานุ่มแน่นเด้งดึ๋งอ้วนเป่ง ตอนนี้ปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน”



...งานวัดถือเป็นสีสันเอิกเกริกเรียกผู้คนให้ออกมาสนุกกันกินเที่ยวกันแบบอบอุ่น
ตามประสายามราตรีของเมืองต่างจังหวัดแม้จะเป็นเวลาขนาดนี้แล้ว ตัวโบสถ์ของวัด
ที่จัดงานยังเปิดให้เข้าไปไหว้พระ มองเข้าไปก็เห็นมีคนอยู่เพียงประปราย
เพราะมัวแต่สนใจเที่ยวเล่นชมงาน

“อยากไหว้พระ” คนที่ถูกเลี้ยงดูจนอิ่มหมีพีมันดีแล้วชี้ชวน

นพคุณกำลังจะหันไปตำหนิเรื่องการแต่งกาย กลับพบว่ายายตัวดีกลายเป็น
อยู่ในชุดไทยเรือนต้นมิดชิดเรียบง่ายอย่างสาวชาวบ้านไปเสียแล้ว
ชายหนุ่มยิ้มขำ ไม่พูดจา พาเธอเข้าไปในโบสถ์แต่โดยดี

ยามจุดธูปไหว้ แม่คุณก็อธิษฐานอยู่เป็นนาน ยามย้ายมาเสี่ยงเซียมซี
ก็ทำหกกระจายเกลื่อน ทั้งตีหน้าเหลอหลาไม่รู้ความจนเขาละเหี่ย...

“นี่เคยเข้าวัดบ้างรึเปล่า?” นพคุณถามพลางส่ายหน้า

เห็นได้ชัดว่าไม่... ยิ่งถึงตอนปิดทองพระพุทธรูป ดูแม่คนนี้จะสนุกเป็นพิเศษ
ทั้งที่ปิดทองไม่ค่อยเป็น ทำแผ่นทองหลุดปลิวไปไหนต่อไหนหลายที
ต้องไล่ตะครุบนพคุณจึงต้องหันมาสอนให้เอาบุญ ว่ากดทองอย่างไรให้แน่น
กลายเป็นจับมือปิดทองพร้อมกันไปเสียอย่างนั้น

ชั่วขณะนี้เอง อารมณ์อย่างใหม่ได้ก่อเกิด...เรียบง่าย แช่มช้า แต่ว่างดงาม

ลมหายใจของเขารินรดอยู่ข้างหู ความรู้สึกแนบชิดนี้กระตุ้นให้ความทรงจำในอดีต
พร่าพรายคล้ายตะกอนระยิบระยับสีทองพร่างขึ้นมา

‘ปิดทองตรงอุระพระปฏิมา เหนือหัวใจท่านเช่นนี้ เพื่อให้เจ้าจำพี่ไว้ในใจไม่เสื่อมคลาย...’

เสียงที่ดังซ้อนตรงริมหูนั้นเรียกหยาดน้ำให้รื้นขึ้นในหน่วยตาโตดำขลับ
เป็นความเต็มตื้นอย่างประหลาด ในที่สุดวันนี้ก็ได้หวนมา
แม้ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างกาลเวลา

“ตัวนุ่ม เป็นอะไร?”

น้ำคำที่ถามแผ่วไหวอ่อนโยนกว่าปกติ นพคุณไม่เข้าใจ ความรู้สึกซึ่งจู่โจมใจจนสะท้าน
เมื่อครู่คืออะไร ตื้นตันเพียงแค่การปิดทอง เขาก้มสบตาคู่สวยของคนเคียงใกล้
เผยลักยิ้มอ่อนโยนให้พลางลูบหัวลูบหูเธอเบาๆ ความเข้าใจบางอย่างซึมซาบแทนที่คำถาม
...คงเคยทำบุญร่วมกับเจ้าตัวยุ่งนี่มาก่อนกระมัง

จับมือกันก้าวข้ามธรณีประตูโบสถ์กลับสู่โลกภายนอก บรรยากาศในงานคล้ายผ่องใสยิ่งขึ้น

ผลไม้สดๆ น้ำปั่นหอมหวานเกมปาเป้า ชิงช้าสวรรค์ ขนมสายไหม
และท่ามกลางภาพงานวัดที่เห็นพระจันทร์สวยเด่นเป็นฉากหลัง
ภาพที่สะดุดใจเขากว่าอย่างอื่น...ม้าหมุน

มีชั้นเดียวก็จริงแต่ใหญ่โตกว้างขวางพอตัว มีทั้งม้าต่างสีสันเคลือบลายทอง
พร้อมบังเหียนอานนั่ง ทั้งยังมีรถฟักทองขนาดจิ๋วที่เข้าไปนั่งเบียดกันได้สองคน

สิ่งนี้...มีความหมายที่ต่างไปจากของเล่นอื่นในความทรงจำของเขา
ถึงจะถูกจูงมือขึ้นมาแล้ว นั่งอยู่บนม้าดำสง่างามตัวหนึ่งแล้ว
นพคุณก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่าแม่เขามีอดีตยังไงกับเจ้าสิ่งนี้
เด็กหลายคนที่ขึ้นมาพร้อมพ่อหรือแม่ดูจะสงสารเขาที่มาคนเดียว

ไม่มีใครได้เห็นบนม้าขาวตัวเคียงกันที่ดูเหมือนจะว่างอยู่ ความจริงแล้วเขามี...ใครบางคน

ดูเธอสิ แม้ม้าตัวที่ขี่อยู่จะสีหลุดถลอกไปบ้าง แต่แม่จอมยุ่งได้เปลี่ยนตัวเอง
มาอยู่ในชุดราตรีฟูฟ่องสีทองระยับ หางผมที่กระดกเป็นตูดเป็ดรวบยกสูงขึ้นไป
บนศีรษะวางมงกุฎทองเล็กจิ๋วประดับเพชรราวกับเจ้าหญิง คิ้วเข้มได้ทรง ตาคม
กับหน้ารูปหัวใจที่ดูไม่ค่อยจะเข้าสมัยนิยมยิ่งทำให้สวยเด่นเป็นเอกลักษณ์จับตา
และรอยยิ้มที่แทบไม่เคยหายไปจากใบหน้า...ทั้งหมดนั้น ภาพเจ้าหญิงสวยสง่าน่ารัก
บนหลังม้าสีขาวพาให้นพคุณต้องยิ้มตาม

ชักรู้สึกดีๆกับสิ่งที่เรียกว่าม้าหมุนขึ้นมาแล้ว ใครจะมองว่าเขาเป็นพวกโข่งที่ชอบของเล่นเด็กก็ช่าง

“แม่จ๋า พี่ชายหล่อคนนั้นนั่งตั้งหลายรอบ ดูสิไม่ยอมลงมาเลย
ปะกี้หนูจะไปขึ้นม้าตัวข้างๆ โดนทำตาดุใส่อีก น่ากลัวจัง”
เด็กหญิงหญิงวัยแปดขวบวิ่งแจ้นลงมาฟ้องมารดา

ข้างฝ่ายคนบนม้าหมุนก็ยังอยู่ในภวังค์ส่วนตัวที่ไม่เชิงเป็นความฝันหรือเทพนิยาย
แม้จะถูกกวนใจด้วยใบหน้าจิ้มลิ้มของเจ้าหญิงกำมะลอผู้กำลังแกล้ง
เล่นหูเล่นตาบ๊องๆไปตามเรื่อง

เขากลั้นหายใจ มองเพียงแต่เธอตาไม่กะพริบเพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ต่างหากหรอกน่า
ทว่าสมองกำลังพยายามสรรหาเหตุผลจริงจัง ...อาจเพราะแบบนี้เอง
ฝรั่งถึงเรียกเจ้าม้าหมุนนี่ว่า Merry go round ความสุขที่หมุนไป
เมื่อปล่อยใจไปกับวังวนซึ่งหลุดพ้นจากความเป็นจริงรอบนอก ก็แทบไม่รู้
ว่าสีสันพร่างพรายนั้นจะไปสิ้นสุดลงที่ใด หลอกใจตนว่าสุขหมุนวนดุจวงกลม
อันไม่มีวันจบสิ้น เหมือนตอนนี้ ที่มันกำลังหมุนไปเรื่อยๆ ... หมุนไป... หมุนไป...

เขากะพริบตาทีหนึ่ง พบว่าเจ้าหญิงน่ารักในชุดทองที่ตนจับจ้องอยู่นั้นกำลัง
พูดอะไรเบามากอยู่บนม้าตัวชิดกัน ชายหนุ่มจึงยื่นหน้าใกล้เข้าไปอีกฟังเสียไม่ได้
เรียกว่าพบกันครึ่งทางกับแม่สาวหน้าเป็นที่ยื่นหน้าเข้ามา

“นี่ๆ ที่เก้าบอกว่า ถ้าผีไม่ได้ทำสิ่งที่ติดค้างแล้วจะไปเกิดไม่ได้ พูดจริงอ๊ะเปล่า?”

“ก็สำหรับบางราย” ชายหนุ่มกระซิบตอบแม่จอมขี้สงสัยที่กระพือขนตา
อยู่ไม่ไกลจากหน้าเขา “ทำไม ยังมีเรื่องจะขอให้ฉันช่วยทำให้เป็นจริงอีกหรือไง”

“มี...” ว่าแล้วก็หลุบตาลงยิ้มเอียงอายกรุ้มกริ่ม“เรื่องสำคัญมากด้วย”

“อะไร” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง จับจ้องจริงจัง

“จูบแรก...”

ชั่วเสี้ยววินาที ผ้าเช็ดหน้าผืนโตที่ผูกคอไว้หลวมๆถูกดึงรั้งมาใกล้อีกนิด
สิ่งรอบตัวที่หมุนไปช้าๆนั้นคล้ายมลายหายไปจากสายตา
มีแต่ภาพแพขนตางอนยาวที่อยู่ชิดติดกับใบหน้าเขา

ริมฝีปาก...นุ่มเหมือนชื่อของเจ้าตัวที่เขาตั้งให้
เนียนเหมือนขนมมาชมัลโลว์และหอมหวานเป็นรสเดียวกับสายไหม
ที่เขาเพิ่งซื้อให้เธอชิมไปหลายปุยถึงแสงสีรอบม้าหมุนนั้นจะสวยงาม
แต่ตอนนี้ตาสีน้ำตาลของเขาที่เบิกค้างอย่างตกตะลึงกลับค่อยๆหรี่หลับ
ตามสัญชาตญาณอย่างช่วยไม่ได้
ลมหายใจกำลังทวีความร้อนขึ้นแปลกๆ รู้สึกรุมๆราวจับไข้

จอมโจรอย่างเขา กำลัง...โดนปล้นจูบ!
แล้วจะให้ขัดขืนได้อย่างไร แม่ตัวดีดันบอกว่าเป็นความปรารถนา
ที่ต้องทำให้เป็นจริง เวลาแบบนี้เขาจะพูดอะไรได้

นาทีถัดจากนั้น ม้ายังไม่ทันหมุนหมดรอบ เด็กน้อยที่อยู่ใกล้ๆยังต้องแปลกใจ
เมื่อผู้ชายขาวสูงหน้าตาหล่อเหลาที่ทำท่าเกาะติดไม่ยอมลงจากหลังม้ามาครู่ใหญ่
ตอนนี้กลับเหวี่ยงตัวข้ามราวกั้นหนีออกไป เหมือนรีบร้อนอะไรสักอย่าง

“แม่จ๋า พี่คนนั้นทำไมไม่รอให้ม้าหยุดหมุนค่อยลงคะ
แถมเมื่อกี้ยังทำปากจู๋อยู่คนเดียวแล้วก็หน้าแดงด้วย”

เสียงเจื้อยแจ้วแว่วมากระทบหู แต่นพคุณแกล้งทำเหมือนไม่ได้ยิน
ในมือเขายังมีมือของตัวนุ่มที่รีบร้อนถกกระโปรงชุดราตรีสีทองสาวเท้าก้าวตามมา

“โกรธเหรอ” คนหน้าแดงไม่แพ้กันอุบอิบถามผู้ชายที่เดินก้มหน้างุด
แหวกฝูงชนไปอย่างไม่สนใจว่าจะชนใครต่อใครเข้าบ้าง

“เปล่า” คำตอบห้วนสั้น ก็อุตส่าห์หวงตัวมาจนป่านนี้...กลับถูก
ยายละอ่อนน้อยจอมโก๊ะจอมทะเล้นทะลึ่งหลอกปล้นจูบไปง่ายๆเสียได้

จะให้บอกออกไปยังไง...........
ว่านั่นมันจูบแรกของเขาเหมือนกัน!



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2557, 02:47:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 02:47:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1196





<< ๕ ความสุขที่หมุนไป   ๕.๓ ความสุขที่หมุนไป >>
ภาวิน 5 ต.ค. 2557, 03:54:46 น.
ก๋ากั่นนักนะยายตัวนุ่ม ปล้นจูบไอ้พี่เก้าบนหลังม้าเลย แล้วระหว่างสายไหมกะริมฝีปากไอ้ี่เก้า ตัวนุ่มตอบได้ไหม อะไรหอมหวานกว่ากัน กริ๊บกริ้ว


lovemuay 5 ต.ค. 2557, 05:53:54 น.
ไม่น่าเชื่อนะพี่เก้า โตป่านนี้ยังไม่เคยจูบสาวอีก อิอิ


อสิตา 5 ต.ค. 2557, 06:54:20 น.
- คุณโกลเด้นซัน เพิ่งมาเม้นต์ตอนก่อน
แงงงงงงงง พิมพ์เทรนด์ผิดซะแล้ว ดันมี ด์ เกินมา... ชินมือน่ะค่ะ
คงเข้าโรงพิมพ์ไปทั้งอย่างนั้น จะจดไว้รอฉบับพิมพ์ซ้ำนะคะ เสียใจๆๆ


ketza 5 ต.ค. 2557, 07:00:53 น.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
พี่เก้าน่าร๊ากกกกกก
อ๊ายๆๆๆๆ เขินย๋อ จูบแรกด้วยยย ฮิ้ววววว

.. ตัวนุ่มสู้ๆ ตัวนุ่มลุยโลย ตอนหน้าพี่เก้าถูกแม่นางซาลาเบาหมูแดงนุ่มจับปล้ำแน่ พี่เก้าเตรียมตัวรอได้เบย 55555555


พันธุ์แตงกวา 5 ต.ค. 2557, 07:21:17 น.
จะน่ารักไปไหนเฮียเก้ากับตัวนุ่ม อ่านไปยิ้มไป มีการซ้อมกัดก้อนเกลือกินอีกแม่คุณ นึกถึงท่าเฮียขี่ม้าหมุนแล้ว แหม่ ถ้าอสิไปขึ้นก็คงน่ารักไม่เบา

เฮียเก้าถูกโปน จ้น เอ้ยโจร ปล้น ปล้น จูบบบบบบบบ มหาโจรโดนซะแร้วววววว


ใบบัวน่ารัก 5 ต.ค. 2557, 08:21:35 น.
ตัวนุ่มเมาหมูแดงหรือไง มาจูบเก้าแบบไม่ทันตั้งตัว
ไม่อายเด็กๆๆกันบ้างนะ งานวัดนะเนี่ยตัวนุ่ม


Pat 5 ต.ค. 2557, 08:45:35 น.
เขินก็เป็นนะเก้า


yimyum 5 ต.ค. 2557, 10:00:18 น.
มันก็แรกทั้งคู่แหละ ตัวนุ่มไปหาที่ดีๆ กว่านี้ไม่ได้เหรอ?


Zephyr 5 ต.ค. 2557, 10:16:02 น.
ตัวนุ่มมึนซึน ปล้นจุ้บเฮียซะละ
เริ่มครั้งแรกจะมีครั้งต่อๆไปนะ อิอิ
แต่ครั้งหน้า เฮียบุกเองแหงๆ


Sukhumvit66 5 ต.ค. 2557, 12:15:26 น.
วั๊ย ๆๆ เค้าไม่เชื่อเก้าหรอกนะ ว่าเป็นจูบแรกอ่ะ ไม่เชื๊อ ไม่เชื่อ....


นักอ่านเหนียวหนึบ 5 ต.ค. 2557, 14:25:43 น.
อั้ยยะ เมื่อมหาโจร ปะทะ กระต่ายป่าปล้นใจ อิ้วววๆๆๆ คงามมุ้งมิ้งจึงบังเกิด อร๊ายยยยย เขิลจิงงง


ดังปัณณ์ 5 ต.ค. 2557, 16:47:01 น.
อั้ยๆๆๆๆ แม่ๆๆ พี่เค้าทำปากจู๋ด้วยแหละ 555+ โถ พี่เก้าโดนปล้นคืนบ้างรู้สึกยังไงอ่ะ ความคิดไหลหลากมากเลยนะนั่น ขนมหวานไหลหลั่งมาให้รึ่ม แสดงว่าตอนเขียนขุ่นแม่กุเต่ยอยากกินหนมหวานซีนะ อืมๆๆๆ

อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย ซาลาเปากระต่าย ใส้หมูแดง อิพี่เก้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา เขิลน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ตัวนุ่มเอ๊ยดันไปท้าท้ายเขาไว้มาก สั่นหางสั้นจุ๊ดกระดุกกระดิกเป็นไงล่ะ โดนเอาคืน อิๆ แหมๆๆๆฉากนี้หวานกันจุงเบย ว่าแต่ขุ่นแม่กุเต่ย หนอนอยากอ่านพาทอดีตจุง มันมีรัศมีความหวานแบบพีเรียดแฝงมาเต็มเบย อั้ยๆๆๆ

ป.ล. ถูกแระ ว่าแต่ หักคะแนนเค้าม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย


บุลินทร 5 ต.ค. 2557, 22:19:18 น.
ครั้งต่อไปต้องวาบหวิวกว่านี้แน่นอน


goldensun 6 ต.ค. 2557, 06:50:43 น.
ตัวนุ่มคนรุ่นเก่าหรือใหม่นี่ มีปล้นจูบแรกจากโจรพี่เก้าซะด้วยย
ตอบแทนหมูแดง และไม่อยากถูกกินเป็นซาละเปาไส้หมูแดงเหรอจ๊ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account