ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๖.๒ ราคาของเพื่อน

คุณเกดนุ่ม – เขาซี่ เอ๊ย เขาทรายก็ใช่ว่าจะเรียกใช้ได้ตลอดเวลานะ ต้องแยกไปทำภารกิจบ้างจิ หุหุหุ
คุณยิ้มยิ้ม – เอิ่มมมม ตอนนี้คงได้คำตอบแล้วนะ ว่าเตจะมาเจอพี่เก้าไหม เอิ๊กๆ คู่เกย์
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – มันช่างง่ายดาย ใครหลอกใคร น่าจะเป็น...คนเขียนหลอกคนอ่าน!!

คุณภาวิน – หนังเหนียวก็ทำให้ไม่เหนียวได้นะ โปรดติดตามตอนต่อไป อุอิ
คุณสุขุมวิท66 – ไฮไลท์ของงานกำลังใกล้เข้ามา ฉากนี้จะฟาดฟันกันต่อเนื่องละ
คุณเลิฟหมวย – ยังไม่เริ่มโหมโรงเลยค่ะ ตอนนี้จะเป็นโหมโรงนะ อร๊างงงง

คุณพี่พันธุ์แตง – อืม...แต่ชุดตุ๊กแก เจอน้ำหนักอสิไม่รู้จะรับไหวไหม เจ๊อย่าถอดหัววาบๆมาทางนี้
อสิ อสิ อสิชอบกินเครื่องในนนนนน เลียปากแผล็บๆ เสร็จละ กระสือเจอปอบ...
คุณหนอนน้อยสะดุ้งขี้เถ้า – ขึ้นฉ่าย -10 คะแนน ต้องเขียนแบบนี้นะ ดีดก้นแปะๆ ไม่ชอบผักชีขึ้นฉ่าย
แง่งๆๆ //เขาทรายเป็นพริตตี้เริ่มติดใจ เลิกต่อยละ... หาเสี่ยเลี้ยงสักคนดีก่า หุหุ

คุณโกลเด้นซัน – แบ่งหน้าที่กันวางยาค่ะ หุหุ ใช่ค่ะฝั่งรับจงใจสละเสื้อทองเลย
เดี๋ยวดูกันว่าเพราะอะไร! เพราะมีเสื้อทอง ตาเก้าเลยกล้าลุยระห่ำมากขึ้น
//ขออนุญาต แอบแอดเฟซไปนะคะ ^^ ประทับใจในการอ่านที่มีคุณภาพของคุณโกลเด้นซัน
สายตาแหลม คนเขียนรู้สึกอุ่นใจยามมีคนอ่านเช่นนี้
------------------------------




เมื่อสวมชุดที่เตรียมมาเรียบร้อย นพคุณเดินเข้างานอย่างเข้าตามตรอกออกตามประตู
ได้สง่าผ่าเผยจริงดังว่า เขาชื่นชมดูลาดเลาในบรรยากาศสวยหรูไปพลาง
จนที่สุด จากหางตาพลันเห็นเสื้อทองถูกเข็นออกมาเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มซ่อนยิ้ม ของปลอม... น้ำหนักเท่ากัน
แต่ใช้อำนาจบังตาซึ่งรวมขึ้นมาจากคาถาของเขาและพลังส่วนหนึ่งของเจ้าทราย
ทำให้ของในครอบแก้วกระจกดูเหมือนเสื้อทองของจริงทุกประการ

ในงานนี้เขารู้ดีเชียวว่ามีใครอีกคนที่ตนรู้จักได้รับเชิญมา เป็นธรรมดา
ของงานพรรค์นี้ที่จะเชิญดารามีชื่อเสียงมาชูโรง แต่เกิดจะมาพอดีที่เป็นไอ้เตหรือตินพล
หลานชายตัวดีของครูฤทธิ์ เขาเห็นมันก่อนแล้ว แถมยังต้องทนฟังพิธีกรสัมภาษณ์ไอ้เต
กับคู่ขวัญดาราสาวของมัน ในหัวข้อประมาณทัศนคติของคนรุ่นใหม่กับศิลปะโบราณ

“ไอ้ขี้โม้เอ๊ย” นพคุณรำพึง เมื่อยินข้อความที่ตินพลสัมภาษณ์ลอยเข้าหู
อันที่จริงก็ฟังดูดีมีความคิดอยู่หรอก แต่เขาหมั่นไส้มันอยู่ก็เลยอยากแขวะ

จากนั้นเมื่อมันหมดภาระ เขากลับเป็นฝ่ายแกล้งโฉบรอให้มันเห็นเขา
ยั่วยวนปาดหน้าไปมาอยู่หลายหนแบบเนียนๆสุดท้าย...ตินพลก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามา
มาเลย! มีดารามาคุยด้วยแบบนี้เขาจะได้ดูอัพคุณค่าขึ้นมาอีกหน่อย
เรื่องความเด่นในสายตาศัตรูที่อาจจับจ้องอยู่น่ะเขาตั้งใจเด่นอยู่แล้ว
ยิ่งตอนนี้มีเสื้อทองอยู่ข้างในยิ่งไม่กลัวอะไร

“เจอน้ำหนึ่งบ้างไหม” ตินพลเอ่ยโดยไม่เสียเวลาเกริ่น

หึ มันอยากรู้เรื่องยายเพชรน้ำหนึ่งเพื่อนเขานี่เอง
เสียแต่ว่าช่วงนี้เขาก็ยุ่งแทบบ้า ไม่ได้มีเวลาสนใจใครเหมือนกัน
“ไม่...นายล่ะ?”

“ไม่” ตินพลตอบมาห้วนสั้นพอกัน

นพคุณมองคนตรงหน้าที่ดูดีจัดในทักซิโด้ดำรัศมีดาราจับทั้งกาย
คืนนี้นอกจากเรื่องงานแล้ว...ไม่แน่มันอาจถูกโชคชะตาของบ้านปรารถนา
จะซัดพามาเกยถึงนี่ บ้านที่มอบบางอย่างให้มาเกี่ยวพันกับชีวิตของผู้ซึ่ง
ล่วงล้ำเข้าไป ตอนนี้มันคงโดนเข้าแล้ว ไม่ว่าไอ้เตผู้แสนอวดดีจะต้องการหรือไม่ก็ตาม

แล้วเขาก็ได้เห็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่เปล่งกระแสไม่ธรรมดา
ในครอบครองของลลิยา ดาราสาวที่จะดูจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังกับไอ้เตของเขาอยู่ไม่น้อย

สมบัติชิ้นตรงหน้ามีอำนาจที่จอมโจรอย่างเขาอยากจะลองสัมผัสมันดูสักครั้ง
เสียดายว่าลำพังที่เตรียมตัวมาลุยงานนี้ก็ธุระล้นมือพอแล้ว

เขาชิงขอตัวก่อนจะถูกดึงไปพัวพันกับเรื่องสนุกของทั้งคู่
แต่สายตาของผู้หญิงคนนั้นราวกับพรานผยองผู้กุมบ่วงแร้วเอาไว้มั่นมือ
จะมาไม้ไหนกัน ไม่แน่ว่าคืนนี้ไอ้เตอาจต้องการความช่วยเหลือ...
เขาถอยออกมาแต่ตัว แต่จะวางใจได้อย่างไร ช่างมันดีกว่า
ตะกี้มันยังส่งสายตาดูถูกอยู่เลยว่าคนพรรค์อย่างเขาไม่น่าเข้ามาในงานได้

จุดหมายมีเพียงมุ่งไปตามทางของตัวเอง
เขาช้าไม่ได้! เพราะทุกอย่างถูกวางไว้ตามเวลาหมดแล้ว

แต่พอก้าวออกจากห้องหลักที่ใช้จัดงานไปได้ไม่กี่ก้าวชายหนุ่มกลับเปลี่ยนความคิด!

ไอ้เต... หลานชายครูฤทธิ์ ชีวิตมันเรื่องของมันก็จริง
แต่เขาอดยอมรับกับใจตัวเองไม่ได้ว่ายังไงก็เอ็นดูอีกฝ่ายไม่น้อย
เขามาที่นี่เพื่อเปลี่ยนชะตาชีวิตของตนเอง ให้ชนะ ให้สุดท้ายได้พบเจอ
คนที่มีค่าอย่างไอ้เอก แต่เขาจะปล่อยให้อีกชีวิตที่มีของตินพล
ซึ่งอาจจะมีค่าสำหรับใครหลายคนที่รออยู่ดำเนินไปตามยถากรรม
ทั้งที่ตัวเขาเองก็อาจช่วยได้ละหรือ?

นพคุณหันกลับ กวาดตาหาเป้าหมายที่เกือบจะคลาดตาไปอยู่แล้ว
ดีว่ายังเห็นหลังไวๆ ทั้งตินพลและยายลลิยาผลุบหายเข้าไปยังห้องด้านใน
เขาเองก็ไม่ค่อยได้ตามข่าวดาราว่าใครรัก ใครแค้น ใครคู่ใคร แต่สองคนนี้
เห็นทีจะไม่ควรคู่กันแน่ ดูจากแววตามาดหมายของฝ่ายหญิงแล้ว
ฝ่ายที่น่าจะโดนจัดการโดยไม่เต็มใจน่าจะเป็นไอ้เตมากกว่า
หน้าตามันดูมีลางคล้ำเครียดไม่สู้ดี จะเอาตัวรอดเองไหวหรือ
ผ่านไปสักพัก...เห็นเงียบหาย ที่สุดชายหนุ่มจึงตัดสินใจ
บุกเข้าไปในห้องที่ดูเหมือนจะเป็นห้องแต่งตัวอย่างอุกอาจ

“อ้าว ขอโทษ สงสัยผมจะเข้าห้องผิด ว่าจะหาห้องน้ำ อยู่ทางไหนวะเต แถวนี้หรือเปล่า”

จริงอย่างคาด สภาพพลุ่งพล่านร้อนรุ่มครองสติได้ไม่สู้ดีของมันบ่งบอกว่ากำลังแย่
ดูไปดูมาคล้ายจะโดนยาดีเข้าให้แล้ว แถมแม่ดาราสาวนั่นก็ทำเหมือนอยากฆ่าเขา
ให้ตายที่กล้ามาขวาง ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่มา แต่วินาทีถัดมาเมื่อตินพลชิงโซเซออกไป
ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะอยู่ต่อ


สาวเท้าตามไปไม่เร่งร้อน กระทั่งมันพาตัวไปถึงลาดจอดรถ
เข้านั่งในรถเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ นพคุณจึงเคาะกระจกรถเสียหน่อย
ดูว่ามันพอจะขับรถกลับบ้านได้เองด้วยการทดลองยั่วยวนสักสองสามประโยค

“ไง ไหวไหมวะ”

แน่ะ มันทำหน้าดุใส่เขาเสียอีก

“ไม่ใช่เรื่อง”

“เอ้า ก็ถามดีๆ” นพคุณแสร้งผิวปากอย่างไม่เดือดไม่ร้อน
“สรุปว่าโดนยายนางเอกคนสวยมอมยาหรือไง เสน่ห์แรงไม่ตกนะ ไอ้คาสโนว่า”

“รู้อยู่แล้วจะมาถามทำไม...ข้ากลับก่อนละ”

ดูมัน!ยังซ่าไม่หายเหมือนเคย แบบนี้คงรอดไปได้สบายๆ
“งั้นไปละ” หมดเรื่องเสียที จะได้ไปจัดการเรื่องของตัวเองต่อ
ไม่ให้เสียกระบวน นพคุณเตรียมจะก้าวจากไป หูพลันได้ยินเสียงต่ำๆดังมาจากในรถ

“เมื่อกี้ขอบใจมาก”

เขาจ้องหน้าคนพูดอย่างไม่คาดคิดเจ้าคนตรงหน้านี่เปลี่ยนไป?
...อาจจะในหลายๆทาง แต่ก่อนได้ยินว่ามันเจ้าชู้ไม่เบา
และจากที่เคยไม่ลงรอยกัน คล้ายวันนี้เขาคล้ายได้เห็นประตูบานใหม่แง้มเปิดออก
หรือเป็นเพราะ...บ้านปรารถนา

จะว่าไปเขาก็เขินอยู่หน่อยๆ จึงจัดแจงสั่งเสีย บอกลา และแถมท้าย
ไล่ส่งด้วยสีหน้าเป็นมิตร จนเมื่อมันเลื่อนกระจกรถขึ้นทั้งกำลังจะจากไป
นพคุณเลยแกล้งเลิกชายเสื้อขึ้นนิดหนึ่งให้ตินพลเห็นเสื้อทองที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อยืด

ฝ่ายนั้นถึงกับตะลึง ส่วนเขาหัวเราะเสียงดังเร่งจากมาเพื่องานสำคัญที่ยังรออยู่



ใกล้ได้เวลา... กานต์รวีพยายามหาทางพาสุทัศน์ไปติดพันในวงสนทนา
กับผู้ใหญ่ที่ฝ่ายนั้นยากจะปลีกตัว ส่วนตนเองแยกออกมาด้วยข้ออ้างว่า
จะไปหยิบเครื่องดื่มแก้วใหม่ให้ เมื่อไม่มีใครเห็น เธอไม่รีรอที่จะใส่ยาเม็ด
ที่เตรียมไว้ลงไปในแก้วทรงสูงเย็นเฉียบ ยาละลายฟู่ หายวับไปในบัดดล
จากนั้นเธอก็แค่ยื่นแก้วให้หมอสุทัศน์ ดูอีกฝ่ายจิบมันลงคอ...

สำเร็จไปเปลาะหนึ่งละ!

“อื้อ เหล้าผลไม้นี่รสไม่เลว รวีลองชิมดูไหม”
เนื่องจากผู้ใหญ่ที่คุยอยู่เป็นนานสองนานเมื่อครู่ขอตัวผละจากไปแล้ว
สุทัศน์จึงพยายามจะป้อนเครื่องดื่มจากแก้วตนเองให้หญิงสาวร่วมลิ้มลอง

“ไม่ค่ะไม่ วันนั้นของเดือน...รวีไม่ดื่ม” หญิงสาวปฏิเสธละมุนละม่อม

“เป็นนานหลายวันจัง กลับไปคืนนี้เดี๋ยวทัศน์ตรวจพิเศษให้เอาไหม”

กานต์รวียิ้มแหย ความเหมือนกันของหมอทศพลกับลูก ถ้าจะมีก็คง
เหมือนกันแค่ความชีกอนี่เอง เธอเองได้ใช้ข้ออ้างนี้ในการป้องกันหมอสุทัศน์
บุกเข้าหาในยามค่ำคืนมาร่วมสัปดาห์แล้ว อีกฝ่ายคงสงสัยว่าทำไมไฟแดงตลอด
ไม่มีไฟเขียวเสียที เพราะแบบนั้นเจ้าตัวถึงยังไม่ได้กินเธอ

“ใกล้หมดแล้วค่ะ แต่รวีไม่ดื่มนะ...ขืนดื่มทีไรแปลงร่างเป็นนางมารทุกที หรือทัศน์อยากจะลอง”

กานต์รวีมองแววตาคู่สนทนาที่จู่ก็ค่อยๆเลื่อนลอยลงในฉับพลัน
ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะยกมือขึ้นตบแก้มหมอสุทัศน์เบาๆ

“ทูนหัว... ทำหน้าให้มีชีวิตชีวาหน่อยสิ แล้วก็ว่าง่ายๆ นี่โดนยาเข้าไปแล้วจริงๆหรือ”

“โอเค ทัศน์จะว่าง่าย” คนฟังตอบทั้งรอยยิ้ม ดูเชื่องลงผิดหูผิดตา

“หึ เจ้าหมอหน้าหม้อเอ๊ย! ประเดี๋ยวพอถึงเวลาให้ทำอย่างนี้นะ...”
หญิงสาวยื่นหน้าไปกระซิบสั่งความที่ริมหู รอจนสาวห้าวผู้อยู่ในอำนาจของยา
ที่ดื่มเข้าไปพยักหน้าตามอย่างเชื่อฟัง

กานต์รวีเลิกคิ้วอย่างหลากใจ บอกตามตรงว่าตอนนพคุณให้ยานี้มา
เธอไม่คิดว่ายาอะไรจะสะกดคนได้ผล ดูท่าจะต้องเป็น
ยาหลอนประสาทที่มีฤทธิ์มากพอดู!

จากนั้นก็ได้เวลาเหมาะ... สองทุ่มครึ่ง เธอจึงทิ้งหมอสุทัศน์ซึ่งเปลี่ยนเป็นหุ่น
ที่เชื่อฟังไว้เบื้องหลัง ตนเองก้าวออกจากห้องจัดงานไปตามทาง โชคดีที่เคยมา
งานที่โรงแรมนี้แล้วหลายครั้ง ทำให้พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่ตรงไหน


นพคุณกอดอกรออยู่ตรงระเบียงโถงทางเดินในส่วนที่ค่อนข้างจะไร้ผู้คน
ทอดตามองโคมแก้วเป่าแชนเดอเลียร์ อย่างที่นำมาจากอิตาลี เป็นสไตล์แบบ
เวเนเชียนแท้ๆที่ล้วนแล้วไปด้วยเฉดสีโทนออกเลื่อมเขียวอ่อนลออ เข้ากับสถานที่
โซนนี้ซึ่งตกแต่งด้วยสีเขียวนวลกับระเบียงดัดเป็นลวดลายอ่อนช้อยสีเงิน
เงาแสงทอดพรายมาถึงตรงนี้ เขามองตามปลายแสงนั้นไปจนตาประสานกับ
หญิงสาวคนหนึ่งที่เดินลิ่วมาแต่ไกล

ดูเธอสิ กำลังฉีกชายผ้าดำของชุดกระโปรงออกทิ้งราวกับฉากในละคร
เธอคงอยากทำอะไรเท่ๆแบบนี้มานานแล้ว นพคุณอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมา
ทำท่าปรบมือแบบไม่มีเสียงให้กับการแสดงที่น่าดูชมนั้น ยั่วให้หญิงสาวทำหน้าฉุนๆ
สะบัดชายผ้าที่ฉีกออกแล้วโยนทิ้งพ้นระเบียงไปอย่างไม่ไยดี เผยให้เห็น
ช่วงขาเรียวขาวและรองเท้าไม่มีส้นที่เหมาะจะลุยทุกสถานการณ์

“ไม่เก็บชายกระโปรงไว้หน่อยหรือ เผื่อคู่หูบาดเจ็บ จะได้ฉีกออกมาพันแผลแบบหนังจีน”

เพราะรู้ว่าคู่หูที่นพคุณพูดถึงไม่ใช่ตัวเขา แต่เป็นไอ้บ้าอีกคนที่เธอหมั่นไส้
หญิงสาวจึงตอบเสียงเขียว “เฮอะ ถ้าโดนงั้นจริงก็ปล่อยให้เสียเลือดตายไปสิ
อยากกระจอกเอง”

“พูดอย่างนั้นนายชาก็น่าสงสารแย่” ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆ
ส่งสายตาจับจ้องพิจารณาคนที่ไม่ได้พบกันหลายวัน

กานต์รวี...แผนครั้งนี้เริ่มตั้งแต่เขากับเธอแกล้งทะเลาะกัน
จากนั้นจึงให้หญิงสาวแกล้งกระฟัดกระเฟียดฟูมฟายร้องไห้ไปหาหมอสุทัศน์
แกล้งไปเป็นพวกนั้นรวมถึงไปทำเรื่องบางอย่างในวังห้าธาตุ เขาไม่มีโอกาส
ติดต่อเธออีกเลย เพราะไม่มีวิธีปลอดภัย... ทำได้แต่มารอตามนัดในเวลานี้เท่านั้น
ด้วยคำคำเดียว ไว้ใจในฐานะเพื่อนร่วมทีมที่จะไม่ทรยศกัน

“เรียบร้อยนะ? ทั้งเรื่องในงาน แล้วก็ที่ให้ทิ้งไว้ในวังห้าธาตุ”

“แน่นอน”

“หลายวันที่ไม่ได้เจอกันคง... ไม่ได้ใจอ่อนเปลี่ยนข้างไปอยู่กับพวกนั้นใช่ไหม” เขาถามกึ่งเล่นกึ่งจริง

“อ้อ นี่ไม่ไว้ใจรวีถึงขนาดนั้น” คนฟังเริ่มจะเสียงแข็ง

“ไม่ได้ไม่ไว้ใจ แต่อยากฟังคำยืนยัน จะได้ไว้ใจให้สนิทไปอีกนานๆ”

“นิสัยแย่เหมือนเคย” เธอเกือบหลุดปากว่าแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนก็คงไม่เอา
แต่แล้วกลับยั้งไว้ เพราะรู้แก่ใจดีว่าตนก็เป็นหนึ่งในคนที่ยังอยากพิชิตเขาอยู่ไม่คลาย



รัฐมนตรีอนันต์กลับเป็นตัวแปรที่ไม่คาดคิด ทว่าหลังจากปรึกษากับนพคุณแล้วว่า
จะใช้แผนนี้ สุวิชาจึงติดต่อหาเพื่อนนักข่าวที่เข้าประจำที่พร้อมอยู่ ให้งัดแผนซึ่ง
ทีแรกตั้งใจจะเก็บไว้ในโอกาสอื่นออกมาเผยในงานได้เลย

ดังนั้นเมื่อชายกลางคนผู้ภูมิฐานกำลังอยู่ในวงล้อมของแขกเหรื่อ
นักข่าวกลุ่มใหญ่ที่แต่เดิมกระจายตัวอยู่รอบงานก็เกิดจะรุมล้อม
เข้ามาอย่างไม่ต้องรักษามารยาทกันแล้ว

“ท่านครับ มีข่าวด่วนมาถึงพวกผมสดๆเมื่อครู่นี้เอง เมื่อค่ำนี้คุณอรรณพลูกชายท่าน
ที่กำลังลงสมัครสส.เพิ่งเปิดห้องสวีทกับพลตรีผดุงชัย ได้ข่าวว่าไม่ใช่ครั้งแรกด้วย!
ท่านมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ” นักข่าวหนุ่มสวมแว่นเป็นคนเปิดฉาก

คำถามเหมือนจะเป็นการจุดชนวน และนักข่าวที่ไม่รู้ว่าเพิ่มจำนวนมาจากไหน
ในนาทีนั้นก็รุมกันเข้ามาเหมือนแมลงวันได้กลิ่นอาจม ทำเอารัฐมนตรีอนันต์ถึงกับ
ขมับเต้นเร่า คนอย่างเขา... รักษาหน้าตาชื่อเสียงได้ด้วยดีมาตลอด หลายครั้ง
ที่รู้สึกคล้ายจะพังเพราะเรื่องอิดหนาระอาใจซึ่งลูกชายอย่างอรรณพเฝ้าแต่สรรหามา

“พลตรีผดุงชัย แว่วๆว่าตอนนี้กำลังมีข่าวเรื่องคอรัปชั่นกับพิรุธเรื่องที่ดิน
ไม่ทราบว่าคุณอรรณพจะไปเปิดห้องคุยเรื่องนี้หรือว่า...”

หลายคำถามส่อเสียดมีเลศนัยราวกับถามเอาสนุกอย่างที่เห็นได้บ่อยครั้งในจอโทรทัศน์
แต่น้อยครั้งที่รัฐมนตรีอนันต์เองจะต้องทนรับเรื่องพวกนี้ เพราะเขาทำตัวมีเกียรติเสมอมา
จนกระทั่งลูกชายไม่เอาถ่านที่ชอบมั่วกับเพศเดียวกันเริ่มทำตัวกร่างขึ้นทุกวัน

ท่านรัฐมนตรีผู้โกรธจนปากซีดขาวกลับไม่ตอบคำถาม ทั้งความตั้งใจที่จะมาร่วมชมเรื่องราว
ที่น่าจะเข้มข้นในคืนนี้กลับสิ้นสุด ตาคมสีน้ำตาลอ่อนราวเหยี่ยวปรายไปสบตาชายชุดดำ
ใส่หมวกข้างกาย ชายผู้นั้นพยักหน้าตอบ เป็นเชิงว่าจะดูแลเรื่องที่เหลือไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
เท่านั้นรัฐมนตรีจึงสั่งผู้คุ้มกันจำนวนหนึ่งให้แหวกทาง พาร่างสูงสง่าละทิ้งพ้นไปจาก
งานนิทรรศการทองที่กำลังจะกลายเป็นปลักตม
โดยตนเองไม่ยอมแปดเปื้อนแม้กระทั่งปลายรองเท้า


นพคุณจัดแจงบอกทางไปต่อให้กานต์รวีว่าเธอจะหาสุวิชาพบได้ที่ไหน...
เพราะครึ่งเดือนก่อนตอนที่แสร้งแตกคอแยกกันไปแผนยังไม่ได้วางไว้
ครบขั้นตอนถึงขนาดนี้ รอจนส่งหญิงสาวลับตาแล้ว
ชายหนุ่มจึงเร่งมุ่งสู่เป้าหมายถัดไป

งานนี้พวกเขาจำต้องงดวิทยุสื่อสารแบบหูฟัง เพราะเกรงว่าพวกมันจะ
จับทางได้เอาง่ายๆ ได้แต่พึ่งการทำตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้าสำหรับแต่ละคน
ให้แม่นยำที่สุด ทั้งเรื่องเวลาและคุณภาพ ตอนนี้ปองเกียรติเองก็ควรจะถูกตัวนุ่ม
กับเจ้าทรายคุมเชิงจับตาไว้แล้วเช่นกัน...ถ้ามีอะไรแปลกประหลาด คงมีใคร
กลับมารายงานให้เขารู้แล้ว นี่แปลว่าแผนยังดำเนินไปด้วยดี

ที่ไม่ใช้ยากับปองเกียรติก็เพราะเขากับไอ้เอกรู้นานแล้วว่าทำไม่ได้
ชายคนนั้นมันนกรู้เกินไป มีของป้องกันตัวดีเกินไป อีกอย่าง
สมควรจะปล่อยให้มันได้มองดูสิ่งที่พวกเขาลงมือทำในคืนนี้

มันเอาตัวไอ้เอกไป พวกเขาก็จะพรากคนของมันไปเช่นกัน...
จนกว่าจะถึงเวลา ยื่นหมูยื่นแมว ตอนนั้น เขาต้องได้ตัวเพื่อน รวมทั้งกุญแจทอง!


งานกำลังดำเนินมาถึงจุดสุดท้าย การประมูลช่วงไฮไลท์
ที่มีปองเกียรติเป็นคนคุมในวาระนี้ ตามหมายกำหนดจะมีการสาธิตเสื้อทอง
ให้ผู้เข้าชมได้เห็นเป็นขวัญตาด้วย ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ได้ถือว่าเป็นการแหกตา
แต่เห็นเป็นการแสดงที่ก้ำกึ่งในรูปแบบของมายากลลวงตา ดังนั้นจึงไม่ได้
สร้างกระแสอะไรจากจุดนี้เป็นพิเศษ เพียงแค่ถือเป็นสีสันของงานก็เท่านั้น

หน้าที่ของนพคุณ คือต้องดึงความสนใจของปองเกียรติมาไว้ที่ตนอย่างเต็มที่
ถ่วงเวลาให้นายชากับกานต์รวีต้อนแกะหลงทางไปจากที่นี่ได้สำเร็จ
เพื่อไม่ให้มีพิรุธแกะสองตัวซึ่งได้รับยาจะต้องเดินออกไปเองโดยไม่มีผู้ติดตามแม้แต่คนเดียว

ทว่าที่ไม่ได้บอกเพื่อน คือเรื่องว่าเขาวางแผนให้คืนนี้ตนเองไปจบลงตรงไหน...

แต่ก่อนที่นพคุณจะทันก้าวเท้าไปถึงห้องประมูล เจ้าเขาทรายกลับมาโผล่เบื้องหน้าเขา
เอ่ยร้อนรนพร้อมชูกระต่ายตัวจิ๋วในมือให้ดู “พี่เก้าเจ้าขา พี่นุ่มเป็นอะไรไม่รู้
อยู่ดีๆก็บอกว่าไม่สบาย พลังลดวูบ กลับร่างเป็นคนไม่ได้แล้ว”

ชายหนุ่มลมหายใจสะดุด ทั้งที่ไม่ใช่คืนแรม ดวงจันทร์ยังลูกโตอยู่เลยด้วยซ้ำ
เขายื่นมืออกไปสัมผัสร่างเล็กที่หลับตานิ่งคล้ายกำลังนอนหลับแผ่วๆ

“คงจะแค่อ่อนเพลียเท่านั้น... ช่างเถอะ ทางนี้ไม่ต้องดูแล้ว สำหรับเอ็ง
ให้พาตัวนุ่มหนีไปพร้อมสุวิชากับพวกที่เหลือเลย เข้าใจไหม
ไประวังหลังให้พวกนั้นจะต้องมีพวกมันตามกัดไม่ปล่อย”

“พี่เก้า” กุมารน้อยเริ่มสังหรณ์ประหลาดจากน้ำคำของเขา
ที่ฟังเหมือนกับว่าไม่ได้คิดจะกลับไปด้วยกัน

“รีบไป!”

นพคุณสั่งห้วนๆแล้วก็เดินเลี่ยงเข้าสู่ห้องประมูล ไม่ทันได้สังเกต
ว่ากระต่ายตัวจ้อยกลับค่อยๆปรือตาขึ้นอ่อนล้า ได้ยินสิ่งที่เขาพูดทุกประการ



“ท่านทศพล ได้เวลาไปที่ห้องประมูลแล้วนะครับ”

“อั๊วไม่มีอารมณ์!” หมอใหญ่อาวุโสมาดเจ้าพ่อเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“ฝากบอกปองเกียรติด้วย ว่าหมอทศพลปวดหัว พองานเลิกแล้ว
ค่อยเอาจดหมายนี่ให้เฮียแกดู ห้ามให้ก่อนเวลาเด็ดขาด”

มืออวบอูมยื่นซองปิดผนึกที่เพิ่งเรียกหามาลงมือเขียนด้วยลายมือตนเองให้ผู้ติดตาม
...ก็แค่จดหมายเรียกค่าไถ่เป็นตัวไอ้เป็นเอก ที่ต้องถูกนำตัวมาแลกกับตัวเขาเอง
ที่จากนี้จะไปอยู่ในมือโจรสักพักใหญ่! “แล้วไม่ต้องคอยตามเป็นอึปลาทอง
เดี๋ยวจะออกไปเดินสูดอากาศคนเดียวหน่อย”

ด้วยสุ้มเสียงที่บ่งบอกว่าเอาจริงของคนเป็นนาย ลูกน้องจึงไม่กล้าตอแย
ทำได้แต่พยักหน้าแล้วถอยหลีกทาง

บรรยากาศวังเวง นาฬิกาเก่าแก่ตีสัญญาณสามทุ่มตรง ชั่วเวลาพอดิบพอดีนั้น
...หมอสุทัศน์พลันเยี่ยมหน้าเข้ามาหาผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาถึงห้องพักรับรอง

“คุณพ่อล่ะ” หมอสาวมาดทอมบอยถามเรียบขรึม

“ท่านทศพลออกไปเดินเล่นแถวสวนตะวันออกน่ะครับหมอทัศน์”

“อ้อ ตรงที่มีนาฬิกาแดดสวยๆใช่ไหม”

“แต่ว่าท่านสั่งไม่ให้ใครตามไปกวน”

“กวน? คงไม่รวมลูกหรอกมั้ง อีกอย่าง ฉันมีธุระต้องคุยกับคุณพ่อตอนนี้เลย” สุทัศน์ส่งสายตากร้าว

ด้วยรู้ดี อารมณ์โกรธของหมอสุทัศน์นั้นแรงยิ่งกว่าคนเป็นพ่อ เห็นตัวเล็กๆแบบนี้
กลับเล่นงานจนลูกน้องอยากตายทั้งเป็นมากกว่าอยู่มาแล้วหลายราย
ผู้ติดตามจะทำอะไรได้นอกจากมองตาปริบๆ มองสุทัศน์ก้าวจากห้องรับรอง
ออกสู่สวนอันมีมุมมืดซ่อนเร้น ตามบิดาไปอีกคน

ด้านหนึ่งของสวนเป็นกำแพงพุ่มไม้ สามารถแหวกทะลุสู่ทางรถแล่นออกจากโรงแรมได้
สามทุ่มเก้านาที ตรงเวลาเผงที่รถคันเทาเงินหน้าต่างติดฟิล์มสีมืดแล่นเข้าจอดเทียบ

กานต์รวีรอทำหน้าที่อยู่ที่นั่นเพียงลำพัง หญิงสาวผลักหมอทศพล
ไปนอนไว้ที่เบาะหลังไม่ชักช้า “เอาตาแก่หื่นคนพ่อไว้หน้า ให้นอนดีๆหน่อย
เผื่อไม่สบายหัวจงหัวใจวายไปจะยุ่ง...ไอ้หมอหน้าหม้อนี่เอาไว้ท้ายรถซะเลย”
สุทัศน์ถูกยัดเข้าไปในกระโปรงหลังรถให้ขดนอนอยู่ในนั้นอย่างไม่ถนอมนัก
เพราะกานต์รวีแค้นอยู่หน่อยๆค่าที่สาวห้าวบังอาจลวนลามเธอเสียมากมาย
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา

หญิงสาวเองตะกายขึ้นไปนั่งคู่คนขับซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจตน์...
นักข่าวสวมแว่นตาคนนั้นเองที่วันนี้รับหน้าที่สำรองฉุกเฉิน
แล้วก็ได้งานช่วยเชิญรัฐมนตรีอนันต์กลับบ้านไปทำ

“รีบออกรถเถอะ!”

นี่คือการหวนมาเจอกันอีกครั้งของชายหญิงแห่งทีมปล้นที่แสร้งแตกคอกับกลุ่มรุนแรง
เพื่อลดการจับตาและการตามรู้ตามเห็นของพวกพรายกระซิบ สร้างข่าว
ที่ยังความสับสนเมื่อเจ้าลิ่วล้อพวกนั้นกลับไปรายงานศัตรู ตามความเข้าใจของทั้งสอง
พรายกระซิบที่ว่าคือนักสืบ หาใช่สิ่งเหนือธรรมชาติอย่างที่นพคุณรู้ว่าติดตามดูอยู่ไม่

แต่แผนแตกคอนี้ อย่างมากก็ใช้ช่วยได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

“นายชาล่ะ! มันต้องเป็นคนพาสองคนนี้มาเจอเธอไม่ใช่หรือ?”

“เขาบอกให้เราไปกันก่อน จะหาทางหนีไปเองตามแผนสำรอง...
เห็นว่าลืมติดตั้งระบบบ้าบออะไรไปตัวนึงนี่แหละ แย่ชะมัด
แต่ยังดี พ่อลูกคู่นี้บอกตรงกันว่ามีเด็กผู้ชายคนนึงจูงมือมาส่งก่อนถึงฉัน”

“เด็ก? อืม สายของไอ้เก้าสินะ ช่างเถอะ ต้องรีบไปแล้ว”

โชคดีที่เส้นถนนช่วงนี้รถไม่ติดมาก ทันทีที่เลี้ยวพ้นโรงแรมรถสีเทาเงิน
พุ่งออกไปราวลูกกระสุน พยายามจะกลืนหายไปกับการจราจรแห่งเมืองหลวง
ยามราตรี ทิ้งเมฆทะมึนหนักอึ้งไว้กับคนข้างหลังที่ยังต้องสานภารกิจนี้ต่อให้สุดทาง

ทว่า สายตาของกุมารน้อยกลับเล็งเห็น รถสีดำทยอยตามออกไปหลายคัน

ถึงนายจะบอกไม่ให้คอยตามเป็นอึปลาทอง แต่ยังไงพวกมันก็ต้องมีหูมีตาอยู่แล้ว
พี่เก้าให้เขาคอยดูอยู่เพื่อการณ์นี้ เด็กชายจึงกระซิบกับกระต่ายน้อยในฝ่ามือ

“แยกกันก่อนนะพี่นุ่ม ไม่ต้องตามเราไป พวกนั้นมีของ...
แล้วก็ไม่ต้องเข้าไปในตึกด้วย มันอันตรายมากสำหรับสภาพอ่อนแรงของพี่ตอนนี้”

พูดจบเด็กชายเก้าขวบก็ก้มลงหอมกระต่ายเบาๆแล้ววางลงอย่างทะนุถนอมบนพื้นหญ้า
ก่อนจะหายวับ ทิ้งก้อนขนสีขาวอ่อนยวบไว้ ณ สวนนั้นเพียงเดียวดาย



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ต.ค. 2557, 00:01:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ต.ค. 2557, 00:01:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 1173





<< ๕.๔ ความสุขที่หมุนไป - ๖ ราคาของเพื่อน   ๖.๓ ราคาของเพื่อน >>
Chii 8 ต.ค. 2557, 00:13:46 น.
กุเต่ยจิโดนใครคาบไปเป่าอ่าาาาาาา

พี่เก้าาาา กุเต่ยจะโดนคาบแล้ววววว
รีบรอดออกมาช่วยด้วยยยยย


ภาวิน 8 ต.ค. 2557, 00:26:18 น.
เรื่องนี้มียายเพชรมาโผล่ด้วย สองหนุ่มคงไม่รู้ว่ายายเพชรไปดำน้ำอยุ่กระบี่แล้วก็เจอเรื่องชวนตระหนกไม่แพ้กัน แต่พี่เก้าจะตายอีกครั้งไหมเนี่ย เรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว น้องทรายจะช่วยคุณพ่อยังไงล่ะทีนี้


ใบบัวน่ารัก 8 ต.ค. 2557, 05:40:24 น.
ตัวนุ่มโดนทิ้งซะแล้วหรือ
แค่ไม่มาคุยด้วยตอนเดียวเองน้า
ป๊ะกลับไปอยู่ในตู้ขนมจีบซาลาเปาใน7-11เถอะ
ลูกค้ารออุ่นเวฟอยู่นะ


พันธุ์แตงกวา 8 ต.ค. 2557, 06:17:38 น.
ฮ่าๆๆๆๆๆ ขำน้ำตาไหล อสิน่ากัววววว เจ้ก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมปอบไม่กินเครื่องในกระสือ อืมมมม

ที่แท้เป็นแผนแกล้งแตกคอกันนี่เอง เนียนๆ ใกล้จะช่วยไอ้เอกได้ยัง ป่านนี้เป็นไงบ้างน้อ
อ้ายยยย ตัวนุ่มถูกทอดทิ้ง ทอดกรอบๆเลยมั้ย^^


lovemuay 8 ต.ค. 2557, 06:42:06 น.
ตัวนุ่มต้องรีบกลับมาช่วยพี่เก้ารอบนี้แน่เลย เพราะต้องคาดเดาได้ว่าจะเกินอะไรบางอย่างขึ้น


yimyum 8 ต.ค. 2557, 06:49:24 น.
บอกตรงๆ ว่า หนูเปลี่ยนคู่จิ้นแล้ว ขอจิ้นพี่ตังเตกับพี่เก้าได้มั้ยอ่าาา ><
ตัวนุ่มเป็นรายยย ทำไมกลับมาเป็นกระต่ายเร็วจัง


ดังปัณณ์ 8 ต.ค. 2557, 09:14:36 น.
ตัวนุ่มเปนรายล่ะน่ัน หรือเพราะอิตาคนชุดดำนั่นหนิ ไม่ใช่รวีเอาคืนอีกรอบหรอกนะ ทำไมนายชาถึงบอกว่าลืมติดตั้ง ทั้งๆที่ตอนแรกคอนเฟิร์มถูกต้มเรียบร้อย อืมๆๆๆๆ รอเฉลยพรุ่งนี้สินะ เห้อ....สะบัดก้นกระดึ๊บหนี ขุ่นแม่กุ่เต่ยชอบยั่ว!

แหงะ...ว่าแล้วต้องผิด 555+ ยื่นก้นให้ขุ่นแม่ฟาดผัวะๆ โซ่แส้กุญแจมือ แอร๊ยยยยยยยยยยย บ้าไปแย้ว 555+


บุลินทร 8 ต.ค. 2557, 10:27:04 น.
เดี๋ยววันนี้จะไปสำรวจร้านหนังสือมาให้นะ อยากเห็นป้าปถนเล่มจริงระดับนึง


ริญจน์ธร 8 ต.ค. 2557, 10:53:23 น.


goldensun 8 ต.ค. 2557, 11:02:01 น.
ขนาดอยู่ระหว่างโจรกรรม ยังมีแก่ใจห่วงเพื่อน ย้อนมาช่วย คนดีเหมือนกันนะนี่
เจ้าเล่ห์ทั้งก๊วนเลย แผนซับแผนซ้อนอย่างนี้ จะโดนซ้อนแผนรึเปล่า ฝั่งนั้นมีคนเจ๋งเป็นอาวุธลับเหมือนกันนี่
อ้อ จงใจปล่อยเสื้อทอง กะให้เก้ายิ่งระห่ำซินะคะ เข้านิสัยเลย ได้ลองแล้ว ว่าแต่เสื้อทองจะคุ้มชีวิตเก้าได้มั้ย
ตัวนุ่มอีก เป็นอีกแผนที่ซ้อนรอเก้าไว้รึเปล่า ในเมื่อตัวนุ่มฝืนฝ่ายนั้นไม่ได้นี่


ketza 8 ต.ค. 2557, 11:03:57 น.
พี่เ้ก้าระวังน๊าาา เดี๋ยวติดกับดัก
ตัวนุ่มก็ระวังด้วยน๊าา เดี๋ยวใครมาอุ้มไป พี่เ้้ก้ามาช่วยไม่ทันจิแย่เอา แง้ๆๆๆ


Sukhumvit66 8 ต.ค. 2557, 12:15:02 น.
ตัวนุ่มเป็นอะไรนะ......แล้วทุกคนจะรอดไปได้ไหม อยากรู้


นักอ่านเหนียวหนึบ 8 ต.ค. 2557, 20:29:41 น.
อะไร ยังไง นุงนัง งุนงง แต่ที่แน่ๆ ตัวนุ่มจะตามไปอิีรักขาพี่เก้าชิม้ายยย


peeno 8 ต.ค. 2557, 20:46:18 น.
พี่เก้าจะรอดไหมเนี่ย ตัวนุ่มคงอยู่ช่วยใช่ไหม
ขอให้ทุกคนรอดนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account