เพียงใจเสน่าหา โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
เมื่อเทพบุตรในฝันมายืนอยู่ตรงหน้ามีหรือคนอย่างแป้งร่ำจะปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการล่ารักฉบับพลีชีพจึงเกิดขึ้น แต่เอ๊ะยังไง นานๆไปเทพบุตรในฝันกลับกลายร่าง รู้ตัวอีกทีเธอก็เป็น "เป็ดน้อยในมือซาตานไปแล้ว"

เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟค่ะ เป็นภาคต่อของมธุรัตน์เสน่หา สามารถสั่งซื้อได้ในราคาลด 15% ได้ที่เว็บนี้นะคะ
http://www.lightoflovebooks.com/

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

Tags: โรแมนติก คอเมดี้ นางเอกรั่วๆ นางเป็นเภสัชกร พระเอกเป็นจิตแพทย์

ตอน: บทที่ 3 ตัวช่วย(เหยื่อ)สุดซื่อ

บทที่ 3 ตัวช่วย(เหยื่อ)สุดซื่อ

หลังจากออกจากโรงพยาบาลมาได้หนึ่งสัปดาห์ ณัฐมลก็หายจากอาการไข้หวัดเป็นปลิดทิ้งแต่กลายเป็นไข้ใจเพราะอาการตกหลุมรักกำเริบแทน ลักษณะอาการคือว่างเป็นไม่ได้ ต้องคิดถึงแต่หน้าของนายแพทย์พัลลภ พอนึกถึงเรื่องที่เขาช่วยเอาไว้ก็นั่งยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว แต่พอนึกได้ว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย หญิงสาวก็ห่อเหี่ยวได้แต่นั่งถอนหายใจ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าคนที่ดีพร้อมอย่างนั้นอาจจะมีคนรักอยู่แล้ว

ณัฐมลเฝ้ารอคอยว่าอาจจะได้เจอกับเขาอีกในระยะอันใกล้ หญิงสาวเชื่ออย่างงมงายว่าเป็นคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน ทว่ายิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ความเชื่อที่เคยมีก็ยิ่งลดน้อยถอยลง เธอเลยเลิกรอแล้วพยายามไปหาศศิชาที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังแวะไปที่ร้านกาแฟที่เคยเจอกัน แต่ก็ไม่ได้พบเขาอีก

หญิงสาวเริ่มปลงตกได้ว่าโชคชะตาคงไม่เมตตาเธอ ในเมื่อฟ้าไม่เป็นใจก็ต้องดิ้นรนช่วยตัวเองให้ได้มากที่สุด ณัฐมลเลยเริ่มต้นสร้างโอกาสด้วยการหาข้อมูลของพัลลภ สิ่งที่เธอรวบรวมมาได้คือเขาอายุมากกว่าเธอสี่ปี เรียนจบมาด้วยคะแนนเกียรตินิยม ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าแผนกจิตเวชประจำโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยดัง ในเว็บบอร์ดรุ่นก็มีแต่คำชมเขาเยอะแยะไปหมด เรียกว่าเป็นมนุษย์ที่ดูสมบูรณ์แบบจนน่าประหลาดใจเลยทีเดียว

หญิงสาวลองหาดูว่ามีข้อมูลเขาอยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์หรือไม่ แล้วเธอก็พบว่าเขาสมัครเฟซบุคทิ้งเอาไว้แต่ว่าไม่ได้ติดต่อกับใครเลย ในหน้าเว็บเพจมีแค่รูปเขากับกระดานข้อความโล่งๆ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากโฆษณาไร้สาระกับคำชวนเล่นเกม

ถึงจะไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม ณัฐมลก็ดีใจที่ได้รูปเขาในอิริยาบถอื่นมาเก็บไว้ เธอกดบันทึกภาพเขาเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ รวมกับรูปอื่นๆ ที่บังเอิญหามาได้ แล้วนั่งยิ้มหวานมองอย่างมีความสุข

ยิ่งนานวันอาการของหญิงสาวก็ยิ่งคล้ายกับแฟนคลับที่หลงใหลได้ปลื้มดารามากเข้าไปทุกที จะต่างกันก็ตรงที่เธอไม่เคยคิดว่าเขาเป็นคนที่ไกลเกินเอื้อม จะหล่อจะดีพร้อมอย่างไร เขาก็ยังเป็นคนธรรมดา ถ้าไม่ลองเอื้อมมือคว้า ก็ไม่มีวันรู้หรอกว่าจะได้มาหรือเปล่า

ก่อนจะเริ่มลงมือสานสัมพันธ์กับพัลลภอย่างจริงจัง สิ่งแรกที่ณัฐมลต้องรู้คือเขามีเจ้าของแล้วหรือยัง เธอมีคติประจำใจว่าต่อให้ปลื้มมากแค่ไหน ก็จะไม่มีวันไปแย่งของใครอย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงต้องสืบให้มั่นใจเสียก่อน

เพื่อให้ได้ข้อมูลในเชิงลึก ณัฐมลจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากศศิชา ทั้งสองคนทำงานที่เดียวกันแถมยังเป็นหมอเหมือนกันอีก ก็น่าจะช่วยสืบข่าวให้เธอได้ หญิงสาวเลยบุกมาหาเพื่อนถึงที่ห้อง เธอเลือกมาในวันหยุดของเพื่อน เพราะอีกฝ่ายจะได้อ้างไม่ได้ว่าต้องทำงานหรือยุ่งอยู่

ศศิชากำลังนอนหลับสบายตอนที่ถูกเคาะประตูเรียก ต้องโทรศัพท์ตามถึงจะเดินอ้าปากหาวมาเปิดประตูให้ เมื่อเห็นว่าแขกยามเช้าเป็นคนคุ้นเคย เจ้าของห้องก็ชี้นิ้วไปที่โซฟาเป็นเชิงให้นั่งรอ ในระหว่างที่เธอไปล้างหน้าให้สร่างง่วง

“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา”

น้ำเสียงของศศิชาค่อนไปในทางหงุดหงิด แต่ณัฐมลก็ไม่ได้ถือสาเพราะเข้าใจดีว่านี่เป็นสภาพปกติของคนอดนอน หญิงสาวฉีกยิ้มหวานให้เพื่อนแล้วเอ่ยเรื่องที่จะไหว้วาน

“ชาจำพี่หมอพัลลภที่ช่วยเค้าตอนเป็นลมได้ไหม เค้าอยากรู้ว่าเขามีแฟนหรือยัง”

“ก็ไปถามเขาสิ มาถามฉันทำไม” ศศิชาโบกมือไล่

“ถามได้เค้าถามไปแล้ว แต่คนไม่รู้จักมักจี่กันจะให้เดินดุ่มๆ ไปถามเขามันก็ไม่ดีใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นชาจ๋า...ช่วยสืบให้หน่อยเถอะนะ ขอร้อง”

หญิงสาวยกมือไหว้แล้วทำสายตาวิงวอนออดอ้อนสุดชีวิต ทว่าคำตอบของเพื่อนกลับห้วนสั้นเสียเหลือเกิน

“ไม่!”

“ทำไมล่ะ?”

ณัฐมลรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินคำปฏิเสธอย่างแข็งขัน เธอกับศศิชาคบหากันมานาน ถ้าไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงเพื่อนก็มักจะช่วยเสมอ เธอก็เลยชักหวั่นใจว่าคุณหมอพัลลภอาจมีอะไรที่ไม่ดีจนเพื่อนไม่อยากให้เข้าใกล้

“เหตุผลมันยาว ไว้พูดทีหลังได้ไหม” ศศิชาเปิดปากหาวอีกครั้ง ตอนนี้เธอยังไม่อยากคุยกับใครเพราะทั้งง่วงทั้งหิว เดี๋ยวจะพาลใส่เสียเปล่าๆ

“มายั่วให้อยากแล้วจะจากไปได้ยังไง เล่ามาเลยนะ”

“หิวจะแย่ ขอกินอะไรก่อน”

“ไม่เอาน่าชา เล่าก่อน อยากรู้จะตายแล้ว” ณัฐมลเขย่าแขนเร่ง แล้วตั้งท่าจะงอแงจนกว่าอีกฝ่ายจะเปิดปากพูด

“ก็ได้...” ศศิชาเหลือบตาขึ้นมองเพดานอย่างรำคาญ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วพูดรัวใส่เป็นชุด

“เอาเป็นข้อเลยแล้วกันนะ ข้อแรก ฉันไม่รู้จักมักจี่กับเขาเหมือนกัน ทำงานที่เดียวกันแต่คนละแผนก ไม่เคยพูดกันเลยด้วยซ้ำ ข้อสอง งานฉันยุ่งจะตายอยู่แล้วรู้ไหม วันๆ ตรวจคนไข้เป็นร้อย ไม่มีเวลาว่างมาทำอะไรไร้สาระอย่างหาข่าวให้หล่อนหรอก ข้อสุดท้าย ถึงเขาจะไม่มีแฟนแต่โสดมาได้จนป่านนี้ ถ้าไม่ใช่เกย์ก็มาตรฐานสูงเวอร์ เขาไม่มีวันชายตาแลแกเด็ดขาด บอกไว้เลยว่าหมอกับพยาบาลสวยๆ กินแห้วมาไม่รู้กี่รายต่อกี่รายแล้ว อ้อ! แล้วอีกอย่าง เลิกเซ้าซี้ฉันซะที ตอนนี้น้ำตาลในเลือดฉันต่ำมาก ถ้าไม่ได้กินอะไรในห้านาทีนี้ ต่อให้เป็นเพื่อนรักก็ไม่รับประกันความปลอดภัย เคยได้ยินไหม กล่องข้าวน้อยฆ่าเพื่อนน่ะ”

ศศิชาแยกเขี้ยวใส่ตอนท้ายประโยค เจออย่างนี้เข้า ณัฐมลเลยรีบถอยออกมาแล้วปล่อยให้ศศิชาไปหาอะไรกินก่อนที่ตัวเองจะถูกฆาตกรรม

หญิงสาวนั่งรอให้ศศิชาได้จิบกาแฟถ้วยแรกจนหมด ในระหว่างนั้นเธอก็คิดทบทวนคำพูดของเพื่อนไปด้วย สักพักก็เริ่มเอะใจว่ามันมีอะไรแปลกๆ อยู่ในนั้น

ณัฐมลย่องเข้ามาหาศศิชาที่กำลังดื่มกาแฟที่โต๊ะกินข้าว หญิงสาววางมือลงบนไหล่เพื่อน แล้วยิ้มจนตาหยี

“ชาจ๋า...ตัวเองปิดบังอะไรเค้าหรือเปล่า บอกว่าไม่รู้จักแล้วตัวเองรู้ได้ยังไงว่ามีคนอกหักเพราะพี่หมอเยอะแยะ สารภาพมาซะดีๆ ตัวเองแอบไปสืบมาให้เค้าแล้วใช่ไหมเอ่ย?”

ศศิชาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อถูกจับได้ หญิงสาวคร้านที่จะโกหกก็เลยจำต้องบอกความจริงไป

“อืม...ฉันก็เลยไม่อยากให้แกไปยุ่งกับเขาไง”

ปกติณัฐมลเป็นพวกบ้าผู้ชายหน้าตาดีก็จริงแต่ก็เคลิ้มได้ไม่นาน ถ้าเขาไม่มาจีบแบบจริงจังเธอก็จะหมดความสนใจไป ทว่าหนนี้เกือบสองสัปดาห์แล้ว ณัฐมลยังไม่เลิกเพ้อถึงพัลลภ เธอเลยลองหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาดู เผื่อจะได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีดีอะไร

“ทำไมล่ะ พี่หมอมีประวัติฟันสาวแล้วทิ้งเหรอ เป็นพวกขี้เหล้าเมายาหรือเป็นเสือไบใช่ไหม โอ้ไม่นะ! สุดหล่อของฉัน ทำไมแป้งร่ำมันถึงได้ซวย หลงรักแต่ผู้ชายเลวๆ นะ”

ณัฐมลเริ่มคร่ำครวญ เมื่อรู้ว่าสุดหล่อในฝันอาจจะไม่ได้ดีพร้อมอย่างที่เธอคิด อารมณ์ของหญิงสาวขณะนี้ประหนึ่งรู้ข่าวว่าดาราชายในดวงใจต้องคดีค้ายาอย่างไรอย่างนั้น

“ไม่ต้องเดาแล้ว ที่พูดมาไม่ถูกเลยสักอย่าง พี่หมอของหล่อนนะดีพร้อม ดีเวอร์จนไม่รู้ว่าจะดียังไงเลยล่ะ ขยันทำงาน ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่มีประวัติว่าคบหาใคร ทั้งกับผู้ชายแล้วก็ผู้หญิง ใครๆ ก็ชื่นชม สมบูรณ์แบบอย่างกับไม่ใช่มนุษย์”

ได้ฟังแล้วณัฐมลก็หันมาค้อนขวับให้เพื่อนสาว โทษฐานที่ทำให้เธอใจเสียจนเผลอคิดเตลิดไปเสียไกล

“พิลึกจริงชานี่ ถ้าเขาดีแล้วจะห้ามทำไม”

“แกนี่ฉลาดนะแป้ง แต่ไม่เฉลียวเลย” ศศิชาเหน็บเสียทีหนึ่งก่อนจะเฉลย “แกไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอ คนเรามันก็ต้องมีข่าวลือด้านลบหรือเรื่องไม่ดีบ้างสิ แต่หมอพัลลภกลับสมบูรณ์แบบจนเหลือเชื่อ คนแบบนี้ถ้าไม่สร้างภาพ ก็เป็นอะไรที่อยู่สูงจนเราจับต้องไม่ได้หรอก เสียเวลาเปล่า”

ศศิชามั่นใจว่าเธอมองไม่ผิด เธอเคยรู้จักคนที่มีฉากหน้าไร้ที่ติ แต่ฉากหลังกลับเน่าเฟะ เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว เธอเลยไม่อยากจะให้เพื่อนไปเกี่ยวข้องกับคนพรรค์นี้

“พูดอะไรเป็นปรัชญาอีกแล้ว คนโง่ๆ อย่างฉันไม่เข้าใจหรอกนะชา ฉันรู้แค่ว่าถ้าไม่ลองไปสัมผัส แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันจับต้องได้หรือเปล่า”

คนอย่างณัฐมลเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่พร้อมจะสู้เสมอ หญิงสาวไม่เคยเข็ดขยาดกับความรักทั้งที่ก็ผิดหวังมามาก ศศิชาชื่นชมเพื่อนในข้อนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วง เพราะนอกจากจะไม่เคยเข็ดแล้ว เจ้าหล่อนยังมีนิสัยชอบพุ่งชนเป้าหมายแบบไม่คิดหน้าคิดหลังด้วย

“ก็ตามใจ แต่เตือนไว้ก่อนเลยนะว่าแกจะไปอ่อยเขาให้สนใจด้วยวิธีการเดิมๆ ไม่ได้หรอก ผู้ชายคนนี้เกราะหนา”

เวลาสนใจใคร ณัฐมลมักจะใช้วิธีการทำตัวให้เป้าหมายสนใจ แล้วค่อยๆ ถูกดึงดูดเข้ามาหาตัวเธอเอง หญิงสาวจะไม่ลงมือจีบใครแบบเปิดเผยอย่างเด็ดขาด เธอเชื่อในหลักการที่ว่าผู้ชายมีสัญชาตญาณการล่าอยู่ในตัว ถ้าเธอเป็นฝ่ายเสนอตัวไปให้เขาเสียเอง คนที่จะเสียเปรียบก็คือเธอ

“ไม่ต้องห่วงน่า ฉันมีวิธีการของฉัน ขอแค่เบอร์โทรเขาก็พอ นะชานะ หามาให้หน่อย ฉันอยากได้เบอร์มือถือพี่หมอ” ณัฐมลกระโดดเข้ามากอดแขนประจบในทันที

ยังไม่ทันที่ศศิชาจะได้ปฏิเสธหรือรับปาก เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ณัฐมลที่อยู่ใกล้กว่าจึงผละออกไปดู พอแง้มประตูออก ก็ได้กลิ่นอาหารจีนจำพวกขนมจีบซาลาเปาลอยเข้ามา หญิงสาวเห็นคนที่มาถือปิ่นโต เธอคิดว่าเพื่อนสั่งอาหารมากินเลยปลดโซ่ออก แล้วก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อบาดใจของเด็กส่งของ

‘เด็กอะไรน่ากินเป็นบ้า!’

ถ้าไม่นับดาราเกาหลี หนุ่มน้อยตรงหน้าเธอจะเป็นผู้ชายหน้าสวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา หญิงสาวมองอีกฝ่ายตาค้าง เพราะไม่อาจละสายตาจากดวงตาสดใสเป็นประกายกับเครื่องหน้าหล่อเหลาได้

พอเห็นว่าณัฐมลมองมา ชายหนุ่มก็หันมาส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ทำให้นึกถึงภาพของเทพอีรอสหรือกามเทพรูปงามในตำนานกรีกขึ้นมาทันที นี่ถ้าเธอไม่ตกหลุมรักหมอพัลลภอยู่ สงสัยเธอได้ถูกศรรักปักกลางใจเพราะหนุ่มน้อยตรงหน้าเป็นแน่แท้

ศศิชาเห็นเพื่อนยืนเงียบเลยเดินมาสมทบ พอเห็นว่าแขกยามสายเป็นใคร เธอก็ถามออกไปเสียงเรียบ

“มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“อ้าว! ไม่ใช่คนส่งของหรอกเหรอ” ณัฐมลเผลอโพล่งออกมา

“เปล่าหรอกครับ ผมเป็นเพื่อนบ้าน อยู่ห้องข้างๆ นี่เอง” กันติทัตตอบแล้วหัวเราะออกมา “ผมเอาขนมมาให้ครับ ที่บ้านเพิ่งเอามาให้เมื่อครู่นี่เอง ยังร้อนอยู่เลย” ประโยคนี้ชายหนุ่มหันมาพูดกับศศิชา ก่อนจะยื่นปิ่นโตทรงสี่เหลี่ยมแบบสี่ชั้นมาให้

“ขอบคุณนะคะ” ศศิชารับมาแล้วยิ้มให้ตามมารยาท

หญิงสาวดูจะไม่ยินดียินร้ายกับน้ำใจของหนุ่มหล่อรายนี้เลย ผิดกับกันติทัตที่พออีกฝ่ายรับของไปเขาก็ส่งยิ้มกว้างกลับมาให้อย่างยินดี

“ฮะเก๋าเจ้านี้อร่อยมากเลยนะครับ ถ้าได้ชิมแล้วจะติดใจ”

“ค่ะ จะลองทานดู”

หลังจากศศิชารับคำบทสนทนาก็เงียบไป ณัฐมลเหลือบไปเห็นพอดีว่าพ่อหนุ่มหน้าสวยคนนี้เอาแต่จ้องเพื่อนรักของเธอตาเยิ้ม หญิงสาวเลยได้กลิ่นหอมของความรักโชยออกมาจากตัวของชายหนุ่ม ทว่าเมื่อหันไปมองเพื่อนสนิท เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากความเฉยชา

‘หลงรักข้างเดียวหรอกหรือนี่’

“มีอะไรอีกไหมคะ” ศศิชาเอ่ยเพื่อตัดบท เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเงียบไป

“มะ...ไม่มีแล้วครับ ผมรบกวนแค่นี้แหละ เอ่อ...ไม่สิ ผมไม่รู้ว่าคุณหมอศศิชาชอบซาลาเปาไส้อะไรเลยเอามาให้ทุกไส้เลยครับ เอ่อ...ผม คือ...”

ชายหนุ่มเกาศีรษะด้วยอาการเก้อเขิน ท่าทางเหมือนอยากจะหาเรื่องมาพูดต่อแต่ไม่รู้จะพูดอะไร สุดท้ายก็เงียบไปอีก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อหนุ่มรุ่นน้องรายนี้แวะมาเคาะห้อง แล้วเอาขนมหรืออาหารมาฝาก ศศิชารู้สึกได้ว่าเขาดีกับเธอเป็นพิเศษ ถึงกระนั้นก็ไม่อยากเสวนาด้วย เธอเลยทำตัวให้เงียบเข้าไว้ รอให้เขาเป็นฝ่ายล่าถอยไปเอง

”ผะ...ผม ผมไม่รบกวนแล้วนะครับ กิน เอ่อ...ทานให้อร่อยนะครับ” กันติทัตหมุนตัวเดินไปจนพ้นกรอบประตู แต่แล้วก็ต้องเดินย้อนกลับมาส่งยิ้มแห้งๆ ให้ “คือ…ผิดทางครับ ห้องผมไปทางนี้”

ณัฐมลหลุดหัวเราะพรืดออกมาทันทีกับอาการประหม่าของชายหนุ่ม มองแล้วก็ยิ่งมั่นใจว่าพ่อหนุ่มรายนี้แอบชอบเพื่อนเธอแน่ หญิงสาวก็เลยช่วยเปิดโอกาสให้

“เดี๋ยวค่ะ! กินข้าวข้าวเช้าหรือยังคะ อุตส่าห์มีน้ำใจเอามาฝาก มานั่งกินด้วยกันไหม”

“ชวนผมเหรอครับ” กันติทัตเบิกตากว้าง แล้วเอามือชี้นิ้วไปที่ตัวเองเหมือนไม่เชื่อหู

“ค่ะ ชวนคุณนั่นแหละ”

“กินครับกิน ถึงอิ่มแล้วก็จะกิน” ชายหนุ่มรับคำอย่างกระตือรือร้น ทว่าสักพักก็นึกได้ว่าคนเอ่ยชวนไม่ใช่เจ้าของห้อง เขาก็หันไปมองศศิชาอย่างเกรงใจ

ศศิชาปรายตาไปมองจอมเจ้ากี้เจ้าการอย่างณัฐมลเสียทีหนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวหมุนตัวกลับเข้ามาในห้อง แล้วหยิบแก้วออกมาจากตู้สามใบ

“เข้ามาสิคะ ชาเขาอนุญาตแล้ว”

ณัฐมลกระซิบบอกแล้วบุ้ยใบ้ให้ดูที่จำนวนแก้ว ชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้ามาอย่างยินดี

กันติทัตช่วยจัดแจงเทน้ำจิ้มใส่ถ้วย แล้วแกะปิ่นโตออกมาวางเรียงกัน ชายหนุ่มหยิบซาลาเปาเข้าปากแค่ชิ้นเดียว จากนั้นก็เอาแต่จ้องศศิชาตาลอย ส่วนศศิชาก็จิ้มของกินเข้าปากแบบไม่สะทกสะท้าน มองแล้วณัฐมลก็ต้องกลั้นหัวเราะแทบตาย

‘นี่มันเด็กน้อยกับราชินีน้ำแข็งชัดๆ’

หญิงสาวรู้สึกถูกชะตากับกันติทัตก็เลยพยายามหาทางช่วยอีกครั้ง ทว่ายังไม่ทันได้เปิดบทสนทนา ศศิชาก็ลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะเสียก่อน

“อิ่มแล้ว จะไปนอนล่ะ ถ้าจะกลับก็ล็อกประตูด้วย”

“อย่าเพิ่งสิชา แขกยังไม่กลับไปเลย” ณัฐมลค้าน

“ใครเชิญมาก็รับผิดชอบเอง ฝันดีราตรีสวัสดิ์”

ตัดบทเสร็จหญิงสาวก็ก้าวฉับๆ ไปที่ห้องนอน จากนั้นก็มีเสียงล็อกดังตามมาบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวไม่ต้องการการรบกวน

‘เป็นแบบนี้ทุกทีเลย แย่จริง’ ณัฐมลพึมพำกับตัวเองในใจ

ศศิชามักจะกันตัวเองออกจากเพศตรงข้ามเสมอ ความผิดหวังในอดีตทำให้หญิงสาวปฏิเสธทุกคนที่เข้ามา เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ณัฐมลเลยคิดว่าศศิชาคงดีขึ้นแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอคิดไปเอง ศศิชายังคงสร้างกำแพงหนาและเว้นระยะห่างจากคนที่ต้องการจะสานสัมพันธ์

“ขอโทษนะคะ ชาเขาอดนอนก็เลยหงุดหงิด” หญิงสาวหันมาแก้ต่างแทนเพื่อน


“ไม่เป็นไรครับ ผมผิดเองที่มารบกวน” กันติทัตยังคงส่งยิ้มกลับมาให้โดยไม่มีท่าทีว่าจะถอดใจ

เห็นแล้วณัฐมลก็รู้สึกเอ็นดูหนุ่มหน้าอ่อนคนนี้มากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ก็เลยลองชวนคุยดู

“ลืมแนะนำตัวไปเลยค่ะ ฉันชื่อว่าแป้งร่ำ เรียกแป้งก็ได้ อืม...แป้งน่าจะเป็นพี่นะ เกิดปีไหนคะ”

“ผมชื่อครามครับ เกิดปี...อ๊ะ! พี่แป้งร่ำ ชื่อจริงณัฐมลใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มโพล่งออกมาทันทีที่นึกได้ว่าที่แท้หญิงสาวเป็นคนรู้จัก “ผมครามไงครับ จำได้ไหม น้องชายพี่ฟ้า”

ณัฐมลย่นหัวคิ้วแล้วนิ่งคิดอยู่นานเพราะจำไม่ได้ กันติทัตเลยต้องให้ข้อมูลเพิ่ม

“ผมเรียนอยู่กลุ่มที่พี่แป้งเคยสอนพิเศษให้ไงครับ”

อึดใจภาพความทรงจำของณัฐมลก็ไหลย้อนกลับมาทีละน้อยจนเป็นรูปเป็นร่าง ตอนเรียนจบมาใหม่ๆ เธอเป็นเภสัชกรอย่างเดียวยังไม่ได้เปิดร้านขายยา ช่วงนั้นเธออยากเก็บเงินก็เลยใช้เวลาว่างมาสอนพิเศษในสถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง นึกถึงตรงนี้ หญิงสาวก็จำได้ว่าเคยสอนพิเศษให้กับน้องชายของรุ่นน้องที่คณะ

“ฟ้านี่ใช่กานต์นรีหรือเปล่า” หญิงสาวถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“ใช่แล้วครับ พี่แป้งสวยขึ้นมากจนผมเกือบจำไม่ได้เลยครับ”

“เราก็หล่อขึ้นเหมือนกันนะ” หญิงสาวชมกลับแล้วเอามือตีหัวไหล่อีกฝ่ายแก้เขิน

“พี่แป้งก็ชมเกินไปครับ ครามก็ยังเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่เห็นเปลี่ยนไปเลย”

“ไม่จริงหรอกคราม เปลี่ยนไปเยอะเลยต่างหาก ดูแมนขึ้นตั้งเยอะ” ว่าแล้วก็เนียนๆ เอามือจับไหล่จับหลังอีกฝ่ายทดสอบความแน่นของกล้ามเนื้อเสียเลย

‘ต๊าย! หุ่นเฟิร์มได้ใจเจ๊เลยนะเนี่ย’

กันติทัตที่เธอจำได้เป็นหนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ดตัวผอมเก้งก้าง ตอนนั้นถึงโครงหน้าจะมีเค้าว่าเป็นหนุ่มหล่อแต่ก็ยังดูเด็กเกินกว่าจะให้ความสนใจ เจ็ดปีผ่านไปมาเจอกันอีกทีก็กลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัวหล่อกระชากใจไปเสียแล้ว

“ถ้ารู้ว่าโตมาแล้วจะหล่ออย่างนี้นะ จับกดไปเสียตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองอย่างแสนเสียดาย

บังเอิญว่าบ่นดังไปหน่อยอีกฝ่ายก็เลยได้ยินด้วย ได้ฟังกันติทัตก็หัวเราะขำอย่างไม่คิดเป็นจริงเป็นจัง

“พี่แป้งนี่ยังขี้เล่นเหมือนเดิมเลยนะครับ”

แววตาใสซื่อของชายหนุ่มมองความหื่นกามของณัฐมลไปในทางบวกเสียอย่างนั้น โดยหารู้ไม่ว่าที่ได้นี่กลั่นตรงออกมาจากใจเชียวล่ะ

ณัฐมลหัวเราะให้กับความซื่อของชายหนุ่มอยู่ในใจ ฉับพลัน หญิงสาวก็คิดแผนการดีๆ ออก เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากันติทัตก็ทำงานอยู่ที่นี่และท่าทางดูเหมือนจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเพื่อนรักของเธอ หญิงสาวจึงกวักมือเรียกให้ชายหนุ่มขยับตัวเข้ามาหา แล้วจึงเริ่มแผนการล่อเหยื่ออย่างแยบยล

“เราจีบชาอยู่ใช่ไหม” ณัฐมลลดเสียงลงเพราะกลัวว่าศศิชาจะได้ยิน

“เปล่านะครับ ผมไม่ได้ คือ...ผมชอบ แต่ว่า เอ้ย! ผมหมายถึงผมปลื้ม แต่ว่าไม่ได้จีบ” กันติทัตหน้าแดงไปถึงใบหู แล้วออกท่าออกทางปฏิเสธจนมือแทบจะพันกัน “ อ๊ะ! ถึงจะให้ขนมจีบก็เถอะ ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษเลยนะครับ ผมแค่ชอบ คือผม...”

ยิ่งอธิบายยิ่งแสดงออกว่าชอบมาก สุดท้ายชายหนุ่มก็เลยก้มหน้างุดหยุดพูดเสีย

“อ้าวเหรอ ไม่ได้ชอบใช่ไหม ว้า! กะจะช่วยสักหน่อย พี่น่ะเพื่อนซี้ปึกของชาเชียวนะ มีพี่เป็นกุนซือรับรองจีบติดชัวร์ อ๊ะ! ลืมไปว่าไม่ชอบนี่เนอะ มีคนมาตื้อขอให้ช่วยเหมือนกันนะ ไปช่วยคนนั้นดีกว่า” หญิงสาวแกล้งพูด

ผลคือกันติทัตแถมจะถลามากราบแทบเท้าเธอ ขอร้องว่าอย่าเป็นแม่สื่อให้คนอื่น

“ผมยอมรับก็ได้ครับว่าชอบ พี่แป้งช่วยผมด้วยเถอะนะครับ” ชายหนุ่มสารภาพหน้าแดงก่ำ ดูน่ารักแล้วก็น่าสงสารเสียเหลือเกิน ถ้าไม่เกรงใจเธอคงกระโจนเข้าใส่แล้วจับมาฟัดแล้ว

“ก็ได้ พี่จะช่วย เอาเป็นเบอร์มือถือชาเป็นไง”

“จะดีเหรอครับ อยู่ห้องติดกันแค่นี้ แล้วคุณหมอศศิชาไม่ได้ให้เอง”

ชายหนุ่มคิดว่ามันดูเร็วไปสักหน่อยที่จะโทรศัพท์หากัน เขากับศศิชาเพิ่งจะรู้จักกันได้แค่เดือนเศษเท่านั้นเอง

“เรานี่ไม่รู้อะไรเลย” ณัฐมลกระดิกนิ้วแล้วจุปากวางท่าอย่างผู้ทรงภูมิ “ชาน่ะบ้างานแล้วก็ไม่ชอบคุยกับใครก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นผู้หญิงนะ เวลามีใครมาทำดีด้วยก็ต้องรู้สึกดีบ้างล่ะ ไม่ต้องวุ่นวายมาก เอาแค่ข้อความอรุณสวัสดิ์กับฝันดีครับ ส่งมาให้ทุกวันเป็นเวลา มันก็ต้องหวั่นไหวบ้างล่ะ”

กันติทัตตาวาวเป็นประกายในทันทีที่ได้ฟัง เห็นแล้วณัฐมลก็หัวเราะในใจอย่างชั่วร้ายที่ชายหนุ่มกระโดดเข้ามาติดกับโฆษณาชวนเชื่อของเธอเข้าอย่างจัง

“พี่จะให้เบอร์ชา แต่มีข้อแม้นะว่าเราต้องทำงานบางอย่างให้พี่”

“ได้ครับ ถ้าไม่ผิดกฎหมายผมทำให้ได้ทั้งนั้น” กันติทัตรับคำอย่างแข็งขันโดยไม่สังหรณ์ใจสักนิดเลยว่าตัวเองกำลังก้าวเข้าสู่วัฏจักรแห่งความซวยในวินาทีนั้น



นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ส.ค. 2554, 14:04:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.พ. 2555, 14:54:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 3215





<< บทที่ 2 ฟ้าดลบันดาลให้เรามาพบ   บทที่ 4 เบอร์โทร...เบอร์เธอ >>
ปรางขวัญ 22 ส.ค. 2554, 14:25:44 น.
แป้งร่ำได้เหยื่อแล้ว อิอิ


anOO 22 ส.ค. 2554, 14:57:39 น.
ครบคู่แล้วสิ..ยัยแป้งจะหลอกใช้งานเด็กเหรอ


เพลา 22 ส.ค. 2554, 16:07:29 น.
น่าสงสารพ่อคราม นอกจากหลงผิดไปชอบราชินีน้ำแข็งแล้ว ยังโดนยัยแป้งหลอกล่อมาเป็นเหยื่ออีก


lunamoon 22 ส.ค. 2554, 18:41:47 น.
รั่วได้อีก


หมูอ้วน 22 ส.ค. 2554, 23:39:53 น.
รอตอนต่อไปค่ะ


ปูสีน้ำเงิน 22 ส.ค. 2554, 23:52:41 น.
หาประโยชน์เข้าตัวเองจนได้นะยัยแป้ง


wane 23 ส.ค. 2554, 01:30:54 น.
ร้ายจริงๆ ยัยแป้ง


Zephyr 23 ส.ค. 2554, 19:32:10 น.
หญ้าอ่อนน้อยๆจะเคี้ยวโคแก่สุดเขี้ยวซะแล้ว แถมโดนหลอกใช้อีกอ่ะ แล้วคิดดีแล้วเหรอนายครามเอาแป้งเป็นที่ปรึกษาเนี่ย ตัวเองยังไม่รอดเลย เฮ้อ


ameerahTaec 25 ส.ค. 2554, 08:51:39 น.
เข้าทางแป้งร่ำเลย หุหุ


ปอปอ 3 ต.ค. 2554, 21:29:21 น.
อยากจะบอกคนเขียนว่า กรี๊ดดดดด ยัยแป้งร่ำเอานิสัยเค้ามาเลย เอาได้ชื่อหมอแล้วเอามาหาในสังคมออนไลน์ >.<"


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account