เพียงใจเสน่าหา โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
เมื่อเทพบุตรในฝันมายืนอยู่ตรงหน้ามีหรือคนอย่างแป้งร่ำจะปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการล่ารักฉบับพลีชีพจึงเกิดขึ้น แต่เอ๊ะยังไง นานๆไปเทพบุตรในฝันกลับกลายร่าง รู้ตัวอีกทีเธอก็เป็น "เป็ดน้อยในมือซาตานไปแล้ว"

เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟค่ะ เป็นภาคต่อของมธุรัตน์เสน่หา สามารถสั่งซื้อได้ในราคาลด 15% ได้ที่เว็บนี้นะคะ
http://www.lightoflovebooks.com/

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

Tags: โรแมนติก คอเมดี้ นางเอกรั่วๆ นางเป็นเภสัชกร พระเอกเป็นจิตแพทย์

ตอน: บทที่ 6 สู้ต่อไปนะแป้งร่ำ

บทที่ 6 สู้ต่อไปนะแป้งร่ำ

อาการป่วยที่ศศิชาเขียนเอาไว้ในใบประวัติผู้ป่วยทำเอาณัฐมลได้แต่อึ้ง พอคิดว่าสุดหล่อในฝันกำลังจ้องมองตัวเองในฐานะผู้ป่วยวัยทอง คำคำนี้มันก็สะท้อนดังก้องอยู่ในหัว ทำเอาสมองตื้อคิดอะไรไม่ออก เขาถามอะไรมาหญิงสาวก็ได้แต่ตอบรับไปแบบไม่ค่อยมีสติ

พัลลภเห็นว่าผู้ป่วยยังไม่ยอมบอกเล่าอาการ ก็เลยให้คำแนะนำว่าให้ลองไปหาสาเหตุของความเครียดในชีวิตประจำวันดู ถ้าเป็นไปได้ช่วยเขียนบันทึกมาให้ด้วยว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง แล้วสัปดาห์หน้าค่อยมาพบกันใหม่ จากนั้นก็สั่งยาคลายเครียดให้กับหญิงสาว

ณัฐมลรับใบสั่งยามาแล้วเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องตรวจไปในทันที หญิงสาวกวาดตาหามุมสงบที่ปลอดคน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรไปวีนตัวต้นคิด

“ชา ทำไมแกทำแบบนี้!”

“ทำอะไร” ศศิชาถามกลับเสียงเรียบ โดยไม่ใส่ใจอาการโวยวายของเพื่อนสนิท

“นึกยังไงถึงบอกว่าฉันป่วยเป็นโรคคนวัยทองยะ”

“ไม่ใช่วัยทอง หมดประจำเดือนในวัยสาวต่างหาก” ตัวการวินิจฉัยโรคแก้ แล้วอธิบายเหตุผลให้เข้าใจ

เธอเขียนไปว่าเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้เพราะอย่างณัฐมลคงจะแกล้งซึมเศร้าหดหู่ได้ไม่แนบเนียน ยิ่งได้เจอหมอพัลลภคงจะกระดี๊กระด๊าเก็บอาการไว้ไม่มิด เธอเลยใส่อะไรที่มันจับผิดได้ยากหน่อย

“เมนส์แกก็ไม่มาบ่อยไม่ใช่เหรอ”

“บ่อยที่ไหน นานทีถึงจะหายไปหรอก อย่างเก่งก็ไม่มาแค่เดือนเดียว”

“ไหนๆ ก็ต้องโกหกอยู่แล้วนี่นา บวกเพิ่มไปอีกนิดหน่อยจะเป็นไร”

“ไม่นิดแล้วย่ะ! ฉันเสียลุคหมดเลยรู้ไหม แล้วอย่างนี้ฉันจะมีหน้าไปเจอพี่หมอของฉันได้ยังไง”

ถึงจะมาพบเขาในฐานะคนไข้ แต่ณัฐมลก็ยังอยากจะแกล้งป่วยด้วยโรคที่ดูผิดปกติน้อยที่สุด เพื่อรักษาภาพพจน์

“ก็ไม่ต้องเจอสิ” ศศิชาตอบกลับมาอย่างไม่เห็นใจเลยแม้แต่น้อย

คนที่รนหาเรื่องมาใส่ตัวก็คือณัฐมลเอง เธอจึงไม่ขอรับฟังคำโอดครวญไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้น

“ไม่มีทาง! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง”

“งั้นก็อย่ามาบ่น แค่นี้นะ...ต้องทำงานต่อแล้ว” พูดจบหญิงสาวก็ตัดสายทิ้ง ปล่อยให้จอมโวยวายคร่ำครวญกับตัวเองต่อไป


เมื่อไม่สามารถแก้ไข้อะไรได้ ณัฐมลก็กลับมาทำใจกับโรคที่เพื่อนยัดเยียดให้เป็น หญิงสาวใช้เวลาเกือบสามวันกว่าจะยอมรับสภาพบทบาทที่ตัวเองต้องสวมได้ เธอลองหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ดู แล้วก็พบว่าในบางรายไม่มีความผิดปกติทางร่างกายเลย แต่มีสาเหตุหลักเกิดจากการป่วยทางใจทำให้กลไกการทำงานของสมองผิดปกติ รังไข่เลยผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาได้น้อยลงหรือไม่ผลิตเลย เป็นสาเหตุทำให้ไม่มีการตกไข่และประจำเดือนไม่มา

พอได้ศึกษา หญิงสาวก็ต้องยอมรับว่าศศิชาทำถูกแล้วที่เลือกให้เธอมาปรึกษาด้วยโรคนี้ เพราะผลตรวจร่างกายประจำปีที่แนบมาบอกเอาไว้ชัดว่าเธอสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทุกอย่าง ดังนั้นจึงอ้างได้อย่างเต็มที่ว่าเธอป่วยทางใจแบบไม่ทราบสาเหตุ

การรักษาก็คือต้องค้นหาว่าอะไรที่ทำให้จิตใจป่วย ซึ่งแต่ละคนก็แสดงอาการออกมาแตกต่างกันไป สบโอกาสให้เธอได้คุยกับนายแพทย์พัลลภ หรือถ้าเกิดอะไรขึ้น เธออยากจะถอนตัวก็ง่ายนิดเดียว แค่บอกเขาไปว่าประจำเดือนมาตามปกติก็หมดเรื่องแล้ว

หญิงสาวพยายามไม่คิดมากเกี่ยวกับชื่อโรคที่ชวนทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเป็นยายป้าหนังเหี่ยว เธอเอาเวลามาตั้งเป้าหมายที่จะทำในแต่ละสัปดาห์แทน เนื่องจากการพูดคุยแต่ละครั้งกินเวลาไม่นาน อย่างเก่งก็สิบห้าถึงยี่สิบนาทีเท่านั้น เธอเลยต้องวางแผนดีๆ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาอันมีค่าไปโดยใช่เหตุ

ณัฐมลหยิบกระดาษมาเขียนเป้าหมายที่เธอต้องทำให้ได้ลงไป ถ้ามันเป็นไปได้ตามแผน ไม่เกินสี่สัปดาห์เธอจะปิดฉากการรักษาด้วยการบอกว่าหายแล้ว ถ้าเขาสนใจเธอ เมื่อไม่มีปัญหาเรื่องสถานะหมอกับคนไข้ เขาจะต้องติดต่อกลับมาหาเธอแน่

หญิงสาววางแผนไป ฝันหวานไป ทว่าทุกอย่างกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบดั่งฝัน อีกทั้งความจริงนั้นมันก็ช่างโหดร้ายอย่างเหลือแสน


เป้าหมายแรกของเธอคือการขอเบอร์โทรศัพท์เขา เมื่อวันนัดหมายเวียนมาถึง ณัฐมลก็ออกจากบ้านมาแต่เช้าเพื่อเลี่ยงรถติด หญิงสาวต้องนั่งคอยพบหมออยู่เป็นชั่วโมงกับหนุ่มน้อยนักข่มขืนสัตว์ที่เจอกันเมื่อคราวก่อน หนนี้เธอทำใจกับพ่อหนุ่มคนนี้ได้มากขึ้น ตราบใดที่เขายังอยากมีเซ็กส์แต่กับสัตว์ เขาก็ไม่น่าจะใช่ตัวอันตรายสำหรับเธอ เธอเลยยิ้มให้และพูดคุยกับเขาบ้าง แต่ไม่ขอรับฟังวีรกรรมของเขาเพิ่มเติม

เมื่อถึงเวลาต้องเข้ารับการรักษา หญิงสาวก็ปล่อยให้พัลลภซักอาการไปตามเรื่อง พอเขาเปิดโอกาสให้เธอเล่าปัญหาชีวิตของตัวเอง เธอก็เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องที่อกหักเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ

“อืม...ผมคิดว่ามันแปลกนะครับ ประจำเดือนคุณหายไปในช่วงที่เพิ่งเริ่มคบกับเขา ไม่คิดบ้างหรือครับว่าผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นสาเหตุ”

นายแพทย์หนุ่มมองในมุมกลับเสียอย่างนั้น กระนั้นณัฐมลก็ยังไม่ถอดใจ หญิงสาวยังคงทำเป็นเศร้าแล้วไหลต่อไปเรื่อยๆ

“ฉันไม่แน่ใจค่ะ แต่รู้สึกแย่มากตอนที่เราเลิกกันในร้านกาแฟ วันนั้นฝนตกเหมือนท้องฟ้ามันกำลังร้องไห้กับฉันเลย”

หญิงสาวพยายามบรรยายเกี่ยวกับร้านกาแฟและเรื่องวันนั้นให้ได้มากที่สุด ทว่าพัลลภกลับมีท่าทีเหมือนจำอะไรไม่ได้ เขาทำเพียงพยักหน้ารับและตั้งใจฟังเท่านั้น สำหรับเขาแล้วเธอคงไม่ต่างอะไรกับผู้โดยสารในรถเมล์ที่เขาสละที่ให้นั่ง ไม่ได้มีบันทึกเอาไว้ในความทรงจำว่าผู้ที่เขาได้ให้ความช่วยเหลือนั้นมีหน้าตาอย่างไร คิดแล้วก็อดรู้สึกเศร้าไม่ได้

‘ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง’ หญิงสาวบอกตัวเองซ้ำๆ เหมือนท่องคาถา แล้วรวบรวมความกล้า เอ่ยปากขอเบอร์โทรศัพท์ของชายหนุ่มก่อนที่จะเสร็จสิ้นการรักษา

“ได้ครับ” พัลลภรับคำแทบจะทันที เขาเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเอานามบัตรที่มีเบอร์ฮ็อตไลน์สายสุขภาพจิตมายื่นให้

หญิงสาวเห็นเค้าลางว่าแผนการจะล้มเหลวมาแต่ไกล เธอเลยตัดสินใจสกัดกั้นความอายแล้วรุกให้หนักขึ้น

“คือ...อยากได้เบอร์ส่วนตัวของคุณหมอน่ะค่ะ เผื่อจำเป็นต้องการคำปรึกษาอย่างเร่งด่วน รับรองว่าจะไม่โทรไปรบกวนคุณหมอพร่ำเพรื่อแน่นอน”

หญิงสาวยกมือขึ้นมาสาบานประกอบคำพูด เธอพยายามทำสีหน้าให้จริงจัง แต่แก้มมันก็ร้อนซู่ขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่จนต้องรีบก้มหน้างุด แล้วภาวนาต่อเทวดาฟ้าดินว่าขออย่าให้เขาจับเจตนาแฝงของเธอได้เลย

พัลลภมองตรงมายังหญิงสาวแล้วนิ่งไปคล้ายจะครุ่นคิด สักอึดใจ ริมฝีปากได้รูปของเขาก็คลี่ออกมาเป็นรอยยิ้ม

“ได้ครับ สักครู่นะครับ” ชายหนุ่มหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาแล้วเขียนตัวเลขลงไป

ณัฐมลแทบจะกรีดร้องเมื่อคุณหมอสุดหล่อยอมให้เบอร์โทรศัพท์กับเธอ ในขณะที่หญิงสาวกำลังดีใจจนแทบจะลุกขึ้นเต้น ชายหนุ่มก็ส่งรอยยิ้มบาดตากลับมาให้พร้อมกับคำพูดที่ทำให้เหวอ

“เบอร์โทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานผมเองครับ ผมจะยกหูออกเวลาไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ แต่ถ้าอยู่ผมรับแน่นอนครับ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ ไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเลย”

‘เบอร์ส่วนตัวจริงๆ เถียงไม่ออกบอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว’


แม้จะผิดพลาดไม่ได้เบอร์โทรศัพท์มา แต่หญิงสาวก็ยังคงดำเนินตามแผนการที่วางเอาไว้ต่อไป เป้าหมายของเธอในนัดครั้งที่สองคือสร้างโอกาสให้กับตัวเอง

ณัฐมลสืบมาแล้วว่าทุกวันจันทร์ อังคารและศุกร์นายแพทย์พัลลภจะต้องอยู่เวรคลินิกนอกเวลาตั้งแต่ห้าโมงเย็นไปจนถึงสองทุ่ม เขามีเวลาพักหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มทำงานในช่วงเย็น จึงมักจะใช้ช่วงเวลานี้เดินออกจากแผนกมาหาอะไรกินที่โรงอาหาร หญิงสาวจึงขอเลื่อนนัดจากช่วงเช้ามาเป็นช่วงบ่าย เธอเจตนาขอเป็นคนไข้รายสุดท้ายเพื่อที่จะได้ดักเจอเขาในตอนเย็นอย่างแนบเนียน

หลังจากรักษาเสร็จ หญิงสาวก็แกล้งทำเป็นไปเข้าห้องน้ำ แอบดูจนมั่นใจว่าพัลลภกำลังจะเดินไปโรงอาหาร แล้วจึงค่อยตามไป

หญิงสาวไม่อยากให้รู้ว่าเธอแอบตามมา เลยใช้ทางอ้อมแล้ววิ่งสุดฝีเท้าเพื่อที่จะได้มาถึงโรงอาหารก่อนเขา ส้นเข็มสูงปรี๊ดที่สวมเป็นอุปสรรคไม่น้อย แต่ระดับณัฐมลนั้นสวยสู้ฟัดอยู่แล้ว ต่อให้เจ็บเท้าแค่ไหนก็ไม่ใช่อุปสรรค

ไม่นานเธอก็วิ่งมาถึงที่หมาย หญิงสาวหอบหายใจพลางกวาดตามองหาจนทั่ว เมื่อเห็นว่าเป้าหมายยังมาไม่ถึงเธอก็รีบหยิบตลับแป้งขึ้นมาตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเอง ตบแป้งซับเหงื่ออีกหน่อย เธอก็พร้อมจะเดินเฉิดฉายทำเป็นไล่ดูไปทีละร้านว่ามีอะไรกินบ้าง

สักอึดใจ พัลลภก็เดินอย่างสง่าเข้ามาในโรงอาหาร ชายหนุ่มตรงเข้าไปสั่งอาหารที่ร้านอาหารตามสั่ง ณัฐมลก็เลยรีบสั่งบ้าง หญิงสาวเลือกร้านยำที่อยู่เยื้องกันไม่ไกล เพื่อจะได้ทำตามแผนได้ง่ายขึ้น แผนการของเธอคือพอเขานั่งประจำที่แล้วเธอก็จะถือจานอาหารไปทักทาย แสร้งทำเป็นว่าบังเอิญมาหาอะไรกินด้วยเหมือนกัน จะได้ขอนั่งด้วยและชวนคุยได้อย่างแนบเนียน

ทว่าคนที่คิดแบบเดียวกันไม่ได้มีแค่ณัฐมลคนเดียว หญิงสาวเพิ่งจะถือจานยำวุ้นเส้นเดินมาได้สามก้าว ที่นั่งรอบตัวของหนุ่มในฝันของเธอก็ถูกจับจองด้วยพยาบาลกับเจ้าหน้าที่สาวๆ ที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนจนเต็มพื้นที่

สายตาของแต่ละคนที่ทอดมายังคุณหมอสุดที่รักของเธอแฝงแววแทะโลมอย่างปิดไม่มิด ถึงคนอื่นจะมองดูว่าแค่การพูดคุยกันธรรมดา แต่พวกมีวัตถุประสงค์แอบแฝงแบบเดียวกันย่อมมองกันออก ณัฐมลรู้สึกประหนึ่งว่าเทพบุตรสุดหล่อของเธอกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางฝูงไฮยีนา หญิงสาวนึกอยากจะกระโดดเข้าไปปกป้องเขา แต่ก็ทำได้เพียงนั่งมองเขาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เท่านั้น

หญิงสาวกัดฟันกรอดแล้วจ้องมองคนที่มาแย่งที่อย่างอาฆาต ยิ่งเห็นพัลลภส่งยิ้มให้คนพวกนั้นเธอก็ยิ่งริษยา เธอรึอุตส่าห์คิดแผนการเสียดิบดี สุดท้ายก็ยังพลาดท่าเพราะมารผจญกลุ่มใหญ่

‘จำไว้เลยนะ หนหน้าจะต้องเป็นทีของเธอ’


ความเจ็บใจทำให้ณัฐมลเปลี่ยนเป้าหมายในนัดครั้งที่สี่ให้ต่างจากแผนการเดิม จากที่คิดจะแสดงตัวว่าเขาเคยให้ยืมร่ม เธอก็เปลี่ยนเป็นทำอะไรทำให้รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาหน่อย

‘เพื่อนร่วมงานรึจะสู้กับคนไข้อย่างเธอได้ กินข้าวมันก็แค่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วทำได้แค่มอง เธอมีแผนเด็ดที่จะแสวงหากำไรในชีวิตมากกว่านั้นเยอะ’

หญิงสาวพกความมุ่งมั่นไปอย่างเต็มเปี่ยมอีกครั้ง เธอเปิดประตูห้องเข้าไปเผชิญหน้ากับเทพบุตรในฝันอย่างมาดมั่น

“สวัสดีครับ สีหน้าสดชื่นขึ้นแสดงว่ายาที่หมอให้ไปได้ผลใช่ไหมครับ” พัลลภทักทาย

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วส่งยิ้มหวานให้

เธอปล่อยให้เขาสอบถามอาการไปเรื่อยๆ พอเวลาผ่านไปสักห้านาทีจึงค่อยเริ่มทำตามแผน หญิงสาวแกล้งหอบหายใจแรงๆ แล้วเอามือมากุมหน้าอกตัวเองเอาไว้

“หะ...หายใจ ไม่ออกค่ะ ไม่รู้...เป็นอะไร” หญิงสาวพูดเพียงเท่านี้แล้วทำท่าโงนเงนเหมือนจะเป็นลม

‘hyperventilation syndrome ’ พัลลภบอกตัวเองอย่างตกใจ แล้วรีบปราดเข้าไปดูอาการในทันที

“หายใจช้าๆ ครับ ใจเย็นๆ หายใจเข้าทางจมูก หายใจออกทางปาก”

ชายหนุ่มใช้มือหนึ่งจับชีพจรของณัฐมล ในขณะที่อีกมือหนึ่งช่วยลูบหลังปลอบ อาการนี้มักจะพบได้บ่อยในผู้ป่วยที่อยู่ในสภาวะเครียด บางรายที่เป็นมากอาจจะหมดสติไปเลย วิธีรักษาคือกระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจอย่างถูกต้อง

ไออุ่นจากฝ่ามือหนาของเทพบุตรในฝันทำคนแกล้งป่วยใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งได้ยินเสียงทุ้มนุ่มจากระยะใกล้ก็พานให้รู้สึกหายใจขัดขึ้นมาจริงๆ

หญิงสาวหลับตาก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างคนไร้เรี่ยวแรง แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อพัลลภเข้ามาประคองตัวเธอเอาไว้ กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาเป็นกลิ่นเดียวกับเธอได้กลิ่นในวันที่เขาช่วยเธอไว้ตอนเป็นลม กลิ่นหอมชวนหลงใหลนี้กระตุ้นให้รู้สึกอยากจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง หญิงสาวโยกตัวนิดหน่อยให้ใบหน้าของเธอได้อิงแอบแนบชิดกับอกกว้าง ไอร้อนที่ซึมผ่านเนื้อผ้าชวนให้จินตนาการถึงกล้ามเนื้อกำยำน่าสัมผัส แล้วความละโมบมันก็เข้ามาแทรกในจิตใจจนยากจะต้านทาน

‘เธออยากจะแตะต้องเขามากกว่านี้‘

คิดได้แบบนั้นร่างกายก็ขยับไปอย่างที่ใจต้องการ หญิงสาวยกมือขึ้นมาโอบรอบคอของพัลลภเอาไว้ แล้วเริ่มหอบหายใจอย่างยากลำบากอีกครั้ง

“ช่วย...ด้วย ช่วย...ผายปอดให้ทีค่ะ”

คำร้องขอของคนไข้ทำเอาคิ้วของคุณหมอสุดหล่อขมวดเป็นปม ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ คนไข้ก็มีอาการชักกระตุก แล้วหอบหายใจรุนแรงยิ่งขึ้น ชายหนุ่มจึงวางร่างเธอลงกับพื้นแล้วปฏิบัติการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ณัฐมลเฝ้าฝันให้ริมฝีปากร้อนทาบลงมา ทว่าสิ่งที่เธอได้รับกลับเป็นการถูกทิ้งให้นอนบนพื้นเย็นเฉียบ พอหรี่ตาแอบมองก็เป็นว่าเขาเดินไปโทรศัพท์

“ขออุปกรณ์ผ่าตัดด่วน คนไข้หายใจไม่ออกต้องผ่าตัดเจาะคอเดี๋ยวนี้”

คำพูดของคุณหมอทำให้คนใจเสาะลุกพรวดขึ้นมาจากพื้นในทันที

“หมอคะ ไม่ต้องแล้วค่ะ หายแล้ว”

พัลลภหันมาทางหญิงสาวด้วยสีหน้าฉงน

“ไหวแน่นะครับ ขอผมตรวจตาหน่อย” ชายหนุ่มเดินไปหยิบไฟฉายที่โต๊ะมาส่องดูรูม่านตา

“ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธไปเหงื่อแตกพลั่กไป เพราะกลัวเขาจะจับได้

พัลลภไม่สนใจฟังคำปฏิเสธของหญิงสาว ตรวจตาเสร็จเขาก็เอาเครื่องวัดความดันมารัดรอบแขน

“ชีพจรเต้นเร็วกว่าปกตินิดหน่อย” นายแพทย์หนุ่มพึมพำเมื่อเห็นผล จากนั้นก็หันมาพูดกับหญิงสาว “สงสัยการรักษาในวันนี้จะทำให้คุณเครียด เข้าไปพักในห้องพักก่อนดีไหมครับ รอดูอาการสักพักแล้วค่อยกลับบ้าน”

“ค่ะ อย่างนั้นก็ได้” ณัฐมลรับคำอย่างว่าง่ายเพราะจำต้องเล่นไปตามเกม

ท่าทีของชายหนุ่มบ่งบอกว่าจับโกหกของเธอไม่ได้ สงสัยเทพบุตรสุดหล่อคนนี้จะซื่อกว่าที่คิดไว้มาก ณัฐมลเลยลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

หญิงสาวรู้สึกรอดตัวโดยไม่รู้เลยว่าเมื่อเดินพ้นไปจากประตูห้องแล้ว ใบหน้าจริงจังขึงขังของพัลลภก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ราวกับว่ารู้ทันคนไข้จอมมารยา

ณัฐมลมัวแต่แกล้งหายใจไม่ออก ก็เลยไม่ทันสังเกตว่าเขาแค่ยกหูโทรศัพท์ ไม่ได้กดหมายเลขภายในสักหมายเลขเดียว ที่สำคัญคนไข้อาการอย่างเธอเขาให้ออกซิเจนต่างหาก ไม่มีใครบ้าพอจะเจาะคอหรอก

‘แผนตื้นๆ อย่างนี้ หลอกจิตแพทย์ไม่ได้หรอกนะครับ’





นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ส.ค. 2554, 22:57:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.พ. 2555, 23:14:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 3037





<< บทที่ 5 คุณหมอคะ…หนูป่วย   บทที่ 7 ระยะห่าง >>
anOO 29 ส.ค. 2554, 23:29:53 น.
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
ยัยแป้งรั่วคงลืมไปว่าเล่นอยู่กับหมอ
ดันมองว่าหมอซื่อซะงั้น ว่าแต่คุณหมอเหมือนจะรู้ตัวแล้วนะ


หมูอ้วน 29 ส.ค. 2554, 23:54:37 น.
คุณหมอรู้ทัน คนไข้ ฮิ...


ameerahTaec 30 ส.ค. 2554, 07:59:02 น.
พระเอกของเราก้อร้ายใช่ย่อยนะ คิคิ


pookza 30 ส.ค. 2554, 08:25:25 น.
ชอบคุณหมอจัง มาต่อไวๆนะคะ กดlikeให้แล้วค่ะ


ปรางขวัญ 30 ส.ค. 2554, 12:04:45 น.
คุณหมอจับไต๋แป้งร่ำได้ซะแล้ว
อิอิ มาเกาะขอบจอรอตอนหน้าอย่างตั้งใจค่ะ


Pat 30 ส.ค. 2554, 16:35:33 น.
หนูแป้ง คิดจะตบตาจิตแพทย์เนี่ยนะ


nunoi 31 ส.ค. 2554, 20:22:57 น.
คิดได้ไงเนี๊ยะ ให้ช่วยผายปอด อิอิ


Zephyr 1 ก.ย. 2554, 15:09:29 น.
แป้งจ๋า ถ้าต้องผายปอดจริง ใครจะมีสติมาบอกขนาดนั้น ยังงี้หมอพันจับไต๋ได้แล้วสิคะ
แต่ยายแป้งรั่วนี่ เหวี่ยงกับคนใกล้ตัวจังนะคะ นิสัยนี้ไม่ค่อยน่ารักเลยอ่ะ


nickelodon 2 ต.ค. 2554, 17:23:48 น.
ตลกมาก ขำจนเกร็ง 555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account