เพียงใจเสน่าหา โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
เมื่อเทพบุตรในฝันมายืนอยู่ตรงหน้ามีหรือคนอย่างแป้งร่ำจะปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการล่ารักฉบับพลีชีพจึงเกิดขึ้น แต่เอ๊ะยังไง นานๆไปเทพบุตรในฝันกลับกลายร่าง รู้ตัวอีกทีเธอก็เป็น "เป็ดน้อยในมือซาตานไปแล้ว"

เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟค่ะ เป็นภาคต่อของมธุรัตน์เสน่หา สามารถสั่งซื้อได้ในราคาลด 15% ได้ที่เว็บนี้นะคะ
http://www.lightoflovebooks.com/

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

Tags: โรแมนติก คอเมดี้ นางเอกรั่วๆ นางเป็นเภสัชกร พระเอกเป็นจิตแพทย์

ตอน: บทที่ 14 จับกด

บทที่ 14 จับกด

เมื่อตัวป่วนยอมกลับไปแล้ว พัลลภก็ได้กลับมามีเวลาส่วนตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มหยิบถ้วยไอศกรีมไปล้างแล้วถึงค่อยเดินขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำ เสร็จแล้วจึงกลับมานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจทานแผนการสอน

หลังกลับจากอเมริกาเขาก็ตั้งใจว่าจะทำงานที่เดิม ทว่าพอจะกลับไปก็ได้รับคำขอร้องจากผู้ใหญ่ที่นับถือให้มาเป็นอาจารย์พิเศษ ทีแรกเขาจะปฏิเสธไปเพราะมันหนักเกินไปสำหรับเขาที่มีงานประจำอยู่แล้ว พอผู้อำนวยการรู้เรื่องจึงเรียกเขาไปคุยแล้วเสนอว่าจะลดชั่วโมงทำงานให้ เพราะท่านเองก็เห็นดีเห็นงามเรื่องที่เขาจะมีส่วนช่วยในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกมา

พัลลภจะได้รับเงินเดือนเท่าเดิมและสามารถลาไปสอนได้ ถึงอย่างนั้นก็ยังติดปัญหาเรื่องเวลาในการเตรียมข้อมูลการสอน ถ้าเขารับงานนี้ก็จะเท่ากับว่าเขาไม่มีวันหยุดเลย ชายหนุ่มไม่เกี่ยงเรื่องงานหนักแต่ไม่อยากทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ หรือเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน

บุคลกรของแผนกจิตเวชมีจำกัดเพราะไม่มีงบประมาณจ้างเพิ่ม ถ้าลาไปสอนก็เท่ากับว่าจะต้องเพิ่มชั่วโมงคลินิกให้กับนายแพทย์คนอื่น อีกทั้งการเป็นอภิสิทธิ์ชนของเขาก็ทำให้เกิดปัญหา เพราะมีการร้องเรียนเข้ามา ในระหว่างที่กำลังลำบากใจไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดีก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน ชายหนุ่มเลยได้โอกาสใช้เวลาระหว่างที่พักรักษาตัวเรียบเรียงความคิด

ชายหนุ่มถามตัวเองว่าอยากทำงานอะไร ประเด็นหลักที่ต้องการคืองานที่เกิดประโยชน์แต่ต้องไม่หนักจนเกินไป เขาเลยตัดสินใจรับงานสอนแล้วลาออกจากงานประจำเสีย พัลลภต้องไปสอนอาทิตย์ละสองวันเพื่อไม่ให้ว่างเกินไป เขาเลยตกลงทำงานในโรงพยาบาลเอกชนของคนรู้จัก ที่บังเอิญอยากได้จิตแพทย์มาทำงานช่วงวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์พอดี เท่านี้เขาก็จะมีวันหยุดและเวลาเตรียมการสอนได้สบาย

อีกสามสัปดาห์พัลลภจะเริ่มสอนและไปทำงานที่ใหม่ ชายหนุ่มเคยคิดว่าตัวเองจะต้องหงุดหงิดมากแน่ถ้าต้องกลายเป็นคนว่างงาน เขาจึงวางแผนการท่องเที่ยวเอาไว้ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องยกเลิกเพราะณัฐมล หญิงสาวทำให้เขารู้สึกว่ายังไม่อยากไปไหนในตอนนี้ ให้สารภาพแบบตรงกับใจหน่อย ก็คงต้องบอกว่าเขาเองก็เริ่มชอบเธอขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน

‘ยัยตัวจิ๋วน่าแกล้ง’ ชายหนุ่มคิดพลางอมยิ้ม เมื่อนึกถึงร่างบอบบางที่มีส่วนสูงแค่เมตรครึ่ง

นั่งยิ้มได้สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คนโทรมาคือพศวีร์ น้องชายคนเล็กบอกให้เขาเปิดประตูรั้วให้ พัลลภไม่นึกแปลกใจที่น้องชายมาหาตอนนี้ พศวีร์เป็นจำพวกลมเพลมพัด บทจะมาก็มาไม่เคยบอกกล่าวกันล่วงหน้าอยู่แล้ว

หนนี้พศวีร์ไม่ได้มาตัวเปล่าแต่ลากเอากระเป๋าลากใบเขื่องเดินเข้าบ้านมาด้วย พอเห็นพี่ชายเดินมารับคนเป็นน้องก็ยิ้มกว้างประจบ

“ขออยู่ด้วยสักพักได้ไหม”

“ตามสบาย นี่ก็บ้านนายเหมือนกัน อยากมาอยู่เมื่อไร นานแค่ไหนก็ตามใจ”

“ขอบคุณครับคุณพี่ชาย กระผมจะทำตัวดีๆ ไม่เป็นก้างแน่นอนครับ ว่าแต่...ไปถึงไหนกันแล้วล่ะพี่พัน เรียกพี่สะใภ้ได้หรือยัง”

พัลลภยักไหล่แทนคำตอบ แล้วตั้งท่าจะเดินหนีแต่คนสู่รู้ก็ไม่หยุดความพยายามเอาไว้แค่นั้น พศวีร์เดินมาดักทางเอาไว้ แล้วยืนกอดอกถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง

“อย่าหนีน่าพี่ชาย ไม่ล้อเล่นแล้ว ขอจริงจังสักเรื่อง พี่พันรักเขาไหม”

“ตอนนี้ยังไม่”

คำตอบของพัลลภตีความได้หลายความหมายตั้งแต่ดูใจจนกระทั่งคบเล่นๆ แต่ถ้าเป็นคนใกล้ชิดสักหน่อยจะดูออกว่าชายหนุ่มจะเปิดใจให้ณัฐมลมากกว่าใคร

“ทำไมพี่ถึงสนใจแป้งล่ะ ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ดีหรอกนะ แค่อยากรู้เท่านั้น”

ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงบางครั้งก็ใช้สมองบางคราวก็ใช้หัวใจ เขาเลยสงสัยว่ามนุษย์ที่ดูสมบูรณ์แบบอย่างพี่ชายจะใช้อะไรตัดสิน

“นายจำดั๊กกี้ได้ไหม”

พศวีร์ย่นหัวคิ้วเข้าหากันเมื่อได้ยินคำตอบ เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าไอ้ตัวชื่อแปลกๆ นี่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ถาม

“มันเป็นชื่อลูกเป็ดที่เราช่วยกันเลี้ยงตอนอยู่ไร่ลุงพฤกษ์” พอเฉลยแล้วน้องชายยังทำหน้างง พัลลภเลยต้องขยายความให้ “แป้งทำให้นึกถึงดั๊กกี้”

“สรุปว่าเหมือนเป็ดเลยชอบว่างั้น”

พัลลภยิ้มรับแทนคำตอบ ทำเอาคนฟังปั้นหน้าละเหี่ยใจ พลวัต พี่ชายคนรองจัดว่าเป็นพวกชอบของแปลกแล้ว แต่เทียบชั้นไม่ได้เลยกับรสนิยมประหลาดของพี่ชายคนโต

พศวีร์นึกอยากถามเพิ่มว่ามีเหตุผลอื่นหรือไม่ แต่นึกได้เสียก่อนว่าลืมเรื่องบางอย่างไป ชายหนุ่มก้มลงเปิดกระเป๋าเดินทาง แล้วหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลออกมายื่นให้พี่ชาย

“อะไร?” พัลลภรับมาพลิกดูว่ามันเขียนอะไรเอาไว้หรือไม่ แล้วก็พบว่าไม่มีอะไรเขียนติดซองเอาไว้เลย

“ไอ้เม้งมันฝากมาให้”

คนที่เอ่ยถึงคือเพื่อนของพศวีร์ ที่พัลลภว่าจ้างให้ทำงาน

“แล้วเจ้าตัวล่ะไปไหน”

“มันฝากบอกมาว่างานเข้าเลยต้องไปเชียงใหม่ คืนนี้คงมาหาไม่ได้”

พัลลภพยักหน้ารับแล้วเปิดซองออกดู ปรากฏว่ามีแผ่นซีดีอยู่หนึ่งแผ่นเขียนชื่อเขาเอาไว้

“ถามว่าเรื่องอะไรมันก็ไม่ยอมบอก แอบไปถ่ายคลิปลับเอาไว้หรือไงพี่พัน” พศวีร์ชะโงกหน้ามามองอย่างสนใจ

“อย่ารู้ดีกว่า” พัลลภตัดบทแล้วก้าวยาวๆ เดินขึ้นบันไดหายไป

คนเป็นน้องเลยได้แต่เดาะลิ้น แล้วลากกระเป๋าไปยังห้องนอนของตน

ฉากหน้าพี่ชายคนโตของเขาเหมือนจะดีพร้อม แต่เนื้อแท้แล้วบอกได้คำเดียวว่าเจ้าเล่ห์ เป็นพวกมีความลับมาก แถมยังปากหนักอีกต่างหาก เซ้าซี้ไปก็เสียเวลาเปล่า สู้ประหยัดน้ำลายเอาไว้จีบสาวยังจะดีกว่า

ของที่พศวีร์เอามาให้เป็นข้อมูลที่พัลลภรอมาระยะใหญ่ พอได้มาเขาก็ตรงเข้าไปในห้องทำงานแล้วปิดล็อกจากด้านใน จากนั้นจึงเปิดข้อมูลในแผ่นดูอย่างรวดเร็ว ในโฟร์เดอร์มีทั้งรูปภาพที่เขาใช้ให้ไปถ่าย ตลอดจนข้อมูลที่ทำออกมาในรูปแบบของรายงานสรุปผล

พัลลภเปิดอ่านรายงานก่อน ยิ่งได้อ่านสีหน้าของเขาก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นเป็นลำดับ ชายหนุ่มเคาะนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอย่างครุ่นคิด เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่สถานการณ์ธรรมดาที่จะรับมือได้ง่ายๆ เสียแล้ว เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจัดการกับเรื่องนี้


ณัฐมลขับรถกลับมาที่บ้านทั้งที่ยังงอนพัลลภอยู่ หญิงสาวนึกน้อยใจที่เขาที่เอาแต่ไล่ให้เธอกลับบ้านประจำ บางครั้งก็เมินใส่จนเธอเศร้า กระนั้นหญิงสาวก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขายังคงคลุมเครือ ไม่ใช่เพื่อนไม่ใช่แฟน จะให้เรียกว่ากิ๊กก็ยังไม่ได้เลยเพราะเธอแสดงออกว่าชอบอยู่ฝ่ายเดียว

แม้บางครั้งเขาจะทำให้รู้สึกว่าใจตรงกัน แต่มันก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างตัวเอง หญิงสาวนึกอยากลองใจเขาขึ้นมา ก็เลยไม่โทรศัพท์ไปบอกว่ากลับถึงบ้านแล้ว จะได้รู้ว่าเขาเป็นห่วงหรือไม่ ถ้าห่วงเขาจะต้องโทรมาหาอย่างแน่นอน

ณัฐมลหยิบโทรศัพท์ไปวางไว้ให้ห่างตัว จะได้ทำทีเป็นรับสายช้าตอนที่เขาโทรศัพท์มา จากนั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัว และทำบัญชีของวันนี้ฆ่าเวลา

ทว่าทำทุกอย่างเสร็จแล้วพัลลภก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโทรศัพท์มาหา หญิงสาวเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นทีละน้อย เธอหันไปมองโทรศัพท์แทบจะทุกนาที ไม่ทันไรก็ต้องเอามาวางไว้ใกล้ตัว แล้วนั่งจ้องส่งกระแสจิตภาวนาให้เขานึกได้ว่าเธอไม่ได้ติดต่อไป

หญิงสาวรออยู่จนเที่ยงคืนก็ชักเริ่มจะหมดหวัง

‘หรือว่าจะนอนแล้ว นี่พี่พันไม่แคร์กันเลยใช่ไหม’ คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้เสียเหลือเกิน

ณัฐมลนอนกอดหมอนจิตตกอยู่ได้สิบนาที พอได้สติก็หันมาปลุกปลอบใจตัวเองไม่ให้ท้อแท้ เธอลองคิดในมุมอื่นว่าบางทีเขาอาจจะไม่ได้ไม่ใส่ใจ ที่ไม่โทรมาอาจจะคิดว่าเธอหลับไปแล้วและไม่อยากรบกวนก็ได้

หญิงสาวมองนาฬิกาแล้วก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย ดึกป่านนี้เขาคงหลับไปแล้ว นี่ถ้าไม่คิดแผนลองใจขึ้นมา เธอคงได้คุยกับเขาก่อนนอนเหมือนทุกวัน

พอไม่ได้บอกราตรีสวัสดิ์เขาเหมือนทุกวัน ณัฐมลก็รู้สึกว่าตัวเองนอนไม่หลับ เธอเลยตัดสินใจส่งข้อความไปบอกแทน หญิงสาวกดนิ้วไปบนแป้นแล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีสายเรียกเข้า

“สวัสดีครับแป้ง นอนหรือยังครับ” เสียงพัลลภดังแว่วมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะเผลอไปกดรับเข้า

“ยังค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“พี่ไม่เห็นแป้งโทรมาเลยเป็นห่วง ล็อกประตูเรียบร้อยหรือยังครับ”

พัลลภนึกห่วงหญิงสาวตั้งแต่ตอนห้าทุ่มแล้ว แต่ก็ไม่อยากรบกวน ที่ตัดสินใจโทรศัพท์มาก็เพราะว่าเป็นห่วงจนนอนไม่หลับ

“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่พันไม่ต้องห่วง” ณัฐมลตอบรับเสียงหวาน

นอกจากเรื่องล็อกประตูแล้ว ชายหนุ่มยังถามอีกหลายอย่างว่ากลอนที่บ้านเป็นแบบไหน แน่นหนาดีหรือเปล่า ทั้งยังขอเบอร์โทรศัพท์ของอลินด้วย เผื่อว่าเขาติดต่อเธอไม่ได้จะได้ฝากเรื่องไว้กับอลิน

“ถ้าเป็นกลางคืนพี่พันโทรเข้าเบอร์ร้านดีกว่าค่ะ อลินไม่ได้มานอนที่ร้านหลายเดือนแล้ว”

“หมายความว่าตอนนี้แป้งอยู่คนเดียวหรือครับ”

“ค่ะ”

“ไม่ได้นะครับ เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวมันอันตราย” พัลลภถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดขึ้น

เขาไม่เคยไปย่านตึกแถวที่ตั้งร้านยาของหญิงสาวก็จริง แต่ก็พอรู้มาบ้างว่าย่านการค้าในตอนกลางคืนจะค่อนข้างเงียบและเปลี่ยวทีเดียว

ณัฐมลมัวแต่ดีใจที่เขาเป็นห่วงเป็นใย ก็เลยไม่ทันสังเกตน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป หญิงสาวยังคงตอบคำถามของเขาด้วยน้ำเสียงสดใสที่บ่งว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะอยู่มาตั้งนานแล้ว เหงานิดหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร”

ความไม่ระวังตัวของณัฐมลทำให้พัลลภนึกห่วงมากขึ้น แต่เขาเห็นว่าดึกแล้วเลยหยุดหัวข้อสนทนาเอาไว้แค่นี้ก่อน ชายหนุ่มกล่าวราตรีสวัสดิ์หญิงสาว และนอนหลับไปพร้อมกับความกังวล


ณัฐมลคิดว่าหัวข้อเรื่องเธออยู่คนเดียวคงจะจบลงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ที่ไหนได้มันกลับเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น พอหญิงสาวมาหาพัลลภในตอนเย็น เธอก็เห็นว่าในบ้านมีคนแปลกหน้านั่งอยู่ในห้องรับแขก พัลลภบอกว่าผู้ชายคนนี้มาจากบริษัทที่รับติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย

“พี่พันจะติดกล้องที่บ้านเหรอคะ”

หญิงสาวเห็นด้วยว่าควรจะติดเพราะบ้านหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ ถ้ามีโจรขึ้นบ้านคงเล่นซ่อนหากันสนุก

“ไม่ใช่ครับ พี่เรียกมาให้ติดกล้องที่ร้านแป้งต่างหาก”

ได้ฟังณัฐมลก็หัวเราะขำ เมื่อคืนเขาดูเป็นห่วงเธอแต่ก็ไม่คิดว่าจะจริงจังอย่างนี้

“ร้านยานะคะพี่พันไม่ใช่ร้านทอง อีกอย่าง ร้านแป้งเล็กนิดเดียว กวาดตามองก็เห็นทั่วแล้วว่าใครทำอะไรบ้าง ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”

“จำเป็นสิครับ ป้องกันเอาไว้ก่อน อีกอย่างแป้งน่าจะหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนนะครับ”

“ก็อยากหรอกค่ะ แต่คนที่ไว้ใจได้มันหายากนี่คะ”

ณัฐมลมั่นใจว่าอยู่คนเดียวได้และอยากจะประหยัดด้วย ตอนนี้เธอไม่ได้เฝ้าร้านตอนเย็นเองแต่จ้างเภสัชกรรุ่นน้องมาช่วยงาน กำไรช่วงนี้เลยน้อยหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าต้องปิดร้าน หรือแอบเปิดโดยไม่มีเภสัชกรอยู่ตามเวลาที่แขวนป้ายบอก

“เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะครับ ส่วนเรื่องกล้องพี่จะออกค่าใช้จ่ายให้เอง”

พอได้ยินคำว่าของฟรีณัฐมลก็ตาวาว แต่พอเหลือบไปเห็นราคาหลักในใบประเมิน หญิงสาวก็รีบปฏิเสธ

“ถ้าจะติด ให้แป้งจ่ายเองดีกว่าค่ะ”

“พี่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการให้ติด พี่ก็ต้องรับผิดชอบสิครับ คิดว่าพี่ซื้อให้เป็นของขอบคุณที่ช่วยดูแลพี่ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มกล่อมแกมบังคับ ท่าทางเหมือนจะไม่ยอมให้ปฏิเสธ

“ไม่ได้ค่ะ ร้านของแป้ง แป้งก็ต้องรับผิดชอบเอง แล้วแป้งก็ไม่เห็นว่ามันจำเป็นเลย”

ณัฐมลรู้สึกต่อต้าน ไม่ใช่เพราะมันพิลึกที่ได้กล้องวงจรปิดเป็นของขวัญ แต่เพราะไม่รู้ว่าคนให้อยู่ในสถานะไหนต่างหาก ก็เลยรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะรับ

พัลลภเห็นท่าว่าการโต้เถียงจะไม่ยุติลงโดยง่าย ชายหนุ่มจึงขอตัวสักครู่ แล้วจูงมือพาณัฐมลมาที่ห้องนอนแขกด้านหลัง ห้องนี้ปิดเอาไว้นานแล้วก็เลยมีกลิ่นอับ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาอยากได้ที่คุยเป็นส่วนตัวและนี่ก็เป็นสถานที่ส่วนตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด

“มาคุยกันครับว่าทำไมแป้งถึงไม่อยากจะรับของจากพี่ ทั้งที่พี่เต็มใจจะให้” ชายหนุ่มถามทันทีที่ปิดประตูห้องลง

ณัฐมลทำหน้าบึ้งใส่เมื่อที่เห็นแววตาตำหนิของพัลลภ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมเขาต้องทำท่าเหมือนโกรธด้วย

“ร้านแป้งไม่จำเป็นต้องมีค่ะ” หญิงสาวสะบัดเสียงใส่อย่างหงุดหงิด

“พี่ไม่ได้หมายถึงว่าจำเป็นหรือไม่ แค่อยากรู้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่รับของพี่ ถ้ามันเป็นของอย่างอื่นในราคาเท่ากันแป้งจะยอมรับไหม”

ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนกัน เขาไม่ชอบให้เธอรั้นกับเรื่องความปลอดภัยที่เขาเห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็น

“ไม่ค่ะ มันมากไปสำหรับคนรู้จัก”

สถานะนี้พอพูดออกมาแล้วณัฐมลก็รู้สึกปวดจี๊ดข้างในหัวใจ มันทำให้หญิงสาวหน้าสลด ในขณะที่พัลลภหน้าตึงมากกว่าเดิม

“เราเป็นแค่คนรู้จักกันอย่างนั้นเหรอครับ” พัลลภถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะโกรธจริงๆ

พัลลภไม่สบอารมณ์ที่ถูกขัดใจและถูกลดชั้นให้เป็นแค่คนรู้จัก ชายหนุ่มจ้องคนที่อยู่ๆ ก็พยศขึ้นมาตาเขม็ง แววตาของเขาแผ่รังสีความกดดันออกมาจนทำให้หายใจสะดุด

“ก็...ก็จะให้เรียกอะไรล่ะคะ เราไม่เคยตกลงสักหน่อยว่าเราเป็นอะไรกัน” หญิงสาวตะโกนบอกด้วยสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้

คิ้วเข้มที่ขมวดกันอยู่ของพัลลภจึงคลายลง แล้วมุมปากของจอมเจ้าเล่ห์ก็กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย เมื่อเข้าใจว่าเหตุใดหญิงสาวจึงต่อต้านเขา

“นั่นสินะ เราเป็นอะไรกัน แป้งคิดว่ายังไง อยากให้พี่เป็นแค่คนรู้จักหรือมากกว่านั้น”

ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่ต้อนหญิงสาวมาติดกำแพงด้วย กว่าจะรู้ตัวณัฐมลก็ถูกเขาล้อมกรอบเอาไว้จนหมดทางหนี

ณัฐมลหน้าแดงก่ำเมื่อถูกไล่ต้อน ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังกัดปากตัวเองเอาไว้แน่นไม่ให้หลุดคำสารภาพรักออกมาก่อน เธอต้องสู้บ้างไม่อย่างนั้นเขาจะได้ใจ

“มะ...ไม่รู้ แป้งไม่รู้ พี่พันล่ะอยากให้เราเป็นอะไร”

“อย่าขี้โกงสิครับ พี่ถามก่อนแป้งก็ต้องตอบก่อน”

ชายหนุ่มใช้เสน่ห์ของแววตาสะกดหญิงสาวเต็มที่ ณัฐมลก็เลยต้องหลับตาปี๋แล้วเม้มปากแน่น

“ดื้อจริงนะเป็ดน้อย ถ้าไม่ตอบมาอย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะครับ”

“พี่พันจะทำอะไรคะ” หญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นมามองชายหนุ่มอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“นับหนึ่งถึงสิบ ไม่บอกเดี๋ยวก็รู้” ว่าแล้วพัลลภก็นับถอยหลังอย่างรวดเร็ว

ณัฐมลนึกหวั่นแต่ใจมันก็ไม่อยากจะยอมแพ้ เธอเลยไม่ยอมพูดอะไรจนเขานับถอยหลังเสร็จ

“ดื้ออย่างนี้พี่จะใจร้ายแล้วนะครับ”

ขาดคำหญิงสาวก็ถูกเหวี่ยงให้ล้มลงบนเตียง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเธอก็ถูกยึดแขนเอาไว้ แล้วร่างสูงใหญ่ก็ทิ้งน้ำหนักลงมากดทับลงบนตัวเธอจนขยับไปไหนไม่ได้

“พะ...พี่พัน อย่า...”

หญิงสาวอยากจะขอร้องเขาให้เลิกแกล้งเสียทีแต่ก็พูดอะไรไม่ออก เธอมันพวกเก่งแต่ปากพอเอาเข้าจริงก็ใจไม่กล้าพอ ยิ่งได้เห็นสีหน้าจริงจังของพัลลภหญิงสาวก็ยิ่งใจแป้ว เธอเริ่มรู้สึกกลัวเขาขึ้นมาเพราะเขาเหมือนเป็นอีกคนที่เธอไม่รู้จัก

‘ใครก็ได้ช่วยด้วย เทพบุตรของเธอกลายร่างเป็นซาตานไปแล้ว’





นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ย. 2554, 22:24:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มี.ค. 2555, 20:47:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 3432





<< บทที่ 13 เรียกพี่สิครับ   บทที่ 15 เทพบุตรซาตาน >>
หมูอ้วน 22 ก.ย. 2554, 22:38:06 น.
หนูแป้ง ตามเล่ห์เหลี่ยมของพี่หมอให้ทันนะจ๊ะ


Auuuu 22 ก.ย. 2554, 22:38:54 น.
แอบสงสารแป้งเล็กน้อย :p


wane 22 ก.ย. 2554, 22:46:35 น.
พี่หมอร้ายได้อีก ...อิอิ


Pat 22 ก.ย. 2554, 23:04:48 น.
แสบจริงๆ พี่พัน


ลูกกวาดสีส้ม 22 ก.ย. 2554, 23:09:22 น.
พี่หมอเริ่มเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกทีค่ะ


dino 22 ก.ย. 2554, 23:27:11 น.
เจอคำผิดค่ะ "แน่นอนครับ รถกำลังดีเลย" คำว่า "รถ" = "รส"


แล่นแต๊ 22 ก.ย. 2554, 23:38:13 น.
ตอนนี้ แค่เห็นชื่อตอนก็ฮาแล้ว 555


kaze 23 ก.ย. 2554, 03:11:52 น.
นางเอกเจ้าเล่ห์ แต่พระเอกเจ้าเล่ห์ "กว่า" โอ้วววว


hewgo10 23 ก.ย. 2554, 05:06:11 น.
แวะเข้ามาขำค่ะ


hewgo10 23 ก.ย. 2554, 05:06:19 น.
แวะเข้ามาขำค่ะ


anOO 23 ก.ย. 2554, 07:58:57 น.
อ่านไปอ่านมา ระหว่างพี่หมอกับยัยแป้ง
โรคจิตพอๆ กันนะ


แว่นใส 23 ก.ย. 2554, 08:16:47 น.
เล่ห์เหลี่ยมเยอะจริง


boon 23 ก.ย. 2554, 08:53:32 น.
พึ่งจะเข้ามาอ่าน สนุกมาค่ะ เป็นกำลังใจให้


ชอบอ่าน 23 ก.ย. 2554, 09:02:32 น.
อ๊ากกกกกกกกก ชอบมากเลย พัลลภกะแป้งร่ำน่ารักสุดดดดดดดดดดดด


คิมหันตุ์ 23 ก.ย. 2554, 09:38:05 น.
ฮ่าฮ่า........ไม่ไหวแล้ว ผู้ชายคนนี้ ร้ายมั่กมาก


ลิขิตรา 23 ก.ย. 2554, 10:24:53 น.
อ่านรวดยาวเลยค่ะ อย่างกรี๊ด...พี่พันจอมวายร้าย


nunoi 23 ก.ย. 2554, 10:46:31 น.
ไม่น่าเชื่อ ว่าพี่หมอจะร้ายได้ขนาดนี้
นางเอกบ้า พระเอกเจ้าเล่ห์ อิอิ


ปรางขวัญ 23 ก.ย. 2554, 11:38:17 น.
สงสัยต้องเปลี่ยนจากมารยาหญิงเป็นมารยาชายหลายร้อยเล่มเกวียน
พี่หมอร้ายได้อีก @^-^@ แต่ก็ดีแป้งร่ำจะได้รู้ตัวตนของพี่หมอ ลองกันสักตั้งเนอะ แป้งร่ำสู้ๆ


ปอกะเจา 23 ก.ย. 2554, 12:20:27 น.
อ๊ายยยย พี่หมอร้ายนะเนี่ย 555


Zephyr 23 ก.ย. 2554, 12:57:51 น.
โอ้ พี่หมอสู้ๆ ร้ายเนียนได้อีก หึหึ แต่น่ารักอ่ะ ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้อ่านแล้ว รู้สึกอยากเชียร์ให้พี่หมอแกล้งแป้งรั่วเยอะๆอ่ะ คนแต่งจัดให้หน่อยได้ป่ะคะ ฮ่าๆๆ สงสัยเราจะรู้สึกว่า พี่หมอเสียเปรียบช่วงแรกยายแป้งมากไป เลยให้เอาคืนหน่อย


ปูจ้า 23 ก.ย. 2554, 13:36:25 น.
พี่หมอมาเหนือเฆมกว่ายัยแป้งอีกโฮ๊ะๆๆๆ


เพลา 23 ก.ย. 2554, 15:19:42 น.
พี่หมอร้ายมากๆๆ แต่ชอบจังเวลาที่แป้งโดนแกล้ง อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account