มายาไฟในดวงตา {ชุดมนตราอัญมณี}สนพ.อรุณ
พลอยตาเสือ มูนสโตน และอความารีน
มรดกที่ย่ามอบให้ทั้งสามสาวจะนำพาลางร้าย ความรัก หรือการผจญภัยมาสู่พวกเธอ
เมื่อพี่สาวคนโตอย่างมัชฌิตาตั้งใจจะเก็บมรดกทั้งของตนเองและน้องสาวเอาไว้
อันตรายบางอย่างกลับคืบคลานเข้ามา หญิงสาวจึงทำได้เพียงหนี !
ก่อนที่ “เขา” เจ้าของพลอยที่แท้จริงผู้น่าสะพรึงจะมาทวงมันคืนไปจากเธอ
Tags: อสิตา มนตรามุกจันทรา ม่านธาราเร้นดาว พลอยตาเสือ มัชฌิตา ชามัล อัคนิวรา

ตอน: บทที่ 5 ห้องที่ปิดไม่สนิท (ต่อ-จบบท)

@ คุณAuuuu
จะไอ๊หยาต่อไหมคะ ตอนนี้ หุหุหุ^^ อร๊างงงง

@ คุณ teaw
อ๊ะ นักอ่านคนใหม่ ยินดีต้อนรับค่า... ถ้ามีอันตรายแบบนี้มาคนเขียนก็อยากเจอเหมือนกันนะ *///*

@ คุณหมูอ้วน
นั่นสิ อัคนิวราน่ารักน่าสงสาร (รึเปล่าน้า) ไว้เรามาดูกันอีกที

@ คุณ บุลินทร
กล้าแกล้งฉันเรอะเจ้ามีน เดี๋ยวโดนตีตูดหรอก

@ คุณ Neferretti
อุ๊ยยยย คุณเนเฟอเม้นต์กระจาย^^
เริ่มแค้นฝังหุ่นกับชามัลแล้วสิเนี่ย นั่นสิ ...ถ่มน้ำลายรดท่านอัคนิได้ยังไง แย่ที่สุด กิริยาผู้ดีที่เคยแสดงออกมันหายไปไหนหมด!!
พรตยังไม่ตายนะ แค่คางเหลืองเท่านั้นเองงงง พรตต้องอยู่รับใช้ชามัลต่อไป เพราะแอบหลงรักเจ้านายหัวปักหัวปำ (นั่น...)
คราวนี้เรามาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่มิ้งค์และทวดอัคนิ นะจ๊ะ...

@ คุณ ริญจน์ธร
อยากหวานแข่งกับวาริท+น้องมูนแล้วละ พี่มิ้งค์แห้งเหี่ยวมานาน

@ คุณ goldensun
ยินดีต้อนรับค่า แหม ชื่อเป็นพระอาทิตย์ เป็นพวกเมห์ฮราแฝงตัวมารึเปล่าคะ ตระกูลนี้เขามีสัญลักษณ์เป็นพระอาทิตย์นะ

@ คุณ silverraindrop
ใกล้ได้เอาคืนแล้วววว (มั้ง) ยังไงก็คงมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างละ หุหุ

@ คุณ SunSeed
แล้วทำไมต้องท่องแบบนั้นละคะ ระวังจะกลับลำไม่ทันน้า อุ๊ปส์ ...*+*

@ คุณ XaWard
ความลับคงใกล้แตกแล้ว เพราะมีคนอยากพยศใส่เจ้านาย

@ คุณ Canopus
ฮี่ๆๆ ชามัลกำลังจะต้องหัวเสียขนานใหญ่ คราวนี้มารยาคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

@ คุณ wane
โอ้ ยินดีต้อนรับค่า เห็นคนอ่านลุ้นกันมากๆ คนเขียนชักเริ่มคิดว่ามันบาปรึเปล่าแล้วละ หุหุหุ(แต่ก็ยังทำต่อไป)

@ คุณ ameerahTaec
:D ตอนนี้ได้รู้สมใจแน่ค่ะ อัคนิวราออกมาจากหลังม่าน แล้วก็...........


หลังขอตัวจากห้องของชามัลมาเมื่อเวลาล่วงเข้าดึกดื่นมัชฌิตาก็เพลียเต็มที
เพราะเหนื่อยจากการฝันร้ายเมื่อคืนก่อนจนรู้สึกเหมือนคนไม่ได้นอน
ดังนั้นเมื่อออกมาจากห้องน้ำก็อยากผวาลงไปหาเตียงแล้ว หญิงสาวเอนยวบ
ลงบนหมอนทั้งที่ยังพันผ้าเช็ดตัวหนานุ่มหลวมๆ ไว้กับกายตามนิสัยส่วนตัว
ที่ไม่ค่อยจะระวังอะไรกับเรื่องพวกนี้นักเมื่ออยู่ลำพัง

มัชฌิตาไม่รู้ได้เลย
หลังม่านอันอ่อนพลิ้วเพราะสายลมกับแสงจันทร์
มีเงาของมฤตยูเงาหนึ่งซ่อนอยู่...

ห้องนี้อยู่ห่างออกมาพอสมควรจากห้องของชามัล
อัคนิวราจึงสามารถใช้พลังอำพรางปิดตาอีกฝ่ายไว้ได้ พยัคฆ์ร้ายรู้ดีว่าในตัวตน
ของเขามีแต่สัญชาตญาณความคลั่งเลือดและกระหายอย่างสัตว์
ควบคุมตัวเองไม่ได้ ควบคุมความคิดไม่ได้ ยิ่งเมื่ออยู่ใกล้นายผู้มีนามว่าชามัล
เขาต้องการอยู่ให้ห่างออกมา แต่หากยามใดถูกเรียกกลับไปด้วยมนตรา
ซึ่งผูกพันเขาไว้ในรูปสมิงแห่งพลอยตาเสือจะแข็งขืนก็ยากอีกเช่นกัน

ร่างกายที่ก่อขึ้นด้วยรูปจิตไม่ใคร่ยอมทำตามสั่ง ความคิดก็ไม่ยอมเป็นตัวของตัวเอง
เหนื่อย หิวกระหายในจิตวิญญาณ ทุกข์ทนทรมาอยู่แทบทุกขณะ พลุ่งพล่าน
มิอาจสงบลงได้ หากเขาได้กินอะไรบ้าง เขาอาจขัดขืนมันได้มากขึ้น

เรือนร่างขาวผ่องยวนตาเห็นถนัดในความมืดที่ไม่อาจเป็นอุปสรรค
เนตรเพลิงของอัคนิวราลุกสว่างจ้า แม้ในยามนี้จะอำพรางตนไว้จากดวงเนตรที่สาม
ของหญิงสาว นางผู้นี้ยังอ่อนแอ อ่อนหัดนัก น่าสมเพชหากจะต้องมาตาย เขาเอง
เห็นชีวิตที่บอบบางตรงหน้าไร้ค่าเสียยิ่งกว่าชามัลจะเห็น ไม่ต่างอะไรกับชายแก่
ซึ่งเขาได้ดูดกลืนปราณชีวิตก่อนกลืนกินทั้งตัว จนได้รู้แล้วว่าทำเช่นนั้นหามีประโยชน์
อันใดไม่ มิได้ช่วยให้หายหิวหรือรู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใดเลย ทว่านางผู้นี้มีอะไรที่
ต่างออกไป แม้ตัวนางไม่ได้มีความหมายอย่างใดต่อความรู้สึกเขาเป็นพิเศษ
แต่กลับมีความหมายตรงที่อาจมีเพียงแต่นางซึ่งจะเป็นกุญแจไปสู่ตัวตน
ความเป็นมาที่อัคนิวราหลงลืมไปได้

ธารไฟค่อยๆ รินไหลจากริมขอบหน้าต่าง ก่อนจะก่อตัวเป็นรูปของเสือตัวใหญ่ โจนขึ้นสู่
บนเตียงที่ร่างบางนิทราสนิทอยู่อย่างเงียบกริบโดยฟูกไม่ได้ยุบยวบลงตามแม้สักองคุลี

...ดวงหน้าเช่นนี้เคยเห็นมาก่อน คิ้วเรียว เข้มคมเกินหญิง ตาที่ปิดสนิทเห็นแพขนตายาว
ดวงหน้างดงามออกไปทางเย้ายวนตา ปากซึ่งจินตนาการได้ว่ายามแย้มเผยอคงพูดวาจา
เชือดเฉือนออกมาได้มากกว่าถ้อยคำอ่อนหวาน ถึงกระนั้นก็ยังหยักงามละมุนละไม

อมินตา...
ภาพนางผู้นั้นในอดีตเลือนราง มีภาพใหม่ที่เห็นอยู่ตรงหน้าเข้าซ้อนทับแทนที่
อย่างแนบเนียน กลิ่นผิวเนื้อหอมอ่อนๆ ผ่องละไมที่เผยออกอวดโฉม ร่างเสือไฟ
ค่อยๆ เลือนหาย กลายเป็นบุรุษงดงามกำยำด้วยพลังแกร่งไปทั้งเรือนร่าง
อัคนิแสยะเขี้ยวขาวเรืองวาวในความมืด ก้มลงพิจารณาใกล้ชิด

ถ้าข้ากลืนกินนาง จะทำให้หายหิวได้หรือเปล่า...

เสียงหายใจเบาแสนเบาจากร่างที่กำลังหลับใหลทำให้รับรู้ถึงชีวิตใต้กรงเล็บ
อัคนิก้มลงไปสูดกลิ่น

มนุษย์...คล้ายไม่ได้เข้าใกล้อะไรบอบบางอย่างนี้มาเนิ่นนาน ซอกคอซึ่งควรจะ
นวลสว่างลออตากลับยังไม่หายช้ำสนิทนัก รอยมือของเขาเองที่เกือบจะพลั้ง
ฆ่านางไปแล้วโดยมิได้หยุดคิด แม้มีพลังจากพลอยเม็ดราชินีช่วยป้องกัน
หากเขาเอาจริงย่อมทำลายสายใยพลังงานนั้นลงได้ไม่ยากเกินกำลัง
แต่นางตัวดีนี้เท่านั้นที่จะนำไปสู่การไขข้อข้องใจทั้งหมด ทั้งเรื่องชื่ออมินตา
ซึ่งเจ้าตัวพูดออกมา นำเขาไปสู่ความลับเรื่องที่มาทั้งหมดทั้งมวล
ติดแค่ว่านางจะยอมตกลงกับเขาด้วยดีหรือเปล่า

“ตื่น... จงตื่นขึ้นมา...” เสียงคำรามเรียกร้องที่ริมหู

“อืม... ใคร” เจ้าของร่างแน่งน้อยผู้ทอดกายระทดระทวยอยู่บนเตียงครางเบาๆ
คล้ายว่ากำลังละเมอตอบใครสักคนที่มาปลุกเรียกมากกว่าจะถามคำนั้นออกมาด้วยสติ

อัคนิวรานึกฉุน ดูสิ แม้แต่ตาก็ยังไม่ลืมขึ้นมองด้วยซ้ำ จะตายอยู่ยังมัวนอนไม่ตื่น
พญาพรายผู้เรืองไปด้วยพลังฤทธิ์ค่อยๆ เลื่อนมือไปกุมกำรอบคอของร่างบอบบางผะแผ่ว
ปลายเล็บแหลมลากครูดผิวอ่อนบาง สัมผัสที่ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดแต่เน้นย้ำใน
ประสบการณ์โหดร้ายที่เพิ่งผ่านมาปลุกให้มัชฌิตาลืมตาโพลง

“อ๊ะ... ! ”
หญิงสาวตกใจแทบสิ้นสติ แต่กลับไม่กล้าร้องออกไปยามรู้ว่ามีเงื้อมมือแกร่งเกร็ง
หมายจะขยุ้มอยู่รอบลำคอพร้อมบีบเธอให้ขาดใจตาย คลับคล้ายกับฝันเมื่อคืนก่อน
แต่คราวนี้มันคือความจริง !!

แม้เสือร้ายในร่างคนจะยังไม่ได้ออกแรง มัชฌิตาก็พยายามใช้ทั้งสองมือของตน
ยกขึ้นมาแกะมือของผู้บุกรุกออก รู้สึกคล้ายง้างเหล็ก เพราะมือที่ว่านั่นไม่ได้ขยับตาม
แรงเธอเลยแม้แต่น้อย รู้อยู่แก่ใจว่าผู้นำพาความตายจะต้องกลับมา แต่ไม่คิดว่า
เป็นคืนนี้ ทั้งที่ชามัลบอกว่าเธอจะปลอดภัย ทั้งที่เขาบอกว่าป้องกันเธอจากภัยร้ายนี้ได้
แต่ทำไมมันจึงไม่เป็นแบบนั้น

“อย่าทำให้ข้าอยากฆ่าเจ้า” มฤตยูที่ปรากฏกายสว่างโพลงท่ามกลางความมืดคำรามเสียงพร่าต่ำ

“ต้องการอะไรกันแน่…” มัชฌิตากระซิบถามปนหอบ อกนวลเนียนซึ่งมีผ้าเช็ดตัว
ปิดไว้ครึ่งๆ สะท้านขึ้นลงด้วยไม่อาจคาดเดาจุดประสงค์ของผู้มาเยือนยามวิกาล
เพราะตอนนี้ดวงตาเหมือนสัตว์ร้ายจากนรกแห่งเพลิงนั้นมีบางอย่างเคลือบแฝง
คล้ายว่าจุดประสงค์ในการมาของเขาผิดไปจากเดิมซึ่งมีแต่แววกระหายจะไล่ล่า

“ข้าอาจมอบทางรอดแก่เจ้า ! หากเจ้ายอมหาทางคืนชีวิตให้ข้าเช่นกัน !! ”

“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง” มัชฌิตากระซิบเสียงสั่นๆ นอกจากความกลัวในสัญชาตญาณ
ป่าเถื่อนของอีกฝ่ายแล้ว เธอยังรู้สึกสัมผัสได้ว่าร่างกายที่เกือบเปลือยเปล่าของตน
กำลังแนบชิดกับเรือนร่างแข่งแกร่งของเขาอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งเมื่อเธอดิ้นหนี
ชายดุร้ายแปลกหน้าที่ไม่รู้ว่าเป็นคนหรือสัตว์ปีศาจตนนี้ก็ยิ่งกดร่างลงมา
คล้ายไม่ได้ตั้งใจ ด้วยมีจุดประสงค์เพียงแค่กักขังมัชฌิตาไว้ภายในอ้อมแขน
แต่ดูเหมือนที่สุดแล้วเขาเองก็สัมผัสได้เช่นกันถึงความใกล้ชิดนั้น
และรู้ด้วยว่าเธอกำลังอายอะไร

“ข้าไม่พิศวาสเจ้าสักนิด อยากบีบคอให้ตาย...ถ้าไม่ติดว่าเจ้ายังมีประโยชน์”
อัคนิวราคำรามเบาๆ อย่างเย้ยเยาะแม่คนที่พยายามเท่าไหร่ก็ไปไหนไม่รอดอยู่ในมือตน

“ป่าเถื่อนที่สุด” หญิงสาวขบฟันแน่น ถึงรู้ว่าไม่พ้นไปได้แต่เธอก็ต้องดิ้น
จะทนให้เจ้าปีศาจร้ายบ้าเลือดกกกอดอยู่อย่างน่าอายแบบนี้ได้ยังไง

อัคนิวราถึงกับหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นการพยายามต่อสู้ของลูกแมวตัวที่สิ้นไร้หนทาง
อยู่ในอ้อมแขน เอะใจขึ้นมาได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ตนเองมีอารมณ์ขบขัน จากมีแต่
โกรธขึ้งตั้งแต่ตื่นฟื้นคืนจากการหลับใหลขึ้นมา ทำให้เขาอยากจะตะปบหยอกเล่น
แต่เพียงเบาๆ อย่างที่ไม่ให้แหลกคามือ ชายหนุ่มรู้สึกแปลกประหลาดเมื่อก้มลงไป
หามัชฌิตา เขาย้ายมือไปตรึงข้อแขนทั้งสองของเหยื่อไว้เพื่อสูดกลิ่นให้ถนัด

คราวก่อนเขาเองเต็มไปด้วยจิตพิฆาตจนไม่ได้สังเกตว่าเมื่ออยู่ใกล้อีกฝ่ายเช่นนี้แล้ว
มีกระแสปราณหวานๆ อ่อนๆ ระเหยออกมา เป็นกระแสพลังงานซึ่งทำให้รู้สึก
ฟื้นคืนกำลังขึ้นมาเล็กๆ ได้อย่างประหลาด พญาพรายเลื่อนสองมือที่กดข้อแขน
บอบบางนั้นลงมาประคองใบหน้าหญิงสาว หาใช่ทะนุถนอมแต่เป็นโอบประคอง
มิให้สามารถหันหนีไปทางใด

“อยู่เฉยๆ ”

มัชฌิตาตาตื่นอยู่ในความมืด เมื่อพบว่าริมฝีปากร้อนระอุแนบชิดลงมาคลอเคล้า
ที่ปากเธอคล้ายกำลังดูดกลืนลมหายใจของเธอเข้าไป เจ้าสัตว์ร้ายตนนี้ไม่ได้ทำ
เหมือนกำลังจูบ ทว่ากำลังกลืนกินพลังบางอย่าง แม้เธอจะไม่ได้อ่อนแรงลง
จากการถูกกระทำเช่นนั้นแต่ก็รู้สึกว่ามีอะไรที่หลับใหลอยู่ในตัวถูกปลุกให้ฟื้นขึ้น
พร้อมๆ กับการกระทำของเขาอย่างประหลาด

กลิ่นหวานๆ ของนางผู้นี้ทำให้ข้าฟื้นกำลังได้ ทำไมนะ... อัคนิคิดอย่างมัวเมา
ในอารมณ์อิ่มเอม ความโหยหิวทรมานในตัวเขาดูเหมือนจะทุเลาลง ใช่แล้ว
นางช่วยเติมเต็มความหิว สามารถให้พลังอย่างที่ชามัลเคยให้เขา

แม่นี่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองเป็นอาหารอันโอชารสได้มากแค่ไหน แต่จะเป็นไรไป
เมื่อเขาดูดกลืนเท่าไหร่เธอก็ไม่เจ็บไม่ตาย เหมือนกับการถ่ายเทพลังงานสู่กัน
ทั้งให้และรับมากกว่าจะดูดกลืนกินมาแต่เพียงฝ่ายเดียว

“อืมมม อา...”
พญาพรายส่งเสียงในลำคออย่างกระหาย ไม่ได้รู้เลยว่าร่างน้อยบนเตียง
หวั่นไหวคล้ายกำลังจะสิ้นใจอยู่รอมร่อแล้ว เธอไม่รู้ว่าผ้าพันกายยังอยู่
หรือว่าเขยื้อนหลุดพ้นไป รู้เพียงแต่รู้สึกถึงเขาแนบชิดไปหมด ทั้งอกรุ่มร้อน
แข็งแกร่ง ทั้งขาสองข้างที่กดตรึงเธอเอาไว้ และมากกว่านั้นที่ไม่อยากจะจินตนาการ

“พะ พอแล้ว ไปให้พ้นนะ” มัชฌิตาสำลัก รวบรวมแรงขืนริมฝีปากให้คลาดจาก
เรียวปากซึ่งดูดกลืนลมหายใจของเธออยู่อย่างไม่รู้จักอิ่มเอมเสียที

อัคนิวราหยุดนิ่งอยู่ในความมืด รู้สึกยิ่งกว่าพึงพอใจ คล้ายคนเดินทางกลางทะเลทราย
ที่ได้พบกระแสธารแห่งชีวิตรวมอยู่กับขุมสมบัติ นอกจากเป็นกุญแจไปสู่ความลับ
แห่งตัวตนด้วยแล้ว ยังเป็นแหล่งพลังงานอันโอชารสให้เขาได้อีก ไม่มีอะไรจะวิเศษไปกว่านี้

มัชฌิตาที่สั่นไปทั้งตัวเพิ่งได้สังเกต ความสว่างโพลงของเขาราลงทำให้มองใบหน้านั้น
ได้ชัดขึ้น ใบหน้างดงามผ่องพรรณยิ่งกว่ารูปสลักทองคำของเทพเจ้า ทรงพลังอย่าง
ไม่อาจต้านทาน หัวใจของหญิงสาวเต้นโครมคราม

...ไม่เห็นเหมือนจูบของชามัล นี่เธอต้านทานอะไรเขาไม่ได้เลย พูดภาษาคนก็ไม่ยักฟังด้วย
ทำเหมือนจะกินเธอมากกว่า เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าได้ล่วงล้ำก้ำเกินความรู้สึกอย่างหญิงสาว
ของใครบางคนเข้าแล้วถึงเพียงไหน ถึงเจ้าตัวงันไปคล้ายยังไม่ต้องการทำเช่นเมื่อครู่อีก
ในยามนี้แต่มัชฌิตาก็ยังถูกตรึงไว้กับที่ หอบหายใจแรงด้วยความตระหนกอกสั่น
จนทุกอย่างค่อยๆ เบาลงๆ ราบคาบลง เขาก็ยังไม่ยอมขยับ ยังคงมองเธอนิ่งอยู่เช่นนั้น
ด้วยดวงตาทรงอำนาจอันเป็นปริศนา จนมัชฌิตาต้องเอ่ยออกมา
“นี่มันมากเกินไปแล้วนะ ลงไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้” หญิงสาวรวบรวมกำลังส่งเสียงดุๆ
ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ที่เล็ดลอดออกมาจากในคอนั้นแทบไม่ต่างจากคำกระซิบของสายลม

เจ้าของร่างที่บุกรุกเข้ามาไม่ตอบ ทำเหมือนไม่ได้ยิน แต่หญิงสาวสังเกตเห็นว่า
วาวตาที่ลุกเป็นสีไฟอ่อนๆ ของเขาหรี่ลงจนเธอสามารถมองเห็นแก้วตาอย่างมนุษย์
เป็นครั้งแรก มันเป็นแก้วสีดำล้ำค่าซึ่งใสและสวยมากเหลือเกิน ถึงกระนั้นแววคมปลาบและ
ความดุร้ายเป็นอาจิณก็ยังฉายชัดคล้ายเป็นคุณสมบัติประจำของเจ้าตัวที่ไม่อาจแยกจากกัน

“เจ้าทำให้ข้าพอใจ...” ที่สุดเขาก็รำพึงขึ้นลอยๆ มัชฌิตาฟังแล้วอยากร้องกรี๊ด
ตีความไม่ถูกเพราะไม่รู้จะคิดไปทางไหน รู้แต่ว่าตนเองยังอายจนหน้าแดงไปหมด
อยากให้เขาออกไปห่างๆ และให้เธอได้หาอะไรมาปกปิดร่างกายเสียที แม้อีกฝ่าย
จะไม่ได้สนใจก้มลงมอง แต่ไอ้ที่สัมผัสชิดเชื้อกันอยู่นี้ มันยิ่งกว่า...

“ฉันจะเรียกให้ชามัลมาช่วย” มัชฌิตาครางเสียงแผ่ว

“ช่วยหรือ อย่าให้ขำไปกว่านี้เลย ในเมื่อทุกครั้งมันนั่นแหละเป็นผู้สั่งให้ข้าลงมือ”

“โกหก”

“หากไม่เชื่อก็ตามใจ น่าสมเพช แต่ลองทบทวนดูให้ดีเถอะ มีอะไรที่เจ้าหลงลืมไป
เกี่ยวกับตัวมันบ้างหรือไม่ พิรุธที่เล็ดลอดออกมาให้ได้เห็น ข้าเชื่อว่าต้องมีแน่”

หญิงสาวพยายามคิดทบทวน ใจอยากจะตอบไปว่าไม่มีทาง แต่แล้วก็พลันนึกไปถึง
เอกสารในห้องของพรต ซึ่งมีชื่อ ศานติมัน เมห์ฮรา ประทับเด่นอยู่บนกระดาษ
รวมถึงเรื่องที่พรตล่อให้เธอเข้าไปในห้อง ก่อนเสือร้ายตนนี้และชามัลจะตามเข้ามา
นั่นสินะ อะไรที่มันบังตาเธออยู่ เป็นอำนาจของชามัลหรือว่าหัวใจซึ่งอยากจะเข้ามา
บงการมัชฌิตากันแน่ ทั้งๆ ที่เธอยังควรสงสัยเขา แต่กลับมาอยู่ใต้เงื้อมมือได้อย่าง
น่าละอายใจ ต้องรอให้สัตว์ร้ายตนนี้มาเตือนสติ

“ถึงจะคิดยังไง แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าเขาเป็นคนบงการ” มัชฌิตาอุบอิบเถียงออกไป

“พูดจาเหมือนเด็กโง่ๆ ” อัคนิวราถอนใจหนักๆ ด้วยสุดระอา “คืนนี้ชามัลจะนอนหลับ
เจ้าจงรู้ไว้ว่าชายผู้นี้ปกติมิได้นิทราทุกคืนเช่นมนุษย์ปกติ ข้าไม่รู้เหตุผลเช่นกัน แต่หาก
เมื่อใดที่มันหลับลงก็จะนอนนานเป็นวันๆ พรุ่งนี้จะมีคนบอกเจ้าว่าพิษไข้ชามัลกำเริบ
จึงนอนไม่ตื่น เจ้าจงรอดูว่าจะเป็นอย่างคำข้าจริงไหม”

มัชฌิตากลั้นใจเอ่ยถามต่อ “แล้วยังไง”

“ในเวลาที่หลับลงจิตรับรู้ของชายผู้นั้นจะอ่อนลงมาก... หากสิ่งมีชีวิตอ่อนแอไร้พลัง
เช่นเจ้าลอบเข้าไปอาจไม่รู้สึกตัวตื่น หรือถ้ามันตื่นมาจงอ้างว่าเข้ามาดูแลอาการเจ็บไข้
แต่หากทางสะดวกข้าแนะให้เจ้าหยิบกุญแจจากใต้พรมหนังเสือไปไขดูลิ้นชักข้างเตียง
ในนั้นจะมีของของเจ้าที่มันขโมยมาเก็บไว้ เป็นกระเป๋าใบเล็กๆ ...ข้าบอกได้เท่านี้”

กระเป๋าสตางค์ของเธอที่หายไปงั้นหรือ หญิงสาวขนลุกอยู่ในความมืด
ถ้ามันยังอยู่ที่ชามัลจริงละก็...

“หากเห็นจริงตามคำข้า จงอย่าได้แตกตื่นให้อีกฝ่ายรู้ว่าเจ้ารู้ แล้วข้าจะมาบอกเอง
ว่าควรทำอย่างไรต่อไป หวังว่าคำพูดของข้าจะทำให้มันสมองของเจ้าได้ทำงานบ้าง
อย่าตกเป็นเหยื่อที่น่าสมเพชอยู่เช่นนี้เลย”

“หึ...” หญิงสาวส่งเสียงใส่เขาอย่างอัดอั้นตันใจ

“ข้าหมดธุระกับเจ้าแล้ว แต่ว่าก่อนไป ขอทำแบบนั้นอีกสักที”

คำขอที่ว่าแลดูเป็นประโยคบอกเล่ายิ่งกว่าคำถาม เมื่อเสือร้ายมิได้รีรอให้มัชฌิตา
ทันประท้วง ริมฝีปากนั้นแนบชิดลงมาคล้ายจะสูบเอาลมหายใจเธอไปอีกหลายเฮือก
ก่อนที่จะผละจากอย่างไม่ไยดี

“ไปให้พ้น ! ไปแล้วอย่ากลับมาอีกนะ ไอ้ปีศาจร้าย !! ” มัชฌิตาลุกขึ้นนั่งบนเตียง
ส่งเสียงไล่หลังทันทีที่ตั้งตัวติด ผวาเฮือกเมื่อสายตาคมกริบตวัดกลับมา แน่ละสิ
ร่างของเธอไม่มีอะไรปกปิดอยู่เลย หญิงสาวรีบคว้าผ้าห่มใกล้มือซึ่งยับยุ่งเพราะ
คนประหลาดที่เข้ามารุกรานปกปิดตนเองเป็นพัลวัน

“ข้ามีชื่อของข้า” ผู้พูดมองเธอด้วยดวงตาที่หรี่แสงลงทอแววคล้ายหยิ่งผยอง “อัคนิวรา...”

มัชฌิตามองตามเงาซึ่งเผ่นจากไปอย่างอ้ำอึ้ง ปีศาจเสือบ้า
บ้าที่สุด...ใครเขาอยากรู้ชื่อของตัวกัน เธออยากจะเกลียดอีกฝ่ายจนไม่รับฟังสิ่งใดที่เขาบอก
แต่น้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลลงมาช้าๆ เมื่อสำนึกรับรู้เริ่มทำงานอย่างที่มันควรจะทำ ใช่แล้ว
เธอใจเสียเพราะรู้ว่าอัคนิวราอาจจะพูดความจริงเรื่องชามัล


หญิงสาวกลั้นใจรอถึงเช้า ชาไปทั้งร่างเมื่อไปถึงหน้าห้องของคนป่วยแล้วได้ยินถ้อยคำ
จากหมอเช่นเดียวกับที่เสือร้ายได้เอ่ยดักไว้ล่วงหน้า

“จู่ๆ อาการไข้ของคุณชามัลก็กำเริบครับ นี่ก็นอนหลับไม่ได้สติเลยท่าจะอีกนานกว่าจะฟื้น”
หญิงสาวกลับมายังห้องของตนเอง เฝ้ารอให้เวลาผ่านไป ภาวนาให้ชามัลตื่นขึ้นเพื่อยืนยัน
ว่าสิ่งซึ่งเธอได้รับรู้มานั้นเป็นเพียงคำลวง เธอแวะไปดูเรื่อยๆ แต่จนผ่านไปถึงวันรุ่งขึ้นแล้ว
ก็ยังไม่เห็นมีช่วงไหนที่เขาจะตื่น ที่สุดมัชฌิตาจึงรอให้ค่ำลงอีกครั้งเพื่อบอกกับแพทย์ว่า
คืนนี้เธอจะรับหน้าที่เฝ้าไข้ชามัลเอง

“เขาบอกว่าฉันมาอยู่กับเขาได้ทุกเวลา ขอให้เราได้อยู่กันสองคนนะคะ”

หมอและสาวๆ ที่เข้ามาดูแลได้ยินดังนั้นก็ล่าถอยออกไปโดยไม่ได้เฉลียวใจถึงแผนของมัชฌิตา
เมื่อห้องเงียบลงหญิงสาวจึงค่อยๆ เดินไปยังพรมหนังเสือ เลิกมันขึ้น หายใจแรงเมื่อเห็นสิ่ง
ซึ่งซ่อนอยู่ แล้วจึงค่อยๆ หยิบกุญแจดอกที่เห็นขึ้นมาด้วยใจระทึก...

จำได้ว่าในวันที่เธอพบชามัลครั้งแรกเป็นวันที่กระเป๋าสตางค์หล่นหาย และเขาก็มา
ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ร้านซึ่งเธอจอดรถลงไปรับประทานอาหารพอดิบพอดี สมิงพรายตนนั้น
มีคนส่งมาแน่ เพราะเธอก็ไม่เข้าใจว่าสัตว์ร้ายดังกล่าวจะทำเรื่องยอกย้อนพวกนี้เองเพื่ออะไร
ยิ่งไม่มีทางเก็บประเป๋าสตางค์เธอมาไว้เพื่อใส่ร้ายชามัล มันไร้สาระชัดๆ

มัชฌิตาไขกุญแจเบาแสนเบา เลื่อนลิ้นชักเปิดออก สิ่งที่เธอเห็นนั้นทำให้มือไม้ของหญิงสาว
เย็นเยียบ กระเป๋าสตางค์ที่หายไปของเธอซุกอยู่ในสุดของลิ้นชักจริงๆ !!

เธอจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...



ราวเที่ยงของวันต่อมา ชามัลรุดไปยังห้องนอนของมัชฌิตา แทบหมดความอดทน
เมื่อเห็นสภาพห้องอันว่างเปล่า จะแล่นตามเธอไปเสียเดี๋ยวนี้ก็ย่อมได้ แต่ความหงุดหงิด
ทำให้ชามัลกลับไปยังห้องของตนเองเพื่อเรียกสมิงพรายของเขาออกมา

ที่เขาทิ้งช่วงจากวันเกิดเหตุก่อนจะค่อยมาหลับลงเพราะต้องอาศัยความอ่อนแอทางใจ
ของมัชฌิตาเมื่อเหตุร้ายยังสดใหม่ตีกำแพงซึ่งเธอก่อไว้ป้องกันตัวให้สลายลง
พอเบาใจว่าอีกฝ่ายอยู่มือแน่เขาจึงค่อยหลับ ไม่คิดว่าเธอจะมาค้นพบกระเป๋าสตางค์
และรู้ตัวเอาในระหว่างนั้นได้

ชามัลขบกรามก่อนจะเอ่ยกับอัคนิวราผู้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า
“คราวนี้ข้าสั่ง ! สั่งให้ติดตามไปเอาชีวิตของผู้หญิงคนนั้น เพื่อที่จะได้เอาพลอยกลับมา
เจ้ามีปัญญาจะทำให้ได้หรือไม่ !! ”

“หากดูถูกข้า ก็อย่ามาใช้ให้ข้าทำ” พรายพญาคำรามอย่างไม่ยอมลดรา

ชามัลวาดแส้ในมือกระหวัดไปตรึงรัดคออีกฝ่ายเสียครั้งหนึ่งให้หันสบตาเขาตรงๆ
ก่อนดึงคืนมาแล้วหวดฟาดกลับให้หลาบจำ สมิงแห่งพลอยเนตรราชันสะบัดหันตามแรง
นัยน์ตาบ่งบอกว่าเจ็บปวดยิ่งด้วยน้ำมือของผู้เป็นนายย่อมมีอำนาจตามพันธะสัญญา
สามารถลงโทษจนถึงบัญชาทุกอย่างได้ดั่งใจประสงค์

“จำไว้ว่าอย่าสามหาวอีก ไหนพูดซิว่าจะเชื่อฟัง หมอบกราบลงมาแทบเท้าของข้านี่”

อัคนิวราจ้องมองอีกฝ่ายด้วยเนตรอันโชนแสงแห่งไฟ รูปจิตของพญาพรายบาดเจ็บ
มุมปากจึงมีสิ่งซึ่งคล้ายโลหิตไหลซึมออกมาด้วยแรงแส้สะบัดฟาดเมื่อครู่ของชามัล
แค้นทั้งเรื่องที่ต้องแกล้งแพ้ ทั้งต้องคลานแทบเท้าราวกับสัตว์เลี้ยง
โดยหากไม่ถูกควบคุมด้วยพลังของพลอยแล้ว ไม่มีวัน...

“ข้า เชื่อฟังท่าน...ชามัล”
คำพูดไม่เต็มใจหลุดพ้นออกมาจากปากซึ่งพญาพรายบังคับมิได้ นอกจากนั้นร่างกายยัง
ขยับตามวาจาของผู้เป็นนาย แม้จะขืนไว้สักเพียงไหนจนสั่นสะท้านไปทั้งกาย แต่อัคนิวรา
ก็กลายเป็นค่อยๆ คลานไปจำนนแทบเท้าของชามัลในที่สุดเมื่ออีกฝ่ายเพ่งกระแสจิตรุนแรงบังคับมา

“เอาละ จงไปหามัชฌิตา ทำตามที่ข้าสั่ง คราวนี้ขอให้สำเร็จ... ไม่เช่นนั้นเจ้าเองเดือดร้อนแน่ อัคนิวรา”



การณ์กลับกลายเป็นว่าแม้มัชฌิตาหายไปหลายวันก็ยังไม่มีความคืบหน้าจากอัคนิวรา
และเมื่อชามัลเรียกตัวมาคุกเข้าเฆี่ยนตียังเบื้องหน้า อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปริปากอันใด

เขาจำเป็นต้องกำราบมันให้ได้ ทำให้เชื่อง
มิเช่นนั้นคงไม่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตอันเรืองฤทธิ์นี้ได้ในกาลต่อไป

ชามัลยกเท้าข้างถนัดขึ้นยันเหยียบไหล่สมิงพญา ด้วยกิริยาคล้ายอยากกดให้หมอบ
สยบราบคาบแทบเท้าลงไปไม่มีวันได้โงหัว เขารู้ว่าพรายตนนี้ยากที่ข่มเอาไว้ให้อยู่หมัด
หากมันรู้ว่าเขาหวั่นเกรงการไม่สามารถควบคุมมัน วันใดก็วันหนึ่งคงยิ่งหมดความ
กริ่งเกรงในตัวเขา จากแววผยองในดวงตานั้น ถึงดีด้วยหรือจะชั่วเข้าใส่มันก็คงไม่พร้อม
ยอมรับใครเป็นนาย ดังนั้นจึงมีแต่เพียงทางนี้ ใช้อำนาจที่เหนือว่าข่มกดมันเอาไว้
อย่าให้ได้มีเวลาเงยหน้าขึ้นจากดิน

“เชื่อฟังข้า เพราะข้าคือผู้นำของเมห์ฮรา ไม่ใช่แค่เพียงเจ้า !! ทุกคนในตระกูลจะต้อง
รับใช้ข้า ไม่ว่าข้าประสงค์สิ่งใด จะต้องเป็นไปตามนั้น ...เพราะพลอยตาเสือเนตรราชัน
นั้นเป็นสมบัติคู่ตระกูลเรา เจ้าคงไม่รู้ เวลาที่ผ่านมาซึ่งเจ้าหลับใหล ตระกูลเราเติบโต
ยิ่งใหญ่เพียงไหน แม้จะเป็นความยิ่งใหญ่อยู่ในที่ลับๆ ใต้ดิน แต่มันก็นำมาซึ่งผลประโยชน์
มหาศาล เราพยุงสังคมโลกราวรากแก้วอันประคองให้ต้นไม้ทรงอยู่ได้ เมห์ฮรากุมอำนาจ
แห่งการหยั่งรู้ ดวงตาที่สาม มีคุณอนันต์ดุจเนตรแห่งพระเป็นเจ้า เป็นแสงสว่าง สาดฟ้า ส่องดิน”

แส้ไฟในมือของชามัลหวดฟาดกระหน่ำลงไม่ยั้ง ซ้าย...ขวา ซ้าย...ขวา เลือดสาดกระเซ็น
จากดวงหน้าและผิวเนื้อหลังไหล่ของอัคนิวราซึ่งไม่ยอมส่งเสียงปริเวทนาออกมาแต่อย่างใด
ความคั่งแค้นกดดันปะทุออกทางดวงตาไฟซึ่งบัดนี้กลายเป็นสีเลือด !

ชามัลโกรธจัด ที่สุดถึงกับปาแส้ไฟทิ้ง

ต่อให้จิตวิญญาณฉีกขาดเป็นริ้วมันก็จะไม่ยอมจำนนต่อเขาใช่ไหม
บ้าสิ้นดี ไอ้ความอวดดีแบบนี้มันคงบ่มมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษกระมัง แล้วต่อไป
เขาจะยังควบคุมมันได้อีกรึ ทั้งเรื่องเหยื่อหนีที่ต้องไปตามกลับมา
จิตของทายาทแห่งเมห์ฮราได้แต่ลุกเรืองเผาไหม้

จะต้องปลงใจยอมรับกระนั้นหรือ
ว่าเวลานี้เขากำลังจะกลายเป็นความมืดที่ไม่อาจไล่ต้อนบีบบังคับแสงแห่งไฟ !



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ม.ค. 2555, 19:21:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ม.ค. 2555, 19:21:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 2407





<< บทที่ 5 ห้องที่ปิดไม่สนิท (ต่อ...)   บทที่ 6 ต้นตระกูลเพลิง >>
Canopus 31 ม.ค. 2555, 20:01:51 น.
รู้ซะทีนะมัชฌิตา สงสารอัคนิวราเมื่อไรจะหลุดจากถูกควบคุม


Auuuu 31 ม.ค. 2555, 20:14:14 น.
สงสารอัคนิวรา เฮ้อออ พระเอกแรงอ่า ยิ่งกดยิ่งอยากหนีนะจะบอกให้


อสิตา 31 ม.ค. 2555, 20:28:34 น.
พอรู้แล้วมัชฌิตาก็เตลิดหนีทันที
*0* พระเอกคนไหนแรงจ๊ะคุณอุ๊... หุหุหุ


นางสาวกระป๋อง 31 ม.ค. 2555, 21:01:18 น.
แบบนี้ก็แปลว่าพระเอกจริงๆก็คือ อัคนิวราใช่มั้ยค่ะคุณอสิตา

ไม่อยากให้ชามัลเป็นพระเอกเลย ตั้งแต่อ่านมาไม่เคยรู้สึกดีกับอีตาคนนี้เลย


ปรางขวัญ 31 ม.ค. 2555, 21:08:03 น.
แอบอยากให้อัคนิวราเป็นตัวเอกแทนชามัลค่ะ ตอนนี้เริ่มไม่ชอบชามัลอย่างจริงจัง


Chii 31 ม.ค. 2555, 21:48:04 น.
อ้าว...คิดว่าอัคนิ (ของเค้าาา) เป็นพระเอกตั้งแต่แรกแล้วง่ะ
อ๊าววว ไม่เอานะ เค้าไม่เอาชามัลลลลล


อสิตา 31 ม.ค. 2555, 22:02:16 น.
*-*' ทำไมพออัคนิออกมามีบทแล้วสาวๆ ติดเพียบเลย เสน่ห์แรงจริง


goldensun 31 ม.ค. 2555, 22:26:13 น.
คนเฉลยความให้มัชฌิตานี่ คาดไม่ถึงเลย ชักอยากรู้ อัคนิวราเกี่ยวพันยังไงกับพลอยตาเสือ แล้วมัชฌิตาจะรับมือชามัลยังไง


Pat 31 ม.ค. 2555, 23:12:02 น.
อ่านๆมานี่ก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่แล้วว่าชามัลจะเป็นพระเอก ยิ่งตอนนี้ก็ไม่คิดแล้วค่ะ แต่ตัวเอกมีอยู่สองคน หุหุ อัคนิก็เป็นพระเอกล่ะสิ ตามลุ้นเรื่องราวกันต่อไป^___^


Zephyr 31 ม.ค. 2555, 23:45:13 น.
อ๊ายยยยยยยยยยยยย เขินแทนพี่มิ้งค์อ่ะ แนบเนื้อขนาดนั้น เปลี่ยนตัว ขอไปซบอัคน้อย(ของเค้า)แทนได้ป่ะ อุเหม่ เห็นมั้ยอัคน้อย(ของเค้าอีกเช่นกัน) พี่มิ้งค์ออกจะมีประโยชน์ ช่วยตามหาอดีตก็ได้ เป็นอาหารก็ได้ มาอยู่กะพี่มิ้งค์เหอะ อย่าไปสนใจ ไอ้บ้านั่นเลย
แต่การกินอาหารของอัคน้อย วาบหวิวมากมาย อ๊ายยยย จิกหมอนๆๆๆ เขินอ่ะ ไมต้องกินท่านั้นด้วยนะ อิจฉาเว้ย
ดีมากอัคน้อย ต่อต้านเข้าไว้ๆๆๆ เอาให้ไอ้...เส้นเลือดแตกเลย หุหุ สะจายยยย เจ็บตัวแล้วไปขอยาสมานจากปากพี่มิ้งค์นะ
ตาชามาร นายมาทำยังงี้กะอัคน้อยของช้านนนนนแบบนี้ นายไม่ตายดีแน่ๆ ย๊ากกกกกกกกกกก ขอให้อำนาจหดหาย ให้ตามืดบอด เสน่ห์ไม่เหลือ หญิงเมิน พลอยแตกร้าว(อัคน้อยจะได้หลุดพ้น) แล้วๆๆๆ ขอๆๆๆให้พี่มิ้งค์ไม่สนใจ ทิ้งเลยๆๆๆ
เอาอัคน้อยเป็นพระเอกคู่กะพี่มิ้งค์เถอะนะ นะนะนะ แต่เราว่า ตาบ้านี่ต้องคู่กะพี่มิ้งค์แน่เลย ใช่มะ ถ้าอัคน้อยเป็นตัวเอกเฉยๆไม่ใช่พระเอก งั้นหาคู่ให้อัคน้อยด้วยนะคะ อย่าให้เปล่าเปลี่ยวอ่ะ


หมูอ้วน 31 ม.ค. 2555, 23:59:05 น.
อีกหนึ่งเสียงค่ะ อยากให้อัคนิวราเป็นพระเอกซะแล้วสิค่ะ หุหุ


wane 1 ก.พ. 2555, 02:08:14 น.
อัคนิวราน่าจะเป็นพระเอกตัวจริงมากกว่าชามัลนะค่ะ ...ถ้าลองได้มีบทแนบเนี้อกับพี่มิ้งค์ซะขนาดนั้นอ่ะ ..


XaWarZd 1 ก.พ. 2555, 04:21:59 น.
สรุปแล้วใครจะเป็นพระเอกตัวจริงเนี่ย เห็นด้วยกะคุณ wane


sunrise 1 ก.พ. 2555, 06:13:37 น.
อัคนิวรามาแรงเชียวตอนนี้ แต่ก็ยังอยากให้ชามัลเป็นพระเอกอยู่นะ ชอบพระเอกร้ายๆ เย็นชากับความรักอ่ะ ตอนโดนเอาคืนมันสะใจดี หุหุ


silverraindrop 1 ก.พ. 2555, 11:57:55 น.
อ้าย....สับสนแล้ว ว่าใครคือพระเอก...รอลุ้นตอนต่อไปอยู่ค่ะ


ameerahTaec 3 ก.พ. 2555, 11:17:38 น.
หรือว่าอัคนิวราจะเป็นพระเอก(เริ่มสับสนเหมือนคนอื่น) แต่ว่าน่าจะรู้จักกับย่าของมิ้งค์ใช่ไหมคะ อิอิ รอลุ้นตอนต่อไป


SunSeed 4 ก.พ. 2555, 10:23:11 น.
อ๊ากกกกก อัคนิวรา แต่แปลกนะ พออ่านๆไปกับรักอีตาชามารมากว่าอีก อิอิ หรือจะให้มีพระเอกสองคนก็ดีนะคะ ^^ นางเอกเหมาหมด


winbkin 10 ก.พ. 2555, 00:34:45 น.
โหวตให้อัคนิวราอีกคนค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account