มายาไฟในดวงตา {ชุดมนตราอัญมณี}สนพ.อรุณ
พลอยตาเสือ มูนสโตน และอความารีน
มรดกที่ย่ามอบให้ทั้งสามสาวจะนำพาลางร้าย ความรัก หรือการผจญภัยมาสู่พวกเธอ
เมื่อพี่สาวคนโตอย่างมัชฌิตาตั้งใจจะเก็บมรดกทั้งของตนเองและน้องสาวเอาไว้
อันตรายบางอย่างกลับคืบคลานเข้ามา หญิงสาวจึงทำได้เพียงหนี !
ก่อนที่ “เขา” เจ้าของพลอยที่แท้จริงผู้น่าสะพรึงจะมาทวงมันคืนไปจากเธอ
Tags: อสิตา มนตรามุกจันทรา ม่านธาราเร้นดาว พลอยตาเสือ มัชฌิตา ชามัล อัคนิวรา

ตอน: บทที่ 7 สัญญาแลกชีวิต (ต่อ...)+ภาพมุกฮาของตัวละครรับวาเลนไทน์

เชิญชมค่าา รับวาเลนไทน์ !!!!
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=308925132490798&set=a.171895419527104.44042.170360283013951&type=1&theater
เอาภาพมาตัดต่อ(จาก sim ในเฟซบุค คนเขียนคลั่งมากกกก)
การ์ตูนรักวุ่นๆ ของชามัล มัชฌิตา และท่านอัคนิ
ผมอัคนิสีส้ม จะได้นึกถึงขนเสือกับตอนติดไฟ...

@ คุณ XaWard
อัคนิไม่มีวันยอมเชื่องค่ะ ไม่ว่าใครจะเป็นพระเอกก็ตาม ถ้าสู้ได้คงต้องสู้กันให้กระเจิงไปข้างละนะ

@ คุณ ameerahTaec
แต่คงได้เป็นพระเอกในหัวใจคนอ่านแน่แล้วมังคะ พ่อเสืออัคนิ ร้ายจริงๆ หุหุ

@ คุณ Neferretti
คนเขียนชอบคอมเม้นต์เพ้อๆน่ารักๆแบบนี้ค่ะ ทำอีกเยอะๆเลยนะ
เห็นคนอ่านมีแรงเม้นต์เยอะๆ แรงเขียน(เรื่องต่อไป)เราก็เยอะตาม
ชามัลดีใจอยู่นะคะที่โดนชมว่า “เกรียนและโฉด” ตอนนี้ร่ำๆอยากจะมอบจูบให้คุณเนเฟอแทนอัคนิแล้วเนี่ย
ปากของอัคนิจะว่าเสียความบริสุทธิ์กับพี่มิ้งค์ก็ไม่เชิง พี่มิ้งค์เองอย่างน้อยๆที่เห็นก็โดนชามัลจูบไปแล้วถึงจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็เหอะ ส่วนคุณเสือร้ายสมัยที่ยังมีชีวิตแม้จะไม่เรียกว่าเจ้าชู้ แต่คงห่างไกลกับคำว่าหนุ่มบริสุทธิ์เยอะเชียว ถ้าแค่จูบสาวนี่คงเพียบ... เพราะฮีก็ทั้งรูปงามและทรงอิทธิพล ถึงขนาดมีฐานะเป็น...(ยังไม่บอก^^ปล่อยให้จิ้นเอาเองค่ะ)
คนเขียนก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณเนเฟอจิ้นอะไรที่ว่าซัมติงไว้ อาจจะถูกก็ได้นะ...

@ คุณ silverraindrop
ชามัลคือ... อัคนิคือ... >_<
เรื่องข้อแม้ของการเป็นเจ้าของพลอยจะมีบอกไว้ทีหลังนะคะ มันค่อนข้างมีรายละเอียด เล่าทีเดียวจะไม่ได้เรื่อง ต้องรอเวลาเหมาะสมที่จะพูดออกไป แต่รับรองเคลียร์แน่นอน คนเขียนแทบไม่เคยลืมปมอะไรที่ตัวเองก่อไว้(คิดว่านะ)

@ คุณหมูอ้วน
แฟนคลับอัคนิอีกแล้ว สงสารชามารจังเลย ช่วยไม่ได้ ทำตัวเองนี่นะ...

@ คุณ SunSeed
คนนี้แฟนชามัลสินะคะ แต่แอบเคลิ้มกับอัคนิวราแบบนี้ได้ยังไง ชามารไม่พอใจแล้วนะ

@ คุณ goldensun
พระอาทิตย์สีทองชอบชื่อจริงๆค่ะ คนอ่านเรื่องนี้มีSunๆเยอะ เข้ากับคอนเซ็ปต์เมห์ฮรามากอยู่
ถ้ายังจำได้จะเห็นว่าอัคนิถูกชามัลปลุกขึ้นมาจากเม็ดพลอยราชัน ซึ่งพลอยราชันและราชินีแม้จะเคยเป็นเม็ดเดียวกัน แต่ก็แยกกันนานแล้ว อัคนิโดนขังเอาไว้หลังจากนั้น
หนูมิ้งค์ถ้ามีโอกาสก็จับพลอยราชันได้ค่ะ แต่ถ้าพยายามใช้นี่ก็น่าจะเจ็บตัวละ เพราะตอนนี้เธอยังไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง ...ส่วนชามัลจับพลอยราชินีไม่ได้ เพราะความโฉดรุนแรงจนพลอยต้องปกป้องเจ้าของอย่างหนูมิ้งค์(แถมยังมีย่าอมินตาแอบช่วยอีกแรง อมินตา เป็นชื่อยิปซี มาจากภาษาละติน ความหมายว่าผู้คุ้มครอง นามสกุลคุปตะจินดาคุณปู่ก็ตั้งให้พ้องกับชื่อย่า เอาใจภรรเมียซ้า...)

@ คุณ นางสาวกระป๋อง
นั่น... แหม ฟังดูเร้าใจนะคะให้พี่มิ้งค์จับอัคนิประกบปากป้อนพลัง ท่าจะต้องทำตามซะแล้ว พี่มิ้งค์ลุย !

@ คุณAuuuu
หุหุ อาการหนักแล้วคุณอุ๊ <3 อินเลิฟพ่อเสือหนุ่มอัคนิรับวาเลนไทน์เหรอคะ *-*

@ คุณ หยกสีน้ำผึ้ง
นั่น โผล่มาฉีกยิ้มจริงๆด้วย แปลว่าอยากโดนพี่เสืองับเบาๆ อัคนิงานหนัก...ต้องตระเวนไปหาทั้งคุณเนเฟอและคุณหนูหยกนะเนี่ย

@ คุณ wane
นั่นสิคะ อัคนิอยู่ใกล้ชามัลยิ่งต้องรวบรวมพลังต่อต้านมากอยู่

@ คุณ Canopus
คนเขียนอยากให้อาหารเสือหนุ่มแบบนี้เหมือนกัน อ๊ะ...พูดอะไรออกไป *///*

@ คุณ sunrise หายไปไหนน้า หุหุ รีบมาเชียร์ชามัลเร็วเข้าค่ะ *0*/

“อัคนิวรา ! ไปเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา แยกเธอออกมาจากพลอยเป็นอันดับแรก”
ชามัลหันไปตวาด

อัคนิวราตั้งใจจะยืนนิ่งไม่ไหวติง แต่ด้วยแรงบังคับจากพลอยราชันที่อยู่ใกล้เหลือเกินนั้น
ทำให้พญาพรายไม่อาจขัดขืน เห็นได้ว่าแม้เขาจะมีทีท่าคล้ายขืนตัวไว้เต็มกำลัง แต่สุดท้าย
ทั้งร่างยังลุกติดเป็นกลุ่มไฟโชนแสง พุ่งลงมายืนตระหง่านไม่ห่างจากมัชฌิตา ก่อนจะค่อยๆ
สืบเข้าใกล้ ยามนี้ดวงตาของเขาเริ่มลุกเรืองด้วยแสงของไฟขึ้นมาทีละน้อยๆ เดาไม่ถูกว่า
กำลังคิดอะไรอยู่

“ถ้าคุณให้ชีวิตฉัน ฉันก็จะให้ชีวิตคุณ” มัชฌิตาเอ่ยย้ำเสียงค่อย

อัคนิวราชะงัก ยังมิได้ตัดสินใจให้แน่ชัดลงไปว่าจะชิงพลอยราชินีมาไว้เองเมื่อมีโอกาส
และอยู่ห่างจากชามัลมากพอ หรืออีกทางคือร่วมมือกับหญิงสาว แต่เมื่ออยู่ใกล้ชามัล เมห์ฮรา
เช่นตอนนี้จะคิดอ่านประการใดให้เป็นตัวของตัวเองยังทำแทบไม่ได้ แต่เขาเพิ่งได้กินอาหาร
จนเต็มอิ่มคราวนี้อาจมีพลังมากพอที่ต่อต้าน...

“ข้าสั่งให้ลงมืออัคนิวรา !! ” น้ำเสียงของชามัลมีแววว่าเริ่มโกรธ

“ข้า...ไม่ต้องการรับคำสั่งจากใคร” สมิงแห่งพลอยตาเสือคำราม



“จำร่องรอยความเจ็บปวดที่ข้าฝากไว้บนใบหน้าเจ้าไม่ได้งั้นรึ”

อัคนิวราส่งเสียงออกมาคำหนึ่ง ก่อนร่างของเขาจะเรืองรองไปด้วยเส้นแสงแห่งไฟ
พุ่งปราดมาจับไหล่มัชฌิตาเอาไว้ทั้งสองข้างก่อนจะโจนขึ้นกลางอากาศโดยรวบร่าง
ของหญิงสาวไว้แนบกาย

ชามัลเห็นดังนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายได้รวบรวมกำลังที่จะขัดขืนอำนาจสั่งการของเขา
อยู่นานแล้วในขณะที่ทำทีเป็นยืนสงบ ชายหนุ่มหัวเราะลั่นอย่างแสนสมเพช เงื้อมือ
ไปข้างหลังเร็วยิ่งกว่าพริบตา พลันปรากฏแส้ไฟอันเรืองรนด้วยอำนาจ และในขณะที่
เหวี่ยงแขนกลับมาข้างหน้าแส้ในมือก็สะบัดยืดยาวไปจนรัดรอบลำคอของพยัคฆ์ร้าย
ในร่างบุรุษผู้กำลังโจนหนี

เปรี๊ยะ... !!!

สะเก็ดไฟปะทุอยู่ตรงหน้าจนมัชฌิตาต้องหลับตาเบือนหน้าหลบ เธอได้ยินเสียงคำราม
อย่างโกรธจัดจากเจ้าของอ้อมแขนอันรัดรึงไม่ปล่อยในขณะที่เขายังพุ่งสูงขึ้น ประสานไปกับ
เสียงตวาดให้หยุดของชามัล อัคนิวราดิ้นรนยื้อยุดรุนแรงจนในที่สุดก็รู้สึกว่าแส้ที่พันธนาการ
ขาดผึง พอลืมตาอีกครั้งมัชฌิตาก็ต้องสะดุ้ง พบว่าตนเองกำลังลอยผ่านยอดไม้หนาทึบ
ด้วยความเร็วจนป่าข้างล่างกลายเป็นเหมือนทะเลสีดำทะมึนในยามราตรีซึ่งเรือเร็วแล่นฉิว
ผ่านไป ในขณะเดียวกันคนที่โอบอุ้มเธออยู่ก็ยังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง สะเก็ดไฟแลบแปลบปลาบ
จากลำคอ

แส้ไฟของชามัลที่ไม่อาจต้านทานแรงกระชากจึงขาดหลุดออก แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่ยอมปล่อย
ยังคงรัดแน่นติดกับเป้าหมาย อัคนิวรามีสีหน้าทรมานจนมัชฌิตาร้อนใจว่าเขาอาจทนไม่ไหว
เธอกลัวตกก็กลัวจึงเกาะเขาแน่นเข้าเพื่อพยุงกาย ก่อนจะตะโกนแข่งกับเสียงลม

“ไหวไหมเนี่ย...”

“เงียบ! ข้าต้องใช้สมาธิ รีบไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุด เพราะยิ่งอยู่ใกล้ ข้ายิ่งอยู่ในรัศมีอำนาจจิตของชามัล”

“แต่ถึงไปไกลคุณก็คงไม่พ้นจากการควบคุมของเขาเสียทีเดียวหรอกใช่ไหม ไม่งั้นคงหนีนานแล้ว”

“ก็ยังทรมานน้อยกว่าอยู่ใกล้” อัคนิวรากัดฟันพูด

มัชฌิตาอยู่ชิดเขามากจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ไม่ใช่เสียงน่ากลัวดัง ตึกตึก อย่างที่เคยได้ยิน
ใกล้เข้ามาและคอยพาให้เธอหวาดหวั่น แต่ครั้งนี้เหมือนใกล้เคียงกับความเป็นมนุษย์มากขึ้น
หญิงสาวรู้สึกว่าร่างกายนี้มีความอบอุ่นจนร้อน เหงื่อของเขาไหลซึมเมื่อรู้สึกทุรนทุราย
อย่างที่กำลังเป็น แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือว่าปิศาจก็แปลกอยู่อย่างที่ผู้ชายคนนี้ไม่มีกลิ่นตัว
ไม่ว่าเขาจะมาในร่างไหน แม้จะพยายามหลับตาลงจับสัมผัส ประหนึ่งว่าตัวตนที่เห็น
เป็นมายาภาพอันสร้างขึ้นด้วยรูปจิต
มัชฌิตาไม่อาจแน่ใจ เพราะเธอไม่เคยพบกับวิญญาณที่ดูสมจริงถึงขนาดนี้
วนาลีนั้นยังนับว่าเทียบกันไม่ได้เพราะมัชฌิตาไม่ได้แตะต้องตัวอีกฝ่าย
กับบ้านของพิทักษ์ป่าซึ่งเธอเห็นก็เป็นภาพลวงตาของสิ่งซึ่งเคยมีอยู่จริง ณ ที่แห่งนั้น
แต่เขาผู้อยู่กับเธอตอนนี้คืออะไร มีตัวตนจับต้องได้เหมือนมนุษย์ มีบาดเจ็บ มีพลังอำนาจ
ที่จะแปรเป็นได้หลายสถานะ ทั้งยังดูเป็นสิ่งมีชีวิตมากเกินกว่าจะบอกว่าเป็นร่างจำแลง
ของอะไรบางอย่างซึ่งไม่มีเลือดเนื้อ

เอาเถอะนะ ยังไงเขาก็ช่วยเธอแม้จะเหมือนไม่เต็มใจ ดูคล้ายเพราะว่าน่าจะ
ได้ผลประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่อัคนิวราก็ยอมบาดเจ็บทุรนทุรายถึงเพียงนี้
เพราะมัชฌิตา หญิงสาวยังไม่รู้ว่าจะไว้ใจเขาได้แค่ไหน แต่ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า
น่าจะลองพูดดีๆ กับคนน่ากลัวคนนี้เป็นครั้งแรก “นี่ คุณ...เจ็บมากหรือเปล่าคะ”

“บอกให้เงียบ ! เดี๋ยวหักคอทิ้งเสียหรอก” เสียงคำรามด้วยความเดือดดาล แถมยัง
ไม่ใช่แค่นั้น มือซึ่งโอบขยุ้มรัดหญิงสาวไว้กับตัวออกแรงบีบลงในเนื้อจนเธอเจ็บแปลบ
ยังดีเขาไม่ได้กางเล็บออกมา คิดผิดจริงๆ ที่พูดดีกับชาติพยัคฆ์แบบนี้ พอเจ็บเข้าก็พาล
ขู่ฆ่าเสียอย่างนั้น ได้อย่างนี้ก็ดี ตกลงกันด้วยผลประโยชน์เข้าว่าอย่างเดียวก็แล้วกัน
รอให้ลงถึงพื้นก่อนเถอะ

พยัคฆ์ร้ายในร่างมนุษย์พาหญิงสาวในอ้อมแขนลงจอดอย่างไม่นุ่มนวลนัก
ทั้งสองร่างดิ่งลงยังผืนป่าอย่างที่ควรจะเรียกว่าเสียหลักตก เมื่ออัคนิวราทรุดลงบนพื้น
มัชฌิตาที่ถูกคร่อมทับก็ตะเกียกตะกายดันตัวให้พ้นมาจากใต้ตัวเขา แต่ยังไงก็ไม่ไวไปกว่า
มือที่เอื้อมมาดึงข้อขาเธอไว้ กระชากแรงให้ครูดพื้นกลับมา

“จะไปไหน”
เสียงตะคอกคำรามกร้าวดุดันจนหญิงสาวนึกกลัว แววตาของเขายามนี้เรืองโรจน์
คล้ายว่าเจ้าตัวได้กลับไปเป็นเหมือนในคืนอันน่าพรั่นพรึงซึ่งได้พบกันคราวแรก
คิดแล้วมัชฌิตาก็หนาวเยือก เธอเกือบจะลืมไป ชายคนนี้ฆ่าแม้แต่คนที่ไม่มีพิษมีภัย
อย่างลุงไผ่ผู้ต้องโชคร้ายเพียงเพราะมาขับรถให้เธอ

“ข้า...ต้อง กินเจ้า” อัคนิวราคำรามทีละคำ

“อะไรกัน ก็เพิ่งจะ... ! ” หญิงสาวพยายามสะบัดขาให้รอดพ้นมือเขา

“ข้าสูญเสียพลัง...” ชายหนุ่มกระชากโดยแรงอีกพรืดเดียวมัชฌิตาก็กลับมาอยู่ใต้ตัวเขาอีกครั้ง

หญิงสาวเบิกตากว้าง เขี้ยวขาวของอัคนิวรายามนี้ยิ่งยืดยาวลงมา ดวงหน้าของเขาบิดเบี้ยว
สั่นระริก คล้ายว่าทุกข์ทรมานจากปลายแส้ไฟที่ยังรัดแน่นติดคอ

ในขณะที่ไม่รู้จะทำเช่นไรนั้นเอง มัชฌิตาก็คิดว่าเธอน่าจะลองช่วยเขาให้หายคลั่ง
อะไรบางอย่างบอกหญิงสาวว่าเธอจะทำมันได้ มือเรียวๆ ยื่นไปแตะคอที่ถูกรัด
เจ้าตัวสะดุ้งนิดหนึ่งคล้ายไม่คาดคิด มัชฌิตาพยายามแกะแส้ไฟของชามัลออก
ค่อนข้างจะลำบาก แต่เธอสามารถจับมันได้โดยไม่เจ็บไม่ร้อนอย่างที่เขาเป็น
และเมื่อเส้นสายของแส้นั้นคลายออกมันก็ร่วงลงมาบนตัวหญิงสาว แสงไฟหรี่ดับ
ก่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหม”

“ยัง” อัคนิวราตอบด้วยสุ้มเสียงคำราม “แส้นี่ยังเบา เมื่อเทียบกับที่หลังของข้า”

“ไหนขอฉันดู” หญิงสาวใช้จังหวะนั้นผลักเขาออก ลุกขึ้นมองฝ่ายที่กำลังทรุดคุดคู้
แล้วก็อุทานออกมาเมื่อเห็นว่ากลางหลังของเสือร้ายในร่างคนมีด้ามมีดพับซึ่งทอแสง
เรืองอ่อนๆ เล่มหนึ่งปักคาอยู่ ไม่รอให้เสียเวลาเปล่า เธออ้อมไปด้านหลังเขา แตะด้ามมีด

อัคนิวรารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แม้จะเจ็บปวดแต่ก็กัดฟันอยู่เฉยให้ผู้หญิงอ่อนแอ
นางนี้ช่วยดึงมีดพิษสงร้ายกาจของชามัลออกให้ตน

มัชฌิตาพิจารณามีดพับด้ามเล็กซึ่งคล้ายด้ามทำจากทองเหลือง เป็นงานฝีมือ
ของแขกอินเดีย “ฉันจะเก็บมีดนี่ไว้กับตัว...” หญิงสาวเอ่ยเรียบๆ ทว่าเด็ดขาด

“อย่างเจ้าไม่มีปัญญาเอามันมาสะกิดถูกข้าแม้แต่ปลายก้อย” พญาพรายหันไปบอกเสียงต่ำ

“นั่นมันเป็นธุระของฉัน รอให้ถึงเวลาจริงๆ ก่อนก็แล้วกัน” เธอก็พูดอวดดีไปอย่างนั้น
เขาอาจจะพูดถูกที่ว่าเธอไม่มีวันย้ายมีดนี่ไปปักบนตัวหรือทำให้ระคายเนื้อเขาได้อย่างชามัล
ทว่ามัชฌิตาก็อุ่นใจที่จะเก็บมันไว้ หญิงสาวแอบย่นจมูก อีกฝ่ายไม่มีทีท่าสำนึกในบุญคุณ
เลยแม้แต่น้อย แต่ก็คงเสมอกันกับเธอนั่นแหละที่ไม่ได้ขอบคุณเรื่องเขาพาหนีมา

“ชามัลจะตามเรามาถูกไหม” มัชฌิตาถามอย่างกังวล แต่ก่อนฝ่ายนั้นมักจะตามเธอมา
ถูกเสมอ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเขารู้ตำแหน่งได้ด้วยตนเองหรือสมุนผู้ทรงอำนาจร้าย
ผู้นี้กันแน่ช่วยชี้ทาง

“มันรู้แน่ว่าเราอยู่ที่ไหน ชายผู้นั้นมีดวงตาแห่งการมองเห็นที่ไม่เป็นรองใคร
ถึงจะต้องเดินทางด้วยวิธีเยี่ยงมนุษย์ก็จริง แต่ไม่ช้าก็คงตามมาถึง”

มัชฌิตาขมวดคิ้ว เธอคงไม่คิดจะบอกให้อัคนิวราพาตนเองหนีไปเรื่อยๆ
เพราะถ้าทำแบบนั้นจะหาทางชิงพลอยตาเสือมาจากชามัลได้ยังไง ที่รันทดยิ่งกว่า
ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนถูกต้อนให้จนมุม จากรั้นพยายามจะต่อสู้กับสิ่งที่มีอำนาจเกินกำลัง
ยังไม่ทันไปได้ถึงไหนทุกอย่างก็มาส่อแววคล้ายจะพังไม่เป็นท่า

“จบกัน ไม่มีแผนที่แล้ว ไม่เหลือสักอย่าง ทั้งรถ ทั้งของที่เตรียมมาผจญเวรผจญกรรม
ทั้งคนที่คิดว่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ สุดท้ายก็เป็นศัตรู...”

หญิงสาวรู้สึกขำปนสมเพชตัวเองเมื่อคิดถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อชามัล
อ่อนไหวอย่างน่าเวทนา ใครๆ ว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งแต่แท้จริงแล้วก็ทำไปอย่างนั้น
เธอแค่ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้มาเห็นความอ่อนแอ ทั้งความเจ้าอารมณ์ ใจร้อน
ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้คนที่น่าจะเข้มแข็งได้สมใจตัวเองและใครๆ กลับกลายเป็นคน
เปราะบางคนหนึ่ง แม้พยายามซ่อนสิ่งนั้นไว้ลึกๆ อยู่เสมอ แต่เวลานี้ไม่มีอะไรต้องสนใจ
คนที่อยู่ตรงหน้านี้ก็ไม่ใช่คนด้วยซ้ำ เป็นแค่สัตว์ร้ายที่ทำอะไรตามสัญชาตญาณ
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย เมื่อครู่เขาช่วยเธอ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะ
หันมาบีบคอฆ่า

“เจ้ามีใจกับผู้ชายคนนั้น...” อัคนิวราเปรยด้วยน้ำเสียงกึ่งดูถูก

“เปล่านี่ ไม่สักนิดเลย”

มัชฌิตาถอนใจแรงๆ เธอคงปิดบังเขาไม่ได้ หญิงสาวเริ่มปล่อยให้น้ำตาแห่งความ
สมเพชตนเองหยดเผาะๆ ลงมาโดยแทบไม่ส่งเสียง เมื่อเห็นผู้ชายคนตรงหน้ามองมา
อย่างหงุดหงิดระคนสมเพชในที่สุดเธอจึงเบือนหน้าหันหนีไปซ่อนเสียทางอื่น

อัคนิวราค่อยๆ ทรงตัวยืน รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อไม่มีชิ้นส่วนจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนาย
ติดอยู่กับตัว แม้จะสัมผัสได้ถึงกระแสพลังปั่นป่วนแรงกล้าที่เรียกร้องให้กลับไป
กลับไปยังพลอยราชันเม็ดนั้น ทว่าเขาพยายามขืนไว้สุดกำลัง และตอนนี้ก็ไม่รู้จะ
ทำเช่นไรกับเหยื่อซึ่งมีท่าทีผิดประหลาด พญาพรายขมวดคิ้วกับตนเองอย่างสงสัย

ผู้หญิงคนนี้แสดงความอ่อนแอเป็นด้วย ถึงปกติจะไม่ได้ดูแข็งแกร่งอะไรนัก
แต่ก็พยายามจะทำตัวเป็นเม่นขนแข็งกินยากอยู่ตลอดเวลา หากไม่ชอบใจก็ควรจะ
ร้องโวยวายแล้วก็ทำตาลุกวาวเหมือนลูกแมวไม่เชื่องแบบที่เคยทำมากกว่า

“ร้องไห้เสียน้ำตา ต้องใช้อารมณ์และพลังปราณชีวิตเป็นอย่างมาก ถ้าจะใช้มัน
กับเรื่องไม่จำเป็นเช่นนี้ก็น่าเสียดาย แบบนั้นสู้เอามาให้ข้ากินเสียดีกว่า ! ”

มัชฌิตาซึ่งถูกจับคางให้หันหาไปหาดื้อๆ เงยมองคนพูดอย่างโกรธๆ แต่เขาก็ไม่สนใจ
ความรู้สึกของเธอสักนิดเลย เห็นเธอเป็นอาหาร แล้วก็ยื่นอีกมือมารั้งแขน ตั้งท่าว่าจะ
ทำอย่างที่พูดจริงๆ

“ในเวลาแบบนี้ยังจะมีหน้ามา...” หญิงสาวหลับตา มือไม้พยายามทุบทำร้ายเขา
อย่างเต็มความสามารถ แต่ไม่ทราบว่าทำไมแต่อ้อมแขนของพยัคฆ์ร้ายในยามนี้
กลับอ่อนโยนลงกว่าที่เคย มัชฌิตาไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเอง หรือเสือร้ายตรงหน้า
กำลังพยายามปลอบเธอด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจมาเสียจากการร้องไห้กันแน่
ไม่มีทางที่เขาจะใจดีถึงขนาดนั้นหรอก

ช่วงเวลาที่เธอไม่เต็มใจนั้นแสนจะยาวนาน แต่ร่างบางก็รู้สึกว่าต้องยอมเขาจนได้
อีกฝ่ายมีท่าทางจะเป็นจะตายถึงขนาดนั้น ถ้าเธอไม่ให้เขาได้ไอ้พลังปราณอะไรที่ว่า
ไม่แน่ก็อาจไม่รอดกันทั้งสองคน ผ่านไปนานเท่านานหญิงสาวจึงได้สติ เงยแหงนหลบ
เป็นสัญญาณบอกว่าพอได้แล้ว ก่อนจะเอ่ยไล่ “ทีนี้ก็ช่วยออกไปห่างๆ เสียที”

เร็วทันใจ ผู้ที่เคยทำเหมือนหิวกระหายเธอเสียเต็มประดาผลักมัชฌิตาออกด้วยกิริยา
กระด้างจนหญิงสาวต้องนึกเจ็บใจอีกครั้ง คนบ้าแบบนี้ก็มีด้วย หุนหันพลันแล่น
ดุดันเหมือนไม่ใช่คนแต่เป็นสัตว์ร้าย ก็สมควรแล้วที่ต้องอยู่ในร่างเสือแบบนั้น
แม้ตอนนี้จะเห็นว่าเป็นคน แต่แท้จริงแล้วเนื้อในเป็นตัวอะไรก็ยังไม่รู้เลย

“ข้าอยากพัก” อัคนิวราพูดห้วนๆ มัชฌิตาใจเต้นแรงเมื่อเห็นร่างสูงที่หมอบลงช้าๆ
ค่อยๆ กลายเป็นเสือไป ก่อนหลับตายังมีหน้าเหล่มองมาทางเธอแบบไม่ใคร่จะไว้ใจวูบหนึ่ง
กวาดหางอีกสองสามทีเป็นเชิงขู่ ก่อนปิดตาลงอย่างอ่อนล้า

นี่มันเสือนอนกินชัดๆ จู่ๆ อยากกิน ก็ได้กิน กินแล้วก็นอนอุตุทันทีอย่างน่าชิงชัง
แต่อาจเป็นการฟื้นคืนพลังของเขาซึ่งเธอไม่เข้าใจ จะไปว่าอะไรก็ไม่ได้อีก


หญิงสาวรู้สึกเย็นจนกลายเป็นหนาว สัมผัสได้ว่ามีไอหมอกโรยตัวอยู่รอบกาย
ดีว่าเธอยังอยู่ในชุดเต็มยศทั้งแจ็คเกตหนังและกางเกงยีนส์ เธอกอดตัวเอง
เหลียวมองไปรอบกาย เห็นแต่ป่ามืดสนิท แม้จะมองอะไรๆ และเดินในที่มืดได้ดีกว่า
คนปกติด้วยพลังตาที่สาม แต่มันก็ไม่เชิงว่าเป็นการมองด้วยสายตา เรียกว่าเป็น
สัมผัสรับรู้อีกส่วนที่ต่างออกไปจะถูกกว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าจะช่วยขับไล่
อันตรายซึ่งอาจมีมาให้พ้นไปได้
แล้วข้างๆ นี่ล่ะ เสือตัวนี้เป็นฆาตกร แต่เขาก็ช่วยมัชฌิตาให้พ้นมาจากชามัล
ซึ่งก็คงฆ่าเธอง่ายๆ อย่างไม่ต้องคิดอะไรหลังจากได้ทุกสิ่งที่ต้องการ
ข้าวของถูกไฟไหม้หมด มีติดตัวมาแค่โทรศัพท์มือถือซึ่งคงจะติดอยู่ไม่กี่วัน
จนพลังงานที่เหลืออยู่หมดไป คงไม่ต้องไปสนใจถึงเรื่องนั้น
เพราะไม่มีอะไรจะช่วยเธอได้นอกจากมุ่งต่อไปให้ถึงถ้ำ...โดยไม่มีแผนที่ในมือ
มีเพียงความทรงจำถึงมันซึ่งไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ เธอไม่รู้จักภูมิประเทศแถวนี้
มองทางไหนก็เห็นเหมือนๆ กันไปหมด จะฝากความหวังไว้ที่อัคนิวราแต่เพียงลำพัง
ก็เกินจะวางใจ

มัชฌิตารู้สึกง่วงและเพลีย นี่ถ้าหากว่าผู้ร้ายสองคนไม่ได้ทยอยกันบุกเข้ามา
เธอก็คงหลับสบายไปแล้ว ขนาดครึ่งคนครึ่งเสือตนนี้ยังนอนเอาแรง เธอเองก็
ต้องพักเหมือนกันไม่งั้นคงไม่มีแรงสู้ต่อไปในวันพรุ่งนี้

หญิงสาวค่อยๆ เอนนอนลงบ้าง โดนหนุนศีรษะไว้กับรากไม้ใหญ่ ทำไปทำมา
ก็ชักจะรู้สึกว่าแข็งเกินไปจึงย้ายมาหนุนแขนตัวเอง ลมหนาวแห่งป่าใหญ่
โชยมาเป็นระลอกไม่หยุดหย่อน หญิงสาวค่อยๆ กระเถิบเข้าไปใกล้เจ้าเสือหลับ
โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ก็ตัวใหญ่ขนาดนั้น แถมยังดูเรืองรองไปด้วยละอองไอ
แห่งชีวิตและความอุ่น จะคิดเสียว่าอัคนิวราคือไฟกองใหญ่แล้วกัน เธอแค่
อยากนอนใกล้ๆ ไฟเพื่อความอุ่นใจ จะไม่เข้าไปให้ใกล้เกินไปนัก
เพราะมันอาจไหม้ตนเองเข้า
ถึงแม้จะคิดอย่างนั้นแต่เมื่อเคลิ้มสู่ห้วงนิทราหญิงสาวก็ค่อยๆ เขยิบใกล้
แหล่งความอบอุ่นเข้าไปอีกระดับด้วยความหนาว อัคนิวรารู้สึกได้นานแล้ว
ทั้งที่ไม่อยากใส่ใจ พอหญิงสาวค่อยๆ เข้ามาใกล้จนแทบจะสัมผัสเขาอยู่แล้ว
เสือใหญ่จึงลืมเนตรอันเรื่อเรืองขึ้นในความมืด ถอนหายใจแรงอย่างขัดใจ
ทว่าร่างบางกลับรู้สึกได้รับสัมผัสแห่งความอบอุ่นมากยิ่งขึ้นจนถึงขั้น
กวาดแขนมากอดหมับเข้าที่ขาหน้าของพญาเสือแถมยังเอาหน้ามาซุก
นอกจากนั้นยังเบียดๆ กระแซะเข้ามากอดแน่นจนหนีไม่ได้

มัชฌิตาไม่รู้สึกอะไรนอกจากหนาว คล้ายๆ หลับไม่สนิท จนเมื่อคลำพบ
หมอนข้างที่มีขนฟูเหมือนตุ๊กตาแถมยังอุ่นดีเป็นอย่างยิ่ง หญิงสาวจึงยึดมันไว้แน่น
ทั้งกอดและหนุนนอนจนหลับสบายอยู่ในท่านั้นไปจนตลอดคืน


เช้าตรู่ เสียงนกร้องแว่วมาเข้าหูรบกวนเจ้าของร่างบางที่กำลังนอนหลับสบายให้ค่อยๆ
ลืมตาตื่น เธอเห็นว่าตนเองนอนอยู่ไม่ห่างจากกองไฟเล็กๆ ซึ่งถูกก่อขึ้น คงเป็นฝีมือ
ของใครไปไม่ได้นอกจากอัคนิวราในร่างคน ดูทำเข้าสิ ก่อนเธอจะตื่นเขาคงกำลัง
นั่งเท้าคางอยู่เงียบๆ แต่เมื่อหันมาสบตาของมัชฌิตาเข้าเท่านั้นพ่อครึ่งคนครึ่งเสือตัวดี
ก็ตีหน้าบึ้งอย่างคล้ายจะรำคาญ หันไปมองทางอื่น บ่นออกมาดังๆ

“ลุกได้หรือยัง นอนสบายนักนะ ทั้งที่เป็นเวลาเช่นนี้ ”

“ตัวเองชิงนอนก่อนยังมีหน้ามาพูด” มัชฌิตาบ่นตอบ ทำทีไม่สะทกสะท้านกับ
ดวงตาขวางๆ ซึ่งเขม้นมองมา

ในสายหมอกของยามเช้า เขาดูเหมือนมนุษย์ปกติมากๆ คงเป็นเพราะไม่อยากจะ
สำแดงฤทธิ์อะไรให้เปลืองพลัง มัชฌิตาแอบนินทาอยู่ในใจว่าถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือ
ตอนนี้ก็ต้องเรียกว่าเปิดเป็นแบบเซฟโหมดหรือประหยัดพลังงานเอาไว้ หากแต่
แสงเงินแสงทองที่ลอดผ่านใบไม้ลงมาก็ตกลงจับเส้นผมดำยาวเป็นประกายสวย
ถ้ารวมชุดผ้านุ่งหยักรั้งแบบโบราณที่อีกฝ่ายสวมใส่ ทั้งข้อแขนทองคำงามประณีต
กำไลทองคำที่สวมติดข้อเท้าเปล่าเปลือยข้างหนึ่ง ทำให้เขาดูเหมือนเทวดาผู้ท่องไป
ในไพรพฤกษ์ อ้อ ต้องเว้นไม่นับรวมลายเสือบนตัวแล้วก็ชายผ้านุ่งขาดๆ วิ่นๆ
แม้จะเป็นจุดที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้แต่ความสง่างามอย่างดุดันของเขาก็แลดู
คล้ายเป็นประหนึ่งเทพเทวะมากกว่าจะบอกว่าเป็นเสือสมิงซึ่งจำแลงมา

“มองไม่รู้จบ” ชายหนุ่มเปรยอย่างรำคาญ “ข้าคงดูประหลาดมากสิในสายตาของเจ้า”

มัชฌิตาเบะปาก เป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ได้สังเกตสีหน้าสีตาเธอยามมองเขา
ด้วยเหตุที่เจ้าตัวมัวเหล่เธอด้วยหางตาคล้ายว่าเบื่อและรำคาญ แถมยังเที่ยว
ตีความตามใจชอบว่าคนอื่นจะนิสัยเสียเหมือนกับตนเองอยู่ร่ำไป ดีแล้ว
อยากจะคิดแบบนั้นก็เชิญคิด

“คุณต้องช่วยฉันตามหาถ้ำแห่งนั้น แม้ว่าเราจะไม่มีแผนที่แล้ว”

“ข้าไม่สามารถไปยังที่ที่ข้าไม่รู้จัก หรือไม่มีสื่อนำ แถมเจ้าเองก็ไม่รู้ใช่ไหมล่ะ
ว่าสถานที่แห่งนั้นหน้าตาเป็นเช่นไร”

“ถ้าคุณมีตาที่สามมองเห็นได้มากกว่าฉันคุณก็ลองมองหาให้หน่อยสิ” มัชฌิตาเริ่มโบ้ย

“ชามัลเคยเอาแผนที่ออกมาให้ดูแล้วคาดคั้นถามข้า แต่เนื่องจากจุดบนนั้นร่างไว้
เป็นเพียงตำแหน่งสัญลักษณ์อันไร้รูปแบบซึ่งจะนำมาเทียบเคียงตามภูมิประเทศ
แถบนี้จริงๆ ไม่ได้ ดังนั้นต่อให้จำตำแหน่งของจุดได้ ก็ไปไม่ถูก”

มัชฌิตาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นี่ตาชามัลต้องแอบเอาแผนที่นั่นไปทำสำเนาไว้
ตอนไหนสักตอนแน่ๆ ! ” ทำเป็นตีหน้าซื่อว่าห่วงใย ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นมากขึ้นจริงๆ

“ไม่ใช่แค่เรื่องแผนที่ มันยังทำอีกหลายอย่างตอนเจ้าหลับ”

“อะไร” มัชฌิตาถามเสียงเขียว

“อย่าห่วง มันแตะต้องเจ้าไม่ได้หรอกถ้าหากว่าเจ้าไม่เต็มใจ”

“จริงหรือ” หญิงสาวเลิกคิ้ว
ถ้ามีเรื่องแบบนั้นจริงชามัลก็กลบเกลื่อนได้แนบเนียนจนเธอไม่เคยรู้สึกเลย

“ที่ถามนั่นดีใจหรือว่าเสียใจ ตอนเจ้าหลับไม่มีใครทำอะไรเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่เพราะ
พลอยแต่ข้าเห็นพลังของใครคนหนึ่งปกป้องเจ้าไว้...มีแต่ตัวเจ้าเองที่ทำตัวรบกวนผู้อื่น”

อัคนิวราส่งสายตาเบื่อๆ ไปให้อีกฝ่ายเมื่อย้อนนึกถึงตอนสตรีนางนี้นอนละเมอ
เห็นตนเป็นหมอนข้าง จะว่าสงสารก็ไม่ใช่ แต่ที่เขาพยายามอยู่เฉยๆ ก็เพราะว่า
ขี้เกียจขยับตัวหรือลุกขึ้นโวยวาย หมายรักษาพลังงานไว้ใช้ในวันนี้ต่างหากเล่า

“หรือว่าจะเป็นพลังของย่าที่คุ้มครองฉันอยู่”

“ช่างเถอะ พร้อมจะไปกันหรือยัง” อัคนิวราผินหน้ามามองมัชฌิตา

“ไปไหน”

“ไปหาถ้ำนั่นให้พบ เผื่อว่าอะไรที่เจอจะทำให้เราพร้อมเผชิญหน้ากับชามัล
เพื่อจะได้ชิงพลอยราชันนั้นมาได้สำเร็จ”

“เดินท่อมๆ ไปในป่าแบบนี้หรือ”

“เปล่า ขืนปล่อยให้คนง่อยเปลี้ยอย่างเจ้าเดินป่าชามัลคงตามมาถึงก่อน”

“ดูว่าเข้า...” มัชฌิตาพ่นลมหายใจออกอย่างโกรธๆ “แล้วจะไปกันยังไง
หรือคุณจะพาฉันลอยหวิวไปในอากาศอย่างเมื่อคืนอีก”

“ทำแบบนั้นนานๆ ไม่ได้ อีกอย่างเราต้องสำรวจป่า ไปอีกแบบจะสะดวกกว่า
ข้าจะให้เจ้าเกาะหลังไป”

“อะไรนะ” มัชฌิตาทำหน้าลำบากใจกับคำพูดของอีกฝ่ายทันทีเมื่อนึกภาพตนเอง
ถูกกระเตงขึ้นหลังเหมือนลูกลิง เทียบกับการอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วก็
น่ากระอักกระอ่วนใจไปคนละแบบ

“หมายถึงข้าจะอยู่ในร่างเสือ” อัคนิวราตอบเสียงระอา

หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ คนท่าทางหยิ่งผยองอย่างเขาคงไม่อยากใช้คำว่าให้ขี่หลัง
แต่ยังไงเธอก็คงจะได้ขี่เสือโคร่งท่องป่าก็คราวนี้ คงเป็นความทรงจำที่น่าตื่นเต้นไม่เบา
และจะได้เก็บกลับไปเล่าให้ยายมูนกับยายมีนน้องสาวทั้งสองฟัง ถ้าบังเอิญว่า
ยังมีโอกาสเอาชีวิตรอดกลับไปพบกันละก็

อัคนิวราพยายามทำเป็นมองไม่เห็นกับสีหน้าพึงพอใจของหญิงสาว
ชายหนุ่มค่อยๆ กลายร่างเป็นเสือโคร่งตัวยักษ์ ในบัดดลนั้นเอง




อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.พ. 2555, 14:19:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.พ. 2555, 23:18:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 3021





<< บทที่ 7 สัญญาแลกชีวิต (ตอนแรก)   บทที่ 7 สัญญาแลกชีวิต (ต่อ-จบบท) >>
sai 13 ก.พ. 2555, 14:36:46 น.
ขี่เสือท่องไพร น่าสนุกจัง ^___^



SunSeed 13 ก.พ. 2555, 15:28:18 น.
ยัยมิ๊งค์เอ๊ย จะอดใจไม่หวั่นไหวกับพ่อเสือโคร่งขี้โมโหได้มั๊ยเนี่ย อีตาชามารจะตกกระป๋องอยู่แล้วน๊า งือๆๆๆๆ


silverraindrop 13 ก.พ. 2555, 15:47:13 น.
ว้าว ว้าว เริ่งจะทราบแล้ว ใครพระเอก ใครตัวร้าย ... แล้วจะมีฉากหวานมาคั่นบ้างไหมน็า...อ๊ายยยย ลุ้น ลุ้น ลุ้น มาก มาก คร้า


ปรางขวัญ 13 ก.พ. 2555, 16:22:42 น.
นาทีนี้ใครจะเป็นพระเอก ตัวร้าย หรืออะไรไม่สนทั้งนั้น รู้แต่ว่าชอบอัคนิมากๆ
ขอเอามานอนกอดน่าจะนุ่มสบาย @^^@


อสิตา 13 ก.พ. 2555, 18:15:23 น.
^^ เสือหนุ่มที่นุ่มฟู


sunrise 13 ก.พ. 2555, 19:28:55 น.
ชามัลแย่แล้วล่ะ ปล่อยหนูมิ้งค์ไปกะเจ้าเสือโคร่ง ท่าจะตามคืนยากอยู่นะเนี่ย


Zephyr 13 ก.พ. 2555, 19:35:17 น.
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พี่มิ้งค์ เนียนนอนกอดตุ๊กตาอัคน้อย อุ่นมั้ย นุ่มอีก ฟูด้วย หลับสบายเลย งือๆๆๆๆๆ อิจฉาๆๆๆๆๆๆ เค้าอยากกอดบ้างอ่าาา แถมยังจะได้ขี่หลังอีก กรี๊ดดดดดดดดดดดด จะแนบเนื้อมากไปแล้วเฟ้ยยยย เวลาปลอบของอัคน้อย ยังแบบ เท่ได้อีก หงุดหงิด หิว เป็นจับประกบ...xxqascdcd@#!!!! เสือนอนกิน ฮ่าๆๆๆๆ อย่างฮาาาาา ดูท่าอัคน้อยถนัดอยู่ในร่างเสือมากกว่านะเนี่ย แต่นะ เราชอบร่างคน!!!!
....สองตาตอนนี้ไม่แลใครนอกจากอัคน้อยคนเดียว!!!!!
ตาชามัลจะมาจุ๊บเค้าเหรอ ม่ายยยยยย ปากเค้ามีเจ้าของแล้ว คราวที่แล้วตัวยังจะเอาแส้ฟาดเค้าอยู่เลย เฮอะ งอน
ปล. เค้าทำช็อกวาเลนไทน์ให้นะ ^^ คุณอสิตาส่งอัคน้อยมาเอาด้วยนะคะ มาในร่างคนนะ อย่าลืมล่ะ แล้วมาเป็นตุ๊กตาเสือให้นอนกอดซะดีๆ เป็นค่าเหนื่อย หึหึ


Zephyr 13 ก.พ. 2555, 19:47:58 น.
...เหมือนสองเราจะได้ไปเดตในพงไพรเลยนะ ขี่เสือชมป่า
คุณอสิตาสนใจเปิดทริปมั้ยคะ เสียค่านั่งหลังเสือ(สมิง)
ฮ่าๆๆๆ เอาอัคน้อยมาหากินซะงั้น (อย่าบอกอัคน้อยนะ)
เค้าล้อเล่นๆๆๆๆ นะ อัคน้อย อย่าๆๆๆ อย่าเพิ่งตาลุก อย่าเพิ่งไฟลุก ดับไปก๊อนนนนนนนน อ๊ายยยยยยยยย อย่ามากางกงเล็บใส่นะ เค้ากลัววววว(แต่ถ้ามาเมื่อไรเค้าไม่ปล่อยกลับไปเข้าฉากนะเออ ยอมจ่ายค่าตัวเหมายาวเลย หึหึ ^^)


อสิตา 13 ก.พ. 2555, 19:53:47 น.
กึ่กๆๆ สั่นเทา...ให้คนเขียนหากินกับอัคนิเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอารูปsim ชามัล อัคนิ กับมัชฌิตาจากไอดีเฟซบุคมาอวดรับวาเลนไทน์ดีกว่า อิอิ
ชอบคุณที่แนะนำค่าคุณเนเฟอฯ พรุ่งนี้จะเปิดประมูลอัคนิเลย*0*/ (ถ้ามีลูกชายแบบนี้จริงๆจะจับไปขายซะให้เข็ด)


Zephyr 13 ก.พ. 2555, 20:18:48 น.
ประมูล!!!!!! เค้าทุ่มสุดตัวววววววววววววววววว ^^
จา เอา อัคน้อยมานอน กอด ให้ได้ หึหึหึ


Auuuu 13 ก.พ. 2555, 20:51:53 น.
เก๋มากกกกก ขี่เสือท่องป่า วู้ฮู
เราไม่ชอบชามัลละ ชอบอัคนิดีกว่า
ชามัลนิสัยไม่ดี ชิชิ
แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์ นะคะไรเตอร์ ^^


Pat 13 ก.พ. 2555, 21:58:53 น.
^_^¦¦¦ พี่มิ้งค์ทำเนียนแอบนอนกอดอัคนิน้อยซะงั้น อิจฉานะเนี่ย


konhin 13 ก.พ. 2555, 22:02:03 น.
มีแต่คนประมูล งั้นเอามั่ง ขอสามวันก็พอ เท่าไหร่คะ ;)


ริญจน์ธร 13 ก.พ. 2555, 22:37:27 น.
แวะเข้ามาแจมค่ะ กระทู้นี้จะกลายเป็นกระทู้ประมูลไปแล้วหรือคะ
สาวๆ แถวนี้กำลังหาหนุ่มออกเดตวันวาเลนไทน์กันรึเปล่าคะเนี่ย ^^


อสิตา 14 ก.พ. 2555, 01:12:02 น.
รับวาเลนไทน์ !!!!
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=308925132490798&set=a.171895419527104.44042.170360283013951&type=1&theater
เอาภาพมาตัดต่อ(จาก sim ในเฟซบุค คนเขียนคลั่งมากกกก)
การ์ตูนรักวุ่นๆ ของชามัล มัชฌิตา และท่านอัคนิ
ผมอัคนิสีส้ม จะได้นึกถึงขนเสือกับตอนติดไฟ...
ป.ล. ชามัลฝากถามสาวๆค่ะ ว่าไม่มีใครประมูลตัวฮีบ้างเหรอ เค้ามีทั้งแส้พร้อม เทียนพร้อม โซ่ กุญแจมืออะไรมีหมดนะ^///^


wane 14 ก.พ. 2555, 02:38:25 น.
ชอบประโยคความคิดของพี่มิ้งค์จัง "เสือนอนกิน"


หมูอ้วน 14 ก.พ. 2555, 07:25:23 น.
ตอนนี้ ยังคงเทคะแนนให้อัคนิ เหมือนเดิมคร่าาา


เรือใบ 14 ก.พ. 2555, 07:53:58 น.
อัคนิๆๆๆ >_____< เชียร์มากๆ ความจริงไม่ชอบชามัลตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว ยังคิดอยู่เลยว่าอย่างตานี่จะเป็นพระเอกอ่ะนะ ดีค่ะมีอัคนิมาชูโรง ไม่งั้นอาจจะไม่ตามเรื่องนี้แล้ว อัคนิสู้ๆ โอยอยากได้อัคนิมาเป็นหมอนข้างให้มั่งจัง


ameerahTaec 14 ก.พ. 2555, 07:55:58 น.
กี้สสสสสสสสสสสสสสส ตอนนี้คนเขียนเอาใจคนอ่านสุดๆเลยนะคะ อยากให้อัคนิเป็นพระเอกอ๊าาาาาา หลงรักพ่อเสือหนุ่มคนนี้เข้าเต็มเปา >///< สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะคุณอสิตา...รักอัคนินะ จุ๊บๆ ป.ล.ตอนจบมีหักมุมมั้ยคะ 555+


บุลินทร 14 ก.พ. 2555, 15:22:04 น.
นี่มันกระทู้ประมูลอะไรกัน ฮ่าๆๆ คนเขียนช่วยให้ฝันของคนอ่านเป็นจริงด้วยนะ เรื่องพระเอก


Canopus 14 ก.พ. 2555, 17:09:37 น.
ชอบเสือนอนกินตัวนี้จังอยากได้มานอนกอดมั่ง


XaWarZd 14 ก.พ. 2555, 23:58:36 น.
อ๊าย น่ารักอ่ะ หมอนข้างแบบนี้ขอได้มั้ย


goldensun 15 ก.พ. 2555, 12:34:02 น.
ขี่หลังเสือของจริงแล้ว มัชฌิตา จะตกมั้ยเนี่ย ตอนเสือวิ่ง
อัคนิวราตอนนี้ ชักมีนิสัยเหมือนคนมากขึ้นทุกที จะเริ่มจำอดีตได้มั้ยเนี่ย ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับย่าอมินตายังไง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account