มายาไฟในดวงตา {ชุดมนตราอัญมณี}สนพ.อรุณ
พลอยตาเสือ มูนสโตน และอความารีน
มรดกที่ย่ามอบให้ทั้งสามสาวจะนำพาลางร้าย ความรัก หรือการผจญภัยมาสู่พวกเธอ
เมื่อพี่สาวคนโตอย่างมัชฌิตาตั้งใจจะเก็บมรดกทั้งของตนเองและน้องสาวเอาไว้
อันตรายบางอย่างกลับคืบคลานเข้ามา หญิงสาวจึงทำได้เพียงหนี !
ก่อนที่ “เขา” เจ้าของพลอยที่แท้จริงผู้น่าสะพรึงจะมาทวงมันคืนไปจากเธอ
มรดกที่ย่ามอบให้ทั้งสามสาวจะนำพาลางร้าย ความรัก หรือการผจญภัยมาสู่พวกเธอ
เมื่อพี่สาวคนโตอย่างมัชฌิตาตั้งใจจะเก็บมรดกทั้งของตนเองและน้องสาวเอาไว้
อันตรายบางอย่างกลับคืบคลานเข้ามา หญิงสาวจึงทำได้เพียงหนี !
ก่อนที่ “เขา” เจ้าของพลอยที่แท้จริงผู้น่าสะพรึงจะมาทวงมันคืนไปจากเธอ
Tags: อสิตา มนตรามุกจันทรา ม่านธาราเร้นดาว พลอยตาเสือ มัชฌิตา ชามัล อัคนิวรา
ตอน: บทที่ 7 สัญญาแลกชีวิต (ต่อ...)+ภาพมุกฮาของตัวละครรับวาเลนไทน์
เชิญชมค่าา รับวาเลนไทน์ !!!!
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=308925132490798&set=a.171895419527104.44042.170360283013951&type=1&theater
เอาภาพมาตัดต่อ(จาก sim ในเฟซบุค คนเขียนคลั่งมากกกก)
การ์ตูนรักวุ่นๆ ของชามัล มัชฌิตา และท่านอัคนิ
ผมอัคนิสีส้ม จะได้นึกถึงขนเสือกับตอนติดไฟ...
@ คุณ XaWard
อัคนิไม่มีวันยอมเชื่องค่ะ ไม่ว่าใครจะเป็นพระเอกก็ตาม ถ้าสู้ได้คงต้องสู้กันให้กระเจิงไปข้างละนะ
@ คุณ ameerahTaec
แต่คงได้เป็นพระเอกในหัวใจคนอ่านแน่แล้วมังคะ พ่อเสืออัคนิ ร้ายจริงๆ หุหุ
@ คุณ Neferretti
คนเขียนชอบคอมเม้นต์เพ้อๆน่ารักๆแบบนี้ค่ะ ทำอีกเยอะๆเลยนะ
เห็นคนอ่านมีแรงเม้นต์เยอะๆ แรงเขียน(เรื่องต่อไป)เราก็เยอะตาม
ชามัลดีใจอยู่นะคะที่โดนชมว่า “เกรียนและโฉด” ตอนนี้ร่ำๆอยากจะมอบจูบให้คุณเนเฟอแทนอัคนิแล้วเนี่ย
ปากของอัคนิจะว่าเสียความบริสุทธิ์กับพี่มิ้งค์ก็ไม่เชิง พี่มิ้งค์เองอย่างน้อยๆที่เห็นก็โดนชามัลจูบไปแล้วถึงจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็เหอะ ส่วนคุณเสือร้ายสมัยที่ยังมีชีวิตแม้จะไม่เรียกว่าเจ้าชู้ แต่คงห่างไกลกับคำว่าหนุ่มบริสุทธิ์เยอะเชียว ถ้าแค่จูบสาวนี่คงเพียบ... เพราะฮีก็ทั้งรูปงามและทรงอิทธิพล ถึงขนาดมีฐานะเป็น...(ยังไม่บอก^^ปล่อยให้จิ้นเอาเองค่ะ)
คนเขียนก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณเนเฟอจิ้นอะไรที่ว่าซัมติงไว้ อาจจะถูกก็ได้นะ...
@ คุณ silverraindrop
ชามัลคือ... อัคนิคือ... >_<
เรื่องข้อแม้ของการเป็นเจ้าของพลอยจะมีบอกไว้ทีหลังนะคะ มันค่อนข้างมีรายละเอียด เล่าทีเดียวจะไม่ได้เรื่อง ต้องรอเวลาเหมาะสมที่จะพูดออกไป แต่รับรองเคลียร์แน่นอน คนเขียนแทบไม่เคยลืมปมอะไรที่ตัวเองก่อไว้(คิดว่านะ)
@ คุณหมูอ้วน
แฟนคลับอัคนิอีกแล้ว สงสารชามารจังเลย ช่วยไม่ได้ ทำตัวเองนี่นะ...
@ คุณ SunSeed
คนนี้แฟนชามัลสินะคะ แต่แอบเคลิ้มกับอัคนิวราแบบนี้ได้ยังไง ชามารไม่พอใจแล้วนะ
@ คุณ goldensun
พระอาทิตย์สีทองชอบชื่อจริงๆค่ะ คนอ่านเรื่องนี้มีSunๆเยอะ เข้ากับคอนเซ็ปต์เมห์ฮรามากอยู่
ถ้ายังจำได้จะเห็นว่าอัคนิถูกชามัลปลุกขึ้นมาจากเม็ดพลอยราชัน ซึ่งพลอยราชันและราชินีแม้จะเคยเป็นเม็ดเดียวกัน แต่ก็แยกกันนานแล้ว อัคนิโดนขังเอาไว้หลังจากนั้น
หนูมิ้งค์ถ้ามีโอกาสก็จับพลอยราชันได้ค่ะ แต่ถ้าพยายามใช้นี่ก็น่าจะเจ็บตัวละ เพราะตอนนี้เธอยังไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง ...ส่วนชามัลจับพลอยราชินีไม่ได้ เพราะความโฉดรุนแรงจนพลอยต้องปกป้องเจ้าของอย่างหนูมิ้งค์(แถมยังมีย่าอมินตาแอบช่วยอีกแรง อมินตา เป็นชื่อยิปซี มาจากภาษาละติน ความหมายว่าผู้คุ้มครอง นามสกุลคุปตะจินดาคุณปู่ก็ตั้งให้พ้องกับชื่อย่า เอาใจภรรเมียซ้า...)
@ คุณ นางสาวกระป๋อง
นั่น... แหม ฟังดูเร้าใจนะคะให้พี่มิ้งค์จับอัคนิประกบปากป้อนพลัง ท่าจะต้องทำตามซะแล้ว พี่มิ้งค์ลุย !
@ คุณAuuuu
หุหุ อาการหนักแล้วคุณอุ๊ <3 อินเลิฟพ่อเสือหนุ่มอัคนิรับวาเลนไทน์เหรอคะ *-*
@ คุณ หยกสีน้ำผึ้ง
นั่น โผล่มาฉีกยิ้มจริงๆด้วย แปลว่าอยากโดนพี่เสืองับเบาๆ อัคนิงานหนัก...ต้องตระเวนไปหาทั้งคุณเนเฟอและคุณหนูหยกนะเนี่ย
@ คุณ wane
นั่นสิคะ อัคนิอยู่ใกล้ชามัลยิ่งต้องรวบรวมพลังต่อต้านมากอยู่
@ คุณ Canopus
คนเขียนอยากให้อาหารเสือหนุ่มแบบนี้เหมือนกัน อ๊ะ...พูดอะไรออกไป *///*
@ คุณ sunrise หายไปไหนน้า หุหุ รีบมาเชียร์ชามัลเร็วเข้าค่ะ *0*/
“อัคนิวรา ! ไปเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา แยกเธอออกมาจากพลอยเป็นอันดับแรก”
ชามัลหันไปตวาด
อัคนิวราตั้งใจจะยืนนิ่งไม่ไหวติง แต่ด้วยแรงบังคับจากพลอยราชันที่อยู่ใกล้เหลือเกินนั้น
ทำให้พญาพรายไม่อาจขัดขืน เห็นได้ว่าแม้เขาจะมีทีท่าคล้ายขืนตัวไว้เต็มกำลัง แต่สุดท้าย
ทั้งร่างยังลุกติดเป็นกลุ่มไฟโชนแสง พุ่งลงมายืนตระหง่านไม่ห่างจากมัชฌิตา ก่อนจะค่อยๆ
สืบเข้าใกล้ ยามนี้ดวงตาของเขาเริ่มลุกเรืองด้วยแสงของไฟขึ้นมาทีละน้อยๆ เดาไม่ถูกว่า
กำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าคุณให้ชีวิตฉัน ฉันก็จะให้ชีวิตคุณ” มัชฌิตาเอ่ยย้ำเสียงค่อย
อัคนิวราชะงัก ยังมิได้ตัดสินใจให้แน่ชัดลงไปว่าจะชิงพลอยราชินีมาไว้เองเมื่อมีโอกาส
และอยู่ห่างจากชามัลมากพอ หรืออีกทางคือร่วมมือกับหญิงสาว แต่เมื่ออยู่ใกล้ชามัล เมห์ฮรา
เช่นตอนนี้จะคิดอ่านประการใดให้เป็นตัวของตัวเองยังทำแทบไม่ได้ แต่เขาเพิ่งได้กินอาหาร
จนเต็มอิ่มคราวนี้อาจมีพลังมากพอที่ต่อต้าน...
“ข้าสั่งให้ลงมืออัคนิวรา !! ” น้ำเสียงของชามัลมีแววว่าเริ่มโกรธ
“ข้า...ไม่ต้องการรับคำสั่งจากใคร” สมิงแห่งพลอยตาเสือคำราม
“จำร่องรอยความเจ็บปวดที่ข้าฝากไว้บนใบหน้าเจ้าไม่ได้งั้นรึ”
อัคนิวราส่งเสียงออกมาคำหนึ่ง ก่อนร่างของเขาจะเรืองรองไปด้วยเส้นแสงแห่งไฟ
พุ่งปราดมาจับไหล่มัชฌิตาเอาไว้ทั้งสองข้างก่อนจะโจนขึ้นกลางอากาศโดยรวบร่าง
ของหญิงสาวไว้แนบกาย
ชามัลเห็นดังนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายได้รวบรวมกำลังที่จะขัดขืนอำนาจสั่งการของเขา
อยู่นานแล้วในขณะที่ทำทีเป็นยืนสงบ ชายหนุ่มหัวเราะลั่นอย่างแสนสมเพช เงื้อมือ
ไปข้างหลังเร็วยิ่งกว่าพริบตา พลันปรากฏแส้ไฟอันเรืองรนด้วยอำนาจ และในขณะที่
เหวี่ยงแขนกลับมาข้างหน้าแส้ในมือก็สะบัดยืดยาวไปจนรัดรอบลำคอของพยัคฆ์ร้าย
ในร่างบุรุษผู้กำลังโจนหนี
เปรี๊ยะ... !!!
สะเก็ดไฟปะทุอยู่ตรงหน้าจนมัชฌิตาต้องหลับตาเบือนหน้าหลบ เธอได้ยินเสียงคำราม
อย่างโกรธจัดจากเจ้าของอ้อมแขนอันรัดรึงไม่ปล่อยในขณะที่เขายังพุ่งสูงขึ้น ประสานไปกับ
เสียงตวาดให้หยุดของชามัล อัคนิวราดิ้นรนยื้อยุดรุนแรงจนในที่สุดก็รู้สึกว่าแส้ที่พันธนาการ
ขาดผึง พอลืมตาอีกครั้งมัชฌิตาก็ต้องสะดุ้ง พบว่าตนเองกำลังลอยผ่านยอดไม้หนาทึบ
ด้วยความเร็วจนป่าข้างล่างกลายเป็นเหมือนทะเลสีดำทะมึนในยามราตรีซึ่งเรือเร็วแล่นฉิว
ผ่านไป ในขณะเดียวกันคนที่โอบอุ้มเธออยู่ก็ยังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง สะเก็ดไฟแลบแปลบปลาบ
จากลำคอ
แส้ไฟของชามัลที่ไม่อาจต้านทานแรงกระชากจึงขาดหลุดออก แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่ยอมปล่อย
ยังคงรัดแน่นติดกับเป้าหมาย อัคนิวรามีสีหน้าทรมานจนมัชฌิตาร้อนใจว่าเขาอาจทนไม่ไหว
เธอกลัวตกก็กลัวจึงเกาะเขาแน่นเข้าเพื่อพยุงกาย ก่อนจะตะโกนแข่งกับเสียงลม
“ไหวไหมเนี่ย...”
“เงียบ! ข้าต้องใช้สมาธิ รีบไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุด เพราะยิ่งอยู่ใกล้ ข้ายิ่งอยู่ในรัศมีอำนาจจิตของชามัล”
“แต่ถึงไปไกลคุณก็คงไม่พ้นจากการควบคุมของเขาเสียทีเดียวหรอกใช่ไหม ไม่งั้นคงหนีนานแล้ว”
“ก็ยังทรมานน้อยกว่าอยู่ใกล้” อัคนิวรากัดฟันพูด
มัชฌิตาอยู่ชิดเขามากจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ไม่ใช่เสียงน่ากลัวดัง ตึกตึก อย่างที่เคยได้ยิน
ใกล้เข้ามาและคอยพาให้เธอหวาดหวั่น แต่ครั้งนี้เหมือนใกล้เคียงกับความเป็นมนุษย์มากขึ้น
หญิงสาวรู้สึกว่าร่างกายนี้มีความอบอุ่นจนร้อน เหงื่อของเขาไหลซึมเมื่อรู้สึกทุรนทุราย
อย่างที่กำลังเป็น แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือว่าปิศาจก็แปลกอยู่อย่างที่ผู้ชายคนนี้ไม่มีกลิ่นตัว
ไม่ว่าเขาจะมาในร่างไหน แม้จะพยายามหลับตาลงจับสัมผัส ประหนึ่งว่าตัวตนที่เห็น
เป็นมายาภาพอันสร้างขึ้นด้วยรูปจิต
มัชฌิตาไม่อาจแน่ใจ เพราะเธอไม่เคยพบกับวิญญาณที่ดูสมจริงถึงขนาดนี้
วนาลีนั้นยังนับว่าเทียบกันไม่ได้เพราะมัชฌิตาไม่ได้แตะต้องตัวอีกฝ่าย
กับบ้านของพิทักษ์ป่าซึ่งเธอเห็นก็เป็นภาพลวงตาของสิ่งซึ่งเคยมีอยู่จริง ณ ที่แห่งนั้น
แต่เขาผู้อยู่กับเธอตอนนี้คืออะไร มีตัวตนจับต้องได้เหมือนมนุษย์ มีบาดเจ็บ มีพลังอำนาจ
ที่จะแปรเป็นได้หลายสถานะ ทั้งยังดูเป็นสิ่งมีชีวิตมากเกินกว่าจะบอกว่าเป็นร่างจำแลง
ของอะไรบางอย่างซึ่งไม่มีเลือดเนื้อ
เอาเถอะนะ ยังไงเขาก็ช่วยเธอแม้จะเหมือนไม่เต็มใจ ดูคล้ายเพราะว่าน่าจะ
ได้ผลประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่อัคนิวราก็ยอมบาดเจ็บทุรนทุรายถึงเพียงนี้
เพราะมัชฌิตา หญิงสาวยังไม่รู้ว่าจะไว้ใจเขาได้แค่ไหน แต่ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า
น่าจะลองพูดดีๆ กับคนน่ากลัวคนนี้เป็นครั้งแรก “นี่ คุณ...เจ็บมากหรือเปล่าคะ”
“บอกให้เงียบ ! เดี๋ยวหักคอทิ้งเสียหรอก” เสียงคำรามด้วยความเดือดดาล แถมยัง
ไม่ใช่แค่นั้น มือซึ่งโอบขยุ้มรัดหญิงสาวไว้กับตัวออกแรงบีบลงในเนื้อจนเธอเจ็บแปลบ
ยังดีเขาไม่ได้กางเล็บออกมา คิดผิดจริงๆ ที่พูดดีกับชาติพยัคฆ์แบบนี้ พอเจ็บเข้าก็พาล
ขู่ฆ่าเสียอย่างนั้น ได้อย่างนี้ก็ดี ตกลงกันด้วยผลประโยชน์เข้าว่าอย่างเดียวก็แล้วกัน
รอให้ลงถึงพื้นก่อนเถอะ
พยัคฆ์ร้ายในร่างมนุษย์พาหญิงสาวในอ้อมแขนลงจอดอย่างไม่นุ่มนวลนัก
ทั้งสองร่างดิ่งลงยังผืนป่าอย่างที่ควรจะเรียกว่าเสียหลักตก เมื่ออัคนิวราทรุดลงบนพื้น
มัชฌิตาที่ถูกคร่อมทับก็ตะเกียกตะกายดันตัวให้พ้นมาจากใต้ตัวเขา แต่ยังไงก็ไม่ไวไปกว่า
มือที่เอื้อมมาดึงข้อขาเธอไว้ กระชากแรงให้ครูดพื้นกลับมา
“จะไปไหน”
เสียงตะคอกคำรามกร้าวดุดันจนหญิงสาวนึกกลัว แววตาของเขายามนี้เรืองโรจน์
คล้ายว่าเจ้าตัวได้กลับไปเป็นเหมือนในคืนอันน่าพรั่นพรึงซึ่งได้พบกันคราวแรก
คิดแล้วมัชฌิตาก็หนาวเยือก เธอเกือบจะลืมไป ชายคนนี้ฆ่าแม้แต่คนที่ไม่มีพิษมีภัย
อย่างลุงไผ่ผู้ต้องโชคร้ายเพียงเพราะมาขับรถให้เธอ
“ข้า...ต้อง กินเจ้า” อัคนิวราคำรามทีละคำ
“อะไรกัน ก็เพิ่งจะ... ! ” หญิงสาวพยายามสะบัดขาให้รอดพ้นมือเขา
“ข้าสูญเสียพลัง...” ชายหนุ่มกระชากโดยแรงอีกพรืดเดียวมัชฌิตาก็กลับมาอยู่ใต้ตัวเขาอีกครั้ง
หญิงสาวเบิกตากว้าง เขี้ยวขาวของอัคนิวรายามนี้ยิ่งยืดยาวลงมา ดวงหน้าของเขาบิดเบี้ยว
สั่นระริก คล้ายว่าทุกข์ทรมานจากปลายแส้ไฟที่ยังรัดแน่นติดคอ
ในขณะที่ไม่รู้จะทำเช่นไรนั้นเอง มัชฌิตาก็คิดว่าเธอน่าจะลองช่วยเขาให้หายคลั่ง
อะไรบางอย่างบอกหญิงสาวว่าเธอจะทำมันได้ มือเรียวๆ ยื่นไปแตะคอที่ถูกรัด
เจ้าตัวสะดุ้งนิดหนึ่งคล้ายไม่คาดคิด มัชฌิตาพยายามแกะแส้ไฟของชามัลออก
ค่อนข้างจะลำบาก แต่เธอสามารถจับมันได้โดยไม่เจ็บไม่ร้อนอย่างที่เขาเป็น
และเมื่อเส้นสายของแส้นั้นคลายออกมันก็ร่วงลงมาบนตัวหญิงสาว แสงไฟหรี่ดับ
ก่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหม”
“ยัง” อัคนิวราตอบด้วยสุ้มเสียงคำราม “แส้นี่ยังเบา เมื่อเทียบกับที่หลังของข้า”
“ไหนขอฉันดู” หญิงสาวใช้จังหวะนั้นผลักเขาออก ลุกขึ้นมองฝ่ายที่กำลังทรุดคุดคู้
แล้วก็อุทานออกมาเมื่อเห็นว่ากลางหลังของเสือร้ายในร่างคนมีด้ามมีดพับซึ่งทอแสง
เรืองอ่อนๆ เล่มหนึ่งปักคาอยู่ ไม่รอให้เสียเวลาเปล่า เธออ้อมไปด้านหลังเขา แตะด้ามมีด
อัคนิวรารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แม้จะเจ็บปวดแต่ก็กัดฟันอยู่เฉยให้ผู้หญิงอ่อนแอ
นางนี้ช่วยดึงมีดพิษสงร้ายกาจของชามัลออกให้ตน
มัชฌิตาพิจารณามีดพับด้ามเล็กซึ่งคล้ายด้ามทำจากทองเหลือง เป็นงานฝีมือ
ของแขกอินเดีย “ฉันจะเก็บมีดนี่ไว้กับตัว...” หญิงสาวเอ่ยเรียบๆ ทว่าเด็ดขาด
“อย่างเจ้าไม่มีปัญญาเอามันมาสะกิดถูกข้าแม้แต่ปลายก้อย” พญาพรายหันไปบอกเสียงต่ำ
“นั่นมันเป็นธุระของฉัน รอให้ถึงเวลาจริงๆ ก่อนก็แล้วกัน” เธอก็พูดอวดดีไปอย่างนั้น
เขาอาจจะพูดถูกที่ว่าเธอไม่มีวันย้ายมีดนี่ไปปักบนตัวหรือทำให้ระคายเนื้อเขาได้อย่างชามัล
ทว่ามัชฌิตาก็อุ่นใจที่จะเก็บมันไว้ หญิงสาวแอบย่นจมูก อีกฝ่ายไม่มีทีท่าสำนึกในบุญคุณ
เลยแม้แต่น้อย แต่ก็คงเสมอกันกับเธอนั่นแหละที่ไม่ได้ขอบคุณเรื่องเขาพาหนีมา
“ชามัลจะตามเรามาถูกไหม” มัชฌิตาถามอย่างกังวล แต่ก่อนฝ่ายนั้นมักจะตามเธอมา
ถูกเสมอ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเขารู้ตำแหน่งได้ด้วยตนเองหรือสมุนผู้ทรงอำนาจร้าย
ผู้นี้กันแน่ช่วยชี้ทาง
“มันรู้แน่ว่าเราอยู่ที่ไหน ชายผู้นั้นมีดวงตาแห่งการมองเห็นที่ไม่เป็นรองใคร
ถึงจะต้องเดินทางด้วยวิธีเยี่ยงมนุษย์ก็จริง แต่ไม่ช้าก็คงตามมาถึง”
มัชฌิตาขมวดคิ้ว เธอคงไม่คิดจะบอกให้อัคนิวราพาตนเองหนีไปเรื่อยๆ
เพราะถ้าทำแบบนั้นจะหาทางชิงพลอยตาเสือมาจากชามัลได้ยังไง ที่รันทดยิ่งกว่า
ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนถูกต้อนให้จนมุม จากรั้นพยายามจะต่อสู้กับสิ่งที่มีอำนาจเกินกำลัง
ยังไม่ทันไปได้ถึงไหนทุกอย่างก็มาส่อแววคล้ายจะพังไม่เป็นท่า
“จบกัน ไม่มีแผนที่แล้ว ไม่เหลือสักอย่าง ทั้งรถ ทั้งของที่เตรียมมาผจญเวรผจญกรรม
ทั้งคนที่คิดว่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ สุดท้ายก็เป็นศัตรู...”
หญิงสาวรู้สึกขำปนสมเพชตัวเองเมื่อคิดถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อชามัล
อ่อนไหวอย่างน่าเวทนา ใครๆ ว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งแต่แท้จริงแล้วก็ทำไปอย่างนั้น
เธอแค่ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้มาเห็นความอ่อนแอ ทั้งความเจ้าอารมณ์ ใจร้อน
ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้คนที่น่าจะเข้มแข็งได้สมใจตัวเองและใครๆ กลับกลายเป็นคน
เปราะบางคนหนึ่ง แม้พยายามซ่อนสิ่งนั้นไว้ลึกๆ อยู่เสมอ แต่เวลานี้ไม่มีอะไรต้องสนใจ
คนที่อยู่ตรงหน้านี้ก็ไม่ใช่คนด้วยซ้ำ เป็นแค่สัตว์ร้ายที่ทำอะไรตามสัญชาตญาณ
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย เมื่อครู่เขาช่วยเธอ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะ
หันมาบีบคอฆ่า
“เจ้ามีใจกับผู้ชายคนนั้น...” อัคนิวราเปรยด้วยน้ำเสียงกึ่งดูถูก
“เปล่านี่ ไม่สักนิดเลย”
มัชฌิตาถอนใจแรงๆ เธอคงปิดบังเขาไม่ได้ หญิงสาวเริ่มปล่อยให้น้ำตาแห่งความ
สมเพชตนเองหยดเผาะๆ ลงมาโดยแทบไม่ส่งเสียง เมื่อเห็นผู้ชายคนตรงหน้ามองมา
อย่างหงุดหงิดระคนสมเพชในที่สุดเธอจึงเบือนหน้าหันหนีไปซ่อนเสียทางอื่น
อัคนิวราค่อยๆ ทรงตัวยืน รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อไม่มีชิ้นส่วนจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนาย
ติดอยู่กับตัว แม้จะสัมผัสได้ถึงกระแสพลังปั่นป่วนแรงกล้าที่เรียกร้องให้กลับไป
กลับไปยังพลอยราชันเม็ดนั้น ทว่าเขาพยายามขืนไว้สุดกำลัง และตอนนี้ก็ไม่รู้จะ
ทำเช่นไรกับเหยื่อซึ่งมีท่าทีผิดประหลาด พญาพรายขมวดคิ้วกับตนเองอย่างสงสัย
ผู้หญิงคนนี้แสดงความอ่อนแอเป็นด้วย ถึงปกติจะไม่ได้ดูแข็งแกร่งอะไรนัก
แต่ก็พยายามจะทำตัวเป็นเม่นขนแข็งกินยากอยู่ตลอดเวลา หากไม่ชอบใจก็ควรจะ
ร้องโวยวายแล้วก็ทำตาลุกวาวเหมือนลูกแมวไม่เชื่องแบบที่เคยทำมากกว่า
“ร้องไห้เสียน้ำตา ต้องใช้อารมณ์และพลังปราณชีวิตเป็นอย่างมาก ถ้าจะใช้มัน
กับเรื่องไม่จำเป็นเช่นนี้ก็น่าเสียดาย แบบนั้นสู้เอามาให้ข้ากินเสียดีกว่า ! ”
มัชฌิตาซึ่งถูกจับคางให้หันหาไปหาดื้อๆ เงยมองคนพูดอย่างโกรธๆ แต่เขาก็ไม่สนใจ
ความรู้สึกของเธอสักนิดเลย เห็นเธอเป็นอาหาร แล้วก็ยื่นอีกมือมารั้งแขน ตั้งท่าว่าจะ
ทำอย่างที่พูดจริงๆ
“ในเวลาแบบนี้ยังจะมีหน้ามา...” หญิงสาวหลับตา มือไม้พยายามทุบทำร้ายเขา
อย่างเต็มความสามารถ แต่ไม่ทราบว่าทำไมแต่อ้อมแขนของพยัคฆ์ร้ายในยามนี้
กลับอ่อนโยนลงกว่าที่เคย มัชฌิตาไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเอง หรือเสือร้ายตรงหน้า
กำลังพยายามปลอบเธอด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจมาเสียจากการร้องไห้กันแน่
ไม่มีทางที่เขาจะใจดีถึงขนาดนั้นหรอก
ช่วงเวลาที่เธอไม่เต็มใจนั้นแสนจะยาวนาน แต่ร่างบางก็รู้สึกว่าต้องยอมเขาจนได้
อีกฝ่ายมีท่าทางจะเป็นจะตายถึงขนาดนั้น ถ้าเธอไม่ให้เขาได้ไอ้พลังปราณอะไรที่ว่า
ไม่แน่ก็อาจไม่รอดกันทั้งสองคน ผ่านไปนานเท่านานหญิงสาวจึงได้สติ เงยแหงนหลบ
เป็นสัญญาณบอกว่าพอได้แล้ว ก่อนจะเอ่ยไล่ “ทีนี้ก็ช่วยออกไปห่างๆ เสียที”
เร็วทันใจ ผู้ที่เคยทำเหมือนหิวกระหายเธอเสียเต็มประดาผลักมัชฌิตาออกด้วยกิริยา
กระด้างจนหญิงสาวต้องนึกเจ็บใจอีกครั้ง คนบ้าแบบนี้ก็มีด้วย หุนหันพลันแล่น
ดุดันเหมือนไม่ใช่คนแต่เป็นสัตว์ร้าย ก็สมควรแล้วที่ต้องอยู่ในร่างเสือแบบนั้น
แม้ตอนนี้จะเห็นว่าเป็นคน แต่แท้จริงแล้วเนื้อในเป็นตัวอะไรก็ยังไม่รู้เลย
“ข้าอยากพัก” อัคนิวราพูดห้วนๆ มัชฌิตาใจเต้นแรงเมื่อเห็นร่างสูงที่หมอบลงช้าๆ
ค่อยๆ กลายเป็นเสือไป ก่อนหลับตายังมีหน้าเหล่มองมาทางเธอแบบไม่ใคร่จะไว้ใจวูบหนึ่ง
กวาดหางอีกสองสามทีเป็นเชิงขู่ ก่อนปิดตาลงอย่างอ่อนล้า
นี่มันเสือนอนกินชัดๆ จู่ๆ อยากกิน ก็ได้กิน กินแล้วก็นอนอุตุทันทีอย่างน่าชิงชัง
แต่อาจเป็นการฟื้นคืนพลังของเขาซึ่งเธอไม่เข้าใจ จะไปว่าอะไรก็ไม่ได้อีก
หญิงสาวรู้สึกเย็นจนกลายเป็นหนาว สัมผัสได้ว่ามีไอหมอกโรยตัวอยู่รอบกาย
ดีว่าเธอยังอยู่ในชุดเต็มยศทั้งแจ็คเกตหนังและกางเกงยีนส์ เธอกอดตัวเอง
เหลียวมองไปรอบกาย เห็นแต่ป่ามืดสนิท แม้จะมองอะไรๆ และเดินในที่มืดได้ดีกว่า
คนปกติด้วยพลังตาที่สาม แต่มันก็ไม่เชิงว่าเป็นการมองด้วยสายตา เรียกว่าเป็น
สัมผัสรับรู้อีกส่วนที่ต่างออกไปจะถูกกว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าจะช่วยขับไล่
อันตรายซึ่งอาจมีมาให้พ้นไปได้
แล้วข้างๆ นี่ล่ะ เสือตัวนี้เป็นฆาตกร แต่เขาก็ช่วยมัชฌิตาให้พ้นมาจากชามัล
ซึ่งก็คงฆ่าเธอง่ายๆ อย่างไม่ต้องคิดอะไรหลังจากได้ทุกสิ่งที่ต้องการ
ข้าวของถูกไฟไหม้หมด มีติดตัวมาแค่โทรศัพท์มือถือซึ่งคงจะติดอยู่ไม่กี่วัน
จนพลังงานที่เหลืออยู่หมดไป คงไม่ต้องไปสนใจถึงเรื่องนั้น
เพราะไม่มีอะไรจะช่วยเธอได้นอกจากมุ่งต่อไปให้ถึงถ้ำ...โดยไม่มีแผนที่ในมือ
มีเพียงความทรงจำถึงมันซึ่งไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ เธอไม่รู้จักภูมิประเทศแถวนี้
มองทางไหนก็เห็นเหมือนๆ กันไปหมด จะฝากความหวังไว้ที่อัคนิวราแต่เพียงลำพัง
ก็เกินจะวางใจ
มัชฌิตารู้สึกง่วงและเพลีย นี่ถ้าหากว่าผู้ร้ายสองคนไม่ได้ทยอยกันบุกเข้ามา
เธอก็คงหลับสบายไปแล้ว ขนาดครึ่งคนครึ่งเสือตนนี้ยังนอนเอาแรง เธอเองก็
ต้องพักเหมือนกันไม่งั้นคงไม่มีแรงสู้ต่อไปในวันพรุ่งนี้
หญิงสาวค่อยๆ เอนนอนลงบ้าง โดนหนุนศีรษะไว้กับรากไม้ใหญ่ ทำไปทำมา
ก็ชักจะรู้สึกว่าแข็งเกินไปจึงย้ายมาหนุนแขนตัวเอง ลมหนาวแห่งป่าใหญ่
โชยมาเป็นระลอกไม่หยุดหย่อน หญิงสาวค่อยๆ กระเถิบเข้าไปใกล้เจ้าเสือหลับ
โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ก็ตัวใหญ่ขนาดนั้น แถมยังดูเรืองรองไปด้วยละอองไอ
แห่งชีวิตและความอุ่น จะคิดเสียว่าอัคนิวราคือไฟกองใหญ่แล้วกัน เธอแค่
อยากนอนใกล้ๆ ไฟเพื่อความอุ่นใจ จะไม่เข้าไปให้ใกล้เกินไปนัก
เพราะมันอาจไหม้ตนเองเข้า
ถึงแม้จะคิดอย่างนั้นแต่เมื่อเคลิ้มสู่ห้วงนิทราหญิงสาวก็ค่อยๆ เขยิบใกล้
แหล่งความอบอุ่นเข้าไปอีกระดับด้วยความหนาว อัคนิวรารู้สึกได้นานแล้ว
ทั้งที่ไม่อยากใส่ใจ พอหญิงสาวค่อยๆ เข้ามาใกล้จนแทบจะสัมผัสเขาอยู่แล้ว
เสือใหญ่จึงลืมเนตรอันเรื่อเรืองขึ้นในความมืด ถอนหายใจแรงอย่างขัดใจ
ทว่าร่างบางกลับรู้สึกได้รับสัมผัสแห่งความอบอุ่นมากยิ่งขึ้นจนถึงขั้น
กวาดแขนมากอดหมับเข้าที่ขาหน้าของพญาเสือแถมยังเอาหน้ามาซุก
นอกจากนั้นยังเบียดๆ กระแซะเข้ามากอดแน่นจนหนีไม่ได้
มัชฌิตาไม่รู้สึกอะไรนอกจากหนาว คล้ายๆ หลับไม่สนิท จนเมื่อคลำพบ
หมอนข้างที่มีขนฟูเหมือนตุ๊กตาแถมยังอุ่นดีเป็นอย่างยิ่ง หญิงสาวจึงยึดมันไว้แน่น
ทั้งกอดและหนุนนอนจนหลับสบายอยู่ในท่านั้นไปจนตลอดคืน
เช้าตรู่ เสียงนกร้องแว่วมาเข้าหูรบกวนเจ้าของร่างบางที่กำลังนอนหลับสบายให้ค่อยๆ
ลืมตาตื่น เธอเห็นว่าตนเองนอนอยู่ไม่ห่างจากกองไฟเล็กๆ ซึ่งถูกก่อขึ้น คงเป็นฝีมือ
ของใครไปไม่ได้นอกจากอัคนิวราในร่างคน ดูทำเข้าสิ ก่อนเธอจะตื่นเขาคงกำลัง
นั่งเท้าคางอยู่เงียบๆ แต่เมื่อหันมาสบตาของมัชฌิตาเข้าเท่านั้นพ่อครึ่งคนครึ่งเสือตัวดี
ก็ตีหน้าบึ้งอย่างคล้ายจะรำคาญ หันไปมองทางอื่น บ่นออกมาดังๆ
“ลุกได้หรือยัง นอนสบายนักนะ ทั้งที่เป็นเวลาเช่นนี้ ”
“ตัวเองชิงนอนก่อนยังมีหน้ามาพูด” มัชฌิตาบ่นตอบ ทำทีไม่สะทกสะท้านกับ
ดวงตาขวางๆ ซึ่งเขม้นมองมา
ในสายหมอกของยามเช้า เขาดูเหมือนมนุษย์ปกติมากๆ คงเป็นเพราะไม่อยากจะ
สำแดงฤทธิ์อะไรให้เปลืองพลัง มัชฌิตาแอบนินทาอยู่ในใจว่าถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือ
ตอนนี้ก็ต้องเรียกว่าเปิดเป็นแบบเซฟโหมดหรือประหยัดพลังงานเอาไว้ หากแต่
แสงเงินแสงทองที่ลอดผ่านใบไม้ลงมาก็ตกลงจับเส้นผมดำยาวเป็นประกายสวย
ถ้ารวมชุดผ้านุ่งหยักรั้งแบบโบราณที่อีกฝ่ายสวมใส่ ทั้งข้อแขนทองคำงามประณีต
กำไลทองคำที่สวมติดข้อเท้าเปล่าเปลือยข้างหนึ่ง ทำให้เขาดูเหมือนเทวดาผู้ท่องไป
ในไพรพฤกษ์ อ้อ ต้องเว้นไม่นับรวมลายเสือบนตัวแล้วก็ชายผ้านุ่งขาดๆ วิ่นๆ
แม้จะเป็นจุดที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้แต่ความสง่างามอย่างดุดันของเขาก็แลดู
คล้ายเป็นประหนึ่งเทพเทวะมากกว่าจะบอกว่าเป็นเสือสมิงซึ่งจำแลงมา
“มองไม่รู้จบ” ชายหนุ่มเปรยอย่างรำคาญ “ข้าคงดูประหลาดมากสิในสายตาของเจ้า”
มัชฌิตาเบะปาก เป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ได้สังเกตสีหน้าสีตาเธอยามมองเขา
ด้วยเหตุที่เจ้าตัวมัวเหล่เธอด้วยหางตาคล้ายว่าเบื่อและรำคาญ แถมยังเที่ยว
ตีความตามใจชอบว่าคนอื่นจะนิสัยเสียเหมือนกับตนเองอยู่ร่ำไป ดีแล้ว
อยากจะคิดแบบนั้นก็เชิญคิด
“คุณต้องช่วยฉันตามหาถ้ำแห่งนั้น แม้ว่าเราจะไม่มีแผนที่แล้ว”
“ข้าไม่สามารถไปยังที่ที่ข้าไม่รู้จัก หรือไม่มีสื่อนำ แถมเจ้าเองก็ไม่รู้ใช่ไหมล่ะ
ว่าสถานที่แห่งนั้นหน้าตาเป็นเช่นไร”
“ถ้าคุณมีตาที่สามมองเห็นได้มากกว่าฉันคุณก็ลองมองหาให้หน่อยสิ” มัชฌิตาเริ่มโบ้ย
“ชามัลเคยเอาแผนที่ออกมาให้ดูแล้วคาดคั้นถามข้า แต่เนื่องจากจุดบนนั้นร่างไว้
เป็นเพียงตำแหน่งสัญลักษณ์อันไร้รูปแบบซึ่งจะนำมาเทียบเคียงตามภูมิประเทศ
แถบนี้จริงๆ ไม่ได้ ดังนั้นต่อให้จำตำแหน่งของจุดได้ ก็ไปไม่ถูก”
มัชฌิตาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นี่ตาชามัลต้องแอบเอาแผนที่นั่นไปทำสำเนาไว้
ตอนไหนสักตอนแน่ๆ ! ” ทำเป็นตีหน้าซื่อว่าห่วงใย ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นมากขึ้นจริงๆ
“ไม่ใช่แค่เรื่องแผนที่ มันยังทำอีกหลายอย่างตอนเจ้าหลับ”
“อะไร” มัชฌิตาถามเสียงเขียว
“อย่าห่วง มันแตะต้องเจ้าไม่ได้หรอกถ้าหากว่าเจ้าไม่เต็มใจ”
“จริงหรือ” หญิงสาวเลิกคิ้ว
ถ้ามีเรื่องแบบนั้นจริงชามัลก็กลบเกลื่อนได้แนบเนียนจนเธอไม่เคยรู้สึกเลย
“ที่ถามนั่นดีใจหรือว่าเสียใจ ตอนเจ้าหลับไม่มีใครทำอะไรเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่เพราะ
พลอยแต่ข้าเห็นพลังของใครคนหนึ่งปกป้องเจ้าไว้...มีแต่ตัวเจ้าเองที่ทำตัวรบกวนผู้อื่น”
อัคนิวราส่งสายตาเบื่อๆ ไปให้อีกฝ่ายเมื่อย้อนนึกถึงตอนสตรีนางนี้นอนละเมอ
เห็นตนเป็นหมอนข้าง จะว่าสงสารก็ไม่ใช่ แต่ที่เขาพยายามอยู่เฉยๆ ก็เพราะว่า
ขี้เกียจขยับตัวหรือลุกขึ้นโวยวาย หมายรักษาพลังงานไว้ใช้ในวันนี้ต่างหากเล่า
“หรือว่าจะเป็นพลังของย่าที่คุ้มครองฉันอยู่”
“ช่างเถอะ พร้อมจะไปกันหรือยัง” อัคนิวราผินหน้ามามองมัชฌิตา
“ไปไหน”
“ไปหาถ้ำนั่นให้พบ เผื่อว่าอะไรที่เจอจะทำให้เราพร้อมเผชิญหน้ากับชามัล
เพื่อจะได้ชิงพลอยราชันนั้นมาได้สำเร็จ”
“เดินท่อมๆ ไปในป่าแบบนี้หรือ”
“เปล่า ขืนปล่อยให้คนง่อยเปลี้ยอย่างเจ้าเดินป่าชามัลคงตามมาถึงก่อน”
“ดูว่าเข้า...” มัชฌิตาพ่นลมหายใจออกอย่างโกรธๆ “แล้วจะไปกันยังไง
หรือคุณจะพาฉันลอยหวิวไปในอากาศอย่างเมื่อคืนอีก”
“ทำแบบนั้นนานๆ ไม่ได้ อีกอย่างเราต้องสำรวจป่า ไปอีกแบบจะสะดวกกว่า
ข้าจะให้เจ้าเกาะหลังไป”
“อะไรนะ” มัชฌิตาทำหน้าลำบากใจกับคำพูดของอีกฝ่ายทันทีเมื่อนึกภาพตนเอง
ถูกกระเตงขึ้นหลังเหมือนลูกลิง เทียบกับการอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วก็
น่ากระอักกระอ่วนใจไปคนละแบบ
“หมายถึงข้าจะอยู่ในร่างเสือ” อัคนิวราตอบเสียงระอา
หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ คนท่าทางหยิ่งผยองอย่างเขาคงไม่อยากใช้คำว่าให้ขี่หลัง
แต่ยังไงเธอก็คงจะได้ขี่เสือโคร่งท่องป่าก็คราวนี้ คงเป็นความทรงจำที่น่าตื่นเต้นไม่เบา
และจะได้เก็บกลับไปเล่าให้ยายมูนกับยายมีนน้องสาวทั้งสองฟัง ถ้าบังเอิญว่า
ยังมีโอกาสเอาชีวิตรอดกลับไปพบกันละก็
อัคนิวราพยายามทำเป็นมองไม่เห็นกับสีหน้าพึงพอใจของหญิงสาว
ชายหนุ่มค่อยๆ กลายร่างเป็นเสือโคร่งตัวยักษ์ ในบัดดลนั้นเอง
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=308925132490798&set=a.171895419527104.44042.170360283013951&type=1&theater
เอาภาพมาตัดต่อ(จาก sim ในเฟซบุค คนเขียนคลั่งมากกกก)
การ์ตูนรักวุ่นๆ ของชามัล มัชฌิตา และท่านอัคนิ
ผมอัคนิสีส้ม จะได้นึกถึงขนเสือกับตอนติดไฟ...
@ คุณ XaWard
อัคนิไม่มีวันยอมเชื่องค่ะ ไม่ว่าใครจะเป็นพระเอกก็ตาม ถ้าสู้ได้คงต้องสู้กันให้กระเจิงไปข้างละนะ
@ คุณ ameerahTaec
แต่คงได้เป็นพระเอกในหัวใจคนอ่านแน่แล้วมังคะ พ่อเสืออัคนิ ร้ายจริงๆ หุหุ
@ คุณ Neferretti
คนเขียนชอบคอมเม้นต์เพ้อๆน่ารักๆแบบนี้ค่ะ ทำอีกเยอะๆเลยนะ
เห็นคนอ่านมีแรงเม้นต์เยอะๆ แรงเขียน(เรื่องต่อไป)เราก็เยอะตาม
ชามัลดีใจอยู่นะคะที่โดนชมว่า “เกรียนและโฉด” ตอนนี้ร่ำๆอยากจะมอบจูบให้คุณเนเฟอแทนอัคนิแล้วเนี่ย
ปากของอัคนิจะว่าเสียความบริสุทธิ์กับพี่มิ้งค์ก็ไม่เชิง พี่มิ้งค์เองอย่างน้อยๆที่เห็นก็โดนชามัลจูบไปแล้วถึงจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็เหอะ ส่วนคุณเสือร้ายสมัยที่ยังมีชีวิตแม้จะไม่เรียกว่าเจ้าชู้ แต่คงห่างไกลกับคำว่าหนุ่มบริสุทธิ์เยอะเชียว ถ้าแค่จูบสาวนี่คงเพียบ... เพราะฮีก็ทั้งรูปงามและทรงอิทธิพล ถึงขนาดมีฐานะเป็น...(ยังไม่บอก^^ปล่อยให้จิ้นเอาเองค่ะ)
คนเขียนก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณเนเฟอจิ้นอะไรที่ว่าซัมติงไว้ อาจจะถูกก็ได้นะ...
@ คุณ silverraindrop
ชามัลคือ... อัคนิคือ... >_<
เรื่องข้อแม้ของการเป็นเจ้าของพลอยจะมีบอกไว้ทีหลังนะคะ มันค่อนข้างมีรายละเอียด เล่าทีเดียวจะไม่ได้เรื่อง ต้องรอเวลาเหมาะสมที่จะพูดออกไป แต่รับรองเคลียร์แน่นอน คนเขียนแทบไม่เคยลืมปมอะไรที่ตัวเองก่อไว้(คิดว่านะ)
@ คุณหมูอ้วน
แฟนคลับอัคนิอีกแล้ว สงสารชามารจังเลย ช่วยไม่ได้ ทำตัวเองนี่นะ...
@ คุณ SunSeed
คนนี้แฟนชามัลสินะคะ แต่แอบเคลิ้มกับอัคนิวราแบบนี้ได้ยังไง ชามารไม่พอใจแล้วนะ
@ คุณ goldensun
พระอาทิตย์สีทองชอบชื่อจริงๆค่ะ คนอ่านเรื่องนี้มีSunๆเยอะ เข้ากับคอนเซ็ปต์เมห์ฮรามากอยู่
ถ้ายังจำได้จะเห็นว่าอัคนิถูกชามัลปลุกขึ้นมาจากเม็ดพลอยราชัน ซึ่งพลอยราชันและราชินีแม้จะเคยเป็นเม็ดเดียวกัน แต่ก็แยกกันนานแล้ว อัคนิโดนขังเอาไว้หลังจากนั้น
หนูมิ้งค์ถ้ามีโอกาสก็จับพลอยราชันได้ค่ะ แต่ถ้าพยายามใช้นี่ก็น่าจะเจ็บตัวละ เพราะตอนนี้เธอยังไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง ...ส่วนชามัลจับพลอยราชินีไม่ได้ เพราะความโฉดรุนแรงจนพลอยต้องปกป้องเจ้าของอย่างหนูมิ้งค์(แถมยังมีย่าอมินตาแอบช่วยอีกแรง อมินตา เป็นชื่อยิปซี มาจากภาษาละติน ความหมายว่าผู้คุ้มครอง นามสกุลคุปตะจินดาคุณปู่ก็ตั้งให้พ้องกับชื่อย่า เอาใจภรรเมียซ้า...)
@ คุณ นางสาวกระป๋อง
นั่น... แหม ฟังดูเร้าใจนะคะให้พี่มิ้งค์จับอัคนิประกบปากป้อนพลัง ท่าจะต้องทำตามซะแล้ว พี่มิ้งค์ลุย !
@ คุณAuuuu
หุหุ อาการหนักแล้วคุณอุ๊ <3 อินเลิฟพ่อเสือหนุ่มอัคนิรับวาเลนไทน์เหรอคะ *-*
@ คุณ หยกสีน้ำผึ้ง
นั่น โผล่มาฉีกยิ้มจริงๆด้วย แปลว่าอยากโดนพี่เสืองับเบาๆ อัคนิงานหนัก...ต้องตระเวนไปหาทั้งคุณเนเฟอและคุณหนูหยกนะเนี่ย
@ คุณ wane
นั่นสิคะ อัคนิอยู่ใกล้ชามัลยิ่งต้องรวบรวมพลังต่อต้านมากอยู่
@ คุณ Canopus
คนเขียนอยากให้อาหารเสือหนุ่มแบบนี้เหมือนกัน อ๊ะ...พูดอะไรออกไป *///*
@ คุณ sunrise หายไปไหนน้า หุหุ รีบมาเชียร์ชามัลเร็วเข้าค่ะ *0*/
“อัคนิวรา ! ไปเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา แยกเธอออกมาจากพลอยเป็นอันดับแรก”
ชามัลหันไปตวาด
อัคนิวราตั้งใจจะยืนนิ่งไม่ไหวติง แต่ด้วยแรงบังคับจากพลอยราชันที่อยู่ใกล้เหลือเกินนั้น
ทำให้พญาพรายไม่อาจขัดขืน เห็นได้ว่าแม้เขาจะมีทีท่าคล้ายขืนตัวไว้เต็มกำลัง แต่สุดท้าย
ทั้งร่างยังลุกติดเป็นกลุ่มไฟโชนแสง พุ่งลงมายืนตระหง่านไม่ห่างจากมัชฌิตา ก่อนจะค่อยๆ
สืบเข้าใกล้ ยามนี้ดวงตาของเขาเริ่มลุกเรืองด้วยแสงของไฟขึ้นมาทีละน้อยๆ เดาไม่ถูกว่า
กำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าคุณให้ชีวิตฉัน ฉันก็จะให้ชีวิตคุณ” มัชฌิตาเอ่ยย้ำเสียงค่อย
อัคนิวราชะงัก ยังมิได้ตัดสินใจให้แน่ชัดลงไปว่าจะชิงพลอยราชินีมาไว้เองเมื่อมีโอกาส
และอยู่ห่างจากชามัลมากพอ หรืออีกทางคือร่วมมือกับหญิงสาว แต่เมื่ออยู่ใกล้ชามัล เมห์ฮรา
เช่นตอนนี้จะคิดอ่านประการใดให้เป็นตัวของตัวเองยังทำแทบไม่ได้ แต่เขาเพิ่งได้กินอาหาร
จนเต็มอิ่มคราวนี้อาจมีพลังมากพอที่ต่อต้าน...
“ข้าสั่งให้ลงมืออัคนิวรา !! ” น้ำเสียงของชามัลมีแววว่าเริ่มโกรธ
“ข้า...ไม่ต้องการรับคำสั่งจากใคร” สมิงแห่งพลอยตาเสือคำราม
“จำร่องรอยความเจ็บปวดที่ข้าฝากไว้บนใบหน้าเจ้าไม่ได้งั้นรึ”
อัคนิวราส่งเสียงออกมาคำหนึ่ง ก่อนร่างของเขาจะเรืองรองไปด้วยเส้นแสงแห่งไฟ
พุ่งปราดมาจับไหล่มัชฌิตาเอาไว้ทั้งสองข้างก่อนจะโจนขึ้นกลางอากาศโดยรวบร่าง
ของหญิงสาวไว้แนบกาย
ชามัลเห็นดังนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายได้รวบรวมกำลังที่จะขัดขืนอำนาจสั่งการของเขา
อยู่นานแล้วในขณะที่ทำทีเป็นยืนสงบ ชายหนุ่มหัวเราะลั่นอย่างแสนสมเพช เงื้อมือ
ไปข้างหลังเร็วยิ่งกว่าพริบตา พลันปรากฏแส้ไฟอันเรืองรนด้วยอำนาจ และในขณะที่
เหวี่ยงแขนกลับมาข้างหน้าแส้ในมือก็สะบัดยืดยาวไปจนรัดรอบลำคอของพยัคฆ์ร้าย
ในร่างบุรุษผู้กำลังโจนหนี
เปรี๊ยะ... !!!
สะเก็ดไฟปะทุอยู่ตรงหน้าจนมัชฌิตาต้องหลับตาเบือนหน้าหลบ เธอได้ยินเสียงคำราม
อย่างโกรธจัดจากเจ้าของอ้อมแขนอันรัดรึงไม่ปล่อยในขณะที่เขายังพุ่งสูงขึ้น ประสานไปกับ
เสียงตวาดให้หยุดของชามัล อัคนิวราดิ้นรนยื้อยุดรุนแรงจนในที่สุดก็รู้สึกว่าแส้ที่พันธนาการ
ขาดผึง พอลืมตาอีกครั้งมัชฌิตาก็ต้องสะดุ้ง พบว่าตนเองกำลังลอยผ่านยอดไม้หนาทึบ
ด้วยความเร็วจนป่าข้างล่างกลายเป็นเหมือนทะเลสีดำทะมึนในยามราตรีซึ่งเรือเร็วแล่นฉิว
ผ่านไป ในขณะเดียวกันคนที่โอบอุ้มเธออยู่ก็ยังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง สะเก็ดไฟแลบแปลบปลาบ
จากลำคอ
แส้ไฟของชามัลที่ไม่อาจต้านทานแรงกระชากจึงขาดหลุดออก แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่ยอมปล่อย
ยังคงรัดแน่นติดกับเป้าหมาย อัคนิวรามีสีหน้าทรมานจนมัชฌิตาร้อนใจว่าเขาอาจทนไม่ไหว
เธอกลัวตกก็กลัวจึงเกาะเขาแน่นเข้าเพื่อพยุงกาย ก่อนจะตะโกนแข่งกับเสียงลม
“ไหวไหมเนี่ย...”
“เงียบ! ข้าต้องใช้สมาธิ รีบไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุด เพราะยิ่งอยู่ใกล้ ข้ายิ่งอยู่ในรัศมีอำนาจจิตของชามัล”
“แต่ถึงไปไกลคุณก็คงไม่พ้นจากการควบคุมของเขาเสียทีเดียวหรอกใช่ไหม ไม่งั้นคงหนีนานแล้ว”
“ก็ยังทรมานน้อยกว่าอยู่ใกล้” อัคนิวรากัดฟันพูด
มัชฌิตาอยู่ชิดเขามากจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ไม่ใช่เสียงน่ากลัวดัง ตึกตึก อย่างที่เคยได้ยิน
ใกล้เข้ามาและคอยพาให้เธอหวาดหวั่น แต่ครั้งนี้เหมือนใกล้เคียงกับความเป็นมนุษย์มากขึ้น
หญิงสาวรู้สึกว่าร่างกายนี้มีความอบอุ่นจนร้อน เหงื่อของเขาไหลซึมเมื่อรู้สึกทุรนทุราย
อย่างที่กำลังเป็น แต่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือว่าปิศาจก็แปลกอยู่อย่างที่ผู้ชายคนนี้ไม่มีกลิ่นตัว
ไม่ว่าเขาจะมาในร่างไหน แม้จะพยายามหลับตาลงจับสัมผัส ประหนึ่งว่าตัวตนที่เห็น
เป็นมายาภาพอันสร้างขึ้นด้วยรูปจิต
มัชฌิตาไม่อาจแน่ใจ เพราะเธอไม่เคยพบกับวิญญาณที่ดูสมจริงถึงขนาดนี้
วนาลีนั้นยังนับว่าเทียบกันไม่ได้เพราะมัชฌิตาไม่ได้แตะต้องตัวอีกฝ่าย
กับบ้านของพิทักษ์ป่าซึ่งเธอเห็นก็เป็นภาพลวงตาของสิ่งซึ่งเคยมีอยู่จริง ณ ที่แห่งนั้น
แต่เขาผู้อยู่กับเธอตอนนี้คืออะไร มีตัวตนจับต้องได้เหมือนมนุษย์ มีบาดเจ็บ มีพลังอำนาจ
ที่จะแปรเป็นได้หลายสถานะ ทั้งยังดูเป็นสิ่งมีชีวิตมากเกินกว่าจะบอกว่าเป็นร่างจำแลง
ของอะไรบางอย่างซึ่งไม่มีเลือดเนื้อ
เอาเถอะนะ ยังไงเขาก็ช่วยเธอแม้จะเหมือนไม่เต็มใจ ดูคล้ายเพราะว่าน่าจะ
ได้ผลประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่อัคนิวราก็ยอมบาดเจ็บทุรนทุรายถึงเพียงนี้
เพราะมัชฌิตา หญิงสาวยังไม่รู้ว่าจะไว้ใจเขาได้แค่ไหน แต่ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า
น่าจะลองพูดดีๆ กับคนน่ากลัวคนนี้เป็นครั้งแรก “นี่ คุณ...เจ็บมากหรือเปล่าคะ”
“บอกให้เงียบ ! เดี๋ยวหักคอทิ้งเสียหรอก” เสียงคำรามด้วยความเดือดดาล แถมยัง
ไม่ใช่แค่นั้น มือซึ่งโอบขยุ้มรัดหญิงสาวไว้กับตัวออกแรงบีบลงในเนื้อจนเธอเจ็บแปลบ
ยังดีเขาไม่ได้กางเล็บออกมา คิดผิดจริงๆ ที่พูดดีกับชาติพยัคฆ์แบบนี้ พอเจ็บเข้าก็พาล
ขู่ฆ่าเสียอย่างนั้น ได้อย่างนี้ก็ดี ตกลงกันด้วยผลประโยชน์เข้าว่าอย่างเดียวก็แล้วกัน
รอให้ลงถึงพื้นก่อนเถอะ
พยัคฆ์ร้ายในร่างมนุษย์พาหญิงสาวในอ้อมแขนลงจอดอย่างไม่นุ่มนวลนัก
ทั้งสองร่างดิ่งลงยังผืนป่าอย่างที่ควรจะเรียกว่าเสียหลักตก เมื่ออัคนิวราทรุดลงบนพื้น
มัชฌิตาที่ถูกคร่อมทับก็ตะเกียกตะกายดันตัวให้พ้นมาจากใต้ตัวเขา แต่ยังไงก็ไม่ไวไปกว่า
มือที่เอื้อมมาดึงข้อขาเธอไว้ กระชากแรงให้ครูดพื้นกลับมา
“จะไปไหน”
เสียงตะคอกคำรามกร้าวดุดันจนหญิงสาวนึกกลัว แววตาของเขายามนี้เรืองโรจน์
คล้ายว่าเจ้าตัวได้กลับไปเป็นเหมือนในคืนอันน่าพรั่นพรึงซึ่งได้พบกันคราวแรก
คิดแล้วมัชฌิตาก็หนาวเยือก เธอเกือบจะลืมไป ชายคนนี้ฆ่าแม้แต่คนที่ไม่มีพิษมีภัย
อย่างลุงไผ่ผู้ต้องโชคร้ายเพียงเพราะมาขับรถให้เธอ
“ข้า...ต้อง กินเจ้า” อัคนิวราคำรามทีละคำ
“อะไรกัน ก็เพิ่งจะ... ! ” หญิงสาวพยายามสะบัดขาให้รอดพ้นมือเขา
“ข้าสูญเสียพลัง...” ชายหนุ่มกระชากโดยแรงอีกพรืดเดียวมัชฌิตาก็กลับมาอยู่ใต้ตัวเขาอีกครั้ง
หญิงสาวเบิกตากว้าง เขี้ยวขาวของอัคนิวรายามนี้ยิ่งยืดยาวลงมา ดวงหน้าของเขาบิดเบี้ยว
สั่นระริก คล้ายว่าทุกข์ทรมานจากปลายแส้ไฟที่ยังรัดแน่นติดคอ
ในขณะที่ไม่รู้จะทำเช่นไรนั้นเอง มัชฌิตาก็คิดว่าเธอน่าจะลองช่วยเขาให้หายคลั่ง
อะไรบางอย่างบอกหญิงสาวว่าเธอจะทำมันได้ มือเรียวๆ ยื่นไปแตะคอที่ถูกรัด
เจ้าตัวสะดุ้งนิดหนึ่งคล้ายไม่คาดคิด มัชฌิตาพยายามแกะแส้ไฟของชามัลออก
ค่อนข้างจะลำบาก แต่เธอสามารถจับมันได้โดยไม่เจ็บไม่ร้อนอย่างที่เขาเป็น
และเมื่อเส้นสายของแส้นั้นคลายออกมันก็ร่วงลงมาบนตัวหญิงสาว แสงไฟหรี่ดับ
ก่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหม”
“ยัง” อัคนิวราตอบด้วยสุ้มเสียงคำราม “แส้นี่ยังเบา เมื่อเทียบกับที่หลังของข้า”
“ไหนขอฉันดู” หญิงสาวใช้จังหวะนั้นผลักเขาออก ลุกขึ้นมองฝ่ายที่กำลังทรุดคุดคู้
แล้วก็อุทานออกมาเมื่อเห็นว่ากลางหลังของเสือร้ายในร่างคนมีด้ามมีดพับซึ่งทอแสง
เรืองอ่อนๆ เล่มหนึ่งปักคาอยู่ ไม่รอให้เสียเวลาเปล่า เธออ้อมไปด้านหลังเขา แตะด้ามมีด
อัคนิวรารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แม้จะเจ็บปวดแต่ก็กัดฟันอยู่เฉยให้ผู้หญิงอ่อนแอ
นางนี้ช่วยดึงมีดพิษสงร้ายกาจของชามัลออกให้ตน
มัชฌิตาพิจารณามีดพับด้ามเล็กซึ่งคล้ายด้ามทำจากทองเหลือง เป็นงานฝีมือ
ของแขกอินเดีย “ฉันจะเก็บมีดนี่ไว้กับตัว...” หญิงสาวเอ่ยเรียบๆ ทว่าเด็ดขาด
“อย่างเจ้าไม่มีปัญญาเอามันมาสะกิดถูกข้าแม้แต่ปลายก้อย” พญาพรายหันไปบอกเสียงต่ำ
“นั่นมันเป็นธุระของฉัน รอให้ถึงเวลาจริงๆ ก่อนก็แล้วกัน” เธอก็พูดอวดดีไปอย่างนั้น
เขาอาจจะพูดถูกที่ว่าเธอไม่มีวันย้ายมีดนี่ไปปักบนตัวหรือทำให้ระคายเนื้อเขาได้อย่างชามัล
ทว่ามัชฌิตาก็อุ่นใจที่จะเก็บมันไว้ หญิงสาวแอบย่นจมูก อีกฝ่ายไม่มีทีท่าสำนึกในบุญคุณ
เลยแม้แต่น้อย แต่ก็คงเสมอกันกับเธอนั่นแหละที่ไม่ได้ขอบคุณเรื่องเขาพาหนีมา
“ชามัลจะตามเรามาถูกไหม” มัชฌิตาถามอย่างกังวล แต่ก่อนฝ่ายนั้นมักจะตามเธอมา
ถูกเสมอ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเขารู้ตำแหน่งได้ด้วยตนเองหรือสมุนผู้ทรงอำนาจร้าย
ผู้นี้กันแน่ช่วยชี้ทาง
“มันรู้แน่ว่าเราอยู่ที่ไหน ชายผู้นั้นมีดวงตาแห่งการมองเห็นที่ไม่เป็นรองใคร
ถึงจะต้องเดินทางด้วยวิธีเยี่ยงมนุษย์ก็จริง แต่ไม่ช้าก็คงตามมาถึง”
มัชฌิตาขมวดคิ้ว เธอคงไม่คิดจะบอกให้อัคนิวราพาตนเองหนีไปเรื่อยๆ
เพราะถ้าทำแบบนั้นจะหาทางชิงพลอยตาเสือมาจากชามัลได้ยังไง ที่รันทดยิ่งกว่า
ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนถูกต้อนให้จนมุม จากรั้นพยายามจะต่อสู้กับสิ่งที่มีอำนาจเกินกำลัง
ยังไม่ทันไปได้ถึงไหนทุกอย่างก็มาส่อแววคล้ายจะพังไม่เป็นท่า
“จบกัน ไม่มีแผนที่แล้ว ไม่เหลือสักอย่าง ทั้งรถ ทั้งของที่เตรียมมาผจญเวรผจญกรรม
ทั้งคนที่คิดว่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ สุดท้ายก็เป็นศัตรู...”
หญิงสาวรู้สึกขำปนสมเพชตัวเองเมื่อคิดถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อชามัล
อ่อนไหวอย่างน่าเวทนา ใครๆ ว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งแต่แท้จริงแล้วก็ทำไปอย่างนั้น
เธอแค่ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้มาเห็นความอ่อนแอ ทั้งความเจ้าอารมณ์ ใจร้อน
ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้คนที่น่าจะเข้มแข็งได้สมใจตัวเองและใครๆ กลับกลายเป็นคน
เปราะบางคนหนึ่ง แม้พยายามซ่อนสิ่งนั้นไว้ลึกๆ อยู่เสมอ แต่เวลานี้ไม่มีอะไรต้องสนใจ
คนที่อยู่ตรงหน้านี้ก็ไม่ใช่คนด้วยซ้ำ เป็นแค่สัตว์ร้ายที่ทำอะไรตามสัญชาตญาณ
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย เมื่อครู่เขาช่วยเธอ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะ
หันมาบีบคอฆ่า
“เจ้ามีใจกับผู้ชายคนนั้น...” อัคนิวราเปรยด้วยน้ำเสียงกึ่งดูถูก
“เปล่านี่ ไม่สักนิดเลย”
มัชฌิตาถอนใจแรงๆ เธอคงปิดบังเขาไม่ได้ หญิงสาวเริ่มปล่อยให้น้ำตาแห่งความ
สมเพชตนเองหยดเผาะๆ ลงมาโดยแทบไม่ส่งเสียง เมื่อเห็นผู้ชายคนตรงหน้ามองมา
อย่างหงุดหงิดระคนสมเพชในที่สุดเธอจึงเบือนหน้าหันหนีไปซ่อนเสียทางอื่น
อัคนิวราค่อยๆ ทรงตัวยืน รู้สึกดีขึ้นมากเมื่อไม่มีชิ้นส่วนจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนาย
ติดอยู่กับตัว แม้จะสัมผัสได้ถึงกระแสพลังปั่นป่วนแรงกล้าที่เรียกร้องให้กลับไป
กลับไปยังพลอยราชันเม็ดนั้น ทว่าเขาพยายามขืนไว้สุดกำลัง และตอนนี้ก็ไม่รู้จะ
ทำเช่นไรกับเหยื่อซึ่งมีท่าทีผิดประหลาด พญาพรายขมวดคิ้วกับตนเองอย่างสงสัย
ผู้หญิงคนนี้แสดงความอ่อนแอเป็นด้วย ถึงปกติจะไม่ได้ดูแข็งแกร่งอะไรนัก
แต่ก็พยายามจะทำตัวเป็นเม่นขนแข็งกินยากอยู่ตลอดเวลา หากไม่ชอบใจก็ควรจะ
ร้องโวยวายแล้วก็ทำตาลุกวาวเหมือนลูกแมวไม่เชื่องแบบที่เคยทำมากกว่า
“ร้องไห้เสียน้ำตา ต้องใช้อารมณ์และพลังปราณชีวิตเป็นอย่างมาก ถ้าจะใช้มัน
กับเรื่องไม่จำเป็นเช่นนี้ก็น่าเสียดาย แบบนั้นสู้เอามาให้ข้ากินเสียดีกว่า ! ”
มัชฌิตาซึ่งถูกจับคางให้หันหาไปหาดื้อๆ เงยมองคนพูดอย่างโกรธๆ แต่เขาก็ไม่สนใจ
ความรู้สึกของเธอสักนิดเลย เห็นเธอเป็นอาหาร แล้วก็ยื่นอีกมือมารั้งแขน ตั้งท่าว่าจะ
ทำอย่างที่พูดจริงๆ
“ในเวลาแบบนี้ยังจะมีหน้ามา...” หญิงสาวหลับตา มือไม้พยายามทุบทำร้ายเขา
อย่างเต็มความสามารถ แต่ไม่ทราบว่าทำไมแต่อ้อมแขนของพยัคฆ์ร้ายในยามนี้
กลับอ่อนโยนลงกว่าที่เคย มัชฌิตาไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเอง หรือเสือร้ายตรงหน้า
กำลังพยายามปลอบเธอด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจมาเสียจากการร้องไห้กันแน่
ไม่มีทางที่เขาจะใจดีถึงขนาดนั้นหรอก
ช่วงเวลาที่เธอไม่เต็มใจนั้นแสนจะยาวนาน แต่ร่างบางก็รู้สึกว่าต้องยอมเขาจนได้
อีกฝ่ายมีท่าทางจะเป็นจะตายถึงขนาดนั้น ถ้าเธอไม่ให้เขาได้ไอ้พลังปราณอะไรที่ว่า
ไม่แน่ก็อาจไม่รอดกันทั้งสองคน ผ่านไปนานเท่านานหญิงสาวจึงได้สติ เงยแหงนหลบ
เป็นสัญญาณบอกว่าพอได้แล้ว ก่อนจะเอ่ยไล่ “ทีนี้ก็ช่วยออกไปห่างๆ เสียที”
เร็วทันใจ ผู้ที่เคยทำเหมือนหิวกระหายเธอเสียเต็มประดาผลักมัชฌิตาออกด้วยกิริยา
กระด้างจนหญิงสาวต้องนึกเจ็บใจอีกครั้ง คนบ้าแบบนี้ก็มีด้วย หุนหันพลันแล่น
ดุดันเหมือนไม่ใช่คนแต่เป็นสัตว์ร้าย ก็สมควรแล้วที่ต้องอยู่ในร่างเสือแบบนั้น
แม้ตอนนี้จะเห็นว่าเป็นคน แต่แท้จริงแล้วเนื้อในเป็นตัวอะไรก็ยังไม่รู้เลย
“ข้าอยากพัก” อัคนิวราพูดห้วนๆ มัชฌิตาใจเต้นแรงเมื่อเห็นร่างสูงที่หมอบลงช้าๆ
ค่อยๆ กลายเป็นเสือไป ก่อนหลับตายังมีหน้าเหล่มองมาทางเธอแบบไม่ใคร่จะไว้ใจวูบหนึ่ง
กวาดหางอีกสองสามทีเป็นเชิงขู่ ก่อนปิดตาลงอย่างอ่อนล้า
นี่มันเสือนอนกินชัดๆ จู่ๆ อยากกิน ก็ได้กิน กินแล้วก็นอนอุตุทันทีอย่างน่าชิงชัง
แต่อาจเป็นการฟื้นคืนพลังของเขาซึ่งเธอไม่เข้าใจ จะไปว่าอะไรก็ไม่ได้อีก
หญิงสาวรู้สึกเย็นจนกลายเป็นหนาว สัมผัสได้ว่ามีไอหมอกโรยตัวอยู่รอบกาย
ดีว่าเธอยังอยู่ในชุดเต็มยศทั้งแจ็คเกตหนังและกางเกงยีนส์ เธอกอดตัวเอง
เหลียวมองไปรอบกาย เห็นแต่ป่ามืดสนิท แม้จะมองอะไรๆ และเดินในที่มืดได้ดีกว่า
คนปกติด้วยพลังตาที่สาม แต่มันก็ไม่เชิงว่าเป็นการมองด้วยสายตา เรียกว่าเป็น
สัมผัสรับรู้อีกส่วนที่ต่างออกไปจะถูกกว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าจะช่วยขับไล่
อันตรายซึ่งอาจมีมาให้พ้นไปได้
แล้วข้างๆ นี่ล่ะ เสือตัวนี้เป็นฆาตกร แต่เขาก็ช่วยมัชฌิตาให้พ้นมาจากชามัล
ซึ่งก็คงฆ่าเธอง่ายๆ อย่างไม่ต้องคิดอะไรหลังจากได้ทุกสิ่งที่ต้องการ
ข้าวของถูกไฟไหม้หมด มีติดตัวมาแค่โทรศัพท์มือถือซึ่งคงจะติดอยู่ไม่กี่วัน
จนพลังงานที่เหลืออยู่หมดไป คงไม่ต้องไปสนใจถึงเรื่องนั้น
เพราะไม่มีอะไรจะช่วยเธอได้นอกจากมุ่งต่อไปให้ถึงถ้ำ...โดยไม่มีแผนที่ในมือ
มีเพียงความทรงจำถึงมันซึ่งไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ เธอไม่รู้จักภูมิประเทศแถวนี้
มองทางไหนก็เห็นเหมือนๆ กันไปหมด จะฝากความหวังไว้ที่อัคนิวราแต่เพียงลำพัง
ก็เกินจะวางใจ
มัชฌิตารู้สึกง่วงและเพลีย นี่ถ้าหากว่าผู้ร้ายสองคนไม่ได้ทยอยกันบุกเข้ามา
เธอก็คงหลับสบายไปแล้ว ขนาดครึ่งคนครึ่งเสือตนนี้ยังนอนเอาแรง เธอเองก็
ต้องพักเหมือนกันไม่งั้นคงไม่มีแรงสู้ต่อไปในวันพรุ่งนี้
หญิงสาวค่อยๆ เอนนอนลงบ้าง โดนหนุนศีรษะไว้กับรากไม้ใหญ่ ทำไปทำมา
ก็ชักจะรู้สึกว่าแข็งเกินไปจึงย้ายมาหนุนแขนตัวเอง ลมหนาวแห่งป่าใหญ่
โชยมาเป็นระลอกไม่หยุดหย่อน หญิงสาวค่อยๆ กระเถิบเข้าไปใกล้เจ้าเสือหลับ
โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ก็ตัวใหญ่ขนาดนั้น แถมยังดูเรืองรองไปด้วยละอองไอ
แห่งชีวิตและความอุ่น จะคิดเสียว่าอัคนิวราคือไฟกองใหญ่แล้วกัน เธอแค่
อยากนอนใกล้ๆ ไฟเพื่อความอุ่นใจ จะไม่เข้าไปให้ใกล้เกินไปนัก
เพราะมันอาจไหม้ตนเองเข้า
ถึงแม้จะคิดอย่างนั้นแต่เมื่อเคลิ้มสู่ห้วงนิทราหญิงสาวก็ค่อยๆ เขยิบใกล้
แหล่งความอบอุ่นเข้าไปอีกระดับด้วยความหนาว อัคนิวรารู้สึกได้นานแล้ว
ทั้งที่ไม่อยากใส่ใจ พอหญิงสาวค่อยๆ เข้ามาใกล้จนแทบจะสัมผัสเขาอยู่แล้ว
เสือใหญ่จึงลืมเนตรอันเรื่อเรืองขึ้นในความมืด ถอนหายใจแรงอย่างขัดใจ
ทว่าร่างบางกลับรู้สึกได้รับสัมผัสแห่งความอบอุ่นมากยิ่งขึ้นจนถึงขั้น
กวาดแขนมากอดหมับเข้าที่ขาหน้าของพญาเสือแถมยังเอาหน้ามาซุก
นอกจากนั้นยังเบียดๆ กระแซะเข้ามากอดแน่นจนหนีไม่ได้
มัชฌิตาไม่รู้สึกอะไรนอกจากหนาว คล้ายๆ หลับไม่สนิท จนเมื่อคลำพบ
หมอนข้างที่มีขนฟูเหมือนตุ๊กตาแถมยังอุ่นดีเป็นอย่างยิ่ง หญิงสาวจึงยึดมันไว้แน่น
ทั้งกอดและหนุนนอนจนหลับสบายอยู่ในท่านั้นไปจนตลอดคืน
เช้าตรู่ เสียงนกร้องแว่วมาเข้าหูรบกวนเจ้าของร่างบางที่กำลังนอนหลับสบายให้ค่อยๆ
ลืมตาตื่น เธอเห็นว่าตนเองนอนอยู่ไม่ห่างจากกองไฟเล็กๆ ซึ่งถูกก่อขึ้น คงเป็นฝีมือ
ของใครไปไม่ได้นอกจากอัคนิวราในร่างคน ดูทำเข้าสิ ก่อนเธอจะตื่นเขาคงกำลัง
นั่งเท้าคางอยู่เงียบๆ แต่เมื่อหันมาสบตาของมัชฌิตาเข้าเท่านั้นพ่อครึ่งคนครึ่งเสือตัวดี
ก็ตีหน้าบึ้งอย่างคล้ายจะรำคาญ หันไปมองทางอื่น บ่นออกมาดังๆ
“ลุกได้หรือยัง นอนสบายนักนะ ทั้งที่เป็นเวลาเช่นนี้ ”
“ตัวเองชิงนอนก่อนยังมีหน้ามาพูด” มัชฌิตาบ่นตอบ ทำทีไม่สะทกสะท้านกับ
ดวงตาขวางๆ ซึ่งเขม้นมองมา
ในสายหมอกของยามเช้า เขาดูเหมือนมนุษย์ปกติมากๆ คงเป็นเพราะไม่อยากจะ
สำแดงฤทธิ์อะไรให้เปลืองพลัง มัชฌิตาแอบนินทาอยู่ในใจว่าถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือ
ตอนนี้ก็ต้องเรียกว่าเปิดเป็นแบบเซฟโหมดหรือประหยัดพลังงานเอาไว้ หากแต่
แสงเงินแสงทองที่ลอดผ่านใบไม้ลงมาก็ตกลงจับเส้นผมดำยาวเป็นประกายสวย
ถ้ารวมชุดผ้านุ่งหยักรั้งแบบโบราณที่อีกฝ่ายสวมใส่ ทั้งข้อแขนทองคำงามประณีต
กำไลทองคำที่สวมติดข้อเท้าเปล่าเปลือยข้างหนึ่ง ทำให้เขาดูเหมือนเทวดาผู้ท่องไป
ในไพรพฤกษ์ อ้อ ต้องเว้นไม่นับรวมลายเสือบนตัวแล้วก็ชายผ้านุ่งขาดๆ วิ่นๆ
แม้จะเป็นจุดที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้แต่ความสง่างามอย่างดุดันของเขาก็แลดู
คล้ายเป็นประหนึ่งเทพเทวะมากกว่าจะบอกว่าเป็นเสือสมิงซึ่งจำแลงมา
“มองไม่รู้จบ” ชายหนุ่มเปรยอย่างรำคาญ “ข้าคงดูประหลาดมากสิในสายตาของเจ้า”
มัชฌิตาเบะปาก เป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ได้สังเกตสีหน้าสีตาเธอยามมองเขา
ด้วยเหตุที่เจ้าตัวมัวเหล่เธอด้วยหางตาคล้ายว่าเบื่อและรำคาญ แถมยังเที่ยว
ตีความตามใจชอบว่าคนอื่นจะนิสัยเสียเหมือนกับตนเองอยู่ร่ำไป ดีแล้ว
อยากจะคิดแบบนั้นก็เชิญคิด
“คุณต้องช่วยฉันตามหาถ้ำแห่งนั้น แม้ว่าเราจะไม่มีแผนที่แล้ว”
“ข้าไม่สามารถไปยังที่ที่ข้าไม่รู้จัก หรือไม่มีสื่อนำ แถมเจ้าเองก็ไม่รู้ใช่ไหมล่ะ
ว่าสถานที่แห่งนั้นหน้าตาเป็นเช่นไร”
“ถ้าคุณมีตาที่สามมองเห็นได้มากกว่าฉันคุณก็ลองมองหาให้หน่อยสิ” มัชฌิตาเริ่มโบ้ย
“ชามัลเคยเอาแผนที่ออกมาให้ดูแล้วคาดคั้นถามข้า แต่เนื่องจากจุดบนนั้นร่างไว้
เป็นเพียงตำแหน่งสัญลักษณ์อันไร้รูปแบบซึ่งจะนำมาเทียบเคียงตามภูมิประเทศ
แถบนี้จริงๆ ไม่ได้ ดังนั้นต่อให้จำตำแหน่งของจุดได้ ก็ไปไม่ถูก”
มัชฌิตาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นี่ตาชามัลต้องแอบเอาแผนที่นั่นไปทำสำเนาไว้
ตอนไหนสักตอนแน่ๆ ! ” ทำเป็นตีหน้าซื่อว่าห่วงใย ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นมากขึ้นจริงๆ
“ไม่ใช่แค่เรื่องแผนที่ มันยังทำอีกหลายอย่างตอนเจ้าหลับ”
“อะไร” มัชฌิตาถามเสียงเขียว
“อย่าห่วง มันแตะต้องเจ้าไม่ได้หรอกถ้าหากว่าเจ้าไม่เต็มใจ”
“จริงหรือ” หญิงสาวเลิกคิ้ว
ถ้ามีเรื่องแบบนั้นจริงชามัลก็กลบเกลื่อนได้แนบเนียนจนเธอไม่เคยรู้สึกเลย
“ที่ถามนั่นดีใจหรือว่าเสียใจ ตอนเจ้าหลับไม่มีใครทำอะไรเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่เพราะ
พลอยแต่ข้าเห็นพลังของใครคนหนึ่งปกป้องเจ้าไว้...มีแต่ตัวเจ้าเองที่ทำตัวรบกวนผู้อื่น”
อัคนิวราส่งสายตาเบื่อๆ ไปให้อีกฝ่ายเมื่อย้อนนึกถึงตอนสตรีนางนี้นอนละเมอ
เห็นตนเป็นหมอนข้าง จะว่าสงสารก็ไม่ใช่ แต่ที่เขาพยายามอยู่เฉยๆ ก็เพราะว่า
ขี้เกียจขยับตัวหรือลุกขึ้นโวยวาย หมายรักษาพลังงานไว้ใช้ในวันนี้ต่างหากเล่า
“หรือว่าจะเป็นพลังของย่าที่คุ้มครองฉันอยู่”
“ช่างเถอะ พร้อมจะไปกันหรือยัง” อัคนิวราผินหน้ามามองมัชฌิตา
“ไปไหน”
“ไปหาถ้ำนั่นให้พบ เผื่อว่าอะไรที่เจอจะทำให้เราพร้อมเผชิญหน้ากับชามัล
เพื่อจะได้ชิงพลอยราชันนั้นมาได้สำเร็จ”
“เดินท่อมๆ ไปในป่าแบบนี้หรือ”
“เปล่า ขืนปล่อยให้คนง่อยเปลี้ยอย่างเจ้าเดินป่าชามัลคงตามมาถึงก่อน”
“ดูว่าเข้า...” มัชฌิตาพ่นลมหายใจออกอย่างโกรธๆ “แล้วจะไปกันยังไง
หรือคุณจะพาฉันลอยหวิวไปในอากาศอย่างเมื่อคืนอีก”
“ทำแบบนั้นนานๆ ไม่ได้ อีกอย่างเราต้องสำรวจป่า ไปอีกแบบจะสะดวกกว่า
ข้าจะให้เจ้าเกาะหลังไป”
“อะไรนะ” มัชฌิตาทำหน้าลำบากใจกับคำพูดของอีกฝ่ายทันทีเมื่อนึกภาพตนเอง
ถูกกระเตงขึ้นหลังเหมือนลูกลิง เทียบกับการอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วก็
น่ากระอักกระอ่วนใจไปคนละแบบ
“หมายถึงข้าจะอยู่ในร่างเสือ” อัคนิวราตอบเสียงระอา
หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ คนท่าทางหยิ่งผยองอย่างเขาคงไม่อยากใช้คำว่าให้ขี่หลัง
แต่ยังไงเธอก็คงจะได้ขี่เสือโคร่งท่องป่าก็คราวนี้ คงเป็นความทรงจำที่น่าตื่นเต้นไม่เบา
และจะได้เก็บกลับไปเล่าให้ยายมูนกับยายมีนน้องสาวทั้งสองฟัง ถ้าบังเอิญว่า
ยังมีโอกาสเอาชีวิตรอดกลับไปพบกันละก็
อัคนิวราพยายามทำเป็นมองไม่เห็นกับสีหน้าพึงพอใจของหญิงสาว
ชายหนุ่มค่อยๆ กลายร่างเป็นเสือโคร่งตัวยักษ์ ในบัดดลนั้นเอง
อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.พ. 2555, 14:19:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.พ. 2555, 23:18:51 น.
จำนวนการเข้าชม : 3021
<< บทที่ 7 สัญญาแลกชีวิต (ตอนแรก) | บทที่ 7 สัญญาแลกชีวิต (ต่อ-จบบท) >> |
SunSeed 13 ก.พ. 2555, 15:28:18 น.
ยัยมิ๊งค์เอ๊ย จะอดใจไม่หวั่นไหวกับพ่อเสือโคร่งขี้โมโหได้มั๊ยเนี่ย อีตาชามารจะตกกระป๋องอยู่แล้วน๊า งือๆๆๆๆ
ยัยมิ๊งค์เอ๊ย จะอดใจไม่หวั่นไหวกับพ่อเสือโคร่งขี้โมโหได้มั๊ยเนี่ย อีตาชามารจะตกกระป๋องอยู่แล้วน๊า งือๆๆๆๆ
silverraindrop 13 ก.พ. 2555, 15:47:13 น.
ว้าว ว้าว เริ่งจะทราบแล้ว ใครพระเอก ใครตัวร้าย ... แล้วจะมีฉากหวานมาคั่นบ้างไหมน็า...อ๊ายยยย ลุ้น ลุ้น ลุ้น มาก มาก คร้า
ว้าว ว้าว เริ่งจะทราบแล้ว ใครพระเอก ใครตัวร้าย ... แล้วจะมีฉากหวานมาคั่นบ้างไหมน็า...อ๊ายยยย ลุ้น ลุ้น ลุ้น มาก มาก คร้า
ปรางขวัญ 13 ก.พ. 2555, 16:22:42 น.
นาทีนี้ใครจะเป็นพระเอก ตัวร้าย หรืออะไรไม่สนทั้งนั้น รู้แต่ว่าชอบอัคนิมากๆ
ขอเอามานอนกอดน่าจะนุ่มสบาย @^^@
นาทีนี้ใครจะเป็นพระเอก ตัวร้าย หรืออะไรไม่สนทั้งนั้น รู้แต่ว่าชอบอัคนิมากๆ
ขอเอามานอนกอดน่าจะนุ่มสบาย @^^@
อสิตา 13 ก.พ. 2555, 18:15:23 น.
^^ เสือหนุ่มที่นุ่มฟู
^^ เสือหนุ่มที่นุ่มฟู
sunrise 13 ก.พ. 2555, 19:28:55 น.
ชามัลแย่แล้วล่ะ ปล่อยหนูมิ้งค์ไปกะเจ้าเสือโคร่ง ท่าจะตามคืนยากอยู่นะเนี่ย
ชามัลแย่แล้วล่ะ ปล่อยหนูมิ้งค์ไปกะเจ้าเสือโคร่ง ท่าจะตามคืนยากอยู่นะเนี่ย
Zephyr 13 ก.พ. 2555, 19:35:17 น.
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พี่มิ้งค์ เนียนนอนกอดตุ๊กตาอัคน้อย อุ่นมั้ย นุ่มอีก ฟูด้วย หลับสบายเลย งือๆๆๆๆๆ อิจฉาๆๆๆๆๆๆ เค้าอยากกอดบ้างอ่าาา แถมยังจะได้ขี่หลังอีก กรี๊ดดดดดดดดดดดด จะแนบเนื้อมากไปแล้วเฟ้ยยยย เวลาปลอบของอัคน้อย ยังแบบ เท่ได้อีก หงุดหงิด หิว เป็นจับประกบ...xxqascdcd@#!!!! เสือนอนกิน ฮ่าๆๆๆๆ อย่างฮาาาาา ดูท่าอัคน้อยถนัดอยู่ในร่างเสือมากกว่านะเนี่ย แต่นะ เราชอบร่างคน!!!!
....สองตาตอนนี้ไม่แลใครนอกจากอัคน้อยคนเดียว!!!!!
ตาชามัลจะมาจุ๊บเค้าเหรอ ม่ายยยยยย ปากเค้ามีเจ้าของแล้ว คราวที่แล้วตัวยังจะเอาแส้ฟาดเค้าอยู่เลย เฮอะ งอน
ปล. เค้าทำช็อกวาเลนไทน์ให้นะ ^^ คุณอสิตาส่งอัคน้อยมาเอาด้วยนะคะ มาในร่างคนนะ อย่าลืมล่ะ แล้วมาเป็นตุ๊กตาเสือให้นอนกอดซะดีๆ เป็นค่าเหนื่อย หึหึ
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พี่มิ้งค์ เนียนนอนกอดตุ๊กตาอัคน้อย อุ่นมั้ย นุ่มอีก ฟูด้วย หลับสบายเลย งือๆๆๆๆๆ อิจฉาๆๆๆๆๆๆ เค้าอยากกอดบ้างอ่าาา แถมยังจะได้ขี่หลังอีก กรี๊ดดดดดดดดดดดด จะแนบเนื้อมากไปแล้วเฟ้ยยยย เวลาปลอบของอัคน้อย ยังแบบ เท่ได้อีก หงุดหงิด หิว เป็นจับประกบ...xxqascdcd@#!!!! เสือนอนกิน ฮ่าๆๆๆๆ อย่างฮาาาาา ดูท่าอัคน้อยถนัดอยู่ในร่างเสือมากกว่านะเนี่ย แต่นะ เราชอบร่างคน!!!!
....สองตาตอนนี้ไม่แลใครนอกจากอัคน้อยคนเดียว!!!!!
ตาชามัลจะมาจุ๊บเค้าเหรอ ม่ายยยยยย ปากเค้ามีเจ้าของแล้ว คราวที่แล้วตัวยังจะเอาแส้ฟาดเค้าอยู่เลย เฮอะ งอน
ปล. เค้าทำช็อกวาเลนไทน์ให้นะ ^^ คุณอสิตาส่งอัคน้อยมาเอาด้วยนะคะ มาในร่างคนนะ อย่าลืมล่ะ แล้วมาเป็นตุ๊กตาเสือให้นอนกอดซะดีๆ เป็นค่าเหนื่อย หึหึ
Zephyr 13 ก.พ. 2555, 19:47:58 น.
...เหมือนสองเราจะได้ไปเดตในพงไพรเลยนะ ขี่เสือชมป่า
คุณอสิตาสนใจเปิดทริปมั้ยคะ เสียค่านั่งหลังเสือ(สมิง)
ฮ่าๆๆๆ เอาอัคน้อยมาหากินซะงั้น (อย่าบอกอัคน้อยนะ)
เค้าล้อเล่นๆๆๆๆ นะ อัคน้อย อย่าๆๆๆ อย่าเพิ่งตาลุก อย่าเพิ่งไฟลุก ดับไปก๊อนนนนนนนน อ๊ายยยยยยยยย อย่ามากางกงเล็บใส่นะ เค้ากลัววววว(แต่ถ้ามาเมื่อไรเค้าไม่ปล่อยกลับไปเข้าฉากนะเออ ยอมจ่ายค่าตัวเหมายาวเลย หึหึ ^^)
...เหมือนสองเราจะได้ไปเดตในพงไพรเลยนะ ขี่เสือชมป่า
คุณอสิตาสนใจเปิดทริปมั้ยคะ เสียค่านั่งหลังเสือ(สมิง)
ฮ่าๆๆๆ เอาอัคน้อยมาหากินซะงั้น (อย่าบอกอัคน้อยนะ)
เค้าล้อเล่นๆๆๆๆ นะ อัคน้อย อย่าๆๆๆ อย่าเพิ่งตาลุก อย่าเพิ่งไฟลุก ดับไปก๊อนนนนนนนน อ๊ายยยยยยยยย อย่ามากางกงเล็บใส่นะ เค้ากลัววววว(แต่ถ้ามาเมื่อไรเค้าไม่ปล่อยกลับไปเข้าฉากนะเออ ยอมจ่ายค่าตัวเหมายาวเลย หึหึ ^^)
อสิตา 13 ก.พ. 2555, 19:53:47 น.
กึ่กๆๆ สั่นเทา...ให้คนเขียนหากินกับอัคนิเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอารูปsim ชามัล อัคนิ กับมัชฌิตาจากไอดีเฟซบุคมาอวดรับวาเลนไทน์ดีกว่า อิอิ
ชอบคุณที่แนะนำค่าคุณเนเฟอฯ พรุ่งนี้จะเปิดประมูลอัคนิเลย*0*/ (ถ้ามีลูกชายแบบนี้จริงๆจะจับไปขายซะให้เข็ด)
กึ่กๆๆ สั่นเทา...ให้คนเขียนหากินกับอัคนิเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอารูปsim ชามัล อัคนิ กับมัชฌิตาจากไอดีเฟซบุคมาอวดรับวาเลนไทน์ดีกว่า อิอิ
ชอบคุณที่แนะนำค่าคุณเนเฟอฯ พรุ่งนี้จะเปิดประมูลอัคนิเลย*0*/ (ถ้ามีลูกชายแบบนี้จริงๆจะจับไปขายซะให้เข็ด)
Zephyr 13 ก.พ. 2555, 20:18:48 น.
ประมูล!!!!!! เค้าทุ่มสุดตัวววววววววววววววววว ^^
จา เอา อัคน้อยมานอน กอด ให้ได้ หึหึหึ
ประมูล!!!!!! เค้าทุ่มสุดตัวววววววววววววววววว ^^
จา เอา อัคน้อยมานอน กอด ให้ได้ หึหึหึ
Auuuu 13 ก.พ. 2555, 20:51:53 น.
เก๋มากกกกก ขี่เสือท่องป่า วู้ฮู
เราไม่ชอบชามัลละ ชอบอัคนิดีกว่า
ชามัลนิสัยไม่ดี ชิชิ
แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์ นะคะไรเตอร์ ^^
เก๋มากกกกก ขี่เสือท่องป่า วู้ฮู
เราไม่ชอบชามัลละ ชอบอัคนิดีกว่า
ชามัลนิสัยไม่ดี ชิชิ
แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์ นะคะไรเตอร์ ^^
Pat 13 ก.พ. 2555, 21:58:53 น.
^_^¦¦¦ พี่มิ้งค์ทำเนียนแอบนอนกอดอัคนิน้อยซะงั้น อิจฉานะเนี่ย
^_^¦¦¦ พี่มิ้งค์ทำเนียนแอบนอนกอดอัคนิน้อยซะงั้น อิจฉานะเนี่ย
konhin 13 ก.พ. 2555, 22:02:03 น.
มีแต่คนประมูล งั้นเอามั่ง ขอสามวันก็พอ เท่าไหร่คะ ;)
มีแต่คนประมูล งั้นเอามั่ง ขอสามวันก็พอ เท่าไหร่คะ ;)
ริญจน์ธร 13 ก.พ. 2555, 22:37:27 น.
แวะเข้ามาแจมค่ะ กระทู้นี้จะกลายเป็นกระทู้ประมูลไปแล้วหรือคะ
สาวๆ แถวนี้กำลังหาหนุ่มออกเดตวันวาเลนไทน์กันรึเปล่าคะเนี่ย ^^
แวะเข้ามาแจมค่ะ กระทู้นี้จะกลายเป็นกระทู้ประมูลไปแล้วหรือคะ
สาวๆ แถวนี้กำลังหาหนุ่มออกเดตวันวาเลนไทน์กันรึเปล่าคะเนี่ย ^^
อสิตา 14 ก.พ. 2555, 01:12:02 น.
รับวาเลนไทน์ !!!!
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=308925132490798&set=a.171895419527104.44042.170360283013951&type=1&theater
เอาภาพมาตัดต่อ(จาก sim ในเฟซบุค คนเขียนคลั่งมากกกก)
การ์ตูนรักวุ่นๆ ของชามัล มัชฌิตา และท่านอัคนิ
ผมอัคนิสีส้ม จะได้นึกถึงขนเสือกับตอนติดไฟ...
ป.ล. ชามัลฝากถามสาวๆค่ะ ว่าไม่มีใครประมูลตัวฮีบ้างเหรอ เค้ามีทั้งแส้พร้อม เทียนพร้อม โซ่ กุญแจมืออะไรมีหมดนะ^///^
รับวาเลนไทน์ !!!!
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=308925132490798&set=a.171895419527104.44042.170360283013951&type=1&theater
เอาภาพมาตัดต่อ(จาก sim ในเฟซบุค คนเขียนคลั่งมากกกก)
การ์ตูนรักวุ่นๆ ของชามัล มัชฌิตา และท่านอัคนิ
ผมอัคนิสีส้ม จะได้นึกถึงขนเสือกับตอนติดไฟ...
ป.ล. ชามัลฝากถามสาวๆค่ะ ว่าไม่มีใครประมูลตัวฮีบ้างเหรอ เค้ามีทั้งแส้พร้อม เทียนพร้อม โซ่ กุญแจมืออะไรมีหมดนะ^///^
wane 14 ก.พ. 2555, 02:38:25 น.
ชอบประโยคความคิดของพี่มิ้งค์จัง "เสือนอนกิน"
ชอบประโยคความคิดของพี่มิ้งค์จัง "เสือนอนกิน"
หมูอ้วน 14 ก.พ. 2555, 07:25:23 น.
ตอนนี้ ยังคงเทคะแนนให้อัคนิ เหมือนเดิมคร่าาา
ตอนนี้ ยังคงเทคะแนนให้อัคนิ เหมือนเดิมคร่าาา
เรือใบ 14 ก.พ. 2555, 07:53:58 น.
อัคนิๆๆๆ >_____< เชียร์มากๆ ความจริงไม่ชอบชามัลตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว ยังคิดอยู่เลยว่าอย่างตานี่จะเป็นพระเอกอ่ะนะ ดีค่ะมีอัคนิมาชูโรง ไม่งั้นอาจจะไม่ตามเรื่องนี้แล้ว อัคนิสู้ๆ โอยอยากได้อัคนิมาเป็นหมอนข้างให้มั่งจัง
อัคนิๆๆๆ >_____< เชียร์มากๆ ความจริงไม่ชอบชามัลตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว ยังคิดอยู่เลยว่าอย่างตานี่จะเป็นพระเอกอ่ะนะ ดีค่ะมีอัคนิมาชูโรง ไม่งั้นอาจจะไม่ตามเรื่องนี้แล้ว อัคนิสู้ๆ โอยอยากได้อัคนิมาเป็นหมอนข้างให้มั่งจัง
ameerahTaec 14 ก.พ. 2555, 07:55:58 น.
กี้สสสสสสสสสสสสสสส ตอนนี้คนเขียนเอาใจคนอ่านสุดๆเลยนะคะ อยากให้อัคนิเป็นพระเอกอ๊าาาาาา หลงรักพ่อเสือหนุ่มคนนี้เข้าเต็มเปา >///< สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะคุณอสิตา...รักอัคนินะ จุ๊บๆ ป.ล.ตอนจบมีหักมุมมั้ยคะ 555+
กี้สสสสสสสสสสสสสสส ตอนนี้คนเขียนเอาใจคนอ่านสุดๆเลยนะคะ อยากให้อัคนิเป็นพระเอกอ๊าาาาาา หลงรักพ่อเสือหนุ่มคนนี้เข้าเต็มเปา >///< สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะคุณอสิตา...รักอัคนินะ จุ๊บๆ ป.ล.ตอนจบมีหักมุมมั้ยคะ 555+
บุลินทร 14 ก.พ. 2555, 15:22:04 น.
นี่มันกระทู้ประมูลอะไรกัน ฮ่าๆๆ คนเขียนช่วยให้ฝันของคนอ่านเป็นจริงด้วยนะ เรื่องพระเอก
นี่มันกระทู้ประมูลอะไรกัน ฮ่าๆๆ คนเขียนช่วยให้ฝันของคนอ่านเป็นจริงด้วยนะ เรื่องพระเอก
Canopus 14 ก.พ. 2555, 17:09:37 น.
ชอบเสือนอนกินตัวนี้จังอยากได้มานอนกอดมั่ง
ชอบเสือนอนกินตัวนี้จังอยากได้มานอนกอดมั่ง
XaWarZd 14 ก.พ. 2555, 23:58:36 น.
อ๊าย น่ารักอ่ะ หมอนข้างแบบนี้ขอได้มั้ย
อ๊าย น่ารักอ่ะ หมอนข้างแบบนี้ขอได้มั้ย
goldensun 15 ก.พ. 2555, 12:34:02 น.
ขี่หลังเสือของจริงแล้ว มัชฌิตา จะตกมั้ยเนี่ย ตอนเสือวิ่ง
อัคนิวราตอนนี้ ชักมีนิสัยเหมือนคนมากขึ้นทุกที จะเริ่มจำอดีตได้มั้ยเนี่ย ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับย่าอมินตายังไง
ขี่หลังเสือของจริงแล้ว มัชฌิตา จะตกมั้ยเนี่ย ตอนเสือวิ่ง
อัคนิวราตอนนี้ ชักมีนิสัยเหมือนคนมากขึ้นทุกที จะเริ่มจำอดีตได้มั้ยเนี่ย ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับย่าอมินตายังไง