มายาไฟในดวงตา {ชุดมนตราอัญมณี}สนพ.อรุณ
พลอยตาเสือ มูนสโตน และอความารีน
มรดกที่ย่ามอบให้ทั้งสามสาวจะนำพาลางร้าย ความรัก หรือการผจญภัยมาสู่พวกเธอ
เมื่อพี่สาวคนโตอย่างมัชฌิตาตั้งใจจะเก็บมรดกทั้งของตนเองและน้องสาวเอาไว้
อันตรายบางอย่างกลับคืบคลานเข้ามา หญิงสาวจึงทำได้เพียงหนี !
ก่อนที่ “เขา” เจ้าของพลอยที่แท้จริงผู้น่าสะพรึงจะมาทวงมันคืนไปจากเธอ
Tags: อสิตา มนตรามุกจันทรา ม่านธาราเร้นดาว พลอยตาเสือ มัชฌิตา ชามัล อัคนิวรา

ตอน: บทที่ 8 เปลวไฟในเงาฝัน (ตอนแรก)

@ คุณ Auuuu
อัคนิกำลังบาดเจ็บค่า ต้องการเงินไปรักษา โอนเงินบริจาคเข้าบัญชีได้ตามนี้ หรือรับซื้อเสือไปเลี้ยงโปรดติดต่อหลังไมค์...
ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี อัคนิ เมห์ฮรา เลขบัญชี..... !!!
อะไรนะ ห้ามค้าสัตว์สงวนหรือ ^TwT^

@ คุณ goldensun
มาย้อนอดีตกันค่ะตอนนี้ แต่ยังไม่ทั้งดุ้นนะคะ แค่พอหอมปากหอมคอ เดี๋ยวชามัลจะยิ่งโกรธที่ไม่มีบท หุหุหุ พ่อเสือหนุ่มเราก็เล่นตัวซะเหลือเกิน เดี๋ยวคอยดูเถอะ...

@ คุณ SunSeed
ชามัลตามมาแล้วววว ว่าแต่ชามัลไม่มีนโยบายทำคะแนนเพิ่ม มีแต่ทำคะแนนติดลบ แต่คนเขียนก็รักฮีเหมือนกันนะ เอาไงกะชามัลดีน้า

@ คุณ Sai
หมดลม...
แค่นอนพอเป็นลูกอ้อนให้คนอ่านเป็นห่วง(อ้าว) แต่ก็ยากเหมือนกันนะคะกว่าจะฟื้น^^

@ คุณ ปรางขวัญ
อัคนิกำลังจะถูกเอาตัวมาขายทอดตลาดแล้วค่ะ เอ๊ย ไม่ได้เดี๋ยวโดนจับ ต้องแอบขายกันหลังไมค์นะ
เนื้อก็หอม ขนก็นิ่มน่าลูบ นิสัยก็...น่ารัก ^-”-^’ คิดว่าน่าจะใช่นะ

@ คุณ Canopus
ตานี้ก็ยังต้องลุ้นต่อไปค่ะ มีใครจะเอาใจช่วยชามัลให้เข้าถึงตัวสองคนนี้ทันบ้างไหมนะ สงสัยจะไม่มีแฮะ

@ คุณ sunrise
นั่นสิคะ ถ้ำหรือหลุมดำ ตอนเขียนเราก็นึกบรรยากาศประมาณนั้นแหละค่ะ ถ้ำที่ทั้งผลักและดูด ดูดไปก่อนที่จะให้กลับมา แต่บางคนก็ไม่ได้อะไรนะ

@ คุณ konhin
ขนาดสามวันยังให้ค่าตัวอัคนิตั้งสามหมื่นหรือคะ ซาบซึ้ง ขายคุณก้อนหินเลยดีกว่า สักแสนนึงนี่ให้เอาเจ้าแมวยักษ์ไปกกกอดไปเป็นแมวเลี้ยงตลอดชีพเลยค่ะ หุหุหุ

@ คุณ Neferretti
ถ้าคุณเนเฟอร์ไม่ให้ราคางามกว่าเค้าจะจูงอัคน้อยไปขายคุณก้อนหินแล้วนะคะ คนเขียนเป็นบ้าไปแล้ว วันนี้พูดแต่เรื่องขายเสือ ก็คนอ่านบอกว่าอยากซื้อนี่นา เห็นเงินก็ต้องรีบค่ะ เพราะไส้มันแห้งอยู่ ใครมาก่อนจ่ายก่อนเอาไปเลย อ้าว อัคนิ จะหนีไปไหนลูกกก กลับมาๆๆๆ นิ่งนะๆๆไม่ร้อง ไม่โฮก ไม่เอา อย่ากัดหัววววววววว
ลองหารูปเสือดูสิคะ ขนที่หลังหูจะเป็นวงกลมๆขาวๆ น่าเอานิ้วจิ้มเล่นจะตายไป เห็นใจพี่มิ้งค์หน่อยเถอะ โอ๊ย ตอนนี้พี่มิ้งค์กับอัคนิก็นอนสุมซบกันอยู่ในถ้ำ ท่าไหนก็จินตนาการเอาเองนะคะ
ปู่ศานติมันเค้าก็หล่อนะ ส่วนนิสัยก็ ไม่น้อยหน้าหลานชายเค้าละค่ะ...

@ คุณ wane
ดูเหมือนจะไม่มีใครตามมาช่วยค่ะ มีแต่ชามัลอยากมาซ้ำเติม เห็นทีทั้งคู่จะต้องช่วยตัวเอง หุหุหุ

@ คุณ หมูอ้วน
ตอนนี้ย่าอมินตาไปดูแลน้องมูนกับน้องมีนอยู่ค่ะ ไม่มีเวลามาดูแลหนูมิ้งค์ก็เลยปล่อยให้นอนอยู่แบบนั้นต่อไป ถึงมาย่าก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ เธอต้องต่อสู้ด้วยตัวเองละทีนี้

@ คุณ เรือใบ
คนเขียนก็แอบโกรธยายมิ้งค์ค่ะ ที่ทำให้สมิงต้องตาย(แล้วหล่อนจะเขียนทำไม>.<) อันที่จริงเขียนถึงเสือสมิงเพราะว่าชอบเรื่องทำนองนี้มาก เสือสมิง พ่อชอบเล่าให้ฟังตอนเด็กค่ะ เป็นความชอบที่ฝังใจก็เลยต้องขอซะหน่อย
ส่วนอัคนิฟื้นมาเมื่อไหร่ก็ยังจะกวนต่อไปค่ะ เสือปากแข็งก็อย่างนี้

@ คุณAuuuuuuuuuuuu (แถมยูให้อีก)
ตอนใหม่มาแล้วค่า ขอโทษที่ให้รอนะ ว่างๆก็แวะไปอ่านนิทานธาราของอสิตาสิคะ สนุกแน่น่า(เกลี้ยกล่อมๆ)

@ คุณ ameerahTaec
แหม ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ แค่นอนสลบไสลทับกัน เค้าดูอบอุ่นออกนะ
สงสารคนอ่านก็ได้ งั้นหักมุมเรื่องที่ไม่ค่อยสะเทือนใจก็แล้วกันเนอะ^0^ กีซซซ

@ คุณ XaWard
ฮือ มาแล้ว แต่ยังไม่ถึงตอนเฉลยน่ะค่ะ หุหุ แต่ระหว่างที่นอนความลับบางเรื่องจะคลี่คลายออกมา

@ คุณ maplezaa
โอ้ นักอ่านหน้าใหม่ของเรื่องนี้เหรอคะ หรือว่าอ่านมานานแล้ว ยินดีต้อนรับค่ะ
จะลูบไล้ สัมผัส หรือหนุนขนนิ่มๆของอัคนิก็ได้ค่ะ เชิญเต็มที่ หลังจากเขียนเรื่องนี้คนเขียนก็ว่าจะชวนเพื่อนไปสวนสามพรานน่ะค่ะ แบบว่ามันหมั่นเขี้ยวอะไรยังไงตะหงิดๆก็ไม่รู้
แต่กลัวไปเผลอขยำเสือแล้วโดนขบหัวเอา

@ คุณ silverraindrop
แหม นึกว่าจะหายหน้าไปซะแล้วค่ะ มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ หุหุ อัคนิยังหลับปุ๋ยอยู่ตอนนี้

@ คุณ Chii
เหอๆ ต้องใช้น้ำยากัดสีผมกับขนแมว ในการทำให้กลายเป็นสีขาว ก่อนจะย้อมให้กลายเป็นเสือเหมือนอัคนิได้ ^TwT^อิเหมียวที่บ้านน่าจะม่องซะก่อนนะคะ กว่าจะแปลงร่างเสร็จ อย่าเลยดีกว่า...

คุณ นางสาวกระป๋อง
ยังอยู่ใช่ไหมคะ คนเขียนคิดถึงนะ *-*



บทที่ ๘ เปลวไฟในเงาฝัน


เขาจำไม่ได้ว่าตนเองเป็นใคร... เคยทำอะไรมาก่อน...

ทุกอย่างรอบกายเริ่มจากความมืด ก่อนแสงสว่างจะค่อยๆ จุดอยู่เหนือขึ้นไป
แตกกระจายพร่างพรมจากเบื้องบน จับละอองลงมาบนวัตถุต่างๆ จนเห็นเป็นห้อง
อันโอ่อ่า สว่างไสวงดงามราวกับราชวัง สมบัติอันมีค่าทั้งงาช้างและเครื่องทองของประดับ
ถูกวางไว้อย่างเหมาะเจาะมีศิลปะ
สถานที่ซึ่งเขามาปรากฏกายอยู่ยามนี้ช่างคุ้นตาอย่างประหลาด ผ้าม่านเข้ม
ปักลายทองปราณีตห้อยแขวนลงมาจากเพดาน ตั่งไม้เคลือบเงาแกะสลัก
ลงลายบุด้วยหมอนปักดิ้นเห็นเป็นเงารางๆ อยู่หลังม่านกั้นพลิ้วไหว
และบนนั้น เงาของใครบางคนทอดร่างอยู่ อัคนิวราเดินเข้าไปใกล้
แต่ก่อนที่เขาจะแหวกผืนผ้าเพื่อดูว่าผู้ที่นั่งอยู่เบื้องหลังเงาบังเป็นใคร เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ลืมข้าแล้วหรือ อัคนิน้องรัก” เสียงทุ้มกังวานคุ้นเคยฟังดูทรงอำนาจดังขึ้น
จะว่าไปก็ฟังคล้ายเสียงของเขาเอง ทว่าความดุดันในน้ำเสียงกลับถูกแทนที่ด้วย
ความสงบเย็น เนิบช้า

“ข้าไม่รู้ว่านี่คือที่ไหน และท่านเป็นใคร ท่านเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้กระนั้นหรือ”
อัคนิวราถามขณะแหวกม่านเข้าไป พบชายผมยาวหยักศกผู้มีเค้าหน้าเข้ม สุขุม
สง่างาม ทว่าแทบไม่มีอะไรคล้ายเขาเลย...นอกจากดวงตา แต่เพียงแค่นั้นก็มากพอ
จะสะกดอัคนิวราเอาไว้ได้

“อา เจ้าลืมพี่แล้ว...”

“พี่รึ ตัวท่าน มีนามว่าไร ข้านึกไม่ออกจริงๆ ” ชายหนุ่มส่ายศีรษะน้อยๆ

“ศานติมัน ฟังแล้วเจ้าพอจะนึกอะไรออกบ้างหรือยัง”

“ข้า...คิดว่าน่าจะเคยได้ยินนามนี้มาก่อน แต่ขอโทษจริงๆ ที่ข้าลืมไปแล้ว
ว่ามันเป็นที่ไหน เมื่อไหร่”

“ช่างเถอะ นั่งลงสิน้องรัก” ศานติมันผายมือไปยังตั่งขนาดเดียวกันอีกตัวซึ่งว่างอยู่

ชายหนุ่มกวาดตาไปยังทัศนียภาพของห้องนั้น รู้สึกราวกับทุกอย่างเพิ่งปรากฏขึ้นมา
ในอึดใจที่ศานติมันเชื้อเชิญเขา ด้านหนึ่งของผนังเปิดโล่งกว้างตลอดแนวทั้งยัง
กินลึกเข้ามาในส่วนของเพดาน ทำให้สามารถเห็นท้องฟ้ายามสายัณห์
อันแต้มฉานไปด้วยสีดุจเพลิง

“ขอบคุณ ท่านศานติมัน” อัคนิวรากล่าวเรียบๆ ขณะเอนกายลง
เหม่อมองภาพที่เห็นภายนอกอย่างสงบ

“เจ้าเคยเรียกข้าว่าท่านพี่เสมอ”

“ท่านพี่ศานติมัน...” ยามนั้นปากของอัคนิวราตอบชายผู้ซึ่งมีตัวตนอยู่ในแสงอันสว่างไสว
ราวกับถูกสะกดด้วยคำพูดของอีกฝ่าย แต่เขากลับไม่รู้สึกต่อต้าน ขัดเคืองอย่างเช่น
ที่ควรจะเป็น คล้ายกับว่าเคยรักใคร่ผูกพันกับคนผู้ซึ่งกำลังเอนอิงหมอนในท่าสบายๆ
อยู่ต่อหน้ามาก่อนจริงๆ

“ดูสิ เราเคยมานั่งอยู่บนระเบียงเหนือขุนเขาด้วยกันเพื่อชมวัฏจักรและระบำแห่งหมู่ดาว
มองดูมันเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งที่เรามองเห็น”

อัคนิวราดูตามทิวทัศน์อันค่อยๆ แปรไป ยามเย็นหมุนไปสู้ความมืด เป็นกลางวัน กลางคืน
เหมือนโลกและจักรวาลกำลังหมุนผ่านไป ผ่านไปไม่หยุดรั้งรอ

“ตั้งแต่เจ้ายังเป็นเด็กเล็กๆ เราก็มานั่งด้วยกันเช่นนี้ จวบเวลาซึ่งเจ้าเติบกล้า แข็งแกร่ง
เด็ดขาดเสียยิ่งกว่าข้า จนเกือบจะเรียกว่าโหดร้าย ยังจำได้ไหมคนที่ทรยศต่อเมห์ฮราเรา
เจ้าฆ่าไม่เลี้ยง แต่ใครเลยจะรู้พี่ชายคือจุดอ่อนของเจ้า แม้ในสายตาคนอื่นซึ่งไม่รู้จักเจ้าดี
จะมองไม่เห็น แต่เราสองต่างรู้ทั้งที่ไม่มีฝ่ายไหนเอ่ยออกมา”

สายลมพัดหวนอยู่เบื้องบนราวกับกำลังพัดดวงดาวบนฟากฟ้าให้เคลื่อนที่กลับย้อน
หมุนวนไปสู่เวลาแห่งอดีต

“ตอนนี้เจ้ายังยอมข้าอยู่เหมือนเก่าไหม”

“ข้ายังยอมท่าน...” ชายหนุ่มตอบราวละเมอ

“ดูสีของท้องฟ้าสิ เหมันต์ วสันต์ผ่านเนิ่นนาน เราอยู่เคียงกันดุจประทีปสองดวง
แต่แท้จริงแล้วข้ารู้อยู่แก่ใจ ว่าเจ้าส่องสว่างได้มากกว่าข้าเป็นไหนๆ ความรักของเจ้า
ยิ่งทำให้ข้าเจ็บปวด น้องชายที่อ่อนกว่ากันเกือบเก้าปีกลับต้องมาเกรงใจ
คอยหลีกทางให้ข้าอยู่เสมอ เพราะกลัวว่าพี่ชายจะเสียความรู้สึก”

“ใช่ ข้าเคยมีพี่ชาย และข้าก็รักเขาอย่างนั้นจริง แต่ว่าพี่ของข้า...”
อัคนิวราขมวดคิ้วนิ่วหน้า เจ็บปวดที่จะรีดเค้นเอาความทรงจำในส่วนลึกออกมา

“ข้าขออะไรเจ้าบางอย่าง อย่างอื่นน้องรักอยากได้อะไรพี่ก็เฝ้าแต่หามาปรนเปรอมิได้ขาด
ข้าขอเพียงอย่างเดียว ให้ข้าอยู่เบื้องหน้าเจ้า เดินนำเจ้าไป มิใช่เป็นผู้ที่ต้องเดินตามหลัง...
ได้ไหมอัคนิ ? ”

...ภาพหนึ่งเคลื่อนเข้าแทนที่ท้องฟ้าซึ่งกำลังหมุนเวียนมาเป็นรุ่งอรุณอีกครั้ง

คล้ายว่าอัคนิได้กะพริบตา และพบว่าตนเองตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ แต่เป็นเช้าซึ่ง
ทุกอย่างช่างมัวหมองเสียเหลือเกิน กับการลืมตาอันอ่อนเปลี้ย เขาตื่นทั้งที่ควรหลับ
แต่ร่างกายขยับไม่ได้ มีเพียงใบหน้าอันคุ้นตาของท่านพี่ศานติมันที่ก้มลงมาและพูดกับเขา

“อัคนิ ทุกคนขนานนามเจ้าว่า อัคนิวรา อันหมายถึงไฟอันเป็นเลิศที่สุด เจ้าเกิดมา
เพื่ออยู่เหนือใครก็ได้รวมทั้งข้า มันทำให้ข้าเจ็บปวดกับการที่เจ้ายอมข้าในหลายๆ อย่าง
มันไม่เพียงพอหรอกน้องรัก...”

อัคนิวรารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นปราดเข้าจับหัวใจ เขาถูกยาพิษซึ่งทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้
แต่ยังเห็น ยังรับรู้คล้ายคนเป็นอัมพาต แม้ความคิดก็ดูจะเชื่องช้าลงไปแต่น้ำตาหยดหนึ่ง
กลับไหลรินลง

คนที่ ข้า ไว้ใจ หักหลัง ข้า...

“น้องรัก ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร เสียใจที่พี่ทรยศใช่ไหม ข้าเคยขอหรืออย่างไร
ไอ้ความไว้ใจของเจ้า เจ้ามอบมันให้ข้าเองเพราะคิดว่าข้าดีต่อเจ้าอย่างจริงใจ
ถึงตอนนี้จะเรียกคืนไปก็ได้นะ แต่มันคงสายไปแล้วสำหรับเจ้า...”

ถ้อยคำหมื่นวาจาที่อยากพูด แต่เขาก็โต้ตอบอะไรไม่ได้

“ยาสั่งนิทรา...ตั้งแต่วันที่ข้าบอกท่านพ่อ ข้าทราบแล้วเรื่องท่านจะให้ใครเป็นผู้สืบสกุล
พ่อก็รักข้าอยู่...แม้อาจรักไม่เท่าที่รักเจ้า แต่คงรู้สึกผิดมากมาย พี่จึงเรียกร้องบิดาเรา
ผู้รู้ตนว่าจะอายุมิยืน ให้ท่านสัญญาต่อข้า

น้องชายจะเป็นเลิศในอะไรก็แล้วแต่ จะเป็นผู้นำตระกูลก็ยังได้ แต่เมื่อพ่อสิ้นไปแล้ว
ขอให้เหลือคุณค่าสำคัญสักเพียงอย่างไว้ในตัวข้าบ้าง ให้ข้ารู้สึกว่าข้ายังมีค่าที่จะ
ดำรงตัวตนอยู่ด้วยคุณประการนั้น ข้าจึงได้ขอสูตรยาขั้นสูงอันเป็นความลับซึ่งรู้เพียง
ผู้นำตระกูลสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ขอให้ข้าเพียงผู้เดียวโดยมิให้สอนใครอีก...แม้แต่เจ้า
และข้าจะช่วยน้องทำนุบำรุงเมห์ฮราสืบไปเป็นอย่างดี น่าเสียดายเหลือเกิน
ที่พิษจากยานี้ไม่มีทางแก้ หากเป็นคนอื่น แม้แต่ตัวข้าเอง ลองเสพมันเข้าไปแล้ว
แม้จะรู้ตัวก็สายเกิน ยายังไม่ออกฤทธิ์จนกว่าจะหลับ หากทนความง่วงไม่ไหว
หลับสนิทลงเมื่อใดก็จะค่อยๆ หยุดหายใจและไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก
ร่างกายไม่เน่าสลายก็เหมือนตาย เจ้านี่มันสำคัญยิ่งนัก อุตส่าห์ลืมตามาได้
แม้จะต้องอยู่ในร่างที่กลายเป็นซาก”

อัคนิวราหลับตา เขายังรู้สึกรับรู้ทุกอย่าง ร้อน หนาว กระหายน้ำ กระหายอากาศ
แต่ไม่อาจหายใจ ร่างกายหยุดทำงาน แต่กลับไม่ตายเพราะปราณที่ถูกกักให้
ทรงสภาพไว้คล้ายจำศีล ทั้งหมดนั้นยังไม่แย่เท่ากับใจที่แห้งสลายเป็นผงเมื่อได้รู้
ความจริงทุกอย่างจากปากของท่านพี่ศานติมัน

“ยานี้ทำจากยอดอ่อนแห้งโรยของอินทผลัม จากเกสรยามเช้าแห่งกลีบน้ำค้างสวรรค์
จากดอกรักสุดท้ายแห่งโคนช่อ เคล้าแสงจันทร์อ่อนในคืนแรม กับมนต์ของ
พระศุลีเทวราช บทเดียวกับที่ใช้สวดบูชาเจ้าคงจำได้ จากนั้นจึงค่อยนำมา
ทำให้กลิ่นรสของมันจางหายไป...”

ท่านพี่ศานติมันยังคงบอกรายละเอียดของยานั้นต่อไปยืดยาว ถ้อยคำไหลผ่านหู
ซึ่งมิได้อยากรับฟัง แต่อัคนิวราในยามนั้นกลับจำได้ทุกถ้อยความ ก่อนเขาจะถูก
นำพาไปยังเทวสถานใต้ดินอันลึกที่สุดใต้วังอันถือเป็นสถานที่ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่า
มีอยู่ น้อยคนยิ่งกว่าที่รู้ว่ามีอยู่ก็ยังมิมีวันได้มาเหยียบ

ร่างถูกวางไว้ให้นิทราสงบบนแท่นทำพิธี แต่หูยังยินถ้อยวจีบาดใจ

“ข้าคิดถูกแล้ว แค่ยาเพียงอย่างเดียวคงไม่อาจสยบวิญญาณของข้ารับใช้พระอัคนีเทพ
ที่สิงสู่อยู่ในเจ้าได้ หากเวลาผ่านไปถึงกึ่งศตวรรษแล้วปราณเจ้ายังไม่สลายก็คงกลับฟื้น
ขึ้นมาใหม่ พี่รักเจ้า ฆ่าน้องไม่ได้...ฉะนั้นข้าจะแยกจิตเจ้าออกจากกาย เพื่อทำการนี้
ข้าจึงได้เตรียมสิ่งพิเศษสำหรับเจ้าเอาไว้”

อัคนิวรามองตามมือพี่ชายตนและได้เห็นสิ่งอันคุ้นตาตั้งอยู่แทบบาทเทวรูป
เหรียญตราพระอาทิตย์แห่งเมห์ฮรา...

“นอกจากทำกายให้หลับใหลแน่นิ่งลงไป ข้าจะดึงจิตวิญญาณของเจ้าออกมา
แยกไว้ในพลอยราชัน เนตรที่ยังเหลือเพียงข้างเดียว เหรียญนี่ต้องถูกซ่อนเอาไว้
เพราะเนตรราชินีเพิ่งขาดหายไป และอีกประการ พี่จะใช้มันเป็นที่กักขังเจ้า
เจ้าจะหลับใหลอย่างสมเกียรติโดยข้าจักขอยืมพลังของเจ้าในยามระลึกถึง
เหรียญพระอาทิตย์ได้ ข้าจะซุกซ่อนร่างเจ้าเอาไว้แทนที่ศพในโลงหินแห่งสุสาน
วันหนึ่งเจ้าอาจมีโอกาสฟื้นคืนอีกครั้ง หาไม่ก็จงนิทรานิรันดร์”

อัคนิวรารู้สึกถึงหยาดน้ำอุ่นๆ ไหลซึมทางหางตาของตน เหตุผลหนึ่งที่ไม่ฆ่าเขา
ก็เพื่อที่จะยืมพลังไปใช้ได้ตามต้องการกระนั้นหรือ ทว่าดวงตาของพี่ชายที่มองลงมา
ก็ยังมีเชื้อแห่งความเจ็บปวดอาดูรเฉกกัน

“ข้าไม่ฆ่าเจ้าเพราะเจ้าเป็นน้อง แค่ขอร้องให้เจ้านิทราอยู่ใต้วังเมห์ฮรานี้เท่านั้น
...พี่ก็รักเจ้านะ อัคนิ แต่ว่าเราสองคนไม่ควรเกิดมาเป็นพี่น้องกันเลย”

เสียงไฟบูชาหน้าเทวรูปสูงแตกปะทุ เปลวไฟคงจะแลบเลียขึ้นไปสู่เพดานอันสลัวราง
อยู่ในความมืด แต่อัคนิไม่อาจหันมอง จะว่าไปชั่วขณะนั้นเขาก็ไม่คิดจะใส่ใจสิ่งใดอยู่แล้ว
เพียงแต่มันคือภาพสุดท้ายที่รู้ที่เห็นจึงอดไม่ได้ที่จะจำติดตานานแสนนาน

“อัคนิ เมห์ฮรา... น้องชายผู้เป็นที่รักยิ่งของพี่ ข้าขอพันธนาการวิญญาณเจ้า
ด้วยยาที่กรอกลงในปากนี้จะค่อยๆ ดึงดูดวิญญาณเจ้าสู่เม็ดพลอยที่ข้าถอดออกมา
แช่ไว้ในน้ำยาอันเดียวกัน ให้เจ้ากลายเป็นสมิงผู้สิงสู่อยู่รับใช้พลอยตาเสือ ขอยืม
หัตถาแห่งพระแม่กาลีขโมยวิญญาณของเจ้ามาผูกพันธนาการไว้กับพลอยราชัน
ด้วยมนต์ลับสาบสูญอันไร้หนทางแก้ไข ขอเจ้าจงหลับใหลอย่างสงบ
จงอย่าได้จดจำ คิดแค้นพยาบาทในการกระทำของพี่นี้เลย”

นั่นคือภาพ กับเสียงสุดท้ายที่ได้ยิน สิ่งซึ่งหลงลืมไป
แต่ในเวลานี้ความทรงจำกำลังค่อยๆ กลับมา พาให้อัคนิวราเจ็บปวด
ทรมานเสียยิ่งกว่าตายลงทั้งเป็น...



มัชฌิตาค่อยๆ ลืมตาขึ้น รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งร่าง เธอหันไปมองอัคนิวราในร่างคน
ที่แลดูคล้ายว่าได้ล้มลงสลบไสลไปเคียงกันไม่รู้ว่านานเท่าไหร่มาแล้วอย่างงงงัน
เอื้อมไปแตะตัวเขา พยายามเขย่าเรียกให้ฟื้นคืน

“อัคนิวรา อัคนิวรา...”

ชายหนุ่มลืมตาขึ้น แต่เนตรซึ่งเคยทรงแววราวพยัคฆ์แสนดุดันนั้นคล้ายเลื่อนลอยไปไกล
ไม่ได้มองเห็นและรับรู้ในอันที่หญิงสาวพูดหรือพยายามเรียกให้ได้สติแม้แต่น้อย

“นี่คุณเป็นอะไร ได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่า”

ก่อนมัชฌิตาจะทันรู้ตัว อัคนิวราก็กดกระแทกเธอลงกับพื้นถ้ำจนศีรษะโขกเจ็บ
แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือสีหน้าของคนซึ่งกำลังคร่อมร่างเธอไว้ ดวงตาของเขากำลังลุก
เป็นแสงแห่งเพลิงขณะสองมือฉกลงกุมกำรอบลำคอบอบบาง ออกแรงบีบ
คล้ายอยากจะให้เธอขาดใจตายคามือ สีหน้าชายหนุ่มบ่งบอกถึงความเจ็บปวด
จากข้างใน เดือดดาล ทุรนทุราย มองไม่เห็นความจริงใดๆ ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ตรงหน้า
และความแค้นจากภายในนั้นก็กำลังถูกระบายออกมาใส่มัชฌิตา
ผู้อยู่ใกล้มืออย่างช่วยไม่ได้เลย

“อัก คะ นิ วะ รา...”

หญิงสาวพยายามเรียกชื่อเขา แต่ดูเหมือนเสียงของเธอจะส่งไปไม่ถึงอีกฝ่าย
หญิงสาวสำลักหายใจ เจ็บร้าวที่คอจนน้ำตาไหล ไม่ต่างอะไรกับเมื่อตอนพบกันครั้งแรก
ที่เขาเค้นคอเธอจนสลบคามือ ความรู้สึกของมัชฌิตาเลือนรางลงเรื่อยๆ ก่อนภาพของ
พยัคฆ์ในร่างคนตรงหน้าจะค่อยๆ ดับไป กลายเป็นความมืดอันสงบเย็น และเธอเอง
ก็ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป...



ชามัลแสนจะแค้นเคือง สมิงพญาที่ควรจะตกอยู่ภายใต้อำนาจกลับเหิมเกริมหนัก
นอกจากจะไม่ยอมรับคำสั่ง คิดต่อต้านจนสุดกำลังแล้วมันยังพาเอาเหยื่อ
อันเป็นเป้าหมายของเขาหนีไปด้วยกัน ชายหนุ่มขึ้นรถจากัวร์คันหรู เหยียบคันเร่ง
ไปตามความรู้สึกอันจับทิศได้ด้วยความบ้าคลั่ง นึกแค้นใจ พลังไฟของเขาและ
แรงกดดันจากพลอยรวมกันยังไม่สำเร็จ มันหนีพ้นเงื้อมมือไปได้ แม้จะมีมีดอาคม
ปักติดหลัง ยามเมื่อมันห่างออกไปจากตัวเขาก็คงราความเจ็บปวดลงจนหาทางแก้ไข
เรื่องมีดนั้นไม่ยาก

เมื่อคืนก่อนเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงตัวตนของมันแม้จะยังตามไปไม่ทัน แล้วตอนนี้อะไรกัน
เมื่อชามัลเหยียบเท้าเข้าสู่ป่า เหมือนการเชื่อมโยงจากพลอยไปสู่อัคนิวรากำลังถูกบดบัง
เขาไม่สามารถรับรู้ถึงตัวตนของมันได้อีก รู้เพียงก็แค่จุดสุดท้ายที่มันอยู่ และกำลังจะ
เร่งไปให้ถึงที่นั่นเพื่อรู้ให้ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด

ป่า... สถานที่อันเคยคุ้น
ถึงจะเป็นป่าคนละที่กันก็เถอะ ชามัลเองเติบโตมากับพงไพรตั้งแต่เด็กๆ
แม้ท่านปู่จะส่งเขาเข้าไปร่ำเรียนหาวิชาความรู้ในกรุงเดลี แต่ทุกครั้งที่มีวันหยุด
เขาก็จะได้กลับบ้าน วังลับของเมห์ฮราอันซุกซ่อนอยู่ในป่าใหญ่ไร้คนเหยียบย่างเข้าไป

เหยื่อของเขาหนีหายเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติทรงนามตาพระยา
ที่ซึ่งทั้งมนุษย์ผู้หญิงอย่างมัชฌิตาและอมนุษย์อัคนิวรามุ่งมา แล้วจู่ๆ สัมผัสการมีตัวตน
ของพญาพรายก็เลือนลับ คล้ายว่าพวกมันได้เข้าไปสู่เขตอับสัญญาณซึ่งบดบังปราณชีวิต
จนมืดมิด กับมัชฌิตาเธอเคยหายไปหลายครั้งเมื่ออยู่ห่างไกลการรับรู้ของเขาและมี
คลื่นพลังงานมาช่วยบดบังไว้ แต่กับสมิงพญาแห่งพลอยราชัน นี่คือครั้งแรกที่เขาไม่อาจ
เรียกหาตัวตนของมันอันเชื่อมโยงกับพลอย อย่างน้อยก่อนหน้านี้เขาเรียกและอัคนิวรา
ยังขัดขืนมิได้ยินยอมกลับมาตามเสียงชามัล แต่การมีอยู่ของมันก็ไม่เคยหายไปดื้อๆ

ชายหนุ่มเคลื่อนที่ว่องไวด้วยพลังการควบคุมความร้อนอันสามารถเปลี่ยนมวลอากาศ
ให้ลอยสูงขึ้นกลายเป็นลมเพลมพัดดันอู้มาจากเบื้องหลัง พัดสิ่งกีดขวางให้กระจัดกระจาย
ด้วยความโกรธ เผาสิ่งที่บดบังทางให้สิ้นเป็นจุณ ชามัลบุกป่า ฝ่าดงไปจนถึงจุดอันเร้นลับ
ซึ่งดูจะเป็นเหวที่ถูกกิ่งก้านสาขาใบพฤกษ์ซ่อนเร้นเอาไว้ เขาพบถ้ำขนาดใหญ่
สัมผัสได้ถึงพลังประหลาดวนเวียนอยู่ไม่ห่าง แต่นี่ไม่ใช่จุดที่อัคนิวราและมัชฌิตาหายตัวไป
ชามัลใช้เวลาอยู่นานในการสำรวจ และในที่สุดเขาก็พบทางเข้าอีกทาง นี่แหละ จุดสำคัญ...

“ในที่สุดข้าก็ตามมาจนได้”

ชามัลมองปากถ้ำที่มัชฌิตาตามหา เขาเองสนใจมันไม่น้อยไปกว่าเธอ ชายหนุ่มมอง
ลอดปากช่องทางเข้าไปเห็นสองร่างซึ่งนอนสิ้นสติเคียงกันอยู่บนพื้นก็เอะใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ชายหนุ่มลังเลว่าจะก้าวตามดีหรือไม่ แต่หากจะไปให้ถึงตัวพวกมันก็ไม่มีทางอื่น...

ณ ปากทางเข้า ทันทีที่ชามัลกำลังจะก้าวเท้าล้ำอาณาเขตสู่ถ้ำ กลับปรากฏกระแสต่อต้าน
รุนแรงราวลมสลาตันผลักสวนออกมาจนร่างทั้งร่างของเขาปลิวไปหล่นกระแทกพื้น
ชายหนุ่มขบฟัน หรือว่าถ้ำอันเป็นที่สุดแห่งดวงตาจะไม่เปิดออกต้อนรับเขา
มันเป็นไปได้อย่างไร !



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.พ. 2555, 11:51:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.ย. 2555, 14:15:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 2644





<< บทที่ 7 สัญญาแลกชีวิต (ต่อ-จบบท)   ตอนพิเศษ"บทเพลงก่อนนิทรา"(บทนำ) >>
Pampam 23 ก.พ. 2555, 12:15:10 น.
ชามัลมาพบแล้วจะเป็นยังไงกันต่อไปนะ มาต่อเร็วๆนะคะไรเตอรื


Zephyr 23 ก.พ. 2555, 12:16:46 น.
เพราะนายไม่ถูกยอมรับน่ะสิ โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย สะใจๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ
แต่เว้ยท่านปู่ศานไมทำกับน้องเยี่ยงนั้น อัคน้อยน่าสงสารจังเลย ความไว้ใจที่ถูกหักหลัง เจ็บปวดที่สุด ฮือๆๆๆๆ ToT
ตอนแรกแอบคิดว่า อัคน้อยโหดเกินไปเหี้ยมเกินจนอันตรายเลยต้องสะกดไว้ในพลอยเป็นการทำโทษซะอีก แต่ อ๊ะ ที่แท้ปู่ศานก็บ้าอำนาจ ไม่รู้จักพอนี่เอง ตัวเองไม่มีวาสนา ยังจะ ฮึ้ยยยยย แถมนะ ยังหลอกน้องไว้ใช้งานอีก จะเลวไปไหน แถมถ่ายทอดเชื้อโฉดและเกรียนสู่คุณหลานได้อย่างหมดจดทีเดียว ไม่ต่างกันเลย
สรุปแล้วที่ถ้ำนี่คือวังเมห์ฮราสินะ ใต้ดินนี่มีร่างอัคน้อยนอนหลับ จำศีลอยู่ แต่จะเอาออกมายังไงล่ะนี่ พี่มิ้งค์ ช่วยทีสิคะ อย่าเอาแต่หลับ(แต่คนที่ทำให้หลับก็สติหลุดไปแล้ว เอาไงดี) ชักจะวุ่นวาย เวิ่นเว้อ ซะแล้ว ฮ๊ายยยยย อยากรู้ๆๆๆๆๆ รอตอนต่อไปอย่างลงแดงๆๆๆๆๆ
ปล. เค้าให้หมดบัญชี(สิบล้านนนนนอัพพ)เลยอัคน้อย มาบอกเลขบัญชีด่วน เดี๋ยวไปโอนให้เลย แล้วเอาอัคน้อยมาซะดีๆ ณ บัดนี้ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ now(คุ้นๆไหมคะจากละครเรื่องไหน ฮ่าๆๆ) ถ้าอัคน้อยไม่ถึงภายในห้านาทีนี้ เค้าจะเชิญองค์เจ้าแม่แหนมมาลงประทับ!!!!
ปล2. เดี๋ยวเค้าไปเตรียมห้องให้อัคน้อยก่อนนะคะ อิอิ ลัลล้าาา ลัลลาาาา มาหาแม่มา อิอิ หุหุ หึหึ เค้ารักเดียวใจเดียวเช่นกันนะคะ(ถึงจะมีใครแอบซ่อนในซอกหลืบบ้างก็ตาม - -") ขี้หึงด้วยนะ หึหึ


silverraindrop 23 ก.พ. 2555, 12:21:32 น.
โธ๋...นางเอกของเราน่วมตลอดเลย จะมีหวานกันบ้างได้ไหมคะ เลือดสาด ช้ำเลือดช้ำหนองตอดเลย 555


อสิตา 23 ก.พ. 2555, 12:25:06 น.
คุณแปมแปม
ตอนนี้ชามัลเซ็งค่ะ จริงๆน่าจะเอาหินมาอุดปิดปากถ้ำนะ แต่ฮีอยากล่อเสือออกจากถ้ำมากกว่า

เจ๊เนเฟอร์^- -^" อัคนิฝากบอก... คนหลายใจไม่มีสิทธิ์หึงเรากับพี่มิ้งค์
ป.ล.ที่นี่แค่มีกระแสพลังงานบางอย่างคล้ายวังเมห์ฮรา ที่คุณเนเฟอร์ก็พูดเข้าเค้านะคะ
แต่วังของจริงอยู่ที่อินเดียน่ะ เดี๋ยวตอนท้ายๆจะพาไปเที่ยว หุหุ หึหึ หิหิหิ

ฮ่าฮ่า คุณหยาดฝนสีเงิน รอบนี้อัคนิไม่ได้ทำไรนะ มันเป็นเพราะถ้ำๆๆ ฮือออ


Zephyr 23 ก.พ. 2555, 12:39:44 น.
ใครเค้าหึงตะเอง ฮะ อัคน้อย(เค้าหึงพี่มิ้งค์ต่างหาก โอ๊ะ OoO ความลับเปิดเผย ช้านพูดไรออกไปๆๆๆๆ กรี๊ด ไม่ใช่นะ)


ameerahTaec 23 ก.พ. 2555, 13:18:29 น.
จะเกิดขึ้นกับมิ้งค์นะ ชามัลตามมาเจอแย่แล้วทีนี้


sai 23 ก.พ. 2555, 14:09:58 น.
ลุ้นๆๆๆๆ

ปล.แอบนอกเรื่องนิดนึง อ่านเม้นของคุณ เนเฟอร์ ทีไร ฮ่าทุกทีสิน่า ^__^


patok 23 ก.พ. 2555, 15:10:38 น.
เฮ้อ น่าสงสารอัคนิ และสะใจชามารรรร ที่สุด เข้าไปไม่ได้น่ะ 555+ แต่ว่าแพทอยากรู้มากกว่าว่า อัคนิ กะ คุณย่า เป็นอะไรกัน เหอะๆ


patok 23 ก.พ. 2555, 15:11:45 น.
อ่านเรื่องนี้แล้ว อิ๊น อิน ชามารเกรียนมาก ตั้งแต่ฉากแรกแล้ว เหอะๆ และถึงแม้อัคน้อยจะทำให้นางเอกเจ็บตัวแต่ก็ยังรักอัคน้อยเสมอ 5555+


goldensun 23 ก.พ. 2555, 17:39:03 น.
ย้อนอดีตแล้วยิ่งสงสารอัคนิ แต่แค้นจัดจนหน้ามืดบีบคอมัชฌิตานี่สิ บีบแล้วสลบต่อหรือคะ ชามัลตามมาถึงเห็นสลบด้วยกันทั้งคู่


นางสาวกระป๋อง 23 ก.พ. 2555, 18:53:10 น.
วันนี้เม้นต์ก่อนอ่านเลยนะค่ะ ตอนนี้มาฝึกงานค่ะไม่ค่อยได้เมนต์เพราะถูกจำกัดชั่วโมงอินเตอร์เนต


Auuuu 23 ก.พ. 2555, 20:23:51 น.
ก่อนอื่นต้องบอกว่า... สะใจมากกกกก สมน้ำหน้าอีตาชามัลที่เข้าถ้ำไม่ได้ วู้ฮูๆๆๆๆๆๆๆ งานนี้อัคนิก็จำได้หมดแล้วละสิ จะเป็นไงต่อน้ออออ

เริ่มต้นประมูลอัคนิ ที่ราคา ... (เปิดกระเป๋าตังค์แล้วส่องๆดูว่ามีกี่บาท)
เค้าผ่อนจ่ายได้ม้าาาาาาาาา จะปลายเดือนแล้ววว เค้ามะมีตังค์ :"(


ปรางขวัญ 23 ก.พ. 2555, 21:37:11 น.
อืมมมม การถูกคนที่รักหักหลังนี่ อ้คนิคงเจ็บมากทีเดียว
มาๆเดี๋ยวจะกอดปลอบขวัญ อิอิ
แล้วจะมีทางที่จะคืนร่างให้อัคนิได้มั้ย จะได้เขี่ยชามัลทิ้งซะเลย ^^


Chii 23 ก.พ. 2555, 21:42:39 น.
ทั้งรักทั้งเกลียดสินะ เฮ่อ ๆ
อำนาจไม่เข้าใครออกใครเจง ๆ
ปล. สรุปว่าทั้งสองคนเค้าไปโผล่ที่ไหนเนี่ย?


Pat 23 ก.พ. 2555, 22:31:41 น.
ตามเจอเร็วจริง ขนาดจับสัญญาณไม่ได้นะเนี่ย หุหุถึงเจอก็เข้าไปไม่ได้ สม ˋ△ˊ ปู่อย่างไรหลานอย่างนั้น ความต้องการในอำนาจ,ความอิจฉาริษยาไม่เข้าใครออกใครจริงๆพี่น้องกันแท้ๆ น่าสงสารอัคนิ .เอ แล้วชามัลนี่เค้ารู้มั้ยคะว่าอัคนิเป็นปู่ของตน


อสิตา 23 ก.พ. 2555, 23:18:25 น.
-v-' อะจ๊า ตอบหมดไม่ไหว ตอบสองคนก่อนแล้วกัน เพราะเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง
คุณโกลเด้นซัน - จริงๆถ้ำมันหลอนน่ะค่ะ คือทั้งคู่ยังหลับอยู่ตั้งแต่แรก แต่มิ้งค์คิดว่าตื่นมาโดนอัคนิบีบคอ
(เพราะจิตอัคนิที่ลอยอยู่แถวนั้นกำลังคลั่ง)ชามัลตามมาก็เลยเห็นยังนอนอยู่ทั้งคู่ อ่านแค่นี้จะงงๆแต่ถ้าอ่านต่อเนื่องน่าจะชัดเจนกว่า
เลยไม่ได้แก้อะไร แอบอยากให้งงๆเล็กน้อยกับถ้ำ จะได้รู้สึกเข้าไม่ถึงและสับสนไปกับตัวละครด้วย

คุณแพท - ชามัลตามเจอไวเพราะฮีจำจุดสุดท้ายที่ทั้งสองคนหายไปได้ค่ะ ว่ามันอยู่ประมาณแถวไหน


maplezaa 24 ก.พ. 2555, 00:13:40 น.
เป็นนักอ่านหน้าใหม่ที่หลงเข้ามาค่ะ ตอนนี้แอบดีใจที่หลงเข้ามา เพราะหลงรักอัคนิ แอบสงสารอ่ะ โดยคนที่ไว้ใจทำร้ายย

ขอไม่แอบสะใจชามัลน่ะค่ะ ขอสะใจเลย ๕๕๕๕ สมน้ำหน้า


หมูอ้วน 24 ก.พ. 2555, 07:10:53 น.
ตามลุ้นตอนต่อไปค่าาา


SunSeed 24 ก.พ. 2555, 09:42:57 น.
แง่วๆ ตกลงเรื่องจะเป็นไงต่อไปเนี่ย ยิ่งอ่านยิ่งคิดไม่ออกว่าใครจะเป็นพระเอก แต่ที่แน่ๆ พ่อชามารก็ยังมาเป็นที่หนึ่งนะ แต่อัคนิวรา โหดอ่ะ บ้าขึ้นมาก็ไปลงยัยมิ๊งค์ ยัยมิ๊งซวยตลอด เหอๆๆๆ


XaWarZd 1 มี.ค. 2555, 11:16:07 น.
สรุปใครเป็นพระเอกเนี่ย เดาไม่ถูกแล้ว ไม่รู้จะเดาไง แล้วหนูมิ้งค์สลบไปแบบไหนเนี่ย ตายหรือรอด (จะตายได้ไงย่ะ ตายเรื่องก็จบเด่ะ ถามมาได้)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account