กฤตยามหาภูต โดย ตารกา (รอวางแผง)
"มหาสงครามแห่งเทพและอสูรกำลังจะอุบัติขึ้น ทางเดียวที่จะหยุดยั้งได้คือใช้ศิวะตรีศูล อาวุธเทพในตำนาน ผู้เดียวที่รู้ว่ามันอยู่ที่ใดคือเธอ เทวีแห่งสายฟ้าผู้ซึ่งกลับมาจุติใหม่โดยไร้ความทรงจำในอดีตชาติ"
เรื่องกฤตยามหาภูตเขียนจบมานานแล้วค่ะ
ตอนนี้ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ตะวันส่อง (ใช้นามปากกาตารกา)
แต่ว่าไม่วางแผงสักทีเพราะเหตุขัดห้อง (ปีกว่าได้แล้ว)
บกแจ้งมาว่าปกกับเนื้อในพิมพ์คนละไซค์ค่ะ กำลังพยายามแก้ไขอยู่
ระหว่างนั้นก็เกิดน้ำท่วม ก็เลยต้องรอกันต่อไป
หลายคนถามหาบอกว่าคิดถึง เลยเอามาลงให้อ่านฆ่าเวลาก่อนค่ะ ^O^
เรื่องกฤตยามหาภูตเขียนจบมานานแล้วค่ะ
ตอนนี้ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ตะวันส่อง (ใช้นามปากกาตารกา)
แต่ว่าไม่วางแผงสักทีเพราะเหตุขัดห้อง (ปีกว่าได้แล้ว)
บกแจ้งมาว่าปกกับเนื้อในพิมพ์คนละไซค์ค่ะ กำลังพยายามแก้ไขอยู่
ระหว่างนั้นก็เกิดน้ำท่วม ก็เลยต้องรอกันต่อไป
หลายคนถามหาบอกว่าคิดถึง เลยเอามาลงให้อ่านฆ่าเวลาก่อนค่ะ ^O^
Tags: แฟนตาซี ผจญภัย เทพ เทวี ปีศาจ วรรณกรรมเยาวชน ความรัก ปริศนา อดีตชาติ
ตอน: ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 4 ผิดใจ
บทที่ 4 ผิดใจ
ความทรงจำในอดีตชาติของวิชชุตาที่กลับคืนมาเป็นความทรงจำเศษเสี้ยวเล็กๆ ไม่ถึงกับหนึ่งในพันด้วยซ้ำ หญิงสาวจึงยังจำเรื่องราวในอดีตได้อย่างเลือนราง สิ่งที่ได้คืนมาอย่างครบถ้วนมีเพียงความผูกพันที่วิชชุตาเทวีมีต่อวชิรเทพ หญิงสาวสามารถสวมกอดเขาได้อย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย ทั้งยังเอ่ยออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่านี่คือพี่ชายของเธอ
วิชชุตาทำตัวติดกันกับพี่ชายคนใหม่จนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ เช้าก็ให้เขาไปรับ มื้อเที่ยงมื้อเย็นก็กินข้าวด้วยกัน จากนั้นก็ไปขลุกอยู่ที่ห้องของชายหนุ่มจนดึกดื่น
คนหวงเพื่อนอย่างนิศารัตน์เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงนี้โดยไม่พูดอะไร เธอเองก็มีส่วนผิดที่เป็นคนทำลายผนึก หญิงสาวจึงตัดสินใจว่าตราบใดที่วิชชุตาไม่พาวชิรเทพเข้ามาในห้องและไม่ได้ทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเธอจะทำเป็นเมินเฉยมองไม่เห็นเสีย
แต่แล้วนิศารัตน์ก็เจอเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรจนได้เมื่อวิชชุตาโทรศัพท์มาบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับห้อง จะนอนค้างที่ห้องพี่ชายและจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงวันจันทร์
“วันพุธจะสอบเคมีแล้ว เสาร์อาทิตย์นี้ก็เลยจะให้พี่ชายติวให้”
ถ้าพูดกับคนอื่นหญิงสาวจะแทนตัววชิรเทพว่าพี่ชาย แต่เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังเธอจะเรียกเขาว่าท่านพี่อย่างในชาติก่อน
“ไม่ได้! เธอจะไปค้างในห้องผู้ชายได้ยังไงฟ้า คนอื่นรู้เข้าเธอจะเสียหายได้นะ” นิศารัตน์เอ่ยเตือนสติ
คนนอกเข้าใจว่าสองคนนี้คบหากันอยู่ ถึงจะเป็นพี่น้องในอดีตชาติแต่ชาตินี้ก็ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เธอจึงอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้
“นี่พี่ชายฉันนะนิ คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขาเถอะ”
“ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงแม่บ้าง ถ้าแม่เธอรู้เข้าจะอธิบายยังไงให้เข้าใจฮึฟ้า แม่เธอมิเข้าใจผิดแล้วเสียใจแย่เหรอ”
“ปิดไม่ให้แม่รู้คงไม่เป็นไรมั้ง”
คำพูดของเพื่อนทำให้นิศารัตน์ถอนใจยาว เธอกับวิชชุตาเกิดห่างกันแค่วันเดียวเจ้าหล่อนยังลืมวันเกิดเธอได้ลงคอ นิศารัตน์แอบเคืองอยู่ในใจแต่ก็ยังหายโกรธได้เพราะได้ของขวัญย้อนหลัง สิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจที่สุดคือวิชชุตาไม่ใช่แค่ละเลยเพื่อนแต่ยังไม่สนใจแม่ด้วย เจ้าหล่อนมัวแต่อยู่กับพี่ชายจนลืมรับโทรศัพท์แม่ ปกติที่เคยโทรหาที่บ้านเกือบทุกวันก็เงียบหายไป จนคุณน้าทิพย์อาภาเป็นห่วงต้องโทรศัพท์มาถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น
นิศารัตน์เลยจำต้องช่วยโกหกไปว่าช่วงนี้เรียนหนักมาก กิจกรรมก็เยอะ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา คุณน้าไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ทั้งยังฝากฝังให้เธอช่วยดูแลเพื่อนอีกต่างหากเพราะเขาใจว่าลูกสาวคงเครียด นิศารัตน์ทนไม่ไหวจึงเอ่ยเตือนสติไปอีกว่า
“ช่วงนี้เธอมัวแต่สนใจพี่ชายจนลืมแม่ไปเลยนะฟ้า โทรหาแม่บ้างสิ”
“รู้แล้วน่า แค่นี้ก่อนนะ จะออกไปกินข้าวกับพี่ชายแล้ว” วิชชุตาเอ่ยรับอย่างขอไปที
เห็นทีคำเตือนนี้จะเป็นเพียงลมปากเสียแล้วกระมัง ลอยเข้าหูแล้วก็ทะลุผ่านไปไม่ทำให้เกิดผลอะไรตามมา
จากนั้นนิศารัตน์กับวิชชุตาแทบจะไม่ได้พูดกันเลยจนกระทั่งถึงวันสอบวันสุดท้าย นิศารัตน์จึงตัดสินใจคุยเปิดอกกับเพื่อนให้รู้เรื่อง เธออยากจะเตือนอย่างจริงจังให้วิชชุตารู้ตัวว่ากำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี
ก่อนเข้าห้องสอบวิชาสุดท้ายนิศารัตน์จึงบอกให้วิชชุตาอยู่รอเธอก่อนถ้าทำข้อสอบเสร็จเร็ว ทว่าหญิงสาวกลับไม่ยอมรอพบ เพื่อนที่อยู่แถวนั้นบอกว่าวิชชุตากลับไปกับแฟนแล้ว
แฟนที่ว่าก็คือวชิรเทพอย่างไม่ต้องสงสัย นิศารัตน์เข่นเขี้ยวอย่างโมโห เธออดทนกับวิชชุตามามากพอแล้ว ถ้าวันนี้ไม่คุยกันให้รู้เรื่องรู้ราวไปเห็นทีจะคบกันต่อไปไม่ได้
หญิงสาวบุกไปถึงห้องพักของวชิรเทพด้วยความโกรธ ยิ่งพอได้เห็นวิชชุตาทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกผิด หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเดือดดาล
“ฉันย้ำแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้เธอรอ”
“ก็นิทำข้อสอบเสร็จช้านี่ พี่ชายมารออยู่ตั้งนานแล้วก็เลยพากันกลับมาก่อน กะอยู่เหมือนกันว่าถ้าหมดเวลาสอบแล้วจะโทรบอก”
คำแก้ต่างของวิชชุตากลายเป็นเชื้อไฟที่ยิ่งทำให้อารมณ์เสีย ตั้งแต่คบกันมาเพื่อนเธอไม่เคยผิดสัญญาและทำตัวแย่อย่างนี้มาก่อนจนกระทั่งได้พบกับวชิรเทพ หญิงสาวจึงโทษว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของเขา
“เพราะนายคนเดียวฟ้าก็เลยเป็นแบบนี้ ฟ้าลืมแม่ ลืมเพื่อน สนใจแต่นาย นายกำลังจะทำให้ชีวิตฟ้าพังนะรู้ตัวรึเปล่า แม่ฟ้าจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าลูกสาวเอาแต่ขลุกอยู่กับผู้ชายแบบนี้ เพื่อนๆ ก็เริ่มลือกันไปในทางที่ไม่ดีแล้ว”
วชิรเทพฟังนิศารัตน์พูดอย่างใจเย็นโดนไม่โต้ตอบ ผิดกับวิชชุตาที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน
“เธอพูดแรงไปแล้วนิ พี่ชายไม่ได้ผิดอะไร แล้วเราก็บริสุทธิ์ใจต่อกัน เธอก็รู้นี่ว่าระหว่างเราเป็นยังไง ทำไมถึงยังพูดอย่างนี้ออกมา เธอเป็นอะไรไปนิ”
“คนที่ผิดปกติคือเธอต่างหากฟ้า” นิศารัตน์หันหน้ามาสบตาด้วยแววตาตัดพ้อ
“ฉันปกติดีแล้วก็มีความสุขดีด้วย เธอเลิกห่วงฉันได้แล้วนิ คนเรามีชีวิตเป็นของตัวเอง ขอให้ฉันได้ใช้ชีวิตตามใจฉันเถอะ”
วิชชุตาเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างเพราะความเจ้ากี้เจ้าการของเพื่อน เธอไม่ได้ทำให้นิศารัตน์เดือดร้อนเสียหน่อย ทำไมต้องมาคอยวุ่นวายบงการชีวิตเธอด้วย
“ถ้าฉันไม่หวังดีกับเธอฉันไม่พูดแบบนี้หรอกนะฟ้า ถอยห่างออกมาจากผู้ชายคนนี้ซะ” นิศารัตน์ตอบกลับแล้วหันไปจ้องวชิรเทพอย่างเอาเรื่อง “ทำให้เพื่อนฉันกลับเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้นะ”
หญิงสาวทำท่าเหมือนจะตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อวชิรเทพ วิชชุตาเห็นท่าไม่ดีจึงปราดเข้ามาขวางระหว่างพี่กับเพื่อนไว้ มันบอกให้รู้ว่าเธอเลือกที่จะเข้าข้างวชิรเทพมากกว่าเพื่อนสนิทอย่างนิศารัตน์
ดวงตาสีนิลใต้กรอบแว่นสลดวูบ วิชชุตาที่ยืนอยู่ตรงนี้คือวิชชุตาแต่ไม่ใช่เพื่อนรักที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป
“ตามใจก็แล้วกัน ต่อไปนี่อยากจะทำอะไรก็เชิญ ฉันจะไม่ยุ่งกับเธออีกแล้ว” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าแล้ววิ่งออกมาจากห้องด้วยความน้อยใจ
“อะไรของเขาก็ไม่รู้ พาลจัง ท่านพี่อย่าถือสานางเลยนะ” วิชชุตาหันมายิ้มหวานให้กับพี่ชายด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ว่าอะไรหรอก พี่มีคนที่อยากให้เจ้าพบ มานี่ดีกว่า”
ชายหนุ่มโอบตัวน้องสาวมานั่งที่โซฟารับแขก พอทั้งสองคนนั่งลงร่างโปร่งแสงร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางห้อง ร่างนี้มีรูปลักษณ์เป็นชายสูงวัยรูปร่างสันทัด ดวงตารีเล็ก ริมฝีปากอิ่ม เวลายิ้มแล้วเหมือนอาแป๊ะแก่ๆ ท่าทางใจดี
“ข้าน้อยของคารวะองค์เทพและองค์เทวีทั้งสอง” เทพดาราค้อมตัวให้อย่างอ่อนน้อม
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเทพที่มีความสามารถในการพยากรณ์ แต่เทพดาราก็เป็นเทพระดับต่ำ เมื่อครั้งเหล่าทวยเทพยังไม่หลับใหล ตัวเขานั้นมีหน้าที่เป็นเพียงบรรณารักษ์เฝ้าหอสมุดดาราเท่านั้น
“อย่ามากพิธีเลย คนกันเองทั้งนั้น” ชายหนุ่มเอ่ยแล้วหันไปถามวิชชุตาเสียงนุ่ม “จำเทพดาราได้ไหมเจ้า ตอนเด็กๆ เรามักจะไปเที่ยวเล่นที่หอสมุดดาราที่ท่านเทพดูแลเสมอ”
วิชชุตาพิจารณาใบหน้าของชายชราแล้วก็ส่ายหน้า เธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย
“องค์เทวีลืมข้าเสียแล้วรึนี่ โอ้แย่จริง คนแก่อย่างข้าคงไม่มีอะไรให้น่าจดจำ” เทพชราตัดพ้ออย่างน้อยใจ เนื่องจากเคยเอ็นดูองค์เทวีองค์นี้ดั่งลูกหลาน
“วิชชุตาไม่ได้มีเจตนาจะลืมท่านหรอก นางถูกใครบางคนผนึกความทรงจำเอาไว้ ข้าก็เลยอยากจะปรึกษาท่านเรื่องการคลายสะกด”
เทพดาราอยู่ในหอสมุดดารามานาน ในนั้นมาสรรพวิชาบรรจุอยู่ อาจจะรู้วิธีแก้ไขให้ความทรงจำของวิชชุตาเทวีคืนมาทั้งหมด
“แล้วเรื่องศิวะตรีศูลเล่า องค์เทวีจำได้หรือไม่”
“นางจำอย่างอื่นนอกจากข้าไม่ได้เลย”
สีหน้าของเทพดารามีแววผิดหวังอย่างปิดไม่มิดเมื่อได้รู้ความจริง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาประจบเอาใจสองพี่น้องก็เพราะว่าวิชชุตาเทวีเป็นผู้กุมความลับเรื่องนี้ เผื่อการณ์ข้างหน้าเมื่อทวยเทพกลับมาเป็นใหญ่ในพื้นพิภพ เขาจะได้รับตำแหน่งใหญ่โตกว่าที่เคยทำ
“ทุกครั้งที่นางเริ่มจำอะไรได้ นางจะปวดหัวและความทรงจำนั้นก็จะถูกดูดกลับไป ที่หน้าผากนางมีตราสัญลักษณ์ที่มองไม่เห็นอยู่ ข้าคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผนึกความทรงจำของนางไว้ ท่านพอจะรู้วิธีแก้ไขรึเปล่าเพราะข้าเองไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย”
ถึงเป็นเทพระดับสูงแต่วชิรเทพถูกฝึกฝนมาเพื่อให้เป็นนักรบ เวทที่ถนัดจึงมีแต่เวทที่ใช้สำหรับการต่อสู้ เวทรักษาหรือเวทคำสาปนั้นแทบจะไม่เคยได้ศึกษา
“ข้าขอลองนึกดูก่อนขอรับ”
เทพชราลูบคางเกลี้ยงเกลาของตัวเอง นัยน์ตาที่กำลังครุ่นคิดอยู่แฝงเอาไว้ด้วยแววเจ้าเล่ห์จับจิต เทพดารานึกวิธีปลดผนึกความทรงจำไม่ออก สิ่งที่คิดได้ก็มีแต่วิธีที่จะทำให้ตนได้ลาภยศสรรเสริญและความยิ่งใหญ่เท่านั้น
“ขอเวลาข้าตรองดูสักหน่อย ข้าจะพยายามช่วยเหลือท่านทั้งสองอย่างสุดกำลัง”
หมดธุระเทพดาราก็เอ่ยขอตัวพาจิตกลับไปยังร่างมนุษย์ของตน ทิ้งสองพี่น้องให้อยู่กันตามลำพังอีกครั้ง
“อดทนอีกนิดนะน้องพี่ พี่จะพยายามช่วยเจ้าให้ได้”
ทุกครั้งที่เริ่มจำอะไรได้วิชชุตาจะมีอาการปวดหัว บางครั้งก็เป็นลมหมดสติไป วชิรเทพไม่อยากให้น้องต้องทนทรมานจึงพยายามหาทางช่วย ในภพนี้เขารู้จักเทพที่กลับมาจุติเพียงไม่กี่องค์ ส่วนใหญ่ต่างก็เจนจัดในการต่อสู้มากกว่าคลายคำสาป ความหวังสุดท้ายที่เหลือก็คือต้องพึ่งเทพดารา
“ถึงข้าจะจำไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ขอเพียงมีท่านพี่อยู่ข้างๆ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” วิชชุตาอิงศีรษะซบกับไหล่ของพี่ชายแล้วรอคอยให้มืออบอุ่นมาลูบไล้ที่เรือนผม
“เด็กขี้อ้อน” คนเป็นพี่เอ่ยอย่างเอ็นดู ก่อนจะลูบหัวให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ
ในขณะที่น้องน้อยหลับตาพริ้มอย่างสุขใจ ห้วงความคิดของคนเป็นพี่กลับหลุดลอยไปไกล ชื่อศิวะตรีศูลที่เทพดาราเอ่ยออกมาสะกิดเตือนให้รำลึกถึงวันคืนแห่งโศกนาฏกรรมระหว่างเทพและปีศาจ วันเดียวกันกับวันที่เขาต้องสูญเสียน้องสาวอันเป็นที่รักไป
วชิรเทพคือหนึ่งในทัพหน้าในสงครามครั้งนั้น เวลาออกรบคราใดก็จะมีวิชชุตาเทวีคอยระวังหลังให้ แต่เมื่อนางได้กลายเป็นจอมเทวีแห่งสรวงสรรค์แล้ว ก็มิอาจลงมายกทัพจับศึกได้ดังเก่า เพราะความห่วงใยที่มีต่อพี่นางจึงได้ฝากวารัคคนีของนางเอามาให้ไว้แทนตัวเมื่อคราวต้องออกรบ
ขณะที่ทั้งสองทัพกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีคู่คี่ องค์ภูเตศวรก็มีชัยเหนือจอมปีศาจ จอมเทพใช้พลังผนึกจอมปีศาจเอาไว้ รัศมีสีทองจากองค์เทพเปล่งประกายเจิดจ้าสลายความมืดไปจนสิ้น ในขณะที่เหล่าเทพกำลังจะไชโยโห่ร้อง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รัศมีสีทองของจอมเทพไม่หยุดแผ่ขยาย และเริ่มเปล่งรัศมีพลังที่เข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ
พื้นดินที่จอมเทพยืนอยู่เริ่มแยกออกจากกัน ลาวาร้อนแรงค่อยๆ ปะทุออกมาจากรอยแยกนั้น ความหายนะแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว
‘จอมเทพควบคุมพลังไม่ได้ พระองค์กำลังจะทำลายโลก ช่วยกันสกัดไว้’ เสียงพสุธาเทพตะโกนก้อง
ทว่าต่อให้ใช้เทพทั้งกองทัพก็ไม่อาจหยุดยั้งพลังแต่หายนะนี้เอาไว้ได้ ก่อนที่ถึงกาลที่โลกจะกลายเป็นผุยผง วิชชุตาเทวีได้ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับไข่มุกจันทรา อาวุธเทพที่มีอำนาจเทียบเคียงกับศิวะตรีศูล นางใช้ไข่มุกจันทราสะกดองค์ภูเตศวรเอาไว้ โลกจึงยังดำรงอยู่ได้โดยไม่แดกดับ ทว่าสิ่งที่ต้องแลกกับหลายล้านชีวิตบนโลกก็คือกายทิพย์ของวิชชุตาเทวี
ร่างของนางสูญสลายไปต่อหน้าต่อตาโดยที่วชิรเทพไม่อาจจะช่วยอะไรได้เลย เทพแห่งสงครามพยายามจะรวบรวมดวงจิตที่กระจัดกระจายของนางสาวเอาไว้ เพื่อที่จะได้ชุบชีวิตให้ แต่ดวงจิตนั้นกลับถูกสายลมแรงพัดหลุดลอยหายไปในอากาศ
วชิรเทพรู้สึกโศกเศร้าและเจ็บใจตัวเองเป็นที่สุด จึงได้ปฏิญาณว่าจะขอติดตามไปเกิดใหม่ในชาติภพที่ดวงจิตของวิชชุตาเทวีไปจุติอยู่ จากนั้นก็หลับใหลไปทันทีที่มหาสงครามยุติลง
“พี่จะขอปกป้องเจ้าด้วยชีวิต ไม่ว่าประวัติศาสตร์จะวนมาซ้ำรอยหรือไม่ก็ตาม” ชายหนุ่มปฏิญาณออกมาจากหัวใจ
เมื่อลาจากเทพสายฟ้าสองพี่น้องมา เทพดารามิได้กลับไปยังกายเนื้อของตนอย่างที่ได้บอกกับสองพี่น้อง เทพชราย้ายจิตไปยังถ้ำลึกในหุบเหวดำมืดซึ่งเป็นที่สิ่งสถิตของความชั่วช้าสามาลย์ทั้งหลาย
หุบเหวลึกนี้คือปากทางเข้าสู่แดนปีศาจซึ่งตั้งอยู่ในมิติแห่งความมืด เมื่อแพ้สงครามเหล่าปีศาจก็ล่าถอยกลับมายังดินแดนดั่งเดิมของตนและอยู่อย่างเจ็บแค้นมาตลอดสามพันปีเพื่อรอคอยให้จอมปีศาจฟื้นคืน
ขณะนี้ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในแดนปีศาจคือ ‘อันธการ’ โอรสองค์เดียวของจอมปีศาจ อันธการบาดเจ็บจากสงครามครั้งก่อนจึงพักรักษาตัวอยู่นานเพิ่งจะลืมตาตื่นเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ ปีศาจเจ้าสำราญสนใจแต่สุรานารีและสิ่งบันเทิงเริงรมย์ของโลกยุคใหม่ ไม่สนใจจะแก้แค้นให้กับบิดาของตน สร้างความอิดหนาระอาใจให้กับเสนาธิการปีศาจซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลยิ่งนัก
เมื่อได้ข่าวว่ามีเทพมาขอเข้าเฝ้าเจ้าชายปีศาจทั้งยังมีข้อเสนอดีๆ มาให้ เสนาธิการปีศาจจึงบุกเข้าไปในเขตต้องห้ามเพื่อตามตัวอันธการให้ออกมาทำหน้าที่
พอท่านเสนาธิการปีศาจย่างก้าวเข้าในในห้องโถง บรรยากาศอึกทึกของงานปาร์ตี้แบบมนุษย์ก็เงียบลงราวกับว่าเกิดเหตุไฟดับขึ้นกลางงาน
ทันทีที่เห็นหน้าพี่เลี้ยงซึ่งท่านพ่อทิ้งเอาไว้ให้ก่อนหลับยาว เจ้าชายปีศาจก็แสยะริมฝีปากอย่างเหนื่อยหน่าย รากษสคอยแต่จะหางานให้ทำเรื่อย มีแต่เรื่องทำชั่วกับเตรียมทำสงครามกับเทพ รบรากันมาไม่รู้กี่พันกี่หมื่นปีไม่รู้จักหน่ายกันบ้างหรือไรหนอ
“มีอะไรก็รีบว่ามา” อันธการที่กำลังคลอเคลียอยู่กับเหล่าปีศาจสาวแสนสวยเอ่ยอย่างรำคาญ
“ที่ปากประตูมิติมีเทพมาขอเข้าเฝ้าเจ้าชายพระเจ้าค่ะ”
“พวกเทพจะทำสัญญาสงบศึกรึไง ดี…บอกพวกมันไปว่าข้าไม่คิดจะทำศึก ท่านพ่อฟื้นเมื่อไรค่อยว่ากันใหม่”
พูดจบก็ดีดนิ้วให้เสียงเพลงร็อคบาดหูกลับมาดังสนั่นลั่นห้องอีกครั้ง ทว่าอึดใจต่อมาเสียงเพลงก็กลับเงียบลงดังเดิมด้วยฝีมือของเสนาธิการปีศาจรากษส
“ข้าพระองค์ว่าฝ่าบาทควรให้เทพองค์นี้เข้าเฝ้าสักหน่อยนะพระเจ้าค่ะ มันมีข้อเสนอที่น่าสนใจทีเดียวเกี่ยวกับศิวะตรีศูล ฝ่าบาท…”
พูดได้เท่านี้เสียงเพลงก็กลับมาดังอีกครั้งคราวนี้เป็นท่อนแรพร้องแทนคำตอบปฏิเสธว่า ‘ไม่’ พร้อมคำหยาบคายยาวเหยียด
รากษสจึงตัดสินใจงัดไม้ตายสุดท้ายออกมาใช้ ในเมื่อเจ้าชายไม่สนใจศิวะตรีศูลก็ต้องทำให้สนใจของอีกอย่างแทน
“ข้าพระองค์ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ ข้าพระองค์ไม่นึกว่าฝ่าบาทจะหมดความสนใจในตัววิชชุตาเทวีไปแล้ว” เสนาธิการปีศาจตะโกนเสียงดังแข่งกับเพลง
อันธการได้ฉายาว่าเป็นปีศาจมากราคะ หากอยากได้หญิงใดก็ต้องทำทุกวิถีทางให้ได้มา ต่อให้เป็นนางสวรรค์ก็ยังคิดหาอุบายเอามาครอบครองจนได้ ทว่าก็มีอยู่ผู้หนึ่งที่หลุดรอดเงื้อมือของอันธการมาได้ นางผู้นั้นก็คือวิชชุตาเทวี นางไม่ได้มีดีแค่รูปโฉมแต่ฝีมือร้ายกาจล้ำเลิศยิ่งกว่าหน้าตามากนัก กลอุบายใช้กับนางไม่ได้ผลเพราะนางชาญฉลาด ทั้งยังมีพี่ชายตัวร้ายคอยดูแล พอนางขึ้นเป็นมเหสีของภูเตศวร เจ้าชายปีศาจจึงจำต้องปล่อยไปอย่างแสนเสียดาย
นามของวิชชุตาเทวีทำให้เสียงเพลงหยุดลงโดยพลัน ชื่อนี้กระตุ้นให้เจ้าชายปีศาจไม่รู้สึกปรารถนาหญิงอื่นอีก ปีศาจสาวทั้งหลายจึงถูกไล่ให้ออกไปจนหมดสิ้น
“บอกข้อเสนอของเจ้าเทพนั่นมา” อันธการเอ่ยเมื่อได้อยู่ตามลำพังแล้ว
รากษสยิ้มพรายเมื่อเห็นผู้เป็นนายกลับมาสนใจ ก่อนจะเอ่ยรายละเอียดอย่างรวบรัด
“เทพดาราเสนอว่าจะวางแผนมอบนางให้เรา ขอโปรดอนุญาตให้ข้านำกองพลปีศาจออกไปด้วย”
“ไม่มีทางเด็ดขาด จนกว่าท่านพ่อจะฟื้นคืน อย่าได้หวังว่าข้าจะให้ปีศาจชั้นสูงตนใดออกไปจากมิติแห่งความมืดนี่”
ปีศาจย่อมมีกฎของปีศาจ หากเปรียบแดนมนุษย์เป็นของขวัญที่ผู้ชนะในสงครามศักดิ์สิทธิ์จะได้รับ กฎนี้ก็คือการเฝ้าระวังไม่ให้ปีศาจที่มีอำนาจกล้าแข็งแอบเปิดเอาของขวัญในกล่องไปชื่นชมก่อน
“อีกฝ่ายเป็นถึงวชิรเทพ หากไม่ให้ข้าออกไปก็ยากที่จะรับมือ”
“ฮึ…เจ้านี่แก่จนสนิมเขรอะเชียวนะรากษส ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน ไปตามเจ้าเทพนกสองหัวนั่นมา ข้ามีเรื่องจะคุยกันมัน”
อันธการหัวเราะอย่างครึ้มใจพลางหักนิ้วเป็นเสียงดังกรอบแกรบ ด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าภพนี้จะต้องชิงเอาวิชชุตาเทวีมาครอบครองให้จงได้
ความทรงจำในอดีตชาติของวิชชุตาที่กลับคืนมาเป็นความทรงจำเศษเสี้ยวเล็กๆ ไม่ถึงกับหนึ่งในพันด้วยซ้ำ หญิงสาวจึงยังจำเรื่องราวในอดีตได้อย่างเลือนราง สิ่งที่ได้คืนมาอย่างครบถ้วนมีเพียงความผูกพันที่วิชชุตาเทวีมีต่อวชิรเทพ หญิงสาวสามารถสวมกอดเขาได้อย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย ทั้งยังเอ่ยออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่านี่คือพี่ชายของเธอ
วิชชุตาทำตัวติดกันกับพี่ชายคนใหม่จนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ เช้าก็ให้เขาไปรับ มื้อเที่ยงมื้อเย็นก็กินข้าวด้วยกัน จากนั้นก็ไปขลุกอยู่ที่ห้องของชายหนุ่มจนดึกดื่น
คนหวงเพื่อนอย่างนิศารัตน์เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงนี้โดยไม่พูดอะไร เธอเองก็มีส่วนผิดที่เป็นคนทำลายผนึก หญิงสาวจึงตัดสินใจว่าตราบใดที่วิชชุตาไม่พาวชิรเทพเข้ามาในห้องและไม่ได้ทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเธอจะทำเป็นเมินเฉยมองไม่เห็นเสีย
แต่แล้วนิศารัตน์ก็เจอเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรจนได้เมื่อวิชชุตาโทรศัพท์มาบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับห้อง จะนอนค้างที่ห้องพี่ชายและจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงวันจันทร์
“วันพุธจะสอบเคมีแล้ว เสาร์อาทิตย์นี้ก็เลยจะให้พี่ชายติวให้”
ถ้าพูดกับคนอื่นหญิงสาวจะแทนตัววชิรเทพว่าพี่ชาย แต่เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังเธอจะเรียกเขาว่าท่านพี่อย่างในชาติก่อน
“ไม่ได้! เธอจะไปค้างในห้องผู้ชายได้ยังไงฟ้า คนอื่นรู้เข้าเธอจะเสียหายได้นะ” นิศารัตน์เอ่ยเตือนสติ
คนนอกเข้าใจว่าสองคนนี้คบหากันอยู่ ถึงจะเป็นพี่น้องในอดีตชาติแต่ชาตินี้ก็ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เธอจึงอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้
“นี่พี่ชายฉันนะนิ คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขาเถอะ”
“ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงแม่บ้าง ถ้าแม่เธอรู้เข้าจะอธิบายยังไงให้เข้าใจฮึฟ้า แม่เธอมิเข้าใจผิดแล้วเสียใจแย่เหรอ”
“ปิดไม่ให้แม่รู้คงไม่เป็นไรมั้ง”
คำพูดของเพื่อนทำให้นิศารัตน์ถอนใจยาว เธอกับวิชชุตาเกิดห่างกันแค่วันเดียวเจ้าหล่อนยังลืมวันเกิดเธอได้ลงคอ นิศารัตน์แอบเคืองอยู่ในใจแต่ก็ยังหายโกรธได้เพราะได้ของขวัญย้อนหลัง สิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจที่สุดคือวิชชุตาไม่ใช่แค่ละเลยเพื่อนแต่ยังไม่สนใจแม่ด้วย เจ้าหล่อนมัวแต่อยู่กับพี่ชายจนลืมรับโทรศัพท์แม่ ปกติที่เคยโทรหาที่บ้านเกือบทุกวันก็เงียบหายไป จนคุณน้าทิพย์อาภาเป็นห่วงต้องโทรศัพท์มาถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น
นิศารัตน์เลยจำต้องช่วยโกหกไปว่าช่วงนี้เรียนหนักมาก กิจกรรมก็เยอะ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา คุณน้าไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ทั้งยังฝากฝังให้เธอช่วยดูแลเพื่อนอีกต่างหากเพราะเขาใจว่าลูกสาวคงเครียด นิศารัตน์ทนไม่ไหวจึงเอ่ยเตือนสติไปอีกว่า
“ช่วงนี้เธอมัวแต่สนใจพี่ชายจนลืมแม่ไปเลยนะฟ้า โทรหาแม่บ้างสิ”
“รู้แล้วน่า แค่นี้ก่อนนะ จะออกไปกินข้าวกับพี่ชายแล้ว” วิชชุตาเอ่ยรับอย่างขอไปที
เห็นทีคำเตือนนี้จะเป็นเพียงลมปากเสียแล้วกระมัง ลอยเข้าหูแล้วก็ทะลุผ่านไปไม่ทำให้เกิดผลอะไรตามมา
จากนั้นนิศารัตน์กับวิชชุตาแทบจะไม่ได้พูดกันเลยจนกระทั่งถึงวันสอบวันสุดท้าย นิศารัตน์จึงตัดสินใจคุยเปิดอกกับเพื่อนให้รู้เรื่อง เธออยากจะเตือนอย่างจริงจังให้วิชชุตารู้ตัวว่ากำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี
ก่อนเข้าห้องสอบวิชาสุดท้ายนิศารัตน์จึงบอกให้วิชชุตาอยู่รอเธอก่อนถ้าทำข้อสอบเสร็จเร็ว ทว่าหญิงสาวกลับไม่ยอมรอพบ เพื่อนที่อยู่แถวนั้นบอกว่าวิชชุตากลับไปกับแฟนแล้ว
แฟนที่ว่าก็คือวชิรเทพอย่างไม่ต้องสงสัย นิศารัตน์เข่นเขี้ยวอย่างโมโห เธออดทนกับวิชชุตามามากพอแล้ว ถ้าวันนี้ไม่คุยกันให้รู้เรื่องรู้ราวไปเห็นทีจะคบกันต่อไปไม่ได้
หญิงสาวบุกไปถึงห้องพักของวชิรเทพด้วยความโกรธ ยิ่งพอได้เห็นวิชชุตาทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกผิด หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเดือดดาล
“ฉันย้ำแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้เธอรอ”
“ก็นิทำข้อสอบเสร็จช้านี่ พี่ชายมารออยู่ตั้งนานแล้วก็เลยพากันกลับมาก่อน กะอยู่เหมือนกันว่าถ้าหมดเวลาสอบแล้วจะโทรบอก”
คำแก้ต่างของวิชชุตากลายเป็นเชื้อไฟที่ยิ่งทำให้อารมณ์เสีย ตั้งแต่คบกันมาเพื่อนเธอไม่เคยผิดสัญญาและทำตัวแย่อย่างนี้มาก่อนจนกระทั่งได้พบกับวชิรเทพ หญิงสาวจึงโทษว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของเขา
“เพราะนายคนเดียวฟ้าก็เลยเป็นแบบนี้ ฟ้าลืมแม่ ลืมเพื่อน สนใจแต่นาย นายกำลังจะทำให้ชีวิตฟ้าพังนะรู้ตัวรึเปล่า แม่ฟ้าจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าลูกสาวเอาแต่ขลุกอยู่กับผู้ชายแบบนี้ เพื่อนๆ ก็เริ่มลือกันไปในทางที่ไม่ดีแล้ว”
วชิรเทพฟังนิศารัตน์พูดอย่างใจเย็นโดนไม่โต้ตอบ ผิดกับวิชชุตาที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน
“เธอพูดแรงไปแล้วนิ พี่ชายไม่ได้ผิดอะไร แล้วเราก็บริสุทธิ์ใจต่อกัน เธอก็รู้นี่ว่าระหว่างเราเป็นยังไง ทำไมถึงยังพูดอย่างนี้ออกมา เธอเป็นอะไรไปนิ”
“คนที่ผิดปกติคือเธอต่างหากฟ้า” นิศารัตน์หันหน้ามาสบตาด้วยแววตาตัดพ้อ
“ฉันปกติดีแล้วก็มีความสุขดีด้วย เธอเลิกห่วงฉันได้แล้วนิ คนเรามีชีวิตเป็นของตัวเอง ขอให้ฉันได้ใช้ชีวิตตามใจฉันเถอะ”
วิชชุตาเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างเพราะความเจ้ากี้เจ้าการของเพื่อน เธอไม่ได้ทำให้นิศารัตน์เดือดร้อนเสียหน่อย ทำไมต้องมาคอยวุ่นวายบงการชีวิตเธอด้วย
“ถ้าฉันไม่หวังดีกับเธอฉันไม่พูดแบบนี้หรอกนะฟ้า ถอยห่างออกมาจากผู้ชายคนนี้ซะ” นิศารัตน์ตอบกลับแล้วหันไปจ้องวชิรเทพอย่างเอาเรื่อง “ทำให้เพื่อนฉันกลับเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้นะ”
หญิงสาวทำท่าเหมือนจะตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อวชิรเทพ วิชชุตาเห็นท่าไม่ดีจึงปราดเข้ามาขวางระหว่างพี่กับเพื่อนไว้ มันบอกให้รู้ว่าเธอเลือกที่จะเข้าข้างวชิรเทพมากกว่าเพื่อนสนิทอย่างนิศารัตน์
ดวงตาสีนิลใต้กรอบแว่นสลดวูบ วิชชุตาที่ยืนอยู่ตรงนี้คือวิชชุตาแต่ไม่ใช่เพื่อนรักที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป
“ตามใจก็แล้วกัน ต่อไปนี่อยากจะทำอะไรก็เชิญ ฉันจะไม่ยุ่งกับเธออีกแล้ว” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าแล้ววิ่งออกมาจากห้องด้วยความน้อยใจ
“อะไรของเขาก็ไม่รู้ พาลจัง ท่านพี่อย่าถือสานางเลยนะ” วิชชุตาหันมายิ้มหวานให้กับพี่ชายด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ว่าอะไรหรอก พี่มีคนที่อยากให้เจ้าพบ มานี่ดีกว่า”
ชายหนุ่มโอบตัวน้องสาวมานั่งที่โซฟารับแขก พอทั้งสองคนนั่งลงร่างโปร่งแสงร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางห้อง ร่างนี้มีรูปลักษณ์เป็นชายสูงวัยรูปร่างสันทัด ดวงตารีเล็ก ริมฝีปากอิ่ม เวลายิ้มแล้วเหมือนอาแป๊ะแก่ๆ ท่าทางใจดี
“ข้าน้อยของคารวะองค์เทพและองค์เทวีทั้งสอง” เทพดาราค้อมตัวให้อย่างอ่อนน้อม
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเทพที่มีความสามารถในการพยากรณ์ แต่เทพดาราก็เป็นเทพระดับต่ำ เมื่อครั้งเหล่าทวยเทพยังไม่หลับใหล ตัวเขานั้นมีหน้าที่เป็นเพียงบรรณารักษ์เฝ้าหอสมุดดาราเท่านั้น
“อย่ามากพิธีเลย คนกันเองทั้งนั้น” ชายหนุ่มเอ่ยแล้วหันไปถามวิชชุตาเสียงนุ่ม “จำเทพดาราได้ไหมเจ้า ตอนเด็กๆ เรามักจะไปเที่ยวเล่นที่หอสมุดดาราที่ท่านเทพดูแลเสมอ”
วิชชุตาพิจารณาใบหน้าของชายชราแล้วก็ส่ายหน้า เธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย
“องค์เทวีลืมข้าเสียแล้วรึนี่ โอ้แย่จริง คนแก่อย่างข้าคงไม่มีอะไรให้น่าจดจำ” เทพชราตัดพ้ออย่างน้อยใจ เนื่องจากเคยเอ็นดูองค์เทวีองค์นี้ดั่งลูกหลาน
“วิชชุตาไม่ได้มีเจตนาจะลืมท่านหรอก นางถูกใครบางคนผนึกความทรงจำเอาไว้ ข้าก็เลยอยากจะปรึกษาท่านเรื่องการคลายสะกด”
เทพดาราอยู่ในหอสมุดดารามานาน ในนั้นมาสรรพวิชาบรรจุอยู่ อาจจะรู้วิธีแก้ไขให้ความทรงจำของวิชชุตาเทวีคืนมาทั้งหมด
“แล้วเรื่องศิวะตรีศูลเล่า องค์เทวีจำได้หรือไม่”
“นางจำอย่างอื่นนอกจากข้าไม่ได้เลย”
สีหน้าของเทพดารามีแววผิดหวังอย่างปิดไม่มิดเมื่อได้รู้ความจริง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาประจบเอาใจสองพี่น้องก็เพราะว่าวิชชุตาเทวีเป็นผู้กุมความลับเรื่องนี้ เผื่อการณ์ข้างหน้าเมื่อทวยเทพกลับมาเป็นใหญ่ในพื้นพิภพ เขาจะได้รับตำแหน่งใหญ่โตกว่าที่เคยทำ
“ทุกครั้งที่นางเริ่มจำอะไรได้ นางจะปวดหัวและความทรงจำนั้นก็จะถูกดูดกลับไป ที่หน้าผากนางมีตราสัญลักษณ์ที่มองไม่เห็นอยู่ ข้าคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผนึกความทรงจำของนางไว้ ท่านพอจะรู้วิธีแก้ไขรึเปล่าเพราะข้าเองไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย”
ถึงเป็นเทพระดับสูงแต่วชิรเทพถูกฝึกฝนมาเพื่อให้เป็นนักรบ เวทที่ถนัดจึงมีแต่เวทที่ใช้สำหรับการต่อสู้ เวทรักษาหรือเวทคำสาปนั้นแทบจะไม่เคยได้ศึกษา
“ข้าขอลองนึกดูก่อนขอรับ”
เทพชราลูบคางเกลี้ยงเกลาของตัวเอง นัยน์ตาที่กำลังครุ่นคิดอยู่แฝงเอาไว้ด้วยแววเจ้าเล่ห์จับจิต เทพดารานึกวิธีปลดผนึกความทรงจำไม่ออก สิ่งที่คิดได้ก็มีแต่วิธีที่จะทำให้ตนได้ลาภยศสรรเสริญและความยิ่งใหญ่เท่านั้น
“ขอเวลาข้าตรองดูสักหน่อย ข้าจะพยายามช่วยเหลือท่านทั้งสองอย่างสุดกำลัง”
หมดธุระเทพดาราก็เอ่ยขอตัวพาจิตกลับไปยังร่างมนุษย์ของตน ทิ้งสองพี่น้องให้อยู่กันตามลำพังอีกครั้ง
“อดทนอีกนิดนะน้องพี่ พี่จะพยายามช่วยเจ้าให้ได้”
ทุกครั้งที่เริ่มจำอะไรได้วิชชุตาจะมีอาการปวดหัว บางครั้งก็เป็นลมหมดสติไป วชิรเทพไม่อยากให้น้องต้องทนทรมานจึงพยายามหาทางช่วย ในภพนี้เขารู้จักเทพที่กลับมาจุติเพียงไม่กี่องค์ ส่วนใหญ่ต่างก็เจนจัดในการต่อสู้มากกว่าคลายคำสาป ความหวังสุดท้ายที่เหลือก็คือต้องพึ่งเทพดารา
“ถึงข้าจะจำไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ขอเพียงมีท่านพี่อยู่ข้างๆ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” วิชชุตาอิงศีรษะซบกับไหล่ของพี่ชายแล้วรอคอยให้มืออบอุ่นมาลูบไล้ที่เรือนผม
“เด็กขี้อ้อน” คนเป็นพี่เอ่ยอย่างเอ็นดู ก่อนจะลูบหัวให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ
ในขณะที่น้องน้อยหลับตาพริ้มอย่างสุขใจ ห้วงความคิดของคนเป็นพี่กลับหลุดลอยไปไกล ชื่อศิวะตรีศูลที่เทพดาราเอ่ยออกมาสะกิดเตือนให้รำลึกถึงวันคืนแห่งโศกนาฏกรรมระหว่างเทพและปีศาจ วันเดียวกันกับวันที่เขาต้องสูญเสียน้องสาวอันเป็นที่รักไป
วชิรเทพคือหนึ่งในทัพหน้าในสงครามครั้งนั้น เวลาออกรบคราใดก็จะมีวิชชุตาเทวีคอยระวังหลังให้ แต่เมื่อนางได้กลายเป็นจอมเทวีแห่งสรวงสรรค์แล้ว ก็มิอาจลงมายกทัพจับศึกได้ดังเก่า เพราะความห่วงใยที่มีต่อพี่นางจึงได้ฝากวารัคคนีของนางเอามาให้ไว้แทนตัวเมื่อคราวต้องออกรบ
ขณะที่ทั้งสองทัพกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีคู่คี่ องค์ภูเตศวรก็มีชัยเหนือจอมปีศาจ จอมเทพใช้พลังผนึกจอมปีศาจเอาไว้ รัศมีสีทองจากองค์เทพเปล่งประกายเจิดจ้าสลายความมืดไปจนสิ้น ในขณะที่เหล่าเทพกำลังจะไชโยโห่ร้อง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รัศมีสีทองของจอมเทพไม่หยุดแผ่ขยาย และเริ่มเปล่งรัศมีพลังที่เข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ
พื้นดินที่จอมเทพยืนอยู่เริ่มแยกออกจากกัน ลาวาร้อนแรงค่อยๆ ปะทุออกมาจากรอยแยกนั้น ความหายนะแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว
‘จอมเทพควบคุมพลังไม่ได้ พระองค์กำลังจะทำลายโลก ช่วยกันสกัดไว้’ เสียงพสุธาเทพตะโกนก้อง
ทว่าต่อให้ใช้เทพทั้งกองทัพก็ไม่อาจหยุดยั้งพลังแต่หายนะนี้เอาไว้ได้ ก่อนที่ถึงกาลที่โลกจะกลายเป็นผุยผง วิชชุตาเทวีได้ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับไข่มุกจันทรา อาวุธเทพที่มีอำนาจเทียบเคียงกับศิวะตรีศูล นางใช้ไข่มุกจันทราสะกดองค์ภูเตศวรเอาไว้ โลกจึงยังดำรงอยู่ได้โดยไม่แดกดับ ทว่าสิ่งที่ต้องแลกกับหลายล้านชีวิตบนโลกก็คือกายทิพย์ของวิชชุตาเทวี
ร่างของนางสูญสลายไปต่อหน้าต่อตาโดยที่วชิรเทพไม่อาจจะช่วยอะไรได้เลย เทพแห่งสงครามพยายามจะรวบรวมดวงจิตที่กระจัดกระจายของนางสาวเอาไว้ เพื่อที่จะได้ชุบชีวิตให้ แต่ดวงจิตนั้นกลับถูกสายลมแรงพัดหลุดลอยหายไปในอากาศ
วชิรเทพรู้สึกโศกเศร้าและเจ็บใจตัวเองเป็นที่สุด จึงได้ปฏิญาณว่าจะขอติดตามไปเกิดใหม่ในชาติภพที่ดวงจิตของวิชชุตาเทวีไปจุติอยู่ จากนั้นก็หลับใหลไปทันทีที่มหาสงครามยุติลง
“พี่จะขอปกป้องเจ้าด้วยชีวิต ไม่ว่าประวัติศาสตร์จะวนมาซ้ำรอยหรือไม่ก็ตาม” ชายหนุ่มปฏิญาณออกมาจากหัวใจ
เมื่อลาจากเทพสายฟ้าสองพี่น้องมา เทพดารามิได้กลับไปยังกายเนื้อของตนอย่างที่ได้บอกกับสองพี่น้อง เทพชราย้ายจิตไปยังถ้ำลึกในหุบเหวดำมืดซึ่งเป็นที่สิ่งสถิตของความชั่วช้าสามาลย์ทั้งหลาย
หุบเหวลึกนี้คือปากทางเข้าสู่แดนปีศาจซึ่งตั้งอยู่ในมิติแห่งความมืด เมื่อแพ้สงครามเหล่าปีศาจก็ล่าถอยกลับมายังดินแดนดั่งเดิมของตนและอยู่อย่างเจ็บแค้นมาตลอดสามพันปีเพื่อรอคอยให้จอมปีศาจฟื้นคืน
ขณะนี้ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในแดนปีศาจคือ ‘อันธการ’ โอรสองค์เดียวของจอมปีศาจ อันธการบาดเจ็บจากสงครามครั้งก่อนจึงพักรักษาตัวอยู่นานเพิ่งจะลืมตาตื่นเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ ปีศาจเจ้าสำราญสนใจแต่สุรานารีและสิ่งบันเทิงเริงรมย์ของโลกยุคใหม่ ไม่สนใจจะแก้แค้นให้กับบิดาของตน สร้างความอิดหนาระอาใจให้กับเสนาธิการปีศาจซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลยิ่งนัก
เมื่อได้ข่าวว่ามีเทพมาขอเข้าเฝ้าเจ้าชายปีศาจทั้งยังมีข้อเสนอดีๆ มาให้ เสนาธิการปีศาจจึงบุกเข้าไปในเขตต้องห้ามเพื่อตามตัวอันธการให้ออกมาทำหน้าที่
พอท่านเสนาธิการปีศาจย่างก้าวเข้าในในห้องโถง บรรยากาศอึกทึกของงานปาร์ตี้แบบมนุษย์ก็เงียบลงราวกับว่าเกิดเหตุไฟดับขึ้นกลางงาน
ทันทีที่เห็นหน้าพี่เลี้ยงซึ่งท่านพ่อทิ้งเอาไว้ให้ก่อนหลับยาว เจ้าชายปีศาจก็แสยะริมฝีปากอย่างเหนื่อยหน่าย รากษสคอยแต่จะหางานให้ทำเรื่อย มีแต่เรื่องทำชั่วกับเตรียมทำสงครามกับเทพ รบรากันมาไม่รู้กี่พันกี่หมื่นปีไม่รู้จักหน่ายกันบ้างหรือไรหนอ
“มีอะไรก็รีบว่ามา” อันธการที่กำลังคลอเคลียอยู่กับเหล่าปีศาจสาวแสนสวยเอ่ยอย่างรำคาญ
“ที่ปากประตูมิติมีเทพมาขอเข้าเฝ้าเจ้าชายพระเจ้าค่ะ”
“พวกเทพจะทำสัญญาสงบศึกรึไง ดี…บอกพวกมันไปว่าข้าไม่คิดจะทำศึก ท่านพ่อฟื้นเมื่อไรค่อยว่ากันใหม่”
พูดจบก็ดีดนิ้วให้เสียงเพลงร็อคบาดหูกลับมาดังสนั่นลั่นห้องอีกครั้ง ทว่าอึดใจต่อมาเสียงเพลงก็กลับเงียบลงดังเดิมด้วยฝีมือของเสนาธิการปีศาจรากษส
“ข้าพระองค์ว่าฝ่าบาทควรให้เทพองค์นี้เข้าเฝ้าสักหน่อยนะพระเจ้าค่ะ มันมีข้อเสนอที่น่าสนใจทีเดียวเกี่ยวกับศิวะตรีศูล ฝ่าบาท…”
พูดได้เท่านี้เสียงเพลงก็กลับมาดังอีกครั้งคราวนี้เป็นท่อนแรพร้องแทนคำตอบปฏิเสธว่า ‘ไม่’ พร้อมคำหยาบคายยาวเหยียด
รากษสจึงตัดสินใจงัดไม้ตายสุดท้ายออกมาใช้ ในเมื่อเจ้าชายไม่สนใจศิวะตรีศูลก็ต้องทำให้สนใจของอีกอย่างแทน
“ข้าพระองค์ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ ข้าพระองค์ไม่นึกว่าฝ่าบาทจะหมดความสนใจในตัววิชชุตาเทวีไปแล้ว” เสนาธิการปีศาจตะโกนเสียงดังแข่งกับเพลง
อันธการได้ฉายาว่าเป็นปีศาจมากราคะ หากอยากได้หญิงใดก็ต้องทำทุกวิถีทางให้ได้มา ต่อให้เป็นนางสวรรค์ก็ยังคิดหาอุบายเอามาครอบครองจนได้ ทว่าก็มีอยู่ผู้หนึ่งที่หลุดรอดเงื้อมือของอันธการมาได้ นางผู้นั้นก็คือวิชชุตาเทวี นางไม่ได้มีดีแค่รูปโฉมแต่ฝีมือร้ายกาจล้ำเลิศยิ่งกว่าหน้าตามากนัก กลอุบายใช้กับนางไม่ได้ผลเพราะนางชาญฉลาด ทั้งยังมีพี่ชายตัวร้ายคอยดูแล พอนางขึ้นเป็นมเหสีของภูเตศวร เจ้าชายปีศาจจึงจำต้องปล่อยไปอย่างแสนเสียดาย
นามของวิชชุตาเทวีทำให้เสียงเพลงหยุดลงโดยพลัน ชื่อนี้กระตุ้นให้เจ้าชายปีศาจไม่รู้สึกปรารถนาหญิงอื่นอีก ปีศาจสาวทั้งหลายจึงถูกไล่ให้ออกไปจนหมดสิ้น
“บอกข้อเสนอของเจ้าเทพนั่นมา” อันธการเอ่ยเมื่อได้อยู่ตามลำพังแล้ว
รากษสยิ้มพรายเมื่อเห็นผู้เป็นนายกลับมาสนใจ ก่อนจะเอ่ยรายละเอียดอย่างรวบรัด
“เทพดาราเสนอว่าจะวางแผนมอบนางให้เรา ขอโปรดอนุญาตให้ข้านำกองพลปีศาจออกไปด้วย”
“ไม่มีทางเด็ดขาด จนกว่าท่านพ่อจะฟื้นคืน อย่าได้หวังว่าข้าจะให้ปีศาจชั้นสูงตนใดออกไปจากมิติแห่งความมืดนี่”
ปีศาจย่อมมีกฎของปีศาจ หากเปรียบแดนมนุษย์เป็นของขวัญที่ผู้ชนะในสงครามศักดิ์สิทธิ์จะได้รับ กฎนี้ก็คือการเฝ้าระวังไม่ให้ปีศาจที่มีอำนาจกล้าแข็งแอบเปิดเอาของขวัญในกล่องไปชื่นชมก่อน
“อีกฝ่ายเป็นถึงวชิรเทพ หากไม่ให้ข้าออกไปก็ยากที่จะรับมือ”
“ฮึ…เจ้านี่แก่จนสนิมเขรอะเชียวนะรากษส ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน ไปตามเจ้าเทพนกสองหัวนั่นมา ข้ามีเรื่องจะคุยกันมัน”
อันธการหัวเราะอย่างครึ้มใจพลางหักนิ้วเป็นเสียงดังกรอบแกรบ ด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าภพนี้จะต้องชิงเอาวิชชุตาเทวีมาครอบครองให้จงได้
นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.พ. 2555, 16:07:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.พ. 2555, 16:07:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 1792
<< ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 3 ผนึกความทรงจำ | ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 5 ปีศาจนรก >> |
Auuuu 26 ก.พ. 2555, 16:16:03 น.
วชิรเทพรักน้องมากอ่าาา ;_____;)
อยากเห็นฉากมหาสงครามระหว่างเทพกับปีศาจจัง ต้องสนุกมากๆๆ แน่ๆๆ
ป.ล. ไปอ่านเว็บนู้นมาก ไอ๊หย่ะะะะะ นิเก่งมากกกกกกก แอบอยากเห็นฝีมือนิลกาฬ ท่าทางจะไม่ธรรมดา ^__________^
วชิรเทพรักน้องมากอ่าาา ;_____;)
อยากเห็นฉากมหาสงครามระหว่างเทพกับปีศาจจัง ต้องสนุกมากๆๆ แน่ๆๆ
ป.ล. ไปอ่านเว็บนู้นมาก ไอ๊หย่ะะะะะ นิเก่งมากกกกกกก แอบอยากเห็นฝีมือนิลกาฬ ท่าทางจะไม่ธรรมดา ^__________^
นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 16:23:30 น.
คุณ Auuuu วชิระเทพซิสค่อนอ่อนๆ ค่ะ (ยังไม่เลิกจิ้น 5555) มาให้ความรู้เพิ่มเติม แต่อาจจะรู้แล้วก็ได้ ชื่อ อันธการ มีความหมายนะคะ แปลว่า ความมืด แบบกลัวคนอื่นไม่รู้จัด เลยขอพรีเซ็นหน่อย หุๆๆ แบบเรื่องนี้เค้าตั้งใจตั้งชื่อตัวละครมากเลยน้า งุุ้งงิ้ง
คุณ Auuuu วชิระเทพซิสค่อนอ่อนๆ ค่ะ (ยังไม่เลิกจิ้น 5555) มาให้ความรู้เพิ่มเติม แต่อาจจะรู้แล้วก็ได้ ชื่อ อันธการ มีความหมายนะคะ แปลว่า ความมืด แบบกลัวคนอื่นไม่รู้จัด เลยขอพรีเซ็นหน่อย หุๆๆ แบบเรื่องนี้เค้าตั้งใจตั้งชื่อตัวละครมากเลยน้า งุุ้งงิ้ง
Auuuu 26 ก.พ. 2555, 16:25:55 น.
อ๋อๆๆๆ ชื่อเพราะทุกคนเลยนะคะ แล้วก็ไม่อ่านยากด้วย ชื่อเด็กๆเกิดใหม่สมัยนี้ อ่านยากมากๆๆๆๆๆๆ =____="
อ๋อๆๆๆ ชื่อเพราะทุกคนเลยนะคะ แล้วก็ไม่อ่านยากด้วย ชื่อเด็กๆเกิดใหม่สมัยนี้ อ่านยากมากๆๆๆๆๆๆ =____="
นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 16:35:04 น.
คุณ Auuuu สาเหตุที่อ่านยากก็เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกชื่อโหลไงคะ บางคนชื่อยาวมากกกกก เขียนยาก ถูกครูลงโทษให้คัดชื่อนี่สะอื้นเลยนะนี่ แถมอีกคนหนึ่งค่ะ รากษส อ่านว่า ราก-สด นะคะ แปลว่าอสูรดุร้าย ^O^
คุณ Auuuu สาเหตุที่อ่านยากก็เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกชื่อโหลไงคะ บางคนชื่อยาวมากกกกก เขียนยาก ถูกครูลงโทษให้คัดชื่อนี่สะอื้นเลยนะนี่ แถมอีกคนหนึ่งค่ะ รากษส อ่านว่า ราก-สด นะคะ แปลว่าอสูรดุร้าย ^O^
Auuuu 26 ก.พ. 2555, 16:46:01 น.
เราว่าสามารถตั้งชื่อลูกโดยที่ไม่โหล และไม่อ่านยากได้น้า ^^
ขอบคุณค่า :"D
เราว่าสามารถตั้งชื่อลูกโดยที่ไม่โหล และไม่อ่านยากได้น้า ^^
ขอบคุณค่า :"D
Pat 26 ก.พ. 2555, 19:41:55 น.
เข้าใจตั้งชื่อจังค่ะ อ่านแล้วมีนัยยะทุกตัวละครเลย ชอบอ่ะ
เข้าใจตั้งชื่อจังค่ะ อ่านแล้วมีนัยยะทุกตัวละครเลย ชอบอ่ะ
นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 22:31:12 น.
คุณ Auuuu เราก็อยากตั้งชื่อลูกแบบว่าไม่โหลแล้วก็ไม่ยากค่ะ แต่กว่าจะถึงสเตปนั้นต้องมีลูกให้ได้ก่อนสินะ ปัญหาใหญ่ T^T
คุณ Pat ขอบคุณค่า ดีใจที่ชอบ เรื่องนี้เริ่มต้นได้ก็เพราะจากชื่อเนี่ยค่ะ แล้วก็ค่อยๆ แตกยอดไปทีละน้อย ^________^
คุณ Auuuu เราก็อยากตั้งชื่อลูกแบบว่าไม่โหลแล้วก็ไม่ยากค่ะ แต่กว่าจะถึงสเตปนั้นต้องมีลูกให้ได้ก่อนสินะ ปัญหาใหญ่ T^T
คุณ Pat ขอบคุณค่า ดีใจที่ชอบ เรื่องนี้เริ่มต้นได้ก็เพราะจากชื่อเนี่ยค่ะ แล้วก็ค่อยๆ แตกยอดไปทีละน้อย ^________^
Auuuu 26 ก.พ. 2555, 22:32:09 น.
ช่ายเลยค่ะคุณนิชาภา (_ _") แค่หาพ่อของลูกก็ยากแล้ววว =___="
ช่ายเลยค่ะคุณนิชาภา (_ _") แค่หาพ่อของลูกก็ยากแล้ววว =___="
Zephyr 26 ก.พ. 2555, 22:49:18 น.
อ่าตอนนี้ทีไรขัดใจฟ้าทุกที มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ไฟก็ซิสค่อนเกินไปแล้ว ฟ้าก็อะไร(เค้าเรียกไรอ่ะคะ)โบรค่อนเหรอ ฮ่าๆๆๆ มั่วแระ
ถ้าเราเป็นนินะ เราจะไม่ดูดำดูดีเล้ย ให้ตายสิ อ๊ากกกกกก ขัดใจเว้ยยยยยย
มีพสุธาเทพด้วยอ้ะ อิมเมจหมากได้แล้ว ก๊ากก ^^
ขอด่าดทพดาราหน่อยได้มั้ยคะ %$#%%%$##@#$% อ๊าาาาา สบายใจแระ ^^
อันธการ = ปีศาจมากราคะ โห เอาซะเห็นภาพเลยค่ะ
อ่าตอนนี้ทีไรขัดใจฟ้าทุกที มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ไฟก็ซิสค่อนเกินไปแล้ว ฟ้าก็อะไร(เค้าเรียกไรอ่ะคะ)โบรค่อนเหรอ ฮ่าๆๆๆ มั่วแระ
ถ้าเราเป็นนินะ เราจะไม่ดูดำดูดีเล้ย ให้ตายสิ อ๊ากกกกกก ขัดใจเว้ยยยยยย
มีพสุธาเทพด้วยอ้ะ อิมเมจหมากได้แล้ว ก๊ากก ^^
ขอด่าดทพดาราหน่อยได้มั้ยคะ %$#%%%$##@#$% อ๊าาาาา สบายใจแระ ^^
อันธการ = ปีศาจมากราคะ โห เอาซะเห็นภาพเลยค่ะ
Zephyr 26 ก.พ. 2555, 22:51:13 น.
เอ่อ
รวบรวมดวงจิตที่กระจัดกระจายของนางสาว(น้องสาวมั้ยคะ)
เอ หรือพี่ไฟซิสจัดเลยจัดให้เป็นนางสาว อิอิ
เอ่อ
รวบรวมดวงจิตที่กระจัดกระจายของนางสาว(น้องสาวมั้ยคะ)
เอ หรือพี่ไฟซิสจัดเลยจัดให้เป็นนางสาว อิอิ
นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 23:02:35 น.
คุณ Auuuu หาดีไม่ได้ อยู่บนคานสบายกว่า สาวโสดจงเจริญ ชาบู!!!
คุณ Neferretti อันนี้ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์อ่ะค่ะ ส่วนที่พิสูจน์คำผิดแล้วอยู่ที่บก จะขอมาก็เกรงใจ เลยเอาไฟล์เก่าที่มีน่ะค่ะ ^O^
ติดพี่ชายเรียก บราค่อนค่ะ (Brother) ซิค่อนก็ (sister)
คุณ Auuuu หาดีไม่ได้ อยู่บนคานสบายกว่า สาวโสดจงเจริญ ชาบู!!!
คุณ Neferretti อันนี้ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์อ่ะค่ะ ส่วนที่พิสูจน์คำผิดแล้วอยู่ที่บก จะขอมาก็เกรงใจ เลยเอาไฟล์เก่าที่มีน่ะค่ะ ^O^
ติดพี่ชายเรียก บราค่อนค่ะ (Brother) ซิค่อนก็ (sister)
Zephyr 26 ก.พ. 2555, 23:09:19 น.
อ่อ โอเค ค่ะ หวังว่าเรื่องนี้คงมะมีโลลิค่อนนะคะ เอ หรือมีคะ ฮ่าๆๆๆๆ ใครดีหว่า วายุเทพ หมอมารุตละกัน ให้โลลิกะใครดีคะ หึหึ คุณนิไม่จัด เดี๋ยวเราจัดให้ ฮ่าๆๆๆๆ
กลายเป็นยำใหญ่มหากาพย์กฤตยามหาภูต อิอิ
อ่อ โอเค ค่ะ หวังว่าเรื่องนี้คงมะมีโลลิค่อนนะคะ เอ หรือมีคะ ฮ่าๆๆๆๆ ใครดีหว่า วายุเทพ หมอมารุตละกัน ให้โลลิกะใครดีคะ หึหึ คุณนิไม่จัด เดี๋ยวเราจัดให้ ฮ่าๆๆๆๆ
กลายเป็นยำใหญ่มหากาพย์กฤตยามหาภูต อิอิ
Auuuu 26 ก.พ. 2555, 23:14:37 น.
แอบสงสัยเล็กน้อย ว่าคำว่ากฤตยามหาภูต นี่แปลรวมกันว่าอะไรหรอคะ ...
แอบสงสัยเล็กน้อย ว่าคำว่ากฤตยามหาภูต นี่แปลรวมกันว่าอะไรหรอคะ ...
เพลา 26 ก.พ. 2555, 23:23:05 น.
พี่น้องคู่นี้รักกันน่ากลัว เมื่อไหร่พี่ไฟจะหันไปติดหนูนิบ้าง เค้าอยากอ่านกุ๊กกิ๊กของคู่นี้ อิอิ ว่าแต่จะมีรึเปล่าน้า
พี่น้องคู่นี้รักกันน่ากลัว เมื่อไหร่พี่ไฟจะหันไปติดหนูนิบ้าง เค้าอยากอ่านกุ๊กกิ๊กของคู่นี้ อิอิ ว่าแต่จะมีรึเปล่าน้า
นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 23:38:24 น.
คุณ neferretti โลลิไม่มีค่ะ แต่ถ้าเขียนใหม่คงจัดให้สักคน 55555 หนุกหนานเนอะ
คุณ Auuuu กฤตยา แปลว่า เสน่ห์ เล่ห์กล อาถรรพ์ ค่ะ ส่วนมหาภูต คือ ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกันแปลว่า อาถรรพ์แห่งธาตุทั้งสี่ หรือ กลเสน่ห์ของธาตุทั้งสี่ค่ะ ^O6
คุณเพลา เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรตเยาวชน ฉากกุ๊กกิ๊กจึงหาได้ยาก แต่ก็มีนิดนะคะ แว้บๆๆ แว้บบบบบบบบบบบบ จริงๆ 5555
คุณ neferretti โลลิไม่มีค่ะ แต่ถ้าเขียนใหม่คงจัดให้สักคน 55555 หนุกหนานเนอะ
คุณ Auuuu กฤตยา แปลว่า เสน่ห์ เล่ห์กล อาถรรพ์ ค่ะ ส่วนมหาภูต คือ ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกันแปลว่า อาถรรพ์แห่งธาตุทั้งสี่ หรือ กลเสน่ห์ของธาตุทั้งสี่ค่ะ ^O6
คุณเพลา เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรตเยาวชน ฉากกุ๊กกิ๊กจึงหาได้ยาก แต่ก็มีนิดนะคะ แว้บๆๆ แว้บบบบบบบบบบบบ จริงๆ 5555
Auuuu 26 ก.พ. 2555, 23:44:46 น.
ว้าวววว คำแปลเลิศมากกกก ^^
ว้าวววว คำแปลเลิศมากกกก ^^
นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 00:00:09 น.
คุณ Auuuu ทีแรกสำนักพิมพ์จะขอเปลี่ยนชื่อแหละค่ะ แต่ว่าพอชี้แจงเหตุผลเขาไป บก ก็เลยไม่เปลี่ยน ^O^
คุณใบบัวน่ารัก ตอนนี้ดราม่าเล็กๆ ค่า แต่พฤติกรรมของฟ้ามีสาเหตุทำให้เป็นแบบนั้นน้า (สปอยเล็กๆ)
คุณ Auuuu ทีแรกสำนักพิมพ์จะขอเปลี่ยนชื่อแหละค่ะ แต่ว่าพอชี้แจงเหตุผลเขาไป บก ก็เลยไม่เปลี่ยน ^O^
คุณใบบัวน่ารัก ตอนนี้ดราม่าเล็กๆ ค่า แต่พฤติกรรมของฟ้ามีสาเหตุทำให้เป็นแบบนั้นน้า (สปอยเล็กๆ)
Auuuu 27 ก.พ. 2555, 00:10:06 น.
ชื่อเรื่องชวนอ่านมากเลย เพราะตอนแรกเราก็ เอ๊ะ เรื่องไรหว่า พอเปิดอ่าน แล้วเจอบทนำ.. เอาแล้วๆๆๆ โดนใจอย่างแรงงงงง
ชื่อเรื่องชวนอ่านมากเลย เพราะตอนแรกเราก็ เอ๊ะ เรื่องไรหว่า พอเปิดอ่าน แล้วเจอบทนำ.. เอาแล้วๆๆๆ โดนใจอย่างแรงงงงง
Zephyr 27 ก.พ. 2555, 00:14:00 น.
เอ่อ คุณนิขา คุณนิลงกฤตยามหาภูตตอนที่ห้า ผิดเรื่องค่ะ เราไปเปิดมา คุณนิไปลงในเรื่องแป้งร่ำอ่ะค่ะ ในเวบเด็กดีอ่ะ ไปแก้หน่อยนะคะ เดี๋ยววันไม่เรียงกัน ไม่สวยนะ หึหึ ^^
เอ่อ คุณนิขา คุณนิลงกฤตยามหาภูตตอนที่ห้า ผิดเรื่องค่ะ เราไปเปิดมา คุณนิไปลงในเรื่องแป้งร่ำอ่ะค่ะ ในเวบเด็กดีอ่ะ ไปแก้หน่อยนะคะ เดี๋ยววันไม่เรียงกัน ไม่สวยนะ หึหึ ^^
นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 00:27:03 น.
คุณ Auuuu แสดงว่าชอบแฟนตาซีแนวเทพๆ ชิมะคะนี่??
คุณ Neferretti ขอบคุณที่บอกค่า รีบแก้ตาเหลือกเลย T^T
คุณ Auuuu แสดงว่าชอบแฟนตาซีแนวเทพๆ ชิมะคะนี่??
คุณ Neferretti ขอบคุณที่บอกค่า รีบแก้ตาเหลือกเลย T^T
Zephyr 27 ก.พ. 2555, 00:29:03 น.
อ่ะ โอเค ค่ะ แก้แล้ว ^^ น่ารักจังค่ะ อิอิ คู่นี้นี่ จะเป็นยังงั้นได้ตลอดรอดฝั่งมั้ยนะ
อ่ะ โอเค ค่ะ แก้แล้ว ^^ น่ารักจังค่ะ อิอิ คู่นี้นี่ จะเป็นยังงั้นได้ตลอดรอดฝั่งมั้ยนะ
Auuuu 27 ก.พ. 2555, 00:33:48 น.
ช่ายแล้วว ชอบแฟนตาซี จริงๆก้ออ่านทุกแนวแหละค่า ^^
ช่ายแล้วว ชอบแฟนตาซี จริงๆก้ออ่านทุกแนวแหละค่า ^^