กฤตยามหาภูต โดย ตารกา (รอวางแผง)
"มหาสงครามแห่งเทพและอสูรกำลังจะอุบัติขึ้น ทางเดียวที่จะหยุดยั้งได้คือใช้ศิวะตรีศูล อาวุธเทพในตำนาน ผู้เดียวที่รู้ว่ามันอยู่ที่ใดคือเธอ เทวีแห่งสายฟ้าผู้ซึ่งกลับมาจุติใหม่โดยไร้ความทรงจำในอดีตชาติ"



เรื่องกฤตยามหาภูตเขียนจบมานานแล้วค่ะ

ตอนนี้ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ตะวันส่อง (ใช้นามปากกาตารกา)

แต่ว่าไม่วางแผงสักทีเพราะเหตุขัดห้อง (ปีกว่าได้แล้ว)

บกแจ้งมาว่าปกกับเนื้อในพิมพ์คนละไซค์ค่ะ กำลังพยายามแก้ไขอยู่

ระหว่างนั้นก็เกิดน้ำท่วม ก็เลยต้องรอกันต่อไป

หลายคนถามหาบอกว่าคิดถึง เลยเอามาลงให้อ่านฆ่าเวลาก่อนค่ะ ^O^

Tags: แฟนตาซี ผจญภัย เทพ เทวี ปีศาจ วรรณกรรมเยาวชน ความรัก ปริศนา อดีตชาติ

ตอน: ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 4 ผิดใจ

บทที่ 4 ผิดใจ

ความทรงจำในอดีตชาติของวิชชุตาที่กลับคืนมาเป็นความทรงจำเศษเสี้ยวเล็กๆ ไม่ถึงกับหนึ่งในพันด้วยซ้ำ หญิงสาวจึงยังจำเรื่องราวในอดีตได้อย่างเลือนราง สิ่งที่ได้คืนมาอย่างครบถ้วนมีเพียงความผูกพันที่วิชชุตาเทวีมีต่อวชิรเทพ หญิงสาวสามารถสวมกอดเขาได้อย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย ทั้งยังเอ่ยออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่านี่คือพี่ชายของเธอ

วิชชุตาทำตัวติดกันกับพี่ชายคนใหม่จนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ เช้าก็ให้เขาไปรับ มื้อเที่ยงมื้อเย็นก็กินข้าวด้วยกัน จากนั้นก็ไปขลุกอยู่ที่ห้องของชายหนุ่มจนดึกดื่น

คนหวงเพื่อนอย่างนิศารัตน์เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงนี้โดยไม่พูดอะไร เธอเองก็มีส่วนผิดที่เป็นคนทำลายผนึก หญิงสาวจึงตัดสินใจว่าตราบใดที่วิชชุตาไม่พาวชิรเทพเข้ามาในห้องและไม่ได้ทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเธอจะทำเป็นเมินเฉยมองไม่เห็นเสีย

แต่แล้วนิศารัตน์ก็เจอเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรจนได้เมื่อวิชชุตาโทรศัพท์มาบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับห้อง จะนอนค้างที่ห้องพี่ชายและจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงวันจันทร์

“วันพุธจะสอบเคมีแล้ว เสาร์อาทิตย์นี้ก็เลยจะให้พี่ชายติวให้”

ถ้าพูดกับคนอื่นหญิงสาวจะแทนตัววชิรเทพว่าพี่ชาย แต่เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังเธอจะเรียกเขาว่าท่านพี่อย่างในชาติก่อน

“ไม่ได้! เธอจะไปค้างในห้องผู้ชายได้ยังไงฟ้า คนอื่นรู้เข้าเธอจะเสียหายได้นะ” นิศารัตน์เอ่ยเตือนสติ

คนนอกเข้าใจว่าสองคนนี้คบหากันอยู่ ถึงจะเป็นพี่น้องในอดีตชาติแต่ชาตินี้ก็ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เธอจึงอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้

“นี่พี่ชายฉันนะนิ คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขาเถอะ”

“ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงแม่บ้าง ถ้าแม่เธอรู้เข้าจะอธิบายยังไงให้เข้าใจฮึฟ้า แม่เธอมิเข้าใจผิดแล้วเสียใจแย่เหรอ”

“ปิดไม่ให้แม่รู้คงไม่เป็นไรมั้ง”

คำพูดของเพื่อนทำให้นิศารัตน์ถอนใจยาว เธอกับวิชชุตาเกิดห่างกันแค่วันเดียวเจ้าหล่อนยังลืมวันเกิดเธอได้ลงคอ นิศารัตน์แอบเคืองอยู่ในใจแต่ก็ยังหายโกรธได้เพราะได้ของขวัญย้อนหลัง สิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจที่สุดคือวิชชุตาไม่ใช่แค่ละเลยเพื่อนแต่ยังไม่สนใจแม่ด้วย เจ้าหล่อนมัวแต่อยู่กับพี่ชายจนลืมรับโทรศัพท์แม่ ปกติที่เคยโทรหาที่บ้านเกือบทุกวันก็เงียบหายไป จนคุณน้าทิพย์อาภาเป็นห่วงต้องโทรศัพท์มาถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น

นิศารัตน์เลยจำต้องช่วยโกหกไปว่าช่วงนี้เรียนหนักมาก กิจกรรมก็เยอะ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา คุณน้าไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ทั้งยังฝากฝังให้เธอช่วยดูแลเพื่อนอีกต่างหากเพราะเขาใจว่าลูกสาวคงเครียด นิศารัตน์ทนไม่ไหวจึงเอ่ยเตือนสติไปอีกว่า

“ช่วงนี้เธอมัวแต่สนใจพี่ชายจนลืมแม่ไปเลยนะฟ้า โทรหาแม่บ้างสิ”

“รู้แล้วน่า แค่นี้ก่อนนะ จะออกไปกินข้าวกับพี่ชายแล้ว” วิชชุตาเอ่ยรับอย่างขอไปที

เห็นทีคำเตือนนี้จะเป็นเพียงลมปากเสียแล้วกระมัง ลอยเข้าหูแล้วก็ทะลุผ่านไปไม่ทำให้เกิดผลอะไรตามมา


จากนั้นนิศารัตน์กับวิชชุตาแทบจะไม่ได้พูดกันเลยจนกระทั่งถึงวันสอบวันสุดท้าย นิศารัตน์จึงตัดสินใจคุยเปิดอกกับเพื่อนให้รู้เรื่อง เธออยากจะเตือนอย่างจริงจังให้วิชชุตารู้ตัวว่ากำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี

ก่อนเข้าห้องสอบวิชาสุดท้ายนิศารัตน์จึงบอกให้วิชชุตาอยู่รอเธอก่อนถ้าทำข้อสอบเสร็จเร็ว ทว่าหญิงสาวกลับไม่ยอมรอพบ เพื่อนที่อยู่แถวนั้นบอกว่าวิชชุตากลับไปกับแฟนแล้ว

แฟนที่ว่าก็คือวชิรเทพอย่างไม่ต้องสงสัย นิศารัตน์เข่นเขี้ยวอย่างโมโห เธออดทนกับวิชชุตามามากพอแล้ว ถ้าวันนี้ไม่คุยกันให้รู้เรื่องรู้ราวไปเห็นทีจะคบกันต่อไปไม่ได้

หญิงสาวบุกไปถึงห้องพักของวชิรเทพด้วยความโกรธ ยิ่งพอได้เห็นวิชชุตาทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกผิด หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเดือดดาล

“ฉันย้ำแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้เธอรอ”

“ก็นิทำข้อสอบเสร็จช้านี่ พี่ชายมารออยู่ตั้งนานแล้วก็เลยพากันกลับมาก่อน กะอยู่เหมือนกันว่าถ้าหมดเวลาสอบแล้วจะโทรบอก”

คำแก้ต่างของวิชชุตากลายเป็นเชื้อไฟที่ยิ่งทำให้อารมณ์เสีย ตั้งแต่คบกันมาเพื่อนเธอไม่เคยผิดสัญญาและทำตัวแย่อย่างนี้มาก่อนจนกระทั่งได้พบกับวชิรเทพ หญิงสาวจึงโทษว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของเขา

“เพราะนายคนเดียวฟ้าก็เลยเป็นแบบนี้ ฟ้าลืมแม่ ลืมเพื่อน สนใจแต่นาย นายกำลังจะทำให้ชีวิตฟ้าพังนะรู้ตัวรึเปล่า แม่ฟ้าจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าลูกสาวเอาแต่ขลุกอยู่กับผู้ชายแบบนี้ เพื่อนๆ ก็เริ่มลือกันไปในทางที่ไม่ดีแล้ว”

วชิรเทพฟังนิศารัตน์พูดอย่างใจเย็นโดนไม่โต้ตอบ ผิดกับวิชชุตาที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน

“เธอพูดแรงไปแล้วนิ พี่ชายไม่ได้ผิดอะไร แล้วเราก็บริสุทธิ์ใจต่อกัน เธอก็รู้นี่ว่าระหว่างเราเป็นยังไง ทำไมถึงยังพูดอย่างนี้ออกมา เธอเป็นอะไรไปนิ”

“คนที่ผิดปกติคือเธอต่างหากฟ้า” นิศารัตน์หันหน้ามาสบตาด้วยแววตาตัดพ้อ

“ฉันปกติดีแล้วก็มีความสุขดีด้วย เธอเลิกห่วงฉันได้แล้วนิ คนเรามีชีวิตเป็นของตัวเอง ขอให้ฉันได้ใช้ชีวิตตามใจฉันเถอะ”

วิชชุตาเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างเพราะความเจ้ากี้เจ้าการของเพื่อน เธอไม่ได้ทำให้นิศารัตน์เดือดร้อนเสียหน่อย ทำไมต้องมาคอยวุ่นวายบงการชีวิตเธอด้วย

“ถ้าฉันไม่หวังดีกับเธอฉันไม่พูดแบบนี้หรอกนะฟ้า ถอยห่างออกมาจากผู้ชายคนนี้ซะ” นิศารัตน์ตอบกลับแล้วหันไปจ้องวชิรเทพอย่างเอาเรื่อง “ทำให้เพื่อนฉันกลับเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้นะ”

หญิงสาวทำท่าเหมือนจะตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อวชิรเทพ วิชชุตาเห็นท่าไม่ดีจึงปราดเข้ามาขวางระหว่างพี่กับเพื่อนไว้ มันบอกให้รู้ว่าเธอเลือกที่จะเข้าข้างวชิรเทพมากกว่าเพื่อนสนิทอย่างนิศารัตน์

ดวงตาสีนิลใต้กรอบแว่นสลดวูบ วิชชุตาที่ยืนอยู่ตรงนี้คือวิชชุตาแต่ไม่ใช่เพื่อนรักที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป

“ตามใจก็แล้วกัน ต่อไปนี่อยากจะทำอะไรก็เชิญ ฉันจะไม่ยุ่งกับเธออีกแล้ว” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าแล้ววิ่งออกมาจากห้องด้วยความน้อยใจ

“อะไรของเขาก็ไม่รู้ พาลจัง ท่านพี่อย่าถือสานางเลยนะ” วิชชุตาหันมายิ้มหวานให้กับพี่ชายด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น

“ไม่เป็นไร พี่ไม่ว่าอะไรหรอก พี่มีคนที่อยากให้เจ้าพบ มานี่ดีกว่า”

ชายหนุ่มโอบตัวน้องสาวมานั่งที่โซฟารับแขก พอทั้งสองคนนั่งลงร่างโปร่งแสงร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางห้อง ร่างนี้มีรูปลักษณ์เป็นชายสูงวัยรูปร่างสันทัด ดวงตารีเล็ก ริมฝีปากอิ่ม เวลายิ้มแล้วเหมือนอาแป๊ะแก่ๆ ท่าทางใจดี

“ข้าน้อยของคารวะองค์เทพและองค์เทวีทั้งสอง” เทพดาราค้อมตัวให้อย่างอ่อนน้อม

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเทพที่มีความสามารถในการพยากรณ์ แต่เทพดาราก็เป็นเทพระดับต่ำ เมื่อครั้งเหล่าทวยเทพยังไม่หลับใหล ตัวเขานั้นมีหน้าที่เป็นเพียงบรรณารักษ์เฝ้าหอสมุดดาราเท่านั้น

“อย่ามากพิธีเลย คนกันเองทั้งนั้น” ชายหนุ่มเอ่ยแล้วหันไปถามวิชชุตาเสียงนุ่ม “จำเทพดาราได้ไหมเจ้า ตอนเด็กๆ เรามักจะไปเที่ยวเล่นที่หอสมุดดาราที่ท่านเทพดูแลเสมอ”

วิชชุตาพิจารณาใบหน้าของชายชราแล้วก็ส่ายหน้า เธอจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย

“องค์เทวีลืมข้าเสียแล้วรึนี่ โอ้แย่จริง คนแก่อย่างข้าคงไม่มีอะไรให้น่าจดจำ” เทพชราตัดพ้ออย่างน้อยใจ เนื่องจากเคยเอ็นดูองค์เทวีองค์นี้ดั่งลูกหลาน

“วิชชุตาไม่ได้มีเจตนาจะลืมท่านหรอก นางถูกใครบางคนผนึกความทรงจำเอาไว้ ข้าก็เลยอยากจะปรึกษาท่านเรื่องการคลายสะกด”

เทพดาราอยู่ในหอสมุดดารามานาน ในนั้นมาสรรพวิชาบรรจุอยู่ อาจจะรู้วิธีแก้ไขให้ความทรงจำของวิชชุตาเทวีคืนมาทั้งหมด

“แล้วเรื่องศิวะตรีศูลเล่า องค์เทวีจำได้หรือไม่”

“นางจำอย่างอื่นนอกจากข้าไม่ได้เลย”

สีหน้าของเทพดารามีแววผิดหวังอย่างปิดไม่มิดเมื่อได้รู้ความจริง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาประจบเอาใจสองพี่น้องก็เพราะว่าวิชชุตาเทวีเป็นผู้กุมความลับเรื่องนี้ เผื่อการณ์ข้างหน้าเมื่อทวยเทพกลับมาเป็นใหญ่ในพื้นพิภพ เขาจะได้รับตำแหน่งใหญ่โตกว่าที่เคยทำ

“ทุกครั้งที่นางเริ่มจำอะไรได้ นางจะปวดหัวและความทรงจำนั้นก็จะถูกดูดกลับไป ที่หน้าผากนางมีตราสัญลักษณ์ที่มองไม่เห็นอยู่ ข้าคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผนึกความทรงจำของนางไว้ ท่านพอจะรู้วิธีแก้ไขรึเปล่าเพราะข้าเองไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย”

ถึงเป็นเทพระดับสูงแต่วชิรเทพถูกฝึกฝนมาเพื่อให้เป็นนักรบ เวทที่ถนัดจึงมีแต่เวทที่ใช้สำหรับการต่อสู้ เวทรักษาหรือเวทคำสาปนั้นแทบจะไม่เคยได้ศึกษา

“ข้าขอลองนึกดูก่อนขอรับ”

เทพชราลูบคางเกลี้ยงเกลาของตัวเอง นัยน์ตาที่กำลังครุ่นคิดอยู่แฝงเอาไว้ด้วยแววเจ้าเล่ห์จับจิต เทพดารานึกวิธีปลดผนึกความทรงจำไม่ออก สิ่งที่คิดได้ก็มีแต่วิธีที่จะทำให้ตนได้ลาภยศสรรเสริญและความยิ่งใหญ่เท่านั้น

“ขอเวลาข้าตรองดูสักหน่อย ข้าจะพยายามช่วยเหลือท่านทั้งสองอย่างสุดกำลัง”

หมดธุระเทพดาราก็เอ่ยขอตัวพาจิตกลับไปยังร่างมนุษย์ของตน ทิ้งสองพี่น้องให้อยู่กันตามลำพังอีกครั้ง

“อดทนอีกนิดนะน้องพี่ พี่จะพยายามช่วยเจ้าให้ได้”

ทุกครั้งที่เริ่มจำอะไรได้วิชชุตาจะมีอาการปวดหัว บางครั้งก็เป็นลมหมดสติไป วชิรเทพไม่อยากให้น้องต้องทนทรมานจึงพยายามหาทางช่วย ในภพนี้เขารู้จักเทพที่กลับมาจุติเพียงไม่กี่องค์ ส่วนใหญ่ต่างก็เจนจัดในการต่อสู้มากกว่าคลายคำสาป ความหวังสุดท้ายที่เหลือก็คือต้องพึ่งเทพดารา

“ถึงข้าจะจำไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ขอเพียงมีท่านพี่อยู่ข้างๆ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” วิชชุตาอิงศีรษะซบกับไหล่ของพี่ชายแล้วรอคอยให้มืออบอุ่นมาลูบไล้ที่เรือนผม

“เด็กขี้อ้อน” คนเป็นพี่เอ่ยอย่างเอ็นดู ก่อนจะลูบหัวให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ

ในขณะที่น้องน้อยหลับตาพริ้มอย่างสุขใจ ห้วงความคิดของคนเป็นพี่กลับหลุดลอยไปไกล ชื่อศิวะตรีศูลที่เทพดาราเอ่ยออกมาสะกิดเตือนให้รำลึกถึงวันคืนแห่งโศกนาฏกรรมระหว่างเทพและปีศาจ วันเดียวกันกับวันที่เขาต้องสูญเสียน้องสาวอันเป็นที่รักไป

วชิรเทพคือหนึ่งในทัพหน้าในสงครามครั้งนั้น เวลาออกรบคราใดก็จะมีวิชชุตาเทวีคอยระวังหลังให้ แต่เมื่อนางได้กลายเป็นจอมเทวีแห่งสรวงสรรค์แล้ว ก็มิอาจลงมายกทัพจับศึกได้ดังเก่า เพราะความห่วงใยที่มีต่อพี่นางจึงได้ฝากวารัคคนีของนางเอามาให้ไว้แทนตัวเมื่อคราวต้องออกรบ

ขณะที่ทั้งสองทัพกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีคู่คี่ องค์ภูเตศวรก็มีชัยเหนือจอมปีศาจ จอมเทพใช้พลังผนึกจอมปีศาจเอาไว้ รัศมีสีทองจากองค์เทพเปล่งประกายเจิดจ้าสลายความมืดไปจนสิ้น ในขณะที่เหล่าเทพกำลังจะไชโยโห่ร้อง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รัศมีสีทองของจอมเทพไม่หยุดแผ่ขยาย และเริ่มเปล่งรัศมีพลังที่เข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ

พื้นดินที่จอมเทพยืนอยู่เริ่มแยกออกจากกัน ลาวาร้อนแรงค่อยๆ ปะทุออกมาจากรอยแยกนั้น ความหายนะแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว

‘จอมเทพควบคุมพลังไม่ได้ พระองค์กำลังจะทำลายโลก ช่วยกันสกัดไว้’ เสียงพสุธาเทพตะโกนก้อง

ทว่าต่อให้ใช้เทพทั้งกองทัพก็ไม่อาจหยุดยั้งพลังแต่หายนะนี้เอาไว้ได้ ก่อนที่ถึงกาลที่โลกจะกลายเป็นผุยผง วิชชุตาเทวีได้ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับไข่มุกจันทรา อาวุธเทพที่มีอำนาจเทียบเคียงกับศิวะตรีศูล นางใช้ไข่มุกจันทราสะกดองค์ภูเตศวรเอาไว้ โลกจึงยังดำรงอยู่ได้โดยไม่แดกดับ ทว่าสิ่งที่ต้องแลกกับหลายล้านชีวิตบนโลกก็คือกายทิพย์ของวิชชุตาเทวี

ร่างของนางสูญสลายไปต่อหน้าต่อตาโดยที่วชิรเทพไม่อาจจะช่วยอะไรได้เลย เทพแห่งสงครามพยายามจะรวบรวมดวงจิตที่กระจัดกระจายของนางสาวเอาไว้ เพื่อที่จะได้ชุบชีวิตให้ แต่ดวงจิตนั้นกลับถูกสายลมแรงพัดหลุดลอยหายไปในอากาศ

วชิรเทพรู้สึกโศกเศร้าและเจ็บใจตัวเองเป็นที่สุด จึงได้ปฏิญาณว่าจะขอติดตามไปเกิดใหม่ในชาติภพที่ดวงจิตของวิชชุตาเทวีไปจุติอยู่ จากนั้นก็หลับใหลไปทันทีที่มหาสงครามยุติลง

“พี่จะขอปกป้องเจ้าด้วยชีวิต ไม่ว่าประวัติศาสตร์จะวนมาซ้ำรอยหรือไม่ก็ตาม” ชายหนุ่มปฏิญาณออกมาจากหัวใจ


เมื่อลาจากเทพสายฟ้าสองพี่น้องมา เทพดารามิได้กลับไปยังกายเนื้อของตนอย่างที่ได้บอกกับสองพี่น้อง เทพชราย้ายจิตไปยังถ้ำลึกในหุบเหวดำมืดซึ่งเป็นที่สิ่งสถิตของความชั่วช้าสามาลย์ทั้งหลาย

หุบเหวลึกนี้คือปากทางเข้าสู่แดนปีศาจซึ่งตั้งอยู่ในมิติแห่งความมืด เมื่อแพ้สงครามเหล่าปีศาจก็ล่าถอยกลับมายังดินแดนดั่งเดิมของตนและอยู่อย่างเจ็บแค้นมาตลอดสามพันปีเพื่อรอคอยให้จอมปีศาจฟื้นคืน

ขณะนี้ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในแดนปีศาจคือ ‘อันธการ’ โอรสองค์เดียวของจอมปีศาจ อันธการบาดเจ็บจากสงครามครั้งก่อนจึงพักรักษาตัวอยู่นานเพิ่งจะลืมตาตื่นเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ ปีศาจเจ้าสำราญสนใจแต่สุรานารีและสิ่งบันเทิงเริงรมย์ของโลกยุคใหม่ ไม่สนใจจะแก้แค้นให้กับบิดาของตน สร้างความอิดหนาระอาใจให้กับเสนาธิการปีศาจซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลยิ่งนัก

เมื่อได้ข่าวว่ามีเทพมาขอเข้าเฝ้าเจ้าชายปีศาจทั้งยังมีข้อเสนอดีๆ มาให้ เสนาธิการปีศาจจึงบุกเข้าไปในเขตต้องห้ามเพื่อตามตัวอันธการให้ออกมาทำหน้าที่

พอท่านเสนาธิการปีศาจย่างก้าวเข้าในในห้องโถง บรรยากาศอึกทึกของงานปาร์ตี้แบบมนุษย์ก็เงียบลงราวกับว่าเกิดเหตุไฟดับขึ้นกลางงาน

ทันทีที่เห็นหน้าพี่เลี้ยงซึ่งท่านพ่อทิ้งเอาไว้ให้ก่อนหลับยาว เจ้าชายปีศาจก็แสยะริมฝีปากอย่างเหนื่อยหน่าย รากษสคอยแต่จะหางานให้ทำเรื่อย มีแต่เรื่องทำชั่วกับเตรียมทำสงครามกับเทพ รบรากันมาไม่รู้กี่พันกี่หมื่นปีไม่รู้จักหน่ายกันบ้างหรือไรหนอ

“มีอะไรก็รีบว่ามา” อันธการที่กำลังคลอเคลียอยู่กับเหล่าปีศาจสาวแสนสวยเอ่ยอย่างรำคาญ

“ที่ปากประตูมิติมีเทพมาขอเข้าเฝ้าเจ้าชายพระเจ้าค่ะ”

“พวกเทพจะทำสัญญาสงบศึกรึไง ดี…บอกพวกมันไปว่าข้าไม่คิดจะทำศึก ท่านพ่อฟื้นเมื่อไรค่อยว่ากันใหม่”

พูดจบก็ดีดนิ้วให้เสียงเพลงร็อคบาดหูกลับมาดังสนั่นลั่นห้องอีกครั้ง ทว่าอึดใจต่อมาเสียงเพลงก็กลับเงียบลงดังเดิมด้วยฝีมือของเสนาธิการปีศาจรากษส

“ข้าพระองค์ว่าฝ่าบาทควรให้เทพองค์นี้เข้าเฝ้าสักหน่อยนะพระเจ้าค่ะ มันมีข้อเสนอที่น่าสนใจทีเดียวเกี่ยวกับศิวะตรีศูล ฝ่าบาท…”

พูดได้เท่านี้เสียงเพลงก็กลับมาดังอีกครั้งคราวนี้เป็นท่อนแรพร้องแทนคำตอบปฏิเสธว่า ‘ไม่’ พร้อมคำหยาบคายยาวเหยียด

รากษสจึงตัดสินใจงัดไม้ตายสุดท้ายออกมาใช้ ในเมื่อเจ้าชายไม่สนใจศิวะตรีศูลก็ต้องทำให้สนใจของอีกอย่างแทน

“ข้าพระองค์ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ ข้าพระองค์ไม่นึกว่าฝ่าบาทจะหมดความสนใจในตัววิชชุตาเทวีไปแล้ว” เสนาธิการปีศาจตะโกนเสียงดังแข่งกับเพลง

อันธการได้ฉายาว่าเป็นปีศาจมากราคะ หากอยากได้หญิงใดก็ต้องทำทุกวิถีทางให้ได้มา ต่อให้เป็นนางสวรรค์ก็ยังคิดหาอุบายเอามาครอบครองจนได้ ทว่าก็มีอยู่ผู้หนึ่งที่หลุดรอดเงื้อมือของอันธการมาได้ นางผู้นั้นก็คือวิชชุตาเทวี นางไม่ได้มีดีแค่รูปโฉมแต่ฝีมือร้ายกาจล้ำเลิศยิ่งกว่าหน้าตามากนัก กลอุบายใช้กับนางไม่ได้ผลเพราะนางชาญฉลาด ทั้งยังมีพี่ชายตัวร้ายคอยดูแล พอนางขึ้นเป็นมเหสีของภูเตศวร เจ้าชายปีศาจจึงจำต้องปล่อยไปอย่างแสนเสียดาย

นามของวิชชุตาเทวีทำให้เสียงเพลงหยุดลงโดยพลัน ชื่อนี้กระตุ้นให้เจ้าชายปีศาจไม่รู้สึกปรารถนาหญิงอื่นอีก ปีศาจสาวทั้งหลายจึงถูกไล่ให้ออกไปจนหมดสิ้น

“บอกข้อเสนอของเจ้าเทพนั่นมา” อันธการเอ่ยเมื่อได้อยู่ตามลำพังแล้ว

รากษสยิ้มพรายเมื่อเห็นผู้เป็นนายกลับมาสนใจ ก่อนจะเอ่ยรายละเอียดอย่างรวบรัด

“เทพดาราเสนอว่าจะวางแผนมอบนางให้เรา ขอโปรดอนุญาตให้ข้านำกองพลปีศาจออกไปด้วย”

“ไม่มีทางเด็ดขาด จนกว่าท่านพ่อจะฟื้นคืน อย่าได้หวังว่าข้าจะให้ปีศาจชั้นสูงตนใดออกไปจากมิติแห่งความมืดนี่”

ปีศาจย่อมมีกฎของปีศาจ หากเปรียบแดนมนุษย์เป็นของขวัญที่ผู้ชนะในสงครามศักดิ์สิทธิ์จะได้รับ กฎนี้ก็คือการเฝ้าระวังไม่ให้ปีศาจที่มีอำนาจกล้าแข็งแอบเปิดเอาของขวัญในกล่องไปชื่นชมก่อน

“อีกฝ่ายเป็นถึงวชิรเทพ หากไม่ให้ข้าออกไปก็ยากที่จะรับมือ”

“ฮึ…เจ้านี่แก่จนสนิมเขรอะเชียวนะรากษส ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน ไปตามเจ้าเทพนกสองหัวนั่นมา ข้ามีเรื่องจะคุยกันมัน”

อันธการหัวเราะอย่างครึ้มใจพลางหักนิ้วเป็นเสียงดังกรอบแกรบ ด้วยหมายมั่นปั้นมือว่าภพนี้จะต้องชิงเอาวิชชุตาเทวีมาครอบครองให้จงได้





นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.พ. 2555, 16:07:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.พ. 2555, 16:07:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1792





<< ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 3 ผนึกความทรงจำ   ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 5 ปีศาจนรก >>
Auuuu 26 ก.พ. 2555, 16:16:03 น.
วชิรเทพรักน้องมากอ่าาา ;_____;)
อยากเห็นฉากมหาสงครามระหว่างเทพกับปีศาจจัง ต้องสนุกมากๆๆ แน่ๆๆ
ป.ล. ไปอ่านเว็บนู้นมาก ไอ๊หย่ะะะะะ นิเก่งมากกกกกกก แอบอยากเห็นฝีมือนิลกาฬ ท่าทางจะไม่ธรรมดา ^__________^


นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 16:23:30 น.
คุณ Auuuu วชิระเทพซิสค่อนอ่อนๆ ค่ะ (ยังไม่เลิกจิ้น 5555) มาให้ความรู้เพิ่มเติม แต่อาจจะรู้แล้วก็ได้ ชื่อ อันธการ มีความหมายนะคะ แปลว่า ความมืด แบบกลัวคนอื่นไม่รู้จัด เลยขอพรีเซ็นหน่อย หุๆๆ แบบเรื่องนี้เค้าตั้งใจตั้งชื่อตัวละครมากเลยน้า งุุ้งงิ้ง


Auuuu 26 ก.พ. 2555, 16:25:55 น.
อ๋อๆๆๆ ชื่อเพราะทุกคนเลยนะคะ แล้วก็ไม่อ่านยากด้วย ชื่อเด็กๆเกิดใหม่สมัยนี้ อ่านยากมากๆๆๆๆๆๆ =____="


นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 16:35:04 น.
คุณ Auuuu สาเหตุที่อ่านยากก็เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกชื่อโหลไงคะ บางคนชื่อยาวมากกกกก เขียนยาก ถูกครูลงโทษให้คัดชื่อนี่สะอื้นเลยนะนี่ แถมอีกคนหนึ่งค่ะ รากษส อ่านว่า ราก-สด นะคะ แปลว่าอสูรดุร้าย ^O^


Auuuu 26 ก.พ. 2555, 16:46:01 น.
เราว่าสามารถตั้งชื่อลูกโดยที่ไม่โหล และไม่อ่านยากได้น้า ^^

ขอบคุณค่า :"D


Pat 26 ก.พ. 2555, 19:41:55 น.
เข้าใจตั้งชื่อจังค่ะ อ่านแล้วมีนัยยะทุกตัวละครเลย ชอบอ่ะ


นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 22:31:12 น.
คุณ Auuuu เราก็อยากตั้งชื่อลูกแบบว่าไม่โหลแล้วก็ไม่ยากค่ะ แต่กว่าจะถึงสเตปนั้นต้องมีลูกให้ได้ก่อนสินะ ปัญหาใหญ่ T^T

คุณ Pat ขอบคุณค่า ดีใจที่ชอบ เรื่องนี้เริ่มต้นได้ก็เพราะจากชื่อเนี่ยค่ะ แล้วก็ค่อยๆ แตกยอดไปทีละน้อย ^________^


Auuuu 26 ก.พ. 2555, 22:32:09 น.
ช่ายเลยค่ะคุณนิชาภา (_ _") แค่หาพ่อของลูกก็ยากแล้ววว =___="


Zephyr 26 ก.พ. 2555, 22:49:18 น.
อ่าตอนนี้ทีไรขัดใจฟ้าทุกที มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ไฟก็ซิสค่อนเกินไปแล้ว ฟ้าก็อะไร(เค้าเรียกไรอ่ะคะ)โบรค่อนเหรอ ฮ่าๆๆๆ มั่วแระ
ถ้าเราเป็นนินะ เราจะไม่ดูดำดูดีเล้ย ให้ตายสิ อ๊ากกกกกก ขัดใจเว้ยยยยยย
มีพสุธาเทพด้วยอ้ะ อิมเมจหมากได้แล้ว ก๊ากก ^^
ขอด่าดทพดาราหน่อยได้มั้ยคะ %$#%%%$##@#$% อ๊าาาาา สบายใจแระ ^^
อันธการ = ปีศาจมากราคะ โห เอาซะเห็นภาพเลยค่ะ


Zephyr 26 ก.พ. 2555, 22:51:13 น.
เอ่อ
รวบรวมดวงจิตที่กระจัดกระจายของนางสาว(น้องสาวมั้ยคะ)
เอ หรือพี่ไฟซิสจัดเลยจัดให้เป็นนางสาว อิอิ


นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 23:02:35 น.
คุณ Auuuu หาดีไม่ได้ อยู่บนคานสบายกว่า สาวโสดจงเจริญ ชาบู!!!

คุณ Neferretti อันนี้ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์อ่ะค่ะ ส่วนที่พิสูจน์คำผิดแล้วอยู่ที่บก จะขอมาก็เกรงใจ เลยเอาไฟล์เก่าที่มีน่ะค่ะ ^O^

ติดพี่ชายเรียก บราค่อนค่ะ (Brother) ซิค่อนก็ (sister)


Zephyr 26 ก.พ. 2555, 23:09:19 น.
อ่อ โอเค ค่ะ หวังว่าเรื่องนี้คงมะมีโลลิค่อนนะคะ เอ หรือมีคะ ฮ่าๆๆๆๆ ใครดีหว่า วายุเทพ หมอมารุตละกัน ให้โลลิกะใครดีคะ หึหึ คุณนิไม่จัด เดี๋ยวเราจัดให้ ฮ่าๆๆๆๆ
กลายเป็นยำใหญ่มหากาพย์กฤตยามหาภูต อิอิ


Auuuu 26 ก.พ. 2555, 23:14:37 น.
แอบสงสัยเล็กน้อย ว่าคำว่ากฤตยามหาภูต นี่แปลรวมกันว่าอะไรหรอคะ ...


เพลา 26 ก.พ. 2555, 23:23:05 น.
พี่น้องคู่นี้รักกันน่ากลัว เมื่อไหร่พี่ไฟจะหันไปติดหนูนิบ้าง เค้าอยากอ่านกุ๊กกิ๊กของคู่นี้ อิอิ ว่าแต่จะมีรึเปล่าน้า


นิชาภา 26 ก.พ. 2555, 23:38:24 น.
คุณ neferretti โลลิไม่มีค่ะ แต่ถ้าเขียนใหม่คงจัดให้สักคน 55555 หนุกหนานเนอะ

คุณ Auuuu กฤตยา แปลว่า เสน่ห์ เล่ห์กล อาถรรพ์ ค่ะ ส่วนมหาภูต คือ ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกันแปลว่า อาถรรพ์แห่งธาตุทั้งสี่ หรือ กลเสน่ห์ของธาตุทั้งสี่ค่ะ ^O6

คุณเพลา เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรตเยาวชน ฉากกุ๊กกิ๊กจึงหาได้ยาก แต่ก็มีนิดนะคะ แว้บๆๆ แว้บบบบบบบบบบบบ จริงๆ 5555


Auuuu 26 ก.พ. 2555, 23:44:46 น.
ว้าวววว คำแปลเลิศมากกกก ^^


ใบบัวน่ารัก 26 ก.พ. 2555, 23:46:45 น.
เสียใจที่ลืมแม่
สนใจแต่อดีต
เสียเพื่อนอีก..


นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 00:00:09 น.
คุณ Auuuu ทีแรกสำนักพิมพ์จะขอเปลี่ยนชื่อแหละค่ะ แต่ว่าพอชี้แจงเหตุผลเขาไป บก ก็เลยไม่เปลี่ยน ^O^

คุณใบบัวน่ารัก ตอนนี้ดราม่าเล็กๆ ค่า แต่พฤติกรรมของฟ้ามีสาเหตุทำให้เป็นแบบนั้นน้า (สปอยเล็กๆ)


Auuuu 27 ก.พ. 2555, 00:10:06 น.
ชื่อเรื่องชวนอ่านมากเลย เพราะตอนแรกเราก็ เอ๊ะ เรื่องไรหว่า พอเปิดอ่าน แล้วเจอบทนำ.. เอาแล้วๆๆๆ โดนใจอย่างแรงงงงง


Zephyr 27 ก.พ. 2555, 00:14:00 น.
เอ่อ คุณนิขา คุณนิลงกฤตยามหาภูตตอนที่ห้า ผิดเรื่องค่ะ เราไปเปิดมา คุณนิไปลงในเรื่องแป้งร่ำอ่ะค่ะ ในเวบเด็กดีอ่ะ ไปแก้หน่อยนะคะ เดี๋ยววันไม่เรียงกัน ไม่สวยนะ หึหึ ^^


นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 00:27:03 น.
คุณ Auuuu แสดงว่าชอบแฟนตาซีแนวเทพๆ ชิมะคะนี่??

คุณ Neferretti ขอบคุณที่บอกค่า รีบแก้ตาเหลือกเลย T^T


Zephyr 27 ก.พ. 2555, 00:29:03 น.
อ่ะ โอเค ค่ะ แก้แล้ว ^^ น่ารักจังค่ะ อิอิ คู่นี้นี่ จะเป็นยังงั้นได้ตลอดรอดฝั่งมั้ยนะ


Auuuu 27 ก.พ. 2555, 00:33:48 น.
ช่ายแล้วว ชอบแฟนตาซี จริงๆก้ออ่านทุกแนวแหละค่า ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account