กฤตยามหาภูต โดย ตารกา (รอวางแผง)
"มหาสงครามแห่งเทพและอสูรกำลังจะอุบัติขึ้น ทางเดียวที่จะหยุดยั้งได้คือใช้ศิวะตรีศูล อาวุธเทพในตำนาน ผู้เดียวที่รู้ว่ามันอยู่ที่ใดคือเธอ เทวีแห่งสายฟ้าผู้ซึ่งกลับมาจุติใหม่โดยไร้ความทรงจำในอดีตชาติ"



เรื่องกฤตยามหาภูตเขียนจบมานานแล้วค่ะ

ตอนนี้ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ตะวันส่อง (ใช้นามปากกาตารกา)

แต่ว่าไม่วางแผงสักทีเพราะเหตุขัดห้อง (ปีกว่าได้แล้ว)

บกแจ้งมาว่าปกกับเนื้อในพิมพ์คนละไซค์ค่ะ กำลังพยายามแก้ไขอยู่

ระหว่างนั้นก็เกิดน้ำท่วม ก็เลยต้องรอกันต่อไป

หลายคนถามหาบอกว่าคิดถึง เลยเอามาลงให้อ่านฆ่าเวลาก่อนค่ะ ^O^

Tags: แฟนตาซี ผจญภัย เทพ เทวี ปีศาจ วรรณกรรมเยาวชน ความรัก ปริศนา อดีตชาติ

ตอน: ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 5 ปีศาจนรก

บทที่ 5 ปีศาจนรก

หลังสอบกลางภาคเสร็จวิชชุตากับนิศารัตน์จะมีวันหยุดติดกันหลายวันเพราะสอบเสร็จก่อนคณะอื่น พอรวมเข้ากับวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันแม่ เลยเหมือนกับได้หยุดยาวหนึ่งอาทิตย์ นิสิตส่วนใหญ่จึงพากันกลับบ้าน

พัชราวดีสอบเสร็จหลังนิศารัตน์หนึ่งวัน นับนิ้วแล้วยังเหลือวันหยุดอีกมากหญิงสาวจึงเตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้าน เธอชวนนิศารัตน์ไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกัน เพราะรู้ว่าตอนนี้พ่อกับแม่ของเพื่อนอยู่ต่างประเทศ ส่วนน้องชายน้องสาวก็อยู่โรงเรียนประจำ กลับบ้านไปก็ไม่เจอใคร

“นั่งรถไฟแบบหวานเย็นไปกัน มีของกินอร่อยตลอดทางเลยล่ะ ถึงแล้วเค้าจะพาเที่ยวให้ทั่ว รับประกันความสนุก”

คำเชิญชวนของพัชราวดีน่าสนใจไม่น้อย ทว่านิศารัตน์ก็จำเป็นต้องปฏิเสธ เธอต้องไปเข้าค่ายรับน้องของทางสาขากายภาพบำบัดพรุ่งนี้

เนื่องจากสาขานี้มีคนไม่มากรวมกันทั้งสี่ชั้นปีแล้วมีกันแค่ร้อยห้าสิบคนเท่านั้น พวกรุ่นพี่จึงคิดจัดค่ายย่อยเพื่อกระชับความสำคัญขึ้นที่น้ำตก กิจกรรมส่วนใหญ่ไม่มีอะไรมาก เน้นการพักผ่อนท่องเที่ยวชมธรรมชาติกับล้อมวงกันทำกิจกรรมสันทนาการเสียมากกว่า

ถึงเวลาจริงๆ จำนวนคนที่ไปเข้าค่ายรับน้องมีอยู่ประมาณร้อยคน ที่ขาดไปส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่ส่วนเด็กปีหนึ่งนั้นมากันเกือบครบ

นิศารัตน์กับวิชชุตาจัดว่าค่อนข้างเด่นในหมู่เด็กปีหนึ่ง พอหญิงสาวมาเข้าค่ายคนเดียวไม่มีวิชชุตามาด้วย ใครๆ จึงพากันถามถึง ทำให้รู้สึกหงุดหงิดตลอดการเข้าค่าย

เธอตั้งใจว่าจะไม่สนใจวิชชุตาแล้วแต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ การเข้าค่ายครั้งนี้จึงไม่สนุกเลยสักนิดเดียว

หญิงสาวใช้เวลาที่ได้อยู่กับธรรมชาติเพื่อสงบจิตสงบใจ ไม่นานความโกรธที่มีก็บรรเทาเบาบางลง พอออกจากค่ายกลับมาถึงที่หอพัก นิศารัตน์ก็ตัดสินใจคืนดีกับวิชชุตา จะดีจะร้ายวิชชุตาก็ยังเป็นเพื่อนเธอ ไม่สมควรเลยที่จะต้องมาตัดขาดกันด้วยเรื่องเพียงเท่านี้

นิศารัตน์เป็นฝ่ายโทรไปก่อนแต่เพื่อนสาวกลับไม่รับสาย เธอจึงส่งข้อความไปว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ตกดึกวิชชุตาจึงโทรกลับมา

“มีอะไรรึเปล่านิ” วิชชุตาถามเสียงเรียบ

“เปล่าหรอก แค่จะถามว่าจะกลับบ้านวันแม่ไหม จะได้กลับพร้อมกัน”

“ไม่ล่ะ มีเรื่องสำคัญต้องทำ”

เรื่องสำคัญที่ว่าก็คือพิธีปลดผนึกความทรงจำที่จะทำกันในคืนวันนี้ เทพดาราได้มาแจ้งข่าวว่าค้นพบวิธีที่จะปลดผนึกความทรงจำให้แล้ว เรื่องพิธีกรรมกับอุปกรณ์ที่ใช้เทพดาราจะเป็นผู้จัดหามาให้ หน้าที่ของวชิรเทพคือพาวิชชุตาเทวีมายังสถานที่นัดหมายให้ตรงเวลาเท่านั้น พิธีกรรมนี้จะต้องทำตอนเที่ยงคืนสิบสามนาทีพอดี เนื่องจากดวงดาวที่จะใช้เป็นขุมพลังในการปลดผนึกโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในเวลานั้น

“ธุระอะไรเหรอ วันแม่ทั้งทีถึงไม่ยอมกลับไปกราบแม่” นิศารัตน์แกล้งพูดให้เพื่อนได้สำนึก แต่ทว่าวิชชุตาก็ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกเช่นเคย

“ต้องไปทำธุระกับพี่ชายน่ะ”

วิชชุตาไม่ยอมบอกรายละเอียด เธอเจตนาปิดเรื่องนี้เอาไว้เพราะไม่อยากทะเลาะกับนิศารัตน์ นิศารัตน์ต้องห้ามไม่ให้เธอทำพิธีแน่ สุดท้ายก็จะพาลโกรธไปถึงพี่ชายอีก

“ค่อยโทรไปอวยพรแทนก็แล้วกัน”

“ฉันบอกแม่เธอไปแล้วนะฟ้าว่ามหา’ลัยหยุดยาว เธอไม่กลับแม่เธอไม่น้อยใจแย่เหรอ”

“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ทีแม่เธอยังไม่น้อยใจเลยนี่”

นิศารัตน์อยากจะแย้งว่าสถานการณ์ของเธอกับวิชชุตามันเหมือนกันเสียทีไหน ของเธอแม่อยู่ต่างประเทศ ก็เลยต้องโทรศัพท์เอา ผิดกับวิชชุตาที่ไปกอดแม่ได้แต่กลับไม่ทำ

หญิงสาวต้องกัดปากตัวเองไม่ให้พูดสิ่งที่ใจคิดออกมา เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าต้องมานั่งทะเลาะกันอีก เธอจึงเป็นฝ่ายถอยให้ก่อน

“ก็ตามใจ ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียว เรคงไม่กลับมาจนกว่าจะอาทิตย์หน้า ถ้าว่างแล้วก็แวะมาคุยกันบ้างล่ะ” หญิงสาวเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะวางสาย

ตั้งแต่ทะเลาะกันวันนั้นวิชชุตาก็เก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับวชิรเทพหลายวันแล้ว นิศารัตน์ใช้นิ้วเคาะโต๊ะอย่างตรึกตรอง เธอไม่รู้สึกเลยว่าวชิรเทพใช้มนตราหรือคุณไสยทำให้วิชชุตาเปลี่ยนไป วิชชุตายังคนเป็นวิชชุตาเพียงแต่ว่าเจ้าหล่อนลดระดับความสำคัญของทุกคนลงหมด มันเหมือนกับว่าวิชชุตาได้ความรักความผูกพันต่อพี่ชายคืนมา ส่วนความผูกพันต่อคนรอบตัวกลับหายไปเสียอย่างนั้น

“หรือว่า…ฉันผนึกความทรงจำของฟ้าไป” หญิงสาวโพล่งออกมาอย่างตกใจ

ตอนแรกเธอเข้าใจว่าเธอเป็นคนทำลายผนึกชั้นแรกความทรงจำก็เลยกลับมา แต่ในความเป็นจริงเธอดึงความทรงจำเก่ากลับมาแล้วเอาความทรงจำใหม่ผนึกลงไปแทนต่างหาก

“ตายล่ะ! จะทำยังไงดีเนี่ย” นิศารัตน์ตบหน้าผากตัวเองแล้วเดินไปเดินมาอย่างร้อนรน

ในช่วงนาทีนั้นเองก็มีใครคนหนึ่งมาเคาะประตูห้อง หญิงสาวสัมผัสได้ว่าเป็นวายุเทพก็เลยไม่ยอมเปิดประตูให้ ชายหนุ่มจึงถือวิสาสะเดินทะลุบานประตูเข้ามา

“โอ๊ะโอ!…สีหน้าไม่สู้ดีเลยนะ แสดงว่าท่านนึกออกแล้วสิว่าทำอะไรผิดพลาดไป”

“นายต้องการอะไร” หญิงสาวตวัดสายตามองอย่างหวาดระแวง

“อย่ามองอย่างนั้นน่า ข้าไม่ได้อยากจะได้อะไรจากท่านสักหน่อย แค่จะมาใช้หนี้ต่างหาก”

นานมาแล้วมีใครคนหนึ่งได้ให้สัญญาว่าจะทำให้เขาได้ประลองกับวิชชุตาเทวี แต่หลังจากนั้นเขาจะต้องตอบแทนโดยการช่วยเหลือไม่ให้ผนึกความทรงจำของวิชชุตาเทวีถูกปลดก่อนเวลาอันสมควร

“ข้าจะบอกให้ว่าตราสัญลักษณ์ที่เจ้าเห็นคือผนึกมนตรา หากซ่อมแซมให้มันกลับมาแน่นหนาดังเดิมได้วิชชุตาเทวีก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ชายหนุ่มพักหายใจชั่วระยะหนึ่งแล้วชี้นิ้วไปที่นิศารัตน์ “มีเพียงท่านเท่านั้นที่จะซ่อมแซมมันได้ รีบหน่อยก็ดีนะเพราะวชิรเทพจะทำพิธีทำลายผนึกความทรงจำในคืนนี้แล้ว”

ฉับพลันภาพภาพหนึ่งก็ผุดเข้ามาในสมองนิศารัตน์ เธอเห็นวิชชุตากำลังตกอยู่ในวงล้อมของปีศาจ แล้วภาพดาดฟ้าของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยกับภาพนาฬิกาบอกบอกเวลาเที่ยงคืนสิบสามนาทีก็ลอยเข้ามาต่อจากนั้น ภาพที่เห็นแจ่มชัดอยู่อึดใจก่อนจะหายไปจากห้วงความคิด

“ท่านเห็นภาพนิมิตสินะ ภาพอะไรหนอทำให้คนอย่างท่านถึงกับนิ่งงันไป” วายุเทพเอี้ยวตัวไปมองดวงตาสีนิลใต้กรอบแว่น ซึ่งบัดนี้มันมีแต่แวววิตกกังวลเคลือบอยู่

หญิงสาวไม่ยอมเสียเวลาตอบคำถามของวายุเทพ นิศารัตน์วิ่งเข้าไปในห้องนอน หยิบตำราโบราณออกมาพลิกหน้ากระดาษ แล้วตวัดสายตาอ่านข้อความในนั้นอย่างรวดเร็ว

หน้ากระดาษที่เธอกำลังอ่านอยู่นั้นเป็นบันทึกเกี่ยวกับปีศาจนรก ปีศาจชนิดนี้เป็นอสูรกายชั้นต่ำซึ่งอาศัยอยู่ในนรก

เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการ หญิงสาวก็ฉีกหนังสือหน้านั้นออก คว้ากุญแจรถกับเป้สะพายออกไปจากห้อง โดยมีจุดหมายปลายทางคือสวนพฤกษศาสตร์ของคณะเกษตรศาสตร์


สถานที่ทำประกอบพิธีของเทพดาราคือสวนลอยบนดาดฟ้าของโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยที่วิชชุตาเรียนอยู่ ความที่มันอยู่ห่างจากที่พักไม่มากวชิรเทพจึงพาน้องสาวมารอก่อนเวลานัดหมาย เพื่อป้องกันความผิดพลาด

เทพดารากำชับให้มาแบบธรรมดาห้ามใช้พลังเวทเนื่องจากไอเวทจะรบกวนพิธีกรรมได้ วชิระจึงขับรถมาจอดไว้ที่ลานจอดรถด้านหน้า

ตอนนี้ห้าทุ่มครึ่งแล้วประตูด้านทางเข้าเกือบทุกทางจึงถูกปิด เปิดเอาไว้ก็แต่ประตูทางเข้าแผนกฉุกเฉิน ทั้งสองเดินลัดแผนกฉุกเฉินขึ้นไปชั้นบนสุดโดยไม่ถูกห้าม เนื่องจากพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าใจว่าทั้งสองคนเป็นนิสิตคณะแพทย์ฯ ที่มาเข้าเวร

ลิฟต์ทางขึ้นถูกกางเวทป้องกันไม่ให้มนุษย์เข้ามาอย่างแน่นหนา ใครที่ผ่านมาจุดนี้จะเดินออกไปทางอื่นโดยไม่รู้ตัว หากแต่เป็นพวกเทพแล้วเวทป้องกันนี้ไม่ต่างอะไรกับเชือกเส้นเล็กเส้นหนึ่งที่ก้าวข้ามผ่านมาได้โดยง่าย

สองพี่น้องเข้าไปยังบริเวณดาดฟ้าที่ค่อนข้างมืดแต่ก็พอมองเห็นทาง เทียนที่จุดเอาไว้เป็นกระจุกส่องสว่างทำให้มองเห็นว่าตรงกลางลานกว้างของสวนมีสัญลักษณ์รูปดาวห้าแฉกปรากฏอยู่

“ขอต้อนรับองค์เทพและองค์เทวีทั้งสอง พวกท่านรักษาเวลากันดีจริงๆ ข้าเพิ่งตระเตรียมของเสร็จเมื่อครู่นี่เอง” เทพดาราเอ่ย

เสียงของชายชราดังออกมาจากมุมลับตา สักอึดใจรถเข็นคันหนึ่งก็เคลื่อนออกมาจากมุมมืด ชายชราดูแตกต่างจากร่างจิตที่ได้พบเป็นอย่างมาก กายเนื้อของเขาแลดูแก่กว่าอายุจริงเกือบยี่สิบปี ผิวหนังเหี่ยวย่น ใบหน้าซูบซีดอิดโรย เหมือนกับว่าความตายจะมาพรากไปได้ทุกขณะ แขนขาด้านซ้ายของชายชราดูลีบเล็กผิดจากอีกข้าง บอกให้รู้ว่าเป็นอัมพาตครึ่งซีกมานานปี

“เกิดอะไรขึ้นกับท่าน” วชิรเทพค่อนข้างจะตกใจที่เห็นเทพดาราในสภาพนี้

ชายหนุ่มเคยพบเทพดาราเมื่อครั้งยังสุขภาพแข็งแรง เดินเหินคล่อง ตอนนั้นยังคิดเลยว่าร่างมนุษย์นี้คงจะมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี

“ความไม่เที่ยงของสังขารน่ะขอรับ ร่างมนุษย์กับร่างเทพนี่มันแตกต่างกันเสียจริง ข้าก็ได้แต่หวังให้องค์ภูเตศวรฟื้นคืน เราจะได้กลับไปใช้กายทิพย์กันอีกครั้ง”

ตราบใดที่จอมเทพยังคงหลับใหล ตราบนั้นเหล่าเทพก็มิอาจสร้างกายทิพย์ที่คงทนและเทียบเคียงความเป็นอมตะได้ เพราะองค์ภูเตศวรคือผู้กุมความลับในการรังสรรค์กายทิพย์ให้งดงามและมีอายุยืนยาว

“ผิดกับข้าที่อยากให้จอมเทพหลับไปชั่วกาล” วชิระเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาดังจะบอกกับตัวเองเสียมากกว่า

“ทำไมท่านพี่จึงไม่อยากให้จอมเทพตื่นเล่า” วิชชุตาที่ยืนอยู่ข้างๆ ถาม

เธอรู้ว่าเหล่าเทพจะต้องภักดีกับองค์ภูเตศวร ไม่ว่าใครก็อยากให้พระองค์ฟื้นคืน ความคิดแปลกแยกของพี่ชายชวนให้นึกว่าชาติที่แล้วทั้งสองอาจจะมีเรื่องผิดใจกัน

“พี่เพียงแต่ไม่อยากถูกแย่งเจ้าไปก็เท่านั้น พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าชาติก่อนเจ้าเป็นชายาของพระองค์”

“ภพนั้นก็ส่วนภพนั้น ภพนี้ก็ส่วนภพนี้สิ ข้าจะอยู่กับท่านพี่ตลอดไปไม่ยอมให้ใครพรากเราจากกันเด็ดขาด”

วชิรเทพยิ้มออกมาด้วยแววตาหม่นเศร้า ในภพก่อนนางก็เอ่ยเช่นนี้แต่สุดท้ายแล้วนางก็ยังจากไป หากความทรงจำของนางคืนมาอย่างครบถ้วน ไม่มีทางเลยที่วิชชุตาเทวีจะไม่โผเข้าสู่อ้อมกอดของจอมเทพ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าทางสายนั้นคือหนทางแห่งหายนะ นางก็ยังเลือกที่จะก้าวไป คงจะจริงที่ว่าความรักทำให้ตาบอด แม้แต่เทพเจ้าเองก็ยังไม่ได้รับการยกเว้น

“ขอเชิญองค์เทพและองค์เทวีมานั่งตรงนี้ก่อน ข้าจะอธิบายขั้นตอนการทำพิธีให้ได้ทราบ” เทพดาราผายมือไปยังชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ตั้งอยู่เยื้องกับดาวห้าแฉกที่ใช้ผงเรืองแสงวาดเอาไว้

วชิรเทพจึงดึงมือน้องสาวมานั่งรอเวลาตามคำเชิญโดยมิได้เอะใจเลยว่า สัญลักษณ์ดาวห้าแฉกนี้ดูผิดปกติ

ตามความเชื่อของชนเผ่ามหาภูตสัญลักษณ์นี้คือตัวแทนดิน น้ำ ลม ไฟและจิตวิญญาณ มักใช้เป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นของการวาดวงแหวนเวทระดับสูง แต่ถ้ามันกลับหัวความหมายจะแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิญ มันจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจในทันที

“พิธีกรรมนี้จะใช้อำนาจของดาวเสาร์ในการปลดผนึกความทรงจำ ข้าต้องใช้เวททำให้องค์เทวีอยู่ในสภาวะไม่มีสติ เพื่อที่จะได้ปลดผนึกได้โดยง่าย ขอองค์เทวีจงเปิดจิตรับอำนาจเวทของข้าด้วย”

แม้จะไม่มีความทรงจำในอดีตชาติแต่จิตของวิชชุตาเทวีก็กล้าแข็งมาก อำนาจของเทพดาราจึงไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปโดยง่าย ต้องเป็นความยินยอมของอีกฝ่ายเท่านั้นวิชชุตาเทวีจึงจะต้องมนตร์

“เจ้าเปิดจิตได้แล้วใช่ไหมวิชชุตา” วชิรเทพเอ่ยถาม

สองสามวันมานี้ชายหนุ่มสอนวิชชุตาให้ควบคุมพลังของตัวเอง สอนให้รู้สึกถึงการไหลของกระแสพลังในร่างและให้ทดลองใช้จิตควบคุมให้สิ่งของขยับเคลื่อนไหวได้ โดยใช้พลังของตัวเองไม่ยืมพลังจากวารัคคนี ซึ่งหญิงสาวก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและทำได้ดีทีเดียว

“ข้าทำได้ ท่านพี่ไม่ต้องห่วง”

เมื่อใกล้เวลาทำพิธี เทพดาราก็ให้วิชชุตามองมาที่ดวงตาของตนแล้วเปิดจิตรับเอาเวทสะกดเข้าไป

ไม่กี่อึดใจหญิงสาวก็หมดสติ ร่างของวิชชุตาไม่ได้ตกลงกับพื้น แต่ลอยขึ้นอย่างแช่มช้าไปยังตรงกลางดาวห้าแฉกที่ใช้ประกอบพิธีกรรม

“พิธีนี้ต้องใช้สมาธิมาก ขอเชิญองค์เทพไปรออยู่ที่หลังเส้นสีแดงที่ข้าขีดเอาไว้ด้วย”

ด้านหลังเส้นคือส่วนของพื้นดินที่มีหญ้าสีเขียวชอุ่มปลูกเอาไว้ วชิรเทพจึงก้าวข้ามเส้นสีแดงออกไปโดยไม่เอะใจเลยว่านี่คือกับดัก

เทพดาราเริ่มบริกรรมคาถาด้วยเสียงอันดัง แล้ววชิรเทพได้ยินเสียงเหมือนน้ำกำลังเดือด ฉับพลันก็มีแสงสีแดงฉานราวกับเปลวเพลิงปรากฏขึ้นที่บริเวณที่ยืนอยู่

สัญลักษณ์มนตรารูปแปดเหลี่ยมนี้ถูกซ่อนเอาไว้ใต้พื้นหญ้า มันเป็นมนตราพันธนาการป้องกันไม่ให้วชิรเทพก้าวข้ามเส้นสีแดงเข้ามาขัดขวาง

เมื่อมนตรากักขังทำงาน ก็ถึงเวลาที่เหล่าปีศาจจะปรากฏกาย อาเพศคือปีศาจชั้นกลางที่ถูกส่งมารับงานนี้ใช้กุญแจที่ได้รับมาเปิดประตูนรก เรียกบรรดาปีศาจนรกให้ออกมา

ปีศาจเหล่านี้มีรูปลักษณ์ต่างๆ กันไปเป็นพวกกึ่งมนุษย์กึ่งเดียรัจฉาน พวกมันไม่มีความคิดเป็นของตนเอง รู้จักแต่การฆ่าฟัน กลิ่นอายจากร่างมนุษย์ของวชิรเทพ ทำให้พวกมันกรูกันเข้าไปหา ด้วยหวังจะฉีกกินเนื้อรสหอมหวานให้หนำใจ

“เจ้ากล้าหักหลังข้างั้นรึเทพดารา อย่าคิดว่าเวทกระจอกของเจ้ากับปีศาจพวกนี้จะทำอะไรข้าได้”

วชิรเทพถอดวารัคคนีออก ให้มันแปรสภาพเป็นปืนกลแล้วกราดยิงไปยังปีศาจนรก ด้วยพลังของสายฟ้าแค่เพียงถากไปไม่โดนเต็มๆ ก็ทำให้พวกสัตว์นรกทั้งหลายไหม้เกรียมกลายเป็นเถ้าถ่านได้

แม้จะรับมือพวกสัตว์นรกได้แต่พวกมันก็มีมากมายเหลือคณานับ สิบตัวตาย ร้อยตัวก็โผล่ออกมาให้กำจัด วชิรเทพจึงไม่มีเวลามาปลดเวทพันธนาการที่กั้นเขากับวิชชุตาเอาไว้

ในขณะที่วิชชุตาหลับใหลไม่ได้สติ ประตูมิติแห่งความมืดก็ค่อยๆ แง้มออกอย่างช้าๆ เพื่อเปิดรับให้วิชชุตาเทวีเข้าไป

“เชิญรับของขวัญจากข้าไปได้เลย เตือนนายของเจ้าให้รักษาสัญญาด้วย” เทพดาราเอ่ยกับอาเพศ

เทพชรายอมหักหลังเหล่าเทพเพราะต้องการร่างกายที่หนุ่มแน่นและชีวิตที่เต็มไปด้วยลาภยศตลอดกาล เขาเจ็บแค้นโชคชะตาที่ทำให้เกิดเป็นเทพระดับต่ำ แม้อายุยืนยาวแต่ก็ต้องแก่ชราลง ไม่หนุ่มแน่นสง่างามเป็นนิรันดร์อย่างองค์ภูเตศวร

เขาเคยร้องขอร่างกายเช่นนั้นแต่องค์ภูเตศวรกลับปฏิเสธว่าไม่สามารถให้ได้ ในเมื่อพลังแห่งเทพไม่สามารถบันดาลสิ่งที่ปรารถนาได้ เขายังจะต้องภักดีต่อเหล่าทวยเทพไปทำไม สู้อุทิศตนให้กับเหล่าปีศาจเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนต้องการไม่ดีกว่าหรือ

“เจ้าจะได้รางวัลของเจ้าทันทีที่เจ้าชายได้ตัววิชชุตาเทวี” ปีศาจหนุ่มเอ่ยแล้วตรงไปอุ้มร่างของวิชชุตาขึ้นมาจากพื้น

จังหวะนั้นเองวารัคคนีก็เปล่งแสงจ้า มันกางเกราะเวทคลุมครององค์เทวีเอาไว้ไม่ให้ปีศาจเข้าไป พลังจากวารัคคนีเผาเนื้อของปีศาจหนุ่มเป็นแผลพุพองจนต้องผละออกมา

“นี่มันอะไรกัน แล้วอย่างนี้ข้าจะพาวิชชุตาเทวีไปได้อย่างไร” อาเพศเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด

ถึงร่างมันจะสมานบาดแผลได้เองอย่างรวดเร็วแต่ความเจ็บปวดซึ่งเกิดจากบาดแผลก็ยังมีผลคงค้างอยู่

“โอ้ เป็นอย่างที่เจ้าชายทรงคำนวณเอาไว้จริงๆ” เทพดาราเอ่ยอย่างชื่นชม “รออีกสักครู่เถิด เที่ยงคืนสิบสามนาทีเมื่อใด ดาวราหูจะทำมุมกับดาวเสาร์ เมื่อนั้นเวทที่ข้าร่ายไว้จะทำให้วารัคคนีเสื่อมฤทธิ์ไปชั่วขณะ”

แผนการที่เขานำเสนอเจ้าชายปีศาจมีเพียงแค่ว่าจะทำให้วิชชุตาหลับและขอยืมแรงปีศาจมาช่วยขัดขวางวชิรเทพเท่านั้น แต่อันธการกลับแนะให้ทำพิธีในคืนเดือนมืด พร้อมมอบผลึกมารที่สามารถสะกดพลังของอาวุธเทพมาให้ ถึงจะทำให้วารัคคนีเสื่อมฤทธิ์ได้ไม่กี่นาที แต่ก็นานพอที่จะถอดอาวุธเทพออกจากข้อมือหญิงสาวแล้วนำตัวเข้าไปในมิติแห่งความมืด

วชิรเทพได้ยินการสนทนานี้ทุกประโยค ชายหนุ่มกัดฟันกรอดแล้วเรียกสายฟ้าชุดใหญ่ออกมาทำลายปีศาจนรก พวกมันมอดไหม้ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งราวกับกลิ่นของซากสัตว์เน่าเปื่อย

ชายหนุ่มเปลี่ยนวารัคคนีกลับมาเป็นกำไลดังเดิม แล้วพนมมือตั้งจิตเพื่อปลดเวทพันธนาการโดยไม่ใส่ใจว่าปีศาจนรกอีกกลุ่มใหญ่กำลังกรูกันเข้ามา วชิรเทพยอมให้กายเนื้อแหลกสลาย ดีกว่าปล่อยให้น้องรักต้องมีอันตราย

สัตว์นรกตัวแรกที่วิ่งตรงมายังชายหนุ่มมีหัวเป็นสุนัข ส่วนร่างกายนั้นเป็นคน มันกระโจนเข้างับที่ไหล่ของชายหนุ่มจนเลือดไหลซึมออกมา

ถึงจะบาดเจ็บแต่วชิรเทพก็ไม่ละความพยายาม ในจังหวะที่เนื้อหัวไหล่กำลังจะหลุดออกจากบ่า ปีศาจตัวนั้นก็ร้องโหยหวนแล้วแน่นิ่งไป

ปรายตาไปมองก็เห็นว่านิศารัตน์มาช่วย หญิงสาวสะพายถังเครื่องพ่นยามาด้วย แต่สิ่งที่บรรจุอยู่ในนั้นคงไม่ใช่ยาฆ่าแมลงแน่

“หันมาทำไม รีบปลดผนึกแล้วไปช่วยฟ้าเร็วๆ สิ” นิศารัตน์เร่ง

หญิงสาวมองเห็นภาพว่าเพื่อนตกอยู่ในวงล้อมของปีศาจนรก ลำพังเธอไปตัวเปล่าคงช่วยอะไรวิชชุตาไม่ได้ พอนิ่งคิดก็จำได้ว่ามีสูตรน้ำมนต์สำหรับป้องกันตัวจากปีศาจพวกนี้อยู่ในตำรา ก็เลยฉีกหน้ากระดาษที่เป็นสูตรยาออก แล้วไปที่สวนของคณะเกษตร เธอรู้สึกคุ้นๆ เหมือนกับว่าที่นั่นรวมรวมไม้มงคลต่างๆ มาปลูกเอาไว้ ซึ่งก็น่าจะมีวัตถุดิบสำหรับให้ทำน้ำมนต์อยู่

ความที่เวลาจำกัดนิศารัตน์จึงใช้แต่ส่วนผสมที่หาได้อย่างโกศน ข่อยและธรรมรักษา เอามาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่น้ำสะอาดแล้วตั้งจิตอธิษฐาน เนื่องจากส่วนผสมไม่ครบมันจึงออกฤทธิ์แค่ทำให้ปีศาจนรกหมดสติไปได้แค่ชั่วขณะเท่านั้น

“เข้ามาเลยเจ้าปีศาจนรก” หญิงสาวร้องท้าแล้วพ่นน้ำมนต์ใส่ไม่ยั้ง ส่งผลให้ปีศาจนรกทั้งหลายสิ้นฤทธิ์ลงไปนอนกับพื้นเป็นจำนวนมาก

ร่างที่ไม่ได้สติของพวกเดียวกันไม่ต่างจากอาหารชั้นเลิศนัก ปีศาจที่เหลือต่างกรูกันเข้าไปกัดกินพวกที่สลบอยู่ ละความสนใจไปจากวชิรเทพและนิศารัตน์ชั่วขณะ

“จัดการมนุษย์นางนั้นก่อนที่นางจะทำเสียเรื่อง” เทพดาราสั่งเมื่อเห็นสถานการณ์กำลังเปลี่ยนไป

อีกห้านาทีดวงดาวจะเคลื่อนมายังที่หมายที่กำหนดแต่อีกไม่ถึงเกินสามนาทีเวทพันธนาการของเขาจะถูกวชิรเทพทำลาย

อาเพศหันไปทางหญิงสาวแล้วเสกหอกขึ้นมาไว้ในมือ ก่อนจะพุ่งมันอย่างแม่นยำไปที่ตำแหน่งหัวใจของนิศารัตน์ หญิงสาวมัวสาละวนอยู่การต่อสู้กับปีศาจนรก จึงไม่ทันรู้สึกว่ามีหอกพุ่งทะลุเขตเวทพันธนาการเข้ามาหาตัว

“ระวัง!” วชิรเทพเอ่ยเตือน

ช้าไปเสียแล้ว พอนิศารัตน์หันไปมองคมหอกก็อยู่ห่างตัวไปแค่คืบ ทว่าสิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อหอกที่เกิดจากอำนาจชั่วร้าย หลอมละลายกลายเป็นไอไปก่อนที่จะสัมผัสตัวหญิงสาว

“ถึงจะขี้เหร่ไปหน่อยแต่ในภพนี้ท่านก็ยังสุดยอดเหมือนเดิม” คนที่แอบมองอยู่เผลอตบมือฉาดทำเสียงดังอย่างชอบใจ

ภพนี้วายุเทพยังคงเป็นกลาง ไม่เข้าข้างเทพหรือปีศาจ เขาชอบที่จะเป็นผู้สังเกตการณ์เสียมากกว่า จะเข้าร่วมก็ต่อเมื่อมีเรื่องน่าสนุกหรืออยากจะทำเท่านั้น ชายหนุ่มจึงไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือปล่อยให้วชิรเทพกับนิศารัตน์จัดการปัญหากันเอง

“วายุเทพ!” อาเพศเอ่ยอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นเทพอีกองค์

“แหม…ข้านี่ก็ดังใช่หยอกนะ เป็นเกียรติจริงๆ ที่มีคนรู้จัก” ชายหนุ่มหัวเราะร่วน

สิ้นเสียงหัวเราะสายฟ้าเส้นใหญ่จากอำนาจของวชิรเทพก็ผ่าลงมาดังเปรี้ยง ทำลายเวทพันธนาการที่ขวางกั้นอยู่จนเสื่อมฤทธิ์

อาเพศเห็นท่าไม่ดี จึงดูดบรรดาปีศาจนรกกลับไปยังที่ที่พวกมันมาแล้วกระโดดหายเข้าไปในมิติแห่งความมืด ทิ้งเทพดาราให้รับกรรมที่ตนก่อเอาไว้เพียงลำพัง

นิศารัตน์กับวชิรเทพปราดเข้าไปหาวิชชุตาพร้อมกัน ทั้งสองช่วยกันพาตัววิชชุตาออกมาเขตมนตราของดาวห้าแฉก

“ขอถามหน่อย พวกท่านสองคนคิดจะจัดการกับเจ้านี่อย่างไร” วายุเทพเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเทพดารากำลังจะหนีไป ชายหนุ่มใช้พลังยกร่างที่อยู่บนรถเข็นให้ลอยขึ้นจากพื้นแล้วเหวี่ยงไปมาเล่น

“ปล่อยข้าไปเถิดองค์เทพ ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกแล้วอย่าฆ่าข้าเลย ได้โปรดเถิด” เทพชราคร่ำครวญอย่างน่าสมเพช

“ปล่อยมันไปเถอะ” วชิรเทพตัดสินใจไม่เอาความ

ถึงฆ่าทิ้งก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ปล่อยให้ทนทุกขเวทนาในร่างพิกลพิการนี้ต่อไปยังจะสาสมกว่า

“ใจดีเหมือนเคยนะ”

วายุเทพยักไหล่แล้วปล่อยร่างของเทพชรากลับลงมาที่รถเข็น แต่ก็มิใคร่จะนิ่มนวลนัก ร่างผอมแห้งนั้นจึงกระแทกกับเบาะอย่างแรง

“ขอบคุณองค์เทพมาก ข้าจะอยู่อย่างเจียมตัว จะไม่รนหาเรื่องเดือดร้อนอีกแล้ว” เทพดาราละล่ำละลักบอก แล้วใช้พลังจิตพากายเนื้อของตนออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในบริเวณนั้นพลังสะกดของเทพดาราก็เสื่อมฤทธิ์ วิชชุตาปรือตาขึ้นมามองพี่ชายและเพื่อนช้าๆ คนที่เธอเลือกจะโผเข้ากอดยังคงเป็นวชิรเทพเหมือนเคย

รอบกายทุกคนตอนนี้มีกลิ่นเหม็นเน่าของปีศาจนรกอบอวลอยู่ในอากาศ มันกระตุ้นความทรงจำของวิชชุตาให้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์สงครามระหว่างทวยเทพและปีศาจ ทำให้อาการปวดหัวแทรกเข้ามาในทันที

“ท่านพี่ข้าปวดหัว ปวดเหลือเกิน” หญิงสาวดิ้นไปมาอย่างทรมาน

“รีบจัดการซ่อมแซมผนึกเสียสิ วิชชุตาเทวีจะได้ไม่ต้องทรมาน” วายุเทพเร่งเนื่องจากอยากจะเห็นพลังในการสะกดของนิศารัตน์เต็มแก่

หญิงสาวจึงเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของวิชชุตาแต่กลับถูกวชิรเทพยึดมือเอาไว้

“เจ้าจะทำอะไร”

“ฉันจะดึงความทรงจำเกี่ยวกับอดีตชาติของฟ้ากลับไปไว้ที่เดิม ตอนนี้ผนึกมันรั่วเวลานึกอะไรออกฟ้าก็จะปวดหัวแล้วก็ทรมานอย่างนี้ ฉันปลดผนึกไม่ได้แต่ซ่อมมันได้ ถ้าอยากให้ฟ้าไม่ต้องทรมานก็เหลือทางนี้ทางเดียว”

นิศารัตน์จ้องวายุเทพเขม็ง เพื่อบอกเป็นนัยว่าต่อให้ไม่เห็นด้วย เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามเธอ

“หมายความว่าเสร็จพิธีแล้ว ข้าจะกลายเป็นคนแปลกหน้าของนางอีกครั้งสินะ”

“ใช่!” นิศารัตน์ตอบกลับอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวกลับ เมื่อเห็นแววมั่นใจว่าสามารถช่วยวิชชุตาได้ วชิรเทพจึงยอมถอยออกมาโดยดี

“รบกวนเจ้าแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยฝากฝังแล้วกุมมือข้างหนึ่งของวิชชุตาเอาไว้

นิศารัตน์เอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของวิชชุตาแล้วหลับตาลงเพื่อทำสมาธิ ไม่นานตราสัญลักษณ์สีแดงฉานบนหน้าผากของหญิงสาวก็ค่อยๆ เปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลืองนวลดังเช่นครั้งแรกที่มันเป็น อาการทุรนทุรายของวิชชุตาก็เริ่มลดลงเป็นลำดับ หญิงสาวปิดเปลือกตาลงช้าๆ แล้วหลับไปอย่างสงบ

“เรียบร้อยแล้ว ไม่นานก็ฟื้น” นิศารัตน์ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง

การซ่อมแซมผนึกไม่เจ็บปวดทรมานเหมือนอย่างตอนทำลาย แต่ก็กินแรงและเปลืองพลังไม่น้อย ทำเอาเข่าอ่อนแทบลุกขึ้นยืนไม่ไหว

“ข้าจะไปส่ง” ชายหนุ่มยื่นมือไปให้

นิศารัตน์ยังรู้สึกเกลียดวชิรเทพและไม่ถูกชะตาอยู่จึงเอ่ยปฏิเสธ

“ไปส่งฟ้าก็พอ ฉันจะกลับเอง รถฉันจอดไว้ด้านล่าง ยังต้องเอาของไปคืนด้วย” หญิงสาวชี้ไปที่ที่พ่นยาฆ่าแมลงซึ่งแอบหยิบยืมมาโดยไม่บอกเจ้าของ

“วันนี้เหนื่อยกันมามากแล้ว ให้ข้าจัดการที่เหลือให้ดีกว่า” วายุเทพขันอาสา เนื่องจากยังอยากรู้อยากเห็นอยู่ แต่ชักจะทนกลิ่นของปีศาจนรกพวกนี้ไม่ไหว

ดีดนิ้วทีเดียวทั้งหมดก็มาอยู่ในห้องของวิชชุตาแล้ว เวทเคลื่อนย้ายแบบนี้มีเพียงวายุเทพเท่านั้นที่ทำได้ หากเป็นเทพองค์อื่นจะเคลื่อนย้ายใครก็ต้องให้เจ้าตัวเต็มใจ ไม่อย่างนั้นแล้วเวทจะใช้ไม่ได้ผล

แสงไฟในห้องทำให้เห็นว่าบาดแผลที่หัวไหล่ของวชิรเทพค่อนข้างสาหัส แต่ชายหนุ่มไม่ห่วงตัวเองหรือคิดจะทำแผลเลย เขายังคงกุมมือน้องสาวเอาไว้แน่นด้วยความห่วงใย

นิศารัตน์เห็นแก่ที่เขายอมบาดเจ็บเพื่อช่วยเพื่อนและเธอเองก็เป็นพี่คนทำให้เข้าใจความรู้สึกเขา จึงยอมลดทิฐิลง ปล่อยให้เขานั่งเฝ้าวิชชุตาในห้องโดยมีเธอนั่งอยู่ด้วย

พอวิชชุตาขยับตัวเหมือนจะได้สติ วชิรเทพก็คลายมือออกแล้วกล่าวขอบคุณนิศารัตน์อีกครั้ง

“วิชชุตาคงตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่านี้หากไม่มีเจ้า ข้าติดค้างเจ้าแล้ว กาลต่อไปมีอะไรให้ข้าช่วย ก็จงบอกมาได้เลย ข้ายินดีจะทำให้อย่างสุดความสามารถ”

“ไม่จำเป็น แค่อยู่ห่างๆ ฉันก็พอ”

นิศารัตน์ไม่เคยคิดจะทวงหนี้บุญคุณใคร ที่เธอทำไปก็เพื่อช่วยเพื่อนเท่านั้น ไม่ได้หวังผลตอบแทน

“ข้ารับปากเจ้า” วชิรเทพให้สัญญาก่อนจะหายไปจากห้อง

เขาไม่อยากให้น้องตกใจที่เห็นคนแปลกหน้าอย่างเขาตอนตื่น อีกประการคือรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้าด้วย เขาสัญญาว่าจะปกป้องน้องแต่แล้วกลับชักนำภัยเข้ามาหาตัววิชชุตาเทวี คนอย่างเขาไม่สมควรจะถูกเรียกว่าพี่อีกต่อไป ดีแล้วที่นิศารัตน์ปิดผนึกความทรงจำของพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ไปเสีย

วชิรเทพกลับมาล้างแผลที่ห้อง ชายหนุ่มควบคุมพลังห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกมา แล้วพยายามล้างแผลด้วยตัวเอง กายเนื้อของมนุษย์ที่ใช้อยู่อาจจะสมานแผลไม่ได้รวดเร็วเหมือนอย่างกายทิพย์ แต่ถ้าเทียบกับคนธรรมดาแล้วก็ดีกว่ากันถึงสิบเท่า

“ให้พี่ชายคนนี้ทำแผลให้เอาไหม” วายุเทพที่โผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงร้องถาม

เขานึกอยู่แล้วว่าวชิรเทพจะต้องไม่ไปโรงพยาบาล ก็เลยแอบไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาจากห้องฉุกเฉิน

“เย็บให้สวยๆ นะครับคุณหมอ” ชายหนุ่มถอดเสื้อกล้ามตัวในทิ้ง แล้วนั่งลงบนโซฟาให้วายุเทพทำแผลให้

“จะเอาให้เนี้ยบแบบไม่มีแผลเป็นเชียวล่ะ อยากรู้จริงๆ ถ้าคุณป้ารู้ว่าลูกชายแก้วหัวแหวนโดนปีศาจกัดจนเนื้อหลุดจะทำหน้ายังไง”

“อย่าเล่าเชียว” ชายหนุ่มรีบห้าม

ความที่ภพนี้เขาเกิดเป็นลูกชายคนเล็กและเกิดมาตอนที่มารดาอายุมากแล้ว จึงได้รับความรักและประคบประหงมจนเกินพอดี ถ้าบอกคงมีเรื่องวุ่นวายทำให้ปวดหัวอีกแน่

“ก็แค่สมมุติน่า ยาชาไหม หรือจะให้เย็บสด” วายุเทพหยิบเข็มบรรจุยาชาขึ้นมาโบก

“ขอสักเข็มก็ดี”

ถึงจะอดทนไม่แสดงอาการเจ็บปวดออกมาแต่ก็ใช่ว่าจะต้องโชว์ความถึกทนด้วยการปฏิเสธยาชาเสียเมื่อไร

“เจ้ารู้สินะว่านางเป็นใคร บอกข้าได้รึเปล่า”

ถึงจะชุลมุนแต่เขาก็ได้ยินชัดว่าวายุเทพเรียกแทนตัวนิศารัตน์ว่าท่าน มีเทพไม่กี่องค์นักหรอกที่วายุเทพจะยอมเรียกอย่างให้เกียรติแบบนั้น

“หึๆ ถ้าบอกก็ไม่สนุกนะสิ เอาเป็นว่าข้าให้เวลาเจ้าคิดสักพักก็แล้วกัน ถ้ายังคิดไม่ออกข้าจะใบ้ให้” ชายหนุ่มพูดไปพลางเย็บแผลไปพลางอย่างคล่องแคล่ว

ความลับข้อนี้เป็นเรื่องน่าสนุกอีกเรื่องที่เขารอชม วชิรเทพจะทำหน้าอย่างไรหนอหากรู้ว่านิศารัตน์เป็นใคร


อาการบาดเจ็บกับฤทธิ์ของยาทำให้วชิรเทพหลับไปตลอดคืน ชายหนุ่มตื่นมายามสาย ตอนนี้สภาพแผลดูดีขึ้นมาก ตกดึกคืนนี้คงจะตัดไหมออกได้

ชายหนุ่มลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดร่างกาย เนื่องจากถูกกำชับว่าอย่าให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม

เปลี่ยนชุดเสร็จชายหนุ่มก็เปิดตู้เย็นหาอาหารแช่แข็งออกมาอุ่นรับประทาน กินไปได้ครึ่งกล่องก็มีคนมาเคาะห้อง ชายหนุ่มจึงลุกไปเปิดให้ด้วยเข้าใจว่าเป็นเพื่อนที่คณะ แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าวิชชุตามายืนอยู่หน้าห้องพร้อมอาหารกับขนมเต็มมือ

“ฟ้ามาเยี่ยมพี่ไฟค่ะ”

สรรพนามที่เปลี่ยนไปบอกให้รู้ว่าความทรงจำในอดีตชาติได้ถูกผนึกไปแล้ว ที่น่าแปลกคือทำไมหญิงสาวจึงยังมีท่าทีสนิทสนมกับเขาอยู่

“เจ้ายังจำพี่ได้รึ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างคาดหวัง

“ก็รางๆ น่ะค่ะ รู้แต่ว่าพี่ไฟคือพี่ชายของฟ้า แล้วก็เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกนิดหน่อย นอกนั้นว่างเปล่าหมดเลย” วิชชุตาสารภาพไปตามตรง

เธอตื่นมาแล้วจำเรื่องราวช่วงสอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ที่รู้คือวชิรเทพกลับมาเกิดโดยใช้ชื่อว่าวชิระ เขาคือพี่ชายที่เธอสามารถไว้ใจได้ วิชชุตาจึงกลับมาเป็นวิชชุตาคนเดิมพร้อมความทรงจำเกี่ยวกับพี่ชายคนใหม่คนนี้อย่างคร่าวๆ

“พี่ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเสี่ยงอันตราย” วชิรเทพเอ่ยอย่างสำนึกผิด ใบหน้าเศร้าๆ ของเขาทำให้วิชชุตารีบบอกว่าไม่เป็นไร

“พี่ไฟพยายามช่วยฟ้าให้ไม่ต้องปวดหัวต่างหาก พี่ไฟไม่ได้ทำอะไรผิดเลย วารัคคนีเล่าให้ฟังว่าพี่ไฟยอมให้ปีศาจนรกทำร้ายเพื่อช่วยฟ้า ฟ้าต่างหากที่ต้องขอบคุณ พี่ไฟอย่าคิดมากเลยนะคะ”

วชิรเทพมองสีหน้าจริงจังของน้องสาวแล้วจึงอมยิ้มออกมา ถึงจะไม่ใช่วิชชุตาที่เหมือนกับในอดีตแต่นางก็ยังเป็นน้องที่เขารักและห่วงใย

“ออกมาหาพี่แล้วเพื่อนฟ้าไม่ว่าเอาเหรอ” ชายหนุ่มเห็นเธอพูดอย่างธรรมดาก็เลยกลับมาใช้ภาษาอย่างในปัจจุบันด้วย

เพื่อนที่เขาหมายถึงก็คือนิศารัตน์ เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ยอมให้เขาเรียกชื่อชายหนุ่มจึงไม่พูดชื่อออกมา แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็ตาม

“ไม่หรอกค่ะ คือ…” หญิงสาวลากเสียงอย่างลังเลไปอึดใจแล้วแอบกระซิบบอกว่า “ฟ้าจะกลับบ้านไปหาแม่บ่ายนี้ นิเค้าก็เลยบอกให้ฟ้ามาเยี่ยมพี่ไฟก่อนไป ความจริง…นิห้ามไม่ให้บอกแต่ฟ้าจำเป็นต้องเล่าเพราะไม่อยากให้พี่ไฟเข้าใจนิผิด ถึงนิจะแสดงออกว่าไม่ค่อยชอบพี่ไฟ แต่เขาก็เป็นคนมีเหตุผลนะคะ ตอนที่ฟ้าหมดสติไป เหมือนได้ยินเสียงนิถามว่าจะยอมแลกความทรงจำที่ไม่สำคัญกับเรื่องของพี่ไฟรึเปล่า ฟ้าก็เลยยังจำพี่ได้” วิชชุตาแฉเพื่อนอย่างหมดเปลือก

สิ่งที่นิศารัตน์ดึงเอาไปแทนความทรงจำเกี่ยวกับวชิรเทพที่ต้องถูกผนึกก็คือเรื่องที่เธอต้องท่องจำเพื่อสอบกลางภาคกับความทรงจำไร้สาระ นิศารัตน์เห็นว่าสอบเสร็จแล้วคงไม่ได้ใช้ความรู้พวกนี้อีกก็เลยผนึกมันเข้าไปแทนส่วนที่แอบเก็บไว้ ตอนนี้วิชชุตาเลยจำข้อสอบกลางภาคไม่ได้เลยแม้แต่ข้อเดียว

“พี่ติดค้างเพื่อนฟ้าอีกเรื่องแล้วสินะ” วชิรเทพพึมพำ

ไม่ว่าในอดีตชาตินางจะเคยเป็นใคร เขาก็มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าในภพนี้นางไม่ใช่คนที่เลวร้าย




นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.พ. 2555, 00:16:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.พ. 2555, 00:16:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1974





<< ตอนที่ 3 ผนึกความทรงจำ : บทที่ 4 ผิดใจ   ตอนที่ 4 คำสาปแห่งความมืด : บทที่ 1 สอดแนม >>
Auuuu 27 ก.พ. 2555, 00:24:55 น.
นิสุดยอดตลอดดดด ส่วนวายุเทพก็เก๋ๆๆๆ ยังกวนคงเส้นคงวา เอิ๊กๆๆๆ


นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 00:27:50 น.
คุณ Auuuu สวัสดีวันใหม่ค่ะ (หลังเที่ยงคืนแล้วนี่เนอะ) มาเร็วอีกแล้ว ^3^


Auuuu 27 ก.พ. 2555, 00:32:54 น.
เค้ารออยู่แหละ อิอิ


นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 00:36:28 น.
คุณ Auuuu ถ้าอย่างนั้นฝันดีนะคะ จะไปเข้านอนแล้ว ส่งจูบราตรีสวัสดิ์ค่า ^O^


Auuuu 27 ก.พ. 2555, 00:41:31 น.
เช่นกันค้า ^^ จ๊วบบบบบบบบบบ >3<


Zephyr 27 ก.พ. 2555, 00:57:48 น.
อ่าว ไปนอนกันหมดเลย งั้นเค้าทิ้งเมนท์ไว้นะคะ จุ๊บๆๆๆราตรีสวัสดิ์ทั้งคุณนิแลัคุณอุ๊นะคะ
อ่านตอนนี้ก็ยังคงงงว่าเทพคนอื่นๆ เค้ารู้หมดเลยว่ามันเป็นกับดักหรือมีไรแปลกๆไมวชิรเทพไม่รุ้อ่ะคะ ฟ้าไม่นับเพราะเธอถูกผนึกอยู่
วายุเทพนี่ก็ ยืนมองเฉยไร้ประโยขน์จริง มาดีดนิ้วพากลับตอนจบเอง เฮ่อ จริงๆตามอาชีพปัจจุบันพี่ท่านยืนเฉยไม่ช่วยยังงั้น ผิดจรรยาบรรณนะค้าาาา พี่หมอมารุต


อสิตา 27 ก.พ. 2555, 06:09:41 น.
-3- ส่งจูบบบบ(ให้คุณหมอแว่นโรคจิต) อร๊าาา น่ารักจริงๆ
อะไรเนี่ย แม่นิก็จะโอนไปคู่กับพี่ไฟที่สนใจแต่น้องสาว แบบนั้นจะเวิร์คเหรอคะ
สู้ให้คู่กับคุณหมอไม่ดีกว่าเหรอ หนุ่มแว่น สาวแว่น แต่ถ้าไม่ได้ก็หาแฟนให้พี่หมอหน่อยแล้วกัน พลีส


อสิตา 27 ก.พ. 2555, 08:49:33 น.
*///* ตามไปอ่านสปอยล์ตัวเองในเด็กดีแล้วค่ะ เปลี่ยนใจแล้ว
นิคู่กับตานี่ก็ดีเหมือนกัน คิๆๆ (ลืมฟ้าโดนสิ้นเชิง)


Auuuu 27 ก.พ. 2555, 08:59:18 น.
^
^
นิเก่งเนอะะะ คุณอสิตา :")


อสิตา 27 ก.พ. 2555, 09:36:38 น.
*0*/ ใช่ค่ะคุณอุ๊ นิเปล่งพลังเรืองรองมากมาย หุหุ


เพลา 27 ก.พ. 2555, 09:41:31 น.
นิเก่งสุดยอดอ่ะ เข้ามาชูป้ายไฟเชียร์นิคู่กะพี่ไฟ อิอิ


Zephyr 27 ก.พ. 2555, 12:07:31 น.
มาเชียร์นิกะพี่ไฟอีกคน >////<
ไม่มีใครสนใจฟ้าเลยอ่ะ - -"
ฟ้ากะพี่ไตรงัย อิอิ นายไตรหายไปเลย ไปไหนไม่รุ้


นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 13:36:27 น.
คุณ Nefferretti ช่างนายไตรกับฟ้าเถอะค่ะ อวยนิดีกว่า (ซะงั้น) ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงนิเด่นค่ะ อีกไม่กี่ตอนฟ้าก็จะกลับมาแล้ว ส่วนนายไตรยังบทน้อยเท่าเดิม นายเป็นได้แค่ตัวประกอบล่ะนะ 55555

คุณ Auuuu สวัสดีตอนบ่ายอีกรอบค่ะ

คุณอสิตา อ่านคอมเมนต์แรก แล้วเลื่อนสายตาลงมาก อ้าว ไม่ถึงวันจากนารีเป็นอื่น 5555 เปลี่ยนคู่เชียร์ได้รวดเร็วมากค่ะ แต่ก็เนอะ พี่ไฟเค้าน่ารักอ่า วายุเทพบทน้อย เลยต้องอวยคู่นี้แทน (ขอโทษนะคะพี่หมอ เค้าไม่มีที่เขียนแล้วอ่า กระซิกๆ)

คุณเพลา มาขอบคุณแทนนิค่า เธอได้แฟนคลับเพิ่มมาอีกหนึ่งแว้วววว


Auuuu 27 ก.พ. 2555, 23:29:33 น.
ก๊อกๆๆๆ ยังอยู่กันหรือเปล่าเอ่ย ??


นิชาภา 27 ก.พ. 2555, 23:48:31 น.
คุณ Auuuu ยังอยู่ค่า แต่คืนนี้งดลง เล่นผ่านมือถือค่ะ น้องคอมลงโปรแกรมอยู่ ^O^


Auuuu 27 ก.พ. 2555, 23:50:00 น.
อ๊ากกกกกกกกก แต่ไม่เป็นไรค่า ^^ คอมเป็นอะไรหรอคะคุณนิชาภา ถึงต้องลงโปรแกรม?


นิชาภา 28 ก.พ. 2555, 00:07:57 น.
คุณ Auuuu พอดีเปลี่ยนโน้ตบุคใหม่ค่ะ เลยต้องตบตีมันเล็กน้อย


Auuuu 28 ก.พ. 2555, 00:14:22 น.
อ๋อๆๆๆ เก๋ๆๆๆ อยากเปลี่ยนเหมือนกันค่าาา โน้ตบุ้คสมัยนี้อายุสั้น :'(


นิชาภา 28 ก.พ. 2555, 00:32:44 น.
คุณ Auuuu ของเก่าใช้มาประมาณสี่ปีแล้วน่ะค่ะ เริ่มเน่า แต่ก็ผูกพันเหมือนกัน อาลัยอาวรณ์มาก กว่าจะทำใจเลิกใช้ได้นี่ก็นานเหมือนกัน


Auuuu 28 ก.พ. 2555, 00:37:31 น.
เครื่องนี้ก็สี่ปีเหมือนกันค่า ของเพื่อนก็เริ่มๆไปกันละ ผูกพันเล็กๆเหมือนกันค่ะ แต่ถ้ามีของใหม่ให้ใช้ก็เอาค่ะ เอิ๊กๆๆๆ ^___^ คุณนิเก่งจังลงโปรแกรมเองด้วย


นิชาภา 28 ก.พ. 2555, 00:38:52 น.
คุณ Auuuu เปล่าค่ะไม่ได้ลงเอง ให้คุณสามีลงให้ค่ะ ^O^


Auuuu 28 ก.พ. 2555, 00:53:21 น.
คุณสามีน่ารักกกกกกกก >.<


นิชาภา 28 ก.พ. 2555, 00:57:55 น.
คุณ Auuuu หึๆๆ ไม่ทำมีเฮมากกว่าค่ะ จะจัดการให้ในทันทีหรือจะให้เดี๋ยนหาสามีใหม่ที่เขาเต็มใจจะลงให้เคอะ เดี๋ยนจัดให้ได้นะคะ (ข่มขู่)สะบัดบ็อบ 5555 เมื่อก่อนเราเจ้าชู้นิสนึง มีคดีพอหอมปากหอมคอค่า หุๆๆ ทุกวันนี้พยายามเก็บเขี้ยวเก็บเล็กอยู่ อย่าให้เผลอนะ (ซะงั้น?)


น้ำตาหัวใจ 28 ก.พ. 2555, 01:11:42 น.
น่ารักมากค่ะ รอติดดามนะค่ะ


นิชาภา 28 ก.พ. 2555, 01:19:11 น.
คุณน้ำตาหัวใจ ขอบคุณที่ติดตามค่า ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะ ^O^


Auuuu 28 ก.พ. 2555, 08:42:53 น.
ไอ๊หย่ะะะะ คุณนิชาภาเปรี้ยวมากก ^0^


อสิตา 28 ก.พ. 2555, 14:23:34 น.
o,o คุณนิ(ชาภา)มีสามีทำให้น่าอิจฉาจังค่ะ หุหุ เรียกเลียนแบบเจ๊เนเฟอร์... ว่าแต่เราน่าจะเปิดห้องในเฟซบุคหรืออะไรสักอย่างไว้เสวนายามดึกกันนะคะเนี่ย


นิชาภา 28 ก.พ. 2555, 16:23:43 น.
คุณ Auuuu เคยเปรี้ยวค่ะ มันเป็น past tense ปัจจุบันเป็นคุณน้าแม่บ้านหัวฟู ม่ายยยยยย (กรีดร้อง)

คุณ อสิตา อย่าได้อิจฉาค่ะ ตอนนี้กำลังอยากโสดสุดพลัง รู้สึกตัวเองแต่งงานเร็วไปยังไงก็ไม่รู้ แบบว่ายังเปรี้ยวได้ไม่เต็มที่เลย เศร้าซึมเล็กๆ เอ่อ ห้องในเฟสบุคซ์ ใจอยากทำแฟนเพจนะคะ แต่เค้าทำไม่เป็นอ่า http://www.facebook.com/#!/nome.pratchayaphan นี่เฟสบุคส์เราค่า นี่เมล taraka_star@hotmail.com


อสิตา 28 ก.พ. 2555, 17:05:16 น.
*-*/ แอดไปแล้วจ้า สาวๆคนอื่นอยู่ไหน โผล่มากันเร๊ว จะได้ตั้งแก๊งสันทนาการยามดึก
ทำเพจไม่ยากนะคะ เข้าไปที่เพจชาวบ้าน(เพจอะไรก็ได้) แล้วทางซ้ายล่างๆ มันจะมีปุ่มครีเอทเพจของเราเองขึ้นมา ก็ลองกดแล้วทำตามไปเรื่อยๆ

จริงๆเราชอบความเป็นโสดค่ะ กะว่าจะไม่แต่งงานตลอดไป แต่... เป็นคนโลว์เทคได้โล่คนนึงเหมือนกัน ไม่ชอบทำคอมเอง
เวลามันมีปัญหาขึ้นมาอยากจะดิ้นเร่าๆ ร้องวี๊ดๆ แล้วก็มีคนมาทำให้อ่ะค่ะ กุซิกๆ


Auuuu 28 ก.พ. 2555, 19:46:32 น.
แอดไปแล้วเช่นกันค่า :)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account