ลิขิตพราย โดย วงแหวนดาวเสาร์ สนพ.อรุณ
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางรอนแรมไปในหนทางมืดมิด
มีเพียงเสียงหริ่งเรไรและหิ่งห้อยนำทาง
เขากำลังหนีจากสังคม ผู้คน มาเพื่อตามหาสิ่งหนึ่งซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้ในป่าลึก... “บ่อพราย”
ตำนานเล่าขานกันว่าหากใครได้ส่องดูเงาตนเองที่บ่อในคืนเดือนมืด คนผู้นั้นจะมองเห็นสิ่งที่ตนตามหา

พี่นนท์คนใหม่กลายเป็นอีกคนที่เพลงพิณไม่รู้จัก จากผู้ชายขี้แพ้ สุภาพ อ่อนโยน ไม่สู้คน
กลายเป็นกระด้าง ปราดเปรียว สนุกกับชีวิตในเวลาที่ได้เอาชนะทุกสิ่งด้วยแววตาทรงพลังจนน่าขนลุก
ชั่วเวลาไม่กี่เดือนสรานนท์กลับกลายจากคนหมดตัวไปเป็นตากล้องมาแรงที่สุดในขณะนั้น
เขาเปิดนิทรรศการภาพถ่ายชวนพิศวงและดูสูงค่าจนเหล่าเศรษฐีแทบจะเหยียบกันเพื่อแย่งชิงไปไว้ในครอบครอง
ด้วยแรงดึงดูดแปลกประหลาดราวกับไม่ใช่พลังจากน้ำมือมนุษย์
Tags: สรานนท์ เพลงพิณ ธิติ พล กมลณัฐ บ่อพราย

ตอน: บทที่ ๓ กล่องแห่งความทรงจำ

บทที่ ๓ สัญญาพิษ

เพลงพิณกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขบนที่นอนซึ่งโยนโยกไปมาเบาๆ ราวกับอยู่บนเปลญวน
เสียงน้ำกระเพื่อมไหวรอบกายกล่อมให้เคลิบเคลิ้ม ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆ รู้สึกตัวและลืมตา
พบตนเองนอนอยู่ในเรือลำน้อย เรือที่ทำจากไม้ลำเล็กๆ น่าแปลกที่เธอหลับสบายราวกับ
ได้นิทราบนฟูกที่นุ่มราวปุบเมฆ แล้วหญิงสาวก็รู้ว่านี่คือความฝัน... เธอมองไปรอบตัว
ทะเลสาบใสเหมือนกระจกรายล้อมมองลงไปเห็นก้นบึ้งที่ไม่ได้ลึกอะไรนัก หินหลากสี
ก้อนเล็กบ้างใหญ่บ้างดารดาษสวยเหมือนความฝัน ก็มันเป็นฝันจริงๆ นี่นะ
กระแสน้ำเอื่อยๆ ไหลเรื่อยไปช้าๆ เรือลำนี้กำลังนำพาเธอไปสู่ที่ไหนสักแห่ง...

จากฟ้าใสๆ เมฆเริ่มเข้าแทนที่ ฟ้ามืดลงทุกที ธารหมอกรินไหลมาเกลื่อนผิวทะเลสาบ
หมอกนั้นราวกับจะช่วยพัดพาเรือไปเร็วยิ่งขึ้น จากความสงบสู่ความอึมครึมอันน่าสะพรึง
ฟ้าสดใสกลางเป็นราตรีไร้ดาว แล้วเธอก็มองเห็นจุดหมาย... เกาะสีฟ้าอมเขียวแปลกประหลาด
เมื่อเรือค่อยๆ เคลื่อนที่เข้าใกล้ เพลงพิณพบว่าแสงนั้นเกิดจากหิ่งห้อยจำนวนมากที่ลอยตัวขึ้น
จากเกาะเล็กๆ นั้น แปลกที่เมื่อยิ่งเข้าใกล้เกาะเท่าใดพื้นกินก็ดูเหมือนจะยิ่งหดเล็กลง

สุดท้ายแล้วทั้งเกาะก็มีขนาดเพียงแค่พอให้ต้นไม้ต้นหนึ่งได้งอกเงย ไม่ใช่ต้นมะพร้าว
แต่กิ่งก้านและใบหนาของมันเหมือนไม้ในป่าใหญ่ ใต้เงาไม้นั้นยังมีเงาคนยืนอยู่
ร่างสูงเงาหนึ่งคุ้นตา เงาหนึ่งไม่คุ้นแม้แต่นิด แต่เมื่อเข้าใกล้เพียงพอแสงจากหิ่งห้อย
ดวงน้อยใหญ่ก็ส่งให้เพลงพิณได้เห็น เขาทั้งสองคนคือพี่นนท์...

แต่ทำไม เธอถึงคิดว่าร่างที่ยืนสง่าอยู่นั้นคือคนไม่รู้จัก ทำไมกัน เขาค่อยๆ ก้าวลงมาในน้ำ
ก้าวมาจนถึงเรือลำน้อยของเพลงพิณที่จอดคอยอยู่ ในขณะที่สรานนท์ที่ไหล่ห่อคอตก
อีกคนยืนนิ่งอยู่บนฝั่ง พี่นนท์ยิ้มให้เธอ ยิ้มของเขาเย็นเยือกจนน่าขนลุก
ขณะที่เจ้าตัวเข็นเรือให้ไกลออกจากฝั่งก่อนจะตะกายขึ้นมา เรือลำน้อยถอยออกจากท่า
กระแสลมแรงพัดมาพาให้เรือห่างจากเกาะหิ่งห้อย

“เขาไม่ไปกับเราเหรอคะ”

“ไม่ละ เขาเหนื่อยแล้ว ต่อจากนี้มีแต่พี่ก็พอ”

“แต่ว่า...” ใจหนึ่งเพลงพิณคิดว่าพี่นนท์คนที่ถูกทิ้งไว้น่าสงสาร แต่คิดอีกทีก็เห็นด้วย
เขาแลดูล้าเกินกว่าจะเดินทางต่อไป ปล่อยเขาไว้แบบนั้น ลืมว่ามีเขาเสียก็คงดี แต่ทำไมเธอถึงใจหายนัก
“เรากลับไปรับเขาเถอะ เขาต้องไปด้วยกัน” เพลงพิณตัดสินใจ

“ไม่ได้ กราบเรือปริ่มน้ำแล้ว ถ้าให้เขาขึ้นมาพี่ก็ต้องลง” ชายหนุ่มถอนใจ
“ถ้าเรือนี้นั่งได้แค่สองคน เพลงจะเลือกใคร...”

เพลงพิณสับสน รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง พี่นนท์จะมีสองคนได้ยังไง
พี่นนท์ควรจะมีคนเดียว แล้วไปด้วยกัน ไปพร้อมกันบนเรือลำนี้ถึงจะถูก

“เราต้องกลับไปรับเขา”

ชายหนุ่มตรงหน้าเพลงพิณยิ้มเยาะกับคำที่ได้ยิน แต่ดูเหมือนเขาไม่คิดจะโต้ตอบอะไร
ขณะปล่อยให้เรือไหลไป ไกลห่างจากเกาะหิ่งห้อยขึ้นเรื่อยๆ จนลับตา




กมลณัฐเดินผิวปากเข้าไปในตึกทำงานยักคิ้วเป็นเชิงทักทายให้กับเพื่อนร่วมงานที่พบเจอ
คนในตึกพากันหันมามองสีหน้าของหญิงสาวผมสั้นที่ถือถุงปาท่องโก๋มาด้วยซึ่งมุ่ยสนิท
คล้ายคนยังไม่ตื่นเต็มตาแต่ก็ต้องฝืนใจมาทำงาน ทว่าท่าเดินสบายๆ กับอาการผิวปากนั้น
ทำให้สายตาหลายคู่ที่มองรู้สึกขัดแย้งเสียเหลือเกิน ว่าตกลงคนที่หน้ามุ่ยกำลังอารมณ์ดีหรือไม่ดี
หรือยังไม่ตื่นแล้วละเมอมาจนถึงทำงานกันแน่

หญิงสาวโยนถุงปาท่องโก๋กับซาลาเปาทอดรสหวานๆ ลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะหย่อนตัวลง
นั่งยังไม่ทันเต็มก้นดีเมื่อมืออวบอูมของใครบางคนเอื้อมมาคว้าถุงนั้นไปและเปิดปากถุงที่มัดไว้
ออกสูดกลิ่นของทอดใหม่ๆ ที่หอมยวนใจ

“พี่ณัฐซื้อมาเยอะเชียว ฝากปลาสินะคะ”

กมลณัฐหาวโดยไม่ปิดปาก ก่อนจะยื่นมือไปหยิบปาท่องโก๋มายัดเข้าปากทีเดียวหนึ่งคู่
โดยไม่กลัวความร้อนแต่อย่างใด “ฝากคุณเพลง แกจะกินก็ได้ยายปลาแต่ห้ามเกินสองตัว”

“ขี้เหนียว ปลาเห็นคุณเพลงอย่างมากก็จะขอหยิบสักชิ้น แล้วเหลืออีกเป็นสิบ ให้ใคร...”

“เก็บไว้เยอะๆ คุณเพลงเขาจะได้เลือกชิ้นที่น่ากินที่สุดได้ตามใจชอบไง ส่วนที่เหลือ
มันอาหารเช้าฉัน แบ่งให้ตั้งสองแล้วยังจะบ่น” กมลณัฐพยายามยื้อแย่งถุงอาหารเช้าของตน
คืนจากเพื่อนสาวรุ่นน้องร่างอวบที่พยายามปล้นถุงนั้นไป ก่อนที่จะเป็นฝ่ายชนะเพราะสาวปลา
เกรงมะเหงกเลอะน้ำมันที่ร่ำๆ จะเขกโดนหัวถ้าไม่คืนอาหารให้
กมลณัฐคำรามฮื่อในคออย่างมีชัยก่อนจะเริ่มกินไปทำงานไปแบบเนือยๆ

สายตาของหญิงสาวมองเข็มนาฬิกาที่กระดิกไปจนเลยเลขสี่ เมื่อไร้วี่แววของเพลงพิณ
ปาท่องโก๋ที่คล้ายจะเป็นหมันจึงถูกหยิบใส่ปากทีละชิ้นต่อสิบนาทีที่ผ่านไปกระทั่งมืออวบๆ
ที่ยื่นมามีส่วนร่วมอย่างเงียบๆ ก็ถูกปล่อยให้จกโดยไม่ว่ากล่าวเมื่อเห็นว่าเจ้านายสาวคนสวย
ที่จะทำให้ตนเองตื่นเต็มตาไม่เดินผ่านประตูเข้ามาเสียที

“คุณเพลงไม่สบายหรือไงนะ” เด็กปลาเอ่ยถามเพื่อนรุ่นพี่ทั้งที่ปาท่องโก๋ชิ้นสุดท้าย
ยังเต็มปากพลางดูดนิ้วแจบๆ ก่อนซ่อนมือลงใต้โต๊ะแอบน้ำมันที่เหลือติดนิ้วป้ายกระโปรง
ตัวบานยาวของตนเงียบๆ

“นั่นสิ ปกติคุณเพลงไม่เคยมาสาย สงสัยวันนี้จะไม่เข้า แปลกจริง
ปกติเวลาจะไปไหนจะบอกไว้ล่วงหน้านี่นา วันนี้มีประชุมด้วย”



เสียงโทรศัพท์ดังเป็นเพลงละมุนหูปลุกเพลงพิณให้ตื่นจากนิทรา มีคนเคยติงว่า
เสียงที่เธอเลือกใช้นั้นนุ่มเกินไปจนน่ากลัวว่าจะไม่ได้ยินเวลามีสายเข้า
แต่คนเป็นเจ้าของเองได้ยินทุกครั้งหาก หญิงสาวงัวเงียลากกระเป๋าถือ
ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาควานหาโทรศัพท์ ก่อนกรอกเสียงอู้อี้ลงไป
หลังเห็นชัดว่าใครโทรมา
เรื่องจะให้รับสายโดยไม่ดูว่าใครนั้นแม้ง่วงแค่ไหนก็คงไม่ใช่คนอย่างเพลงพิณ

“พี่พล... โทรมาทำไมคะ”

“เพิ่งตื่นเหรอคะน้องหนูเพลง พี่ขอโทษที แต่ปกติเพลงตื่นเช้านี่นา ก็นึกว่าจะคุยได้...”

“คุยได้ค่ะ ว่าแต่เรื่องอะไร” หญิงสาวขมวดคิ้วเมื่อพี่ชายทำเสียงเหมือนมีธุระบางอย่างค้างคา”

“ก็เมื่อวานเพลงโทรมาหาพี่ ทำเสียงร้อนใจเชียวเรื่องไอ้นนท์ ที่ว่ามันทำตัวแปลกๆ ”

ลืมซะให้หมด เรื่องแปลกๆ ในคืนนี้ รวมถึงเรื่องที่พี่เปลี่ยนไป ลืมซะคนดี...
เสียงของสรานนท์แว่วผ่านมาในห้วงความคิด ก่อนที่มันจะจางหายพร้อมพาความกังขา
อณูสุดท้ายไปจากใจเพลงพิณ รวมถึงความทรงจำของวันวาน

“เหรอคะ เพลงว่าพี่นนท์แปลกยังไง จำได้ว่าโทรหาพี่พล แต่นึกไม่ยักออกว่าพูดเรื่องนี้ด้วย”

“อะไรกัน แก่แล้วน้องเรา เห็นทำเสียงร้อนอกร้อนใจเสียเต็มประดานะตอนนั้น
ลืมเอาง่ายๆ เลยหรือนี่”

“เพลงเพิ่งตื่น มึนๆ พี่พลอย่าแหย่สิคะ ถ้าไม่มีอะไรเพลงขอนอนต่อ” อันที่จริงหญิงสาวตื่นแล้ว
แม้จะมึนศีรษะนิดๆ แต่ไม่อยากโดนซักมากมายว่าทำไมเรื่องเมื่อวานถึงเลือนๆ ไม่ปะติดปะต่อ
แต่เธอเมานี่นา เพลงพิณไม่เคยเมามาก่อน และเรื่องนั้นจะให้พี่ชายรู้ไม่ได้เป็นอันขาด

“จ้าๆ ขออภัยนะคะน้องหญิง นายหญิง...” คนปลายสายไม่ถือสา แค่ได้ยินเสียงน้องสาว
เขาก็อารมณ์ดีแล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะบ่นท่าไหน ว่าแต่ยายหนูเพลงทำไมพูดกลับไปกลับมา
เรื่องไอ้นนท์เพื่อนเขาได้ หรือว่าน้องสาวจะเกิดมีพิรุธในใจกับผู้ชายอย่างสรานนท์

แต่จะว่าก็ว่าเถอะนะ เพื่อนเขามันเป็นคนดีก็จริงแต่เห็นจะไม่เข้าขั้นกับรสนิยมเลิศหรู
ของยายเพลงซึ่งแทบไม่เคยชายตามองผู้ชายตั้งแต่เด็กจนโตป่านนี้ อย่างน้อยก็เท่าที่เขารู้

“งั้นไว้ค่อยคุยกันเร็วๆ นี้ บายนะคะน้องสาวคนสวยของพี่” พี่ชายยังหยอดคำหวานๆ
ก่อนจะวางหู ใจหนึ่งเขาอยากจะบอกถึงกำหนดกลับไทยที่เมื่อวานเพลงพิณชิงวางสาย
ไปเสียก่อนจะได้ยิน แต่คิดอีกที...อุบไว้เซอไพรส์ดีกว่า เขาชอบที่สุดเวลาแม่ลูกแมวเหมียว
น้องรักทำตาโตเบิกกว้างอย่างตื่นตะลึง


เพลงพิณลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวตามปกติ ความรู้สึกลอยๆ คล้ายตกอยู่ในความฝัน
นี่หรือคืออาการของคนเมาค้าง ไม่เห็นปวดหัวอยากอาเจียนอะไรเหมือนที่ใครเขาว่ากันเลย
แต่ก็ดีแล้วที่ไม่อาการหนัก แม้จะรู้สึกว่าหลงๆ ลืมๆ บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปก็เถอะ
แต่เอ จำได้ว่ามีคนส่งเธอเข้านอนเมื่อคืนนี้ หรือว่าจะเป็น...พี่นนท์ เพลงพิณทบทวนความจำ
นึกได้ถึงใบหน้าของเขาที่เข้ามาอยู่ใกล้ๆ จนติดตายามเธอหนุนนอนอยู่บนหมอน
คิดแล้วก็หน้าร้อนซู่ นี่เขาส่งเธอถึงเตียงเลยงั้นหรือ ยังดีที่เป็นพี่นนท์ที่เธอไว้ใจ
ถ้าเป็นคนอื่นละก็ ไม่อยากจะคิด
หญิงสาวออกจากห้องไปอย่างค่อนข้างรีบเพราะปกติไม่เคยไปถึงที่ทำงานสายขนาดนี้
สายตาจึงไม่ได้ผ่านไปพบกับแว่นตาของใครบางคนที่หล่นอยู่บนเตียง รวมไปถึงถุงของฝาก
ที่วางสงบอยู่อีกมุมในห้องนอน ยามนี้เธอลืมมันไปเสียสนิททีเดียว


เมื่อไปถึงที่ทำงานและต้องเดินผ่านส่วนที่ผ่านทุกวันเพลงพิณก็นึกถึงพี่นนท์ขึ้นมาได้
เขาจะกลับมาทำงานไหมหลังจากพักงานไป แต่เมื่อได้รับมรดกจากปู่อย่างที่บอก
ไม่แน่อีกฝ่ายอาจอยากหันไปทำอะไรเป็นของตัวเองมากกว่าที่เคยทำอยู่ก็เป็นได้
หญิงสาววางกระเป๋าบนโต๊ะทำงาน นั่งลงยังเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่
ไม่รีรอที่จะโทรศัพท์หาสรานนท์เดี๋ยวนั้นเลย...

เพลงพิณรอสายอยู่ครู่หนึ่งเมื่อไม่มีใครรับหญิงสาวจึงตัดใจ เขาคงไม่คิดจะมาทำงาน
แล้วก็เลยยังไม่ตื่น รอไว้อีกฝ่ายเห็นสายที่ไม่ได้รับเขาคงโทรกลับมาเอง
หญิงสาวเริ่มดูตารางงานนั่นนี่ที่เตรียมพร้อมจะพูดในที่ประชุม
ตามปกติจะมีการประชุมกันทุกวันพฤหัสกับหลายๆ ฝ่ายที่เธอดูแลอยู่
พูดถึงเพลงพิณก็ไม่ได้งานหนักอะไรนักเพราะผู้บริหารคนอื่นๆ ที่บ้างก็เป็นเพื่อนบิดา
เป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์แบ่งเบาภาระของสำนักพิมพ์ไปได้มาก เรียกว่าช่วยพยุงกันและกัน
ดังนั้นจึงไม่เรียกว่ามีใครเป็นหัวเรือใหญ่ที่กุมอำนาจแต่เพียงผู้เดียว แต่วันนี้เธอจะเข้าประชุม
กับฝ่ายต่างๆ ซึ่งไม่ได้รวมไปถึงเหล่าผู้บริหารแต่อย่างใด

ตกบ่ายหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจที่ธิติหายหน้าไปจากห้องประชุม
มีเรื่องงานที่ลูกค้ามาถามรายละเอียดและคนที่กุมคำตอบไว้คือธิติ...

ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหนเพราะฝ่ายนั้นบางทีก็เข้างานบ่าย หลังจากรอไปได้สักครู่
เพลงพิณจึงรับหน้าที่โทรศัพท์หาชายหนุ่ม เพราะคิดว่าเขาจะเกรงใจเธอมากกว่าลูกน้อง
ที่โทรไปตามก็อาจจะโดนเล่นงานมากกว่าสอบถามได้เรื่องราวอะไร

“วันนี้พี่ไม่เข้าครับ เพลงมีอะไรไว้คุยกันวันหลังนะ พี่กำลังยุ่ง”
ธิติพูดมาตามสายอย่างค่อนข้างหงุดหงิด

“เพลงจะรอคุณธิติมาคุยพรุ่งนี้แล้วกันค่ะ เพราะเรื่องนี้คงยาว ทางโทรศัพท์ตอนนี้ไม่สะดวก
อีกอย่างกำลังจะเริ่มประชุมกันแล้ว โอเคนะคะ” หญิงสาวยังยิ้มทั้งที่ออกจะไม่พอใจอยู่ครามครัน
ถ้านับตามตำแหน่งแล้วธิติยังต้องเกรงใจเธอ แล้วนี่มันเวลางาน เขาคิดว่าตัวเองจะไปไหนมาไหน
ตามใจชอบก็ได้หรือ แถมยังไม่ยอมบอกว่ายุ่งเรื่องอะไรก่อนจะตัดบทราวกับว่าเป็นเธอที่โทรมากวนใจ
ผิดเวลา เอาเถอะ เขาจะไม่สะดวกยังไงเธอไม่สน ไว้พรุ่งนี้ถ้ายังไม่เข้ามาคุยค่อยว่ากันใหม่อีกที



ธิติวางสายจากน้องสาวของเพื่อนอย่างหงุดหงิด เขาต้องใช้ความอดทนกับเพลงพิณมากพอสมควร
แต่ยังต้องใจเย็นเอาไว้ เพราะเธอเป็นหนึ่งในทางผ่านสู่เป้าหมายที่ต้องการ ยังก่อน จะผลีผลามไม่ได้...

ชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำนานเป็นพิเศษให้อารมณ์คลายลง ก่อนออกมาสวมเสื้อผ้าสบายๆ
เขาใช้หวีเสยผมด้านข้างเหนือใบหูไปไว้ด้านหลัง ผมที่จอนหูไถสั้นเห็นเป็นแนวครึ้มลงมาจรดกราม
หน้าเขาคม รับกับผิวเข้มและหน่วยตาลึกใต้คิ้วหนา ดูดุดันจริงจัง และไม่ยอมคน
ธิติชอบให้ตนเองอยู่ในสภาพที่แลดูดีทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็ไม่ใช่ในทางสำอาง เขาชอบที่จะ
ถูกเรียกว่าน่ามองแบบลูกผู้ชายแท้ๆ มากกว่า ไม่นานนักเสียงกดออดที่หน้าห้องชุดของเขาก็ดังขึ้น
ธิติเดินไปเปิดประตู ผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก เธอแต่งหน้าทำผมมาพร้อม เนี๊ยบไม่มีที่ติ

“มาตรงเวลาดีนี่ครับ...”
เขาเอ่ยชมด้วยสีหน้าขรึมๆ เชื้อเชิญให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้อง ในฐานะ ‘นางแบบ’
แน่นอนว่าค่าจ้างแพงลิบขนาดนั้น ไม่ว่าใครก็ยากจะปฏิเสธ เขาพบหญิงสาวผู้นี้
ในงานวันเกิดของปราชญ์ ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก... นานมาแล้วเขาเคยเห็นเธอ
แต่ก่อนนั้นหญิงสาวยังไม่ดูดีเท่าปัจจุบัน ถ้าเธอยังเป็นแบบเดิมๆ สองตาเขาคงไม่คิดจะแล

“ในห้องคุณมีภาพถ่ายแปลกๆ เยอะจัง ถ่ายเองหมดเลยหรือคะนี่”

“ครับ...” ธิติรับคำ แม้ว่านั่นจะไม่ใช่ความจริงเสียทั้งหมดก็ตาม

ชายหนุ่มสนใจด้านการถ่ายภาพ เขาร่ำเรียนมาในสายเดียวกับสรานนท์ สถาบันเดียวกัน
แม้จบมาแล้วจะไม่ได้ทำงานด้านนั้นเป็นชิ้นเป็นอัน แต่สมัยเรียนเขาก็โดดเด่นมาตลอด
ในชั้นเรียน ต่างกับเพื่อนของเขาที่ทำอะไรก็ไม่เคยเป็นที่สนใจ ดังนั้นจึงไม่มีใครแปลกใจ
เรื่องที่เขาได้รางวัล กับสรานนท์ต้องพลาดหวัง

วันก่อนเขาเพิ่งหัวเสียจากการที่ใครบางคนได้ชิงตัดหน้าซื้อภาพคอลเลคชั่นล่าสุด
ของศิลปินนาม ‘พรายน้ำ’ ไปจากเกเลอรี่ประจำที่มีเขาเป็นลูกค้ารายใหญ่
แม้ชื่อของผู้ที่ได้มันไปจะมิเปิดเผย แต่ธิติก็พอจะเดาได้ว่าคือใคร

เขาแสร้งทำไม่ใส่ใจทั้งที่ในใจกำลังเดือดพล่านเพราะในเวลานี้ชายที่เขาไม่เคยเห็นความสำคัญ
กำลังกั้นขวางทางสิ่งอันเป็นที่พึงปรารถนาของเขาหลายๆ ประการ แต่เขาจะไม่แสดงว่าหวั่นไหว
ไม่แม้กระทั่งให้มันรู้ตัวว่าเขากำลังเดือดอย่างที่เป็น

...เรื่องเมื่อคืน เขารู้สึกว่ามันกดดันเขาในน้ำเสียงว่าเอาจริงแน่ เขาเลยยอมเดินจากมา
ทั้งที่ไม่น่าจะยอมง่ายๆ แต่คิดอีกทีแบบนี้ก็ดีแล้ว ที่นั่นผู้คนมากมายเกินกว่าจะทำอะไรได้ดั่งใจ
แล้วเขาก็ได้ผู้หญิงคนนี้มาเพื่อดับอารมณ์

เขานัดอีกฝ่ายมาเป็นนางแบบ เพราะต้องการถ่ายภาพชุด ‘ความต้องการ’
เพื่อการนี้เขาเลือกหญิงสาวที่เคยมีอดีตน่าสนใจมาโดยเฉพาะ และเพื่อให้สมค่าตัวแสนแพง
ธิติคิดว่าจะต้องปลุกเร้าเธอจนสามารถเข้าถึงอารมณ์ตามหัวข้อที่ตั้งไว้ให้ได้ด้วย อย่างไรก็ดี
เธอไม่ได้รับปากแน่ชัดว่าจะมา แต่ธิติเชื่อว่าวันนี้เธอจะมา เธอต้องมา...
เพราะไม่มีใครสามารถปฏิเสธหากว่าเขาต้องการ


“คุณไปรอผมที่โซฟาได้เลย อรดี...”



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.ค. 2555, 19:25:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 07:30:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1471





<< บทที่ ๒ ล้างรอยจำ(ต่อ-จบบท)   บทที่ ๓ กล่องแห่งความทรงจำ(ต่อ-จบบท) + แจ้งเรื่องการลงตอนพิเศษมายาไฟฯ >>
อสิตา 27 ก.ค. 2555, 19:26:22 น.
ขอ ปายยยเข้าห้องน้ำก่อนหนา เดี๋ยวมาตอบคอมเม้นต์ตอนก่อนจ้า บรึ๋ยๆๆ


อสิตา 27 ก.ค. 2555, 19:48:03 น.
คิดว่าต้องมีคำผิดหรือคำงงกันบ้างละ
เพราะไม่มีเวลาตรวจทานก่อนโพสต์ งานสุมหางและไฟกำลังลุกไหม้

คุณซาอิแกะน้อยมุมิหางนุ่มแน่น – พี่นนท์กลายเป็นอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าหล่อมากจริงๆ

คุณฮอบบิท – คนเขียนมีน้ำมันพรายแบบไม่ต้องลนคางค่ะ หน้ามันมาก...น้ำมันไหลยืดลงมาเอง
แหม พี่นนท์อุตส่าห์จูบหน้าผากนะ ทั้งที่จริงๆอยากจุ๊บตรงอื่นของน้องสาวคนนี้เหลือเกิน

คุณเอ็กซ์วาร์ด – ชื่ออ่านแบบนี้เปล่าคะ แหม นางเอกยังไม่ได้เจอหน้าพระเอกเลยขอดำเนินเรื่องก่อนนะ
ช้าๆได้พร้าเล่มงอมค่ะ เดี๋ยวเค้าต้องเอาแว่นไปคืนอีกอ่ะ อร๊ายยย

คุณอะมีราห์แท็คฯ – ฮือ คราวนี้มาช้าหน่อย แต่อาทิตย์หน้าคิดว่าจะมาเร็ว(ละมั้ง)

คุณพระจันทร์สีเงินยวง – อะ คราวนี้ยาวขึ้นมาละค่ะ อย่าเบะสิ พี่นนท์เป็นไรน้ำ แหงะ...

คุณชีจัง - พี่นนท์แกสายตาดีแล้วอ่ะนะเลยลืมแว่น เดี๋ยวบอกไว้ในเรื่องอีกที(แต่แว่นก็ยังจะใส่ต่อไปนะ)

คุณหมูอ้วน – ยาวขึ้นมานิดส์แล้วค่า ตอนหน้าจะพยายามยาวๆอีก 555 หวังว่านะ งกอ่ะ...

คุณพัฐิสา – บ่อพรายน่าจะคล้ายๆ บ่อน้ำนางฟ้านะ เป็นได้ทั้งพรและคำสาป กึ่ยๆ

คุณเฟอร์นักเคล้นโป๋ยแมว – เอาลุงภพไปไกลๆมะม้าได้ไหม มะม้าอยากบอกมี่จังนานแล้วนะ
ว่าไอ้ลุงนี่มะม้าเกลียดมันจริงๆ เพราะมันเละ และเหม็น และไม่หล่อ... แก่ง่ายตายยาก
โอ๊ย กับน้องสาว พี่นนท์ตอนนี้ยังมีสำนึก รอให้ระเริงอำนาจอีกหน่อยดีกว่าไหม

คุณเลิฟหมวยแมวสาว – พี่นนท์ยังมีความละอายต่อบาป อร๊างงง แต่ใกล้จะอยากลิ้มลอง

คุณพระอาทิตย์สีทองวิ้งๆ – พี่นนท์ก็ใจดีเป็นพักๆนะคะ แล้วแต่สถานการณ์
อืม พี่นนท์ไม่ได้หายตัวแบบนั้นหรอก แต่พรายก็ต้องมีความสัมพันธฺกับน้ำเป็นธรรมดา

คุณหลิง – ขอบคุณที่มาติดตามนะค้า เรื่องนี้มีสองคู่ น่ารักน่าลุ้นแน่นอน


ฮอบบิท 27 ก.ค. 2555, 19:53:00 น.
สงสัยโดนน้ำมันพรายของคนเขียนไปแล้ว ติดหนึบๆ เลย มาอัพไวๆ นะคะ


SunSeed 27 ก.ค. 2555, 21:11:53 น.
แอร๊ก เตรียมนอนรอที่เตียง เอ๊ย ไม่ช่าย นอนรอตอนต่อไป อิอิ


หมูอ้วน 27 ก.ค. 2555, 22:49:59 น.
ชอบพี่พลจังเลยค่ะ เป็นพี่ชายที่น่ารักม๊าก ๆ เลย จองคนนี้ได้ป่าวค่ะ ฮาาาา


goldensun 27 ก.ค. 2555, 23:07:15 น.
ฝันของเพลงน่ากลัวจัง ก็ยังเป็นพี่นนท์แต่แกร่งขึ้นไม่ใช่หรือคะ ตามฝันเหมือนพี่นนท์โดนยึดตัวไว้ที่ไหนก็ไม่รู้
สรุปธิติแค่ยอมเพราะนนท์เอาจริงหรือคะ แล้วภาพที่จะถ่าย ก็ถ่ายแฟนเก่านนท์ด้วย ท่าทางยังต้องลุยกันอีกยาว น้องเพลงก็โดนล้างความจำไปหน่อยๆ แล้ว แต่ท่าทางจะผูกพันกับพี่นนท์จริงๆ ถึงไม่อยากทิ้งแม้ในฝัน


sai 27 ก.ค. 2555, 23:20:01 น.
อ้าวตกลงไงเนี่ยพี่นนท์มาบอกให้หนูเพลงลืมบุคลิกท่าน งงนะเนี่ย


อสิตา 27 ก.ค. 2555, 23:29:19 น.
ตอนกลางคืนก็ยังมีคนอ่านที่น่ารักตื่นอยู่นะเนี่ย
คุณซาอิ - นนท์ให้เพลงลืมว่าตัวเองแปลกไป จะได้เลิกระแวงน่ะค่ะ
แต่เอาจริงๆก็สะกดไม่ได้ขนาดนั้นหรอกมีนึกออกบ้างแหละ
คุณโกลเด้นซัน - เข้าใจสงสัยนะคะ ธิติยอมเพราะเหตุผลอื่นจริงๆด้วย
แต่คนเขียนยังบอกไม่หมด...


Chii 27 ก.ค. 2555, 23:56:50 น.
ทำไมถึงคิดว่าตอนจบมันน่าจะเป็นแบบ พี่นนท์ก็ไปตามทางของพี่นนท์กับคุณพราย (?) แล้วเพลงก็หันไปหาธิติ ที่กลับตัวมาเป็นคนดีเลิศ ๆ
..เค้าเป็นอะไรไป..


บุลินทร 28 ก.ค. 2555, 00:13:05 น.
ฟังเพลงอยู่ แอบแวะมาเยี่ยม ^^


ใบบัวน่ารัก 28 ก.ค. 2555, 07:03:14 น.
ทำไมจำไม่ได้ว่าถูกวางยาหละ


Zephyr 28 ก.ค. 2555, 09:28:46 น.
โอ๊ะ จบด้วยเตียง ให้คนอ่านคิดลึกอีกอ่า มะม้า (แต่มะม้าจบเตียงตลอดเลยนะ เหอๆๆๆ ตอนพี่มิ้งค์ก็จบเตียง ฮ่าๆๆ) แต่ไม่เอาเตียงตานี่ได้ไหม ขอคนอื่นเถอะ
เอ๊ เหมือนพี่นนท์โดนแยกร่างนะ ตอนนี้เป็นภาคมารดำอยู่ใช่มะ แต่ดูน่าค้นหา มีเสน่ห์ไงไม่รู้ ฮึ เริ่มชอบผชใเลวๆซะเลว ลุคแบ๊ดบอย อิอิ แต่พี่นนท์เทวะ ยังอยู่บนเกาะหิ่งห้อยเหรอ โดนกักในจิตสำนึกรึ แม่หญิงอสิตา....
แต่เพลงลืมหมดเลยอ้ะ แถมคิดว่าตัวเองเมาอีก เฮ้อ แล้วจะรู้ความจริงได้ไง ถ้าพี่นนท์ยังสะกดจิตได้ยังงี้


lovemuay 28 ก.ค. 2555, 09:58:10 น.
เอ..ทำไมยังไงเราก็คิดว่าพี่นนท์คนนี้คือพี่นนท์คนเดิมที่ทิ้งนิสัยเก่าไว้ข้างใน แล้วเอาพลังพรายมาใช้ทำให้ตัวเองแกร่งขึ้น แต่ความจริงพี่นนท์ก็ยังคงเป็นพี่นนท์คนเดิม


shadha 28 ก.ค. 2555, 22:15:41 น.
มี๊ พี่นนท์ไปเจออะไร หรือไปโดนอะไรมากันแน่เนี่ยะ!!


ameerahTaec 30 ก.ค. 2555, 08:00:21 น.
ตกลงเพลงเลือกพี่นนท์คนเก่าหรอเนี่ย อิอิ อย่างว่าแหละพี่นนท์คนใหม่แปลกๆๆ // เจอคำนึงคะ ปาท่องโก๋ อิอิ


อสิตา 1 ส.ค. 2555, 22:43:07 น.
คุณแมวเหมียวอะมีราห์น่ารักมาก อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account