ธารปรารถนา
เพราะที่ดินฮวงจุ้ยเยี่ยม (หลังติดเขา หน้ามีน้ำ) ของยายแท้ๆ ที่พาปราณมาพบกับตอง หรือจะจริงอย่างที่ยายบอกว่าที่ดินผืนนี้เป็นมงคล จะนำโชคลาภมาสู่เจ้าของ จึงทำให้ตองได้พบคนดีๆ อย่างปราณ

แต่ทำไมการได้พบและคบหาคนดีๆ สักคนหนึ่งจึงได้ลากพาตองลงไปในกระแสธารแห่งความปรารถนาอันเชี่ยวกรากของใครต่อใครอีกหลายคน เรื่องชุลมุนวุ่นวายที่ไม่เคยประสบพบเจอก็ต้องมาเกิดขึ้นกับตัว

ตกลงที่ดินของยายเป็นมงคลหรืออัปมงคลกันแน่เนี่ย

แล้วตองจะป่ายปีนขึ้นจากธารปรารถนาร้อนร้ายสายนี้ได้ไหม ต้องไปติดตามพร้อมๆ กันค่ะ
Tags: รักอารมณ์ดี

ตอน: ตอนที่ ๕ (ต่อจนจบ)

เมื่อคืนปราณนั่งเขียนแบบอยู่จนดึก...ปกติเขาชอบทำงานตอนกลางคืน เนื่องจากความเงียบทำให้เกิดสมาธิและสามารถทำงานได้ต่อเนื่องยาวนาน บ่อยไปที่เขานั่งทำงานข้ามวันข้ามวันข้ามคืนโดยไม่ได้หลับนอน หลายครั้งเป็นเพราะไฟลนก้นต้องรีบทำให้เสร็จทันกำหนดส่งแบบให้ลูกค้า แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่สมองโปร่ง ความคิดสร้างสรรค์ผุดพราวอยู่ในหัวและเขาต้องปลดปล่อยมันออกมาจนกว่าจะหมด

เขาเคยเปรียบเทียบขำๆ ว่า ความคิดสร้างสรรค์นี้ก็เหมือนอุจจาระ คาดเดาไม่ได้ว่าจะมาตอนไหน ถ้ามันไม่มาเบ่งเท่าไรก็ไม่ออก เหมือนคนท้องผูกอย่างไรอย่างนั้น แต่ถ้ามันมาแล้วละก็...ต้องปลดปล่อยออกไปให้หมดไส้หมดพุง จึงจะรู้สึกสบายตัวสบายใจ

หากเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ความคิดสร้างสรรค์ของเขาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ขนาดใช้เวลาเบ่งอยู่นานสองนานยังไม่ค่อยจะออก...แต่สิ่งที่ไม่ต้องเบ่งและคอยจะผุดโผล่มาอยู่เรื่อย คือดวงหน้าสะอาดใสซึ่งมีแว่นกรอบโตสีชมพูสดประดับไว้อยู่เป็นนิตย์...เธอเป็นนางมารน้อยที่คอยขัดขวางสมาธิในการทำงานอยู่ร่ำไป จนสุดท้ายเมื่องานไม่คืบหน้าเขาก็ถอดใจยอมแพ้ปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส์ ลุกจากโต๊ะริมผนังกระจกเดินไปทิ้งตัวนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง และก่นด่าความไร้สาระของตัวเองอยู่เป็นนาน

ผู้หญิงอะไร เจอกันแค่วันสองวัน ใกล้ชิดกันนิดๆ หน่อยๆ แอบสูดกลิ่นกายหอมกรุ่นไปไม่เท่าไรก็ติดอกติดใจ ยังไม่ทันได้รู้จักนิสัยใจคอก็ด่วนเก็บเธอมาคิดถึงไม่ว่างเว้น หรือนั่นเป็นฟีโรโมนดึงดูดเพศตรงข้ามกันละหนอ ดูสิ เขาคิดถึงเธอมากกว่าแม่แท้ๆ ของตัวเองที่อยู่ห่างตั้งไกลเสียอีก มัวแต่ไปป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เธอโดยไม่ได้ทำให้ธุระปะปังของมารดากระดืบคืบหน้าสักนิด

พลันที่ธุระวูบผ่านเข้ามาในความคิด...ชายหนุ่มก็รีบผลักไสมันออกไปจากหัวทันที ตอนนี้สมองเขารกมากพอแล้ว รกไปด้วยภาพของแม่สาวแว้นแว่นโตนั่นแหละ...เออ...มาทำให้สมองเขารกได้ เขาก็จะทำให้สมองเธอรกบ้าง ยอมได้ที่ไหน เรื่องแบบนี้ต้องเอาคืนกันหน่อยแล้ว

และวิธีเอาคืนของเขาคือการลุกจากเตียงแต่เช้า จัดการโกนหนวดเคราจนเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้าน ล้างหน้าอาบน้ำนานกว่าปกติ เลือกเฟ้นเสื้อผ้าที่คิดว่าดีที่สุด...ซึ่งก็ไม่พ้นเสื้อยืด กางเกงยีนที่เขาใส่อยู่เป็นประจำนั่นละ ชายหนุ่มสวมกางเกงยีนแล้วปลดเสื้อยืดสีครีมออกจากไม้แขวน สะบัดไล่รอยยับจางๆ ที่เกิดจากการพับใส่กระเป๋าออกไป ลมหนาวที่โชยชายอยู่ด้านนอกทำให้เขาต้องหยิบแจ๊กเก็ตยีนที่พาดอยู่กับพนักเก้าอี้ซึ่งเขาใส่มาสองสามวันแล้วมาสำรวจกลิ่น...กลิ่นผ่าน แต่เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น เขาจึงพึ่งน้ำหอมผู้ชายกลิ่นอ่อนบางที่ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาจับยัดใส่กระเป๋ามาด้วย น้ำมันเซ็ตผมที่ไม่เคยใช้มานานก็ได้ใช้วันนี้เอง

ชายหนุ่มเสยผมให้เข้าทรงแล้วมองกระจกเงาซึ่งสะท้อนภาพชายหนุ่มร่างสูง หลังไหล่ผึ่งผาย ผิวหน้าขาวดูคมคายเมื่อมีรอยหนวดเคราเขียวๆ ตรงเหนือริมฝีปากและเหลี่ยมคางบึกบึน ดวงตายาวรีสองชั้นพับทบสวยประดับด้วยแพขนตาดกหนาทว่าปลายชี้ตรงที่คอยแต่จะบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่เรื่อย จมูกโด่งเป็นสันได้รูปสวยแบบนี้ถอดแบบมาจากพลตำรวจตรีประวิทย์ไม่ผิดเพี้ยน...จะมีใครรู้สึกเหมือนเขาไหมนะ...ว่าดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขายามนี้สดใสแพรวพราวกว่าวันไหนๆ ราวกับน้ำค้างต้องแสงตะวันก็ไม่ปาน แถมริมฝีปากหยักสวยนี่ก็มีรอยยิ้มแต้มอยู่แทบตลอดเวลา

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ปราณใช่ว่าไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าคืออะไร หากเขาไม่รู้ว่าจะขำหรือว่าจะกังวลกับมันดี แต่ที่แน่ๆ เขารู้สึกตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้ย้อนวัยกลับไปอายุสิบแปดอีกครั้ง...แม้ว่าตอนนี้เขาจะยี่สิบแปดแล้วก็เถอะ




เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ตองลงมือทำงานจริงจัง งาของเธอก็ก้าวรุดหน้าไปมาก เธอเย็บเสื้อเสร็จไปสามตัวแล้ว เนื่องจากแบบง่ายจึงใช้เวลาไม่นาน แม้ยังไม่แน่ใจว่าจะได้พื้นที่หน้าร้านอภิสราหรือเปล่า แต่ระหว่างรอคำตอบ ตองตั้งใจจะผลิตสินค้าไปพลางๆ ก่อน

ตองเพลินกับงาน กว่าจะรู้ตัวว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานและควรพักผ่อนได้แล้วก็เกือบสว่าง เธอหลับไปแค่ชั่วโมงเศษๆ นาฬิกาก็ปลุกให้เธอลุกมาเข้าครัวเตรียมอาหารให้พวงแสด ตอนตื่นขึ้นมานี่แหละ หญิงสาวรู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งเนื้อทั้งตัว โดยเฉพาะข้อเท้าขวาที่กระทืบคันสตาร์ตไว้เมื่อวาน...แต่ก็นั่นแหละนะ นิสัยตอง ถ้ายังใช้งานได้ถือว่าไม่เป็นอะไร

หลังอาหารเช้า ตองไม่ลืมโทร. หาเมย ไม่รู้ว่าจากเมื่อวานถึงวันนี้สุขภาพจิตเมยจะเป็นอย่างไรบ้าง ตัดสินใจอย่างไรกับเด็กในท้องที่เกิดมาในช่วงเวลาที่เมยยังไม่พร้อมสักอย่าง

ตองโล่งใจที่เสียงซึมๆ เศร้าๆ ของเมยตอบกลับมาว่าขอเวลาตั้งสติสักพัก ถ้าสภาพจิตใจดีขึ้นเมยจะบอกแม่ว่าเมยทำอะไรเหลวไหลไปแล้วบ้าง

สาเหตุที่เมยเปลี่ยนความตั้งใจไม่ทำแท้ง ไม่เอาเด็กออกนั้น เมยเล่าว่าเมื่อวานเย็นออกไปหาซื้อยาขับเลือดที่ร้านอภิสราเภสัช และเภสัชกรสาวขู่ว่าการทำแท้งนั้นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ทั้งกล่อมทั้งปลอบให้เมยเก็บเด็กไว้ เมยยืนยันว่าไม่รักไม่ต้องการเด็กในท้อง แต่เมยรักตัวกลัวตายมากกว่า

ตองชื่นชมอภิสราที่สามารถพูดให้เมยเปลี่ยนใจได้ แค่เมยไม่ตัดสินใจทำอะไรผิดๆ ซ้ำอีก ตองก็ดีใจมากแล้ว ต่อไปเธอจะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีเรื่องเมยมารบกวนใจสักที

ตองคิดด้วยความสบายใจ โดยหารู้ไม่ว่า อีกไม่นานนี้จะมีเรื่องราวร้ายแรงระลอกใหม่เกี่ยวกับเมย และเรื่องราวนั้นจะนำพาเธอไปพบความจริงที่เธอเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย

เพราะความสบายใจแท้ๆ ที่ผลักดันให้ตองออกมาเดินยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานมาเกือบตลอดคืน ร่างบางเดินลัดเลาะจากประตูหลังบ้าน ดูต้นไม้ใบหญ้าที่ยายหมั่นปลูกไว้ด้วยอารมณ์สดชื่น สงสัยวันนี้ความง่วงเหงาหาวนอนกับเชื้อขี้เกียจตัวร้ายที่หมั่นรุกรานอยู่เสมอจะพร้อมใจกันหยุดพักผ่อนกระมัง ตองถึงได้เบิกบานเช่นนี้ เธอเดินไปถึงแนวรั้วหน้าบ้านซึ่งปกคลุมด้วยเถาพวงแสดสีส้มจัดจ้าท้าแสงตะวัน อดหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพไม่ได้...ตองชอบถ่ายภาพดอกไม้

จากนั้น ตองเดินเรื่อยเลยรั้วออกมานอกบ้าน การไม่มีรถใช้นี่ทำให้เธอไปเที่ยวเล่นที่ไหนไกลบ้านไม่ได้เลยจริงๆ หญิงสาวเดินไปตามถนนลาดยาง และตัดลงข้างทางเพื่อข้ามลำธารตื้นๆ ซึ่งมีน้ำใสไหลรินจนได้ยินเสียงกรวดก้นลำธารกระทบกันดังกรุกกริกผะแผ่ว ตองก้าวกระโดดไปตามก้อนหินที่ผุดโผล่เหนือผิวน้ำเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง...ในที่สุด เธอก็มายืนอยู่ในท้องทุ่งดอกไม้สีเหลืองสดใส...ดอกบัวตอง...ตอง...ชื่อที่พ่อตั้งให้ มาจากดอกไม้ชนิดนี้เอง

หญิงสาวเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพดอกบัวตองอยู่พักหนึ่ง ตั้งใจว่าเดี๋ยวจะเข้าไปในป่าซึ่งมีน้ำตกไม่สูงใหญ่นักแต่ร่มรื่นเย็นสบาย ตองมักใช้เป็นสถานที่หย่อนใจอยู่เสมอ ทว่ายังไม่ทันจะก้าวไปไหน เสียงห้าวทุ้มก็ฉุดให้ตองหันกลับไปมองด้านหลัง

“ตอง ตอง”

เจ้าของเสียงกำลังเดินลุยกอหญ้าแฝกบนไหล่ทางสูงชันลงมาที่ลำธาร เธอมัวแต่เพลินจนไม่ได้ยินเสียงรถที่แล่นมาจอดริมทาง แค่เธอมองสบตาเขาด้วยความแปลกใจ ชายหนุ่มก็ส่งรอยยิ้มเปิดเผยตอบแทน...เขายิ้มสวยจนตองต้องยิ้มตามอีกแล้ว...แต่...เธอหุบยิ้มเมื่อฉุกใจคิด...จากพบกันสองวันติดเพิ่มเป็นสามวันติดแล้วนะ...เป็นเรื่องบังเอิญหรือจงใจ

“มาทำอะไรแต่เช้าคะเนี่ย”

มาเอาคืน...ปราณเกือบหลุดปากไปอย่างที่ใจคิด แต่โชคดีที่ยั้งไว้ทัน

“เมื่อวาน...ใครล่ะบอกให้ผมถามพรีมให้หน่อยว่าจะขอเช่าหน้าร้านได้หรือเปล่า ผมก็ไปถามมาให้แล้ว” เหตุผลที่เขาครุ่นคิดมาตลอดทางถูกบอกเล่า

“พรีมเขาโอเคนะ...” ปราณไม่เล่าต่อหรอกว่าที่อภิสรายอมตกลงหลังจากลังเลอยู่เป็นครู่ เพราะเขาบอกสั้นๆ ว่า

‘มีคนเช่าหน้าร้านก็ดีนะ นอกจากมีรายได้เข้ามาอีกทางแล้ว ยังมีคนอยู่เป็นเพื่อนในวันที่พรีมเปิดร้านทั้งวันด้วย พรีมก็เห็นนี่นาว่าลูกค้าบางคนก็ดูไม่น่าไว้ใจ ถ้าไม่หาเด็กมาช่วยในร้าน มีคนเช่าหน้าร้านก็ยังดี มีอะไรก็พอจะช่วยตะโกน’

‘ตะโกน’ อภิสราทวนคำ คิ้วเรียวเลิกสูง

‘ใช่ ตะโกน’ ปราณไม่คิดว่าตองจะทำอะไรได้มากกว่านั้นจริงๆ แต่เขาก็ขยายความต่อให้อีกนิด ‘ให้คนอื่นมาช่วยอีกที’

‘แล้วคนที่จะมาเช่าเนี่ย เขาเป็นอะไรกับปราณจ๊ะ ถึงได้เชียร์จัง’

ชายหนุ่มอึกอักอยู่หลายวินาที ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า ‘เป็นผู้หญิงผมเปียยาว แว่นโตที่รีบร้อนมาซื้อแผ่นตรวจครรภ์วันนั้นไง เขาเป็นหลานคนที่ผมรู้จัก...ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลม’

‘อ๋อ อยากหาอาชีพให้เด็กละสิ กำลังท้องกำลังไส้ด้วยนี่นา’ อภิสราพยักหน้าและยิ้มบางๆ ปราณอยากแย้งในข้อหลัง หลังจากทบทวนพฤติกรรมของเธอตลอดสองวันที่ผ่านมา ปราณค่อนข้างมั่นใจว่าเขาเข้าใจผิดไปเอง แต่เขาคงต้องหาโอกาสเลียบเคียงถามเรื่องนี้อีกทีให้แน่ใจ...กลัวก็แต่...จะถูกตบเสียก่อนจะได้คำตอบนะสิ

‘เด็กคนนั้นก็หน้าตาน่ารักดี ดูไม่ได้เลวร้ายอะไร น่าจะเป็นผู้เช่าที่ดีนะ...ลองมาคุยกันก่อนแล้วกันว่าจะขายอะไร ใช้พื้นที่เท่าไหร่ แล้วจะให้คำตอบอีกที’

“จริงเหรอ” เสียงตองตื่นเต้น “งั้นเย็นนี้ฉันจะเข้าไปคุย”

คนส่งข่าวยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนตัวเล็กออกอาการตื่นเต้นดีใจ

“แล้วนี่ตองกำลังจะไปไหนล่ะ”

“เดินเล่นหย่อนใจสักพัก เดี๋ยวค่อยกลับมาทำงานต่อ”

“งานอะไรหรือ” ปราณถามอย่างสนใจ ตองจึงเล่าถึงสิ่งที่เธอกำลังทำให้เขาฟัง โดยที่ขาก็ออกเดินไปเรื่อยๆ โดยมีชายหนุ่มเดินเคียงไปด้วยกัน

“ตองนี่ขยันนะ” ชายหนุ่มชื่นชม เขาชอบคนขยันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนี่นา แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้เขาหัวเราะ

“ถ้าอย่างฉันเรียกขยัน โลกนี้คงไม่มีคนขี้เกียจ...นี่ถ้ามีการแข่งนอนมาราธอนชิงรางวัลเงินสดสักก้อน ฉันคงกรอกใบสมัครเป็นรายแรกๆ เลยละ”

“ขนาดนั้นเชียว” เสียงห้าวทุ้มถามเหมือนไม่อยากเชื่อ คนกระฉับกระเฉงแบบนี้หรือจะขี้เกียจ...เขาต้องใช้เวลาพิสูจน์แล้วละว่าเธอพูดจริงหรือเปล่า

ยังไม่ทันจะหมดเรื่องคุยกัน ทั้งคู่ก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผาหินสูงขนาดตึกชั้นครึ่ง น้ำใสเย็นพรั่งพรูจากด้านบนตกกระทบแอ่งน้ำเบื้องล่างส่งเสียงซ่าๆ ไม่ขาดสาย น้ำในแอ่งกว้างนี้ไหลเอื่อยไปตามลำธารสายเล็กที่ลดเลี้ยวลับหายไปในท่ามกลางต้นไม้ใบหนา ละอองน้ำขาวพร่างฟูฟ่องอยู่ในอากาศตรงหน้า สายลมต้นฤดูหนาวหอบละอองน้ำเล็กๆ มาแตะแต้มหน้าตาเนื้อตัวผู้มาเยือน อากาศเย็นชื่นสดสะอาดทำให้ปราณต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกยาว

“ที่นี่อากาศดีนะ” ปราณเอ่ยขึ้นลอยๆ แล้วหันไปหาตองซึ่งยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ

“ใช่ ที่นี่อากาศดีมาก ธรรมชาติก็ยังสมบูรณ์อยู่มาก มีคนมาขอซื้อที่ตรงทุ่งบัวตองข้างนอกนั่นหลายรายแล้ว แต่ยายไม่ขาย เพราะยายกลัวว่าถ้าคนข้างนอกรุกล้ำเข้ามาในป่านี่มากขึ้น ต้นไม้ใบหญ้ารวมถึงสภาพแวดล้อมก็คงเปลี่ยนไป”

ปราณพยักหน้าช้าๆ ฟังเสียงแจ๋วเล่าเรื่อยๆ สมองคิดตามไม่ลดละ

“ยายบอกว่าต้นไม้และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มีประโยชน์กับคน สัตว์ และโลกใบนี้มากกว่าเงิน เงินน่ะ ยิ่งมีเงินมากยิ่งร้อนมาก ร้อนทั้งโลก ร้อนทั้งใจ สู้มีธรรมชาติเป็นสมบัติไม่ได้”

“นั่นสินะ” ชายหนุ่มหลุดปากออกมาตามที่คิด ฟังมาถึงตรงนี้แล้ว ปราณไม่กล้าอ้าปากพูดธุระของมารดาเลย บางทีเขาคงต้องกลับไปบอกมารดาตรงๆ ว่าเจ้าของไม่คิดที่จะขายจริงๆ ให้มารดาเลิกล้มความตั้งใจและมองหาที่ดินผืนใหม่ดีกว่า

ชายหนุ่มลอบถอนหายใจแผ่วเบา แล้วเมื่อหันมาหาตองอีกครั้ง ก็พบเธอว่าเธอไม่ได้ยืนอยู่เคียงเข้าข้างเขาเหมือนเมื่อครู่เสียแล้ว ทว่ากำลังเดินลัดเลาะไปตามก้อนหินน้อยใหญ่ริมแอ่งน้ำ แล้วปีนขึ้นไปยืนบนโขดหินใหญ่ใกล้หน้าผาซึ่งมีต้นไม้ขนาดสองคนโอบทอดลำต้นเอนลู่ บนคาคบนั้นมีกล้วยไม้ป่าเกาะแน่นชูช่อสีสวยระย้อยระย้า หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปดอกไม้ตรงหน้า สีหน้าท่าทางดูมีความสุขยิ่งนัก

ปราณตามไปยืนอยู่บนหินก้อนที่ลดระดับต่ำลงมาซึ่งมีทั้งมอสและเฟิร์นขึ้นแทรกแซมเขียวขจี ปลาตัวเล็กๆ ที่ชายหนุ่มไม่รู้ชื่อแหวกว่ายอยู่ในสายน้ำท่ามกลางซอกหิน เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปบ้างแล้วเชียว แต่แล้วสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

“เฮ้ย! ว้าย!” เสียงแรกดังขึ้นเมื่อหญิงสาวหมุนตัวกลับมา เสียงที่สองดังตามมาติดๆ เมื่อเธอลื่นพรืดก้นกระแทกหินดังพลั่กก่อนจะไถลลงมาตรงที่เขายืนอยู่ ปราณอ้าแขนรับไว้ได้อย่างถนัดถนี่ แต่ด้วยน้ำหนักที่ถาโถมเข้าใส่อย่างรวดเร็วทำให้ชายหนุ่มเสียการทรงตัว เขากอดร่างบางไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเท้าทั้งสองข้างยืนไม่อยู่จวนเจียนจะหงายหลังให้ได้ และในวินาทีถัดมาปราณก็ได้ยินเสียงน้ำกระจายตูมใหญ่

จากนั้น ทั้งเขาและเธอที่กอดกันด้วยความตระหนกก็พากันจมดิ่งลงก้นแอ่งน้ำอันเยียบเย็น


***********************

ถ้าอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร บอกเล่ากันได้นะคะ ถ้าชอบก็กดไลค์ให้กำลังใจกันได้นะคะ ขอบคุณทุกๆ สายตาที่ผ่านเข้ามาเยี่ยมเยียนค่ะ



ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ส.ค. 2555, 20:22:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ส.ค. 2555, 20:22:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1541





<< ตอนที่ ๕   ตอนที่ ๖ >>
ภาวิน 28 ส.ค. 2555, 20:28:17 น.
สวัสดีค่ะ วันนี้มาอัพนิยายก่อนจะเดินทางไกลไปปฏิบัติธรรรมนานสิบสองวัน แล้วกลับมาจะเอาบุญมาฝากพร้อมนิยายตอนใหม่นะคะ

คุณ Barby เงื่อนงำมีมาตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้วค่ะ แต่อาจไม่ได้สังเกต เดี๋ยวจะเริ่มผุดๆ ออกมาทีละปมค่ะ

คุณตรีจิตร รู้ว่าตามอยู่ห่างๆ ก็ดีใจแล้วค่ะ

คุณ nunoi ตัวละครทุกตัวเกี่ยวพันเชื่มโยงกันหมดเลยค่ะ แต่ยังในแง่ไหนนั้นต้องติดตามนะคะ

ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ สำหรับกำลังใจ แล้วกลับมาพบกันนะคะ


Barby 28 ส.ค. 2555, 21:12:48 น.
ชอบประโยคหลายๆประโยคของนักเขียนคนนี้จัง อ่านทีไรมีคำประทับใจทุกตอน และทุกเรื่องด้วยอ่ะ มีเงินมาก ร้อนทั้งโลก ร้อนทั้งใจชอบๆ
วันนี้หยอดมาอีกปมนึงแล้ว ยังไงกันเหมยจะเป็นอะไร


Barby 28 ส.ค. 2555, 21:15:05 น.
อีกนิดนึงแอบคิดอะไรที่ไม่ควรคิด ว่าโทรศัพท์ทั้งคู่ต้องพังเเน่ๆเลย อิอิ


ภาวิน 28 ส.ค. 2555, 21:25:59 น.
คงไม่เหลือหรอกจ้ะบาร์บี้ พังชัวร์ ไม่ได้สปอยล์นะ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง มันก็ต้องพังน่ะนะ เป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว


ปิศาจสัญจร 28 ส.ค. 2555, 21:33:40 น.
น่าเสียดายมือถือเนาะ ชอบเรื่องนี้ค่า


nunoi 29 ส.ค. 2555, 11:42:00 น.
ชอบที่คุณปราณคิดจะเอาคืน หนูตอง จริงๆ ตัวเองแอบคิดถึงเค้าแล้วยังจะไปเอาคืนเค้าอีกเหรอค่ะคุณปราณ


อสิตา 11 ก.ย. 2555, 21:51:04 น.
เสียดายมือถืออออออออ 555 แทนที่จะห่วงคน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account