=ตราบสิ้นแสงอัสนี= -
นี่คือเรื่องของนางฟ้า ชื่อมณีเมขลา
คือเรื่องของอสุรา ชื่อรามสูร
แต่นี่... ไม่ใช่เรื่องรักที่จะพาคุณย้อนอดีต
เราจะพาคุณข้ามผ่านกลุ่มเมฆ กาลเวลา และสายฟ้า
"สู่อนาคต"

Tags: เมขลา รามสูร สายฟ้า องค์อินทร์ อินทรชิต

ตอน: บทที่ ๒ วันที่ฟ้าหนักกว่าดิน (...จบบท)

นั่นพิสูจน์ได้ว่า เมฆ คือบุคลิกที่เหนือกว่า! ยามใดที่ต้องการ
มันสามารถซ่อนเร้นทั้งความคิดและการกระทำไว้จากตรีได้ทั้งหมด
เรื่องวิปริตบัดซบขนาดนี้ จะยอมให้ใครรู้ไม่ได้...

แต่แล้วเมื่อกลับมาอยู่ใกล้กัน ไอ้ตฤณก็เกือบจะรู้ความลับนี้เข้าแล้ว จากประโยคหนึ่ง
ที่มันทักถามถึงการกระทำของเขายามเผลอไผลทำตัวผิดแปลกต่อหน้ามัน

‘เฮ้ย ทำนิสัยอะไรวะตรี ดูไม่สมเป็นแกเลย...พอเหอะ ฉันยังไม่อยากมีแฝดสาม’

แฝดสาม เขาเองก็ไม่ได้อยากมี! หลังจากนั้น ตรีระวังตัวยิ่งขึ้นอีก
ชีวิตเขาดีแล้ว ทุกอย่างดีแล้ว อดีตเลวร้ายที่ผ่านไม่มีความหมาย
แต่บางคืน เสียงหัวเราะของสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมในหัวยังไม่จางหาย

เมฆ
มันรอคอยที่จะกลับมา...




ที่น่าตระหนก ความลับเรื่องบุคลิกของเขาซึ่งไม่มีใครในโลกล่วงรู้ โอเอ็มกลับรู้!
จดหมายฉบับหนึ่งส่งมาปลอบขวัญให้เขาอยู่ในอาการสงบ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
ใจความนั้นบอกไว้สวยหรู
‘หากวันใดมีสิ่งที่ตรีไม่กล้าทำ เมฆจะช่วยจัดการให้’

เขาอ่านแล้วขนลุกเกรียว ขบกรามแน่น มือสั่นเทาขยำจดหมายทิ้ง
ชีวิตเป็นของเขา! เขาดูแลเองได้!

แม้แต่องค์กรประหลาดอย่างโอเอ็มก็จะต้องตกเป็นเครื่องมือหนึ่งของเขา
วันหนึ่งเขาจะเจาะเข้าไปให้ถึงแกนกลาง ยึดครองมันทั้งหมด!
ดังนั้นเขาต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่า จิตใจต้องมั่นคง

เรื่องนี้ต้องมีตัวช่วย ใช่แล้ว สิ่งที่เขารักใคร่มาแต่เด็ก สิ่งจรรโลงใจ
ให้อารมณ์ผ่อนคลายน่าจะช่วยได้ อย่างจำพวกเรื่องราวในหน้าหนังสือ
วรรณกรรม ดูเถอะ ...ทรราช เผด็จการทุกคน ไม่ว่าจะวางมาดเท่แค่ไหน
ท้ายสุดก็ก่อร่างมาจากปมเด็กมีปัญหา ควรยอมรับกับตัวเองตรงๆ
เพราะเมื่อเห็นปัญหาได้ชัด ปมก็อาจคลี่คลาย หรือจะลองผูกให้ถูกจุด
กลายเป็นปมมหึมาขวางโลกไปเสียเลย เขาเลือกอย่างหลัง

ทว่านอกเหนือจากสัตว์ประหลาดในใจ ดูเหมือนเขาจะยังมีจุดอ่อน
อยู่ที่ฝาแฝดตัวเองและผู้หญิงคนนั้นอีกทั้งคน ไม่ได้การ...
มีจุดอ่อนขนาดนี้ นับว่ามากเกินไป!

แต่ช่างเถอะ อะไรๆคงต้องปล่อยไปก่อน ตอนนี้ชีวิตเขาดีแล้ว ใจเย็นๆ ทุกอย่างจะดีเอง

พอพยายามลืมเรื่องบ้าบอทั้งหลายไปได้บ้าง จิตใจเขาก็เหมือนจะทรงตัวขึ้นมาก
ใช้เวลาชื่นชมต้นไม้ใบหญ้าที่ปลูกเอง จิบน้ำชา ชมงานศิลปะและบทกวี
เขาใช้สิ่งเหล่านั้นเยียวยาตัวเอง อา...รสนิยมอันแสนสุนทรีย์
คนหัวนอกอย่างเขากลับชมชอบวรรณคดีไทย ชอบถึงขั้นว่าหลงใหล

แม้แต่ชื่อของเขาเองยังพ้องกับยักษ์นามตรีเมฆ...
ดีที่ตอนเกิดเขาไม่คลอดออกมาก่อน ไม่งั้นอาจมีโอกาสต้องสลับชื่อกับแฝดตน
แต่อะไรที่เป็นของเขา มันก็ควรต้องเป็นของเขาวันยังค่ำ จะเป็นของคนอื่นไปได้อย่างไร

ความชอบในตัวตนสมมุติเหล่านั้น มันอาจไปกันได้กับวิศวกรรมไฟฟ้า
และความสนใจเกี่ยวกับการประดิษฐ์ ชายหนุ่มมีความฝันคือการทำให้ตัวละคร
ในนิทานออกมาโลดแล่น หุ่นที่เขาหมายใจจะรังสรรค์ ผลงานที่จะรวมทั้งศิลปะ
และวิทยาการเอาไว้คู่กัน แม้รู้ดี ยังห่างไกลวันที่ฝันจะเป็นจริง แต่เขาควรเริ่ม
วางฐานทุกอย่างไว้ ทว่าครั้นพอออกปากกับนายตฤณ มันกลับด่าเขาว่าบ้า
...น่าเบื่อ ไอ้คนไม่มีความฝัน

คงมีแค่คนเดียวที่เข้าใจเขา ชื่อของเธอคือ ฝน

เขาเจอเธอครั้งแรกที่ร้านไอศกรีม แม้เธอจะคิดว่าตฤณภพที่มาทำงานแทนคือเขาอยู่หลายวัน
แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับคนอย่างตรีเมฆ แค่ได้คุยกันเขาก็รู้แล้วว่าตนเองตามหา
ผู้หญิงแบบฝนมาตลอด เธอจะต้องชอบเขามากกว่า

ฝนเข้าใจศิลปะ เรื่องเล่า บทกวี อาจเพราะเธอโตมากับสิ่งเหล่านี้
ขนาดที่เรือนไม้ของตาเธอยังมีห้องประดิษฐ์หัวโขน หุ่นละครงามน่าชม
เขายังเคยไปเยี่ยมหลายครั้ง ได้สัมผัสมาแล้วกับมือ

ยังจำวินาทีที่ก้าวล่วงเข้าสู่ห้องนั้น หมอกควันแห่งอดีตและจินตนาการท่วมสูง
ยิ่งเมื่อลูกศิษย์ลูกหาสักคนของเจ้าของเรือนตีระนาด จังหวะเคาะเสนาะส่งเสียงมาตามลม
ผสานกลิ่นยางเหลืองจากต้นรงทอง ทั้งผงสีที่ใช้ผสมแต่งแต้มชิ้นงานอันเลอค่า
หัวโขน ข้างในเป็นโครงกระดาษที่ปั้นขึ้นหน้าไว้ พอกดินสอพองเรียบร้อยแล้ว
เพียงเห็นเค้าโครงและสีที่เตรียมไว้ตรีเมฆก็พยักยิ้ม เขารู้จักสมุนทัพเหล่านี้
วานรนิลราช...สีเหมือนน้ำไหล นิลปานัน...กายเหลือบสำริดจับตา

นี่เอง ที่ใช้ชุบสมุนพระรามให้มีชีวิต ปลุกเทพยดานางฟ้าและยักษาทรงฤทธิ์
ให้แห่กันเดินขบวนออกมากลืนกินโลก ถึงวาดรูปไม่เก่งเหมือนอย่างไอ้ตฤณ
แต่ทุกท่วงทำนองในชีวิตของเขา ต้องดำเนินไปอย่างมีศิลป์เยี่ยงอารยชนยิ่งกว่า

อาจารย์สุจินด์เป็นคนน่านับถือพอที่จะนับเป็นพ่อซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกว่ามี
เรือนหลังนี้หรือก็เหมาะกับเขามากกว่าตฤณเป็นไหนๆ รวมถึงหลานสาวเจ้าของเรือนก็ด้วย

การที่ตฤณภพชอบฝน เธอคนที่เขาต้องใจ... เรื่องนี้อาจไปกระตุ้น ปลุกเร้า
ตัวตนของเมฆซึ่งตรีพยายามกดไว้ขึ้นมาอีก เมฆเกิดมาทีหลัง ไม่เคยมีความรักผูกพันใดกับตฤณ
หากทั้งใจกายของเขาดิ้นรนเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ฝ่ายนั้นคงแง้มประตูออกมาจัดการเสียเองเมื่อนั้น
ตรีจึงมีแต่จะต้องปล่อยวางไปก่อน รอให้โชคชะตาเป็นใจ

สมัยก่อนเขากับตฤณไม่เคยแย่งชิงอะไรกันสักอย่าง แม้แต่ขวดนมก็คงแบ่งกันได้ด้วยดี
ตลกร้ายชัดๆ ตอนนี้ดันมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันซะได้ น้ำเน่าเหมือนในหน้าหนังสือ
แต่มันคือความจริง

สำคัญแต่ว่า ฝนจะชอบใคร


แล้วเขาก็ได้แน่ใจเอาตอนไปดูดาวด้วยกันที่ต่างจังหวัดคราวหนึ่ง
บรรยากาศกลับช่วยเปิดปล่อยความรู้สึกของเธอที่ปกติก็เป็นสาวกวนๆ
เอาแต่ทำหน้ามึน เขาเพิ่งรู้ ใจเธอมีสิ่งซุกซ่อน ดาวกระซิบบอก
ตัวเธออยู่ข้างเขา ทว่าสายตากลับทอดมองไปอีกทาง...

น้ำฝน ไม่ใช่สิ่งที่อยู่คู่ฟ้า แต่คือสิ่งที่ผละจากก้อนเมฆบนฟ้าไปหาหย่อมหญ้าบนดิน

อย่างฝนคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใจเธอเองมีเงาใครซ่อนเร้น เธอไม่ใช่คนละเอียดอ่อน
ตฤณก็ด้วย แต่เขามองเห็นทั้งคู่ เข้าใจทั้งสองคน แต่เพราะไม่อยากปลุกปีศาจชื่อเมฆให้ตื่น
เขาเฝ้าปลอบใจตัวเองว่ายังมีวิธีนิ่มๆ ค่อยๆทำให้เธอรักเขา
หรือกับพวกความรู้สึกช้าแบบฝน จะลวงให้หลงนึกสับสนไปว่าคนที่ชอบคือเขามาแต่ต้น
ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!

แผนนี้ดียิ่งนัก ตรีเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบ
ถ้าเธอเข้าใจว่ารักเขา ต่อไปก็อาจรักเขาขึ้นมาได้จริงๆ

ทว่าหลายครั้งเมื่อลองแสดงออกไปนิดๆหน่อยๆแล้วยังไม่ได้รับการสนอง
เขาจึงเริ่มถอยห่าง เพื่อคิด บางขณะก็เพื่อลองหันไปสนใจสิ่งอื่นที่ไม่ใช่เธอ ได้แต่อดทน
ทำไมเธอต้องชอบใครอีกคน...คนที่เขาเองก็ทัดเทียมทุกอย่าง ทำไมเธอไม่เลือกเขา
คำถามนี้ยังคงวนเวียนรบกวนไม่เลิกรา แล้วถ้าสองคนนั้นรักชอบกันจริง
ทำไมไม่คบหากันไปเสียเลย ปล่อยความรู้สึกทิ้งไว้ราวไร้ค่า
เหมือนว่าจะมีช่องว่าง กว้างพอให้เขาเข้าไป แทนที่

ทุกอย่างที่เงียบงันยังคงตอกย้ำว่าเขาแพ้ คนที่ไม่ได้พยายามกลับชนะ

ตรีเมฆมีประสาทสัมผัสของสายลับ บางคราวมนุษย์คอมพิวเตอร์อย่างเขาไปนั่งเล่น
ห้องตฤณภพ แค่ฟังเสียงคู่แฝดจิ้มคีย์บอร์ดสื่อสารผ่านโปรแกรมแชทที่เพิ่งจะ
เป็นที่นิยมในกลุ่มเล็กๆสมัยนั้น แม้ไม่ได้ชะโงกหน้าไปมอง เขาก็รู้แล้วว่า
มันพิมพ์คุยอะไรกับฝน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์สอดแนมใดก็ดันจับความได้
ต้องโทษว่าเป็นความผิดของสมองที่ดีเกินไป

ตัวอักษรออกจะเป็นเชิงถกเถียงยียวนชวนทะเลาะ ไม่ใช่คำหวาน
แต่เขารู้ ในนั้นยังมีสายสัมพันธ์ ...เยื่อใยที่เขาอยากจะทำลาย!



ตรีเมฆมีประสาทสัมผัสของสายลับ บางคราวมนุษย์คอมพิวเตอร์อย่างเขาไปนั่งเล่น
ห้องตฤณภพ แค่ฟังเสียงคู่แฝดจิ้มคีย์บอร์ดสื่อสารผ่านโปรแกรมแชทที่เพิ่งจะ
เป็นที่นิยมในกลุ่มเล็กๆสมัยนั้น แม้ไม่ได้ชะโงกหน้าไปมอง เขาก็รู้แล้วว่า
มันพิมพ์คุยอะไรกับฝน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์สอดแนมใดก็ดันจับความได้
ต้องโทษว่าเป็นความผิดของสมองที่ดีเกินไป

ตัวอักษรออกจะเป็นเชิงถกเถียงยียวนชวนทะเลาะ ไม่ใช่คำหวาน
แต่เขารู้ ในนั้นยังมีสายสัมพันธ์ ...เยื่อใยที่เขาอยากจะทำลาย แต่ไม่อาจทำลาย!

…………..
คาราคาซังกันทั้งสามคน เขาเองก็กึ่งปลงกึ่งรุ่มร้อน จนล่วงผ่านนานหลายปี
วันที่ควรจะเป็นวันดีๆที่ได้ใช้ร่วมกับกับเพื่อนสาวคนหนึ่งที่มาชอบเขา
และตรีเมฆเองก็คิดจะเปิดโอกาสให้เธอ บทสนทนาภายนอกดูสดใส
แต่ใจเขาลอยไปทางอื่น

ฝนบ่นว่าเมล็ดแดนดิไลอ้อนรุ่นหลังๆนั้นปลูกไม่ขึ้นอีก แต่ก็ดีเหมือนกัน
จะได้ไม่ต้องกลัวเมล็ดของมันลอยไปตกแพร่พันธุ์ที่ไหนจนกำจัดลำบาก
ดอกไม้สวย...แต่ในแง่หนึ่ง ถ้าผิดที่ผิดทาง มันก็คือวัชพืชเราดีๆนี่เอง
เขายิ้มเศร้า เพราะจำได้ว่าตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันสองคน
ตฤณภพเป็นคนแอบเก็บเมล็ดที่ว่ากลับมา

ตรีเมฆคงจะเพลินกับความคิดมากไป จนคนที่มาด้วยจับได้ ยิงมาด้วยคำถามซึ่งเขาไม่คาดคิด

“ทำไมตรีดูเหงาจังเลย”

“ยังไง คนที่ใครๆก็รักอย่างผมน่ะนะ เหงา?” เขาเลิกคิ้ว รู้สึกเป็นครั้งแรกว่าไม่รู้จะไปต่ออย่างไร
เขาโดดเด่น เป็นหนึ่งในทุกที่ ในใจใครทุกคนถ้าเขาต้องการจะเป็น นอกจากในใจของ...

หลายคนเหงาเพราะมีมนุษย์มากมายอยู่รอบตัวแต่ไม่มีใครรักสักคน
ส่วนคนบางคน...ทั้งที่มีมนุษย์มากมายมารุมรัก ก็ยังอุตส่าห์เหงา
เพียงเพราะคนเดียวที่ต้องการให้รักกลับไม่เคยหันมา

แล้วเขาจะทำยังไง? เมื่อมือที่แย่งชิงสิ่งที่เขาควรจะได้
มันก็ดันเป็นมือของคนสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ฝาแฝด ไม่มีใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง เพราะเราเท่ากัน เป็นเงาสะท้อนของกันเสมอ
เวลาส่องกระจกเขาจึงคาดว่าจะได้เห็น ‘เงา’ แต่พอเพ่งดูดีๆ เงานั้นกลับค่อยๆ
แตกต่างจากที่คาดว่าจะได้เห็นไปมากยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นทุกที
มันงี่เง่า
ความรู้สึกช้า
แถมไม่กล้าแม้แต่จะแย่งชิงสิ่งที่ตัวเองรักไปให้จบๆ
น่าสมเพช...
และเมื่อใดที่เขารู้สึกหงุดหงิดเกินกว่าจะทนดูภาพนั้นต่อไปไหว
เมื่อนั้นก็อาจเป็นวันที่เขาไม่กล้าส่องกระจกอย่างถาวร
เพราะกลัวจะต้องทุบกระจกให้แหลกลง ด้วยมือนี้


คนคนเดียวที่เป็นเงา แม้มันไม่ได้ขยับตัวทำอะไร แต่ในความรู้สึก
เขากลับถูกรุกราน แย่งชิงรักที่ค้ำจุนชีพ สิ่งที่สำคัญพอกับสารอาหาร น้ำ หรือว่าอากาศ
ยิ่งคิดไปถึงตอนที่เขาพบเธอครั้งแรก ผู้หญิงไม่มีจริตจะก้าน ยิ้มสวย
ยื่นขนมให้เขาด้วยมือนั้น เป็นขนมที่ตฤณภพชอบ เขาเกลียด... เขาก็ยัง
รับมันมาใส่ปากแล้วยิ้มให้เธอ เขาฝืนแบบนั้นมาตลอด หวานอมขมกลืน
เป็นได้แค่เพียงตัวแทน เขารักตฤณภพแต่ก็ต้องทน เหมือนพืชสองต้น
ถูกปลูกเบียดไว้ในกระถางเดียว ทำให้ไม่อิ่ม กล้ำกลืนโหยหิวแห้งแล้งเจียนตาย
อดทนกันมาก็นานแล้ว วันหนึ่ง อาจต้องมีสักต้นที่ถูกถอนรากออกไป


“ถ้ามีคนพรากเอาสิ่งที่ฝนรักไป ฝนจะทำยังไง”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ถามหยั่งเชิงเล่นเรื่อยเปื่อยกับเธอ

“ก็เอาคืนสิ” คนตอบทำตาปรือ แต่แววจริงจังจนน่ากลัวฉายชัด

“แล้วถ้า...สิ่งนั้นถูกทำลายไปแล้ว ไม่ได้อยู่ที่ไหนให้เอาคืนมาได้”

คนถูกถามคลี่ยิ้มเย็น “คนที่ทำลายก็จะต้องเป็นคนชดใช้ อย่างสาสมที่สุด
...ถามอะไรแปลกๆ หรือพี่ตรีจะลอง?”

เขาฟังแล้วขำจนถึงกับหัวเราะออกมา คงยังไม่ถึงเวลา

ผู้ชายชื่อตรีเมฆคนนี้ดำเนินชีวิตผ่านวัยทำงาน จนไปเรียนต่อเฉพาะด้าน
ปุบปับก็กลายเป็นนักฟิสิกส์ไฟแรงที่คนให้การยอมรับในวงกว้าง
เรียกว่าโดดเด่นตั้งแต่ยังหนุ่ม อย่างน้อยงานก็ช่วยให้เขาลืม...

ทว่างานวันเกิดปีที่สามสิบ กลับเป็นเรื่องขึ้นมาอีก เมื่อก่อนงานเลี้ยงใหญ่จะเริ่ม
ตรีขอไปงีบในห้องพักบนเรือของฝนไม่คาดว่ายายเด็กโข่งที่ว่างมาค้างบนเรือ
กับพวกเตรียมงานตั้งแต่คืนวาน คราวนี้กลับติดเอาหมอนเน่าสุดที่รักมาด้วย
หมอนสีฟ้าลายช้างใบนุ่มนิ่มที่เธอพูดถึงบ่อยๆ ถึงจะเรียกหมอนเน่า
แต่มันได้รับการดูแลซักอย่างดีจนหอม สีซีดจางไปตามเวลา แต่กลิ่นอายอดีต
ยังเต็มเปี่ยม กลิ่นของเธอที่บ่มฝังมานานปี หอมละไม คุ้นเคย เคยโชยชาย
ผ่านหน้าเขาไปกี่ครั้งไม่รู้ได้ เพียงแต่ไม่มีโอกาสสัมผัสชิดใกล้

แล้วเขาก็รู้ เวลาที่ห่างไปเนิ่นนานหลายปีไม่ช่วยอะไร

ลงมือเถอะ...

คืนนี้จะเป็นงานวันเกิดปีที่สามสิบของเขา ปีไหนไม่มีตฤณภพอยู่ด้วย
วันเกิดแทบไม่มีความสำคัญ คราวนี้เพื่อนๆและรุ่นพี่รุ่นน้องที่รู้จักกลับหาเรื่องสนุก
ฉวยโอกาสชวนกันมาฉลองใหญ่

แต่เธอมาเพื่อเขา หรือเพื่อใคร?

คนแรกที่พบในงานคือสันติ เพื่อนสนิทที่สุดที่จะมีได้ของตฤณภพ เขาสบตา
ชายร่างเตี้ย รู้ทันทีนี่คงจะเป็นตัวหมากที่ใช้ช่วยเดินแผนของตนได้เป็นอย่างดี

“หวัดดีครับตรี ป่านนี้แล้วทำไมยังตัดผมเหมือนตฤณ ผมสั้นลงตามกัน
อย่างกับแกล้งเลยนะ นี่ถ้าใส่แว่นมาอีกอย่างก็ครบ เพื่อนจำผิดจำถูกกันหมด”

เรื่องง่ายๆ เขารู้ แว่นตา...คือความแตกต่าง
ถ้าเขาใส่แว่น?
หรืออีกฝ่ายเลิกใส่?

แต่ดูเหมือนเขาจะลงมือช้าเกินไป ภาพคนสองคนบนเรือจูบกันทั้งรู้สติครึ่งไม่รู้สติครึ่ง
ฝ่ายหญิงไม่ผลักไส... ตรีเมฆที่บังเอิญเห็นเข้าในวูบสุดท้ายก่อนทั้งสองผละจาก
ขบกรามจนขึ้นสัน ดวงตาประทับภาพนั้นเอาไว้ หมายให้ตอกลึกลงถึงแก่นใจ
คางของเขาสั่นน้อยๆ เมื่อรู้สึกถึงม่านน้ำที่ก่อนตัวขึ้นบดบังนัยน์ตา เขาสติขาด!

‘ออกมาเถอะเมฆ ถึงเวลาแล้วที่แกต้องออกมา...’

ฝนเคยพูดถึง พรหมลิขิต แต่ขอให้รู้ไว้ สุดท้ายไม่ว่าสิ่งใดที่ถูกเชื่อมด้วยกาว
ที่ชื่อว่าพรหมลิขิต ถึงคราวก็จะต้องขาดจากกัน ด้วยกรรไกรที่เรียกว่า
โชคชะตา... กรรไกรในมือเขาเอง!

คืนนั้นเมฆจัดการอะไรให้เขาหลายอย่าง... แล้ววันถัดมาก็ยังทำอะไรอีกหลายๆอย่าง
โดยปล่อยให้ตรีได้ร่วมรับรู้ไปพร้อมกัน เช่นว่าใส่เสื้อดำแบบตฤณ ชิงไปถึงร้านของฝน
ก่อนสามทุ่มที่บังเอิญได้รู้ว่าสองคนนั้นนัดกัน ขณะที่เจ้าของนัดเหมือนจะมาสายเกินไป
สงสัยเพราะของขวัญจากเขาที่เป็นนาฬิกาไม่ได้ถูกปรับตั้งใหม่ให้ตรงเวลา คนชุ่ยๆก็แบบนั้น

จนสุดท้าย ร่างกายนี้ก็ได้กอดเธอ
ในเวลาสามทุ่ม เวลานัดของสองคนนั้นพอดิบพอดี...




อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 เม.ย. 2558, 13:29:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 เม.ย. 2558, 13:29:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1107





<< บทที่ ๒ วันที่ฟ้าหนักกว่าดิน   บทที่ ๓ จดหมายจากอนาคต >>
อสิตา 2 เม.ย. 2558, 13:33:38 น.
คุณเลิฟหมวย – พี่ตรีรอคนมาเยียวยาหัวจายยย รับอาสาไหมคะ อิอิ
คุณเกดซ่า – ดูท่าทางรักทั้งสามคนนะฮะ อุจิ๊

คุณบุลินทร – ขลังเหมือนคนเขียนไงคะ แสยะ
คุณเฟอร์ – ช่าย มะม้าเกียมปล่อยพลังเต็มที่ จึ้กๆๆ ตฤณตรูดพรุนเลย

คุณสร้อย – ขอบคุณที่มาอ่านน้า แฝดคู่นี้อ่าเค้ารักกันนะ(เหรออออ) จริงๆๆๆ ยิ้มมีเลศนัย
คุณแพทแมว – ตฤณยังดีที่มีฝนในช่วงวัยรุ่น พี่ตรีน่าสงสารจังเลยยย *-*


ketza 2 เม.ย. 2558, 13:59:44 น.
มาแย้วววววววววววววววววววว


ketza 2 เม.ย. 2558, 13:59:56 น.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด เข้าใจผิดแล้ววววว น่าฉงฉานนนนนนนนน


lovemuay 2 เม.ย. 2558, 16:51:38 น.
โอ๊ย.......โมโห.... ฝน เธอแยกฝาแฝดออกจากกันไมได่เหรอ....ฮ่วย!!!!


อสิตา 2 เม.ย. 2558, 17:08:35 น.
จายเย็นๆน้า แยกได้จิ ฝาแฝด...


Zephyr 2 เม.ย. 2558, 17:42:38 น.
อ้าว เว่ยยยย
ตัวเป็นของอีกคน ใจเป็นของอีกคน
อิจฉานาง ได้แต่หนุ่มเด็ดๆ บุคลิกดิบๆ ฮึ

แบ่งมามั่ง


สร้อยดอกหมาก 2 เม.ย. 2558, 20:02:34 น.
อ่านไปสองสามตอนแล้ว อย่าอ่านเป็นหนังสือแฮะ

ระหว่างสองแฝด ต่างคนต่างยืนอยู่ในมุมมองของตน คล้ายต่างคนต่างมองไม่เห็นกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป

เพราะไม่ใช่คนเขียน 555


สร้อยดอกหมาก 2 เม.ย. 2558, 20:03:47 น.
*อยากอ่านเป็นหนังสือ (พิมพ์ผิด แก้ๆ)



Pat 2 เม.ย. 2558, 23:01:45 น.
รักสามเส้า เราสามคน ตายล่ะหว่า


พันธุ์แตงกวา 3 เม.ย. 2558, 02:00:33 น.
ถึงตอนนี้แล้วกรี๊ดดดดดด อยากเป็นสายฝนนนนนนน ตกลงมาฝนตกลงมา เทลงมาฝนเทลงมา สายซาเหมอจะไปเสียบแทนนนนน


นักอ่านเหนียวหนึบ 3 เม.ย. 2558, 03:20:14 น.
อั้ยยยะ ตามอ่านจบทันแล้วววว
ตกลงแม่เมขลาน้อยนี่คือแม่นิลขำหรือนั่น!!!! เออ สับสนเอง 5555


ดังปัณณ์ 4 เม.ย. 2558, 19:40:11 น.
ติงลี่แกล้งตินนี่เหรอ ตบๆๆๆๆๆๆ บังอาจมาแกล้งตินนี่ได้งายยยยยยยยยยยยย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account